Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ 722

Now you are reading Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ Chapter 722 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขอให้คู่รักได้แต่งงานกัน

 

“พี่จิ้ง ขออีกเพลงเถอะนะ”

 

“อย่าเพิ่งหยุดเลย พวกเรายังฟังไม่เต็มอิ่มเลย”

 

“ถ้าเป็นเพลงรักล่ะ ฉันชอบ ฟีนิกซ์คู่รัก การกลับมา แล้วก็ ณ ชั่วขณะแห่งความรัก มากๆเลย”

 

“ฉันคิดว่าพี่จะต้องเพลงที่ทรงพลังแบบเดียวกับเพลงลำนำแห่งพระเจ้าแต่เป็นเนื้อหาแห่งความรักแน่ๆ มาทำให้โลกเต็มเปี่ยมด้วยความรักกันดีกว่า”

 

ซูจิ้งยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า “ถ้าไม่มีใครมาท้าประลองฉันอีกฉันก็ไม่อยากจะเล่นหรอกนะบอกไว้ก่อน”

 

ทันทีที่เขาพูดจบ เบ่ยเจียฮัวมองอย่างจนปัญญา ส่วนฉิวหยูจินทำได้แต่คิ้วขมวดพร้อมหัวเราะแหยๆออกมา

ใครจะไปหาญกล้าท้าสู้อีกได้หลังจากเพลงภูผาสูงและสายน้ำไหลริน กับลำนำแห่งพระเจ้าออกมา

แม้แต่นักดนตรีจริงๆยังต้องสยบด้วยซ้ำ

 

ซูจิ้งเห็นดังนั้นจึงพูดต่อไปว่า “สงสัยจะไม่มีแหะ งั้นฉันจะเล่นอีกเพลงแล้วกัน เพลงสุดท้ายนี้เป็นเพลงที่ฉันจะบรรเลงให้กับคู่หมั้นของฉัน แต่ก็ขอส่งเพลงนี้ให้กับทุกคนที่มีความรัก ขอให้ผู้คนทั้งโลกที่มีคู่รักจบลงด้วยการแต่งงานอย่างมีความสุขนะ”

 

ในห้องสตรีมตอนนี้ข้อความวิ่งกันให้พล่านไปหมด ในขณะเดียวกันที่ห้องเสื้อของฉือชิง ตงเจี๋ย และคนอื่นที่กำลังดูสตรีมของซูจิ้งหันไปมองฉือชิงด้วยความอิจฉาริษยาตาร้อนในทันที

ฉือชิงเองถึงกับผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นคนหันมา แต่ทุกคนก็ปล่อยผ่านไปหันไปมองหน้าจอต่ออย่างรวดเร็ว

มู่หรงเซียนเอ๋อ นาลันเฟย กู่หยุน หลี่ซวน ถังเซียวหยู และหญิงสาวคนอื่นต่างทำสายตาเป็นประกายออกมา และพวกเธอพยายามตั้งใจฟังอย่างดี

 

ซูจิ้งไม่พูดอะไรอีกต่อไป มือของเขาวางลงบนกู่จิ้ง ขณะเดียวกันคนอื่นๆรอบๆอย่างหลิวฉิง  เว่ยเสี่ยวหยวน และคนในห้องต่างเงียบกริบ เหมือนกับไร้ตัวตนไปเลยทีเดียว

 

เสียงกู่จิ้งค่อยๆดังขึ้นด้วยทำนองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีฝนตกอยู่ท่ามกลางคืนในฤดูร้อนอันอบอ้าว เสียงของกู่จิ้งกระจ่างใสเหมือนกับได้ยินเสียงน้ำกระทบลงบนดอกบัวบาน เหมือนกับเสียงหยดน้ำฝนสัมผัสและไหลลู่ลงไปตามกิ่งของใบไม้จนไหลลงไปในบ่อ แล้วเกิดน้ำกระเด้งขึ้นมาบนผิวน้ำ

 

เสียงของกู่จิ้งไหลไปอย่างข้าเหมือนกำลังอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างรู้สึกมีความสุขและรู้สึกหวานชื่น เหมือนกับหัวใจที่แห้งเหี่ยวกำลังเติมเต็มด้วยหัวใจที่นุ่มนวล

 

นานพอสมควรที่เพลงได้บรรเลงไป เว่ยเสี่ยวหยวนจ้องไปที่ซูจิ้งแบบจ้องเขม็ง ตอนนี้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกเลือดลมสูบฉีด หลิวฉิงมองไปบนท้องฟ้าทำมุมสี่สิบห้าองศาก่อนที่จะคิดในในว่าตอนนี้อยากหาแฟนให้ได้ซักคน ส่วนผู้จัดการหวังและคนอื่นๆในตอนนี้ดวงตาของพวกเขาเริ่มเปียกชื้นน้ำตาคลอ

 

“เพลงนี้เป็นเพลงที่ดีจริงๆ เหมาะกับเซียนเอ๋อยิ่งนัก” ผู้จัดการของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

แต่เมื่อเธอหันไปมองมู่หรงเซียนเอ๋อกลับพบว่าเธอนั้นไม่แสดงท่าทีอะไรทั้งๆที่ตอนแรกเธอคิดว่ามู่หรงเซียนเอ๋อในตอนนี้ต้องรู้สึกตื่นเต้นสุดขีดเมื่อเซียนเอ๋อได้ยินเพลงนี้เหมือนเธอ

 

“ช่างเป็นเพลงที่น่าประทับใจจริงๆ ฉันล่ะอิจฉาแฟนของซูจิ้งขึ้นมาทันทีเลยนะ” นาลันเฟยกล่าวชมออกมา

 

“ด้วยเพลงนี้ของซูจิ้งต้องทำให้ผู้หญิงหลายๆคนหลงรักเขาแน่นอน” ผู้จัดการสาวที่อยู่ข้างนาลันเฟยก็พูดออกมาอย่างเข้าใจความรู้สึกของลันเฟย ถ้ามีชายซักคนแต่งเพลงแบบนี้ให้เธอซักเพลง เธอเองจะรีบตกลงปลงใจในทันที

 

“พี่ชิง ฉันล่ะอิจฉาพี่จริงๆ” ณ ห้องเสื้อของฉือชิงเหล่าเด็กสาวต่างก็รู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้พวกเธอรู้สึกอยากให้มีใครซักคนมอบบทเพลงให้เธอบ้าง แต่เมื่อทุกคนหันไปมองที่ฉือชิงกลับพบว่าตอนนี้ฉือชิงเอาแต่จ้องหน้าจอคอมเขม็งโดยไม่รู้สึกหรือได้ยินอะไรทั้งสิ้น ทำให้พวกเธออดหัวเราะออกมาไม่ได้

 

ตอนนี้เหล่าเด็กสาวทั้งหลายที่รู้จักซูจิ้งอย่าง กู่หยุน หลี่ซวน ถังเซียวหยู และหลินฉีหยูต่างเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา

แน่นอนว่าพวกผู้ชายเองก็ไม่เว้น

ถ้าคนๆนั้นมีแฟน คนๆนั้นจะรีบโทรไปหาแฟนของเขาทันที

ถ้าไม่มีคนคนนั้นจะเกิดความรู้สึกอยากรีบหาให้ได้ซักคน

เพลงนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกสูงสง่าเท่าเพลงภูผาสูงและสายน้ำไหลริน

หรือทำให้ตกอยู่ในภวังค์อย่างเพลงลำนำแห่งพระเจ้า

แต่ก็ทำให้จิตในของผู้คนสั่นไหวและชุ่มชื้นเหมือนรดน้ำบนดินที่แห้งผาก

 

“ฉันร้องไห้แล้วอ่ะ”

 

“ฉันล่ะอิจฉาคู่หมั้นของพี่จิ้งจริงๆ”

 

“ฉันเสียใจมากเลย ทำไมคู่หมั้นของพี่จิ้งถึงไม่ใช่ฉันกันหล่ะ”

 

“สาวน้อยบรรทัดบนอ่ะ อย่าไปสนพี่จิ้งเขาเลยเขาน่ะมีคู่หมั้นแล้ว มาสนใจฉันดีกว่านะ”

 

ตอนนี้ห้องสตรีมได้กลับมาคึกคักกันอีกครั้งและมีการแจกรางวัลกันกระจายเต็มช่องแชท โดยส่วนมากคนที่ให้รางวัลเป็นผู้หญิง

 

ในขณะเดียวกัน ณ ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง รถบีเอ็มดับบิวสีขาวได้วิ่งเข้ามาจอดหน้าร้าน

มีชายหนุ่มหน้ายาวคนหนึ่งในชุดสูท เขาเข้าจัดสูทของเขาที่กระจกมองหลังก่อนที่จะก้าวออกมาจากรถพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่และเดินตรงไปในร้าน

 

เมื่อเข้าไปในร้านบริกรได้ถามเขาว่า “ท่านมากี่ที่คะ”

 

“ผมมาหาคุณหวังหยานครับ” ชายหน้ายาวบอกออกไป

 

บริกรถึงกับอึ้งไปในทันที ทันใดนั้นพนักงานสูงวัยอีกคนได้ก้าวเข้ามา ดูเหมือนเธอจะรู้จักชายหน้ายาวเป็นอย่างดี เธอได้เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า “สวัสดีครับคุณจาง ดิฉันเกรงว่าคุณหนูจะยังไม่ต้องการพบคุณใจตอนนี้ คุณกลับทีหลังจะได้ไหมคะ”

 

“ทำไมเธอไม่เดินขึ้นไปถามซะก่อนหล่ะ บางทีเธออาจจะลงมากินมื้อค่ำกับฉันก็ได้นะ” ชายหน้ายาวพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ เพราะว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่”

 

“เกิดอะไรขึ้น” ชายหน้ายาวตกใจในทันทีที่ได้ยินพร้อมถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง “ใครรังแกเธอกัน บอกฉันมาสิฉันจะไปจัดการมันเอง หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น รีบบอกฉันมาเร็ว”

 

“ดิฉันก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าคุณหนูดูรายการถ่ายทอดสดอะไรซักอย่างหลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมา”

 

“งั้นก็ไปถามเธอเซ่” ชายหน้ายาวเริ่มขึ้นเสียง

 

“ในเมื่อคุณอยากรู้มากกว่านี้งั้นดิฉันขอให้คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปถามรายละเอียดดู

แต่คุณเองก็อย่าหวังให้มากนักล่ะ” สาวบริกรสูงวัยได้เดินขึ้นชั้นสองในส่วนสำนักงานแทบจะในทันทีเธอได้ลงมาพร้อมบอกกับชายหน้ายาวว่า “คุณหนูไม่ต้องการจะเห็นหน้าคุณค่ะ”

 

ชายหน้ายาวทำได้แต่เดินออกไปนอกร้านด้วยใบหน้าเซ็งๆ

เขาอยากรู้ว่ารายการถ่ายทอดสดอะไรที่ทำให้หวังหยานร้องไห้ได้ขนาดนี้เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูว่าตอนนี้มีรายการอะไรที่กำลังถ่ายทอดอยู่บ้าง

ไม่นานนักเขาก็พบว่ามีเพื่อนเขาบางคนกำลังส่งข้อความหนึ่งซ้ำๆกันจึงเปิดดูก็พบว่าเป็นการบรรเลงเพลงด้วยกู่จิ้งด้วยใครซักคนหนึ่ง

แต่เมื่อเขาเห็นข้อความว่า “ซูจิ้งสตรีมการบรรเลงเพลงจากกู่จิ้ง” เขาก็แทบจะเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เขาพบว่ามีเพลงสามเพลงที่ซูจิ้งได้สตรีมเอาไว้ เขาไล่ฟังเพลงพวกนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเมื่อเขาได้ฟังเพลงสุดท้าย ใบหน้าของเขาโกรธจนเปลี่ยนสี เขาได้เขวี้ยงช่อดอกกุหลาบที่ถืออยู่ในมือลงพื้นในทันทีพร้อมตะโกนออกมาว่า “ซูจิ้ง แกจะล่อลวงผู้คนมากเกินไปแล้ว”

ถ้าจะให้พูดตามความจริงก็มีแต่เพลงสุดท้ายเท่านั้นที่เป็นปัญหาสำหรับชายหน้ายาว เฉพาะเพลงสุดท้ายเท่านั้นที่ทำให้เขารู้ในทันทีว่าทำไมหวังหยานถึงร้องไห้จะต้องเป็นเพราะท่วงทำนองของเพลงนี้แน่ๆ เขานึกไปถึงตอนที่ซูจิ้งเล่นเพลงที่ท่วงทำนองที่คล้ายๆกันอย่าง ณ ช่วงขณะแห่งรัก(ณ ช่วงขณะแห่งความสวยงาม) ทำให้เธอต้องร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง

 

ซูจิ้งไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าหวังหยานนั้นได้ดูการสตรีมของเขาด้วย

และยิ่งไม่รู้เข้าไปอีกว่าการที่เขาทำอย่างนั้นทำให้ใครคนหนึ่งเกลียดเขาอย่างสุดหัวใจ

เขาก็แค่อยากจะใช้เหรียญตราเทวฑูตในการเสริมสร้างพลังจิตของเขาแค่นั้นเอง

ในขณะเดียวกันเขาได้พูดในช่องสตรีมว่า “เพลงนี้มีชื่อว่า ”วันที่รักสองเราบรรจบ” ก็ได้แต่หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะ”

เพลงนี้ซูจิ้งได้มาจากห้วงเวลาฯล่าลี้ลับตำนานจีน เป็นเพลงที่บาเอี้ยแต่งให้กับนางฟ้ากู่หยิง

 

“ฉันชอบมัน ไม่สิรักดีกว่า”

 

“ชื่อเพลงอะไรนะ”

 

“ดีจริงๆที่ได้ฟัง เล่นต่อเถอะนะ เล่นอีกซักเพลง”

 

“ไม่เล่นแล้วหล่ะ สำหรับกู่จิ้งวันนี้ขอพอแค่นี้แล้วกัน” ซูจิ้งพูดขึ้นมาในห้องสตรีม ซึ่งตอนนี้มีแต่ข้อความคนที่ร้องขอให้เล่นเพลงต่อ บางคนส่งมาเป็นคำพูดเลยด้วยซ้ำ เอาจริงๆคือต่อให้ต้องฟังซูจิ้งเล่นกู่จิ้งทั้งวันก็ไม่มีทางพอได้เลย แต่ไม่ว่าจะยังไงซูจิ้งก็ไม่เล่นเพลงของเขาต่ออย่างแน่นอน ถ้าเล่นมากไปทุกคนจะเริ่มชินกับเขาและจะทำให้เหรียญตราเทวฑุตดูดซับพลังได้น้อยลง แถมจำทำให้ความสามารถของเหรียญตราจะไม่ค่อยได้ผลด้วย

 

“ตอนนี้อารมณ์ของฉันถึงขีดจำกัดแล้วล่ะ และตอนนี้ฉันก็ไม่มีอารมณ์เล่นเพลงใหม่ออกมาแล้ว เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะ” ซูจิ้งหยุดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงจะบอกอย่างนั้นไปแต่ไม่ได้หมายความว่าการสตรีมในวันนี้จะจบลงหรอกนะ เรามาหาอะไรที่มันตื่นเต้นทำกันดีกว่า แต่ก่อนหน้านั้นขอเตือนไว้ก่อนนะว่าคนที่หัวใจไม่ดีอย่าได้ดูเป็นอันขาด”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด