Perfect Superstar 810 งานเปิดกล้อง

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 810 งานเปิดกล้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 810 งานเปิดกล้อง

หลังจากการมาถึงของลู่เฉิน ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง ’กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ได้เตรียมการทุกอย่างพร้อมเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เปิดกล้องเท่านั้น

งานเปิดกล้องมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม แน่นอนว่าสถานที่ก็คือโรงถ่ายหนิงซาน เดิมทีกระบวนการจัดงานเปิดกล้องปกตินั้นไม่ได้ซับซ้อน แค่นักแสดงหลักและทีมงานมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง เชิญสื่อต่างๆ มาสัมภาษณ์สดที่นั่น หลังจากนั้นจุดธูปเทียนบวงสรวงก็เป็นอันเสร็จพิธี ไม่จำเป็นต้องจัดงานให้ใหญ่โตอลังการอะไร นั่นเป็นการฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ

ถ้ามีเงินมากพอจะใช้จ่ายได้อย่างสุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้นละก็ นำเงินเหล่านั้นไปสร้างกระแสออนไลน์เสียยังดีกว่า อย่างน้อยผลจากการประชาสัมพันธ์ก็ก็มีประโยชน์กว่ากันหลายเท่า

แต่งานเปิดกล้องของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นั้นไม่ธรรมดาเลย มันกลายเป็นงานเปิดกล้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลำพังแค่สื่อในประเทศที่ได้รับเชิญก็มีกว่าร้อยแห่งแล้ว แถมยังมีสื่ออีกหลายสิบแห่งของฮ่องกงและไต้หวันอีกด้วย เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงและอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ไม่ได้มีเพียงแค่สื่อมวลชนเท่านั้นที่มารวมตัวกัน ข้าราชการคนสำคัญจำนวนหนึ่งจากเทศบาลอำเภอหนิงซานรวมทั้งนายอำเภอหลัวหลงก็ได้มาร่วมงานนี้ด้วย เมืองฉางซานที่เหนือกว่าหนิงซานขึ้นไปอีกขั้นก็ส่งหัวหน้ากรมประชาสัมพันธ์มาด้วยเช่นกัน มีการรับรองกันอย่างเอิกเกริกเลยทีเดียว

แน่นอนว่าข้าราชการเหล่านี้ไม่ได้มาตามดาราดังเพื่อความบันเทิงเท่านั้น จุดประสงค์หลักคือต้องการใช้โอกาสอันแสนมีค่าในครั้งนี้แนะนำโรงถ่ายหนิงซานและสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวต่างๆ ในหนิงซานต่อโลกภายนอก เพื่อที่จะส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวของหนิงซานอีกด้วย

ตามแผนการของอำเภอหนิงซานนั้น ในอีกสิบปีข้างหน้าการท่องเที่ยวจะกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอหนิงซาน พวกเขาจะใช้การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่กำลังจะเปิดกล้องนี้เป็นเครื่องมือในการยกระดับการท่องเที่ยวของหนิงซาน ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยกับแรงสนับสนุนที่มากมายขนาดนี้เลย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่ค่าเช่าที่อยู่ของทีมงานในโรงถ่ายหนิงซานก็ได้รับส่วนลดจนลู่ซีรู้สึกเกรงใจ ห้องส่วนตัวในโรงแรมของนักแสดงนำก็ลดราคาอย่างหนักเช่นกัน

บวกกับการบริการที่เอาใจใส่ในอีกหลายๆ ด้าน อย่างน้อยก็ทำให้ทีมงานประหยัดเงินไปได้อีกหลายล้าน และสิ่งที่หนิงซานต้องการนั้นมีเพียงแค่หวังว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะถ่ายทำฉากที่หนิงซานมากขึ้น และพักอยู่ที่นี่นานขึ้นอีกหน่อย

แน่นอนว่าอำเภอหนิงซานนั้นไม่ได้เสียเปรียบในเรื่องนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่มีข่าวออกมา จำนวนครั้งในการค้นหาคำว่า ‘หนิงซาน’ บนเสิร์ชเอนจินก็พุ่งสูงขึ้นอย่างน้อยร้อยเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่เฉินเฟยเอ๋อร์โพสต์บนบล็อกและบทกลอนที่ลู่เฉินเขียนให้กับเธอทำให้เกิดปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกขึ้นมา ช่วงนี้จึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมที่หนิงซานเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

ห้องพักทั้งหมดของโรงแรมใหญ่ในโรงถ่ายหนิงซานถูกจองหมดแล้ว ธุรกิจโรงแรมและเกสต์เฮาส์อื่นๆ ในเขตก็เฟื่องฟูเช่นกัน ตั๋วเข้าชมจุดชมวิวที่แต่เดิมนั้นแทบจะถูกทิ้งร้างไว้ก็กำลังขายดีอย่างเทน้ำเทท่า มีนักท่องเที่ยวขับรถมาด้วยตนเองเพิ่มขึ้นเยอะมาก

เพียงแค่ปัจจุบันก็สามารถมองเห็นผลประโยชน์ได้ขนาดนี้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงผลกระทบในระยะยาวแล้ว ยิ่งอำเภอหนิงซานลงทุนไปมากเท่าไร ผลตอบแทนก็จะยิ่งได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นภายใต้การร้องขอของพวกเขา งานเปิดกล้องก็ได้กลายเป็นพิธีเปิดกล้องไปแล้ว

ในส่วนของเฉินเฟยมีเดียนั้นแน่นอนว่าพวกเขายินดีที่จะให้ความร่วมมือด้วย เพราะอย่างเรื่องการจัดสถานที่ การรักษาความปลอดภัย การต้อนรับนักข่าวจากสื่อต่างๆ และงานอื่นๆ ล้วนมีเทศบาลอำเภอจัดการให้ทั้งหมด ทีมงานไม่ต้องไปสิ้นเปลืองเวลาในการใช้ความคิดและงบประมาณให้มากเลย อย่างมากที่สุดก็คือการใช้ประโยชน์จากความนิยมและเส้นสายของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เพื่อเชิญสื่อที่มีชื่อเสียงมาเท่านั้น

พิธีเปิดกล้องในครั้งนี้มีสื่อมวลชนมาเข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก โดยปกติแล้วที่มาจะเป็นนักข่าวของเว็บท่าใหญ่ๆ และเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย เฟยซวิ่น อี้หวาง ล่างฉาว โซวตู้… ยังมีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์และสื่อโทรทัศน์อีกมากมาย

มีคนถึงสามสี่ร้อยคนที่ถูกส่งมาจากสื่อต่างๆ ทีมงานก็มีหลายร้อยคน แขกอีกมากกว่าร้อยคน อีกทั้งผู้ชมที่ได้ยินข่าวและมาถึงงานเพื่อชมพิธี รวมถึงกลุ่มคนท้องถิ่นในหนิงซาน โรงถ่ายที่เพิ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นานนี้เพียงแค่เปิดตัวก็ได้นำพาเวลาแห่งความมีชีวิตชีวาที่คึกคักสุดๆ เข้ามาแล้ว!

ดอกไม้สด คำอวยพร ซุ้มประตูสีสันสดใส พลุสายรุ้ง เวทียกสูง… ถ้าไม่ใช่เพราะป้ายสีแดงขนาดใหญ่ได้เขียนอักษรตัวใหญ่ไว้อย่างชัดเจน เกรงว่าคงยากที่จะทำให้ผู้คนเชื่อว่านี่คือพิธีเปิดกล้อง

สถานีโทรทัศน์ฉางซานได้ถ่ายทอดสดการจัดงานนี้

ท่ามกลางเสียงอึกทึกของฆ้องและกลอง พิธีได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งแรกเลยก็คือคำกล่าวเปิดพิธีของท่านผู้นำทั้งหลาย

นี่ก็ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศจีนเลย ท้ายที่สุดแล้ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้ถ่ายทำที่โรงถ่ายหนิงซาน ก็ถือว่าเป็นผลงานของเทศบาลท้องถิ่นด้วย ถ้าไม่ถือโอกาสนี้ในการเอาหน้าเพื่อโปรโมตสักหน่อย แล้วจะพยายามทำงานอย่างหนักไปเพื่ออะไรล่ะ

โชคดีที่ผู้นำหลายท่านรู้ว่าไม่ควรจะไปล้อเล่นกับนักข่าวในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บท่าใหญ่ๆ เหล่านี้ที่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการกล่าวสุนทรพจน์ของแต่ละท่านจึงสั้นกระชับและจบลงอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที

และในเวลาต่อมาก็กลับเข้าสู่ขั้นตอนตามปกติ พิธีเปิดกล้องนั้นไม่จำเป็นต้องมีกระบวนการมากมาย โดยพื้นฐานแล้วก็ทำตามขั้นตอนแบบเดิม จุดสำคัญยังคงเน้นไปที่การให้สัมภาษณ์กับสื่อในภายหลัง

“อาจารย์ลู่ อีกไม่นานก็จะถึงเดือนเมษายนแล้ว…”

ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ เฉินกั๋วจื้อ มู่เสี่ยวชู ถงซินเหยา และนักแสดงหลักคนอื่นๆ นั่งเรียงกันเป็นแถวอยู่หลังโต๊ะยาว เผชิญหน้ากับกล้องมากมายของนักข่าวพร้อมกับคำถามสัมภาษณ์ของพวกเขา

คนแรกที่โพล่งออกมาคือนักข่าวจากอี้หว่างเอนเตอร์เทนเมนต์ เสียงพูดของพิธีกรในงานยังไม่ทันจบ เธอก็ถามแทรกขึ้นมาอย่างอดทนรอไม่ไหว “เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะสามารถฉายทันในฤดูร้อนตามกำหนดการหรือเปล่าคะ”

สำหรับคำถามที่ค่อนข้างตรงประเด็นของเธอ ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “คำถามนี้คุณควรถามกับผู้กำกับเฉินถึงจะถูกนะครับ แต่ผมก็ให้คำตอบคุณได้เช่นกัน นั่นคือกำหนดการฉายของภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะขึ้นอยู่กับการถ่ายทำและการผลิตครับ”

“ก่อนอื่นเลยพวกเราจะต้องมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของภาพยนตร์ และจะไม่มีทางผลิตผลงานที่ไม่มีคุณภาพเพื่อให้เป็นไปตามกำหนดการอย่างแน่นอน!”

คำตอบของลู่เฉินทำให้เกิดเสียงอื้ออึงในหมู่นักข่าว นักข่าวหญิงคนนั้นจากอี้หว่างถามต่อทันทีว่า “อย่างนั้นก็คือพวกคุณปล่อยฉายไม่ทันกำหนดการในช่วงฤดูร้อนแล้ว แบบนี้ถือว่าเป็นการหลอกลวงหรือเปล่าคะ”

“หลอกลวง? ”

ไม่ต้องรอให้ลู่เฉินตอบกลับ เฉินกั๋วจื้อก็เลิกคิ้วขึ้นและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “พวกเราพูดว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะต้องฉายในช่วงฤดูร้อนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนไหนหรือ”

“ภาพยนตร์เป็นศิลปะที่เข้มงวด แม้แต่ภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ก็ไม่สามารถทำไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ พวกเราใช้เวลาเตรียมตัวมาอย่างยาวนานขนาดนี้ก็เพื่อที่จะสร้างผลงานชิ้นเอกที่แท้จริง ต่อให้เวลาปล่อยฉายจะถูกเลื่อนออกไปหน่อย แต่ตราบใดที่มันคุ้มค่ากับเงินที่ผู้ชมเสียมา แบบนั้นจะเป็นไรไป”

หลังจากที่โดนเฉินกั๋วจื้อตอกกลับไปเพียงไม่กี่ประโยค นักข่าวสาวจากอี้หว่างเอนเตอร์เทนเมนต์ก็นั่งกลับลงไปอย่างเขินอาย เธอกล้าที่จะแข็งข้อกับลู่เฉิน แต่กลับไม่กล้าที่จะไปขัดแย้งกับเฉินกั๋วจื้อ เพราะเขามีอิทธิพลอย่างมากในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ มีเส้นสายแข็งแกร่งขนาดนั้นไม่ใช่สิ่งที่นักข่าวสาวตัวเล็กๆ แบบเธอจะกล้าต่อกรด้วย

ดังนั้นถ้าเธอสร้างเรื่องลำบากใจให้แก่ลู่เฉินยังมีคนชม แต่ถ้าเกิดไม่เคารพเฉินกั๋วจื้อละก็ ผลลัพธ์ที่ได้คงจะไม่สวยสักเท่าไร

ในอีกแง่หนึ่ง ลู่เฉินใช้ความพยายามอย่างมากในการเชิญเฉินกั๋วจื้อมาเป็นผู้กำกับของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ และก็ใช้อิทธิพลของเฉินกั๋วจื้อปกป้องผลงานภาพยนตร์กำลังภายในชิ้นใหม่ที่แสนสำคัญนี้อีกด้วย

ผลลัพธ์แสนจะยอดเยี่ยม!

ต่อมาก็มีนักข่าวอีกคนยกมือและยืนขึ้นพร้อมกับถามว่า “คุณลู่เฉิน แล้วคุณคาดหวังรายได้จากการจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เท่าไร ช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหม”

คำถามนี้ตอบไม่ง่ายเลย สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ลู่เฉินทันที

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด