ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 15 โรงอาหารขนาดเล็ก (รีไรท์)

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 15 โรงอาหารขนาดเล็ก (รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 15 โรงอาหารขนาดเล็ก (รีไรท์)

ตอนที่ 15 โรงอาหารขนาดเล็ก (รีไรท์)

พวกทหารคิดว่าเถาหยางมีองค์กรอยู่เบื้องหลังเหรอ? ซูเถาหัวเราะเยาะอยู่ในใจ หากแต่ไม่ได้แสดงออกมาทางใบหน้า

“ฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะคะ แต่ฉันรู้สึกจริง ๆ ว่าเถาหยางนั้นสะดวกสบายมาก ดังนั้นคุณแค่ปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นผู้เช่าธรรมดาคนหนึ่งก็พอ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซูเถาก็ไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ จึงเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยและถามว่า

“คุณบอกว่าคุณมาจากกองทัพ คุณรู้จักสือจื่อจิ้นไหม”

“พลตรีสือเหรอ? รู้จักสิคะ” ไม่เพียงแต่รู้จักกันเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนสนิทของคุณปู่เธออีกด้วย เขาได้รับการฝึกฝนอย่างลับ ๆ ให้เป็นผู้สืบทอดของตงหยาง

ตอนแรกคุณปู่ต้องการฝึกฝนเธอและลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคน แต่ทว่าไม่มีใครมีแนวโน้มจะพัฒนาไปในทางที่ดี ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป้าหมายมุ่งเป้าไปยังสือจื่อจิ้นแทน

โดยรวมแล้วความแข็งแกร่งของสือจื่อจิ้นนั้นแข็งแกร่งที่สุด และเขายังภักดีต่อตงหยางมากที่สุดอีกด้วย

ซูเถาพอจะเข้าใจได้ จากการตัดสินจากน้ำเสียงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานของสือจื่อจิ้นหรือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา

เธอเชื่อใจสือจื่อจิ้น ดังนั้นเธอก็จะมองว่าสิงซูอวี่เป็นคนดี

ไม่รู้ว่าสือจื่อจิ้นจะกลับมาเมื่อไหร่ พวกเขาออกไปทำภารกิจติดต่อกันสามวันแล้วยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เพิ่มเติม การทำงานท่ามกลางความเสี่ยงแบบนั้นเธอก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้

ซูเถายังคงรอให้สือจื่อเยว่เลิกเรียน และถามว่ามีข่าวคราวของพี่ชายของเธอหรือไม่ แต่ก่อนที่เธอจะได้เปิดปาก สือจื่อเยว่ก็ยกเครื่องสื่อสารขึ้นต่อหน้าเธอ

“พี่เถาจื่อ เรามีชื่อเสียงในเถาหยางแล้วนะ ~ ใคร ๆ ก็บอกว่าพี่คือเถาฮวาหยวน*[1]”

ซูเถาถูกพาดหัวข้ออันสะดุดตากระแทกตา ‘หลังจากพเนจรมาครึ่งชีวิตก็พบบ้านในเถาหยาง’ และด้านล่างเป็นรูปของฟ่านฉวนฮุยที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารในห้องนั่งเล่นพร้อมอาหารเช้า และถือขนมปังนึ่งร้อน ๆ ในมือ

จากพื้นหลังของภาพจะมองเห็นโซฟาที่สะอาดและใหม่เอี่ยมได้อย่างชัดเจน ทีวีจอใหญ่ เครื่องจำหน่ายอาหารเช้าเต็มรูปแบบ และใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผู้เช่าที่พูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน

ไม่รู้ว่าบทความเขียนดีเกินไปหรือชีวิตที่มั่งคั่งและสะดวกสบายที่แสดงในภาพถ่ายมีผลกระทบมากเกินไป จำนวนความคิดเห็นด้านล่างมีจำนวนเกินหนึ่งแสนความคิดเห็น

ซูเถาตระหนักว่าบทความนี้อาจไม่ใช่แค่คนในตงหยางเท่านั้น เพราะตงหยางมีประชากรเพียง 50,000 คนเท่านั้น

สือจื่อเยว่เขย่าเครื่องสื่อสารของเธออย่างมีความสุข “ฐานอวิ๋นชางที่อยู่ละแวกนี้และฐานใหญ่อีก 5 ฐานที่อยู่ห่างออกไปอีก 500 กิโลเมตรรู้จักเถาหยางของพวกเราแล้ว ได้ยินมาว่ามีคนจำนวนมากเก็บกระเป๋าของพวกเขาในชั่วข้ามคืน”

ซูเถาไม่รู้ว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง ที่นี่ไม่ได้มีห้องมากมาย และเธอต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อเอาใจพวกเขาทุกคนที่มาที่นี่

ช่วยฉันด้วย!

เธอตรวจสอบบันทึกผู้เยี่ยมชมจากแม่บ้านอัจฉริยะและพบว่าจำนวนผู้เยี่ยมชมมีมากถึง 2,000 คนภายในสองวัน

หลังจากวันนี้คาดว่าจะมีการทุบสถิติใหม่

ซูเถาเอามือทาบอกและอดไม่ได้ที่จะจับกระเป๋าใบเล็กของเธอ

เธอสามารถเก็บเงินได้มากกว่า 74,000 เหลียนปัง เธอต้องตัดใจเพื่อขยับขยายอีกครั้ง แต่เธอต้องการที่จะเก็บเงินให้ได้มากถึง 100,000 เหลียนปังก่อนและอัปเกรดเป็นเลเวล 3

แต่ตอนนี้คงต้องสร้างห้องเพิ่มก่อนก็แล้วกัน ต้องมีห้องว่างสักสองสามห้องเพื่อที่จะรองรับคนที่จะเข้ามา

เธอกัดฟันขยายห้องเดี่ยว 5 ห้องและห้องคู่ 5 ห้อง ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 33,500 เหลียนปัง

จำนวนห้องทั้งหมดในตอนนี้มี 24 ห้อง และสามารถอาศัยอยู่ได้ถึง 36 คน

เมื่อมีคนมากขึ้นซูเถาเริ่มกังวลเกี่ยวกับเรื่องอัคคีภัยและแผ่นดินไหว เธอเลยต้องการซื้อสัญญาณเตือนภัย พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดในที่พื้นที่ส่วนกลางด้วย ถ้าติดลำโพงเพิ่มอีกสองสามตัว สร้างห้องกระจายเสียง การรักษาความปลอดภัยก็จะก้าวกระโดดขึ้น

ความคิดของเธอนั้นเปี่ยมล้น แต่ซูเถาค้นหาในร้านค้าระบบเป็นเวลานานและไม่พบสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยข้างต้น

[รายการด้านบนทั้งหมดอยู่ในร้านค้าที่ซ่อนอยู่ หากต้องการปลดล็อก คุณต้องเรียกภารกิจที่ซ่อนอยู่และดำเนินการให้เสร็จสิ้น]

มีภารกิจซ่อนอยู่ด้วย…เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากติดข้อตกลงไว้ที่มุมทางเดิน ทำให้เธอสามารถเห็นได้ทุกที่ที่เธอไป

ลองคิดถึงสิ่งที่ซื้อได้แล้วกัน

คนมากขึ้นการบริโภคก็มากขึ้น ซูเถาจึงซื้อเครื่องจำหน่ายอาหารเช้าอีกเครื่อง และหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วก็ซื้อตู้แช่แข็งเพิ่มอีกสองตู้

ตู้แช่แข็งมีเพียง 1,500 เครื่อง สามารถเก็บอาหารให้สดใหม่ได้นานถึง 4 วัน มีค่าใช้จ่าย 300 เหลียนปัง มีข้าวทั้งหมด 10 ชุด และราคาของข้าวกล่องแต่ละชุดน่าจะสูงถึง 60 เหลียนปัง

ข้าวกล่องมีหลายประเภท เช่น ข้าวหน้าต่าง ๆ บะหมี่น้ำ ผัดผัก เป็นต้น ซูเถาผู้ที่เกิดหลังวันสิ้นโลกยังไม่เคยเห็นมาก่อน ในอนาคตเธอไม่จำเป็นต้องออกไปซื้ออาหารหรือรบกวนผู้เช่าในการนำอาหารมาให้เธอ เพราะมันทั้งอร่อยและสะดวกสบาย

เมื่อวางวิ่งเหล่านี้แล้วกลายเป็นว่าทำให้ห้องนั่งเล่นดูแออัด และเกิดการแย่งโต๊ะอาหาร

ซูเถาจึงเปิดห้องเดี่ยวอีกห้องหนึ่ง ทุบผนังทั้งสี่ด้าน ยกเลิกค่าเช่าและใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางพื้นที่ส่วนกลางที่ขยายใหญ่ขึ้นได้รับการวางผังใหม่

ด้านขวามือของทางเข้าคือห้องรับแขก มีโซฟาและม้านั่งขนาดเล็กให้ทุกคนได้พูดคุยกัน มีโต๊ะอาหาร เครื่องจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มอยู่ทางซ้ายมือซึ่งมีขนาดเท่ากับโรงอาหารขนาดเล็ก

หลังจากติดตั้งและคำนวณทรัพย์สินที่เหลืออยู่ก็พบว่าตอนนี้เธอมีเงินเหลืออยู่ 36,000 เหลียนปัง ซึ่งถือได้ว่าไม่เลวอย่างน้อยก็มีเงินออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

เมื่อดูผลงานชิ้นเอกของตนเองอีกเป็นครั้งสุดท้าย ซูเถาก็เข้านอนอย่างพึงพอใจ

เมื่อเธอตื่นขึ้นในตอนเช้า ซูเถาก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายมาจากข้างนอก หลังจากอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็ออกไปจากห้อง และเห็นทุกคนนั่งกินข้าวและพูดคุยกันอยู่ในโรงอาหารขนาดเล็กนี้

เมื่อเห็นเธอออกมาทุกคนต่างร้องเรียกเธออย่างกระตือรือร้น

“เถ้าแก่ซู คุณตื่นแล้วเหรอ เพียงแค่ชั่วข้ามคืนมันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลย ฉันส่งไปให้พวกเพื่อนดู พวกเขาอิจฉาฉันมากแล้วก็ยังถามอีกว่ายังที่นี่ยังมีห้องว่างอีกหรือเปล่า

“ใช่ ฉันไม่เคยอยู่ในบ้านที่มีโรงอาหารเลย เถ้าแก่ซู ที่นี่มันคือสวรรค์จริง ๆ”

……

สิงซูอวี่ยังถ่ายรูปไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นและยิ้มให้ซูเถา

“ตู้ขายข้าวนี้มันสะดวก ฉันซื้อเก็บเอาไว้แล้ว 5 ชุด ฉันจะเอากลับไปให้ครอบครัวลองชิม แต่เมื่อฉันซื้อเสร็จทุกคนก็รีบมาแย่งชิงกันจนหมด”

ซูเถามองดู โอ้พระเจ้า ข้าวกล่องยี่สิบชุดในตู้แช่แข็งสองตู้ขายหมดแล้ว

เมิ่งเสี่ยวป๋อชายที่มีความแข็งแกร่งคว้าไปมากที่สุด แฟนสาวของเขามองด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและอธิบายว่า

“เสี่ยวป๋อเป็นคนกินจุ ในหนึ่งวันเขากินอาหารมากกว่าคนธรรมดาจำนวนสามเท่า ฉันขอโทษทุกคนด้วยนะคะ บ้านฉันเลี้ยงหมูเอาไว้ตัวหนึ่ง ไม่มีทางเลือกจริง ๆ”

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนส่งเสียงหัวเราะดังลั่น

เมื่อสือจื่อเยว่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้อง เธอก็ออกมาด้วยท่าทางงัวเงีย แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นห้องนั่งเล่นที่เปลี่ยนไป

“พี่เถาจื่อ พี่ทำแบบนี้มันเบี่ยงเบนความทุ่มเทของพี่ชายของฉันนะ นับวันเขาคงยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่อยากออกไปทำภารกิจด้านนอกและนอนสบาย ๆ อยู่ที่บ้านดีกว่า”

ซูเถาบีบแก้มของเธอ “เธอหรือเปล่าที่ไม่อยากไปโรงเรียน อ้อ แล้วเมื่อไหร่พี่ชายของเธอจะกลับมาเหรอ นี่ก็ผ่านมาสองสามวันแล้ว”

“กลับมาแล้วเมื่อคืน แต่ว่าได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้นอนอยู่ในห้องพักฟื้น”

[1] เถาฮวาหยวน คือ แดนสุขาวดี เป็นดินแดนที่มีแต่ความสุข

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *