Perfect Superstar 784 ทวนกระแส (2)

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 784 ทวนกระแส (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 784 ทวนกระแส (2)

ข่าวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ กำลังจะมีการออดิชันนักแสดง ถูกโพสต์ลงในบล็อกส่วนตัวของลู่เฉินเป็นที่แรก จากนั้นค่อยใช้บัญชีทางการของเฉินเฟยมีเดียยืนยันเสริม แล้วค่อยประกาศเกณฑ์การคัดเลือกและกฎการเข้าแข่งขัน

ผู้ใหญ่อายุระหว่างสิบแปดปีถึงสามสิบห้าปี ไม่จำกัดเพศและสัญชาติ ขอเพียงมีร่างกายที่แข็งแรงและมีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้ เช่น เคยเรียนวูซูแบบดั้งเดิม มวยสานต่า เทควันโด ยูโด คิกบ็อกซิ่ง มวยสากล เป็นต้น สามารถสมัครได้ทั้งหมด

การคัดเลือกรอบแรกใช้วิธีการสมัครทางออนไลน์ ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวหนึ่งฉบับ แล้วแนบวิดีโอสั้นๆเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเคยเรียนศิลปะการต่อสู้

สิ้นสุดการสมัครวันที่ 25 มกราคม ประกาศผลทางออนไลน์วันที่ 28 มกราคม ผู้ผ่านรอบออดิชันทั้งหมดจะต้องเดินทางมาเมืองหลวงในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เพื่อร่วมบันทึกรายการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มีนาคม และคัดเลือกผู้ยอดเยี่ยมออกมากลุ่มหนึ่งเพื่อร่วมการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’

เฉินเฟยมีเดียแอบเปิดเผยอีกหนึ่งขั้น รายการประกวด ‘ชุมนุมยอดมือปราบ’ คราวนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะร่วมงานกับช่องวาไรตี้ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันจะได้ขึ้นเวทีของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีแน่นอน

นอกจากนี้เฉินเฟยมีเดียยังรับผิดชอบค่าเดินทางไปกลับและอาหารที่พักตลอดการบันทึกรายการ และจะให้รางวัลในระดับที่แตกต่างกันไป กระทั่งมีโอกาสได้เซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดีย!

หลังจากประกาศข่าวนี้ออกไป เกิดความร้อนแรงอย่างยิ่งใหญ่ทันที ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ช่องวาไรตี้ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี เฉินเฟยมีเดีย ลู่เฉิน…คำสำคัญเหล่านี้ไม่ว่าจะหยิบคำไหนออกมาก็ดึงดูดสายตาได้มากพอ ตอนนี้ทั้งหมดมารวมตัวกัน ทำให้คนยากจะย้ายสายตาไปทางอื่น!

ตอนที่เมิ่งหู่ทราบข่าวนี้ ระยะห่างจากวันสิ้นสุดการสมัครเหลืออีกไม่กี่วันแล้ว เหตุผลหลักๆ เป็นเพราะการดูแลที่เข้มงวดเกินไปของโรงเรียนฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ ปกติตอนเย็นสามารถดูทีวีและข่าวได้ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

แต่โรงเรียนก็ไม่ใช่เขตหวงห้ามของทหาร ไม่สามารถตัดขาดจากโลกภายนอกได้จริงๆ ดังนั้นเมื่อข่าวแพร่เข้ามา นักเรียนหลายคนจึงรู้ และแอบเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ!

เมื่อปีที่แล้ว ในห้องสมุดของโรงเรียนเหิงหยาง หนังสือที่ถูกนักเรียนยืมมากที่สุดคือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นิยายกำลังภายในเรื่องนี้เนื่องจากมีหัวข้อที่พิเศษเฉพาะตัว ดังนั้นจึงถูกจัดอยู่ในรายชื่อหนังสือของโรงเรียน ผลปรากฏว่ากลายเป็นหนังสืออ่านฆ่าเวลาที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนมากที่สุด

นักเรียนหลายคนอ่านจนติดงอมแงม เนื่องจากหนังสือมีน้อย ถึงขนาดเอาไปทำเล่มถ่ายเอกสาร แล้วค่อยแจกจ่ายในหมู่นักเรียนด้วยกัน

ดังนั้นในโรงเรียนเหิงหยาง อิทธิพลของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มีพลังสูงมาก พวกนักเรียนเป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อนอายุสิบกว่าปี รู้สึกอินไปกับนิยายรักกำลังภายในแบบนี้ง่ายที่สุด

เพียงแต่โลกในหนังสือเป็นสิ่งที่จินตนาการไม่ใช่ความจริง เหมือนกับนิยายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทุกคนส่วนใหญ่แล้วเอาไว้ใช้ระบายอารมณ์เวลาหงุดหงิดหรือทุกข์ใจ

ทว่าจู่ๆ โอกาสมาปรากฏอยู่ตรงหน้า บอกว่าจะได้กลายเป็นนักแสดงภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ สิ่งล่อใจที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขามากมายแค่ไหนแค่คิดก็รู้!

เมิ่งหู่ก็เคยอ่าน ‘กระบี่เย้ยุทธจักร’ เดิมทีเขาไม่เคยมีความฝันที่จะเป็นดารา แต่จนกระทั่งโอกาสมาอยู่ตรงหน้า ความปรารถนาในใจก็ราวกับมีหญ้าป่าลุกลามอย่างกำเริบเสิบสาน

ตอนนี้เขากลับผ่านการคัดเลือกออนไลน์จริงๆ!

ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกออนไลน์ไม่ได้มีแค่เมิ่งหู่คนเดียว คนที่นั่งล้อมรอบอยู่ด้วยกันยังมีอีกสี่คนที่โชคดี ผู้ที่ตกรอบย่อมรู้สึกผิดหวังเศร้าใจเป็นธรรมดา ผู้สำเร็จก็ไม่อาจอดกลั้นความตื้นเต้นดีใจได้

“เหล่าหู่…”

หลี่ตงหยางพูดกับเขาอย่างดีอกดีใจ “พวกเราฉลองปีใหม่แล้วค่อยไปเมืองหลวงกันเถอะ!”

เขากับเมิ่งหู่มาจากมณฑลเจียงซีเหมือนกัน และบ้านเกิดของทั้งสองคนก็ห่างกันแค่หนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้นนับว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงกลายเป็นเพื่อนรักกันในโรงเรียนแห่งนี้ เขาเองก็ผ่านการคัดเลือกออนไลน์

เกณฑ์การคัดเลือกนักแสดง ‘กระบี่เย้ยุทธจักร’ สำหรับนักเรียนโรงเรียนฝึกสอนศิลปะการต่อสู้อย่างพวกเขา จริงๆ แล้วมีข้อได้เปรียบมาก เพราะตรงตามเงื่อนไขทั้งหมด ในหลายๆ ด้านสามารถบดขยี้คนทั่วไปได้สบาย ดังนั้นจึงผ่านการคัดเลือกเยอะมาก

แน่นอนว่าการคัดเลือกออนไลน์ง่ายกว่า แต่เมื่อมาเข้าร่วมการคัดเลือกที่เมืองหลวง จะต้องมีคนกลุ่มใหญ่ถูกคัดออกแน่นอน รายการประกวดย่อมต้องคัดเลือกสุดยอดของสุดยอด

แต่สำหรับวัยรุ่นอายุสิบแปดปีเหล่านี้ สมองของพวกเขาไม่มีคำว่าล้มเหลว ถึงแม้จะรู้ว่ามีความหวังน้อยมาก แต่สามารถไปเที่ยวเมืองหลวงสักครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!

คิดไม่ถึงว่าเมิ่งหู่จะส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่ ฉันกะว่าวันมะรืนปิดเทอมหน้าหนาวก็จะไปเมืองหลวงเลย!” ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

ทุกคนตกใจมาก หลี่ตงหยางเบิกตากว้าง “ออดิชันอย่างเป็นทางการเริ่มวันที่ 1 มีนาคม นายไปตอนนี้จะไปพักที่ไหน ไม่กลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านเหรอ”

เขาสงสัยว่าเมิ่งหู่ดีใจเกินเหตุหรือเปล่า ถึงพูดจามั่วซั่วแบบนี้

อันที่จริงเวลานี้เมิ่งหู่ใจเย็นมาก เขาเอ่ยว่า “ฉันคิดดีแล้ว ตอนนี้ตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปเมืองหลวงหาซื้อง่ายที่สุดหลังจากปีใหม่แล้วค่อยไปคาดว่าน่าจะหาซื้อตั๋วยาก ถ้าหากเกิดล่าช้าขึ้นมาล่ะ…”

การเดินทางในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นแล้ว โรงเรียนใหญ่หลายแห่งเริ่มปิดเทอมฤดูหนาว การจราจรในประเทศเข้าสู่ช่วงเวลาคับคั่งอีกครั้ง

อย่างเช่นเมืองหลวง ทุกปีจะมีคนอย่างน้อยสิบล้านคนกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ รถไฟความเร็วสูงที่เดินทางไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศมีการแย่งกันซื้อตั๋วเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเดินทางไปเมืองหลวงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ซื้อตั๋ววันนั้นก็ไม่มีปัญหา

แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่สุดสำหรับเมิ่งหู่ที่ไม่กลับบ้านแต่มุ่งหน้าไปเมืองหลวงแทน “ฉันได้ยินว่าช่วงฉลองปีใหม่ในเมืองหลวงมีงานชั่วคราวที่ได้รับความนิยมมาก แถมเงินเดือนก็สูง ฉันอยากไปทำงานเป็นพนักงานบริการหรือไม่ก็ส่งพัสดุ เดือนหนึ่งอย่างน้อยน่าจะได้สองสามพัน ยังส่งกลับไปจุนเจือที่บ้านได้ ดีกว่ากลับบ้านใช้เงินเป็นสิบเท่า”

หลี่ตงหยางและคนอื่นมองหน้ากัน ใครก็คิดไม่ถึงว่าเมิ่งหู่จะคิดอย่างรอบคอบเช่นนี้

“แล้วก็…”

เมิ่งหู่เอ่ยพูดเบาๆ “ออดิชันอย่างเป็นทางการต้องผ่านทั้งหมดเจ็ดด่านไม่ใช่เหรอ ฉันอยากจะลองไปสืบดูก่อนว่าทั้งเจ็ดด่านนี้มีอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า!”

คราวนี้ทุกคนต่างตื่นตะลึงด้วยความตกใจ หลี่ตงหยางสีหน้าเปลี่ยนไปพักหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “เหล่าหู่ งั้นฉันจะไปฉลองปีใหม่ที่เมืองหลวงกับนาย!”

เมิ่งหู่ตกตะลึง “แล้วนายจะพูดกับที่บ้านยังไง”

หลี่ตงหยางเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ฐานะครอบครัวดีกว่าเขามาก ไม่จำเป็นต้องทำงานหาเงินอย่างสิ้นเชิง“อยู่ทางโน้นถ้าหากได้ข่าวอะไร ฉันจะบอกพวกนายเป็นคนแรก”

หลี่ตงหยางยิ้มตบไหล่ของเขา พลางเอ่ยว่า “ฉันตัดสินใจแล้ว จะออกไปผจญภัย!”

เด็กหนุ่มคนอื่นอีกสองสามคนมองหน้ากันและกันแล้วตัดสินใจอยู่ในใจ

อีกสองวันโรงเรียนเหิงหยางจะหยุดภาคฤดูหนาว เมิ่งหู่ หลี่ตงหยาง และเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ยกเลิกตั๋วรถไฟที่ซื้อไว้ก่อนแล้ว จากนั้นซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงใหม่มุ่งหน้าไปเมืองหลวง

พวกเขาตกลงเดินทางร่วมกัน กลายเป็นคลื่นเล็กๆ ที่ทวนกระแสการเดินทางในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของปีนี้อย่างไม่ตั้งใจ

แต่พวกเขาไม่ใช่หนึ่งเดียวในโลก ยังมีคนอีกมากมายที่มีความฝันเหมือนกัน เดินทางมุ่งหน้าไปเมืองหลวงจากสถานที่ที่ต่างกัน รวมตัวกันกลายเป็นคลื่นทวนกระแสลูกใหม่!

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด