ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 143 ความสามารถที่หลากหลาย

Now you are reading ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก Chapter 143 ความสามารถที่หลากหลาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 143 ความสามารถที่หลากหลาย

ตอนที่ 143 ความสามารถที่หลากหลาย

“เถ้าแก่ซู”

ซูเถาต้องการได้ยินบางอย่างจากน้ำเสียงของเขา แต่น่าเสียดายที่กู้หมิงฉือซ่อนมันไว้เป็นอย่างดี และพูดทักทายอย่างใจเย็น

“สวัสดีตอนเย็น บอสกู้ มีอะไรหรือเปล่า”

กู้หมิงฉือเงียบไปสองวินาทีจากนั้นก็พูดอย่างอธิบายไม่ได้

“ช่วงนี้ระวังหมอกหนาทึบรอบ ๆ ภูเขาผานหลิวด้วย ถ้าคุณพบมันเข้า ก็จุดไฟไล่แล้วมันจะสลายไป”

เมื่อเขาพูดจบเขาก็กำลังจะวางสาย ซูเถาเหมือนจะมีความรู้สึกอะไรบางอย่างผุดขึ้นในใจ เธอจึงโพล่งออกมา

“อย่าเพิ่งวาง! บอสกู้กำลังเตือนฉันว่าถานหย่งมีผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่ในมือเหรอ? ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร คุณกำลังหลอกฉันหรือเปล่า ในขณะที่ฉันทำให้ถานหย่งขุ่นเคือง คุณกลับบอกว่าไม่ต้องการมีปัญหากับฉัน คุณทำแบบนั้นทำไม”

แต่ครั้งนี้กลับได้รับคำตอบด้วยการวางสาย

ซูเถาพูดไม่ออกชั่วขณะ จ้องไปที่เครื่องมือสื่อสารอย่างมึนงง และอยากจะทะลุเข้าไปลากกู้หมิงฉือออกมาเขย่าคอเพื่อถามให้ชัดเจน

ซูเถาฟังคำแนะนำของเขา และบอกชีอวิ๋นหลันในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อให้คอยสังเกตหมอกหนาทึบ และถ้าพบมันเข้าก็ให้เรียกหั่วเสอเพื่อจุดไฟ

เมื่อหั่วเสอได้รับแจ้ง เขาก็ทุบหน้าอกด้วยมือขวาเพื่อสัญญาว่า

“ไม่ว่าหมอกหรือควันอะไร ถ้าเจอไฟของผมก็ต้องสยบลง”

และเขาก็ส่งสัญญาณมือให้ซูเถาอย่างภาคภูมิใจ ในพริบตาเดียวเปลวไฟสีน้ำเงินสองดวงก็อยู่ระหว่างมือของเขา พันเข้าด้วยกันราวกับงูเลื้อยเคี้ยวคด

ทันใดนั้นซูเถารู้สึกว่าอากาศรอบตัวเธอเริ่มมีกลิ่นเผาไหม้ ทำให้ต้องถอยหลังไปก้าวใหญ่

เหลยสิงตีเข้าที่ด้านหลังศีรษะของหั่วเสอ

“เก็บพลังซะ นายไม่เห็นหรือว่าเถ้าแก่ซูกำลังจะถูกเผา ไปได้แล้ว อย่ามัวแต่มาแหย่เธออยู่ตรงนี้”

หลังจากขับไล่หั่วเสอออกไป เขาก็พูดกับซูเถาว่า

“ชวีจิ้งอวิ๋นโทรหาผมอีกครั้งตอนหกโมงเช้าวันนี้ ผมทำทีตกลงกับเธอแล้ว และผมก็ได้ยินมาว่ากู้หมิงฉืออพยพคนของสถานีเก่าออกไปในชั่วข้ามคืน มีบางคนที่ไม่ต้องการออกไป ก็ถูกเขาสั่งฆ่าอย่างเลือดเย็น กลิ่นเลือดนั้นดึงดูดซอมบี้ระลอกเล็ก ๆ เข้ามา ทำให้ถานหย่งและพวกไม่ได้นอนทั้งคืน”

ซูเถาตกใจมาก กู้หมิงฉือตั้งใจทำลายสถานีเก่าทิ้งเสียสิ้นซากแต่ถ้าเขาไม่ยืนหยัดเคียงข้างเธอ เขาคิดจะทำอะไร

เหลยสิงพูดต่อ “ถานหย่งกำลังจะอกแตกตายด้วยความโกรธ เดิมทีเขาคิดว่าผู้ที่ไม่เต็มใจจะไปกับเขา เขาก็แค่พาตัวไปขังหรืออะไรสักอย่าง แต่ใครจะรู้ว่ากู้หมิงฉือนั้นโหดเหี้ยม เขาเลือกที่จะฆ่ามากกว่าที่จะปล่อยไป”

ซูเถาถามว่า “ฉันจำได้ว่าคนเหล่านี้ มีหลายคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ?”

เหลยสิงพยักหน้า “ใช่ พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้าที่กู้หมิงฉือรับมาจากที่ต่าง ๆ ครึ่งหนึ่งของพวกเขายังเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และคนที่ไม่ต้องการไป อาจถูกถานหย่งล้างสมองได้”

ซูเถาเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า

“ตราบใดที่กู้หมิงฉือไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของเรา ก็จัดให้เขาอยู่ในความเสี่ยงระดับปานกลาง กัปตันเหลย ฉันต้องการรบกวนคุณเพื่อทำความรู้จักกับผู้ที่มีพลังวิเศษที่สถานีเก่า ฉันต้องการดูว่าเราต้องการพลังวิเศษอะไรเพื่อมาป้องกัน”

เหลยสิงตกลงและพูดว่า

“ผมไม่ได้รู้จักพวกเขาทุกคน แต่ผมเคยจัดการกับพวกเขามาบ้างแล้ว ผมจะเล่าให้คุณฟังคร่าว ๆ ฟังดูแปลก ๆ หน่อยนะ แต่มันมีวิธีแก้ปัญหา”

“อย่างเช่น ถานหย่งมีคนรักอยู่คนหนึ่ง ถือว่าเป็นผู้หญิงที่เขาชื่นชอบมากที่สุด และที่สำคัญที่สุดความสามารถที่เรียกว่ามี๋อิน ซึ่งเป็นพลังทางจิต เธอมีเสียงดี ร้องเพลงไพเราะ สามารถทำให้คนแห่ไปหาเธอ ลุ่มหลง บูชาเธอเสมือนเทพเจ้า พูดง่าย ๆ ก็คือเธอเป็นผู้นำลัทธิ”

“เมื่อถึงเวลาก็แค่หาอะไรอุดหู”

“อีกทั้งยังมีบุคคลที่มีความสามารถที่เรียกว่าอาทิตย์อัคคี ในตอนที่ฟ้าสว่าง เขาผู้นี้สามารถรวบรวมพลังของดวงอาทิตย์เพื่อสร้างลำแสงที่มีพลังการทำลายล้างสูง มันสามารถยิงทะลุวัตถุส่วนใหญ่ได้ เช่นเดียวกับเลเซอร์ อานุภาพของมันรุนแรงมาก แต่คุณไม่ต้องกลัวเขา แล้วก็ยังมีน้องชายในทีมของผมที่มีความสามารถสะท้อน ซึ่งสามารถสะท้อนการโจมตีทั้งหมดด้วยความรุนแรงที่เท่ากัน”

“แล้วก็…”

ซูเถาตกตะลึง ความสามารถมีหลากหลายขนาดนี้เชียวหรือ

เมื่อเหลยสิงพูดมาถึงตอนท้าย ก็ได้ข้อสรุป

“พลังความสามารถของคนที่อยู่ที่สถานีเก่าที่ฉันประทับใจมีอยู่ไม่กี่คน นอกนั้นจืดชืดมาก ตัวอย่างเช่น พวกเขามีพลังวิเศษที่จะทำให้คู่ต่อสู้อยากขับถ่ายในทันใด นอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้วยังน่าเกลียดอย่างมาก”

“ยังมีพลังวิเศษที่เหมือนกับโรคประสาทที่เรียกว่าอลิซ ศีรษะของเธอสามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้ ทุกคนบอกว่าเธอดูเหมือนกระต่ายทั้งคำพูดและการกระทำของเธอล้วนไร้สาระ”

ซูเถากล่าวอย่างจริงใจว่า “น่าทึ่งมาก”

เหลยซิงกล่าวว่า “เป็นเรื่องมหัศจรรย์แต่ไร้ประโยชน์ จากคนพันคน มีเพียงสิบคนเท่านั้นที่สามารถปลุกพลังขึ้นมาได้ แปดในสิบคนมีพลังที่อ่อนแอ สามารถพูดได้ว่า คนที่ทรงพลังคือหนึ่งในพันเท่านั้น”

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนที่สถานีเก่ามาหากลุ่มเป้าถูเพื่อขอความร่วมมือ พวกคุณสิบสี่คนแต่ละคนเป็นหนึ่งในพัน ฉันมีความสุขจริง ๆ” ซูเถาตระหนักได้ขึ้นมา

เหลยสิงยินดีเป็นอย่างมากที่เธอชื่นชม เขาแสดงรอยยิ้มผ่านดวงตา “ขอบคุณสำหรับคำอวยพร”

จากการเฝ้าระวังของฝ่ายรักษาความปลอดภัยเป้าถู ซูเถารู้สึกโล่งใจขึ้น 99%

ในที่สุด เธอก็สามารถวางมือเพื่อจัดการกับกิจการภายในของเถาหยางได้

ประการแรก ห้องชุด 3 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่นห้องแรกถูกปล่อยเช่า ซึ่งประกอบไปด้วยครอบครัวที่มีสมาชิกห้าคน ซึ่งมีผู้ใหญ่สี่คนและเด็กหนึ่งคน

นอกจากนี้ ห้องไม่กี่ห้องที่ว่างก่อนหน้านี้ก็ถูกปล่อยเช่าอีกครั้ง ทำให้ซูเถามีรายได้ 470,000 เหลียนปัง

เงินถูกโอนเข้าบัญชีกลาง ทำให้มีสภาพคล่องถึง 850,000 เหลียนปังในบัญชี

ยังไม่รวมรายได้ของภูเขาผานหลิวในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมและรายได้ของพื้นที่เพาะปลูก

ซูเถามองดูยอดเงินในบัญชีแล้วพอใจมาก ‘เงิน’ เป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้กับผู้คนได้จริง ๆ

ทันทีหลังจากนั้น จวงหว่านก็มาหาเธอเพื่อหารือเกี่ยวกับการรับสมัครพนักงานขายผลผลิตจากพื้นที่เพาะปลูก

“เฉียนหลินคิดจะรับสมัครคนสองคน แต่ฉันคิดว่ามันอาจไม่เพียงพอ ฉันต้องหาคนสองคนเพื่อไปรับคนจากตงหยางมาเพื่อรับผัก ไม่เช่นนั้นทุกครั้งที่คนจากตงหยางจะมา เฉียนหลินจะต้องหาคนเพื่อไปทำงานให้ เป็นการดีกว่าที่จะรับสมัครคนเพื่อมาทำงานนี้โดยเฉพาะ”

“ในอนาคตถ้าเราสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์ได้หลายชนิดขึ้น ก็ต้องมีคนจัดการและบำรุงรักษาเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ นอกจากนี้ยังต้องมีคนที่คอยเก็บเกี่ยวและดูแลผักที่โตเต็มที่ และเตรียมการก่อนการขาย เช่น การถนอมอาหาร ตัดสินจากภาระงานปัจจุบัน เหมือนว่ายังมีงานที่ต้องทำอีกมาก จะจ้างแค่สองคนเหรอ”

ซูเถารู้สึกว่าจวงหว่านเป็นคนคิดอย่างรอบคอบ ดังนั้นเธอจึงตกลงโดยไม่ลังเลและถามว่า

“ฉันต้องการสร้างแผนกทรัพยากรบุคคลและแผนกธุรการในอนาคตอันใกล้ คุณเห็นชอบหรือเปล่า? แผนกทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบในการสรรหาบุคลากร ตลอดจนการดูแลพนักงาน กิจกรรมและสวัสดิการของพนักงาน ธุรการคืองานปัจจุบันของคุณเป็นหลัก รับผิดชอบการคัดกรองรายชื่อผู้เช่า การเช็กอิน-เช็กเอาต์ของผู้เช่า บริการผู้เช่า และการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านความสะอาด”

นี่คือสิ่งที่ชายชรากู้แนะนำ หากต้องการบริหารบริษัทหรือองค์กรให้ดี ต้องแยกออกมาเป็นแผนก และพนักงานก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี

จวงหว่านคนเดียวต้องดูแลเรื่องทรัพยากรบุคคลและงานธุรการ มันเหนื่อยเกินไป

จวงหว่านกล่าวว่า “คนที่ใช้เวลาอยู่กับคุณมากที่สุดคนนั้นน่ะ ฉันขอเลือกคนนั้น”

ซูเถาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ถ้าอย่างนั้นเรามาพูดเรื่องบุคลากรกัน คุณควรหาคนที่เหมาะสมมาดูแลงานบริหารเร็ว ๆ นี้ แต่คุณก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำการฝึกอบรมปฐมนิเทศผู้มาใหม่”

จวงหว่านพยักหน้า “ไม่มีอะไรยาก แล้วฉันจะประกาศการรับสมัครพนักงานในภายหลัง เฉียนหลินกำลังต้องการคนอย่างเร่งด่วน”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *