กระบี่จงมาบทที่ 850.1 หนึ่งนั้น

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter บทที่ 850.1 หนึ่งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หิมะ​ใหญ่​เท่า​ขน​ห่าน​ที่มา​เยือน​โดย​ไม่นัดหมาย​ครั้งนี้​ก็​เหมือนกับ​ว่า​มีเซียน​เห​ริน​บดขยี้​ถาด​หยก​ขาว​แล้ว​โปรย​เงิน​เกล็ด​หิมะ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ลงมา​

เหนือ​หัว​กำแพงเมือง​ เพียง​ไม่นาน​หิมะ​ก็​สะสมทับซ้อน​กัน​หนา​ชั้น​ เฉิน​ผิง​อัน​ที่นั่ง​ยอง​อยู่​จงใจเก็บ​รวม​ปณิธาน​หมัด​และ​ปราณ​กระบี่​มา ปล่อย​ให้​เกล็ด​หิมะ​หล่น​ลง​บน​ศีรษะ​ ไหล่​สอง​ข้าง​และ​บน​ชุด​สีเขียว​

ผู้ฝึก​ตน​หนาว​ร้อน​มิอาจ​กล้ำกราย​ คำ​ว่า​หนาว​ร้อน​ อันที่จริง​ไม่ได้​หมายถึง​แค่​การสับเปลี่ยน​ของ​สี่ฤดูกาล​เท่านั้น​ ยัง​หมายถึง​ความทุกข์​ความสุข​ การ​พบ​เจอ​และ​การ​พราก​จาก​ของ​จิตใจ​คนใน​โลก​มนุษย์​ด้วย​

ซาก​ปรัก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ใน​ทุกวันนี้​ก็​เหมือน​นคร​รกร้าง​นอก​ด่าน​ที่​ไร้​คน​เฝ้าด่าน​ นคร​เดียวดาย​นอก​ด่าน​ที่​จู่ๆ ก็​มีหิมะ​ถี่กระชั้น​ตก​ลงมา​ ดุจ​ดอก​หยาง​ฮวา​ที่​แต่ละ​ดอก​ใหญ่​เท่า​เงิน​เหรียญทองแดง​ พัน​ขุน​เขาสูงชัน​หนาวเหน็บ​ ยาก​จะเสาะหา​ร่องรอย​วิหค​ รอบด้าน​คือ​ทุ่ง​กว้าง​เวิ้งว้าง​ไร้​ผู้คน​ ได้ยิน​เสียง​หยก​แตก​ดัง​แว่ว​มา ฟ้าและ​หิมะ​ขับขาน​ร่วมกัน​

ลู่​เฉิน​ลุกขึ้น​ยืนนาน​แล้ว​ เก็บ​อุปกรณ์​ต้ม​สุรา​ที่​ไม่รู้​ไป​รีดไถ​มาจาก​ใคร​ชุด​นั้น​ลง​ไป​ เดิมที​ลู่​เฉิน​จะจากไป​ตั้งแต่​ตอนนี้​ หวนกลับ​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ที่นั่น​มีสหาย​เยอะ​เรื่อง​สนุก​ก็​เยอะ​ อีก​อย่าง​ก่อนหน้านี้​อาจารย์​ได้มา​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ออกคำสั่ง​ที่​เข้า​อก​เข้าใจ​ผู้อื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ให้​กับ​ลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​อย่าง​เขา​ ไม่ต้อง​ไป​ฟ้านอก​ฟ้าทำ​เรื่อง​ที่​ไร้ประโยชน์​แล้ว​ กลับ​ไป​ถึงใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ไม่มีเรื่อง​อะไร​ก็​ตัวเบา​ แม้แต่​ศิษย์​พี่​ที่​ให้​ความเคารพ​กฎเกณฑ์​ที่สุด​ก็​ยัง​ว่ากล่าว​อะไร​เขา​ไม่ได้​ แต่​เป็น​เพราะ​นานๆ​ ที​จะได้มา​เยือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ลู่​เฉิน​จึงตัดใจ​รีบ​จากไป​แบบนี้​ไม่ลง​ อุตส่าห์​เหนื่อยยาก​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​ปาก​อริยะ​อม​กฎ​สวรรค์​ ถึงจะเรียก​หิมะ​ใหญ่​ที่​ตกหนัก​ขนาด​นี้​มาได้​อย่าง​ยากเข็ญ​ จึงทำ​หน้าหนา​ไม่ขยับ​เท้า​ไป​ไหน​ ทั้ง​ยัง​ยื่นมือ​ออก​ไป​รอง​หิมะ​ เพียง​ไม่นาน​ก็​ขยำ​เป็น​ก้อน​หิมะ​กลม​ๆ ขึ้น​มาได้​ แล้ว​คอย​ตบ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ยิ่ง​นาน​ลูก​หิมะ​ก็​ยิ่ง​หนัก​และ​แน่น​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

ลู่​เฉิน​โยน​ลูก​หิมะ​ขึ้น​ลง​เบา​ๆ มือหนึ่ง​ลูบ​ปลาย​คาง​ “ดวงจันทร์​บน​ฟ้าคล้าย​หิมะ​ที่มา​รวมกัน​ หิมะ​บน​โลก​มนุษย์​เหมือน​ดวงจันทร์​ที่​ปริ​แตก​ แสงอัน​เยือกเย็น​เดียวดาย​ส่อง​ดวงตา​ ทั้ง​ดวงจันทร์​และ​หิมะ​ต่าง​ใสสะอาด​งามตา​ มีเพียง​คน​ที่​เกินความจำเป็น​”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​ร่า​ เป็น​การหัวเราะ​ที่​หน้ายิ้ม​ใจไม่ยิ้ม​ อันที่จริง​ไม่ต้อง​ยิ้ม​เลย​จะดีกว่า​

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​หึหึ​ โยน​หิมะ​ลูก​นั้น​ออก​ไปนอก​หัว​กำแพงเมือง​อย่าง​ไม่ใส่ใจ ลูก​หิมะ​วา​ดวง​โค้ง​ตกลง​ไป​เบื้องล่าง​

ยังคง​เป็น​บัณฑิต​อย่าง​เรา​ๆ ที่​สุภาพ​สง่างามที่สุด​ ผู้ฝึก​กระบี่​เต็ม​ตัวอย่าง​หนิง​เหยา​และ​สิงกวาน​หาว​ซู่ยังคง​ขาดความหมาย​บางอย่าง​ไป​เล็กน้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “เจ้าลัทธิ​ลู่​ยัง​ไม่ไป​อีก​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​พูด​บ่น​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ภูเขา​สามารถ​ไล่​ภูเขา​ แต่​คน​อย่า​ไล่​คน​สิ”

ใน​อดีต​ตอนที่​เฉิน​ชิงตู​ยังอยู่​ที่นี่​ อันที่จริง​ลู่​เฉิน​ก็​อยาก​มาเป็น​แขก​ที่นี่​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​ดัน​มาเจอ​กับ​ศิษย์​พี่​ที่​ต่อให้​ตาย​ก็​ยัง​รัก​ศักดิ์ศรี​ ทำให้​ลู่​เฉิน​จำต้อง​ล้มเลิก​ความคิด​นี้​ไป​ ไม่อย่างนั้น​ด้วย​นิสัย​ของ​อา​เหลียง​ ปี​นั้น​พอ​ไป​ถึงฟ้านอก​ฟ้า และ​ไป​พลิ้ว​กาย​ลง​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง จะต้อง​ยุแยง​กระพือ​ไฟอย่าง​แน่นอน​ เจ้าอวี๋​โต้​ว​ถือว่า​เป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​อะไร​กัน​ แค่​จะไป​ต่อสู้​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ยัง​ไม่กล้า​เลย​ ให้​ลู่​เฉิน​เป็น​คน​ไป​ก็แล้วกัน​

เขา​ที่​เป็น​ศิษย์​น้อง​ หาก​แค่​เจอ​หน้า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​ก็​เหมือน​สหาย​ที่​รู้จัก​กัน​มานาน​ เรียก​กัน​เป็น​พี่​เป็น​น้อง​ แบบ​นั้น​คงจะ​ไม่ค่อย​เข้าท่า​สัก​เท่าไร​ นี่​ก็​เหมือน​ใน​ครอบครัว​ล่าง​ภูเขา​ที่​พี่ชาย​พี่สาว​ใน​ตระกูล​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​ น้องชาย​กับ​น้องสาว​ย่อม​ไม่อาจ​ชิงแต่งงาน​ก่อน​ได้​

อันที่จริง​ปี​นั้น​อวี๋​โต้​ว​เดิน​มาถึงหน้า​ประตู​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แล้ว​ สุดท้าย​กลับ​ไม่ได้​ถามกระบี่​กับ​เฉิน​ชิงตู​ เพียงแค่​ทิ้ง​ศาลา​จัว​ฟ่างที่​ภายหลัง​มีนักท่องเที่ยว​มาเยือน​ไม่ขาดสาย​เอาไว้​ ส่วน​ภูเขา​ห้อย​หัว​ลูก​นั้น​ ใน​ฐานะ​ตราประทับ​ตัวอักษร​ภูเขา​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​โลก​ที่​อวี๋​โต้​ว​สร้าง​ขึ้น​มากับ​มือ​ตัวเอง​ อันที่จริง​ไม่มีความหมาย​ที่​ลึกล้ำ​อะไร​ ก็​แค่​ว่า​เจ้าลัทธิ​รอง​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงผู้​มีฉายา​ว่า​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​คน​นี้​คิด​ว่า​ในอนาคต​หาก​มีวันใด​ได้​ถามกระบี่​กับ​เฉิน​ชิงตู​ มีท่าเรือ​อยู่​ก็​ไม่ต้อง​คอย​ดู​สีหน้า​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ที่​เฝ้าประตู​ของ​ศาล​บุ๋น​ เอาชนะ​เฉิน​ชิงตู​ได้​ก็​พก​กระบี่​ออกจาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​บิน​ทะยาน​กลับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงไป​โดยตรง​

แน่นอน​ว่า​จนกระทั่ง​เฉิน​ชิงตู​ใช้กระบี่​เปิดทาง​ให้​กับ​นคร​บิน​ทะยาน​ เต๋า​เหล่า​เอ้​ออ​วี๋​โต้​ว​ก็​ยัง​ไม่ได้​ลงมือ​

นักพรต​ซุน​ที่​ขอ​แค่​มีโอกาส​ก็​จะเอ่ย​ชมเชย​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​อย่าง​อวี๋​โต้​ว​และ​ลู่​เฉิน​คู่​นี้​ ย่อม​ไม่มีทาง​ขี้เหนียว​ถ้อยคำ​อัน​ไพเราะ​อย่าง​แน่นอน​

เพียง​ไม่นาน​ก็​ป่าวประกาศ​ความในใจ​ที่​เป็นธรรม​มีเสรี​ออก​ไป​อย่าง​แพร่หลาย​ บอ​กว่า​บน​ยอดเขา​ของ​วิถี​กระบี่​นั้น​ ต่าง​คน​ต่าง​ไร้​เทียมทาน​ สอง​ยอดเขา​คุมเชิง​กัน​ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​เล่นงาน​กัน​ แล้​วจะ​ไม่ใช่ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​ได้​อย่างไร​ ใคร​กล้า​บอ​กว่า​ไม่ใช่จงมาที่​อาราม​เสวียน​ตู​ มาดื่มเหล้า​กับ​ผิน​เต้า​ บน​โต๊ะ​สุรา​มีแบ่ง​สูงต่ำ​ ใคร​กล้า​พูดจา​เหลวไหล​ เจ้ากี้เจ้าการ​กับ​พี่ใหญ่​แห่ง​วงการ​การต่อย​ตี​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ของ​พวกเรา​ ผิน​เต้า​จะเป็น​คน​แรก​ที่​เดือดดาล​ จะเอา​เหล้า​กรอก​ปาก​เจ้าให้​ตาย​ไป​เลย​

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​หันมา​เอ่ย​กับ​หนิง​เหยา​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​พูดคุย​กับ​ผู้อื่น​ ขอ​แค่​เปิดปาก​ โดยทั่วไปแล้ว​ไม่ได้​โกหก​ เพียงแค่​ว่า​ไม่อาจ​เชื่อได้​ทั้งหมด​”

เป็น​หลักการ​เดียวกัน​กับ​คำกล่าว​ที่ว่า​เชื่อ​ทุกอย่าง​ใน​ตำรา​ไม่สู้ไร้​ตำรา​ให้​อ่าน​ คน​บางคน​พูดจา​ชอบ​จงใจที่จะ​พูดความจริง​แค่​ส่วน​เดียว​ บ้าง​ก็​ไม่ใช่ความจริง​ หรือ​ถึงขั้น​ทำให้​คน​ห่างไกล​จาก​ความจริง​

ประโยค​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​ด้วยซ้ำ​

หนิง​เหยา​พยักหน้า​ “ตอน​อยู่​เมือง​เล็ก​ก็​เคย​ประสบ​กับ​ตัวเอง​มาก่อน​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​ปัด​หิมะ​ที่​ทับถม​อยู่​บน​ไหล่​ออก​ เอ่ย​อย่าง​เขินอาย​ว่า​ “พูด​ต่อหน้า​คน​เขา​ก็​ไม่ต่าง​จาก​การ​ถามหมัด​แล้ว​ต่อย​หน้า​ ไม่สอดคล้อง​กับ​กฎ​ใน​ยุทธ​ภพ​กระมัง​ ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​ผู้สูงศักดิ์​ไม่เปิดปาก​พูด​ง่ายๆ​ ทั้ง​ยัง​พูดน้อย​นัก​ มิอาจ​โยน​ใจทั้ง​ดวง​ออก​ไป​ให้ได้​ ต้อง​ขยับ​ปาก​ให้​น้อย​พยักหน้า​ให้​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​เพียงแค่​มอง​หิมะ​ขาวโพลน​สุดลูกหูลูกตา​ ความคิด​เชื่อมโยง​กัน​เป็น​ทอด​ๆ จิตใจ​เหม่อลอย​ไกล​ไป​หมื่น​ลี้​ ไม่ได้​จงใจควบคุม​ความคิด​ซับซ้อน​วุ่นวาย​ของ​ตัวเอง​อีก​ ดั่ง​ควบม้า​ไป​อย่าง​ไร้จุดหมาย​ ประหนึ่ง​ม้าขาว​ควบ​ผ่าน​ช่อง​แทบ​ ห้อ​ตะบึง​อยู่​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​

นักประพันธ์​ของ​ไพศาล​เคย​กล่าว​เอาไว้​ว่า​ หิมะ​เหมือน​ไร้​ราก​แต่กลับ​มีราก​ มีรูปลักษณ์​อัน​ผุดผ่อง​สูงส่งที่​ไม่ว่า​ดอกไม้​เลอ​ค่า​ใด​ใน​โลก​ก็​มิอาจ​เทียบเคียง​ได้​

ขนบธรรมเนียมประเพณี​ คำพูด​โบราณ​เก่าแก่​มากมาย​ที่​สืบทอด​กัน​มาหลาย​รุ่น​หลาย​สมัย​ใน​เมือง​เล็ก​ ส่วนใหญ่​มักจะ​มีประวัติ​ความเป็นมา​ ไม่เหมือนกับ​ใน​หมู่บ้าน​ชนบท​ทั่วไป​จริงๆ​ และ​น้ำฝน​ หิมะ​ น้ำค้าง​ที่​ยัง​ไม่หล่น​ลงมา​บน​พื้นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​ใบ​นี้​ก็​ล้วน​ถูก​คน​เฒ่าคนแก่​ใน​บ้านเกิด​เรียก​อย่าง​เรียบง่าย​ว่า​น้ำ​ไร้​ราก​

ทุกวันนี้​โชคชะตา​น้ำ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ได้​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ ตั้นตั้นฮู​หยิน​แห่ง​หลุม​น้ำ​ลู่​รับหน้าที่​ดูแล​โชคชะตา​น้ำ​บน​บก​ สุ่ยจ​วิน​แห่ง​สี่มหาสมุทร​ที่​เลื่อนขั้น​ใหม่​โดย​มีจื้อ​กุย​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ร่วมกัน​จัดการ​ดูแล​โชคชะตา​น้ำ​ทั้งหมด​นอกเหนือจากนี้​

เฟิงอี๋​ไม่ได้​เป็น​เทพ​แห่ง​สายลม​ยุค​บรรพกาล​เพียง​หนึ่งเดียว​ ดังนั้น​นาง​จึงไม่ได้​เลื่อน​สู่อันดับ​สิบสอง​เทพ​ชั้นสูง​ ต่อให้​จะเป็น​ใน​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ที่​เก็บรักษา​ปฏิทิน​เหลือง​ไว้​มาก​ที่สุด​และ​ใน​คฤหาสน์​หลบ​ร้อนที่​ไม่ต้อง​พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​การ​หลีกเลี่ยง​ข้อห้าม​อะไร​มาก​ที่สุด​ ก็​ดูเหมือนว่า​จะยัง​ไม่มีบันทึก​ของ​เทพ​ชั้นสูง​สิบสอง​องค์​ที่​สมบูรณ์แบบ​เช่นกัน​ ราวกับว่า​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​รักษา​สัญญาบางอย่าง​จึงจงใจปิดบัง​เอาไว้​ ไม่ยอมให้​คนรุ่นหลัง​ได้​เปิด​ตำ​รามา​เจอ​

หาก​จะบอ​กว่า​อวี่​ซื่อ​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กระโจม​เจี่ยเซิน​ก็​คือ​เทพ​พิรุณ​ที่​กลับ​ชาติ​มาจุติ​ใหม่​ ใน​ฐานะ​ขุนนาง​ผู้ช่วย​ของ​เทพ​วารี​หนึ่ง​ใน​ห้า​ทวยเทพ​สูงสุด​ แต่กลับ​ไม่ได้​เลื่อน​สู่ตำแหน่ง​สิบสอง​เทพ​ชั้นสูง​เช่นเดียวกับ​เฟิงอี๋​ นี่​ก็​หมายความว่า​องค์​เทพ​ที่​กลับ​ชาติ​มาจุติ​ซึ่งสถานที่​ถือกำเนิด​คือ​ดินแดน​ฟ้ารั่ว​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​อย่า​งอวี่​ซื่อ​นี้​ ใน​ยุค​บรรพกาล​ต้อง​เคย​ถูก​ลดทอน​หน้าที่​ส่วนหนึ่ง​ใน​ตำแหน่ง​เทพ​ไป​ อีก​ทั้ง​เทพ​พิรุณ​ใน​อดีต​อย่า​งอวี่​ซื่อ​ยัง​เป็นลำดับ​รอง​ เป็น​ผู้ช่วย​ เพราะ​ยังมี​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​กรม​วารี​ที่​เป็น​นาย​ เป็น​ผู้สูงศักดิ์​กว่า​

ก่อนหน้านี้​ลู่​เฉิน​พูดถึง​ชาย​ใจหญิง​คนงาน​ของ​เตาเผา​มังกร​บ้านเกิด​ อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เริ่ม​ปล่อย​จิตใจ​จมจ่อม​ลง​ไป​ ขณะเดียวกัน​ก็​ร่าย​นก​ใน​กรง​ออกมา​ปกป้อง​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​ตน​ ให้​ลู่​เฉิน​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​มิอาจ​สืบเสาะ​ได้​ตามใจชอบ​ แล้ว​ถึงได้​ไป​พลิก​หา​ข้อมูล​ที่​หอ​ตำรา​ซึ่งสร้าง​ไว้​ริม​ทะเลสาบ​หัวใจ​ ตามหา​เบาะแส​ทุกอย่าง​

เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ทำตัว​เป็น​น้ำเต้า​ตัน​ต่อไป​ ลู่​เฉิน​ก็​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “อีก​อย่าง​นะ​ ข้า​พูดจา​แค่​ครึ่งๆ กลางๆ​ เช่นนี้​ แต่​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​เป็น​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​ จงใจไม่มอบ​ใจให้​ข้า​ ยังคง​แกล้ง​โง่ต่อไป​ แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ การ​เอาใจเขามาใส่ใจเรา​คือ​เรื่อง​ของ​ลัทธิ​พุทธ​ ข้า​เป็น​คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ เจ้าเอง​ก็​แค่​เชื่อ​ใน​ลัทธิ​พุทธ​ ไม่ได้​เป็น​ภิกษุ​อะไร​จริงๆ​ เสียหน่อย​ พวกเรา​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​ไม่ได้​พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​นี้​”

ลู่​เฉิน​ยก​มือสอง​ข้างขึ้น​มา เป่า​ลม​ปล่อย​ไอ​เย็น​ออกจาก​ปาก​หนึ่ง​ที​แล้ว​ถูมือ​เข้าด้วยกัน​ไม่หยุด​ พูด​กลั้ว​หัวเราะ​หน้าทะเล้น​ “วานร​ใน​ใจมิอาจ​ควบคุม​ ออก​เดิน​ไป​ครึ่ง​ใต้​หล้า​ จะไม่ย่ำ​ให้​รอง​เท้าสาน​สึก​ไป​คู่​แล้ว​คู่​เล่า​ได้​หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ได้​แต่​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​คำพูด​ของ​ลู่​เฉิน​ ทำเป็น​หูทวนลม​

นั่น​เป็น​เพราะ​เส้น​ที่​ถูก​ฝังไว้​ซึ่งมอง​ดูเหมือน​อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​อยู่​ใกล้​เพียง​ตรงหน้า​นี้​ หาก​ถูก​ดึง​ขึ้น​มาก็​สามารถ​ช่วย​ให้​ตน​มองเห็น​เส้นสาย​สมบูรณ์​ทั้ง​เส้น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ สำหรับ​การชัก​คะ​เย่อ​ทางใจ​ระหว่าง​เฉิน​ผิง​อัน​กับ​นิสัย​แห่ง​เทพ​ที่​บริสุทธิ์​นั้น​ ไม่แน่​ว่า​ก็​คือ​จุด​ที่จะ​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ เป็น​กุญแจ​สำคัญ​มากเกินไป​

ปี​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​สะพาย​ ‘ปราณ​ยาว​’ กระบี่​โบราณ​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ให้​ตน​ยืม​ออก​ไป​จาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไปเที่ยว​เยือน​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ หลัง​กลับ​จาก​ใบ​ถงทวีป​มายัง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ตอน​ที่อยู่​บน​ทะเล​เมฆเหนือ​นคร​มังกร​เฒ่า ภายใต้​การปกป้อง​มรรคา​จาก​ฟ่านจวิ้น​เม่า เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เคย​ได้​หลอม​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​เป็น​ธาตุ​น้ำขึ้น​มาชิ้น​หนึ่ง​

ฟ่านจวิ้น​เม่าที่​ภายหลัง​ได้​เป็น​ซาน​จวิน​หญิง​แห่ง​ขุนเขา​ใต้​ของ​หนึ่ง​ทวีป​ หรือ​ก็​คือ​พี่สาว​ของ​ฟ่าน​เอ้อ​ เนื่องจาก​นาง​คือ​เทพ​ที่​กลับชาติมาเกิด​ใหม่​ การ​ฝึก​ตน​จึงฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ ไม่มีด่าน​อะไร​ให้​พูดถึง​ เรียก​ได้​ว่า​ประดุจ​ผ่า​ลำ​ไม้ไผ่​ ครั้งแรก​ที่​ทั้งสองฝ่าย​ได้​พบ​เจอกัน​ก็​ต่าง​คน​ต่าง​เดิน​ไป​คนละ​ทาง​ ต่าง​ก็​อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​สอง​ลำ​ที่​แล่น​สวน​กัน​ผ่าน​เส้นทาง​มังกร​เดิน​ ภายหลัง​ฟ่านจวิ้น​เม่าได้​บอกกล่าว​อย่าง​ชัดเจน​ว่าการ​เดิน​ทางขึ้น​เหนือ​ของ​นาง​ครั้งนั้น​ก็​เพื่อ​ไปหา​หยาง​เหล่า​โถว​ เป็นการ​ยอมรับ​สถานะ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่​กลับ​ชาติ​มาจุติ​ของ​นาง​อย่าง​เปิดเผย​

รอ​กระทั่ง​เฉิน​ผิง​อัน​หลอม​ตราประทับ​อักษร​น้ำ​ชิ้น​นั้น​ได้​สำเร็จ​ จำได้​ว่า​ตอนนั้น​พอ​ฟ่านจวิ้น​เม่าได้​เห็นภาพ​บรรยากาศ​ของ​จวน​น้ำ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​สามารถ​ทำให้​คน​จิ๋ว​สวม​ชุด​สีเขียว​มรกต​ซึ่งเวท​คาถา​น้ำ​มาจาก​ระบบ​สืบทอด​สาย​ตรง​ดั้งเดิม​รับฟัง​คำสั่ง​ของ​เขา​อย่าง​ยินยอมพร้อมใจ​ได้​ นาง​ก็​ตกใจ​ไม่น้อย​ ลุก​พรวด​ขึ้น​ทันใด​ พูดจา​รีบร้อน​ เอ่ย​ประโยค​ประหลาด​ที่​ปี​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้คิด​ให้​มากความ​ ฟ่านจวิ้น​เม่าถึงกับ​ถามโดยตรง​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ใช่เทพ​พิรุณ​มาจุติ​หรือไม่​

เฉิน​ผิง​อัน​ฟังด้วย​ความ​มึนงง​ ตอนนั้น​ยัง​เอ่ย​หยอกล้อ​ไป​หนึ่ง​ประโยค​ บอ​กว่า​ฟ่านจวิ้น​เม่าเอ่ย​คำ​ประจบ​ที่​แปลกใหม่​ไม่ซ้ำใคร​จริงๆ​ สุดท้าย​ดูเหมือน​ฟ่านจวิ้น​เม่าจะปฏิเสธ​การ​คาดเดา​ของ​ตัวเอง​ เอ่ย​อีก​ประโยค​ที่​ฟังแล้ว​ลึกลับ​มากกว่า​เดิม​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ได้​พูดถึง​ ‘ชาย​ใจหญิง​’ บอ​กว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​ห่าง​ชั้น​ไกล​นัก​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ต่อให้​ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​คิดมาก​ หรือ​มีความคิด​อะไร​ขึ้น​มา ก็​ล้วน​ต้อง​คิด​ไป​ถึงลู่​ไถที่​เคย​เดินทาง​ร่วมกัน​ ไม่เคย​นึกถึง​บุรุษ​ของ​เตาเผา​มังกร​ที่​บ้านเกิด​ผู้​นั้น​เลย​จริงๆ​

ถึงขั้น​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​เคย​คาดเดา​ว่า​ลู่​ไถใช่เทพ​พิรุณ​หรือไม่​ เพราะ​ถึงอย่างไร​แรกเริ่ม​สุด​ทั้งสองฝ่าย​ก็​เคย​นั่ง​โดยสาร​เรือข้ามฟาก​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ด้วยกัน​ เคย​เดิน​ทางผ่าน​สำนัก​อวี่​หลง​ที่​มีรูปปั้น​ของ​เทพ​พิรุณ​ตั้ง​ตระหง่าน​ด้วยกัน​ และ​เข็มขัด​หลาก​สีซึ่งเป็น​ชุด​อาคม​บน​ร่าง​ของ​ลู่​ไถชิ้น​นั้น​ก็​มีความคล้ายคลึง​ของ​เทพ​พิรุณ​อยู่​หลาย​ส่วน​ ตอนนี้​ลอง​มาย้อน​นึกดู​ก็​เป็น​แค่​เวท​อำ​พรางตา​อย่างหนึ่ง​ของ​โจว​จื่อ​เท่านั้น​? จงใจให้​ตน​เป็น​เหมือน​เงามืด​ใต้​โคมไฟ​ ไม่ไป​คิดถึง​เรื่อง​ของ​บ้านเกิด​ให้​มากความ​?

จวิน​ทาน​แห่ง​กระโจม​เจี่ยเซิน​มีกระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ชื่อ​ ‘เจี่ยฉี’​ ส่วน​ผู้ฝึก​กระบี่​อวี่​ซื่อ​ได้​ครอบครอง​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ‘พู่​ปู้’​ บท​ความใน​เอกสารลับ​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ อันที่จริง​เมื่อ​เทียบ​กับ​ของ​พวก​จู๋เชี่ย​ หลิว​ป๋า​ย​และ​จวิน​ทาน​แล้ว​ เนื้อหา​ของ​อวี่​ซื่อ​กลับ​มีมาก​ยิ่งกว่า​ และ​ผู้ฝึก​กระบี่​สอง​คน​นี้​ต่าง​ก็​ติดตาม​โจว​มี่เดิน​ขึ้น​ฟ้าไป​ยึด​ครองตำแหน่ง​เทพ​ใน​สรวงสวรรค์​เก่า​แล้ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​อวี่​ซื่อ​ที่​ดูเหมือนว่า​จะยัง​สืบทอด​ความ​เป็น​เทพ​ที่​ถูก​ดึง​ออก​ไป​จากห​ลี่​หลิ่ว​ด้วย​ เป็นเหตุให้​อวี่​ซื่อ​ที่​เดิมที​ตอน​อยู่​ใน​ยุค​บรรพกาล​ตำแหน่ง​เทพ​ไม่ได้​ติด​สิบสอง​อันดับ​พลัน​ได้​เลื่อนขั้น​ขึ้น​สูง เท่ากับ​กระโดด​ข้าม​หลาย​ขั้น​ติดต่อกัน​ ได้​ไป​รับหน้าที่​เป็น​เทพ​วารี​หนึ่ง​ใน​ห้า​ทวยเทพ​สูงสุด​โดยตรง​

เพียงแต่​ยัง​มีเรื่อง​หนึ่ง​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่รู้​ สมมติ​ว่า​บุรุษ​ที่​เป็น​ช่างใน​เตาเผา​มังกร​ของ​บ้านเกิด​คน​นั้น​มีชาติกำเนิด​จาก​เทพ​พิรุณ​ตำแหน่ง​สูงจริงๆ​ ถ้าอย่างนั้น​เขา​ตาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​ แล้ว​หยาง​เหล่า​โถว​ใช้วิชา​อภินิหาร​บดบัง​ฟ้าดิน​ จึงเป็นเหตุให้​ความ​เป็น​เทพ​สลาย​หาย​ไป​ กลับคืน​สู่ฟ้าดิน​นับแต่​นั้น​ ต่อมา​ก็​ถูก​หยาง​เหล่า​โถวร​วบ​เก็บ​มาไว้​ใน​มือ​ สุดท้าย​นำ​ไป​มอบให้​ใคร​? หรือว่า​บุรุษ​ที่​ตลอดชีวิต​คับแค้นใจ​ว่า​ตน​เลือก​มาเกิด​ผิด​ครรภ์​ได้​ถือโอกาส​ ‘เดิน​เข้าไป​’ ใน​ศาล​บรรพบุรุษ​สำนัก​การทหาร​อย่าง​ศาล​ลม​หิมะ​ ภูเขา​เจิน​อู่​เพื่อ​ชดเชย​ตำแหน่ง​ที่ว่าง​อยู่​ มีสถานะ​ที่​มั่นคง​เหมือนกับ​เฟิงอี๋​แล้วกัน​แน่​?

อันที่จริง​ก่อน​จะเจอ​กับ​ลู่​ไถ ความทรงจำ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​มีต่อ​ชาย​ใจหญิง​ผู้​นั้น​ก็​พร่า​เลือน​มานาน​มาก​แล้ว​ นอกจาก​ความรู้สึกผิด​ส่วนหนึ่ง​ที่ซ่อน​ลึก​อยู่​ใน​หัวใจ​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่เคย​คิดมาก​มาก่อน​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​ได้​เจอ​กับ​ลู่​ไถ เฉิน​ผิง​อัน​อาจจะ​ไม่พูดถึง​เขา​แม้แต่​ครึ่ง​คำ​ ถึงขั้น​ที่ว่า​บน​เส้นทาง​ชีวิต​ทั้ง​เส้น​นี้​ก็​อาจจะ​ไม่ได้​เล่า​ให้​หนิง​เหยา​ที่​ไม่ว่า​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ต้อง​บอกกล่าว​ให้​นาง​ฟังก็​เป็นได้​

บุรุษ​ตัว​โต​คน​หนึ่ง​ ยาม​พูด​ยาม​จากลับ​ใช้เสียงอ่อนเสียงหวาน​ นิ้วมือ​หยาบกระด้าง​ ฝ่ามือ​เต็มไปด้วย​รอย​ด้าน​ แต่​เวลา​พูด​กลับ​ชอบ​จีบนิ้ว​เป็น​ท่า​ดรรชนี​กล้วยไม้​

ทว่า​บุรุษ​ผู้​นี้​กลับ​เชี่ยวชาญ​งานเย็บปักถักร้อย​อย่าง​มาก​ ใน​ห้อง​โกโรโกโส​ที่​เตาเผา​มังกร​ กระดาษ​มงคล​ที่​ตัด​แปะ​บน​หน้าต่าง​ใน​แต่ละ​ปี​ล้วน​เป็น​บุรุษ​คน​หนึ่ง​ที่​จุด​ตะเกียง​อดนอน​ตัด​กระดาษ​อย่าง​ละเอียด​ประ​ณีติ​ ขนาด​ฝีมือ​ของ​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ของ​ที่​บ้านเกิด​ก็​ยัง​สู้เขา​ไม่ได้​

ความทรงจำ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คือ​บุรุษ​ตัว​โต​ๆ ที่​เป็น​ช่างเตาเผา​คน​หนึ่ง​ ถูก​รังแก​จน​ชิน​เสียแล้ว​ มักจะ​ชอบ​ช่วย​คนอื่น​ซักผ้า​ ปะ​เย็บ​เสื้อผ้า​ มักจะ​สวม​ปลอก​นิ้วมือ​ทองเหลือง​ (ใช้ใน​ขณะ​เย็บผ้า​) ไว้​บน​นิ้ว​ กัด​เส้นด้าย​ให้​ขาด​อยู่​ใต้​แสงไฟ สะบัด​เสื้อผ้า​ที่​ปะชุน​เรียบร้อย​แล้ว​พลาง​ยิ้ม​ตาหยี​

บอ​กว่า​เขา​เหมือน​สตรี​ก็​ไม่ได้​ใส่ร้าย​เขา​เลย​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​ได้​แค่​ว่า​ไม่ชอบ​แล้วก็​ไม่ได้​รังเกียจ​เขา​ รำคาญ​เขา​ต้อง​รำคาญ​แน่นอน​ เฉิน​ผิง​อัน​อดทน​ได้​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ปี​นั้น​คน​คนเดียว​ที่​บุรุษ​ผู้​นี้​สามารถ​รังแก​ได้​ ก็​คือ​เด็กหนุ่ม​จาก​ตรอก​หนี​ผิง​ที่​ชาติกำเนิด​น่าเวทนา​ยิ่งกว่า​เขา​ มีครั้งหนึ่ง​บุรุษ​นำพา​กลุ่มคน​เอะอะโวยวาย​ คำพูด​ที่​ใช้เกิน​กว่า​เหตุ​ไป​สักหน่อย​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​ผ่าน​ทาง​มาพอดี​จึงตบ​ให้​บุรุษ​คน​นั้น​ร่าง​หมุนติ้ว​ ใบหน้า​บวม​เป่ง​เหมือน​หมั่นโถว​ จากนั้น​กระทืบ​เขา​เต็มแรง​จน​เขา​กลิ้ง​ไป​บน​พื้น​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ห้าม​ไว้​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​ที่​ตอนนั้น​ใน​มือ​คว้า​เอา​อ่าง​แตกใบ​หนึ่ง​ที่อยู่​ข้างทาง​มาไว้​แล้ว​ คงจะ​เอา​อ่าง​ทุบ​ใส่หัว​ของ​บุรุษ​ผู้​นั้น​โดยตรง​ หลังจาก​เฉิน​ผิง​อัน​ขัดขวาง​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​ทุ่ม​อ่าง​ลง​บน​พื้น​ ขู่​ชายฉกรรจ์​ที่​ถูก​คน​ตี​แต่​ยัง​นั่ง​กุม​ท้อง​นวด​แก้ม​ส่งยิ้ม​ประจบ​ให้​คน​ที่​ตี​เขา​อยู่​บน​พื้น​ว่า​ คนเลว​อย่าง​เจ้าก็​ดีแต่​กล้า​รังแก​คน​ที่​ดี​เกิน​เหตุ​ หาก​วันหน้า​ถูก​ข้า​จับได้​อีก​จะเอา​มีด​กรีด​หน้า​เจ้าให้​ลาย​เป็น​ดอกไม้​ ช่วย​ให้​เจ้าตัดใจ​เลิก​อยาก​เป็น​สตรี​ไป​เลย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด