ตอนที่ 710 ยืนยัน

ทางเอฟเอเอและเอฟบีไอต้องมีข้อมูลรายงานที่แม่นยำแน่นอน แต่สื่อของอเมริกาไม่พุ่งเป้าไปที่หน่วยงานราชการทั้งสองแห่งนี้ เพราะคุ้นเคยกับความสุดยอดของพวกเขาเป็นอย่างดี ถามไปก็เหมือนไม่ได้ถามเสียเวลาเปล่าๆ

ดังนั้นสายการบินเวอร์จินและทีมลูกเรือเที่ยวบิน UD725 จึงถูกรบกวนอย่างหนัก

ทว่าสายการบินเวอร์จินก็มีกฎของตัวเอง ยืนยันที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลของนักท่องเที่ยวเด็ดขาด ส่วนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเที่ยวบินรอบนี้ ก็มีความเข้าใจต่อเรื่องนี้แบบจำกัดมาก

อีกทั้งสายการบินเวอร์จินก็ได้ออกคำสั่งห้ามกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแล้ว ก่อนการตรวจสอบขององค์การบริหารการบินแห่งชาติจะสิ้นสุดลง ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลใดๆ ต่อภายนอก เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าผิดใจกับเอฟเอเอ

นอกจากนี้สื่ออีกกลุ่มหนึ่งก็ได้พุ่งความสนใจไปที่ตัววิดีโอ เชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาวิเคราะห์

และถูกพวกเขาวิเคราะห์ออกมาได้หลายสิ่งทีเดียว

สรุปเนื้อหาจากการสัมภาษณ์เหล่าผู้โดยสารบนเครื่องบิน บวกกับวิดีโอยาวสามนาทีเจ็ดวินาที ซีเอ็นเคได้เล่าเรื่องราวเดิมทั้งหมดก่อน

อย่างแรกคือเวลาตีสี่สิบห้านาที ผู้โดยสารคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งกลางของแถวที่สิบห้าในห้องโดยสารชั้นประหยัด ซึ่งก็คือผู้ต้องสงสัยของเรื่องนี้จู่ๆ ได้โจมตีผู้โดยสารที่อยู่ข้างๆ อย่างไม่มีสาเหตุ

ผู้โดยสารที่ถูกโจมตีได้ร้องขอความช่วยเหลือโดยสัญชาตญาณ ดังนั้นตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวที่สองของห้องโดยสารชั้นประหยัดจึงลุกขึ้นทันทีเพื่อเข้ามาควบคุมผู้ต้องสงสัย

แต่ตำรวจนอกเครื่องแบบคนนี้คงจะประเมินกำลังของผู้ต้องสงสัยต่ำไป ถูกคนหลังต่อยสลบลงไปกองกับพื้น

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ตำรวจนอกเครื่องแบบคนที่สองจึงลุกขึ้นมาช่วยเพื่อน และชักปืนที่พกติดตัวออกมา

หลังจากเจอเหตุการณ์โจมตีและการก่อการร้ายบนเที่ยวบินหลายครั้ง ทุกวันนี้จะต้องมีตำรวจอากาศนอกเครื่องแบบที่ถูกฝึกฝนแบบพิเศษสองคนอยู่บนเที่ยวบินระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาเสมอ และหนึ่งคนในนั้นสามารถพกปืนได้

ถึงแม้จะพูดว่าปืนของตำรวจอากาศถูกสั่งทำพิเศษ กระสุนไม่สามารถยิงทะลุกำแพงได้ แต่ก็มีอานุภาพทำลายล้างที่สามารถเอาชีวิตผู้โดยสารในระยะใกล้ได้เหมือนเดิม ดังนั้นตำรวจอากาศนอกเครื่องแบบคนนี้ถึงได้ชักปืนออกมา แต่ไม่ได้คิดที่จะยิงผู้ต้องสงสัยในตอนแรก ผลสุดท้ายกลับต้องเศร้าเอง

ฝีมือและความสามารถในการตอบสนองของผู้ต้องสงสัยแข็งแกร่งมาก สามารถแย่งปืนจากตำรวจอากาศได้อย่างว่องไว และยิงคนหลังจนบาดเจ็บหนัก จากนั้นจึงยิงขู่ผู้โดยสารสองสามคนที่คิดจะมาช่วย

จากนั้นเขาได้ข่มขู่ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ ประตูนิรภัย สั่งให้อีกฝ่ายเปิดประตูนิรภัย

และในเวลานี้ ฮีโร่ที่มาจากประเทศจีนคนนั้นได้ปรากฏตัว จัดการผู้ต้องสงสัยล้มลงภายในเวลาสั้นๆ สองสามวินาที ช่วยชีวิตทุกคนในเที่ยวบิน UD725

ในรายการข่าวของซีเอ็นเค ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ได้อธิบายกับทุกคนก่อนว่า ขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ประตูนิรภัยไม่สามารถเปิดได้ ดังนั้นจุดประสงค์ของผู้ต้องสงสัยคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยากจี้เครื่องบิน แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาทางจิต

ดูจากท่าทีที่แข็งแรงของผู้ต้องสงสัย เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นตำรวจหรือทหารที่ผ่านการฝึกแบบพิเศษ เกิดอาการป่วยทางจิต และเนื่องจากอาการกำเริบถึงทำให้เขามีพฤติกรรมเช่นนี้

และคนที่อันตรายแบบนี้ ถึงแม้จะเปิดประตูนิรภัยไม่ได้ ปืนที่เขาแย่งมาก็ยิงไม่เข้ากำแพง แต่สำหรับความปลอดภัยในการบินแล้ว ยังคงสร้างภัยคุกคามเป็นอย่างมาก

ตามสถานการณ์ในตอนนั้น ถ้าหากไม่มีฮีโร่คนนี้เข้ามาช่วยหยุดยั้ง อย่างแรกตำรวจอากาศที่บาดเจ็บหนักคนนั้นคงไม่รอด ผู้โดยสารที่ถูกบังคับให้เปิดประตูนิรภัยเกรงว่าคงยากที่จะปลอดภัย ผลเสียยากที่จะจินตนาการได้

“ถึงแม้ว่าสุดท้ายเครื่องบินจะลงจอดอย่างปลอดภัย…”

ผู้เชี่ยวชาญพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมาก “แต่ไม่ได้มีคนบาดเจ็บแค่คนเดียวแน่นอน!”

มีวิดีโอและความจริงขนาดนี้ มีทั้งหลักฐานและการวิเคราะห์ ทำให้การรายงานข่าวของซีเอ็นเคสร้างสถิติเรตติ้งใหม่

ในทีบุ๊กยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต่างวิจารณ์กันอย่างคึกคัก

อินเทอร์เน็ตในยุคสมัยใหม่น่ากลัวมาก ประสิทธิภาพสูง เรื่องราวความลับมากมายมักถูกแฉออกมาตามอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย มีวิดีโอในที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ผู้ต้องสงสัยถูกคนจำได้เป็นคนแรก

ผู้ต้องสงสัยคนนี้ชื่อว่าวูล์ฟ คุก ปีนี้อายุสามสิบสองปี เขาเคยเป็นสมาชิกนาวิกโยธินของสหรัฐมาก่อน เคยออกปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศหลายครั้ง และเนื่องจากบาดเจ็บจึงปลดประจำการในปี 2015

จากการเปิดเผยข้อมูลของคนที่เรียกว่าเป็นเพื่อนของวูลฟ์ เขาป่วยเป็นโรคพีทีเอสดี ซึ่งก็คือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง

พีทีเอสดี เป็นโรคทางจิตอย่างหนึ่งที่พบบ่อยในทหารของสหรัฐที่ปลดประจำการ ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

ตามการคาดคะเนของกระทรวงการทหารผ่านศึกสหรัฐ ในสหรัฐอเมริกาจะมีทหารปลดประจำการยี่สิบสองคนเสียชีวิตเพราะการฆ่าตัวตายทุกวัน ซึ่งเท่ากับจะมีทหารเก่าฆ่าตัวตายทุกหกสิบห้านาที และจำนวนของทหารเก่าที่ฆ่าตัวตายทุกปีรวมกันแล้วเกินแปดพันคน เกือบเท่ากับยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนการฆ่าตัวตายทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา!

พีทีเอสดี คือหนึ่งในปัจจัยที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับโศกนาฏกรรมเหล่านี้

อาการของวูลฟ์ถือว่าไม่หนักมาก และได้รับการรักษาทันท่วงที เพื่อให้เขาได้ผ่อนคลายอารมณ์และจิตใจ เขาจึงเลือกไปเที่ยวต่างประเทศ ช่วงนี้เขาได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีน

การตอบสนองที่ผิดปกติของเขาบนเที่ยวบิน UD725 มีความเป็นไปได้สูงว่ามาจากอาการพีทีเอสดีกำเริบ!

ความจริงถูกเปิดเผยออกมาทีละนิด

และฐานะที่แท้จริงของลู่เฉินก็ไม่อาจปิดบังได้นานเช่นกัน ทว่าคนที่ออกมาเปิดเผยไม่ใช่เพื่อนของเขา

ข้อมูลข่าวสารในยุคปัจจุบันแพร่กระจายรวดเร็วมาก เที่ยวบิน UD725 คือเที่ยวบินจากปักกิ่งไปนิวยอร์ก ถึงแม้ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องส่วนใหญ่จะเป็นชาวอเมริกัน แต่ก็มีคนจีนอยู่ด้วยเช่นกัน

ดังนั้นพอเกิดเรื่องทางนี้ สื่อในประเทศได้มีการรายงานข่าวอย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวของประเทศจีนประจำนครนิวยอร์ก นักข่าวของซีซีทีวีประจำนครนิวยอร์ก ได้ถูกส่งไปสัมภาษณ์ที่สนามบินนานาชาตินิวยอร์กเป็นอย่างแรก และได้ติดต่อโฆษกของเอฟเอเอเพื่อสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพื่อส่งข้อมูลข่าวของสื่อในสหรัฐกลับไปยังประเทศจีนได้ทันเวลา

อันที่จริงเวลานี้ นอกจากคนจำนวนน้อยนิด ไม่มีใครรู้ว่าลู่เฉินอยู่บนเที่ยวบิน UD725 ลู่เฉินไปสหรัฐครั้งนี้แบบเงียบมากๆ บัญชีทางการของเฉินเฟยมีเดียกับบล็อกของตัวเขาเองก็ไม่ได้กล่าวถึง

แต่เมื่อวิดีโอแอบถ่ายในที่เกิดเหตุไปปรากฏอยู่ในทีบุ๊ก สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ถึงแม้จะพูดว่าลู่เฉินไม่ได้มีอิทธิพลอะไรในสหรัฐ และมีคนสหรัฐไม่กี่คนที่รู้จักเขา แต่อย่างไรเสียก็มีชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศหรือไม่ก็นักเรียนนอกที่เคยดูภาพยนตร์และละครของเขา เคยฟังเพลงป็อปที่เขาเป็นคนแต่ง

ดังนั้นจึงมีคนจำลู่เฉินได้ แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อ จึงโหลดวิดีโอแล้วโพสต์ลงในเว็บไซต์ในประเทศจีนเพื่อให้คนจีนด้วยกันช่วยวิเคราะห์

คราวนี้เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ แฟนคลับหลายคนของลู่เฉินดูวิดีโอแล้วงงมาก…นี่คือลู่เฉินไม่ใช่เหรอ

ดังนั้นสื่อในประเทศจีนจึงระเบิดทันที!

วิดีโอตัวเดียวกันถูกกระจายไปยังบล็อกล่างฉาว ฟอรัม หน้าเว็บต่างๆ และกลุ่มเฟยซวิ่นอย่างรวดเร็ว จากนั้นโทรศัพท์ของเฉินเฟยมีเดียก็ถูกคนโทรเข้ามาจนสายแทบไหม้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะไม่ถูกเวลา คาดว่าคงมีนักข่าวมาออเต็มหน้าประตูแล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ เวลาที่เมืองหลวงคือวันที่ 17 ตอนเช้าเจ็ดโมงครึ่ง เวลาที่สหรัฐอเมริกาคือวันที่ 16 หนึ่งทุ่มครึ่ง บัญชีทางการของเฉินเฟยมีเดียได้ประกาศคำแถลงการณ์ในบล็อกล่างฉาวอย่างเป็นทางการ

ฮีโร่ที่ช่วยชีวิตบนเที่ยวบิน UD725 ยืนยันว่าเป็นลู่เฉินจริงๆ!

…………………………………………………………………………