กระบี่จงมา 874.1 แกะสลักตัวอักษร

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 874.1 แกะสลักตัวอักษร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​บน​เส้น​ใยแมงมุม​ที่​เชื่อมโยง​ระหว่าง​ดวงจันทร์​สอง​ดวง​ ถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ทิ้ง​ร่าง​ดิ่ง​เป็น​เส้นตรง​ ไล่ตาม​ปีศาจ​ใหญ่​บรรพกาล​ที่​เป็น​ฝ่าย​ถอย​ออกจาก​สนามรบ​ตน​นั้น​ไป​

ขณะเดียวกัน​ก็​ยื่นมือ​ไป​กระตุก​ใยแมงมุม​ที่​เจ้าของ​ทิ้ง​ไว้​เอา​มาใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ถึงอย่างไร​ก็​มีลู่​เฉิน​อยู่​ด้วย​ ย่อม​ไม่มีภัย​แฝงอะไร​ให้​ต้อง​กังวล​

เฉิน​ผิง​อัน​เหลือบมอง​ไป​ทาง​ประตู​ใหญ่​ อีก​ฝั่งหนึ่ง​ที่​ประตู​บาน​นี้​กางกั้น​ก็​คือ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​แล้ว​ กลิ่นอาย​แห่ง​มรรคา​ที่​เปี่ยมล้น​ ภาพ​บรรยากาศ​นับ​พัน​หมื่น​คล้าย​กับ​ได้​ทยอย​กัน​มารวมตัว​เป็น​นักพรต​บน​ยอดเขา​กลุ่ม​ใหญ่​

ป๋า​ย​เจ๋อ​กับ​ห​ลี่​เซิ่ง สหาย​รัก​หมื่น​ปี​ที่​เคย​รบ​เคียงบ่าเคียงไหล่​ ถูกชะตา​กัน​อย่าง​ถึงที่สุด​คู่​นี้​ กลายเป็น​ว่า​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ เมื่อ​ต่าง​คน​ต่าง​ต้อง​ลงมือ​ กลับ​ไม่มีใคร​ออม​มือ​ไว้​ไมตรี​ เพื่อ​ดวงจันทร์​ที่​กำลังจะ​ถูก​ย้ายออก​ไป​จาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ดวง​นั้น​ คน​หนึ่ง​ขัดขวาง​การ​ร่วมมือ​กัน​ลาก​ดวงจันทร์​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​ คน​หนึ่ง​สกัด​การขัดขวาง​ของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ ทั้งสองฝ่าย​ต่อสู้​กัน​จน​ชะตา​ฟ้าปั่นป่วน​รุนแรง​

เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​คน​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​ อีก​ทั้ง​เนื่องจาก​มหา​มรรคา​ใน​ใจของ​แต่ละคน​ พวกเขา​จึงเป็น​ฝ่าย​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบห้า​

หนึ่ง​กาย​ธรรม​ชุด​ขาว​ที่​มีกลิ่นอาย​ความ​เก่าแก่​ยิ่งใหญ่​ อีก​หนึ่ง​กาย​ธรรม​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ ปราณ​เที่ยงธรรม​ไพศาล​

เส้นด้าย​แนวตั้ง​แนวนอน​ทุก​เส้น​บน​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ของ​ห​ลี่​เซิ่งก็​คือ​ ‘กฎเกณฑ์​’ ข้อ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​

และ​หาก​มอง​อย่าง​ละเอียด​ ‘กาย​ธรรม​ของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​’ นั้น​ก็​เกิด​จาก​การ​รวมตัวกัน​ของ​ชื่อจริง​เผ่า​ปีศาจ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เช่นกัน​

นี่​จึงเป็นเหตุให้​ทุกครั้งที่​กาย​ธรรม​ของ​สอง​ฝ่าย​แตกสลาย​จึงกลายเป็น​ฟ้าพลิกแผ่นดิน​ตลบ​ เป็น​การช่วงชิง​บน​มหา​มรรคา​ตาม​ความหมาย​ที่​แท้จริง​

กว่า​ลู่​เฉิน​จะคว้า​โอกาส​ที่​หายวับ​ไป​ใน​เสี้ยว​วินาที​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ เขา​รีบ​หยิบ​ตำรา​เต๋า​หนึ่ง​หน้า​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ปาก​ท่อง​คาถา​พึมพำ​ จากนั้น​ก็​โยน​ยันต์​ที่​มีไอ​ม่วง​ล้อ​มวน​ซึ่งตัวเอง​เป็น​ผู้สร้าง​ออก​ไป​ อาศัย​ประตู​บาน​ใหญ่​ที่​เชื่อมโยง​สอง​ใต้​หล้า​ไป​ยัง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ไป​บอก​ข่าวดี​แก่​ศิษย์​พี่​ ให้​เขา​รีบ​นำ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาชักนำ​ดวงจันทร์​ดวง​นี้​ ให้​มัน​หล่น​อยู่​ใน​กระเป๋า​ของ​ตัวเอง​ก่อน​เพื่อ​ความสบายใจ​ จากนั้น​ต้อง​ปิดประตู​ใหญ่​ลง​ทันที​ ไม่อย่างนั้น​หาก​ป๋า​ย​เจ๋อ​ตัดสินใจ​จะอำมหิต​ขึ้น​มา เปลี่ยน​สนามรบ​ไป​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ แล้ว​ใช้หมัด​ต่อย​ให้​ดวงจันทร์​ดวง​นั้น​ปริ​แตก​ ผลลัพธ์​ที่​ตามมา​ย่อม​เลวร้าย​จน​มิอาจ​คาดคิด​

ด้วย​ตบะ​และ​ขอบเขต​ของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ ต่อให้​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ต่อให้​ศิษย์​พี่​อวี๋​โต้​ว​เปลี่ยน​มาสวม​ชุด​คลุม​อาคม​ ใน​มือถือ​กระบี่​เซียน​ก็​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​ไม่มีทาง​จะรั้ง​ตัว​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​ได้​ หนึ่ง​เพราะ​ห​ลี่​เซิ่งมาถึงใต้​หล้า​มืด​สลัว​จะถูก​มหา​มรรคา​สยบ​กำราบ​อย่าง​รุนแรง​จน​มิอาจ​คาดการณ์​ได้​ ถึงขั้น​ที่ว่า​หนักหนา​ยิ่งกว่า​การ​ที่​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ไป​เยือน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​เสีย​อีก​ อีก​อย่าง​ก็​คือ​ลู่​เฉิน​รู้​นิสัย​ศิษย์​พี่​ของ​ตัวเอง​ดี​ว่า​ต้อง​ไม่มีทาง​ยินดี​ร่วมมือ​กับ​ใคร​เพื่อ​ต่อกร​กับ​ศัตรู​แน่นอน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​วิธี​การผสาน​มรรคา​ของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ ไม่ว่า​จะบาดเจ็บสาหัส​หรือไม่​ ล้วน​ไม่ได้​มีอะไร​แตกต่าง​ ขอ​แค่​ปล่อย​ให้​ป๋า​ย​เจ๋อ​หวนกลับ​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​ ด้วย​ระดับ​ความ​แข็งแกร่ง​ทนทาน​ของ​ร่าง​จริง​ป๋า​ย​เจ๋อ​ บวก​กับ​ระดับ​ความ​ลึกล้ำ​ต่อ​มรรค​กถา​มากมาย​ใน​ใต้​หล้า​ที่​ป๋า​ย​เจ๋อ​เข้าใจ​ เชื่อ​ว่า​เขา​ต้อง​ฟื้น​คืน​พลัง​การต่อสู้​กลับมา​อย่าง​รวดเร็ว​แน่นอน​

เพราะ​ไม่ใช่ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​ชี้แนะ​เวท​น้ำ​ให้​กับ​เฟยเฟย​ได้​

ผู้เฒ่า​ร่าง​ผอมแห้ง​ที่​ตื่นขึ้น​มาจาก​การ​จำศีล​อัน​ยาวนาน​จาก​ใต้ดิน​ลึก​ของ​ซาก​ปรัก​ตำหนัก​ดวงจันทร์​ ระหว่าง​ที่​ทิ้ง​ร่าง​ร่วง​ดิ่ง​ลง​ไป​ เวลา​เพียงแค่​ไม่กี่​ชั่ว​ลมหายใจ​ก็ได้​กลายร่าง​เป็น​บุรุษ​วัยกลางคน​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ยังอยู่​ใน​สภาวะ​อัน​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ที่​คล้ายคลึง​กับ​การ​หวนคืน​สู่ความจริง​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ก็​เชื่อ​ว่า​อีก​เดี๋ยว​มัน​ก็​จะแปลง​โฉมกลาย​ไป​เป็น​คนหนุ่ม​ และ​การเปลี่ยนแปลง​ประเภท​นี้​ยัง​ไม่ได้​เกิด​จาก​เวท​อำ​พรางตา​อีกด้วย​ แต่​เป็นการ​จำแลง​มหา​มรรคา​ที่​มิอาจ​ขัดขวาง​ได้​ชนิด​หนึ่ง​

ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​ตน​นี้​ทิ้งตัว​ดิ่ง​เป็น​เส้นตรง​ลง​ไป​ยัง​พื้นดิน​

คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูก​เจ้าคน​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​ผู้​นั้น​ไล่ตาม​มาทัน​

ปีศาจ​ใหญ่​ถือ​กระบี่​ยาว​ไว้​ใน​มือ​ เอื้อมมือ​ไป​ด้านหลัง​ เส้นเอ็น​หัวใจ​ขมึง​ตึง​เล็กน้อย​ แต่​เมื่อ​ชั่งน้ำหนัก​ผลได้​ผลเสีย​อย่าง​รวดเร็ว​แล้วก็​ยัง​ล้มเลิก​ความคิด​วู่วาม​ที่จะ​ปล่อย​กระบี่​ฟัน​คน​ทิ้ง​ไป​

ทั้งสองฝ่าย​อยู่​ห่าง​กัน​แค่​สิบ​กว่า​จั้งเท่านั้น​ แสงปราณ​กระบี่​สอง​เส้น​พุ่ง​ปะทะ​พื้นดิน​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ในเวลาเดียวกัน​ ความเคลื่อนไหว​นั้น​รุนแรง​ประดุจ​ฟ้าคำราม​สะเทือน​เลือน​ลั่น​

ปีศาจ​ใหญ่​ถามด้วย​ภาษาโบราณ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ว่า​ “ไม่ไป​ช่วย​จอม​ปราชญ์​น้อย​คน​นั้น​สักหน่อย​หรือ​?”

คาดไม่ถึง​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​มนุษย์​คน​นั้น​จะถึงขั้น​ตอบกลับ​เขา​ด้วย​ภาษาโบราณ​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​สำเนียง​ถูกต้อง​ดั้งเดิม​พร้อม​รอยยิ้ม​บาง​ๆ “เจ้าเอง​ก็​ไม่ไป​ช่วย​อาจารย์​ป๋า​ย​สักหน่อย​ล่ะ​?”

ปีศาจ​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ที่อยู่​ใน​รูปโฉม​ของ​เด็กหนุ่ม​เรียบร้อย​แล้ว​ตกตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ “หรือว่า​ข้า​มอง​ผิด​ไป​ แท้จริง​แล้ว​เจ้าไม่ใช่เผ่า​มนุษย์​?”

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​มนุษย์​อายุ​น้อย​ๆ คน​หนึ่ง​ ใคร​เล่า​ที่จะ​กิน​อิ่ม​ว่างงาน​แล้ว​เอา​เวลา​ไป​ศึกษา​ภาษาโบราณ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​?

อีก​อย่าง​บน​ร่าง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​คน​นี้​ก็​มีกลิ่นอาย​คุ้นเคย​ที่​ล่องลอย​อยู่​เสี้ยว​หนึ่ง​จริงๆ​

เห็น​ว่า​คน​ผู้​นั้น​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​ ปีศาจ​ใหญ่​บรรพกาล​ตัว​นี้​ก็​ถามว่า​ “ตาม​ข้า​มาทำไม​?”

คน​ผู้​นั้น​ยอม​ตอบ​ตาม​ความจริง​ “ดู​ว่า​จะฉวยโอกาส​ที่​ขอบเขต​ของ​เจ้าไม่มั่นคง​ ยัง​ไม่กลับ​สู่ยอดเขา​สูงสุด​อีกครั้ง​อย่าง​แท้จริง​หา​โอกาส​มาจัดการ​เจ้าได้​หรือไม่​”

ตาข่าย​หนึ่ง​กาง​อยู่​บน​ความว่างเปล่า​ ปราณ​สังหาร​นับ​หมื่น​ล้าน​ก่อกำเนิด​

เหมาะกับ​สนามรบ​ที่​ได้​ยึดครอง​ความได้เปรียบ​ทาง​ชัยภูมิ​ที่สุด​ ขอ​แค่​สร้าง​รัง​เก่า​ขึ้น​มาใน​จุด​ลึก​ของ​ใต้ดิน​เสีย​ก่อน​ แล้วก็​แค่​ต้อง​ ‘ป้องกัน​แมลง​ตัว​น้อย​บินหนี​’ สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​เผ่า​มนุษย์​หรือ​กองทัพ​ล่าง​ภูเขา​ที่​คล้ายคลึง​กับ​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ที่​พา​ตัว​มาติดกับดัก​แล้ว​ ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​ก็​คือ​อาจารย์​ค่าย​กล​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ปีศาจ​ใหญ่​บรรพกาล​ตัว​นี้​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​ที่​บน​ร่าง​แบกรับ​วิถี​กระบี่​บรรพกาล​เส้น​หนึ่ง​หรือ​อาจจะ​มากกว่า​นั้น​

ปีศาจ​ใหญ่​หลุด​หัวเราะ​พรืด​

ผู้ฝึก​ตน​รุ่นเยาว์​สมัยนี้​ แต่ละคน​ล้วน​ขอบเขต​สูงถึงเพียงนี้​ นิสัย​ก็​แย่​ถึงเพียงนี้​ พูดจา​ก็​ต้อง​ตรงไปตรงมา​ขนาด​นี้​ด้วย​หรือ​?

ผู้ฝึก​กระบี่​ที่อยู่​ตรงหน้า​คน​นี้​เมื่อ​เทียบ​กับ​หลาย​คน​ก่อนหน้า​นั้น​ พูดถึง​แค่​เรื่อง​ของ​อายุ​ก็​ออกจะ​ประหลาด​อยู่​บ้าง​ ภาพ​บรรยากาศ​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​หาก​คิด​คำนวณ​ตาม​ ‘อายุ​ที่​แท้จริง​’ ก็​เห็นได้ชัด​ว่า​อายุ​ไม่ถึงห้าสิบ​ปี​ แต่​หาก​คิด​คำนวณ​ตาม​วง​ปี​บางอย่าง​ที่​แม่น้ำ​ยาว​แห่ง​กาลเวลา​สร้าง​ขึ้น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ก็​ยังคง​อายุ​ไม่มาก​ แต่​จะดี​จะชั่ว​ก็​น่าจะ​ฝึก​ตน​มาได้​สามร้อย​ปี​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​บางครั้ง​กลับ​แสดงออก​ให้​เห็น​ว่า​อายุ​สี่ห้า​พันปี​

มอง​ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​ที่​เอา​สอง​มือ​สอด​กัน​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ปีศาจ​ใหญ่​ก็​หัวเราะ​หยัน​เอ่ย​ว่า​ “อย่า​มาหลอก​ข้า​เลย​ หาก​เจ้ามีความสามารถ​จริง​ มีความมั่นใจ​สัก​ห้า​ส่วน​ ป่านนี้​ก็​คง​ออก​กระบี่​ไป​นาน​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ลองดู​ไหม​?”

อยู่ดีๆ​ ปีศาจ​ใหญ่​ก็​นึกถึง​คนรัก​ของ​อีก​ฝ่าย​ขึ้น​มา นัง​หนู​น้อย​ผู้​นั้น​ออก​กระบี่​อำมหิต​จริงๆ​

อย่า​ลอง​เลย​ดีกว่า​

ไม่มีความจำเป็น​

สาเหตุ​ที่​แท้จริง​นั้น​เป็น​เพราะ​เจ้าหมอ​นี่​เหลือบมอง​พื้นดิน​คล้าย​ตั้งใจ​คล้าย​ไม่ได้​เจตนา​ ราวกับ​มอง​ทะลุ​ความคิด​ของ​ตน​ หาก​สอง​เท้า​ของ​เขา​สัมผัส​พื้น​ก็​จะสร้าง​ฟ้าดิน​แห่ง​หนึ่ง​ขึ้น​มา แผ่น​ฟ้าผืนดิน​ ถัก​ทอ​เป็น​ตาข่าย​

ใน​ฟ้าดิน​ของ​ตัวเอง​ ต่อให้​จะเรียกหา​คน​ให้​มาช่วย​ ต่อสู้​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ ต่อ​ให้โอกาส​ชนะ​มีไม่มาก​ แต่​ก็​ต้อง​ถลก​หนัง​ของ​อีก​ฝ่าย​ออก​ได้​ชั้นหนึ่ง​ ยกตัวอย่างเช่น​บอกกล่าว​กับ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​สักหน่อย​…

มารดา​มัน​เถอะ​ ทำไม​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ถึงไม่อยู่แล้ว​เล่า​?

หรือว่า​ใต้​หล้า​ไพศาล​ยกทัพ​บุก​มาโจมตี​ถึงภูเขา​ทัว​เย​ว่​แล้ว​?

กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ มอง​การ​จัด​ขบวน​ต่อสู้​ของ​เผ่า​มนุษย์​กลุ่ม​นั้น​ก็​เหมือนว่า​จะไม่ได้​เป็น​อย่าง​ที่​คิด​

ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นี้​พลัน​ใจหายวาบ​ รีบ​ชั่งน้ำหนัก​ผลได้​ผลเสีย​อย่าง​ว่องไว​ ยังคง​เรียก​รวม​ปีศาจ​มาร​และ​ภูต​ประหลาด​ทั้งหลาย​ใน​หก​ถ้ำที่​เป็น​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​ตน​ใน​อดีต​มาไว้​ก่อน​ดีกว่า​ กิน​ดื่ม​อิ่มหนำ​แล้ว​ ตบะ​ยอดเขา​สูงสุด​กลับคืน​มาค่อย​ถามกระบี่​กับ​คนอื่น​ถึงจะมั่นคง​กว่า​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ พวก​ศิษย์​ลูกศิษย์​หลาน​กลุ่ม​นั้น​ได้​แตก​กิ่งก้านสาขา​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​บ้าง​หรือไม่​

ทำไม​ครั้งนี้​ตน​ถูก​ป๋า​ย​เจ๋อ​ปลุก​ให้​ตื่น​แล้ว​ถึงได้​มีเรื่อง​ไม่คาดฝัน​มากมาย​ขนาด​นี้​? ไม่รู้จัก​จบ​จัก​สิ้น​เสียที​หรือ​?

สีหน้า​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ฉายแวว​จนใจ​ ยิ่ง​ตัดสินใจ​ได้​ว่า​ควร​ต้อง​ฝืน​นิสัย​ เก็บ​กลั้น​อารมณ์​ฉุนเฉียว​มาสักหน่อย​ มีเรื่อง​เพิ่มมากขึ้น​หนึ่ง​เรื่อง​ไม่สู้มีเรื่อง​น้อยลง​ ดังนั้น​จึงพูด​ไป​ตามตรง​ว่า​ “ว่า​มาเถอะ​ ทำ​อย่างไร​เจ้าถึงจะยอม​ผละ​จากไป​”

เรื่อง​ของ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​นั้น​ ไม่นับ​เป็น​อะไร​ได้​เลย​จริงๆ​

ปี​นั้น​เวท​กระบี่​หล่น​ลง​มายัง​โลก​มนุษย์​ดุจ​สายฝน​ บน​พื้นดิน​ ไม่ว่า​จะเป็น​เผ่า​ปีศาจ​หรือ​เผ่า​มนุษย์​ก็​มีเพียง​ผู้​ที่​ได้รับ​โชควาสนา​ใหญ่​เท่านั้น​ที่​ถึงจะได้​ขึ้น​เขา​ไป​ฝึก​ตน​

และ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​กลุ่ม​อื่น​ที่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ ชูเซิงแล้ว​ กลับ​ถือว่า​เป็น​เด็ก​รุ่นเยาว์​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​แล้ว​ อีก​ทั้ง​คุณสมบัติ​ยัง​ธรรมดา​ เพราะ​เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​กระบี่​นั้น​ก็​เป็นมัน​ที่​หมอบกราบ​ โขก​หัว​วิงวอน​บุคคล​ที่อยู่​สูงสุด​มาอย่าง​ยากลำบาก​

ลู่​เฉิน​สัมผัส​ได้​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ทาง​สภาพ​จิตใจ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​จึงจำต้อง​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “เจ้าอย่า​ได้​ต่อสู้​จริงๆ​ นะ​ ห​ลี่​เซิ่งต่อสู้​กับ​ป๋า​ย​เจ๋อ​อยู่​ที่นี่​ก็​ค่อนข้าง​เสียเปรียบ​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ “ข้า​รู้​”

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​โล่งอก​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ข้า​เห็น​ว่า​กระบี่​เล่ม​ที่อยู่​ใน​มือ​เจ้าไม่เลว​เลย​”

ก่อนหน้านี้​แก่น​แสงจันทร์​บริสุทธิ์​ของ​ดวงจันทร์​เฮ่าไฉ่ได้​ถูก​ปีศาจ​ใหญ่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​ตน​นี้​ใช้เวท​ลับ​นำมา​หลอม​เป็น​กระบี่​ยาว​เล่ม​หนึ่ง​

มือ​ที่​ถือ​กระบี่​ไพล่​อยู่​ด้านหลัง​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​สะบัด​ควง​กระบี่​ แสงจันทร์​ก็​เอ่อ​นอง​ออกมา​ “ก็​บอก​แต่แรก​สิ มอบให้​เจ้าก็แล้วกัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ไม่ได้รับ​กระบี่​ แต่​กุม​กระบี่​เย่​โหย​ว​ที่​สะพาย​อยู่​ด้านหลัง​มาไว้​ใน​มือ​

ปีศาจ​ใหญ่​พยักหน้า​ ค่อนข้าง​น่าสนใจ​

หลังจากนั้น​ทั้งสองฝ่าย​ก็​ออก​กระบี่​อย่าง​เต็มกำลัง​ ฟาดฟัน​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​กระบี่​

ต่าง​คน​ต่าง​ถอยหลัง​ไป​หลาย​สิบ​ลี้​ กระบี่​ยาว​ใน​มือ​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ กลายเป็น​แสงจันทร์​เข้มข้น​ผืน​หนึ่ง​ แสงจันทร์​เข้ม​หนืด​ประดุจ​ปรอท​

ร่าง​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​สลาย​หาย​ไป​ บน​พื้นดิน​พลัน​มีหลุม​ใหญ่​ยักษ์​โผล่​มา ‘ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​’ เผ่า​ปีศาจ​ที่​ออกจาก​ซาก​ปรัก​ดวงจันทร์​หวนกลับ​มายัง​โลก​มนุษย์​อีกครั้ง​งอ​เข่า​ลง​เล็กน้อย​ ยืด​เอว​ขึ้น​ตรง​ เงยหน้า​มอง​ไป​ยัง​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​มนุษย์​ที่​ไม่ได้​ตามมา​ไล่​ฆ่าตน​ต่อ​ คล้าย​ต้องการ​จดจำ​ใบหน้า​นั้น​ไว้​ให้​แม่น​

เฉิน​ผิง​อัน​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​ เก็บ​แสงจันทร์​พวก​นั้น​มาไว้​ใน​กระเป๋า​ของ​ตน​

แสงกระบี่​เปล่ง​วาบ​หนึ่ง​ที​ แล้ว​พุ่ง​ไป​ยัง​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

เมื่อ​สอง​เท้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​เหยียบ​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ ลู่​เฉิน​ก็​ทิ้งตัว​ไป​ด้านหลัง​ เอนกาย​นอน​อยู่​ใน​พื้นที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​ เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​เหมือน​ได้​ยกภูเขาออกจากอก​ ในที่สุด​ผิน​เต้า​ก็​ไม่ต้อง​คอ​ยอก​สั่น​ขวัญ​ผวา​อีกต่อไป​แล้ว​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เวลา​ช่างผ่าน​ไป​เชื่องช้า​หนึ่ง​วัน​ยาวนาน​ราวกับ​หนึ่ง​ปี​ ราวกับว่า​ใน​หนึ่ง​วัน​สามารถ​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ เสร็จ​ไป​เป็น​พัน​เรื่อง​ได้​แล้ว​

เฮ้อ​โซ่ว​พลิ้ว​กาย​ลง​มาจาก​ม่าน​ฟ้า ยังคง​เคารพ​กฎ​ นั่น​คือ​ลอยตัว​อยู่​นอก​หัว​กำแพงเมือง​ สอง​เท้า​ไม่สัมผัส​พื้น​ อาจารย์​ผู้เฒ่า​หยิบ​อาวุธ​เทพ​เก่าแก่​ชิ้น​นั้น​ออกมา​อย่าง​ระมัดระวัง​ ได้​แต่​กล้า​กุม​ไว้​หลวม​ๆ เท่านั้น​ ไม่กล้า​จับ​ดาบ​แคบ​เล่ม​นั้น​ให้​แน่น​ด้วยซ้ำ​ เฮ้อ​โซ่ว​ผลัก​มัน​ให้​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ท่าทาง​เหน็ดเหนื่อย​จาก​การ​เดินทาง​ที่​ย้อนกลับ​มายัง​หัว​กำแพงเมือง​อีกครั้ง​ “ดาบ​เล่ม​นี้​เป็น​อาวุธ​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ทิ้ง​ไว้​หลังจาก​ใช้มัน​สังหาร​ ‘ผู้​ลงทัณฑ์​’ ซึ่งเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ตน​หนึ่ง​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ให้​ข้า​มอบ​ดาบ​นี้​ให้​แก่​เจ้า ถือว่า​เป็น​ของขวัญ​แสดงความยินดี​ที่​เจ้ากับ​เซียน​กระบี่​หนิง​แต่งงาน​กัน​”

ลู่​เฉิน​ที่อยู่​ใน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​ใน​กวาน​เต๋า​ยืด​คอ​ยาว​ เบิกตา​กว้าง​ จ้องมอง​อาวุธ​ใน​ตำนาน​เล่ม​นั้น​อย่าง​พินิจพิเคราะห์​ นี่​คือ​ ‘อาวุธ​เทพ​’ ที่​สมชื่อ​เชียว​นะ​ เทียบ​กับ​อาวุธ​เซียน​ใดๆ​ ใน​โลก​ยุค​หลัง​แล้ว​ ระดับ​ขั้น​ยัง​สูงกว่า​หนึ่ง​ระดับ​ ไม่จำเป็นต้อง​หล่อหลอม​ ขอ​แค่​สามารถ​ทำให้​อาวุธ​ประเภท​นี้​ยอมรับ​เป็น​นาย​ได้​ก็​จะได้รับ​วิชา​อภินิหาร​บรรพกาล​หนึ่ง​ชนิด​หรือ​ถึงขั้น​หลายชนิด​

เฮ้อ​โซ่ว​เอ่ย​เตือน​ “อิ่น​กวาน​ต้อง​ระวัง​หน่อย​ อาวุธ​ชิ้น​นี้​ควบคุม​ได้​ยาก​มาก​”

ดาบ​แคบ​พิฆาต​ที่​แลกเปลี่ยน​มาจาก​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​เคย​เป็น​วัตถุ​ที่​ใช้ลง​ทัณฑ์บน​แท่น​สังหาร​มังกร​

มีกำแพง​แห่ง​หนึ่ง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​กั้น​ขวาง​ คม​ดาบสองคม​อยู่​เคียงข้าง​กัน​ จักรพรรดิ​และ​ขุนนาง​มีความต่าง​

ตอนที่​ผู้​ลงทัณฑ์​ซึ่งเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​บรรพกาล​ชั้นสูง​ตน​นั้น​เผย​กาย​เคย​เอ่ย​ว่า​ ผู้​ที่​โชคดี​ได้​พบ​คม​ดาบ​นี้​ก็​คือ​ผู้​ที่​โชคร้าย​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ยื่นมือ​ไป​กุม​ด้าม​ดาบ​ของ​ดาบ​ยาว​ไร้​ฝัก​อย่าง​ไม่ลังเล​ ไม่มีความผิดปกติ​แม้แต่น้อย​ มัน​ว่าง่าย​อ่อนโยน​อย่างยิ่ง​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เฮ้อ​โซ่ว​ละอายใจ​อย่าง​มาก​ ดาบ​ของ​องค์​เทพ​ ก่อนหน้านี้​ถูก​เฉิน​ชิงตู​กุม​ไว้​ใน​มือ​ไม่มีท่าทาง​พยศ​ใดๆ​ หาก​เพียง​เท่านั้น​ก็​ช่างเถิด​ คาดไม่ถึง​ว่า​เมื่อ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​รับ​มาไว้​ใน​มือ​มัน​จะยัง​…ว่าง่าย​เช่นนี้​

ต้อง​รู้​ว่า​ช่วงเวลา​ที่​เขา​รับ​ดูแล​อาวุธ​ชิ้น​นี้​ชั่วคราว​ ลำพัง​เพียงแค่​สยบ​กำราบ​ความผิดปกติ​มากมาย​ที่เกิด​จาก​การ​ถูก​กระตุ้น​ความ​เป็น​เทพ​ที่​บริสุทธิ์​ส่วน​นั้น​เอาไว้​ก็​ทำให้​เฮ้อ​โซ่ว​รู้สึก​เปลือง​แรง​มาก​แล้ว​

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจ

ไม่เพียง​เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​คือ​สาเหตุ​บางอย่าง​ ยัง​เป็น​เพราะ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​คือ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​คน​หนึ่ง​ ทั้ง​ยังมี​ความ​เชื่อมโยง​บน​มหา​มรรคา​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​

ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​เก็บ​รวบรวม​มาอย่าง​ยากลำบาก​ ค้นหา​ไป​ทั่ว​สารทิศ​ ไม่เพียงแค่​เพื่อ​งมเอา​พื้น​ที่ลับ​ที่​ปริ​แตก​ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​พวก​นั้น​มาได้​ ถึงขั้น​ที่ว่า​เมื่อ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ออก​เดินทางไกล​ไปนอก​ฟ้า ใช้ดวงดาว​ต่าง​ท่าเรือ​ ดวงดาว​หมุนเวียน​เคลื่อน​คล้อย​ ของ​ตก​ทอดที่​เป็น​อาวุธ​เทพ​รวม​ทั้งสิ้น​สิบ​แปด​ชิ้น​ ใน​บรรดา​นั้น​ก็​มีแค่​สอง​ชิ้น​ที่​ลู่​เฉิน​คิด​ว่า​ระดับ​ขั้น​สามารถ​ทัดเทียม​กับ​ของ​ที่​ลู่​เฉิน​เห็น​ในเวลานี้​ได้​ ชิ้น​หนึ่ง​คือ​หอ​เมฆมรกต​ที่อยู่​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ซึ่งถูก​ปิดผนึก​มานาน​หลาย​พันปี​แล้ว​ ส่วน​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​คือ​เสื้อเกราะ​ เล่าลือ​กัน​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​สามของ​เลียนแบบ​ของ​เสื้อเกราะ​ที่​ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​สวมใส่​อยู่​บน​ร่าง​

และ​ของ​เลียนแบบ​สามชิ้น​นี้​ก็​ยัง​ให้กำเนิด​เม็ด​เสื้อเกราะ​สำนัก​การทหาร​อีก​สามชนิด​ที่​สำนัก​การทหาร​ใน​โลก​ยุค​หลัง​สร้าง​ขึ้น​มาอย่าง​เสื้อเกราะ​จิงเหว่​ย​ เสื้อเกราะ​จิน​อู​และ​เสื้อเกราะ​เท​พรับ​น้ำค้าง​ และ​เสื้อเกราะ​น้ำค้าง​หวาน​ตอนนั้น​ก็ได้​สร้าง​ผลงาน​เปิด​ภูเขา​ที่​เป็น​ ‘บรรพบุรุษ​’ ขึ้น​มาแปด​ชิ้น​ ใน​บรรดา​นั้น​ก็​มีเสื้อเกราะ​ ‘ซีเย​ว่’​ ที่​ปริ​แตก​ยับเยิน​ ตรา​ผนึก​หนา​ชั้น​ ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​เก็บตก​มาได้​จากห​อห​ลิง​จือ​ ส่วน​อื่นๆ​ ที่​เหลือ​ก็​แบ่ง​ออก​เป็น​เสื้อเกราะ​น้ำค้าง​หวาน​อีก​เจ็ด​ตัว​แรก​สุด​อัน​ได้แก่​ฝอกั๋ว​ ฮวา​เปา​ ซาน​กุ่ย​ สุ่ย​เซียน​ เสีย​กวาง​ ไฉ่อี​ อวิ๋น​ไห่​ แต่​ส่วนใหญ่​ล้วน​ถูก​ทำลาย​ไป​หมด​แล้ว​

ปี​นั้น​เดิมที​ลู่​เฉิน​คิด​ว่า​จะไป​ขโมย​เสื้อเกราะ​ตัว​นั้น​ออก​มาจาก​หอ​มรกต​ แล้ว​มอบให้​กับ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ แต่​ทำ​ไม่สำเร็จ​ เพราะ​ถูก​เจ้าหอ​ขัดขวาง​ จากนั้น​ยัง​เอาเรื่อง​นี้​ไป​ฟ้อง​กับ​ศิษย์​พี่​อวี๋​โต้​ว​อีกด้วย​

อวี๋​โต้​ว​ไม่ได้​เสียดาย​สมบัติ​หนัก​ชิ้น​นั้น​ แต่​คิด​ว่า​ทุกวันนี้​ขอบเขต​ของ​ศิษย์​น้อง​ยัง​ต่ำ​เกินไป​ ยัง​มิอาจ​ควบคุม​สมบัติ​หนัก​ชิ้น​นี้​ได้​ชั่วคราว​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​ต้อง​เลื่อน​เป็น​เซียน​เห​ริน​ก่อน​ถึงจะพอ​ต้านทาน​ท่วงทำนอง​ความ​เป็น​เทพ​ที่​เหลืออยู่​ได้​

สมบัติ​เทพ​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​พลัด​ไป​อยู่​นอก​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ซึ่งก็​คือ​ชิ้น​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​หญิง​แก่​ขอบเขต​สิบ​สี่นิสัย​ร้ายกาจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ผู้​นั้น​ เป็นเหตุให้​นักพรต​หญิง​ได้รับ​วิชา​อภินิหาร​ของ​ ‘ผู้​หล่อหลอม​’ นาง​จึงสามารถ​อาศัย​พละกำลัง​ของ​ตัวเอง​คนเดียว​หลอม​อาวุธ​กึ่ง​เซียน​หรือ​แม้กระทั่ง​อาวุธ​เซียน​ออกมา​ได้​

อาวุธ​เทพ​สิบ​หก​ชิ้น​นอกจากนั้น​ล้วน​ไม่ใช่ของ​ที่​เทพ​ชั้นสูง​สิบสอง​ท่าน​ได้​ครอบครอง​ ระดับ​ขั้น​ยัง​เป็นรอง​อยู่​หนึ่ง​ขั้น​ ชิ้น​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​คือ​ดาบ​แคบ​พิฆาต​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​จาก​ตำแหน่ง​สุ้ยฉู​ ผล​คือ​เปลี่ยนมือ​มาตลอดทาง​จนกระทั่ง​มาถึงกำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แล้วจึง​มาอยู่​ใน​มือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

และ​อาวุธ​เทพ​ประเภท​นี้​ยังมี​ความ​ประหลาด​อีก​อย่างหนึ่ง​ เมื่อ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​เป็น​ผู้ใช้​ จะใช้ได้​อย่าง​คล่องมือ​มาก​ แทบจะ​ไม่มีโรค​ร้าย​ใดๆ​ แฝงอยู่​ หัน​กลับมา​มอง​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​ได้​ครอบครอง​สมบัติ​ล้ำค่า​กลับ​ต้อง​ระวัง​แล้ว​ระวัง​อีก​ ต่อให้​ถูก​ผู้ฝึก​ตน​หลอม​ได้​สำเร็จ​ก็​ยัง​อาจจะ​แว้ง​กลับมา​โจมตี​ได้​ง่ายๆ​ ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ใน​ประวัติศาสตร์​เคย​มีโศก​นาฎกรรม​ประเภท​นี้​เกิดขึ้น​สิบ​กว่า​ครั้ง​ จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ถูก​อาบ​ย้อม​ นิสัย​เปลี่ยนแปลง​ไป​มาก​ ซึมซับ​อิทธิพล​ไป​โดยไม่รู้ตัว​แม้แต่น้อย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด