ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 286 เข้าเมือง

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 286 เข้าเมือง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 286 เข้าเมือง

ตอนที่ 286 เข้าเมือง

เหลยสิงขมวดคิ้ว “ผมจะเข้าเมืองไปกับใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ?”

ในปีที่ผ่านมานี้ ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญมาก เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเส้นเอ็นส่วนไหนที่หดตัว เพราะถึงแม้ว่าลับหลังแล้วเธอจะไม่ได้เข้าไปวุ่นวายกับกลุ่มเป้าถู แต่เธอมักเข้ามาทำให้เขารำคาญ

ฉู่หมิงเคยชินกับน้ำเสียงของเขา ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ “เราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เลยเหรอ”

เหลยสิงเป็นคนใจร้อน

และเขาไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับคนที่น่ารำคาญแบบนั้น

“สรุปคุณไม่มีอะไรใช่ไหม ถ้าแค่โทรมาถามเรื่องนี้เฉย ๆ ก็ขอโทษด้วย ผมไม่มีอะไรจะพูด!”

“นาย…”

เหลยสิงวางสายโทรศัพท์ไปและสนทนากับสวี่ฉางต่อ ท่าทางของเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่

“ถ้าอย่างนั้นท่านไม่ว่าอะไรใช่ไหม ที่ผมจะเอาของเหล่านั้นมอบให้คนจากตงหยาง”

สวี่ฉางพอจะเดาได้ว่าเหลยสิงจะมอบสิ่งนี้ให้ใคร ดังนั้นเขาจึงบอกว่า “ถ้าฉันให้นายไปแล้ว มันก็เป็นของนาย นายอยากจะเอาไปมอบให้ใครมันก็เป็นสิทธิ์ของนาย”

เหลยสิงยิ้มอย่างมีความสุข

เงินรับจ้างใด ๆ ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่รวมถึงผลึกนิวเคลียสและเงินสกุลเหลียนปังเท่านั้น แต่หัวหน้าสวี่ยังมอบของดีให้กับเขาอีกอย่างหนึ่งด้วย นั่นก็คือแคมป์หลบภัยเคลื่อนที่

เป็นของที่กองทหารรักษาการณ์ฉางจิงพัฒนาขึ้นมาใหม่ ดูจากภายนอกเป็นเพียงกล่องดำขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลเท่านั้น แต่หลังจากกดสวิตช์ มันสามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่ 4 ตารางเมตรที่มั่นคง กันลม กันฝน และกันกระสุน

จากการทดลองได้พิสูจน์แล้วว่าแม้แต่แขนขาขนาดยักษ์ของเคียวโลหิตก็ไม่สามารถเจาะทะลุได้

หากต้องการตั้งค่ายพักแรมในช่วงเดือนมีนา ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตั้งเต็นท์ แต่สามารถพักในห้องเดี่ยวนี้ได้ด้วยการกดสวิตช์ ซึ่งปลอดภัยมาก

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับหลายอันเพื่อแปลงเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยสิงได้รับมันมาจากหัวหน้าสวี่เพียงอันเดียว เขาก็อยากจะให้ซูเถาสักสี่อัน เพื่อให้เธอใช้เป็นห้องขนาดใหญ่สำหรับพักผ่อนขณะแวะพักระหว่างเดินทาง ซึ่งปลอดภัยกว่ารถบ้านของเธอ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาพูดกับหัวหน้าสวี่ว่า “ถ้าในอนาคตสามารถซื้อได้ ท่านอย่าลืมนึกถึงผมนะ!”

เพราะตอนนี้มันถูกส่งไปใช้ที่เขตทหารภายในของฉางจิงเท่านั้น และคนนอกไม่สามารถหาซื้อได้

หัวหน้าสวี่ชำเลืองมองเขา

“นายล้มเลิกความคิดนี้ไปได้เลย มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการขายสิ่งนี้ ฉันคิดว่า รถบ้านนั่นนั่งสบายมาก นายไม่หามาแลกกับของเพื่อนำไปมอบให้เธอล่ะ”

เหลยสิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ความสะดวกสบายสำคัญกว่าความปลอดภัย ซูเถาน่าจะชอบของขวัญชิ้นนี้

เหลยสิงผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ในการเข้าเมือง พร้อมกับความหวังที่เต็มเปี่ยมในหัวใจ

ซูเถาและคนอื่น ๆ ก็ผ่านขั้นตอนเข้าไปทีละคน ๆ

เจ้าหน้าที่ต่างไม่กล้าที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างสะเพร่าต่อผู้นำจากฉางจิง และถึงแม้ประสิทธิภาพการตรวจคนเข้าเมืองจะสูงมาก แต่หลังจากรอไม่ถึงสิบนาทีกลุ่มคนก็เข้ามาในเมืองด้วยท่าทางที่ทรงพลัง

ซูเถามองดูเมืองซินตูรอบนอกอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะตระหนักถึงความต่างระหว่างตงหยางและซินตู

แม้แต่เมืองรอบนอกของซินตูก็ยังปูด้วยพื้นคอนกรีตเรียบ ถนนก็สะอาด มีถนนหนทางกว้างขวางสามารถต้อนรับรถที่ผ่านไปมาได้อย่างสะดวก

กระทั่งการทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวทั้ง 2 ฝั่งถนน แม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าฝีมือของอู๋เจิ้น แต่ก็ดูใกล้เคียงกับพื้นที่สีเขียวก่อนวันสิ้นโลกมาก

นอกจากนี้ บ้านเมืองโดยรอบยังดูเรียบร้อยและเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากบ้านที่แน่นขนัดในตงหยาง และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ กำลังจะพังทลาย

เมืองรอบนอกยังเป็นอย่างนี้ แล้วในเมืองจะดีขนาดไหน

ซูเถาอาศัยอยู่ในตงหยางมาสิบแปดปีแล้ว และเธอก็มีความรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นซินตูที่ถูกสร้างขึ้นอย่างดี เธอรู้สึกอึดอัดใจและไม่อยากยอมรับว่าตงหยางนั้นล้าหลัง

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมระหว่างเมืองที่อดีตผู้นำกองทัพอุทิศเพื่อตงหยางมาเป็นเวลา 20 ปี กับซินตูจึงมีความแตกต่างอย่างมาก

เกิดอะไรขึ้น?

การแสดงออกบนใบหน้าของเธอดึงดูดสายตาของสือจื่อจิ้น

สือจื่อจิ้นตบไหล่เธอเบา ๆ “คงแปลกใจล่ะสิว่าทำไมตงหยางถึงพัฒนาไม่ได้แบบนี้”

ซูเถาพยักหน้า

สือจื่อจิ้นไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังเรื่องราวต่าง ๆ กับเธอเช่นกัน มันเป็นความลับที่น่าจะได้รับการเปิดเผยให้เธอรู้ไม่ช้าก็เร็ว

“คุณรู้ไหมว่าทำไมบางคนถึงเรียกเราว่ากองทัพกบฏ? เพราะในเวลานั้นอดีตผู้นำกองทัพยืนกรานที่จะมาที่ตงหยางเพียงลำพัง ฉางจิงไม่ได้มอบหมายให้เขาไป และต่อมาคนอย่างพวกผมที่ไม่ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนทหารทั่วไปตามที่ควรจะเป็น…”

สือจื่อจิ้นหัวเราะเยาะตัวเองเมื่อเขาพูดสิ่งนี้

“ทำไมเหรอ?” ซูเถาประหลาดใจ

“เพราะหลังจากวันสิ้นโลกเกิดขึ้นได้ไม่นาน ผู้นำสูงสุดก็ถึงแก่กรรม ฉางจิงก็เกิดความขัดแย้งภายใน อดีตผู้นำกองทัพถูกกดดันให้เป็นผู้ที่ควรขึ้นรับตำแหน่งนี้แทน เนื่องจากเป็นอดีตสหายร่วมรบ มีความสัมพันธ์อันดีกับอดีตผู้นำสูงสุดในตอนนั้น แต่อดีตผู้นำกองทัพของเราปฏิเสธเขา เลือกที่จะทิ้งความยุ่งเหยิงนี้ไว้ข้างหลังและยืนกรานที่จะไปตงหยาง นั่นก็เหมือนว่าเขาหันหลังให้กับสหายของเขา”

“สุดท้าย อดีตผู้นำกองทัพก็ไปที่ตงหยางตามที่เขาต้องการ และกอบกู้แผ่นดินและผู้คนส่วนใหญ่ในตงหยางได้ ฉางจิงก็ยุติความขัดแย้งภายในได้เช่นกัน และคนที่รับตำแหน่งแทนก็คืออดีตสหายร่วมรบของเขาอีกคน”

ซูเถาไม่คาดคิดว่าจะมีภูมิหลังเช่นนี้

ดังนั้นอดีตผู้นำกองทัพจึงถูกตำหนิที่ไม่เข้ารับตำแหน่งเพื่อช่วยเขาในตอนนั้น

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทรัพยากรของตงหยางนั้นถึงขาดแคลนและถูกเยาะเย้ยมากมาย

อดีตผู้นำกองทัพใช้เส้นทางระยะยาว ลงทุนเงินทั้งหมดในการศึกษาและการรักษาก่อน ส่วนในการพัฒนาด้านอื่น ๆ ของฐานเขาก็ต้องพับโครงการเอาไว้และค่อย ๆ พัฒนาในภายหลัง

ตอนนี้ซูเถานึกถึงบ้านที่ทรุดโทรมและแออัดในตงหยาง ก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา

ไม่เป็นไร ยังมีเธออยู่!

ถึงเธอจะไม่มีความสามารถด้านอื่น แต่เธอสามารถสร้างบ้านได้!

เมื่อเห็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเธอ สือจื่อจิ้นก็เผยรอยยิ้มออกมา และเขาก็หยุดพูด

ในความเป็นจริง อดีตผู้นำกองทัพพูดมานานแล้วว่าเขาต้องการโอนตงหยางทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดูแลของซูเถาอย่างช้า ๆ กล่าวสั้น ๆ ได้ว่า ซูเถาคือผู้นำคนต่อไปของตงหยาง

รีบบอกเรื่องนี้ให้เธอได้รู้ ก็ถือว่ามีข้อดีเหมือนกัน

หลังจากที่หัวหน้าสวี่เข้ามาในเมือง ก็มีคนมารับเขาไปที่บ้านรับรอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกลาซูเถา

“ขอบคุณเพื่อนตัวน้อยที่ดูแลฉันระหว่างทาง ถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไร มาพบฉันได้ที่บ้านรับรอง”

เหลยสิงรู้สึกประหลาดใจมากที่หัวหน้าสวี่มีความประทับใจที่ดีต่อซูเถา และเสนอไปว่าเขายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเธอในอนาคต

หัวหน้าสวี่ถือว่าเป็นแขกระดับสูงของซินตู เพราะเขาเทียบเท่ากับผู้ประเมินที่ฉางจิงส่งมา

การพัฒนาด้านประสิทธิภาพและศักยภาพ ฯลฯ ของฐานจะต้องได้รับการประเมินโดยหัวหน้าสวี่และรายงานต่อหน่วยงานระดับสูง

ด้วยเหตุนี้ซินตูจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เกียรติเขาในฐานะแขกอาวุโส

ซูเถาไม่รู้ตำแหน่งจริง ๆ ของหัวหน้าสวี่เลย แต่เธอคิดว่าสวี่ฉางเป็นคนสุภาพ ดังนั้นเธอพยักหน้า โชว์ฟันขาวเรียงเป็นแถวให้เขา

“อาสวี่ก็มาหาพวกเราได้ หากไม่ชินกับการอยู่บ้านพักรับรอง”

เธอหมายความอย่างนั้นจริง ๆ

เมื่อเธอพบที่พักในซินตู เธอจะต้องปรับปรุงอย่างแน่นอนเพื่อให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

เธอยังคงมั่นใจในจุดนี้มากไม่ว่าบ้านพักรับรองในซินตูจะดีแค่ไหน ก็คงไม่มีการจัดหาเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้านให้ครบครันได้อย่างระบบของเธอ

แต่คำพูดเหล่านี้เข้าหูพนักงานต้อนรับและถือเป็นเรื่องตลก

กลุ่มคนจากตงหยางไม่รู้ถึงลักษณะของบ้านรับรองซินตู ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะกล้านำมันมารับรองหัวหน้าสวี่ได้อย่างไร?

แม้แต่สวี่ฉางก็ตอบด้วยรอยยิ้มและพูดกับเหลยสิง

“พวกนายไม่ต้องติดตามฉันแล้ว อยากทำอะไรก็ไปทำเถอะ”

เขาได้เห็นแล้วว่าเหลยสิงเป็นคนใจร้อน และเขาคงแทบรอไม่ไหวที่จะมอบของขวัญให้หญิงสาว

เขาเป็นครึ่งคนแก่และจะไม่ขัดขวางเรื่องราวดี ๆ ของคนหนุ่มสาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด