ตอนที่ 769 สงครามหมื่นล้าน (2)

‘จิงอวี๋ทีวี’ ลู่เฉินปะทะหลี่เจ๋อเฉิง…ในห้องถ่ายทอดสดสงครามหมื่นล้าน

เวลาที่โซลห่างจากปักกิ่งหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นที่โซลเป็นเวลาเก้าโมงเช้า ที่ปักกิ่งคือแปดโมงเช้า

วันที่ 6 มกราคมเป็นวันเสาร์ และเป็นช่วงเช้า โดยปกติแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดออนไลน์เหมือนอย่าง ‘จิงอวี๋ทีวี’จำนวนสมาชิกออนไลน์ไม่เยอะมาก เพราะพวกคนหนุ่มสาวไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือวัยเรียน โดยทั่วไปแล้วตอนนี้ยังนอนขี้เกียจกันอยู่

แต่ห้องถ่ายทอดสด ‘สงครามหมื่นล้าน’ กลับมีคนแน่นขนัด!

เดิมทีลู่เฉินนัดต่อสู้กับหลี่เจ๋อเฉิงวันที่ 5 มกราคม แต่เนื่องจากความจำเป็นของการถ่ายทอดสด ดังนั้นจึงเลื่อนออกไปหนึ่งวัน เพื่อให้สื่อถ่ายทอดสดได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น

และวันเดียวกันกับที่เฉินเฟยมีเดียปล่อยข่าวออกไป ผู้บริหารระดับสูงของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้นั่งเครื่องบินเที่ยวล่าสุดมาที่เมืองหลวงอย่างร้อนรน พร้อมกับแสดงท่าทีว่ายินดีจ่ายเงินเพื่อคว้าสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดออนไลน์ครั้งนี้

ความดึงดันของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แน่นอนว่ามีเหตุผล เพราะเคยทำงานร่วมกับลู่เฉิน และการถ่ายทอดสดก็สร้างสถิติใหม่มาแล้วหลายครั้ง ทำให้แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดเจ้านี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก กระโดดขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งในหมู่เพื่อนสายอาชีพเดียวกันได้สำเร็จ

ถ้าหากพลาดการถ่ายทอดสดครั้งนี้ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนอื่นจะสงสัยว่าการร่วมงานกันของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ กับลู่เฉินมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พวกสมาชิกของแพลตฟอร์มก็คงรู้สึกผิดหวัง สำหรับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ นั้นคือความเสียหายอันใหญ่หลวง!

และเป็นดั่งที่คาดการณ์ไว้ แผนของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้เจอกับคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่…เฟยซวิ่นวิดีโอ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซีอีโอของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงบินมาที่เมืองหลวงด้วยตนเอง หลังจากผ่านการเจรจาอย่างยากลำบาก ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่าย ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดออนไลน์ร่วมกับเฟยซวิ่นวิดีโอ

หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงรีบทำการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ กระทั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงสองตัวทันที เพื่อเพิ่มความรื่นไหลของวิดีโอถ่ายทอดสด

ความจริงพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของ ‘จิงอวี่ทีวี’ นั้นถูกต้องมาก เวลาเจ็ดโมงเช้ากว่าๆ ห้องถ่ายทอดสดสงครามหมื่นล้านมีผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาเกินสองล้านคน จนถึงเวลาแปดโมงมีจำนวนมากถึงห้าล้านคน!

ถ้าหากไม่ใช่เพราะเฟยซวิ่นวิดีโอแบ่งแฟนคลับไปมากมาย จำนวนคนออนไลน์จะต้องมากกว่านี้แน่นอน

ผู้ชมมากมายก่ายกอง รวมทั้งแฟนคลับของลู่เฉินอีกไม่น้อย ต่างตั้งนาฬิกาปลุกกันทุกคน จากนั้นก็นอนอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ ใช้โทรศัพท์ล็อกอินดูลู่เฉิน เพื่อเป็นกำลังใจให้ลู่เฉิน!

“จะเริ่มแล้วใช่ไหม”

“น่าจะเริ่มแล้ว เฉินของฉันขึ้นสังเวียนแล้ว!”

“อ๋า ลู่เฉินใส่ชุดต่อสู้หล่อจัง!”

“เฉินของฉันต้องชนะ!”

“ยังจะต้องพูดอีกเหรอ แพ้ชนะไม่ต้องเดา พวกเราแค่เดาว่าลู่เฉินจะชนะหลี่เจ๋อเฉิงตอนกระบวนท่าที่เท่าไร”

“ฉันเดาว่าภายในสิบกระบวนท่าแรก!”

“ฮ่าๆ…”

นอกจากภายในห้องถ่ายทอดสดออนไลน์ที่แน่นจนระเบิดแล้ว บัญชีทางการของลู่เฉินในเทียปายังมีแฟนคลับจำนวนมากเข้าไปโพสต์กันเยอะแยะมากมาย

เพื่อ ‘สงครามหมื่นล้าน’ ครั้งนี้ บัญชีทางการยังทำฟอรัมสนทนาโดยเฉพาะขึ้นมา

แฟนคลับเหล่านี้ดูการถ่ายทอดสดทางออนไลน์และทีวี พร้อมกับเข้าไปสนทนากันในฟอรัมอย่างคึกคัก ในนั้นมีผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนมาก ได้วิเคราะห์และวิจารณ์ลู่เฉินกับหลี่เจ๋อเฉิงในทุกๆ ด้าน

และโพสต์ของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ มักดึงดูดบทสนทนาที่ร้อนแรงจากแฟนคลับได้มากมาย

เมื่อเทียบกับการมองโลกในแง่ดีและการสนับสนุนเพียงฝ่ายเดียวในห้องถ่ายทอดสด การวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเงียบสงบมากอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะผลงานการต่อสู้ของหลี่เจ๋อเฉิงไม่อาจมองข้ามได้ และเขาก็ยังมีวิดีโอไม่น้อย ทุกๆ ด้านล้วนแสดงให้เห็นพลังความสามารถของปรมาจารย์เทควันโดท่านนี้

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ผลงานการต่อสู้ของลู่เฉินต่างกันมากเกินไป เขาไม่เคยร่วมการแข่งขันใดๆ และไม่เคยประลองฝีมือกับใครอย่างเป็นทางการมาก่อน ลำพังแค่ประสบการณ์ก็ห่างจากหลี่เจ๋อเฉิงอยู่ไกลโข

แน่นอนว่าต่อให้ตัวของหลี่เจ๋อเฉิงเอง ก็ไม่กล้าดูถูกลู่เฉินแม้แต่นิดเดียว วันก่อนตอนที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อได้แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า ตัวเองมั่นใจที่จะชนะ แต่ไม่ชัวร์ว่าจะชนะจริงๆ

มีคนพูดอีกอย่างว่านี่คือความถ่อมตัวและระมัดระวังของหลี่เจ๋อเฉิน แต่ฝีมือของลู่เฉินได้แสดงออกมาตอนที่เกิดเหตุการณ์น่าตื่นเต้นสองสามครั้งแล้ว ดังนั้นการประลองครั้งนี้ยังเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกประหลาดใจคือ ตอนเช้าเวลาประมาณเจ็ดโมงครึ่ง บัญชีทางการของลู่เฉินในเทียปามีไอดีใหม่ล้นทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก พยายามเขียนโพสต์กระหน่ำเต็มที่

ไอพีของไอดีเหล่านี้ล้วนมาจากต่างประเทศ ชื่อส่วนใหญ่มั่วซั่วไปหมด แต่ก็มีไอดีที่แทรกด้วยภาษาเกาหลีอยู่ด้วย เนื้อหาที่โพสต์ลงมามีความคล้ายกันมาก ต่างสนับสนุนหลี่เจ๋อเฉิง และหัวเราะเยาะกระทั่งดูถูกลู่เฉิน

ชาวเน็ตที่ขลุกอยู่ในฟอรัมเป็นประจำล้วนมีประสบการณ์มากมาย แค่มองก็รู้แล้วว่า ต้องเป็นชาวเน็ตเกาหลีใต้ที่จงใจมาก่อความวุ่นวายในช่วงเวลาสำคัญนี้ หรือหากจะพูดให้ถูกต้องก็คือมาหาเรื่อง

สองสามวันก่อนชาวเน็ตในประเทศจีนเข้าไปทิ้งระเบิดใน FLOO ทำให้เซิร์ฟเวอร์รับไม่ไหว สุดท้ายต้องบล็อกไอพีที่มาจากประเทศจีน และยังขึ้นพาดหัวข่าวของสื่อใหญ่หลายแห่ง

ตอนนี้ชาวเน็ตเกาหลีใต้วิ่งมาแก้แค้นถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก!

แต่ชาวเน็ตจีนอย่างพวกเรามีหรือจะกลัวไม้นี้ และยังอยู่ในพื้นที่ของตัวเองอีก ไม่ต้องเรียกผู้ดูแลฟอรัมเลยด้วยซ้ำ แต่ละคนหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วทุ่มลงไป ชั่วเวลาเดียวโพสต์เหล่านี้ต้องจมท่ามกลางกองน้ำลาย

อันที่จริงมีโพสต์ของชาวเน็ตที่มาจากเกาหลีบางคนมีความเป็นมืออาชีพระดับหนึ่ง ลิสต์ข้อมูลแต่ละอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าหลี่เจ๋อเฉิงมีข้อได้เปรียบมากกว่าลู่เฉิน

เสียดายที่ความพยายามของพวกเขากลับเสียแรงเปล่า

หลังจากถูกด่าเละตุ้มเป๊ะ ไอดีที่ชื่อว่า ‘เผียวเอินเฉิงKSO’ ได้โพสต์ด่าในหน้าเว็บด้วยโทสะ “คนจีนอย่างพวกคุณก็เก่งแต่โม้ เทควันโดของคนเกาหลีอย่างพวกเราต้องชนะแน่นอน หลี่เจ๋อเฉิงจะทำให้พวกคุณหุบปากทั้งหมด!”

ไอดีนี้ไม่ใช่ไอดีใหม่ แถมยังได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงค้นพบ ‘เผียวเอินเฉิงKSO’ ได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นผู้เข้าแข่งขันเทควันโดของเกาหลีใต้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนหนึ่ง เคยร่วมแข่งโอลิมปิกที่ลอนดอน และคว้าเหรียญเงินมาหนึ่งเหรียญ ปัจจุบันได้ปลดประจำการและทำงานช่วยโปรโมตส่งเสริมเทควันโด

ทว่าชื่อเสียงก็ส่วนของชื่อเสียง พวกชาวเน็ตคนไหนจะสนใจเขาเล่า

แต่ทุกคนรู้ดี การแพ้ชนะของสงครามไซเบอร์อันที่จริงไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือการแพ้ชนะของการต่อสู้ที่แท้จริงถ้าหากลู่เฉินได้รับชัยชนะ เช่นนั้นแล้วก็จะได้จับ ‘เผียวเอินเฉิงKSO’ แขวนแล้วเอาแส้เฆี่ยนตี

แต่ถ้าหากลู่เฉินแพ้ล่ะ

เช่นนั้นทุกคนที่สนับสนุนลู่เฉิน ก็จะกลายเป็นตัวตลก มองดูคนเกาหลีใต้ทำตัวโอ้อวดโอหัง

แล้วจะให้อดทนได้อย่างไร!

เวลาแป๊บเดียว โพสต์ในฟอรัมก็มีจำนวนลดน้อยลง ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การถ่ายทอดสดในงาน

มองดูลู่เฉินปรากฏตัวบนสังเวียนประลอง ทุกคนล้วนให้กำลังใจเขาอยู่ในใจ

อย่าแพ้เด็ดขาด!

และลู่เฉินในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถได้ยินเสียงอันเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจของแฟนคลับนับหมื่นนับพัน เขากำลังรับการตรวจสอบจากกรรมการตัดสิน เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้พกวัตถุที่ผิดกฎระเบียบ

ขณะเดียวกัน ลู่เฉินก็ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาจากคู่ต่อสู้

ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความปรารถนาที่จะชนะ!

…………………………………………………………………………