ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 267 ไม่มีใครเชื่อ

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 267 ไม่มีใครเชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 267 ไม่มีใครเชื่อ

ตอนที่ 267 ไม่มีใครเชื่อ

หลี่รุ่ยลี่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น

เธออยู่ในโรงเรียนแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ!

สภาพแวดล้อมไม่ดีเท่าโรงเรียนในซินตู และเพื่อนร่วมชั้นก็เข้ากันได้ยาก!

สือจื่อเยว่ส่ายหัวและพูดแทนเธอ “ช่างมันเถอะ เธอก็แค่เป็นคนปากไวไปหน่อยเท่านั้นเอง”

หลี่รุ่ยลี่ยืนขึ้น “ยุ่ง” และผลักสือจื่อเยว่ออกไป “เลิกเสแสร้งได้แล้ว!”

หลังจากพูดจบ เธอก็วิ่งร้องไห้ออกจากห้องเรียนไป

เจิ้งเพียวหรือร้อยตรีเจิ้ง เป็นครูหัวหน้าระดับชั้นม.3 เมื่อเห็นหลี่รุ่ยลี่วิ่งออกไป ก็เรียกเธอให้หยุดทันทีด้วยความดีใจ

“หลี่รุ่ยลี่ เธอจะออกไปดูโดมครอบป้องกันเหรอ อย่าเพิ่งไป มาช่วยครูนับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ต้องการเปลี่ยนใหม่หน่อย ครูเพิ่งได้รับการแจ้งเตือนว่าเถาหยางจะเข้ามาดูแล และเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เราใหม่ อีกทั้งยังจะสร้างสระว่ายน้ำ โรงยิม และศูนย์กิจกรรมให้เราด้วย”

“แล้วเธอช่วยครูเรียกเพื่อนร่วมชั้นมาอีก 2-3 คนสิ เธอนับคนเดียวไม่ไหวหรอก การที่เถาหยางเข้ามารับช่วงต่อดีมากเลยเนอะ สภาพแวดล้อมก็ดีขึ้น มันเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเธอนะ ทั้งการศึกษาและการฝึกอบรมในอนาคต ครูคิดว่าอีกไม่กี่ปีโรงเรียนของพวกเราก็จะเทียบได้กับโรงเรียนในฉางจิง”

หลี่รุ่ยลี่กลับไปด้วยความงุนงง ถึงกับลืมร้องไห้

เถาหยางซ่อมแซมห้องเรียนให้พวกเขา เปลี่ยนอุปกรณ์การเรียนการสอนต่าง ๆ พร้อมกับสร้างสนามฝึกซ้อม หรือแม้แต่สระว่ายน้ำ?

เธอมีลูกพี่ลูกน้องที่ไปโรงเรียนในซินตู เมื่อปีก่อนเขามาเยี่ยมญาติที่ตงหยาง อวดเธอว่าโรงเรียนของพวกเขาดีแค่ไหนและมีทุกอย่าง แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่ามีสระว่ายน้ำ โรงยิม และอื่น ๆ

นั่นไม่ได้หมายความว่า ในอนาคตโรงเรียนของพวกเขาจะดีกว่าโรงเรียนในซินตูใช่ไหม?

ไม่ ฉันได้ยินจากครูเจิ้งว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะสามารถเทียบเท่าฉางจิงได้

หลี่รุ่ยลี่ตะลึงเล็กน้อย เมื่อครึ่งปีก่อน พ่อแม่ของเธอต้องการให้ครอบครัวลูกพี่ลูกน้องพาพวกเขาไปตั้งรกรากในซินตู และไปเรียนที่โรงเรียนในซินตู หลังจากทำงานหนักมาครึ่งปี และพวกเขาก็กำลังจะย้ายไปในเร็ววันนี้

ตอนนี้โรงเรียนของพวกเขาถูกเถาหยางยึดครอง เธอไม่ต้องการไปที่นั่นแล้ว

หลี่รุ่ยลี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งวัน และอยู่จนถึงหลังเลิกเรียน เพียงเพื่อจะพบว่าพ่อแม่ของเธอที่ไม่เคยมารับเธอกำลังรอเธออยู่ที่ประตู

พวกเขายังต้องการยืมการ์ดควบคุมการเข้าออกของเธอ เพื่อเข้าไปชื่นชมรอบ ๆ โรงเรียน และสัมผัสกับประโยชน์ของโดมครอบป้องกัน

คนเฝ้าประตู เหล่ากัวเป็นญาติกับผู้อำนวยการกัว เขาซื่อตรงพอ ๆ กับผู้อำนวยการกัว ตราบใดที่ไม่ใช่นักเรียน ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่สามารถเข้าไปในโรงเรียนได้

พ่อแม่ของหลี่รุ่ยลี่ก็เหมือนกับพ่อแม่คนอื่น ๆ ที่มารับลูก ๆ ที่ต่างคนต่างวิ่งไปรอบ ๆ โรงเรียนโดยไม่มีเหงื่อไหลออกมา และทุกคนเต็มไปด้วยความอิจฉา

เมื่อไหร่เถาหยางจะครอบครองตงหยางทั้งหมด?

พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปโรงเรียนพร้อมกับลูกชายและลูกสาว

ระหว่างทางกลับบ้าน หลี่รุ่ยลี่มองไปที่พ่อของเธอและถามด้วยเสียงต่ำ

“พ่อ แล้วพวกเรายังจะย้ายไปที่ซินตูอยู่ไหม”

พ่อของหลี่รุ่ยลี่เป็นนักธุรกิจ เขาทำธุรกิจเสื้อผ้าเล็ก ๆ พอมีเงินอยู่บ้าง และตระกูลของเขาก็ยังมีผู้ที่มีพลังวิเศษซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลี่รุ่ยลี่ในซินตู มีสภาพครอบครัวที่ดีที่ซินตู และพวกเขาก็ยินดีต้อนรับพวกเราและพร้อมให้พวกเราอพยพไป..

ครอบครัวลูกพี่ลูกน้องของเขาในซินตู มักจะดูถูกตงหยางอยู่เสมอ พวกเขาเกลี้ยกล่อมมาหลายปีแล้ว และต้องการให้หลี่รุ่ยลี่ย้ายไปที่ซินตู

ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ในที่สุดครอบครัวของหลี่รุ่ยลี่ก็ตัดสินใจย้าย แต่ผลก็คือเถาหยางก็ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ ตงหยาง ซึ่งทำให้แผนการของครอบครัวหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง

พ่อของหลี่รุ่ยลี่เงียบและไม่พูดอะไร

แม่ของหลี่รุ่ยลี่คร่ำครวญและพูดว่า

“ย้ายอะไรล่ะ? ไม่ต้องพูดถึงโรงเรียนของลี่ลี่หรอก แต่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ข้าง ๆ และศูนย์แม่และเด็กทั้งหมดต่างก็ถูกเถาหยางเข้าไปดูแลแล้ว มันสะดวกและปลอดภัยขึ้นมาก ในอนาคตถ้าลี่ลี่แต่งงานมีลูกก็คงไม่ต้องห่วงอะไร”

“อีกอย่าง แม่คิดว่าอีกไม่นาน ทรัพย์สินทั้งหมดของตงหยางจะตกอยู่ในมือเถาหยาง เช่นเดียวกับชุมชนเก่าที่เราอาศัยอยู่ บางทีเถาหยางอาจทำการรื้อถอนและแทนที่ด้วยบ้านใหม่สำหรับเราก็ได้ จะไปซินตูทำไม ที่ซินตูบ้านแพงกว่าตงหยางอีก”

ในใจของหลี่รุ่ยลี่เห็นด้วยกับคำพูดของแม่

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่คิดว่าโรงเรียนในซินตูจะเจ๋งเท่ากับโรงเรียนของพวกเขา ตอนนี้เธอไม่ต้องกลัวการโจมตีของซอมบี้ มันปลอดภัยและสะดวกสบาย และสามารถอุทิศตนเพื่อการเรียนรู้และการฝึกฝน

ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจว่าทำไมผู้คนในชั้นเรียนถึงชอบเลียแข้งเลียขาสือจื่อเยว่

อยู่ที่เถาหยาง คงสบายกว่าการอยู่ที่โรงเรียนเป็นแน่….

หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของหลี่รุ่ยลี่ก็เผยแววตากังวล

“ถ้าไม่ย้ายแล้ว งั้นคืนนี้คุณบอกพี่สาวและพี่เขยของคุณนะว่าเรายังตัดสินใจอยู่ที่ตงยางต่อ ขอบคุณที่พวกเขาช่วยเรายื่นเรื่องขอย้ายถิ่นฐานในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เมื่อผมมีโอกาส ผมจะไปซินตูเป็นการส่วนตัวเพื่อขอโทษพวกเขา”

แม่ของหลี่รุ่ยลี่ตอบรับอย่างมีความสุข และเมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอจึงโทรหาพี่สาวของเธอในซินตู เพื่ออธิบายสถานการณ์

ป้าของหลี่รุ่ยลี่ขมวดคิ้ว

“เถาหยาง? นั่นไม่ใช่พื้นที่ที่ตงหยางเอาไว้บังหน้าเหรอ เพื่อตบตาฉางจิง เธอเชื่อจริง ๆ เหรอ”

พี่สาวของเธอไร้สมองตั้งแต่เมื่อไหร่

องค์กรขนาดเล็กที่จู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมา และไม่ได้รับการยอมรับจากฉางจิง พวกเขาจะทรงพลังอย่างที่ข่าวลือพูดได้อย่างไรและอีกทั้งพวกเขายังสามารถช่วยตงหยางในเรื่องของการก่อสร้างด้วย

ใครก็ตามที่มีสมองดีจะคิดว่าเถาหยางเป็นกลไก กลโกง และไม่น่าเชื่อโดยสิ้นเชิง

สำหรับความจริงที่ว่ามีคนซื้อเสบียงจากเถาหยาง พวกเขาล้วนคิดว่าตงหยางจ้างคนมากำกับและแสดง

น้องสาวของเธอฟังกลโกงดังกล่าวจริง ๆ และยอมทิ้งโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นถ้ามาหาเธอที่ซินตู?

แม่ของหลี่รุ่ยลี่ไม่แสดงความไม่พอใจ

“พี่ ถ้าพี่ไม่เชื่อภาพที่ถูกอัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ต ลองมาดูที่ตงหยางด้วยตาตัวเอง โรงเรียนของลี่ลี่ได้เถาหยางเข้ามาดูแล และฉันยังได้ยินมาว่าพวกเขาจะสร้างโรงยิมและสระว่ายน้ำให้โรงเรียนของลี่ลี่ เหมือนต้าเสวียเฉิง*[1] ก่อนวันสิ้นโลก ซึ่งไม่น่าจะเกินครึ่งปีน่าจะสร้างเสร็จ”

หลี่รุ่ยลี่พยักหน้าอย่างอยู่ข้าง ๆ เธอ

เมื่อป้าของหลี่รุ่ยลี่ได้ยิน ก็คิดว่านี่มันเรื่องไร้สาระอะไร

ต้าเสวียเฉิงก่อนวันสิ้นโลก?

ซินตูไม่กล้าออกตัวว่าพวกเขาสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ได้!

ตงหยางซึ่งเป็นฐานระดับสามจะทำได้ยังไง?

หลี่รุ่ยลี่กลัวว่าเธอจะไม่เชื่อ ดังนั้นตนจึงพูดอย่างกระวนกระวาย “ป้าคะ มันเป็นเรื่องจริงนะ หนูรู้สึกถึงความแตกต่างเมื่อเถาหยางเข้ามารับช่วงต่อในวันนี้”

“มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย”

แม่ของหลี่รุ่ยลี่ตอบว่า

“ลี่ลี่บอกว่ามันเจ๋ง ฉันแสดงให้พี่เห็นไม่ได้ พี่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลาในการสร้างหน่อย เพราะว่าตอนนี้ก็ยังเร็วเกินไป”

“พี่ ฉันพูดจริงนะ พี่ควรย้ายมาที่ตงหยางโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ตงหยางได้รับความช่วยเหลือจากเถาหยางจนพัฒนา ถึงตอนนั้นพี่อยากจะย้ายมาก็คงทำไม่ได้แล้วนะ”

ป้าของหลี่รุ่ยลี่เห็นว่าเธอไม่สามารถแม้แต่จะให้ดูหลักฐานใดๆ นับประสาอะไรกับความเชื่อ เมื่อได้ยินเธอบอกให้ย้ายครอบครัวไปที่ตงหยาง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าเธอได้ยินเรื่องตลก และพูดออกมาอย่างรำคาญ

“ครอบครัวเธอนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ ฉันวิ่งเต้นเพื่อช่วยเธอ และทำเรื่องให้เธอย้ายถิ่นฐาน แต่จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนใจไม่มา ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็ฝันหวานในตงหยางต่อไปแล้วกัน!

หลังจากพูดจบเธอก็วางสายทันที

สมาชิกสามคนในครอบครัวของหลี่รุ่ยลี่มองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ

ทำไมไม่มีใครเชื่อเลย เห้อ

[1] ต้าเสวียเฉิง (大学城) เป็นเขตพื้นที่การศึกษา ที่ภายในจะเต็มไปด้วยมหาวิทยาลัย หรือสถาบันต่างๆอยู่รวมกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด