Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ 1017

Now you are reading Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ Chapter 1017 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

GGS:บทที่ 1017 ก็แค่เถ้าธุลี

ข่าวของสมาร์ทโฟนกาลเวลาได้ถูกส่งต่อกันไปอย่างรวดเร็ว เดิมที่แล้วด้วยซูจิ้งเป็นคนดังอยู่แล้ว งานแถลงข่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนกาลเวลาของเขาจึงเป็นสนใจมากอยู่แล้ว
และยิ่งมีข่าวว่าสมาร์ทโฟนกาลเวลาของเขานั้นมีระบบอัจฉริยะแสนล้ำและระบบพลังงานสุดอึดยิ่งทำให้ข่าวนี้แพร่กระจายเร็วยิ่งกว่าเดิม
รวดเร็วพอที่จะทำให้ชาวเน็ตร้อนลนราวกับโดนเลือดไก่สาดก็ไม่ปาน
“ฉันยอมรับเลยจริงๆว่าสมาร์ทโฟนกาลเวลานี่โคตรเท่”
“ไหนจะระบบอัจฉริยะสุดล้ำนั่นอีก ฉันก็อยากได้สักเครื่องจัง”
“ฉันเองก็พอนึกออกนะว่าในอนาคตจะมีสมาร์ทโฟนล้ำๆแบบนั้น แต่ไม่คิดว่าฉันจะมีโอกาสได้เห็นมันได้เร็วขนาดนี้”
“ถ้าหากว่ามีระบบอัจฉริยะสุดล้ำขนาดนั้นล่ะก็ไม่แปลกที่จะตื่นเต้นกันขนาดนั้น ถึงแม้มันจะดูแพงไปหน่อยแต่ฉันว่าไม่ได้แพงเกินไปเมื่อเทียบกับสมรรถนะสุดล้ำนั่น แต่ตอนนี้ฉันก็ยังคว้าไม่ไหวอยู่ดี”
“เฮ้ ดูความอึดของแบตสิ มันอยู่ได้นานจนกว่าเครื่องจะระเบิดได้เลยนะ”

“ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าทำไมถึงเรียกกลุ่มทุนห้วงเวลาและกาลอวกาศ นั่นก็เพราะว่าเทคโนโลยีของพวกเขาอยู่เหนือกาลเวลาในยุคสมัยปัจจุบันนี่เอง”
“ฉันขอถอนคำพูดที่ว่าไว้ก่อนหน้านี้ว่าสมาร์ทโฟนกาลเวลาไร้สาระนะ ตอนนี้ฉันอยากได้สักเครื่องบ้างจริงๆ”
“นี่ฉันพึ่งจะเปลี่ยนโทรศัพท์ไปเองนะ นี่ต้องเปลี่ยนอีกแล้วเหรอเนี่ย”
“ฉันเองก็ว่าจะเปลี่ยนเหมือนกันนะ ใครจะไม่อยากซื้อสมาร์ทโฟนเจ๋งๆที่ประเทศจีนผลิตได้เองแบบนี้กันล่ะ”
“เฮ้อ ใครจะไปคิดว่าขนาดซูจิ้งยิ่งวุ่นวายขนาดนั้นยังมีเวลาไปคิดค้นสมาร์ทโฟนเจ๋งๆแบบนี้ได้กันล่ะ เขานี่เทพโดยแท้จริงๆ”
“ซูจิ้งนั้นเทพมาตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะล่วงลงมาแม้แต่น้อยเลยนะ”

ณ บริษัทฮัวเว่ย ผู้จัดการระดับสูงคนหนึ่งที่ได้ยินข่าวนี้เป็นคนหนึ่งที่แสดงท่าที่ประหลาดใจออกมา
“ระบบอัจฉริยะเหรอ ล้อกันเล่นใช่รึเปล่า”
“เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นความจริงนะ สมาร์ทโฟนกาลเวลานั่นมีระบบอัจฉริยะที่ต่างกับของแอปเปิ้ลอย่างสิ้นเชิง”
“ยิ่งไปกว่านั้น สมาร์ทโฟนนั่นสามารถเปิดใช้งานได้เกินกว่า 24 ชั่วโมงซะอีก”
“พระเจ้า ซูจิ้งจะไม่น่ากลัวเกินไปแล้วเหรอ”
“เรื่องนี้เราประมาทไม่ได้ ตอนนี้คณะผู้บริหารเตรียมจะการประชุมแล้ว น่าจะเริ่มในอีกไม่นานนี้”

เหล่าพนักงานอาวุโสของซัมซุงกำลังจะกลุ่มคุยกันเรื่องของซูจิ้งอย่างหวาดเกรง
“อยู่ๆประเทศจีนจะไปมีเทคโนโลยีล้ำหน้าแบบนั้นได้ยังไงกัน”
“เป็นไปไม่ได้น่า ก่อนหน้านี้เราตรวจสอบดูแล้วยังพบว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนของจีนยังล้ำหลังเราอยู่เลยนี่นา อยู่ๆทำไมถึงได้ล้ำหน้ากว่าพวกเราคนละระดับแบบนี้ได้กัน”
“ถ้านี่เป็นเรื่องจริงๆล่ะก็ไม่ใช่เรื่องดีแล้ว พวกเราต้องประชุมกันเดี๋ยวนี้”

ทางฝั่งแอปเปิ้ล ผู้จัดการระดับสูงเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นเดียวกัน
“ระบบอัจฉริยะ…แถมยังล้ำหน้ากว่าเราอีกงั้นเหรอ”
“ผมได้ดูงานเปิดตัวนั่นด้วยตัวเองแล้ว ฉากที่เกิดขึ้นนั่นราวกับว่าผมกำลังได้ดูหนังแนววิทยาศาสตร์ก็ว่าได้ มันช่างดูมหัศจรรย์อย่างมากชนิดที่เทคโนโลยีที่เราใช้ก็ยังเทียบไม่ได้ในตอนนี้
ถึงมันจะเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่เราตั้งเป้าไว้ก็จริงแต่พวกเรานั้นยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีถึงจะทำได้ คราวนี้ประเทศจีนทำได้แล้วจริงๆ”
“ฉันเองก็พอจะได้ข่าวเรื่องสมาร์ทโฟนกาลเวลามาก่อนหน้านี้แล้วเหมือนกัน เป็นความผิดของพวกเราเองที่ไม่ได้ใส่ใจก่อนหน้านี้”
“ก็นะ ใครจะไปคิดได้ว่าอยู่ๆพวกเขาจะมีเทคโนโลยีล้ำหน้าขนาดนี้ได้กัน”

นอกจากนี้ บริษัทสมาร์ทโฟนต่างๆอย่างวิโว ออปโป กลอรี่ ซีทีอี จินลิ และบริษัทต่างๆทั้งในและต่างประเทศต่างก็ตื่นตัวกันในทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ จะเรียกได้ว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งนั้นเหนือกว่าที่คิดจนตีแสกหน้าของพวกเขาให้หงายหลังไปเลยก็ว่าได้
ก่อนหน้านี้ไม่มีบริษัทไหนเลยที่ใส่ใจการมีอยู่ของสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่ใช่ศัตรูแม้แต่น้อย
แต่ผลที่ออกมาก็คือพวกเขานั้นดูถูกศัตรูมากเกินไปอย่างแท้จริง

หลังจากที่ผู้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการสมาร์ทโฟนได้เห็นยอดการสั่งซื้อสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งต่างก็ตกตะลึง สมาร์ทโฟนกาลเวลาในวันแรกนั้นสามารถขายได้ห้าหมื่นเครื่อง วันที่สองเจ็ดหมื่นเครื่อง และในวันที่สามอีกหนึ่งแสนเครื่อง
เรียกได้ว่าเพียงสามวันเท่านั้น ยอดขายของสมาร์ทโฟนกาลเวลาขายได้เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนของต่างประเทศได้เรียบร้อยแล้ว แถมจะนวนเหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดราวกับติดจรวด
ถึงแม้ว่าโดยปกตินั้น การที่จะมีสมาร์ทโฟนยี่ห้อใหม่เข้ามาในตลาดได้ต่อให้มีการรับประกันมากมายสักแค่ไหนก็ตาม
ผู้คนมักจะไม่ได้สนใจที่จะซื้อหามาตรอบครองแต่อย่างใด นี่คือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งๆที่โทรศัพท์ยี่ห้อนั้นมีราคาเพียงหกพันหยวนเท่านั้น
แต่กับสมาร์ทโฟนกาลเวลาที่มีราคาสูงล้ำแล้ว ผู้คนกลับต่าวถวิลหามาครอบครองอย่างช่วยไม่ได้ เหตุผลนั่นก็เพราะว่าการได้ครอบครองสมาร์ทโฟนกาลเวลานั้นสำหรับพวกเขาแล้วเปรียบได้ดั่งการเปิดประตูสู่โลกยุกอนาคตอย่างแท้จริง
นี่ทำให้เหล่าผู้คนในวงการสมาร์ทโฟนที่คาดการณ์เกี่ยวกับยอดขายของสมาร์ทโฟนกาลเวลาเมื่อตอนที่เห็นราคาแล้วคิดว่าจะได้กี่เครื่องนั้นต่างก็ต้องล้มหงาย
ผิดกับกลุ่มทุนห้วงเวลาและกาลอวกาศที่ไม่ได้ใส่ใจผลการคาดการณ์ของคนพวกนี้ แถมยังตะแสกหน้าด้วยการทุ่มเม็ดเงินไปกับการโฆษณาจนเป็นที่ได้ยินกันไปทั่ว
“สามร้อยเครื่อง ทำไมยอดขายของพวกเราถึงได้แค่สามร้อยเครื่องกัน ห้ะ” ฮัวหยุนชูตะคอกด้วยเสียงอันดังลั่นออกมาชั่วขณะหนึ่ง สมาร์ทโฟนรุยจินของเขานั้นขายในวันเปิดตัววันแรกได้ห้าร้อยเครื่อง วันที่สองที่สี่ร้อยเครื่อง และในวันนี้ สมาร์ทโฟนของเขาขายได้แค่สามร้อยเครื่อง จำนวนพวกนี้เรียกได้ว่าต่ำกว่ายิ่งกว่าต่ำจากเป้าที่เขาตั้งเอาไว้

“พวกเราพยายามเต็มที่แล้วครับ แต่ว่าทำยอดได้เพียงแค่นี้จริงๆ” คนกลุ่มหนึ่งได้พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“พวกแกรู้กันบ้างรึเปล่าว่าสมาร์ทโฟนกาลเวลานั่นขายได้วันหนึ่งเท่าไหร่ หนึ่งแสนเค…ไม่สิหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเครื่อง หนึ่งแสนหนึ่งหมื่อนเครื่องเลยนะเว้ย
ต่อให้สมาร์ทโฟนของพวกเรานั้นจะเป็นของในประเทศแต่พวกแกก็ไม่ควรจะทำยอดได้เพียงแค่สามร้อยเครื่องแบบนี้” ฮัวหยุนชูยังพูดออกมาด้วยเสียงอันดังลั่นและดุร้าย

“เอ่อ…ผมคาดว่าน่าจะเป็นเพราะสมาร์ทโฟนกาลเวลานั่นแหล่ะครับ ตอนนี้สมาร์ทโฟนนั่นได้รับความนิยมอย่างมากจนทำให้ไม่มีลูกค้าที่ไหนมาสนใจกับสมาร์ทโฟนของพวกเรา” พนักงานที่รับผิดชอบด้านการตรลาดจนใจอย่างมากที่จะต้องพูดออกมาแบบนี้
เพราะมันเป็นความจริงที่สมาร์ทโฟนกาลเวลาไม่เพียงจะตีสมาร์ทโฟนที่ผลิตในประเทศจนแตกยับ
แม้แต่สมาร์ทโฟนจากต่างประเทศที่เป็นอันดับต้นๆในตลาดสมาร์ทโฟนของจีนต่างก็ต้องแตกกระเจิงกันไปในทันที
ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ล ซัมซุง ฮัวเว่ย และยี่ห้ออื่นๆในตลาดสมาร์ทโฟนนี้ยอดขายก็ต่ำตมราวกับจะเลียดพื้นเช่นเดียวกัน แล้วโทรศัพท์ที่พึ่งจะเปิดตัวไปอย่างรุยจินจะไปเหลืออะไร
เอาจริงๆสมาร์ทโฟนรุยจินนั้นไม่ได้แย่แต่ประการใดเลยสักนิด เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนกาลเวลาแล้วแต่ให้ดีขนาดไหนก็ไม่ต่างอะไรไปจากเถ้าธุลีที่เล็กน้อยมากจนเทียบกันไม่ได้แต่อย่างใด
“เห้ออออ เป็นผมเองครับที่ผิด ผมไม่น่าจะเสนอความคิดแย่ๆอย่างการเปิดตัววันเดียวกับสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งเลยจริงๆ” หนุ่มหน้าหล่อพูดออกมาอย่างยอมรับผิด

ใบหน้าของฮัวหยุนชูในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย เขากัดฟันของตัวแน่นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ต่อให้ลูกน้องของเขาคนนี้เป็นคนเสนอความคิดนี้ยอมรับผิดออกมาก็จริง
แต่ความจริงแล้วต่อให้ลูกน้องของเขาไม่เสนอมาเขาก็คิดอยู่แล้วว่าจะทำแบบเดียวกันอยู่แล้ว ซึ่งนี่เองทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้
แต่เดิมแล้วสมาร์ทโฟนรุยจินและสมาร์ทโฟนกาลเวลานั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่าเจาะกลุ่มตลาดคนละกลุ่มกันอยู่แล้ว
หากว่าคู่แต่สูงของฮัวหยุนเฟยนั้นเป็นคู่แข่งที่มุ่งเน้นจะเจาะกลุ่มตลาดระดับเดียวกันล่ะก็พวกเขานั้นสามารถชนะได้อย่างสบายๆ
ส่วนสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งนั้น เหล่าผู้ซื้อจะนำไปเทียบกับสมาร์ทโฟนต่างประเทศอย่างไอโฟนหรือไม่ก็ซัมซุง
พวกเขาจะแค่มองว่าสมาร์ทโฟนรุยจินนั้นถึงแม้จะถูกกว่าแต่ก็ดีเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังเหล่านี้เท่านั้น ไม่มีทางเลยที่จะนำสมาร์ทโฟนรุยจินไปเทียบกับสมาร์ทโฟนกาลเวลาเพราะราคาที่ต่างกันมากจะดีกว่าก็ไม่แปลก

อีกอย่าง ต่อให้สมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งจะดีขนาดไหน แต่ด้วยราคาที่สูงล้ำแบบนี้ย่อมมีคนที่เอื้อมไม่ถึง และพวกเขาก็จะหันมามองกับสมาร์ทโฟนระดับรองที่ดีที่สุดอย่างสมาร์ทโฟนรุยจินอย่างแน่นอน
แต่ว่าเป็นเพราะเขานั้นต้องการท้าชนกับสุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งยุคอย่างไม่ดูหน้าดูหลัง ผลก็คือสมาร์ทโฟนรุยจินของเขานั้นต้องล้มไม่เป็นท่าแตกสลายสิ้นเป็นแค่เถ้าธุลีในทันที
การที่เขาทำการเปิดตัวในวันเดียวกับสมาร์ทโฟนของซูจิ้งนั้นทำให้ผู้คนต่างก็มองว่าสมาร์ทโฟนรุยจินของเขาเป็นเพียงแค่ของเด็กเล่นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ฮัวหยุนชูยังไม่ยอมแพ้แต่อย่างใด เขานั้นยังหาโอกาสกู้วิกฤตสถานการณ์ของเขาให้จงได้อยู่ดี แถมตอนนี้เขาเองก็รู้ด้วยว่าบริษัทอื่นๆในวงการสมาร์ทโฟนนั้นเริ่มตื่นตัวกับสมาร์ทโฟนกาลเวลาของซูจิ้งแล้ว
เพราะยังไงซะการที่สมาร์ทโฟนกาลเวลาทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนแตกได้ในทันทีที่วางขายแบบนี้ล่ะก็ยังไงซะย่อมส่งผลกระทบกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามแต่บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ร่วมมือกันในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ตอนนี้เหล่าผู้ซื้อทั้งหลายในประเทศจีนราวกับไม่เห็นสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นอยู่ในสายตาอีกต่อไป
สมาร์ทโฟนกาลเวลาในตอนนี้อย่างมียอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายในวันที่สี่อยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นเครื่อง วันที่ สองแสน วันที่หก สองแสนห้า และในวันที่เจ็ด สามแสนสองหมื่นเครื่อง
ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ไม่เพียงแต่ในประเทศจีนเท่านั้น สมาร์ทโฟนกาลเวลาเริ่มมีการหลุดออกไปยังต่างประเทศบ้างแล้ว
และเพียงช่วงเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ สมาร์ทโฟนกาลเวลาขึ้นแท่นอันดับหนึ่งได้เป็นที่เรียบร้อยจนทำให้คนที่รู้ต่างก็ตกตะลึง ช่างเป็นความเร็วที่น่ากลัวอย่างแท้จริง

จนในที่สุดแล้วเหล่าบริษัทในวงการสมาร์ทโฟนต่างกับเข้าใจในที่สุดว่า สมาร์ทโฟนกาลเวลาที่ถูกปล่อยออกมาขายในตอนนี้นั้น กลุ่มทุนห้วงเวลาฯไม่เคยคิดว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งแม้แต่น้อย
แม้แต่บริษัทแอปเปิ้ลพวกเขาก็ไม่เคยใส่ใจเลยสักนิด นับประสาอะไรกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นที่ตอนนี้สมาร์ทโฟนเหล่านั้นเปรียบได้ดั่งโทรศัพท์พื้นฐานทั่วไปไปแล้วได้กัน ต่อให้สมาร์ทโฟนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในตลาดระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนกาลเวลาก็ตาม
ด้วยความทรงพลังของสมาร์ทโฟนกาลเวลานั้นเมื่อเทียบกันแล้วล่ะก็ สมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆนั้นไม่ได้ต่างไปจากก้อนอิฐราคาแพงสักเท่าไหร่นัก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด