Perfect Superstar 735 สำเร็จในครั้งเดียว

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 735 สำเร็จในครั้งเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 735 สำเร็จในครั้งเดียว

“อดรนทนไม่ไหวที่จะเปลี่ยนเป็นปลาที่ดื้อดึงตัวหนึ่ง

ฝืนว่ายในมหาสมุทรเพียงลำพังจนถึงที่สุด

คำสาบานอย่างจริงใจในวัยเยาว์

จมดิ่งอยู่ในทะเลลึกอย่างเงียบๆ

หวนคิดถึงอดีตหลายครั้ง

แต่ผลสุดท้ายก็ยังสูญเสียเธอ

ความรักทำให้ฉันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว

ไม่ตอบโต้อะไร แต่ก็ไม่ปล่อยมันไปเช่นกัน

เหมือนวาดวงกลมยังไม่เสร็จ

เหมือนความปรารถนาในใจเติมอย่างไรก็ไม่มีวันเต็ม

คือเธอ

…”

ในสตูดิโอบันทึกเสียง เฉินเฟยเอ๋อร์หลับตาพริ้มร้องเพลง

ลู่เฉินกำลังฟังอยู่ภายในห้องควบคุมเสียง

เพลง ‘ความเงียบ’ เป็นเพลงที่เขาแต่งขึ้นเพื่อเป็นเพลงประกอบละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ช่วงเวลาที่จะแทรกเข้าไปเป็นฉากที่นางเอกรู้ความจริงว่าดาวหางที่จุติในรอบห้าร้อยปีกำลังจะมาถึง และเป็นตอนที่พระเอกจะต้องหวนคืนสู่ดาวดวงเก่าด้วยยานอวกาศ

ท่วงทำนองของเพลง ‘ความเงียบ’ เรียบง่ายและสะอาด จุดเด่นที่สุดคือเข้าถึงอารมณ์และซึ้งกินใจ ท่อนเวิร์สร้องด้วยโทนเสียงต่ำบางเบา สร้างเอกลักษณ์ทางอารมณ์ออกมาอย่างเปี่ยมล้น ทำให้ผู้คนตกอยู่ในภวังค์ความเศร้าโศกเสียใจที่เกิดจากเสียงเพลงโดยไม่รู้ตัว

ธีมหลักของเพลงนี้คือโชคชะตาและความโชคร้าย นอกจากนี้ยังเป็นธีมหลักของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ฉบับดัดแปลงของลู่เฉินอีกเช่นกัน ด้วยความที่เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นนางเอกของละครเรื่องนี้ ดังนั้นให้เธอมาร้องไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว

เฉินเฟยเอ๋อร์ในตอนนี้ อาศัยเพลง ‘บุปผานารี’ ในการเปลี่ยนสไตล์จากราชินีเพลงหวานซึ้งกลายเป็นราชินีเพลงรักเป็นที่เรียบร้อย สไตล์การร้องเพลงของเธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ความรู้สึกที่บ่มเพาะมาจากตอนถ่ายละครถูกถ่ายทอดออกมา ทำให้เข้าถึงอารมณ์เพลง ‘ความเงียบ’ ได้อย่างง่ายดาย

ในการแบ่งวรรคและการควบคุมจังหวะของเพลงของเธอ แสดงถึงพื้นที่ว่างเปล่าของกาลเวลาหนึ่ง เต็มไปด้วยความอดทนและความเข้าใจ ถ่ายทอดอารมณ์สีเทาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความเหงา และความเจ็บปวดของผู้หญิงที่เพิ่งพบรักแท้แต่กำลังจะสูญเสียคนรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

“…

เหตุใดความรักถึงลงโทษให้มนุษย์ต้องอยู่อย่างเดียวดาย

ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด หนีอย่างไรก็ไม่พ้น

คิ้วที่ขมวดไม่อาจคลายออก

สิ่งเลวร้ายในชีวิตที่ไม่อาจแก้ไข

คือเธอ

อา…สูญเสียเธอ

อา…ฉันสูญเสียเธอ

…”

ถึงแม้จะเป็นเพียงการร้องรอบแรก แม้แต่ผู้ฟังที่ชอบจับผิดที่สุดก็ยังไม่พบข้อบกพร่องในการแสดงอารมณ์ของนักร้อง และสามารถมองข้ามปัญหาด้านเทคนิคโทนเสียงที่อาจมีอยู่ไปทันที

แต่ความจริงแล้วไม่มีปัญหาเลย!

ดูจากสีหน้าของทุกคนในห้องควบคุมเสียงแล้วก็พอจะดูออก บ้างก็เคร่งขรึม บ้างก็ครุ่นคิด บ้างก็ชื่นชม และก็มีบางคนน้ำตาคลอ

ทุกคนต่างก็รู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งกับเพลง ‘ความเงียบ’ ของเฉินเฟยเอ๋อร์

ลู่เฉินจ้องมองเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ยืนอยู่หน้าไมโครโฟนผ่านหน้าต่างกระจกหนาที่กั้นอยู่ ภายในใจเกิดอารมณ์และความรู้สึกพลุ่งพล่านท่วมท้นอย่างเด่นชัด ทนไม่ไหวอยากจะระบายมันออกมา

เมื่อร้องจบเพลงแล้ว ในห้องควบคุมเสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มปรบมือก่อน จากนั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน แม้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์จะไม่ได้ยิน แต่เธอมองเห็น!

ในสตูดิโอบันทึกเสียง เฉินเฟยเออร์ลืมตาขึ้น เธอกะพริบตา หยดน้ำตารินไหลลงมาจากหางตา

ลู่เฉินยิ้มและทำสัญลักษณ์ ‘โอเค’ ให้เธอ

เฉินเฟยเอ๋อร์เอียงศีรษะเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่สดใสและมีเสน่ห์

ลู่เฉินรู้สึกโล่งใจอย่างอดไม่ได้ เมื่อเร็วๆ นี้เฉินเฟยเอ๋อร์ได้เร่งถ่ายละครหนักมาก ตามคำบอกกล่าวของผู้กำกับฟางฮุ่ยนั้น เธออินกับบทบาทอย่างสุดซึ้ง ทำให้การอัดเพลง ‘ความเงียบ’ ในวันนี้ การถ่ายทอดอารมณ์ของเธอนั้นทำออกมาได้สุดยอดมาก

การอินกับบทบาทไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่อินกับบทบาทไปแล้ว การที่จะควบคุมตัวเองให้ออกจากคาแร็กเตอร์ยิ่งยากขึ้นไปอีก คนที่ทำได้ขนาดนี้ต้องเป็นนักแสดงรุ่นเก๋าตัวจริง มีศิลปินมากมายในวงการบันเทิงที่อินกับบทบาทมากเกินไป ทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นตนเองไปเพียงเพราะการถ่ายทำภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์บางเรื่อง และจากไปบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ใช่นักแสดงที่มาจากโรงเรียนสอนการแสดง ความจริงแล้วเส้นทางการแสดงของเธอนั้นถือว่าเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน แต่ได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของเธอในด้านนี้ที่เหนือคนอื่น ทำให้มีพัฒนาการรวดเร็วกระทั่งเรียกได้ว่าเหนือกว่าลู่เฉินเสียด้วยซ้ำ

แต่สภาพของเธอในช่วงนี้น่าเป็นห่วงเล็กน้อย ฟางฮุ่ยคอยแจ้งเตือนลู่เฉินอย่างเงียบๆ เป็นการส่วนตัว

เดิมทีลู่เฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ผ่านไปอีกสองสามวันค่อยอัดเพลงประกอบละครเพลงนี้ก็ได้ แต่เขาต้านทานคำยืนกรานของเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้

รอยยิ้มของเธอในตอนนี้ทำให้ลู่เฉินโล่งใจในที่สุด!

“ได้แล้ว…”

ลู่เฉินบอกกับวิศกรเสียง “ไม่ต้องอัดซ้ำรอบสองแล้ว”

“หา?”

วิศวกรเสียงตะลึงงัน “อัดรอบแค่รอบเดียวเหรอครับ”

วิศวกรเสียงคนนี้ชื่อจ้าวปิง เขาเป็นคนเก่งในวงการที่เพิ่งถูกเฉินเฟยมีเดียดึงตัวมาเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านประสบการณ์หรือระดับความสามารถนั้นเจ๋งกว่าหวังฮุยไม่น้อยเลย

ปัจจุบันนี้เฉินเฟยมีเดียเป็นบริษัทน้องใหม่ที่รู้จักกันดีในวงการบันเทิง แม้ว่าจะไม่มีการโฆษณาเป็นพิเศษ แต่โดยทั่วไปแล้วสตูดิโอบันทึกเสียงก็แทบไม่มีเวลาว่างเลย หวังฮุยก็ยุ่งเกินกว่าจะทำงานคนเดียวได้ ดังนั้นเขาจึงเสนอให้หาคนมาช่วย

เฉินเฟยเอ๋อร์อัดเพลงใหม่และได้จ้าวปิงเป็นผู้ควบคุมดูแลในวันนี้

จ้าวปิงเคยทำงานคลุกคลีในห้องอัดที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในประเทศจีน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอนักร้องมืออาชีพอัดเพลงแค่รอบเดียว แม้ว่าการร้องของเฉินเฟยเอ๋อร์จะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบก็ตาม

เมื่อบริษัทแผ่นเสียงอัดเพลงให้นักร้อง ไม่ใช่ว่าอัดเสร็จได้ภายในหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น มักจะต้องอัดหลายๆ ครั้ง หลังจากได้ตามที่ต้องการในระดับหนึ่งแล้วยังจะต้องปรับแต่ง อย่างเช่นการปรับเสียงแหลม การเพิ่มองค์ประกอบทางดนตรี เป็นต้น และกระบวนการเหล่านี้ก็ค่อนข้างซับซ้อน

หลังจากอัดหลายครั้ง ก็จะมีการเปรียบเทียบกัน จึงจะสามารถเลือกไฟล์ที่ดีที่สุดมาได้

ดังนั้นการอัดเพียงแค่ครั้งเดียวไม่ค่อยมีให้เห็น และความคิดของจ้าวปิงก็วิ่งตามไม่ค่อยจะทัน

ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “รอบเดียวก็พอ ลำบากคุณแล้ว”

แน่นอนว่าลู่เฉินรู้กฎในการอัดเพลงดี แต่เขากังวลเกี่ยวกับอารมณ์ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ดังนั้นเขาจึงยืนกรานอย่างนั้น

จ้าวปิงรีบพูดอย่างรวดเร็ว “ไม่ลำบากเลยครับ จริงๆ แล้วกลับสบายเสียอีก มาตรฐานของอาจารย์เฉินเหลือเชื่อจริงๆ…”

สติของเขากลับมาแล้ว คิดดูแล้วการตัดสินใจของลู่เฉินก็ถูกจริงๆ แค่รอบแรกก็ถึงระดับสมบูรณ์แบบแล้ว ไม่จำเป็นต้องอัดซ้ำหลายๆ ครั้งเลย

“เพลงนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

จ้าวปิงก้าวเข้ามาทำงานที่เฉินเฟยมีเดียในตอนแรก นอกจากค่าตอบแทนที่สูงลิ่วเป็นสิ่งล่อใจแล้ว ยังชื่นชมผู้บริหารทั้งสองของเฉินเฟยมีเดียอีกด้วย และตอนนี้ก็ได้ประจักษ์แล้ว สมคำร่ำลือจริงๆ

เพลงของลู่เฉินเขียนได้สุดยอด และการร้องเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ดีเยี่ยม ทั้งสองเหมาะสมกันมาก!

ในตอนนั้นเองเฉินเฟยเอ๋อร์ผลักประตูเดินออกมาจากห้องอัดเสียงและถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ไม่อัดต่อแล้วเหรอ”

ลู่เฉินพูด “ไม่ต้องแล้วครับ ครั้งเดียวผ่านฉลุย!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ทนไม่ไหวกลอกตาใส่เขาหนึ่งที “ได้ยังไงล่ะ…”

ถงซินเหยากระโดดไปจับมือเฉินเฟยเอ๋อร์พร้อมกับพูดขึ้น “พี่เฟยเอ๋อร์ พี่ร้องเพลงได้ไพเราะมาก ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ฉันเห็นด้วยกับความคิดของอาจารย์ลู่นะ!”

เมื่อครู่นี้เธอฟังจนขอบตาแดงรื้นขึ้นมาจริงๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “เธอก็เรียนรู้วิธีกล่อมให้พี่ดีใจมาด้วยเหรอเนี่ย”

แม้ว่าถงซินเหยาเพิ่งจะร่วมงานกับเฉินเฟยมีเดียได้ไม่นาน แต่นับตั้งแต่ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ประทับใจเด็กสาวที่ทั้งสวย ทั้งเชื่อฟัง และสุภาพคนนี้เอามากๆ และตอนนี้ก็มีความสนิทสนมกันมากขึ้นไปอีก

ลู่ซีที่อยู่ด้านข้างพูดแทรกเข้ามา “ฉันก็รู้สึกว่าโอเคแล้ว เฟยเอ๋อร์ ลู่เฉิน พวกเราไปที่ห้องทำงานกันเถอะ ฉันมีเรื่องอยากปรึกษากับพวกเธอหน่อย”

ถือว่าการอัดเพลง ‘ความเงียบ’ เสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนถัดไปส่งต่อให้จ้าวปิงดำเนินการต่อให้เสร็จ

เมื่อมาถึงห้องทำงานของลู่ซี ลู่เฉินถามด้วยความสงสัย “พี่ มีเรื่องอะไรจะปรึกษาเหรอ”

คำตอบของลู่ซีทำให้ทั้งเขาและเฉินเฟยเอ๋อร์ประหลาดใจ

สถานีโทรทัศน์เคบีเอสของเกาหลีใต้ส่งคำเชิญเข้าร่วมรายการมาให้ทั้งคู่!

……………………………………………………..

หมายเหตุ: เพลงความเงียบ ผู้เรียบเรียง: อิ่นเยวีย ผู้ประพันธ์: เฉียนเหลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด