Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ 774

Now you are reading Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ Chapter 774 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

GGS:บทที่ 774 หลิวดาจูที่เปลี่ยนไป

 

ซูจิ้งได้ถอดหมวกและแว่นตากันแดดออก หญิงสาวที่นุ่งน้อยห่มน้อยคนนั้นกับเด็กหนุ่มขี้อายเหมือนเขาเห็นได้อย่างชัดเจนก็ได้อุทานออกมาเสียงดังลั่นว่า “ซูจิ้ง”

 

ทั้งสองรู้จักซูจิ้งเป็นอย่างดีว่าเขานั้นเป็นดาราที่สุดแสนจะเด่นดัง พวกเขาแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด

จะมีซักกี่คนที่เป็นเหมือนซูจิ้งได้กัน คนที่ทั้งหล่อ รวย ทรงพลัง ตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น

ถ้าพวกเขาสามารถเป็นได้แบบนี้บ้างแน่นอนต้องยกระดับคุณภาพชีวิตของตัวเองได้อย่างแน่นอน

ไม่ต้องนับเรื่องเงินก็ได้ขอแค่ได้อย่างอื่นสักครึ่งหนึ่งล่ะก็

พวกเธอจะไม่มานั่งเป็นเด็กดริ๊งแบบนี้อย่างแน่นอนเพราะถือได้ว่าเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองเรียบร้อยแล้ว

หญิงสาวเหล่านั้นเริ่มทำตาเล็กตาน้อยใส่ทันที

 

ซูจิ้งไม่ได้สนใจพวกเธอแม้แต่น้อย เขามานั่งข้างๆชายขี้อายคนนั้นแล้วถามออกมาว่า “นายใช่หลิวเซียวฮุยรึเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ รู้รึเปล่าว่าแม่นายห่วงนายมากแค่ไหน”

 

“พ่อของผมพาผมมาที่นี่ ผมจะกลับไปเองทีหลังครับ” หลิวเซียวฮุยหรือเด็กหนุ่มขี้อายคนนั้นได้มองซูจิ้งอย่างประหลาดใจ

พอนึกว่าเขามาที่นี่เพียงเพื่อจะพาเขากลับบ้านเนี่ยนะ นี่แม่ของเขาใช้มนต์อะไรกันแน่

ที่ผ่านมาเขาเองก็ได้เห็นเหมือนกันว่าเวลาแม่มองเห็นซูจิ้งแล้วทำท่าทางแปลกๆ แล้วเปลยขึ้นมาว่าซูจิ้งเคยเป็นลุกศิษย์ของเธอ แต่เขากลับไม่เชื่อเลยซักนิด ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

 

“ฉันไม่สนหรอกนะว่าแกเป็นใคร แกไม่ได้ยินฉันพูดรึไงกัน ใครปล่อยให้แกเข้ามา ออกไปเดี๋ยวนี้” ชายวัยกลางคนเองก็ได้มองซูจิ้งอย่างโกรธเกรี้ยวเพราะไล่ยังไงซูจิ้งก็ไม่ยอมไปซักที

 

ซูจิ้งได้พุ่งเข้าหาชายวัยกลางคนคนนั้น เขาจับไปที่ศีรษะแล้วจับโคกเข้ากับโต๊ะในทันทีจนเสียงดังโครม

ชายวัยกลางคนคนนั้นดั้งหักในทันที และจมูกของเขาก็มีเลือดกำเดาไหลออกมา

เหล่าหญิงสาวที่อยู่ในห้องต่างกรีดร้องขึ้นมาในทันที แม้แต่หลิวเซียวฮุยเองก็หน้าซีดเผือดเหมือนเห็นเหตุการณ์ที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า

ทันใดนั้นซูจิ้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “แกคือหลิวดาจูสินะ สามีเก่าของอาจารย์จาง

ฉันได้ยินชื่อของแกมานานแล้ว ไอ้สวะอย่างแกต้องทำให้อาจารย์จางทำงานอย่งหนักเจียนตายเพื่ออนาคตของลูกเธอ

แต่ตอนนี้อยู่ๆแกก็มาเพื่อล่อลวงเขาให้กลายเป็นสวะอย่างแกเนี่ยนะ

ครูจางเป็นคนดีล้ำเลิศที่สุดแต่เสียอย่างเดียวคือเลือกแกเป็นสามีนี่แหล่ะ”

 

“แก แก แกอยากตายมากใช่ไม๊” หลิวดาจูโกรธจัด เขาได้หยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรตามคนของเขามา

ซูจิ้งไม่สนใจและปล่อยให้เขาโทรตามคนมาจนเสร็จ

หลังจากนั้นก็ได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ทุกคนที่เข้ามาพอเห็นซูจิ้งก็ทำท่าตกใจในทันทีที่เห็นว่าคนที่มาก่อเรื่องคือซูจิ้ง หนึ่งในนั้นไปกระซิบที่ข้างหูหลิวดาจูว่า “ลูกพี่ใหญ่ คนๆนี่คือซือจิ้ง ผมไม่สามารถก่อปัญหาให้เขาได้จริงๆครับ”

 

“แล้วไง ในที่นี้ฉันต้องกลัวใครอีก พวกแกไม่เห็นหรอว่าฉันโดนเล่นงานเนี่ย ห้ะ รีบจัดการมันเดี๋ยวนี้ ฉันจะรอดูจนกว่ามันจะตายฉันถึงจะพอใจ” หลิวดาจูคำรามลั่นออกมา

 

“อาจิ้งนั่นนายหรอ” หนึ่งในกลุ่มคนที่เดินเข้ามาก็ประหลาดใจทันทีที่เขาจำซูจิ้งได้

 

“จูหยุน นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” จูหยุนคือเพื่อนสมัยม.ต้นของซูจิ้ง และเขาเองก็เป็นเพื่อนเก่าจากหมู่บ้านจูเจียนอัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามจูหยุนนั้นค่อนข้างเป็นเด็กเกเร ซูจิ้งเองก็ยังเคยทะเลาะกับเขาบ่อยๆ

 

“ฉันอยู่ที่นี่นะ นายมาทำอะไรงั้นหรอ” จูหยุนพูดออกมาหลังจากนั้นเขาหรี่ตาพร้อมพูดว่า “อาจิ้ง พี่หลิว พวกเราก็เป็นคนกันเอง หากล่วงเกินอะไรกันไปก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ”

 

“ฮ้ะ ฮ้ะ แกเก่งมากเลยนะที่กล้ามาสั่งฉันขนาดนี้” หลิวดาจูตบไปที่ใบหน้าของจูหยุนจนแทบจะทำให้ฟันของเขาปลิวไปหมดปาก และเขาเองก็ทำท่าจะเปิดซูจิ้งก่อน แต่ซูจิ้งไหวตัวทันเลยถีบจนเขากระเด็นออกไป

 

“ฆ่ามัน” หลิวดาจูคำรามลั่นจนทำให้คนอื่นรู้สึกกลัวจนตัวสั่น พวกเขาเองก็ได้แต่ทำตาม

ซูจิ้งนั้นเป็นที่ชื่นชอบและเป็นคนรวย อำนาจของพวกเขาไม่มีทางเทียบเท่าซูจิ้งได้อยู่แล้ว

แต่พวกเขาเองก็ขัดคำสั่งของหลิวดาจูไม่ได้เช่นกันเลยทำได้แค่พุ่งเข้าไป

หลังจากนั้นแต่ละคนก็เริ่มปลิวกระจายไปทั่วห้อง บ้างก็ปลิวไปติดพนัง บ้างก็โซฟา

หลังจากพวกเขาลงไปกองกับพื้นแล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นยืนมาสู้ต่อได้

 

หลิวดาจูเองก็เริ่มกลัวซูจิ้งจนได้แต่ทำหน้าเอ๋อๆ หลิวเซียวฮุย จูหยุน และหญิงสาวต่างก็พากันทำหน้าโงงมไปตามๆกัน

พวกเขานั้นถึงแม้จะคุ้นเคยกับการต่อสู้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่เคยเห็นคนทีลุยเดี่ยวมาจัดการกลุ่มคนเหมือนเด็ดผักทิ้งเรี่ยราดอย่างนี้มาก่อน

ซูจิ้งค่อยๆก้าวเข้าไปหาหลิวดาจู หลิวเซียวฮุยได้ร้องออกมาเสียงหลงทันทีพร้อมพูดว่า “พี่ซูจิ้ง ได้โปรด โปรดอย่าทำอะไรพ่อผมเลยนะ”

 

ซูจิ้งจ้องไปที่หลิวเซียวฮุยตาเขม็งแล้วก็เมินเขาไป หลิวเซียวฮุยรู้สึกว่ายังดูพอจะมีมโนธรรมอยู่บ้าง เขานั้นถึงแม้จะอยู่ข้างแม่ของเขามาเนิ่นนานแต่ยังไงซะหลิวดาจูก็คือพ่อของเขาอยู่ดี จากมุมมองของเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้พ่อตัวเองเดือดร้อนไปได้ ซูจิ้งหันไปหาจูหยุนแล้วพูดออกมาว่า “หลิวดาจูคนนี้ฉันได้ยินมาว่ามันเองทำเรื่องเลวร้ายไว้ก็เยอะ แถมยังติดหนี้พนันไว้มากโข แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นขาใหญ่ที่นี่ได้กัน”

 

จูหยุนเองก็ได้มีตาแดงก่ำและหาใจระรัวด้วยความโกรธ เขาหันไปจ้องหลิวดาจูก่อนจะพูดออกมาว่า

“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอก รู้แต่ว่าเขานั้นติดหนี้พี่ไป๋ (พี่ไบ)อยู่ แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เอาอะไรบางอย่างมามอบให้พี่ไป๋ หลังจากนั้นเขาก็ได้ยกหนี้ให้ทั้งหมด แถมยังยกที่นี่ให้เขาอีก”

 

ซูจิ้งหันไปมองคนอื่นแล้วก็เห็นคนพวกนั้นทำท่าทางบ่งบอกว่าเรื่องที่จูหยุนพูดเป็นความจริง

พอมาคิดดูแล้วพวกเขาเองก็อยู่ที่นี่กันมาตั้งนมนานแล้ว แล้วทำไมหลิวดาจูคนที่เปรียบได้ดั่งขยะสังคมคนนี้ถึงกลายเป็นบอสได้กัน ใครจะไปยอมรับได้ล่ะ

 

ทันใดนั้นอยู่ๆซูจิ้งก็รู้สึกอะไรบางอย่างจากจิตใต้สำนึก เขาถามต่อว่า “อะไรที่ทำให้พี่ไป๋ให้ความสำคัญมากขนาดนั้นได้กัน”

 

จูหยุนส่ายหัวพร้อมพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

 

ซูจิ้งได้ทำการเตะไปที่หลิวดาจูไปหนึ่งทีพร้อมถามว่า “แกให้อะไรเขาไปกัน”

 

“ทำไมฉันต้องบอกแกกกก…..” ยังไม่ทันที่หลิวดาจูจะพูดจบประโยก นิ้วของเขาโดนหักด้วยซูจิ้งจนต้องร้องออกมาดังลั่น ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปฏิเสธที่จะพูด แล้วตะโกนออกมาว่า “ฉันไม่บอกอะไรแกแน่”

 

ซูจิ้งได้ปล่อยกระแสจิตเข้าไปสะกดจิตหลิวดาจูในทันที แล้วเขาก็ถามอีกครั้ง ครั้งนี้หลิวดาจูไม่ได้พยายามปิดปากต่อไปอีกอย่างใด เขาพูดออกมาว่า “มัน เป็น เศษหินและเหล็ก…”

 

“ห้ะ” หน้าของเขาเปลี่ยนสีในทันทีพร้อมประหลาดใจอย่างมาก ไอ้นั่นเป็นเศษธนูที่ใช้ปลุกสแตนด์รึเปล่า นี่เขาจะหามันเจออย่างนี้อ่ะนะ

 

ซูจิ้งรีบหันไปถามคนอื่นต่อในทันที “จูหยุน หลิวเซียวฮุย นายออกไปก่อนละกัน ส่วนคนอื่นก็เหมือนกัน รีบออกไปซะ ถ้าอยากจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่ไป๋ก็ให้รีบไปบอกได้เลย”

 

หลังจากทุกคนออกไปแล้ว ซูจิ้งได้ถามหลิวดาจูเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

หลิวดาจูก็ได้เล่าความจริงทุกอย่างออกมา

ตอนที่เขาได้เห็นชายคนหนึ่งโดนอะไรบางอย่างบาดที่มือแล้วกลายเป็นกองเลือดอยู่กลางกองขยะ

ซูจิ้งแน่ใจได้ทันทีว่าของที่กำลังพูดอยู่นี่คือเศษธนูที่ใช้ในการปลุกสแตนด์

แน่นอนว่าหลิวดาจูนั้นย่อมไม่รู้ว่าเศษธนูฯนี้มีความสามารถอะไรแฝงอยู่

เขาเพียงนึกว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ฆาตกรรมได้อย่างดีแค่นั้นเองเขาจึงนำมามอบให้ไป๋ยี่

อย่างไรก็ตามดูเหมือนไป๋ยี่หลังจากที่ได้เศษธนูฯยี่ไปจบพบวิธีใช้ที่แท้จริง

อาจเป็นไป๋ยี่เองที่ค้นพบในระหว่างการนำไปใช้ฆ่าคนอื่นแล้วค้นพบโดยบังเอิญ

 

ไป๋ยี่ที่ได้สมบัติมาแบบนี้ต้องดีใจอย่างมากจนมอบรางวัลใหญ่ให้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลิวดาจูได้การเป็นลูกพี่ใหญ่ของที่นี่

 

“ช่างเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ เพียงแต่ช่วยครูจางตามหาลูกชายกลับเจอเบาะแสอันมีค่าขนาดนี้”

ใบหน้าของซูจิ้งในตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด เบาะแสนี่นึกจะมาก็มาได้ดีจริงๆ

แถมยังเป็นเบาะแสที่สำคัญมากซะด้วย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาตัดสินใจไม่ช่วยครูจางละก็ มีหวังคงงมโข่งไปอีกนานแน่ๆ

 

ตอนนี้ซูจิ้งได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายมาจากด้านนอก จับใจความได้ว่า “พี่ไป๋ในที่สุดพี่ก็มาซักที พี่หลิวถูกจับตัวอยู่ข้างใน พวกเราสู้เขาไม่ไหว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด