Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ 636

Now you are reading Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ Chapter 636 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การต่อสู้

ในตอนเช้าหลังจากที่ซูจิ้งลุกขึ้นมาแปรงฟันและล้างหน้า เขากำลังจะลงไปที่ชั้นล่างเพื่อที่เก็บของขยะต่อ แต่แล้วเขาก็เห็นนกแก้วทั้งเสี่ยวมู่และต้ามู่ที่บินเข้ามาพร้อมทั้งตะโกนว่า “มีคนมา เขาชื่อจูเสี่ยวฮัว ดูเหมือนเขาจะกำลังรีบด้วย”

“นี่คือไอ้หนูที่มีม้าร่างผอมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วใช่ไหม?” ทันใดนั้นดวงตาของซูจิ้งก็เปล่งประกาย เขารีบวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อเปิดประตู

“พี่จิ้ง พี่ทำอะไรกับม้าของผมเนี่ย? มันกลายเป็นม้าทรงพลังไปเลย” เห็นได้ชัดเลยว่าจูเสี่ยวฮัวมีความสุขอย่างมาก เขากระโดดโลดเต้นไปทั่ว

“มีอะไรเหรอ?” ซูจิ้งประหลาดใจ

“มันกลายเป็นม้าที่รูปงามมากและวิ่งเร็วมากด้วย มันบังเอิญวิ่งไปที่ชายหาด มีนักท่องเที่ยวหลายคนตื่นใจกับความเร็วของมันมากจนถึงขนาดเสนอเงินให้ 60,000 หยวนเลยด้วยซ้ำ พ่อแม่ผมกำลังคุยกับพวกเขาเรื่องราคาอยู่” จูเสี่ยวฮัวตื่นเต้นมาก

“60,000 เหรอ?” ซูจิ้งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก ถึงแม้ม้าร่างผอมจะสูงแต่มันก็ผอมเกินไปและมันก็ดูแก่มากด้วย แค่ขายได้ 10,000 หยวนก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่นี่มีคนเสนอให้ 60,000 หยวนเลยงั้นเหรอ?

ซูจิ้งแทบรอไม่ไหวที่จะไปชายหาดพร้อมกับจูเสี่ยวฮัว คู่รักวัยกลางคนที่กำลังจูงม้าร่างผอมอยู่กำลังต่อรองราคากับนักท่องเที่ยวหลายคน มีคนมากมายอยู่ล้อมรอบ ชาวบ้านใกล้เคียงหลายคนต่างก็ประหลาดใจ พวกเขาคิดว่าครั้งนี้ครอบครัวของจูเสี่ยวฮัวจะต้องหาเงินได้แน่ๆ

“นี่ม้าตัวเดียวกันกับที่ฉันเห็นเมื่อวานหรือเปล่า?” ซูจิ้งมองไปที่ม้าที่อยู่ต่อหน้าเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขารู้ว่ายิ่งสัตว์กินหญ้าจากโลกที่สมบูรณ์แบบเข้าไปมากเท่าไร มันก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่กระบวนการช้าและผลก็มีจำกัด ไม่ใช่เพราะหญ้าในโลกที่สมบูรณ์แบบที่ช่วยให้ม้าตัวนี้เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนแน่ๆ งั้นก็มีแค่คำอธิบายเดียว – มันน่าทึ่งมากที่หนึ่งในหญ้าที่ไม่รู้ชื่อที่ได้มาจากกองขยะครั้งล่าสุดจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าทึ่งขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม หนูและปลาที่กินหญ้าก่อนหน้านี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรจนถึงเช้านี้ มีเพียงม้าตัวนี้เท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่าการคาดหวังของซูจิ้งจะออกมาดีมาก หญ้าชนิดนี้จะดึงดูดและมีผลกับพวกม้าเท่านั้น

พร้อมกันนั้นนักท่องเที่ยวหลายคนก็เพิ่มราคาไปที่ 80,000 หยวนแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชายอ้วนวัยกลางคนเสนอที่ราคา 80,000 หยวน คนอื่นๆที่ประมูลอยู่ด้วยก็ถึงกับพูดไม่ออกและอยากที่จะถอนตัว ชายอ้วนวัยกลางคนใช้ข้อได้เปรียบในตอนนี้และพูดกับพ่อแม่ของจูเสี่ยวฮัวว่า “นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดแล้วที่ฉันจะเสนอให้ ฉันชอบม้าตัวนี้มากเป็นพิเศษ จึงให้ราคาที่สูงขนาดนี้ พวกคุณไปหาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว ฉันบอกได้เลยว่าไม่มีใครซื้อที่ราคาสูงขนาดนี้ได้หรอก”

พ่อแม่ของจูเสี่ยวฮัวเก็บสีหน้าดีใจไว้ไม่ได้ อันที่จริงตอนที่คนอื่นเสนอราคามาที่ 30,000 หยวน พวกเขาก็มีความสุขจะตายอยู่แล้ว ได้ฟังคนไม่กี่คนเถียงกันเรื่องราคาจนราคาขึ้นไปที่ 80,000 ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นจนแทบเป็นลม แล้วเขาก็ต้องเปิดปากเพื่อต่อรองบ้าง

“คุณลุงคุณป้า พวกคุณแน่ใจเหรอครับว่าอยากขายม้าตัวนี้?” อยู่ดีๆซูจิ้งก็พูดแทรกขึ้นมา อันที่จริงเขาไม่เห็นว่าม้าวิ่งได้เร็วแค่ไหนและเขาไม่แน่ใจเรื่องคุณค่าของมันด้วย อย่างไรก็ตามคนพวกนี้ยินดีที่จะจ่ายเงินมากขนดนั้นแค่เพียงเพราะได้เห็นมันวิ่ง ซึ่งพิสูจนืได้แล้วว่ามันวิ่งเร็วมากจริงๆ นั่นไม่ใช่ราคาของม้า ยังไงซะมันก็เพียงแค่กินหญ้าไปเมื่อวาน บางทีมันอาจจะยังไม่ได้ดูดซึมผลลัพท์อย่างแท้จริง อย่างน้อยมันก็ยังไม่ได้รับการฝึกที่ดี มันยังมีประสิทธิภาพที่รออยู่อีกมาก

“ถ้าไม่ขายแล้วจะให้ทำยังไงล่ะครับ?” เมื่อพ่อและแม่ของจูเสี่ยวฮัวเห็นซูจิ้ง พวกเขาก็แสดงท่าทางสุภาพ ถ้าไม่ใช่เพราะซูจิ้ง ม้าตัวนี้คงไม่เปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ในชั่วข้ามคืน พวกเขาจะต้องฟังซูจิ้ง อย่างไรก็ตามพวกเขาอดไม่ได้ที่จะกลัวว่าจะชวดโอกาสนี้ สำหรับพวกเขา เงิน 80,000 หยวนไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆเลย

“ถ้าพวกคุณอยากที่จะขายจริงๆ งั้นขายให้ผมได้ไหม? ฉันให้ 100,000 หยวน” ซูจิ้งพูดออกมาทั้งๆที่เขารู้ดีว่าทุกอย่างทุกการเปลี่ยนแปลงของม้าตัวนี้เกิดขึ้นก็เพราะเขา เขาจะซื้อมันกลับมาก็เพื่อตัวเองซึ่งดูเหมือนจะเป็นการขาดทุนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่ามันจำเป็นจะต้องซื้อ อย่างแรกเลยม้าตัวนี้ดูเหมือนจะมีศักยภาพที่มีประสิทธิภาพมาก อย่างที่สองมันจำเป็นที่จะต้องคอยสังเกตุผลกระทบของหญ้านั่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังไงซะการทดลองครั้งนี้ก็เป็นเพราะจูเสี่ยวฮัว จึงเป็นเรื่องดีที่จะให้รางวัลพวกเขาซัก 100,000 หยวน แล้วเงิน 100,000 หยวนก็ไม่ได้กระทบกับซูจิ้งเท่าไรด้วยจึงไม่มีอะไรที่จะต้องสนใจ

“100,000 หยวนงั้นเหรอ?” พ่อ, แม่ และจูเสี่ยวฮัวต่างก็ประหลาดใจ

ชายอ้วนวัยกลางคนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆก็เตือนให้เขาได้สติ ทันใดนั้นความไม่พอใจของเขาก็หายไปทันที เขาถอยหลังไปและไม่กล้าที่จะพูดอะไร เขาคิดกับตัวเอง นี่คือซูจิ้ง ชายที่ใกล้ชิดกับตระกูลหวังในเมืองหลวงและมีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน ไม่ต้องพูดถึงเงินแค่ 100,000 หยวนเลย เขาสามารถเสนอราคาที่สูงเกินกว่าใครจะสู้ได้ ถึงแม้เขาจะสู้ได้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะสู้อีกแล้ว ในเขตแดนของคนอื่น ก็ยังไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาอยู่ดี

ชาวบ้านที่อยู่รอบๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่รู้ว่าซูจิ้งกำลังทำอะไร ไม่ไกลจากนั้น ซู เฉินหงและจ้าวเหมิงเซียงของร้านอาหารทะเลเฉินหงอดไม่ได้และอยากที่จะแวะเข้ามาทักกับซูจิ้ง แต่ในอีกทางเมื่อเป็นเรื่องของสัตว์ ไม่มีใครเก่งเท่าซูจิ้งแล้ว บางทีเขาอาจจะได้เห็นอะไรบางอย่าง นอกจากนี้ซูจิ้งก็มีเงินมากมาย แค่เงิน 100,000 หยวนสำหรับเขาไม่เท่าไรหรอก งั้นปล่อยให้เขาจ่ายไปเถอะ

“งั้นผมจะขายให้คุณในราคา 80,000 หยวน” พ่อและแม่ของชูกระซิบกันอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา แน่นอนว่าพวกเขาอยากจะได้เงิน เงิน 20,000 หยวนก็เยอะสำหรับพวกเขาอยู่ดี แต่เพราะซูจิ้งม้าถึงได้มีราคาสูงขนาดนี้ จึงรู้สึกผิดที่จะคิดราคาแพงขนาดนั้น ในเมื่อคนอื่นเสนอที่ 80,000 หยวน งั้นก็จะขายที่ราคา 80,000 หยวน อันที่จริงพวกเขาก็ยังรู้สึกอายที่จะรับเงิน 80,000 หยวนจากซูจิ้งอยู่ดี จริงๆแล้วพวกเขาอยากได้เงิน 80,000 หยวนจากคนอื่นมากกว่า แล้วค่อยแบ่งเงินให้ซูจิ้งทีหลัง

“ฮ่าฮ่า มันก็แค่ 100,000 หยวนเอง ผมจะเอามันกลับไปฝึกอีก อย่าเปลี่ยนใจหรือรู้สึกผิดอะไรเลยนะครับ” ซูจิ้งพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่อยู่แล้ว” พ่อและแม่ของจูเสี่ยวฮัวต่างก็ยิ้มแย้ม พวกเขาเคยได้ยินเรื่องความสามารถในการฝึกสัตว์ของซูจิ้งมาแล้ว ม้าตัวนี้จึงถูกขายให้ซูจิ้ง บางทีหลังจากที่ฝึกแล้วราคามันอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยเพราะนี่คือฝีมือของซูจิ้ง พวกเขาไม่รู้สึกอิจฉาหรอก มันพอแล้วที่ขายได้ 100,000 หยวน

“งั้นเดี๋ยวผมจะโอนเงินให้เลย” ซูจิ้งพูดกับพ่อพร้อมทั้งขอรายละเอียดบัญชีด้วย แล้วซูจิ้งก็โอนเงิน 100,000 หยวนเข้าธนาคารให้เขาทันที พ่อและแม่ไปเช็คที่ธนาคารใกล้ๆและหลังจากที่ยืนยันแล้ว พวกเขาก็ความสุขไปตลอดทั้งวัน จูเสี่ยวฮัวเองก็มีความสุขอย่างมากด้วยเช่นกันเพราะวันนี้พ่อแม่เขาซื้อของกินอร่อยๆมาฉลองมากมาย

ซูจิ้งขี้ม้าและเข้าไปใกล้ถนน ถนนเส้นนี้อยู่ระหว่างพื้นที่ฟาร์ม มันเป็นถนนโคลนตรงๆและกว้างขวางมาก เพื่อที่จะใช้ขนส่งพืชผลด้วยรถแทรกเตอร์ ในเวลาปกติจะไม่มีใครอยู่บนถนนเลย

“ไปเลย!” จากคำสั่งของซูจิ้ง ทันใดนั้นม้าก็วิ่งออกไปด้วยขาทั้งสี่ข้าง ถึงแม้ซูจิ้งจะไม่เคยขี่ม้ามาก่อน แต่เขาก็เคยเลี้ยงม้ามาก่อน อย่างที่สองความสมดุลของร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งมาก นี่แค่ครั้งแรกที่เขาขี่ก็ทำได้เหมือนผู้เชี่ยวชาญแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะลุกขึ้นยืน เขาก็ไม่ตกลงมาหรอก ความเร็วในการออกตัวมันเร็วอย่างมาก หลังจากที่วิ่งมานานความเร็วก็เพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับที่เกินจริงอย่างมาก ถ้าพ่อและแม่ของจูเสี่ยวฮัวอยู่ที่นี่พวกเขาจะต้องประหลาดใจแน่นอน เมื่อเทียบกับความเร็วของจูเสี่ยวฮัวแล้วตอนนี้มันเร็วขึ้นมาอีกนิดหน่อย เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ม้าไม่ได้มีโอกาสได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

“เร็วจริงๆ!” ซูจิ้งถึงกับตกตระลึง เขาเคยเห็นคนอื่นขี่ม้ามาแล้ว ถึงแม้เขาจะเปรียบเทียบกับพวกเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ได้เลยว่าความเร็วของม้าตัวนี้เป็นระดับเฟิร์สคลาสเลยทีเดียว หลังจากวิ่งไปประมาณสองร้อยเมตร ซูจิ้งรู้สึกว่าความเร็วของม้านั้นเกินขีดจำกัด อย่างไรก็ตามเขายังคงวิ่งต่อไปอีกเจ็ดร้อยหรือแปดร้อยเมตรจนกระทั่งตำแหน่งเลี้ยวของถนนช้าลง

“วันอื่นพามันไปทดสอบความเร็วที่สนามม้ามืออาชีพ” ซูจิ้งมีความสุขมากและพาม้าร่างผอมกลับบ้าน เขาไม่ได้เอาหญ้าวิเศษให้มันกินแต่ให้เพียงหญ้าที่มาจากโลกที่สมบูรณ์แบบ เขานั่งคิดอยู่สักพักแล้วก็เปิดโปรแกรมคิวคิวและวีแชทเพื่อดูรายชื่อเพื่อน เมื่อเขาได้รู้ว่าฉินซู่หลานรู้เรื่องเกี่ยวกับการแข่งม้า จึงโทรหาเขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด