ตอนที่ 774 จบประโยคอย่างสมบูรณ์

“ฉันคิดว่าพวกเราสามารถตกลงร่วมงานกับหลี่เจ๋อเฉิงได้…”

เมื่อออกจากโรงเรียนอู่เฉิงเพื่อเดินทางกลับโรงแรมเดอะชิลลา ลู่ซีที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันเอ่ยว่า “เขาหัวแหลมมาก”

หัวแหลม คำนี้เหมาะเป็นคำบรรยายสำหรับนักธุรกิจแต่กลับเอามาใช้กับปรมาจารย์เทควันโดคนนี้ รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร แต่ความเป็นจริงได้พิสูจน์แล้ว ความเฉลียวฉลาดของหลี่เจ๋อเฉิงเกินกว่าจินตนาการของทุกคน

หลังจากถูกลู่เฉินโจมตีพ่ายแพ้ เขาไม่รู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดอะไร แต่ยังออกข้อเสนอการร่วมงานกันที่มีประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย หากจะพูดว่าฉลาดหลักแหลมจึงไม่ผิดเลยสักนิด

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลี่เจ๋อเฉิงจะเปลี่ยนสิ่งที่ไม่เอื้อผลประโยชน์ให้กลายเป็นสิ่งที่เอื้ออำนวย ขอเพียงทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมงานกัน เช่นนั้นสงครามหมื่นล้านครั้งนี้ก็เป็นอันจบลงอย่างสวยงาม ความเสียหายสำหรับชื่อเสียงของเขาจะลดลงต่ำสุดไปโดยธรรมชาติ

นอกจากนี้ความทะเยอทะยานของเขาก็ไม่ล้มเหลวเพราะเหตุนี้ ตรงกันข้ามกลับได้หุ้นส่วนที่แข็งแกร่งมาอยู่ในกองทัพของตนเอง เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจ

แน่นอนว่าจุดประสงค์ที่หลี่เจ๋อเฉิงต้องการ ที่สำคัญที่สุดคือได้รับการสนับสนุนและยอมรับจากลู่เฉิน

หากลู่เฉินไม่ตกลง เช่นนั้นความพยายามของเขาก็ไร้ซึ่งความหมาย

เพราะลู่เฉินคือผู้ชนะนั่นเอง!

เขาคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยว่า “ผมเห็นด้วยครับ รายละเอียดแผนการร่วมงานต้องให้พี่ไปคุยกับเขา”

ลู่เฉินคิดอย่างชัดเจนดีแล้ว ข้อเสนอที่หลี่เจ๋อเฉิงบอกว่าอยากจะสร้างการแข่งขันศิลปะการต่อสู้มืออาชีพระดับโลกเป็นแนวคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว ผลกระทบที่ได้รับหากประสบความสำเร็จจะต้องลึกซึ้งและยาวไกลแน่นอน

แนวคิดนี้สามารถหลอมรวมเข้ากับแผนการสร้างผลงานกำลังภายในชื่อดังของเขาได้อย่างสมบูรณ์ จะเกิดแรงผลักดันขนาดใหญ่มหึมา!

ถึงแม้การเข้าร่วมกับสมาพันธ์เทควันโดอู่เฉิงจะทำให้เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้น แต่อาศัยลู่เฉินทำคนเดียวตามลำพังไม่รู้ว่าต้องเสียเวลาและกำลังตั้งเท่าไร ผลสุดท้ายกลับได้ไม่คุ้มเสีย

หลี่เจ๋อเฉิงมีแผนงาน มีกำลังและความสามารถ เป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากงานแสดงของตัวเองแล้ว ลู่เฉินได้ใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมขยายกิจการของตน อย่างเช่นเว็บไซต์ระดมทุน แฮปปี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สตาร์แฟคตอรี่ เป็นต้น ทั้งหมดล้วนประสบความสำเร็จ

ผ่านการร่วมงานแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ลู่เฉินทำได้คล่องมือดั่งคิด!

“แกอยากให้ฉันเหนื่อยตายเหรอ”

ลู่ซีขึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “แกก่อเรื่องใหญ่โตไม่เว้นแต่ละวัน เสร็จเรื่องแล้วก็ทิ้งไม่สนใจ ต่อให้ฉันมีสามหัวหกแขนก็ยังทำไม่ทัน!”

ลู่เฉินยิ้มเจื่อนๆ เอ่ยว่า “ผมก็ไม่อยากครับ หรือไม่พวกเรารับสมัครผู้จัดการสักสองสามคนเข้ามา…”

ตอนนี้ธุรกิจของเขาถือว่าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เฉินเฟยมีเดียเตรียมแผ่ขยายไปอีกก้าว เซ็นสัญญาศิลปินมากยิ่งขึ้น ถ่ายละครและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง แต่ละอย่างมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่ลู่เฉินไม่อยากให้พี่สาวต้องเหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เงินหาได้ไม่มีวันหมด แต่ครอบครัวสำคัญกว่า

ขณะที่พูด รถเมอร์เซเดสเบนซ์ที่ทั้งสามคนนั่งมาได้มาถึงหน้าประตูโรงแรมเดอะชิลลาแล้ว

ผลปรากฏว่าลู่เฉินเพิ่งจะลงจากรถ ไม่รู้ว่ามีนักข่าวกลุ่มใหญ่โผล่พรวดมาจากไหน พวกเขาเข้ามารุมล้อมอย่างเร็วที่สุด พยายามกดชัตเตอร์กล้องที่ถืออยู่ในมือรัวๆ ยื่นไมค์ในมือไปหาลู่เฉิน

“คุณลู่เฉิน…”

“คุณลู่เฉิน ไม่ทราบว่าคุณมองชัยชนะครั้งนี้ยังไงคะ…”

“หลี่เจ๋อเฉิง…”

บางคนพูดภาษาจีน บางคนพูดภาษาอังกฤษ แต่มากไปกว่านั้นคือภาษาเกาหลี ผสมปนเปกันยุ่งเหยิง

ลู่เฉินคิดไม่ถึงว่าเกาหลีใต้จะมีปาปารัสซี่เยอะขนาดนี้ ถึงขนาดมาดักรออยู่หน้าประตูโรงแรม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

อันที่จริงเขาประเมินอิทธิพลของหลี่เจ๋อเฉิงในเกาหลีใต้ต่ำเกินไป ตอนที่สงครามหมื่นล้านครั้งนี้ได้ถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ได้เกิดความฮือฮาในเกาหลีใต้แล้ว

ผลปรากฏว่าลู่เฉินเอาชนะหลี่เจ๋อเฉิงในยกแรก เกินความคาดหมายของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน!

นักข่าวจำนวนไม่น้อยได้มารอที่ด้านนอกโรงเรียนอู่เฉิงนานแล้ว แต่นักข่าวที่มากกว่านั้นได้แอบสะกดรอยตามเพื่อไปสัมภาษณ์ลู่เฉินที่โรงแรมเดอะชิลลา เพราะว่าที่นี่มีโอกาสได้เจอลู่เฉินเยอะกว่า

โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปรากฏตัวทันเวลา ช่วยกันนักข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว คุ้มกันลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่ซีกลับเข้าไปในโรงแรมอย่างปลอดภัย

เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างกังวลว่า “นายคิดว่าจะมีเรื่องยุ่งยากหรือเปล่า ถ้างั้นก็กลับประเทศให้เร็วกว่านี้เถอะ”

หลี่เจ๋อเฉิงเป็นฮีโร่ในใจของคนเกาหลีมากมาย ตอนนี้พ่ายให้แก่ลู่เฉิน จึงยากมากที่จะห้ามไม่ให้แฟนคลับสุดโต่งบางส่วนเกิดอารมณ์ทำเรื่องที่ไร้สติออกมา

ลู่ซีสนับสนุน “ใช่ พวกเธอสองคนกลับประเทศไปก่อน ฉันจะอยู่ที่นี่คุยกับหลี่เจ๋อเฉิงเอง”

ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกครับ และผมก็รับปากคำเชิญของเอสวายจีไว้แล้ว อีกสองวันค่อยกลับ”

เอสวายจีเป็นบริษัทเอเจนซี่ชื่อดังของเกาหลีใต้ ผ่านการร่วมงานกับเอสวายจี ลู่เฉินสามารถขยายกิจการในเกาหลีใต้ได้อย่างราบรื่น ทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด

ครั้งนี้ลู่เฉินถูกเชิญมาบันทึกรายการที่กรุงโซล ได้เจียดเวลาไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของเอสวายจี จากนั้นทางเอสวายจีได้เชิญเขา ก็คืออยากให้ลู่เฉินช่วยชี้แนะเอชเกิร์ลเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่เอสวายจีเพิ่งจะตั้งขึ้นมา

ลู่เฉินรับปากไว้แล้ว ดังนั้นจึงต้องทำตามสัญญา

วันที่ 6 มกราคม เวลาเที่ยงสิบห้านาที หลี่เจ๋อเฉิงได้โพสต์ใน FLOO ส่วนตัวของตัวเอง เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาถึงความพ่ายแพ้ของตนเอง และขอโทษแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนเขา

ปรมาจารย์เทควันโดผู้นี้ชื่นชมความสามารถของลู่เฉินเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันยังหวังว่าจะได้ร่วมงานกับลู่เฉินช่วยกันผลักดันเทควันโดแบบฉบับอู่เฉิงและกังฟูจีนให้โด่งดังไปทั่วโลก

เพราะทั้งสองอย่างมีหลายส่วนที่คล้ายกันและส่งเสริมซึ่งกันและกันได้

หลังจากห้านาทีผ่านไป ลู่เฉินได้ตอบโพสต์หลี่เจ๋อเฉิงใน FLOO เพื่อแสดงตนว่าการแข่งขันครั้งนี้ส่วนใหญ่อาศัยความโชคดีมากกว่า ตัวเองยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากหลี่เจ๋อเฉิง ดังนั้นแพ้ชนะไม่สำคัญ และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับหลี่เจ๋อเฉิง

โพสต์ข้อความทั้งสองอันนี้ถือว่าเป็นการจบประโยคที่สมบูรณ์ของสงครามหมื่นล้าน ความถ่อมตัวและจริงใจของลู่เฉินทำให้เขาได้รับคอมเมนต์ดีๆ มากมาย ได้ฐานแฟนคลับชาวเกาหลีเพิ่มขึ้น

แต่ยังมียอดฝีมือเทควันโด คาราเต้ และคิกบ็อกซิ่งในเกาหลีอีกหลายคนต่างทยอยกระโดดออกมาขอท้าสู้กับลู่เฉิน แต่พวกเขาถูกกำหนดไม่ให้ได้รับการตอบสนองใดๆ จากลู่เฉิน

จากนั้นลู่เฉินได้โพสต์ข้อความใหม่ในบล็อกล่างฉาว อย่างแรกแน่นอนว่าต้องขอบคุณการสนับสนุนของแฟนๆโดยเฉพาะพวกแฟนคลับของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ที่ตบรางวัลและของขวัญให้เขามูลค่าเกินยี่สิบล้าน

แต่เงินก้อนนี้เขาไม่ได้เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง หลังจากหักภาษีแล้ว จะรวมกับรายได้จากการถ่ายทอดสด แล้วนำไปบริจาคให้มูลนิธิกองทุนการกุศลเฉินเฟย เพื่อนำมาช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ!

พวกแฟนคลับเห็นด้วยอยู่แล้ว ปกติแอนตี้แฟนในช่องแสดงความคิดเห็นจะโผล่มาบ่อยครั้ง แต่คราวนี้กลับหายเข้ากลีบเมฆไปเลย เพราะว่าพวกเขาหาจุดบอดไม่เจอเลยด้วยซ้ำ หากดันทุรังต่อไปมีแต่จะอับอายตัวเองเปล่าๆ

และตอนเย็นวันนั้น รายการช่องหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีได้ออกอากาศข่าวที่ลู่เฉินชนะหลี่เจ๋อเฉิงในกรุงโซลเนื้อหาคลิปการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายหลังจากผ่านการตัดต่อมีความยาวสิบห้าวินาที และยังให้การชื่นชมยอมรับลู่เฉินในแง่บวก!

…………………………………………………………………………