ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 250 ไม่พอใจ

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 250 ไม่พอใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 250 ไม่พอใจ

ตอนที่ 250 ไม่พอใจ

กู้หมิงฉือหันหลังกลับและจากไป ทุกการกระทำของเขาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เขาเดินไปขึ้นรถและปิดประตูดังตึงตัง แต่ทุกการกระทำของเขาก็ดำเนินไปโดยไม่แม้แต่จะมองซูเถาเลยสักนิด

ซูเถาไม่ได้ตามเขาไป เธอได้แต่เฝ้าดูแผ่นหลังที่แข็งทื่อของเขา

ทันทีที่ประตูปิดลง คนขับหัวใสก็เหยียบคันเร่งและออกตัวไปทันที

โหวหลิ่งซื่ออ้าปากค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

แบบนี้เป็นการทิ้งปัญหาไว้ให้เขาหรือเปล่า?

เขาหันศีรษะมองไปที่ซูเถาและยิ้มอย่างฝืนใจ “เถ้าแก่ซู”

ซูเถา “คุณจำฉันได้ด้วยเหรอ”

โหวหลิ่งซื่อคิดกับตัวเองว่าไม่มีใครในเขตตะวันออกที่ไม่รู้จักคุณ และกู้เหล่าต้าก็ปฏิบัติกับคุณไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ด้วย

แต่เขาพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“เถ้าแก่ซูร่วมมือกับบอสกู้ของเรามานาน ในการแก้ปัญหาวิกฤติน้ำในเขตตะวันออกของเรา ถ้าผมจำคุณไม่ได้ ผมก็คงเป็นคนที่แย่เอามาก ๆ”

ซูเถาพยักหน้าและเริ่มถามอย่างตรงไปตรงมา “ถ้างั้นบอกฉันหน่อยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจงเกาอี้”

โหวหลิ่งซื่ออยู่ในสภาพสิ้นหวัง หลังจากนั้นเขาก็เล่าเรื่องให้ซูเถาฟัง

“เมื่อคืนนี้ อืม…ผม ใช่! เป็นผมเอง ผมชวนเขาออกไปงานสังสรรค์เล็ก ๆ เป็นการส่วนตัวเพื่อย้อนวันวาน”

ซูเถาถามว่า “ไปรำลึกความหลังกันแล้วทำไมต้องทำลับ ๆ ล่อ ๆ เพื่อส่งตัวเขากลับมาด้วยล่ะ”

โหวหลิ่งซื่อใช้สมองคิดอย่างหนัก “เป็นเพราะว่าเมื่อคืนนี้เขาดื่มหนักไปหน่อย เราก็กลัวว่าคุณจวงจะตำหนิเอาได้ ดังนั้น…”

ซูเถาพยักหน้า แต่ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นเรื่องจริง

เมื่อโหวหลิ่งซื่อเห็นเธอพยักหน้า จึงคิดว่าตนเองรอดตัวแล้ว แต่เมื่อกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในวินาทีต่อมาเขาก็ได้ยินหญิงสาวพูดว่า

“กลับไปบอกกู้หมิงฉือ ว่าถ้าเขาต้องการยืมตัวคนของฉัน เขาไม่จำเป็นต้องแอบหรือทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ก็แค่โทรหาฉัน ในช่วงเวลาแบบนี้ ชีวิตของคนกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติ ฉันไม่เอาชีวิตมาเดิมพัน และไม่มีวันห้ามคนของฉันไม่ให้ออกไปช่วยด้วย”

โหวหลิ่งซื่อตกใจกับสิ่งที่เธอพูดและพยักหน้าทันที

ซูเถาเชิดหน้าขึ้นแล้วหันกลับไปมองสู่กวางอีกครั้ง

“และก็นี่ ไม่จำเป็นต้องกลับไปแพร่ข่าวอะไร มันเป็นแค่การเช่าสถานที่ มันเป็นเรื่องที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป”

โหวหลิ่งซื่อพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเองคิดเช่นนั้นจริง ๆ

จากนั้นซูเถาคิดอีกครั้ง จากนั้นเหลือบตาแล้วถามเขาว่า

“เหล่าต้าของพวกคุณเป็นอะไรไป? เขาหลบหน้าฉันหรือเปล่า?”

โหวหลิ่งซื่อส่ายหัวทันที และพูดออกมาอย่างจริงใจ

“เป็นไปไม่ได้ เหล่าต้าของพวกเรายังคงให้ความสำคัญกับคุณมาก และจะไม่มีวันทำลายคุณ”

ซูเถาไม่เชื่อ “แต่เขาก็ทำลายฉันมาไม่น้อย”

ไม่ว่าเขาจะให้ความร่วมมืออย่างไร ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ทนทุกข์เท่านั้น แต่เขายังพยายามใช้ประโยชน์จากเธออีกด้วย

และครั้งล่าสุดที่ทะเลาะกับเขาด้วยวาจาเพื่อต่อรอง ผลก็คือเขาเล่นงานเธอ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพบกันที่เถาหยางครั้งแรก เขาก็เผยแพร่ข้อมูลใส่ร้ายเกี่ยวกับเถาหยางไปทุกที่ และรวบรวมคนที่ไม่พอใจเถาหยางเพื่อโจมตีเธอ

โหวหลิ่งซื่อพยายามแก้ตัวให้เจ้านายของเขาอย่างต่อเนื่อง

“เถ้าแก่ซู ถึงแม้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เมื่อคุณนึกย้อนกลับไป การต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นเคยทำร้ายคุณจริง ๆ หรือเปล่า ผมขอพูดตรง ๆ การที่คุณต่อสู้กับสถานีเก่าได้นำความหายนะมาสู่บอสกู้ คุณก็ได้เห็นมันแล้วใช่ไหม กลุ่มคนที่ย้ายมาที่นี่ ก็คือพี่น้องของเราที่ถูกบังคับให้ออกมาจากสถานีเก่า

“หลังจากที่พวกเขาถูกพาออกมา พวกเขาก็เร่ร่อนไปเรื่อย ๆ โดยที่มีเด็กอายุน้อยที่สุดเพียง 10 ขวบเท่านั้น พวกเขาทนทุกข์ทรมานมากระหว่างการเดินทาง และถึงกับต้องสูญเสียพี่น้องไปสองสามคน แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้ถูกพาออกมาตั้งแต่แรก ก็กลัวใจของถานหย่งเหมือนกัน ว่าจะไม่ไว้ชีวิตพี่น้องของเรา”

“เถ้าแก่ซู คุณคิดว่าสิ่งที่ผมพูดถูกต้องไหม”

ซูเถาพูดว่า “ตอนนั้นฉันถามเขาว่าเขาอยากยืนข้างฉันไหม แต่เขาไม่เห็นด้วย”

ถ้าเขาตกลง สู่กวางอาจก่อเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น

โหวหลิ่งซื่อส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ถ้าเขาตกลง ก็เท่ากับเป็นการทรยศต่อสถานีเก่า และถานหย่งซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนาน นี่มันเป็นพฤติกรรมของคนร้าย และบอสกู้ดูถูกการกระทำเหล่านี้”

ซูเถาไม่ต้องการฟังเรื่องนี้อีกต่อไป ดังนั้นจึงโบกมือแล้วพูดว่า

“โต ๆ กันแล้ว ไม่ว่าคิดจะทำอะไรก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเลือก คุณเข้าไปข้างในเถอะ และถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็รีบปล่อยให้จงเกาอี้กลับมาทันที ไม่เช่นนั้นจวงหว่านจะเป็นห่วงเขามาก”

โหวหลิ่งซื่อเห็นว่าเธอไม่ได้สอบสวนอะไรเพิ่มเติม เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบโทรหากู้หมิงฉือทันทีที่กลับไป

หลังจากฟังการบอกเล่าของเขา กู้หมิงฉือก็ขมวดคิ้วและพูดว่า

“ฉันสั่งให้นายพูดหรือไง จะเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอเพื่ออะไร ฉันเป็นคนตัดสินใจพาคนออกมาเอง มันเกี่ยวอะไรกับเธอ”

โหวหลิ่งซื่อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

“แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเถ้าแก่ซู คุณและสถานีเก่าก็จะยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ต่างฝ่ายต่างได้รับสิ่งที่ต้องการ และพี่น้องของเราก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน”

กู้หมิงฉือรำคาญกับสิ่งที่เขากำลังเอ่ยและเตือนว่า “พอ ต่อไปนี้ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับเธออีก มันเหมือนกับว่าฉันไม่มีความรับผิดชอบอย่างไรอย่างนั้น”

เมื่อโหวหลิ่งซื่อได้ยินว่าเขาโกรธ ก็เลยหุบปากฉับ

หลังจากกลับไปสักพัก หุยซู่ก็ถามเขาเบา ๆ “งั้นหลังจากนี้ผมต้องพูดอะไรกับเถ้าแก่ซูอีกไหม…”

กู้หมิงฉือลืมตาขึ้นเพื่อมองเขา

หุยซู่พูดทันที “ฉันพูดไปแล้ว! ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ ๆ!”

……

ซูเถานำเรื่องนี้กลับไปคิด แม้ว่าคำพูดของโหวหลิ่งซื่อจะไม่ถูกใจเธอ แต่พวกเขาก็ดูเหมือนจะมีเหตุผล

แต่ใครใช้ให้เขาหยิ่งยโสล่ะ มีปากก็ไม่รู้จักพูด ปากอย่างใจอย่างตลอด

เธอเรียกเฉียนหลินให้มาหา

“จากนี้ไป ส่งผักและผลไม้ไปให้สู่กวางที่อยู่ข้าง ๆ ทุกสัปดาห์ ไม่ต้องมากเกินไป ขอแค่ให้เพียงพอต่อพวกเขากินสัปดาห์ละครั้ง คุณกับอู๋เจิ้นช่วยจัดการให้หน่อยนะคะ”

เฉียนหลินเชื่อฟัง และเธอก็ตกลงโดยไม่ถามว่าทำไม

ทันทีที่เธอคุยเรื่องงานต่าง ๆ เสร็จ ผู้อำนวยการกัวจากศูนย์แม่และเด็กก็มาหาเธอและถามเธอว่าเธอพอจะมีเวลาไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของทุกคนในคืนนี้ไหม และถือโอกาสไปหาเด็ก ๆ ในศูนย์รับเลี้ยงเลี้ยงเด็กกำพร้า

ซูเถามองดูเวลา “คืนนี้ฉันว่าง แต่ขอเป็นหลังหนึ่งทุ่มได้ไหมคะ”

เพราะในช่วงบ่ายเธอจะพูดคุยกับฟางจือและเฉียนหรงหรงเกี่ยวกับรายได้ของธุรกิจเถาหยางในช่วงเวลานี้

และเมิ่งเชียนก็ต้องการให้เธอดูรายชื่อผู้เช่าใหม่ในอาคารที่พัก

ผู้อำนวยการกัวพยักหน้า

“ได้ค่ะ ถึงเวลาฉันจะมารับคุณ เด็ก ๆ คงรอที่จะได้เจอคุณไม่ไหวแล้ว”

ซูเถาหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นฉันต้องเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาแล้วล่ะค่ะ”

รอยยิ้มของผู้อำนวยการกัวปรากฏขึ้นทันทีที่เธอได้ยินแบบนั้น

“ครูสองคนที่คุณส่งมาเป็นของขวัญที่ดีแล้ว โดยเฉพาะครูเสี่ยวพ่าน ตอนนี้เด็ก ๆ เรียกว่าแม่เสี่ยวพ่านไปแล้วนะ”

รอยยิ้มของซูเถาค่อย ๆ ลดลง “แม่เสี่ยวพ่าน? หลิวพ่านพ่าน?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด