ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 246 เถาหยางเป็นโรงงานขนาดเล็ก

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 246 เถาหยางเป็นโรงงานขนาดเล็ก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 246 เถาหยางเป็นโรงงานขนาดเล็ก

ตอนที่ 246 เถาหยางเป็นโรงงานขนาดเล็ก

“พนักงานต้อนรับอีกคนงานยุ่งมาก เราเรียกหาเธอตั้งนานแล้วเธอไม่ยอมมาสักที คุณมีเวลาไหม ช่วยเตรียมน้ำเย็นให้เราหน่อยได้ไหม เพื่อนของเราดูเหมือนจะเป็นลมแดด”

สิ่งนี้เตือนใจซูเถาว่าเธอควรวางตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติไว้ที่ชั้นหนึ่งของอาคารธุรกิจ

ตอนนี้มีน้ำดื่มเฉพาะในโกดังด้านหลังและสำนักงานเท่านั้น

และเนื่องจากเป็นคลังสินค้า จึงไม่สะดวกที่จะให้คนนอกไปตรงนั้น เธอจึงนำพวกเขาไปที่สำนักงาน

ซูเถาพยักหน้า “ตามฉันมาค่ะ”

ชายหนุ่มรู้สึกขอบคุณหญิงสาวมาก และกลับไปที่รถทันทีเพื่อหยิบขวดน้ำสองขวด และตามซูเถาเข้าไปในอาคารธุรกิจก่อนขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสอง

ด้านซ้ายของชั้นสองคือห้องทำงานของหลินฟางจือ และด้านขวาเป็นพื้นที่สำนักงานส่วนรวม

ซูเถาเปิดประตูเข้าไป ฝ่ายบริการลูกค้าที่กำลังใช้แป้นพิมพ์ก็ลนลานเมื่อเห็นเธอเข้ามา เธอกำลังจะทักทายเถ้าแก่ แต่ซูเถายกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ

เธอชี้ไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องน้ำชา “เข้าไปเติมน้ำด้านในได้เลยค่ะ”

นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เห็นสำนักงานที่ตกแต่งอย่างดีเช่นนี้ และเขารู้สึกเกรงใจเล็กน้อยที่จะก้าวเข้าไป

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าต้องทำยังไงจึงจะสามารถทำงานในสถานที่แบบนี้ได้

ซูเถาเพียงแค่พาเขาเข้าไปและขอให้เขาวางขวดน้ำไว้ใต้ตู้กดน้ำเพื่อเติมน้ำ

น้ำใสสะอาดถูกบรรจุลงในภาชนะที่เขาเตรียมมา ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากแล้วถามด้วยความกระวนกระวายใจว่า

“น้ำนี่…สองขวดเท่าไหร่?”

ซูเถายิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะเราบกพร่องในการบริการ ดังนั้นเราต้องขอโทษด้วยนะคะ”

ชายหนุ่มตกใจกับทัศนคติการบริการนี้และเขาพูดด้วยความชื่นชมหลังจากนั้นไม่นาน

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เถาหยางของพวกคุณมีชื่อเสียงขึ้นมากในภาคใต้ภายในครึ่งปีมานี้ ดูเหมือนว่าไม่ใช่มีแค่การพัฒนาที่ดีเท่านั้น”

ซูเถาถามว่า “คุณมามาจากฐานไหนเหรอ”

ชายหนุ่มส่ายหัวและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเป็นฐานเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้สิทธิ์ทำการยื่นขอก่อตั้งในเดือนหกที่ผ่านมานี่เอง คุณน่าจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ก่อนหน้านั้นเราก็ใช้ชีวิตกันข้างทาง แต่เพราะมีทะเลสาบน้ำจืดที่ยังไม่เหือดแห้ง บวกกับที่เหล่าต้าของเราไปยื่นเรื่อง เนื่องจากมีผู้รอดชีวิตจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากผ่านไปสามปี ในที่สุดเราก็สามารถยื่นขอจัดตั้งฐานได้”

ตอนนั้นเองที่ซูเถาตระหนักได้ว่าเถาหยางไม่ถือว่าเป็นฐานด้วยซ้ำ

ตามกฎระเบียบของรัฐบาลกลาง มาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการขอจัดตั้งฐานคือพื้นที่มากกว่า 20,000 ตารางเมตร ประชากรที่อาศัยอยู่ต้องมีอย่างน้อย 2,000 ชีวิต และต้องมีกองกำลังติดอาวุธ ที่สำคัญที่สุดคือไม่เพียงแต่มีข้อกำหนดดังกล่าวเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือจะต้องมีระยะเวลาสามปีขึ้นไป

ไม่ใช่ว่าจะหาพื้นที่รกร้าง และดึงคนเข้ามาแล้วทำเรื่องก่อตั้งได้เลย

เมื่อก่อตั้งเป็นฐานแล้วก็จะได้รับประโยชน์มากมาย

ประการแรกคือได้รับการยอมรับจากพันธมิตรในท้องถิ่น มีสิทธิ์เข้าร่วมสมาคมต่างๆ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ขยายการติดต่อและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ไม่ว่าฐานใดถูกโจมตี ในกลุ่มพันธมิตรจะให้ความช่วยเหลือโดยไม่มีข้อแม้

นอกจากนี้ ฉางจิงยังสนับสนุนฐานขนาดใหญ่และขนาดเล็กทุกปี ตัวอย่างเช่น อาวุธพลังงานนิวเคลียสที่วิจัยแล้วจะถูกแจกจ่ายไปยังฐานหลักก่อน

รองลงมาก็จะเป็นสถานที่ลี้ภัย องค์กร และอื่น ๆ

ซูเถาลอบถอนหายใจ แม้ว่าเถาหยางจะเป็นที่รู้จักดี แต่ประวัติของที่นี่นั้นน้อยมาก มีเพียงครึ่งปีหลังเท่านั้นที่เริ่มมีชื่อขึ้นมา ดังนั้นหลายคนที่ได้ยินเกี่ยวกับเถาหยางจึงรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือเอามาก ๆ

เธอคาดว่าในสายตาของฐานขนาดใหญ่หลายแห่ง เถาหยางคงเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเธอต้องทำงานหนักอีกหลายปีเพื่อยื่นเรื่องก่อตั้งฐานให้เร็วที่สุด

แน่นอนว่าชายหนุ่มถามอย่างระมัดระวังในวินาทีต่อมา

“ผมขอถามหน่อยนะ เถาหยางยังไม่ได้ก่อตั้งเป็นฐานใช่ไหม”

ซูเถาส่ายหัวปฏิเสธ “ยังไม่ใช่”

ชายหนุ่มถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ช้าก็เร็ว แต่คุณอาจพลาดการประชุมสุดยอดพันธมิตรในปีนี้ ผมได้ยินมาว่าปีนี้มีผู้คนมากกว่าปีที่แล้ว พวกผู้นำระดับสูงต่างก็มาที่นี่ และคราวนี้ไม่ได้มีเพียงแต่งานแสดงสินค้าเท่านั้น ยังมีการประมูลอีกด้วย การประมูลจะจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี และมีของหายากทุกประเภท”

ซูเถาถามด้วยความสงสัย “มีประมูลอะไรบ้างเหรอ? พวกเราที่เข้าร่วมการประชุมสามารถประมูลได้ไหม มีผลึกนิวเคลียสด้วยหรือเปล่า”

ชายหนุ่มสับสนกับคำถามของเธอ เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ผมรู้แค่ว่าทุกอย่างขายได้ ตราบใดที่มันหายากพอ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ผมเองก็ไม่แน่ใจ ฐานของเราเพิ่งก่อตั้งขึ้น เราไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม ถ้าคุณอยากรู้คุณลองถามลูกค้ารายใหญ่ของคุณก็ได้ เพราะส่วนใหญ่พวกที่มาก็มาจากฐานใหญ่ ๆ ทั้งนั้น”

ซูเถาพยักหน้า “โอเค งั้นคุณรีบกลับไปเถอะค่ะ พวกของคุณรอแย่แล้ว”

ชายหนุ่มขอบคุณเธออีกครั้ง และรีบลงไปชั้นล่างพร้อมน้ำสองขวด

ซูเถาอยู่จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน แต่หลินฟางจือก็ยังไม่มีเวลาได้พัก

เนื่องจากลูกค้ามากันเป็นชุด และทั้งหมดเป็นกรรมการจัดซื้อจากฐานใหญ่และเล็กในภาคใต้

ซูเถาเห็นแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกปลื้มปริ่ม การมองดูคนเหล่านี้เหมือนกับการมองดูผลึกนิวเคลียสที่เดินได้

แต่ก็มีบางคนที่แฝงตัวเข้ามา

พนักงานต้อนรับคนใหม่เสี่ยวอวิ๋น บ่นกับเธอโดยบอกว่าบางคนไม่ได้ต้องการเข้ามาซื้อเสบียง แต่มาเพื่อค้นหาความจริงเท่านั้น หรือไม่ก็เข้ามาตากอากาศ

ถึงแม้ว่าฟ้าจะมืดแล้ว แต่หลายคนก็ยังไม่อยากออกไป จนเวลาล่วงเลยใกล้ห้าทุ่ม ซูเถาเห็นพวกเขาลงจากรถพร้อมเต็นท์และต้องการตั้งแคมป์ตรงจุดนั้น

ใบหน้าของเธอปรากฏความกังวลทันที

“เสี่ยวอวิ๋น ไปบอกพวกเขาว่าเราจะเลิกงานแล้ว ให้พวกเขากลับไปโดยเร็วที่สุด พวกเขาไม่สามารถตั้งแคมป์ในลานจอดรถนี้ได้”

เสี่ยวอวิ๋นรีบวิ่งไปด้วยความตั้งใจปฏิบัติตามคำสั่ง

ซูเถาเห็นเธอพูดกับผู้นำเหล่านั้นไม่กี่คำ และท่าทีของเธอค่อนข้างสุภาพ แต่แล้วชายคนหนึ่งเห็นเด็กสาวก็พูดอย่างร้อนรนทันทีว่า

“พวกคุณทำธุรกิจกันยังไง? ที่ทางโล่งและกว้างนี้ให้พวกเราใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนไม่ได้เลยหรือไง? เดิมทีในวันพรุ่งนี้เราวางแผนที่จะซื้อเสบียงบางอย่าง แต่ดูจากการบริการของคุณ…ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ที่คนภายนอกบอกว่าคุณเก่งนักเก่งหนา มันก็แค่ลมปาก”

พวกเขาไม่น่าจะมาซื้อของ

และไม่มีผลึกนิวเคลียส

แค่ผ่านมาแถวนี้ แต่ไม่อยากแวะพักข้างนอกที่แดดร้อนเปรี้ยง ๆ เลยมาอาศัยความเย็นสบายที่นี่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด