ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 20 ผู้ช่วย (รีไรท์)

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 20 ผู้ช่วย (รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 20 ผู้ช่วย (รีไรท์)

ตอนที่ 20 ผู้ช่วย (รีไรท์)

ห้องน้ำสองห้องเชื่อมต่อกันเป็นห้องขนาดใหญ่และมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ภายในห้อง ซูเถาสัมผัสอุณหภูมิของน้ำ เป็นอุณหภูมิที่กำลังพอดี หลังจากการบูรณะใหม่ทั้งหมด ใช้เงินไปทั้งหมด 12,000 เหลียนปัง

น้ำพุร้อนอย่างเดียวมีราคาถึง 5,000 เหลียนปัง มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจมากเท่าไหร่ หลังจากที่เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาสักพัก ซูเถาก็รู้สึกง่วงขึ้นมา หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อชำระร่างกาย หลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็ทิ้งตัวลงเตียงนอนขนาดใหญ่ ไม่นานก็ผล็อยหลับไป

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ซูเถานอนหลับสบายที่สุด กว่าเธอจะตื่นขึ้นมาก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว เธอจึงพลาดอาหารเช้าไป

ผู้เช่าส่วนใหญ่ออกไปทำงานแล้วและยังมีอาศัยอยู่ในห้องบ้างประปราย แต่ไม่มีใครอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง เครื่องจำหน่ายอาหารเช้านี้ว่างเปล่าทุกเครื่อง ซูเถาเลยจำต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่

แต่เพียงเพราะอาศัยเครื่องจำหน่ายอาหารทั้งสี่เครื่องนี้ ซูเถามีกำไรสุทธิจากการขายอาหารกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งพันถึงสองพันเหลียนปัง ยอดขายดีเป็นพิเศษ

หาได้ยากที่ซูเถาจะมีวันที่ได้พักผ่อนแบบสบาย ๆ หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ เธอเตรียมจะไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่เพิ่งซื้อมา แต่ว่าจวงหว่านก็มาหาเธอถึงหน้าประตู

เธอขออยู่ในโลกส่วนตัวอย่างมีความสุขบ้างไม่ได้เหรอ…

“เถ้าแก่ซู ฉันวางใจไม่ได้จริง ๆ เลยมาลองดู คุณคงไม่หาว่าฉันน่ารำคาญใช่ไหม”

ซูเถาจะพูดได้อย่างไรว่าเธอรำคาญ แต่ก็ยังปั้นหน้าเอ่ยอย่างสุภาพ “ไม่หรอกค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

เธอคิดว่าจะแจ้งให้จวงหว่านทราบถึงเรื่องห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นในอีกไม่กี่วัน เพราะเธอวางแผนที่จะเปิดห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นเป็นจำนวนสามห้องและเปิดให้เช่าพร้อม ๆ กัน เธอจะได้จัดการบันทึกได้สะดวกยิ่งขึ้น

“ไม่มี ๆ ฉันแค่อยากอยู่ที่นี่มาก ฉันก็เลยเข้ามาดูเรื่อย ๆ แค่ได้เห็นก็สบายใจ”

ซูเถาอยากจะเอามือก่ายหน้าผากจริง ๆ และถามว่า “พี่ว่างงานหรือเปล่า”

จวงหว่านส่ายหัว “ลูกยังเล็ก ฉันออกไปทำงานไม่ได้”

คิดจะมาอยู่ฟรีสินะ

ซูเถาไม่มีทางเลือก “แล้วพี่เคยเรียนหนังสือไหมคะ?”

จวงหว่านพยักหน้า “เคย ฉันเคยเข้าเรียนมัธยมปลายได้หนึ่งปีก่อนวันสิ้นโลก ผลการเรียนของฉันก็ไม่ได้แย่นะ ถ้าวันสิ้นโลกไม่เกิดขึ้น ฉันอาจเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้ ฉันสงสารพ่อแม่ที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูฉันและน้องชาย”

พูดไปพูดมาก็เริ่มร้องไห้งอแงมีเหมือนเด็ก ๆ อีกครั้ง

ซูเถารีบห้ามอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว “เอาแบบนี้แล้วกัน วันนี้พี่กลับไปก่อน แล้ววันพรุ่งนี้พี่มาทำงานเป็นผู้ช่วยของฉัน งานไม่ได้ยาก พี่แค่ช่วยฉันในเรื่องการบันทึกและการกรอกแบบฟอร์ม พาผู้เช่ารายใหม่ไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ประมาณนี้ แล้วฉันจะให้เงินเดือนที่สมเหตุสมผลแก่พี่ น่าจะเพียงพอสำหรับค่าครองชีพของพี่และลูกทั้งสองคน”

จวงหว่านรู้สึกประหลาดใจ และเอ่ยถามอย่างสงสัย “ฉันทำได้เหรอ?”

เธอสามารถทำงานหาเงินได้เหรอ?

ตั้งแต่วันสิ้นโลก เธอก็พึ่งพาพ่อแม่มาตลอดและหลังจากที่พ่อแม่จากไปเธอก็พึ่งพาสามีของเธอและเมื่อสามีทิ้งเธอไป เธอก็ต้องพึ่งพาอาศัยน้องชาย

แต่ครั้งนี้น้องชายของเธอก็จากไปเช่นกัน ทิ้งให้เธอเผชิญกับชีวิตต่อไปท่ามกลางความงุนงงและตื่นตระหนก

มันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว

เธอพึ่งพาคนอื่นจนเป็นนิสัย และไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะสามารถพึ่งพาตนเองได้

ซูเถารู้สึกงุนงง “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลายคนในยุควันสิ้นโลกไม่มีประสบการณ์เช่นนี้ด้วยซ้ำไป”

จวงหว่านตกตะลึง ไม่เคยมีใครมั่นใจในตัวเธอมาก่อน ไม่เคยมีใครคิดว่าเธอมีค่าและไม่ใช่ภาระ

“อย่าบอกนะว่าพี่ลืมสิ่งที่เรียนมาหมดแล้ว ตัวหนังสือนี่ลืมจนหมดสิ้นแล้วเหรอ?”

จวงหว่านรีบส่ายหัว “ไม่ ๆ ฉันยังจำได้ ฉันชอบอ่านหนังสือ ช่วงที่ฉันไม่มีอะไรทำฉันก็หาหนังสือมานั่งอ่านเล่น ฉันยังมีหนังสือเรียนและนิยายเหลืออยู่จำนวนหนึ่งตั้งแต่ก่อนวันสิ้นโลก แล้วฉันก็สอนลูก ๆ ทั้งสองคนของฉันด้วย งานที่คุณว่าฉันทำได้หมด”

ซูเถาค่อนข้างประหลาดใจ “ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย”

ดวงตาของจวงหว่านเริ่มแดงก่ำอีกครั้งง “ฉันแค่ไม่คาดฝันว่าจะทำงานได้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ขอบคุณเถ้าแก่ซู ฉันจะทำมันให้ดี”

ซูเถาตอบรับสองสามคำด้วยความโล่งใจแล้วจึงส่งเธอออกไป

ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอจะได้เพลิดเพลินไปกับการแช่บ่อน้ำพุร้อนได้แล้ว

หลังจากพักผ่อนมาพอสมควรแล้ว ซูเถาก็สร้างห้องอีกสองห้อง เป็นห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น อย่างไรก็ตามเป็นไปตามที่คาดไว้ สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น จะต้องใช้เงิน 12,000 เหลียนปังในการขยับขยาย

ขยายทั้งหมดสองห้อง ราคาตกอยู่ที่ 24,000 เหลียนปัง ราคานี้มันทำให้ซูเถาแทบกระอักเลือด เงินฝากของเธอลดเหลือ 8,500 เหลียนปังทันที

ซูเถาเอามือทาบที่หน้าอกอย่างเจ็บปวด ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไว้ค่อยเอาคืนวันหลังได้

ผู้เช่าห้องแบบ 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่นที่เพิ่งเปิดใหม่สองห้องนี้เหมาะสำหรับคู่รักหรือคู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตร

มีห้องนอนใหญ่เพียงห้องเดียวในห้อง ซึ่งเหมาะสำหรับสองคนเท่านั้น

ไม่มีพวกห้องครัวหรือเตาในการทำอาหาร

แต่ซูเถาใช้ความพยายามอย่างมากในการตกแต่ง โทนสีโดยรวมส่วนใหญ่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ้าม่านและพรมสีน้ำตาลทอง โซฟาผ้าสีเหลืองอ่อน ชั้นวางของและตู้เสื้อผ้าเป็นไม้เนื้อแข็ง

ระเบียงมีราวตากผ้าและเครื่องซักผ้า

ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งห้องอยู่ที่ 6,800 เหลียนปังเท่านั้น และระบบกำหนดว่าค่าเช่ารายไตรมาสคือ 58,000 เหลียนปัง

หลังจากตกแต่งห้องหนึ่งแล้ว ซูเถามีเงินเหลือน้อยกว่า 2,000 เหลียนปัง เธอไม่มีเงินเพียงพอที่จะแต่งอีกห้องหนึ่ง ต้องระงับงานปรับปรุงไว้จนกว่าค่าเช่าเดือนแรกของผู้เช่าใหม่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นก่อนที่ซูเถาจะตื่น จวงหว่านก็มาถึงประตู และวันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

“ฉันมาถึงเร็วเกินไป ต้องขอโทษด้วยนะ คุณกลับไปพักผ่อนต่อก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรอคุณที่ห้องนั่งเล่น”

ซูเถาหาวและโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ เอกสารเหล่านี้สำหรับพี่ นี่คือรายชื่อผู้เช่าทั้งหมดที่จะมาวันนี้ เมื่อพวกเขามาถึงฉันจะพาพี่ไปทำความคุ้นเคยกับกระบวนการก่อน แล้วพี่ค่อยดูแลในผู้เช่าชุดถัดไป”

จวงหว่านค่อนข้างคาดหวังและแอบวิตกกังวลเล็กน้อย เธออ่านข้อมูลและจำมันฝังไว้แน่นในหัว

ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน ผู้เช่าเก้าคนมาถึงประตูเขตเถาหยางทีละคน ซูเถาพาจวงหว่านไปลงทะเบียนผู้เช่า จากนั้นเรียนรู้ข้อตกลงการเช่าและข้อควรระวังอื่น ๆ สุดท้ายก็คือการเยี่ยมชมและแนะนำเถาหยางทั้งหมด

จวงหว่านจดบันทึกอย่างระมัดระวังตลอดทางและตั้งคำถามกับผู้เช่าเป็นระยะ ๆ ความขี้ขลาดที่เธอเคยมีนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง

แต่จู่ ๆ ซูเถาก็สังเกตเห็นว่ามีผู้เช่าชายคนหนึ่งกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลก ๆ ตั้งแต่มาถึงประตู เขาอ้าปากหลายครั้งราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

ตามข้อมูล ผู้เช่าคนนี้ชื่อเซี่ยงปินเป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบหรือห้าสิบ สวมแว่นตา ถือกระเป๋าเอกสารและลากกระเป๋าเดินทาง นอกจากดวงตาที่งงงวยแล้วพฤติกรรมของเขาค่อนข้างสุภาพ

“คุณเซี่ยง มีคำถามอะไรไหมคะ” ซูเถาถาม

เซี่ยงปินลังเลอยู่นานก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“ขอโทษนะ ซูเจี้ยนหมิงเป็นพ่อของคุณหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันขอโทษล่วงหน้า คุณคล้ายกับลูกสาวของเพื่อนผมจริง ๆ”

ซูเถาฝืนยิ้มอย่างสุภาพ “ไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็นเด็กกำพร้า”

เซี่ยงปินขอโทษอย่างรวดเร็ว “ผมขอโทษด้วยนะเถ้าแก่ซู”

ก็จริง ถ้าเป็นลูกสาวคนเล็กของซูเจี้ยนหมิง ทำไมเขาถึงต้องกังวลว่าถ้าลูกชายคนโตของเขาแต่งงานแล้วจะไม่มีที่อยู่? แต่นอกเหนือจากบุคลิกของเธอแล้ว รูปร่างหน้าตาของเถ้าแก่ซูยังคล้ายคลึงกับลูกสาวของซูเจี้ยนหมิงมาก ไว้กลับไปค่อยถามเหล่าซูแล้วกัน

ตัดภาพไปอย่างรวดเร็ว หลังจากจ่ายค่าเช่าเดือนแรก พวกเขาก็จัดบ้านใหม่อย่างมีความสุข

ซูเถาได้รับค่าเช่า 70,000 เหลียนปังและสถานการณ์ทางการเงินก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *