ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 315 กิจการรุ่งเรือง

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 315 กิจการรุ่งเรือง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 315 กิจการรุ่งเรือง

ตอนที่ 315 กิจการรุ่งเรือง

แต่หลิงเทียนจี้ได้หยุดเขาเอาไว้ “คิดจะทำอะไร?! คุณยังอยากจะไปถามเธออีกเหรอ? คิดจะสร้างความวุ่นวายอีกแล้วเหรอ?! ช่วยดูด้วยว่าที่นี่ที่ไหน ที่นี่คือซินตู! หากคุณต้องการเข้าร่วมในงานนี้ ก็อยู่ที่นี่อย่างสงบเสงียม แล้วถ้าคุณจะไม่อยู่เฉยก็ให้เก็บข้าวเก็บของแล้วออกไปจากที่นี่ได้เลย!”

แม้ว่าใบหน้าของคนจากติ้งหนานจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่พวกเขาก็ยอมสงบลง

สามีของเจียวชิ่งก็หยุดอยู่กับที่เช่นกัน

ชื่อเสียงของติ้งหนานจะยิ่งแย่ลงหากเขาถูกไล่ออกจากงานแสดงสินค้าในเวลานี้

หลิงเทียนจี้จากไปด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็ขอให้จั๋วเอ่อร์เฉิงค้นหาผู้กระทำความผิดของเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และลงโทษคนคนนั้นขั้นร้ายแรงที่สุดเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้อื่น ไม่เช่นนั้นทุกคนที่มาประชุมก็จะกล้าก่อความวุ่นวายในฐานซินตู!

ดวงตาของจั๋วเอ่อร์เฉิงสั่นไหว

ผู้ร้าย…

เวลาสิบโมงเช้า งานแสดงสินค้าเปิดอย่างเป็นทางการ และชาวซินตูที่รอเวลานี้มานานก็เข้าแถวยาวที่ประตู

ผู้คนในซินตูกระตือรือร้นในงานแสดงสินค้าประจำปีเป็นอย่างมาก เพราะสินค้าหายากจากฐานต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้ที่งานนี้ แม้ว่าพวกเขาจะแค่มาร่วมสนุกและไม่ได้ซื้อของ พวกเขาก็ยังอยากที่จะมาดูมัน

มีครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกสามคนเดินทางมาที่นี่ ฝ่ายหญิงจูงลูกชายของเธอไว้ในมือข้างหนึ่งและกำลังคุยโทรศัพท์เพื่อสื่อสารกับใครบางคนด้วยมืออีกข้างหนึ่ง น้ำเสียงของเธอไม่ค่อยดีนัก

“ฉันได้เห็นรูปถ่ายของโรงเรียนตงหยางแล้ว ดูดีทีเดียว เธออยากให้รุ่ยลี่เรียนที่ตงหยางฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่การที่เธอมาคะยั้นคะยอให้ฉันพาลูกไปเรียนที่นั่นด้วยกัน ฉันว่ามันค่อนข้างที่จะ…” มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นน้องสาวของเธอที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ หายใจเข้าออกก็เป็นตงหยาง แต่เธอก็เป็นน้องสาว ดังนั้นตนจึงไม่สามารถพูดอะไรรุนแรงเกินไปได้ จึงพยายามอดกลั้นเอาไว้

“พี่! ฉันพูดจริงนะ! เพียงแค่ตอนนี้โรงเรียนยังทำการปรับปรุงก่อสร้างไม่เสร็จ แต่พี่ควรสมัครเข้าอาศัยในเถาหยางเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ลูกของพี่สามารถลงทะเบียนเรียนได้โดยเร็วที่สุด แม้ว่าซินตูจะเจริญรุ่งเรืองกว่าในทุกด้าน แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยเหมือนเถาหยาง และมาตรฐานการครองชีพในเถาหยางก็ไม่แย่ไปกว่าซินตู เผลอ ๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ”

ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ เธอก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที

ลูกชายเงยหน้าถามอย่างหยิ่งยโสเล็กน้อย “น้าเหรอครับ?”

ฝ่ายคนเป็นแม่พยักหน้า พลางขมวดคิ้วมุ่น พร้อมกับแสดงความไม่พอใจบนใบหน้า “ครอบครัวน้าสาวลูกกำลังมีปัญหา โทรมาหาแม่ก็เอาแต่พูดถึงเรื่องเถาหยาง แม่ชักสงสัยว่าเถาหยางเป็นองค์กรลัทธิที่เชี่ยวชาญในการล้างสมองหรือเปล่า…”

ลูกชายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “หลี่รุ่ยลี่ก็โทรหาผมเหมือนกัน และบอกว่าเธอมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อสือจื่อเยว่ซึ่งสนิทสนมกับเถ้าแก่ของเถาหยาง ได้ยินมาว่าเถ้าแก่อายุมากกว่าผมไม่กี่ปี และเธอมีความสามารถมาก!”

เมื่อฝ่ายคนเป็นแม่ได้ยินดังนั้นก็หัวแทบระเบิด เถ้าแก่อายุสิบกว่าเองเหรอ?

ไม่ว่าหลี่รุ่ยลี่จะโกหกหรือโอ้อวด แต่ดูเหมือนเถาหยางจะร้ายกาจกว่าที่เธอคิด จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า

“เทาเทา แม้ว่ารุ่ยลี่จะเป็นลูกพี่ลูกน้องของลูก และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกตั้งแต่ยังเด็ก แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนหัวใส ลูกควรจะติดต่อเธอให้น้อยลง อย่าปล่อยให้เธอชักนำลูกให้หลงทาง”

เทาเทาเชิดหน้าขึ้น “ผมเห็นสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องตลก เธอยังบอกด้วยว่าพวกเขาสามารถซื้อข้าวกล่องที่มีทั้งเนื้อสัตว์และผักได้ที่ชั้นล่างของโรงเรียน ราคาแพงที่สุดเพียง 60 เหลียนปัง มันจะเป็นไปได้ยังไง เราไม่มี เถาหยางจะมีตู้ขายของอัตโนมัติแบบนั้นได้ยังไง และถึงมีก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายมันในราคาถูก นี่มันไม่ใช่การกุศลนะที่พ่อค้าแม่ขายจะมาขายของราคาย่อมเยาว์แบบนั้น”

คนเป็นแม่รู้สึกวางใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และรู้สึกโล่งใจมากขึ้น เพราะคิดว่าลูกชายของเธอฉลาดเป็นกรด

เธอตบไหล่ลูกชายเบา ๆ “เอาล่ะ แม่เชื่อในตัวลูก เรากำลังจะไปงานแสดงสินค้ากัน ข้างในมีคนมากมาย ต้องติดตามพ่อกับแม่เอาไว้นะ”

ด้วยคลื่นของฝูงชน ในที่สุดทั้งครอบครัวก็ผ่านจุดตรวจและเข้าสู่ชั้นการค้า

ทันทีที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาทั้งสามคนเห็นผู้คนหลั่งไหลไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

คนเป็นแม่ต้องการเดินไล่ไปทีละร้าน แต่ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็น เธอก็ได้หยุดคนที่เดินผ่านไปมาและถามว่า “ทำไมทุกคนถึงมุ่งหน้าไปทางนั้นเหรอ”

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารีบพูดว่า “อย่ามัวเสียเวลาไปดูร้านอื่นเลย ร้านค้าก็เหมือน ๆ กับปีก่อน ๆ นั่นแหละ ไม่น่าสนใจเลย งานแสดงสินค้าปีนี้มีร้านใหม่ชื่อเถาหยาง ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาขายหลายอย่างเช่น ผลไม้สดและเครื่องดื่มเย็น ๆ ข้าวกล่อง อาหารปรุงสำเร็จ เอ้า ไปดูเดี๋ยวก็รู้ รีบไปต่อคิว ของมีจำนวนจำกัดนะ!”

ผู้สัญจรผ่านไปมารีบกรูไปทางนั้น

หญิงสาวจึงรีบหันศีรษะไปทางสามี “เขาพูดว่าอะไรใหม่นะ? มันชื่อว่าอะไรนะ”

สามีของเธอดูสับสนเช่นกัน และพูดอย่างไม่แน่ใจ “เถาหยางหรือเปล่า?”

เธอทำหน้าตาสงสัยและมองไปที่ลูกชายอีกครั้ง “ผมก็ได้ยินว่าเถาหยางเหมือนกัน” เทาเทาเกาหัว

“ให้ตายเถอะ เราคงเคยได้ยินน้องสาวของฉันพูดถึงเถาหยางเมื่อไม่นานนี้ หูก็เลยหลอนไปด้วย”

“ไปดูสิ อาจเป็นที่เดียวกันก็ได้” สามีคะยั้นคะยอผู้เป็นภรรยา

ทั้งสามคนเดินตามฝูงชนไปและพบว่าแถวยาวมากจนมองไม่เห็นว่าร้านของเถาหยางเป็นอย่างไร

“อะไรมันจะขนาดนี้” ฝ่ายภรรยาสบถออกมา

ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงเทาเทาตะโกนขึ้น “แม่! แม่! ดูข้าวกล่องที่พวกเขาถืออยู่สิ!”

ทั้งคู่เบนสายตาตามนิ้วของลูกชาย และเห็นว่าผู้คนที่เดินออกมาจากร้านของเถาหยาง มือข้างหนึ่งถือห่อของขนาดใหญ่ และกล่องข้าวที่เรียงซ้อนกันอีกสามกล่อง

เสียงของเทาเทาเปลี่ยนไป “ข้าวกล่องนั้นเหมือนรูปที่หลี่รุ่ยลี่ส่งให้ผมเป๊ะ!”

ผู้เป็นแม่รีบเอื้อมมือไปหยุดคนที่นำข้าวกล่องออกมาและกำลังจะเดินผ่านไป “ขอโทษนะคะ…ขอดูหน่อยได้ไหมคะว่านี่คือกล่องอะไร

ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาแสดงให้พวกเขาเห็นอย่างไม่เห็นแก่ตัว

“ไก่นึ่งเห็ดหอม เนื้อวัวผัดผักรวม หมูผัดถั่วแขก…”

เทาเทาถึงกับตกตะลึง “สิ่งที่หลี่รุ่ยลี่พูดเป็นความจริง…”

ทั้งคู่ยังตกตะลึง

……

ธุรกิจร้านสะดวกซื้อดีเกินคาด ดีเสียจนสินค้าที่อยู่บนชั้นวางในตอนเช้าขายหมดก่อนบ่ายสามโมง

ข้างนอกประตูยังมีคิวยาวเหยียด

ผู้คนที่เข้าแถวตลอดทั้งบ่ายได้ยินว่าขายหมดแล้ว พวกเขาก็อารมณ์เสียมาก ในที่สุดหม่าต้าเพ่าก็ต้องออกไปก้มหน้าขอโทษและปลอบใจโดยบอกว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปอีกสองวัน จากนั้นเขาก็พยายามอธิบายให้กับลูกค้าที่อยู่ข้างหลังให้เข้าใจโดยทั่วกัน

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากปิดร้าน เฉียนหรงหรงได้คำนวณมูลค่าการซื้อขายออกมาซึ่งสูงถึง 4.8 ล้านเหลียนปัง นอกจากนี้ ลูกค้าที่ร่ำรวยหลายคนจ่ายค่าสมาชิกทันทีหลังจากรู้ว่าพวกเขาสามารถสั่งซื้อเสบียงบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้

นอกจากนี้ยังเก็บเกี่ยวผลึกนิวเคลียสได้ถึง 36 ชิ้น

หม่าต้าเพ่ามองไปที่สมุดบัญชีและเลียริมฝีปาก “ดูราคาของเถาหยางและภูเขาผานหลิวตอนนี้สิเถ้าแก่ คุณช่างมีจิตใจเมตตาจริง ๆ”

ทุกคนพยักหน้า

ในความเป็นจริงหากเถ้าแก่ต้องการทำเงินอย่างรวดเร็ว เธอสามารถเพิ่มราคาและค่าเช่าในเถาหยางได้ เพราะมีคนที่พร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว

แต่หากทำเช่นนั้น ก็เหมือนกับว่าเถ้าแก่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ได้ต้องการสร้างเถาหยางให้ดี เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสงบสุขและพึงพอใจ

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ทุกคนรวมตัวกันเพื่อนั่งตากแอร์กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

หัวหน้าสวี่เดินเข้าไปในร้านและเห็นชั้นวางว่างเปล่า พร้อมกับกลุ่มผู้คนที่กำลังพักรับประทานอาหาร เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “กิจการรุ่งเรืองทีเดียว”

ซูเถาวางบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลงและทักทายเขา “หัวหน้าสวี่ คุณกินข้าวหรือยัง มากินด้วยกันสิคะ”

หม่าต้าเพ่าขยิบตา และลากเก้าอี้มาเพิ่มทันที พร้อมกับหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาแล้วรีบนำไปต้ม

สวี่ฉางเองก็ไม่เกรงใจและนั่งลงกับทุกคน เขาวางเครื่องสื่อสารไว้ที่ขอบโต๊ะ และพูดคุยกับซูเถาในขณะที่รอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ซูเถาเพียงปรายตาไปมองอย่างไม่ได้ตั้งใจและทันใดนั้นก็พบว่าภาพหน้าจอเครื่องมือสื่อสารของหัวหน้าสวี่ เป็นรูปวาดที่ถูกขีดเขียนขึ้นมาอย่างหวัด ๆ

จากที่เห็นอย่างไม่ชัดเจน ก็มีรูปกระต่าย หมวกสีแดง ไพ่…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด