ตอนที่ 764 รับคำท้า

ผู้ที่นำข่าวมาเปิดเผยก่อน คือบัญชีเล็กๆ อันหนึ่งในบล็อกล่างฉาว…เรื่องเล่าข่าวเกาหลี

‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ มีแฟนคลับประมาณสองแสนคนขึ้นไป เนื้อหาหลักๆ ในบล็อกประกอบไปด้วยการท่องเที่ยว ชอปปิง อาหาร คู่มือแนะนำการเรียนต่อ ขณะเดียวกันยังมีเรื่องเล่าสนุกและข่าวที่แชร์มาจาก FLOO เป็นจำนวนมาก เป็นต้น

หลี่เจ๋อเฉิงส่งหนังสือท้ารบกับลู่เฉินเพียงสิบนาทีกว่าๆ ‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ ก็แชร์ข้อความนี้ในบล็อกทันที

แต่จำนวนแฟนคลับของ ‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ ไม่เยอะมาก บวกกับจำนวนการแชร์ข้อความที่มีน้อยมากในแต่ละวัน ดังนั้นตอนแรกจึงไม่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากนัก การแชร์และคอมเมนต์มีน้อยนิด

และคอมเมนต์ก็มีแต่ความคลางแคลงสงสัยเป็นหลัก

“จริงหรือหลอกเนี่ย”

“หลี่เจ๋อเฉิงเป็นใคร ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ตั้งใจอยากสร้างกระแสใช่ไหม”

“ฉันคิดว่าลู่เฉินไม่น่าจะสนใจเขา”

“ตลกจริงๆ…”

เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยและคำถาม ‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ ได้แคปรูปจาก FLOO แล้วโพสต์ลงในบล็อกทันทีขณะเดียวกันได้แนะนำตัวตนและประวัติความเป็นมาของหลี่เจ๋อเฉิง

หลี่เจ๋อเฉิงถึงแม้จะเป็นฮีโร่ของคนเกาหลีใต้มากมาย แต่ในประเทศจีนเขาไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก คนที่รู้จักเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เล่นกีฬาเทควันโดเป็นงานอดิเรก

จากเกร็ดความรู้ของ ‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยรู้ว่าตัวตนของหลี่เจ๋อเฉิงไม่ธรรมดา และเขาตั้งใจท้าแข่งกับลู่เฉินจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นเด็ดขาด

เวลานี้หนังสือท้ารบของหลี่เจ๋อเฉิงได้แพร่ไปยังสื่อออนไลน์ของเกาหลีใต้แล้ว มิหนำซ้ำนักข่าวของสื่อนั้นก็โทรศัพท์ไปถามตัวของหลี่เจ๋อเฉิง และได้รับการยืนยันจากคนหลังเรียบร้อย!

‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ รู้ดีว่านี่เป็นประเด็นฮอตที่จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด และตัวเองยังเป็นคนเจอข่าวก่อน ดังนั้นจึงเร่งโปรโมตอย่างเต็มที่ เขาโพสต์ข่าวที่เกี่ยวข้องและรายงานข่าวบนบล็อกล่างฉาวของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้าก็ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะความสนใจของแฟนคลับลู่เฉิน

ตอนบ่ายวันที่ 30 บัญชีทางการของกลุ่มแฟนคลับลู่เฉินได้แชร์โพสต์ของ ‘เรื่องเล่าข่าวเกาหลี’ คราวนี้แฟนคลับนับหมื่นนับพันของลู่เฉินลุกฮือขึ้นมาทันที!

“ท้าทายเฉินของฉัน นี่คืออยากดังจนบ้าไปแล้วเหรอ”

“อย่าพูดแบบนั้น หลี่เจ๋อเฉิงเก่งจริงๆ เคยได้เหรียญทองโอลิมปิกสองเหรียญ”

“เชอะ! จะเก่งกว่าเฉินของฉันได้ยังไง ต่อยเขาให้ฟันร่วงหมดเลย!”

“อย่าเพิ่งพูดเร็วเกินไป ฉันเคยเรียนเทควันโดมาก่อน โค้ชของฉันเคารพนับถือหลี่เจ๋อเฉิงมาก”

“ฉันเพิ่งค้นข้อมูลมา หลี่เจ๋อเฉิงเป็นนักต่อสู้เทควันโด”

“พวกเธอคิดว่าลู่เฉินจะรับหรือไม่รับคำท้า”

“ฉันเดาว่าไม่…”

พวกแฟนคลับแน่นอนว่าสนับสนุนลู่เฉินอย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว หลายคนคิดว่าหลี่เจ๋อเฉิงอยากเกาะกระแสอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้ลู่เฉินไม่ต้องสนใจเขา แต่ก็มีบางคนคิดว่าลู่เฉินน่าจะรับคำท้านี้ เพราะเกี่ยวกับเกียรติยศของกังฟูจีน!

กังฟูจีนคำนี้ลู่เฉินเป็นคนคิดค้นขึ้นมา และแพร่กระจายไปทั่วโลกเพราะเขา ทว่าในดวงใจของคนจีน กังฟูจีนเป็นศิลปะการต่อสู้ของชาติอย่างไม่ต้องสงสัย

เทควันโดเรียกได้ว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีใต้ ในฐานะบุคคลที่เป็นตัวแทนของเทควันโดเกาหลีใต้ หลี่เจ๋อเฉิงส่งหนังสือท้ารบกับลู่เฉินอย่างเป็นทางการ หากลู่เฉินไม่รับคำท้า นั่นคือการทำลายชื่อเสียงของเขาอย่างใหญ่หลวง ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

หลังจากผ่านเหตุการณ์ UD725 หลายคนคิดว่าลู่เฉินไม่ได้เป็นแค่ดาราดังในวงการบันเทิงเท่านั้น เขาเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นของคนจีน

การประเมินที่สูงค่าขนาดนี้ กระทั่งได้รับการยอมรับจากทางการ!

และด้วยเพราะสาเหตุนี้ ดังนั้นคำท้าของหลี่เจ๋อเฉิงจึงแตกต่างกับแจ็ค รอสส์เป็นอย่างมาก

แต่แฟนๆ มากมายคิดว่า ลู่เฉินไม่จำเป็นต้องสู้กับหลี่เจ๋อเฉิงเพื่อพิสูจน์ตัวเองอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองคนมีพื้นฐานที่ต่างกัน อาชีพการงานไม่เหมือนกัน การประลองแบบนี้ไม่มีความยุติธรรม

ควรจะรับหรือไม่ควรรับ พวกแฟนคลับของลู่เฉินยังคงถกเถียงในอินเทอร์เน็ตไม่หยุด จากนั้นไม่ช้าก็มีสื่อออนไลน์หลายสำนักเข้ามาร่วมขบวนด้วย หัวข้อถูกปั่นจนติดกระแสอย่างรวดเร็ว!

เว็บไซต์เฟยซวิ่น “หลี่เจ๋อเฉิงท้าทายลู่เฉิน ใครจะเป็นผู้แข็งแกร่งของวิชาศิลปะการต่อสู้”

เว็บไซต์ล่างฉาว “หลี่เจ๋อเฉิงที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัยเมื่อคืนได้ส่งคำท้ารบกับลู่เฉินใน FLOO”

เว็บไซต์ไป่โซว “เทควันโดกับกังฟู ใครจะแพ้ใครจะชนะ”

เว็บไซต์หว่างอี้ “บุคคลอันดับหนึ่งของวงการเทควันโดเกาหลีใต้ส่งหนังสือท้ารบกับลู่เฉิน ลู่เฉินยังไม่มีการตอบสนองชั่วคราว”

…

หัวข้อตัวหนังสือสีดำเพิ่มตัวหนา ไม่เพียงแต่ปรากฏบนหน้าเว็บบันเทิงออนไลน์เท่านั้น กระทั่งถูกปักอยู่บนหน้าแรกของเว็บไซต์

มีการส่งเสริมของสื่อใหญ่ๆ เหล่านี้ ผู้ที่เข้าร่วมสงครามการโต้เถียงจึงเยอะขึ้น

บนอินเทอร์เน็ตไม่เคยขาดผู้คนที่กลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวาย คนจำนวนไม่น้อยมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไร้เจตนา ความคิดเห็นที่ว่าลู่เฉินควรจะรับคำท้านั้นติดลมบนอย่างช้าๆ

เหตุผลก็คือเพื่อเป็นหน้าเป็นตา บางคนพูดว่าลู่เฉินจะทำให้ประเทศชาติขายหน้าไม่ได้ บางคนพูดว่าลู่เฉินสามารถบดขยี้หลี่เจ๋อเฉิงได้แน่นอนไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร บางคนก็พูดว่าถ้าหากลู่เฉินปฏิเสธจะถือว่าเก่งแต่ชื่อ…

อย่างไรก็ตามมีคนตาไว สัมผัสได้ถึงคลื่นลมยักษ์ที่อยู่เบื้องหลัง กระตุ้นอารมณ์ของชาวเน็ต ดันลู่เฉินให้สูงขึ้น ทำให้ลู่เฉินไม่มีทางได้หลบหลีก!

จุดประสงค์ของพวกเขาง่ายมาก ก็คือให้ลู่เฉินต่อสู้กับหลี่เจ๋อเฉิง สู้ชนะก็เป็นความสามารถของลู่เฉิน พวกเขาสามารถทำนายล่วงหน้าได้ ถ้าหากลู่เฉินแพ้…

นั่นก็คือมีฉากสนุกให้ดูอีกแล้ว!

เรื่องราวเกิดกระแสอย่างรวดเร็ว ถึงแม้สื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์จะไม่ได้เข้าร่วม แต่กระแสความคิดเห็นของมวลชนที่ก่อตัวขึ้นในอินเทอร์เน็ตไม่อาจมองข้ามได้ ลู่ซีที่อยู่เมืองหลวงโทรศัพท์ไปหาลู่เฉินหลายครั้ง

ทว่าลู่เฉินได้คุยเรื่องนี้กับพี่สาวจริงๆ จังๆ หลังจากสิ้นสุดงานเลี้ยงกับผู้บริหารระดับสูงของเคจีเอสและเอสวายจี และกลับมาที่ห้องแล้ว

“นายคิดจะทำยังไง”

พี่สาวอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก แน่นอนว่าเธอไม่ได้โทษลู่เฉินที่ก่อเรื่อง แต่โกรธใครบางคนที่สร้างความวุ่นวาย อาศัยโอกาสนี้บีบบังคับลู่เฉิน

ลู่เฉินรู้การตอบสนองที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเพราะเรื่องนี้แล้ว เขาไม่ได้โกรธอะไร ตรงกันข้ามกลับหัวเราะเอ่ยว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ทำให้พวกเขาสมปรารถนาสิครับ ผมจะรับคำท้าของหลี่เจ๋อเฉิง”

ลู่เฉินพูดอย่างชิลล์ๆ เหมือนตกลงไปกินข้าวชอปปิงกับคนอื่น

ลู่ซีได้ยินกลับตกใจมาก “นายจะชกกับหลี่เจ๋อเฉิงสักตาจริงๆ เหรอ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ!”

แน่นอนว่าพี่สาวไม่เห็นด้วยที่ลู่เฉินจะประลองกับหลี่เจ๋อเฉิง เพราะว่าการชกต่อยบนสังเวียนนั้นอันตราย ถ้าหากบาดเจ็บขึ้นมา ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะล้วนเสียเปรียบมาก นอกจากนี้ลู่เฉินเป็นดาราไม่ใช่ผู้แข่งขันมืออาชีพ หากจะปฏิเสธหลี่เจ๋อเฉิงถือว่าสมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก

ส่วนคนอื่นจะพูดอะไรก็ปล่อยพวกเขาไป ลู่เฉินไม่ได้ใช้ชีวิตโดยอาศัยคำพูดของพวกเขา

“นายอย่าวู่วามนะ ต้องคิดให้ดี เฟยเอ๋อร์ตกลงแล้วเหรอ”

ลู่เฉินเอ่ยว่า “พี่ครับ ผมไม่ได้วู่วาม ผมคิดดีแล้ว เฟยเอ๋อร์ก็เห็นด้วย”

วันนี้มีเวลาทั้งวัน มากพอที่จะให้ลู่เฉินได้ตัดสินใจอย่างละเอียดถี่ถ้วน…

นั่นก็คือรับคำท้า!

…………………………………………………………………………