ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 126 บอสกู้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหน?

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 126 บอสกู้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 126 บอสกู้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหน?

ตอนที่ 126 บอสกู้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหน?

ซูเถาหยุดและถามว่า “ทำไมฉันจะไม่ได้ออกจากเถาหยาง”

กู้หมิงฉือ “คุณเพิ่งออกไปซื้อเนื้อมา และคุณก็ซื้อมาได้ไม่มาก เพราะคุณมีคะแนนสมทบไม่มากนัก”

ซูเถาแว้ดเสียงขึ้นด้วยความโกรธจัด “ทำไมคุณถึงชอบสอดรู้สอดเห็นมากขนาดนี้ คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน คุณต้องการอะไรกันแน่”

กู้หมิงฉือพูดออกมาอย่างชัดเจน “อย่าพยายามเปลี่ยนหัวข้อ คุณไม่เคยออกจากเถาหยางแต่ทำไมมีคนเห็นคุณที่ภูเขาผานหลิว”

“ซูเถา เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ถานหย่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแก้แค้น สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา เราไม่ควรประมาท หากคุณสร้างจุดแวะพักที่ภูเขาผานหลิวจริง ๆ ก็เหมือนคุณไปขัดผลประโยชน์เขา”

ซูเถาเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ใช่ ฉันเป็นคนสร้าง ส่วนวิธีที่ฉันไปภูเขาผานหลิว คุณก็แค่คิดว่าฉันบินได้ อีกอย่างผลประโยชน์มันก็ต้องมีการขัดกันอยู่แล้ว การทำธุรกิจก็แบบนี้แหละ ใครดีใครได้ ไม่ใช่เหรอบอสกู้?”

กู้หมิงฉือ “…”

“มันก็ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันกินหมดทั้งตลาด ถานหย่งสามารถส่งใครสักคนมาคุยกับเราได้ เราสามารถทำให้กิจการนี้ใหญ่ขึ้นและแบ่งผลประโยชน์กันได้ วิน-วิน”

กู้หมิงฉือส่ายหัว “จากที่ผมรู้จักถานหย่ง เขาอาจแค่ต้องการไล่คุณออกไป กำจัดคุณให้พ้นทาง ไม่มีคำว่า วิน-วิน”

ซูเถาพูดอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ทางเลือกขึ้นอยู่กับเขา รอให้เขามาคุยกับฉัน แต่ว่าบอสกู้ คุณจะอยู่ฝ่ายไหนในธุรกิจนี้”

อยู่ฝั่งถานหย่ง หุ้นส่วนเก่า

หรือฝั่งเธอ?

กู้หมิงฉือคิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้ารุกล้ำอย่างตรงไปตรงมา

“…ซูเถา คุณกล้าหาญเกินไป คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”

ซูเถาพูดอย่างตรงไปตรงมา “แน่นอน ฉันพยายามที่จะเอาชนะคุณ”

กู้หมิงฉือพูดอย่างเย็นชา “เลือกยืนอยู่ข้างคุณ และทำในสิ่งที่ผมเคยทำที่จุดแวะพักเก่า ทั้งยังปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานเก่าของผมเหมือนเป็นศัตรู ผมจำเป็นต้องทำแบบนั้นหรือไง?”

“คุณลองคิดดูก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน”

กู้หมิงฉือทิ้งคำว่า “ฝันไปเถอะ” และวางสายโทรศัพท์ในไม่กี่วินาที

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าคิดกล้าทำสิ่งต่าง ๆ

เขาโทรกลับหาถานหย่งเพื่ออธิบายสถานการณ์

ถานหย่งเย้ยหยันและพูดว่า “เป็นเธอที่ทำจริง ๆ สินะ เธอมีความสามารถบางอย่าง พี่กู้ พี่มัวแต่ทำอะไรอยู่ หรือพี่รู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งฉกฉวยธุรกิจใต้จมูกของเราไปง่าย ๆ ถ้าเราไม่รีบจัดการเธอ เราพี่น้องจะถูกผู้หญิงเหยียบหัวเอาได้!”

กู้หมิงฉือขมวดคิ้ว “นายต้องการจะทำอะไร แบบนั้นฉันไม่เห็นด้วย นายหาคนไปคุยกับเธอ ซูเถาไม่ใช่คนประเภทที่จะทำลายธุรกิจ ในความคิดของเธอ การมีหุ้นส่วนหลายคน สำคัญกว่าการสร้างศัตรู”

ถานหย่งระเบิดอารมณ์ทันที “อะไรกัน! พี่รู้ไหมว่าลูกน้องของผมกำลังคุยอะไรกัน? พวกเขารู้สึกว่าการทำงานที่ภูเขาผานหลิวดีกว่าทำงานกับผม มีค่าตอบแทน พร้อมอาหารและที่อยู่อาศัยอีกด้วย! ฟังนะ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นจงใจยั่วยุผม เธอทำการล่อเหยื่อ ทำให้ขวัญกำลังใจของพวกพ้องผมสั่นคลอน!”

“เธอต้องการที่จะท้าทายผม ผมให้โอกาสเธอแล้ว แต่ถ้าเธอไม่รับข้อเสนอ ก็อย่าหาว่าผมไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้วกัน!”

กู้หมิงฉือพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายถ้ายังสืบรู้อะไรมาไม่ชัดเจน ให้คนไปถามเธอก่อนนายค่อยตัดสินใจ อย่าใช้ความคิดของนายคาดเดาไปเรื่อย ซูเถาไม่ใช่คนอย่างที่นายคิด”

ถานหย่งกำลังเดือดดาล “เธอให้ผลประโยชน์อะไรกับพี่ล่ะ หรือพี่ตัดสินใจที่จะอยู่ข้างเธอ? หรือพี่มีความสัมพันธ์อะไรกับเธอ! ผมไม่เคยเห็นพี่ปกป้องผู้หญิงคนไหนเลย กู้หมิงฉือ! ถ้าไม่อยากร่วมมือกันแล้วก็ให้บอกมา ไม่ต้องให้ผู้หญิงที่น่าสะอิดสะเอียนคนนี้มาทำให้ผมรังเกียจ”

ติ๊ด เขาวางสายลงอย่างรวดเร็ว

หัวของกู้หมิงฉือแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ

……

ซูเถาไม่รู้ว่าตัวว่าเธอได้ก่อสงครามโดยปราศจากเขม่าดินปืนขึ้น

ในขณะนี้เธอกำลังมองมือที่งอกขึ้นมาใหม่ของหั่วเสอ แม้เธอจะรู้มานานแล้ว แต่ก็ยังเหลือเชื่อที่ได้เห็นการงอกใหม่ของมือที่ขาดไป

จงเกาอี้เช็ดหน้าผากแล้วถอดถุงมือทิ้งพลางพูดกับหั่วเสอ

“ครึ่งเดือนถัดจากนี้ คุณต้องดูแลมันให้ดี ห้ามยกของหนัก ห้ามเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น ดีดนิ้วแรง ๆ สะบัดมือแรง ๆ เป็นต้น และอย่าใช้พลัง พักผ่อนให้เต็มที่ เข้าใจไหม”

“หลังจากผ่านครึ่งเดือนนี้ไป คุณก็สามารถใช้งานได้ตามที่คุณต้องการ”

หั่วเสอตื่นเต้นมากจนแทบอยากจะบูชาจงเกาอี้

“ขอบคุณหมอจง ขอบคุณมาก คุณคือผู้ที่ทำให้หั่วเสอกำเนิดขึ้นมาใหม่!”

ตั้งแต่เขามือขาด ความสามารถของเขาก็ลดลงอย่างมากและชีวิตของเขาก็ไม่สะดวกนัก เขารู้สึกหดหู่ใจมาเป็นเวลานาน

ตอนนี้มองมือที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ รู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา

เหลยสิงก็มีความสุขกับเขาเช่นกัน แต่เขาก็ยังกระแอม “แล้ว”

หั่วเสอกะพริบตาต่อหน้าซูเถาทันที “ขอบคุณเถ้าแก่ซูมาก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงไม่มีโอกาสได้พบหมอจง คุณคือพ่อแม่ที่ให้กำเนิดใหม่ของผมด้วย”

ซูเถายิ้ม “พ่อแม่ของคุณมีอยู่ทุกที่ คุณโตมากับการกินอาหารมากมาย”

หั่วเสอเกาหัวด้วยความลำบากใจ และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นก็มาทุบไหล่ของเขาเพื่อแสดงความยินดี

เหลยสิงพูดกับซูเถา “งั้นคืนนี้พวกเราจะไปพักข้างนอก แล้วมารายงานตัวที่เถาหยางในเช้าวันพรุ่งนี้ ผมรบกวนเถ้าแก่ซูให้ที่พักพิงเราระหว่างหนึ่งเดือนนี้ด้วย”

ทันทีที่เขาพูดจบ เฉินหยางก็เข้ามาและมองไปที่เหลยสิงด้วยความชื่นชม

“พี่ใหญ่เหลย ผมขอไปเที่ยวกับพี่สักคืนได้ไหม”

เขาชอบพวกของพี่ใหญ่เหลยมาก พวกเขาล้วนมีฝีมือที่ดีมาก และพวกเขายังขับรถที่เท่ขนาดนี้อีกด้วย!

เหลยสิงก้มลงมอง แยกฟันเขี้ยวและยิ้มพร้อมกับพูดว่า

“ถ้าอย่างนั้นนายต้องถามแม่และเถ้าแก่ซู ฉันไม่กล้าพานายออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตหรอกนะ”

เฉินหยางดึงเสื้อผ้าของซูเถาและขอร้อง

ซูเถาปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี “ถ้าออกไปค้างคืนน่ะไม่ได้ เราแค่ต้องการนั่งรถของพวกเขา อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ถ้าเราอยากนั่งรถจริง ๆ ถ้างั้นพรุ่งนี้หรือคราวหลังค่อยให้พี่ใหญ่เหลยพาขับเที่ยวตอนกลางวัน”

จากนั้นเฉินหยางก็ยอมแพ้ และเฝ้าดูกลุ่มเป้าถูจากไปอย่างงดงามพร้อมเสียงเครื่องยนต์คำราม

จวงหว่านเห็นว่าดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ท้ายรถ จึงรีบพาเขากลับไปที่ห้องเพื่อล้างตัวและเข้านอน

เฉินหยางเดินคอตกกลับห้อง จวงหว่านพูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“ยิ่งเขาโตขึ้น ก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกและผู้คนภายนอกเถาหยางมากขึ้น”

ซูเถากล่าวว่า “เป็นเรื่องปกติของเด็กที่จะมีความชื่นชมและอยากรู้อยากเห็นเมื่อพบปะผู้คนอย่างกลุ่มเป้าถูเป็นครั้งแรก”

จวงหว่านถอนหายใจ “ฉันกำลังคิดว่าจะส่งเขาเข้าร่วมกองทัพดีหรือเปล่า พ่อของเขาหวังว่าเขาจะได้เข้าร่วมกองทัพ ฉันคิดว่าเด็กผู้ชายควรจะเป็นทหารและสละเลือดเนื้อ แต่ฉันก็ยังทำใจไม่ได้”

“ได้ถามเขาไหมว่าเขาคิดยังไง”

จวงหว่านพยักหน้า “ฉันถามแล้ว เขาบอกว่าเขาต้องการเป็นนักรบอิสระหรือทหารรับจ้างนั่นแหละ หัวอกคนเป็นแม่อย่างฉันแทบแตกออก ทหารรับจ้างอันตรายยิ่งกว่ากองทหารทั่วไป ทหารรับจ้างทุกทีมก็เหมือนกัน พละกำลังแข็งแกร่ง ไม่เพียงป้องกันตัวได้ แต่ยังได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ส่วนใหญ่มักประมาท ไม่รู้ว่าจะตายที่ไหนหรือเมื่อไหร่”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *