ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 115 ยกเลิกสัญญาเช่า

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 115 ยกเลิกสัญญาเช่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 115 ยกเลิกสัญญาเช่า

ตอนที่ 115 ยกเลิกสัญญาเช่า

ซูเถาขยะแขยงคนประเภทนี้อยู่แล้ว จึงพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจ

“คนคนนี้ทำไมในสมองมีแต่จะหาทางลัด ต่อไปถ้าเขามาหานายอีก นายไม่ต้องไปสนใจเขา ฉันจะดึงเขากับอีกสามคนเข้าสู่บัญชีดํา”

จากนั้นเธอก็เปิดระบบและป้อนภาพจากกล้องวงจรปิดของคนทั้งสามลงในบัญชีดํา ตราบใดที่กล้องวงจรปิดสแกนใบหน้าของทั้งสามคนได้ พวกเขาจะถูกปิดกั้นไม่ให้เข้ามา

ก่อนอาหารเย็น หม่าต้าเพ่าอาบน้ำจนสะอาดสะอ้าน และยังเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่ โกนหนวดเครา หวีผมเรียบร้อย

ซูเถากวาดตามองเพื่อยืนยันให้

“ดูมีชีวิตชีวา แต่ผอมไปหน่อย ต่อไปกินให้เยอะหน่อยนะ”

หม่าต้าเพ่าลูบศีรษะอย่างเขินอาย

“หลายปีมานี้ผมอดมื้อกินมื้อ ท้องไส้ก็ไม่ค่อยดีแล้ว ตอนนี้อยากจะกินกระเพาะก็รับไม่ไหว เพราะจะปวดท้อง เถ้าแก่ซูพวกเราจะไปกันยังไงครับ ต้องการให้โทรเรียกรถเหมาไหม?”

ซูเถายิ้มเล็กน้อย “ไม่จำเป็นต้องใช้รถ หลับตาสิ”

หม่าต้าเพ่าไม่รู้เหตุผล แต่เขาก็หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง และอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่ง เมื่อเขาลืมตาอีกครั้งฉากรอบ ๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว

ทั้งสระว่ายน้ำที่มีน้ำพุดูสดชื่น อาคารที่พักเรียงราย โรงอาหารสามชั้นที่เชื่อมต่อกับระเบียงที่สวยงาม…

เขากำลังฝันอยู่เหรอ ภาพตรงหน้าทำให้ตกใจจนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน

ซูเถาตบไหล่เขาเบา ๆ “ที่นี่คือเถาหยาง ไม่ต้องตื่นเต้น ต่อไปจะได้มาบ่อย ๆ”

จวงหว่าน เฉียนหรงหรง เฉียนหลิน และคนอื่น ๆ ที่ได้รับข่าวก็มาต้อนรับ พวกเขาเริ่มทำความรู้จักกันในโรงอาหาร

จวงหว่านถามซูเถาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า

“คุณเปิดจุดแวะพักข้าง ๆ ภูเขาผานหลิวแล้วจริง ๆ เหรอ?”

ซูเถาชี้ไปที่หม่าต้าเพ่าที่ยังมีท่าทีไม่มีคุ้นเคยที่อยู่ข้างหน้า “คนที่รับผิดชอบก็พามาแล้ว ฉันจะหลอกพี่ไปทำไมกัน”

จวงหว่านเลื่อมใสศรัทธาเธอมาก “ที่แท้ช่วงนี้ที่คุณหายตัวไปเพราะไปทำธุรกิจเสริมเหรอ แล้วจะพาฉันไปดูตอนไหนล่ะ ฉันไม่ได้ออกจากตงหยางนานแล้ว”

“ไม่มีปัญหา แต่ที่ผานหลิวซานไม่สวยงามเท่าเถาหยาง เป็นแค่ภูเขาว่างเปล่า รอให้อู๋เจิ้นมาแล้ว เดี๋ยวถ้าเขาว่างค่อยให้เขาไปสร้างพื้นที่สีเขียว”

จวงหว่านคาดหวังอยู่ในใจของเธอ “ที่นั่นไม่เหมือนบ้านพักคนที่มีน้ำมีเขาในยุคก่อนวันสิ้นโลกเหรอ สวรรค์ ไปที่นั้นเพียงระยะสั้นก็เหมือนไปพักผ่อน”

ซูเถารู้สึกขบขัน “พี่กำลังฝันกลางวันอยู่เหรอที่จะไปเที่ยวพักผ่อน ตื่นเถอะ ถ้ามีเวลาก็ประสานงานกับหม่าต้าเพ่าให้เยอะหน่อย เขาเป็นคนเปิดเผย การพูดคุยและการแสดงออกมีไหวพริบดีมาก พี่สามารถเรียนรู้จากเขาได้ แต่เขาไม่ได้ละเอียดเท่าพี่ และไม่ได้ทำงานแบบมีเหตุผล พี่ก็ช่วยสอนเขาหน่อยนะ”

จวงหว่านได้รับคําชมก็ตอบตกลงอย่างมีความสุข

อาหารค่ำคืนนี้ของหม่าต้าเพ่าเป็นเหมือนอาหารค่ำบนสรวงสวรรค์ เหมือนได้เหยียบบนเมฆ ไม่เพียงแต่อาหารสดและอร่อย แต่เพื่อนร่วมงานก็อบอุ่นและเป็นมิตร รู้สึกราวกับอยู่บ้าน

ถ้าไม่ใช่เพราะกระเพาะของเขาไม่ดี จนเขาอยากจะกินไปร้องไห้ไป เฉลิมฉลองให้เขาว่าไม่เพียงได้พบต้นไม้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่จะหยั่งรากด้วย

หลังจากซูเถาส่งเขากลับไปที่ภูเขาผานหลิว เธอก็กลับมาหาเฉียนหรงหรง และนำข้อมูลของพนักงานทุกคนที่ภูเขาผานหลิวให้แก่เธอ

“หรงหรง หลังจากนี้เรื่องเงินเดือนของเถาหยาง-ผานหลิวจะให้เธอเป็นคนจัดการนะ ต่อไปคนของเราก็อาจจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพิจารณาถึงงานที่เธอต้องทำแล้ว ฉันจึงอยากจะขึ้นเงินเดือนให้เธอจากแปดพันเป็นหนึ่งหมื่น”

เฉียนหรงหรงที่กําลังป้อนข้อมูลพนักงานอยู่ เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็เคาะมือบนแป้นพิมพ์แล้วส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“ไม่ ๆ ตอนนี้ยังไม่ต้องค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่ซูมาก แต่ยังไม่ต้องจริง ๆ ค่ะ”

จากนั้นก็หันไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเธอ “แม่…”

เฉียนหลินส่ายหัวให้ซูเถา “เถ้าแก่ ไม่ใช่ว่าเราไม่รับน้ำใจ แต่ตอนนี้มันยังไม่จําเป็นจริง ๆ รอให้งานของหรงหรงเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ค่อยขึ้นก็ยังไม่สาย”

เมื่อพูดขนาดนี้แล้ว ซูเถาจำใจต้องยอมแพ้ ลูบหัวหรงหรงและพูดด้วยรอยยิ้ม

“หรงหรงต่อไปจะเป็นแม่บ้านถุงเงินของเรา และยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเป็นธุระให้”

ในเวลาเดียวกันซูเถาก็ถอนหายใจ โชคดีที่ยังมีพวกเขาอยู่รอบตัวเธอ คอยเป็นธุระให้ในเรื่องต่าง ๆ ไม่อย่างนั้นให้เธอแบ่งตัวเองออกมาเป็นสิบคนก็คงไม่พอ

ความฝันสูงสุดของเธอ คือการทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ทุก ๆ วันได้พาแมวและสุนัขไปเดินเล่น ได้ดื่มชาและเก็บค่าเช่าไว้ใช้ยามเกษียณอายุ

เพียงแต่ว่ายังทําไม่ได้ และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ทําให้เธอต้องทำด้วยตัวเอง และเถาหยาง-ผานหลิวซานก็ยังไม่ได้สร้างออกมาจริง ๆ

……

วันรุ่งขึ้น ซูเถาได้รับค่าเช่าการต่ออายุจากเดือนก่อนของผู้เช่าทั้งหมดรวมแล้ว 540,000 เหลียนปัง

เธอค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับเงินจํานวนมหาศาลเช่นนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรก เธอนั่งนับยอดคงเหลือของเธอซ้ำ ๆ หลายครั้ง ถ้าไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ เงินทั้งหมดรวมแล้วมากกว่า 630,000 เหลียนปัง

เงินฝากในบัญชีเข้าใกล้ครบหนึ่งล้านแล้ว!

ในเวลาเดียวกันซูเถายังส่งรายงานห้องสิบเอ็ดห้องที่เพิ่งขยายใหม่เมื่อปลายเดือนที่แล้วให้จวงหว่าน และขอให้เธอจัดการเลือกผู้เช่ารายใหม่

จวงหว่านมีความสุขมากที่ได้รับห้องว่าง

“เถ้าแก่ ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในเดือนของฉันคือตอนที่คุณส่งรายงานข้อมูลห้องว่างให้ฉัน แบบนี้ฉันก็จะสามารถรับมือกับผู้เช่าที่มาหาฉันเพราะต้องการห้องพักได้แล้ว ช่วงหลายวันมานี้เงียบมาก อ่อ ใช่แล้ว เมื่อคืนวานมีคนคืนห้องเช่าด้วย”

ซูเถาแปลกใจ “คืนห้องเช่าเหรอ? มีอะไรที่เขาไม่ชอบรึเปล่า?”

นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้เช่าคืนห้องเช่า เพราะก่อนหน้านี้จะมีแต่ขาดแคลนห้อง เมื่อเข้าพักแล้วก็จะไม่ไปไหน

จวงหว่านถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ใช่ไม่พอใจเถาหยาง แต่เพราะตงหยางต้องเสียสละทหารจำนวนมากในการโจมตีซอมบี้ครั้งก่อน ภรรยาของถังชิงซูจึงตัดสินใจคืนห้องเช่าและเข้าร่วมกับกองทัพในตำแหน่งที่ว่าง เพราะเมื่อเข้าร่วมแล้วต้องอยู่ข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น จะเป็นการดีกว่าที่จะคืนสัญญาเช่าเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับคนอื่น นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูด”

คู่สามีภรรยาถังชิงซูเป็นคู่สามีภรรยาทหารที่แนะนําผู้อาวุโสเหม่ยให้มาเป็นนักวางแผน

ซูเถากังวลใจเล็กน้อย แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า

“บอกให้พวกเขาระวังตัวด้วย ถ้าพวกเขาต้องการอะไร สามารถมาที่เถาหยางได้ตลอด และหากต่อไปพวกเขาต้องการกลับมาใช้ชีวิตที่นี่ ก็ให้จัดห้องให้พวกเขาโดย เฉพาะ”

จวงหว่านพยักหน้า “ฉันจะบอกพวกเขาให้ นอกจากนี้เมื่อวานฉันได้คุยกับเซิ่งอวี๋หลันด้วย เธอบอกว่าเมื่อเรียนจบแล้วเธอยินดีมากที่จะมาเถาหยาง เพียงแต่เธอต้องได้รับคำสั่งการจากโรงเรียน ไม่อย่างนั้นเธอต้องไปเข้าร่วมกองทัพ เถ้าแก่หรือเราควรรอให้พลตรีสือกลับมา แล้วบอกเขาหน่อยไหม เขาน่าจะช่วยได้”

“เดี๋ยวฉันจะถามเขา เรื่องนี้พี่ไม่ต้องกังวล”

ซูเถายังต้องการให้เซิ่งอวี๋หลันมาอยู่ด้วย การสอนของเธอนั้นดีมาก หลินฟางจือได้พัฒนาความสามารถในการพูดของเขาอย่างมาก ประโยคยาว ๆ ที่มากกว่ายี่สิบคำก็สามารถพูดได้

แต่บางครั้งก็ยังไม่ชอบที่จะพูด และพูดกับเธอเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น

ซูเถาฝากข้อความถึงสือจื่อจิ้น และขอเซิ่งอวี๋หลันจากเขาอย่างไม่รู้สึกเกรงใจ

ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาอย่างร่าเริงภายในสามวินาทีว่า ‘ได้’

ซูเถาจึงโทรหาเขาทันที “ถึงฉางจิงแล้วใช่มั้ย”

เสียงของสือจื่อจิ้นฟังดูผ่อนคลายมาก “ผมมาถึงเมื่อเช้า นักวิจัยของฉางจิงเพิ่งเอาตัว ‘โบนวิงส์’ ไป ภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

ซูเถาเหมือนยกภูเขาออกจากอก “ในที่สุดก็ส่งไปได้แล้ว แล้วเมื่อไหร่คุณจะกลับมา”

“คืนนี้ผมจะออกเดินทางเลย แต่ผมยังต้องเก็บวัสดุก่อสร้างระหว่างทาง เพราะงั้นอีกครึ่งเดือนน่าจะถึงตงหยาง”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *