ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 119 เถ้าแก่ซูมีพันธมิตรมากมาย

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 119 เถ้าแก่ซูมีพันธมิตรมากมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 119 เถ้าแก่ซูมีพันธมิตรมากมาย

ตอนที่ 119 เถ้าแก่ซูมีพันธมิตรมากมาย

คุณบอกว่าคุณไม่เป็นอะไร สบายดีมาก แต่ผมไม่อยากจะเชื่อ

ก็เลยต้องมาดูด้วยตาตัวเอง

ทันใดนั้นซูเถาก็ถูกเขาสวมกอด ทำให้ได้กลิ่นเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของเขา

“คุณได้รับบาดเจ็บเหรอ?”

เธอก็ได้สติขึ้นจากบรรยากาศที่น่าหลงใหล เธอปลดกระดุมเสื้อของเขาออกเพื่อหาร่องรอยการบาดเจ็บ

สือจื่อจิ้นรีบคว้ามือของเธอเอาไว้พลางถาม “…ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เป็นอะไรจริงๆสินะ”

“คุณเจ็บตรงไหน ทำไมกลิ่นเลือดแรงจัง?” ซูเถากังวลเล็กน้อย

ในขณะที่เธอพูด สายตาก็เอาแต่สำรวจในจุดต่าง ๆ บนร่างกายของเขา

สือจื่อจิ้นฟื้นคืนสติกลับมา สองมือขนาดใหญ่ของเขาประคองใบหน้าและศีรษะของอีกฝ่ายจับเธอเอนตัวลงนอนบนเตียงผู้ป่วยภายในห้องพัก

“ไม่ต้องลุกขึ้น พักผ่อนให้สบายเถอะ ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน นี่เป็นเลือดของคนอื่นทั้งนั้น”

เมื่อครู่ที่โทรคุยกัน พวกเขาเพิ่งเสร็จจากการต่อสู้ที่นองเลือด

ซูเถาโล่งใจและกำลังคิดจะถามว่าที่เขากลับมาแบบนี้ แล้วทีมที่อยู่ฝั่งนั้นจะทำยังไงแต่เธอยังไม่ทันได้ถามออกไป ประตูห้องก็ถูกเปิดออก โดยมีเผยตงยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นสือจื่อจิ้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

“คุณกลับมาได้ยังไง?”

สือจื่อจิ้นไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องทันควัน

“รองเผย รีบจับตัวเขาโดยเร็วที่สุด และขังเขาไว้รอจนกว่าผมจะกลับมาจัดการ”

เผยตงขมวดคิ้ว “คุณไม่ต้องกังวล เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ แต่ว่าระยะทางไกลขนาดนี้ความสามารถของโจวไห่และโจวหยางน่าจะถูกใช้ไปมาก และพวกเขาไม่สามารถฟื้นฟูพลังได้ในระยะเวลาอันสั้น หากมีเรื่องอันตรายอะไรเกิดขึ้น คุณจะรับประกันความปลอดภัยของทีมได้ยังไง? พลตรีสือคุณหุนหันพลันแล่นไปหน่อยนะ”

ซูเถาอ้าปากค้าง เธอไม่ได้คิดถึงมุมนี้เลย ความรู้สึกผิดและความซาบซึ้งขึ้นถึงจุดสูงสุดในเวลาเดียวกัน

สือจื่อจิ้นขมวดคิ้วอย่างจริงจัง “ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น ผมจะรับผิดชอบเอง คุณกังวลเรื่องทางนี้เถอะ”

เห็นได้ชัดว่าเผยตงไม่พอใจ ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไร

ซูเถาดึงแขนเสื้อของสือจื่อจิ้น “ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วง แต่คราวหน้าไม่ต้องทำแบบนี้นะ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับทีมของคุณ ฉันคงรู้สึกผิดมาก และฉันก็ไม่ต้องการให้คุณต้องมารับผิดชอบ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นอะไรไป หัวใจของฉันก็คงแตกสลาย”

สือจื่อจิ้นลูบไปที่หน้าผากของซูเถาเบา ๆ “วางใจเถอะ ผมมีขีดจำกัดของผมอยู่ คุณเองก็ต้องระวังด้วยนะ ตอนนี้แม้กระทั่งในเขตของคุณเอง คุณก็จะประมาทไม่ได้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูเถาก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง

ครั้งนี้มันฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่ แม่บ้านอัจฉริยะไม่สามารถสแกนหาวัตุระเบิดได้ คนพวกนี้มันทิ้งศพไว้แล้วหนีออกไป ไม่ได้ทำการโจมตีหรือทำลายกำแพงเถาหยาง

“แต่คุณไม่ต้องกังวลเกินไป เขาน่าจะถูกจับได้เร็ว ๆ นี้ และเผยตงก็จะส่งคนไปลาดตระเวนบริเวณรอบ ๆ เถาหยางด้วย”

ซูเถารู้สึกโล่งใจมาก แล้วถามว่า “แล้วคุณจะต้องกลับไปอีกไหม?”

“อื้ม ต้องไป พรุ่งนี้เช้าผมจะกลับไป”

เผยตงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้โจวไห่และโจวหยาง อาจไม่สามารถใช้พลังนำพานี้ได้อีกอย่างน้อยครึ่งเดือน

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่สือจื่อจิ้นจะไม่กลับไป เพราะว่าเขาเป็นเสาหลักของทีม

เผยตงถอนหายใจ ก่อนจะมองไปที่ซูเถาและลดเสียงลง

“ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”

ซูเถาส่ายหัว “ปวดหัวบ้างเป็นบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วไม่มีปัญหา ทุกอย่างปกติดี”

เผยตงพยักหน้า “ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะบอกว่า เมื่อเช้ามีทีมทหารรับจ้างที่ชื่อเป้าถู กัปตันของพวกเขาบอกว่าเธอเป็นนายจ้างของพวกเขา และมีชายคนหนึ่งชื่ออู๋เจิ้นอยู่ในรถของพวกเขาด้วย”

ซูเถาแสดงท่าทีดีใจ “ใช่แล้ว ฉันเป็นคนจ้างพวกเขา และภรรยากับลูกชายของอู๋เจิ้นล่ะ?”

เผยตงส่ายหัว “เธอลองดูที่เครื่องมือสื่อสารของเธอเองแล้วกัน”

จวงหว่านคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงส่งเครื่องมือสื่อสารให้ซูเถา

“มีสายเรียกเข้าเป็นจำนวนมาก ฉันไม่กล้ารับสายแทนคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ฉันฝากข้อความเอาไว้ว่าคุณยังไม่ว่าง ให้เขาติดต่อมาใหม่ในช่วงบ่าย”

เมื่อซูเถาเปิดดู เธอก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับเป็นจำนวนมาก ส่วนมากเป็นสายเรียกเข้าของเหลยสิง และที่เหลือก็จะเป็นสายเรียกเข้าของกู้หมิงฉือ

สือจื่อจิ้นมองไปที่มันและพูดอย่างเงียบ ๆ “เถ้าแก่ซูช่างมีพันธมิตรมากมาย”

ซูเถามีความรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูก และยิ้มอย่างเคอะเขิน “แหะ ๆ เรื่องงานน่ะ ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว”

สือจื่อจิ้นเลิกคิ้ว “งั้นโทรกลับสิ”

ซูเถาโทรกลับไปหาเหลยสิงก่อน

รอสายไม่กี่วินาที “อะไรกันเถ้าแก่ซู คุณลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้เรามีนัดกันที่ตงหยาง? ผมเกือบคิดแล้วนะว่าคุณไม่อยากให้ของขวัญกับผม คิดจะใช้งานผมฟรี ๆ เหรอ”

เมื่อสือจื่อจิ้นได้ยินสิ่งนี้ เขาก็มองไปที่ซูเถา ดวงตาของเขาแสดงคำถามออกมา มีการให้ของขวัญกันด้วย?

ซูเถารู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง รีบอธิบายให้เขาฟังด้วยเสียงเบา

“เขาก็พูดไปเรื่อย แค่ค่าจ้างน่ะ อย่าคิดมาก ก็ทำงานด้วยกันถือว่าเป็นหุ้นส่วนหรือพันธมิตร ไม่ใช่เป็นการมอบของขวัญอะไรหรอก”

สือจื่อจิ้นมีท่าทีจริงจัง “ผมไม่ได้คิดมาก ไม่จำเป็นต้องอธิบาย”

ซูเถาอยากจะสวนกลับว่าก็สายตาของเขามันฟ้องซะขนาดนั้น!

เหลยสิงไม่ได้ยินเสียงจากอีกฝ่ายเป็นเวลานาน จึงตะโกนเรียก “เถ้าแก่ซู”

“ว่ายังไง”

ซูเถาไม่ได้พูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของเธอ แต่บอกไปว่าเธอมีงานรัดตัว ให้เขาพักอยู่ที่บ้านรับรองตงหยางก่อนหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาที่เถาหยาง

เหลยสิงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก “งั้นเอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมค่อยไปพบเถ้าแก่ซู แต่เพื่อนแซ่อู๋ของคุณมีอารมณ์ที่ไม่คงที่นัก ผมเกรงว่าเขาจะอดทนกับความสูญเสียไม่ไหว เขาสูญเสียลูกและภรรยาไป เขาคิดแต่จะฆ่าตัวตาย ดังนั้นคุณควรส่งคนมารับเขาและดูแลอย่างเข้มงวด แน่นอนว่าคุณสามารถให้ผมช่วยดูแลเขาได้ แต่ว่าคุณก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม”

ซูเถาถาม “ภรรยาและลูกของเขา ไม่รอดเหรอ?”

เหลยสิงทำเหมือนว่าเขาเสียใจที่ต้องมีคนตาย แต่น้ำเสียงของเขาก็เหมือนไม่ได้มีความใส่ใจเท่าไหร่

“เพิ่งจากไปเมื่อวาน หลายวันก่อนแผลติดเชื้อและมีไข้สูง ระหว่างทางเราหาหมอรักษาไม่ได้ นี่คือสิ่งที่พวกเราทำไม่ได้ ผมคิดว่าเขาน่าจะเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ ในคืนวันนั้นเขาจะคิดสั้นกระโดดลงจากรถเพื่อฆ่าตัวตาย”

“ผมน่ะมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ผมปล่อยให้เป้าหมายของภารกิจตายไม่ได้ ผมก็เลยจับเขามัดเอาไว้ ตอนนี้เขาอยู่ในรถ ผมปิดปากเขาเอาไว้ พอเข้าไปในเมือง พวกกองกำลังปกป้องเมืองก็เลยคิดว่าผมเป็นพวกลักพาตัว”

ซูเถาเริ่มปวดหัว เธอจึงบอกว่า “ตอนเย็นฉันจะส่งคนไปรับเขา”

หลังจากวางสายแล้ว ซูเถาก็รายงานสถานการณ์ให้ผู้อาวุโสเหม่ยทราบ

ผู้อาวุโสเหม่ยผงะไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ “นี่คือสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา คืนนี้ให้เสี่ยวเจิ้นไปนอนที่ห้องของฉัน ฉันจะได้พูดคุยกับเขา”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ รบกวนด้วยค่ะ”

เขาเพิ่งจะผ่านการสูญเสีย คงรู้สึกหดหู่ไม่น้อย

หลังจากที่เผยตงได้ยินรายละเอียด เธอก็ไปโทรศัพท์แล้วส่งคนไปรับอู๋เจิ้น หลังจากที่เธอวางสายเธอก็หันกลับมาถามซูเถา

“แล้วศพของภรรยาและลูกของเขาล่ะ?”

เธอปวดหัวกับปัญหาต่าง ๆ อีกครั้ง

ซูเถาถามว่า “มีที่สำหรับแช่แข็งไหม ถ้าศพถูกเผาตอนนี้ อู๋เจิ้นคงจะคว้านท้องต่อหน้าฉันแน่”

“ได้ งั้นฉันให้คนไปรับศพมาก่อนแล้วกัน จะยังไม่จัดการอะไร แต่อากาศร้อนแบบนี้ศพมันจะเน่าเร็วนะ แต่เธอไม่ต้องกังวล พักผ่อนเถอะ”

ซูเถาเอาแต่คิดถึงเสวี่ยเตา เธอจะนอนลงอย่างสบายใจได้ยังไง ก่อนจะขอให้จวงหว่านและสือจื่อจิ้นพาเธอไปเยี่ยมเสวี่ยเตา

โชคดีที่เสวี่ยเตาฟื้นขึ้นแล้ว มีรอยขีดข่วนมากมายบนร่างกาย ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากระเบิด

ถ้ามันไม่ได้ช่วยบังเธอเอาไว้ อาการบาดเจ็บเหล่านี้คงตกอยู่ที่เธอ ซูเถารู้สึกบอบช้ำเจ็บปวดหัวใจเหมือนอวัยวะภายในของเธอถูกทำลาย และกอดมันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

เผยตงลูบมือซูเถาเบา ๆ “ไม่เป็นไร มันเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสกว่านี้มาก และทุกครั้งมันก็จะกลับมาหายดี”

เมื่อหลายปีก่อน เพื่อเป็นการฝึกเสวี่ยเตาก็มักจะให้รางวัลกับมันสำหรับการกระทำดังกล่าว เวลามันทำหน้าที่ปกป้องเจ้านาย

เสวี่ยเตาฟื้นขึ้นแล้ว มันกระดิกหางของมันไม่หยุด

ถ้าไม่ใช่เพราะขาของมันบาดเจ็บ มันคงวิ่งไปรอบ ๆ เธอทั้งคู่แล้ว

ซูเถาลูบหัวของมัน “มันแก่แล้ว มันไม่ควรได้รับบาดเจ็บอะไรอีกแล้ว ช่วงนี้ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันมักจะนอนคว่ำหน้าแล้วหลับไปเป็นเวลานาน”

ตอนเย็น ซูเถาบอกว่าเธอต้องการกลับไปที่เถาหยาง เธอไม่ต้องการนอนค้างที่โรงพยาบาลอีก สือจื่อจิ้นไม่สามารถขัดความต้องการของซูเถาได้ เขาจึงต้องขับรถไปส่งเธอที่เถาหยาง

คิดไม่ถึงว่าทันทีที่มาถึงเถาหยาง ซูเถาจะเห็นจงเกาอี้ผู้เยือกเย็นมายืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง ราวกับว่าเขาถูกไล่ออกจากบ้าน

“คุณหมอจง?”

ซูเถาดูวันที่ นี่เพิ่งวันที่ 3 กู้หมิงฉือตกลงกับเธอว่าจะให้เขาเข้าคลินิกทุกวันที่ 10 ของเดือน

เมื่อจงเกาอี้เห็นสือจื่อจิ้นอยู่ข้างหลังเธอ เขาก็ไม่กล้าพูดว่ากู้เหล่าต้าเป็นห่วงเถ้าแก่ซู เพราะว่าโทรไปเธอก็ไม่รับสาย ก็เลยส่งเขามาที่นี่เพื่อเป็นสายสืบ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *