กระบี่จงมา 875.1 ทางหนีทีไล่ปะทะทางหนีทีไล่

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 875.1 ทางหนีทีไล่ปะทะทางหนีทีไล่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​ผิง​อัน​มาที่​อาณาเขต​ทางเหนือ​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ นอกจาก​เส้นทาง​สาย​หนึ่ง​ที่​ศาล​บุ๋น​บุกเบิก​ขึ้น​ใหม่​แล้ว​ ทาง​สาย​อื่นๆ​ ที่​เหลือ​ล้วน​ราบเป็นหน้ากลอง​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ไกล​ก็​ไม่เหลือ​สิ่งใด​สัก​อย่าง​

ลู่​เฉิน​เผย​กาย​ เดินเล่น​เคียง​บ่า​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​บน​เส้นทาง​ที่​ไม่มีคำ​ว่า​ทัศนียภาพ​ใดๆ​ ให้​พูดถึง​

นคร​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​มากมาย​ดุจ​ก้อน​เมฆ ร้านเหล้า​ตั้ง​เรียงราย​ และ​จวน​เซียน​กระบี่​นอกเมือง​ที่​กระจัดกระจาย​ไป​ตาม​จุด​ต่างๆ​ ล้วน​ไม่หลงเหลือ​อยู่แล้ว​

หอ​เซียน​ปลูก​ต้น​อวี๋​เคย​มีเซียน​กระบี่​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ชอบ​ปลูก​ดอกไม้​ ไหว้วาน​ให้​หอ​ห​ลิง​จือ​ภูเขา​ห้อย​หัว​ทุ่ม​เงินก้อน​ใหญ่​ซื้อ​ต้น​อวี๋​โบราณ​มาจาก​ฝูเหยา​ทวีป​ ย้าย​มาปลูก​ใน​เมือง​เล็ก​ คง​เป็น​เพราะ​น้ำ​และ​ดิน​ไม่ถูกกัน​ จึงมิอาจ​ทน​รับ​ปราณ​กระบี่​ที่​มีอยู่​ทั่ว​ทุกหนทุกแห่ง​ได้​ แห้งเหี่ยว​โรย​รามา​นาน​หลาย​ปี​ คิดไม่ถึง​ว่า​อยู่ดีๆ​ ปี​หนึ่ง​ก็​พลัน​มีบุปผา​เบ่งบาน​ สูงเหนือ​หลังคา​บ้าน​ งดงาม​จน​มิอาจ​บรรยาย​

เพียงแต่​รอ​กระทั่ง​เซียน​กระบี่​ขู่​เซี่ย​แห่ง​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ได้​หวน​กลับคืน​มายัง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อีกครั้ง​ ทั้ง​สตรี​และ​ดอกไม้​ต่าง​ก็​ไม่อยู่แล้ว​

คลัง​เจี่ย​จ้างที่​สำนัก​กระบี่​ไท่ฮุย​อาศัย​คุณ​ความชอบ​ใน​การ​สู้รบ​แลกเปลี่ยน​มา เรือน​ว่าน​เฮ้อ​ที่​ลี่​ไฉ่เช่าไว้​ ทุกครั้งที่​เจอ​กับ​แสงจันทร์​ก็​จะมีเสียง​ต้นสน​ดัง​ซู่ๆ ดุจ​เสียง​คลื่น​ รวมไปถึง​หอ​ถิงอวิ๋น​ที่​นาง​จ่าย​เงิน​ซื้อ​มาไว้​ ตลอดทั้ง​หอ​เรือน​ถึงกับ​แกะสลัก​มาจาก​หยก​ก้อน​ใหญ่​ยักษ์​ก้อน​หนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ขยุ้ม​ดิน​เล็กน้อย​มาขยี้​

ลู่​เฉิน​ได้​มอบ​กวาน​ดอกบัว​กลับคืน​ไป​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​อีกครั้ง​

การแกะสลัก​ตัวอักษร​บน​หัว​กำแพงเมือง​ได้​เผาผลาญ​จิงชี่เสิน​ไป​อย่าง​มหาศาล​ ตอนนี้​จึงยัง​ไม่เหมาะ​จะคืน​มรรค​กถา​ให้​กับ​เขา​ ยัง​ต้อง​รอ​อีก​ครู่หนึ่ง​

ถึงอย่างไร​ลู่​เฉิน​ก็​ไม่รีบร้อน​กลับ​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ไป​แล้วก็​ต้อง​ถูก​ศิษย์​พี่​อวี๋​รังเกียจ​ โชคดี​ที่​อาจารย์​ได้​บอก​ไว้​แล้ว​ว่า​ไม่ต้อง​ให้​เขา​ไป​สังหาร​พวก​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​ฆ่าอย่างไร​ก็​ไม่หมดสิ้น​ที่​ฟ้านอก​ฟ้า ต้อง​คอย​จ้อง​ตา​กัน​ไปมา​ ไม่อย่างนั้น​ลู่​เฉิน​ก็​คง​ต้องหา​ข้ออ้าง​เหมาะ​ๆ สัก​ข้อ​เที่ยวเล่น​อยู่​ใน​ไพศาล​อีก​สัก​สามสี่ปี​ ก็​เหมือนกับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ คน​เดิน​ไป​ถึงที่ไหน​ ที่นั่น​ก็​เป็น​ร้าน​ผ้า​ห่อ​บุญ​ ถ้าอย่างนั้น​แผง​ของ​ผิน​เต้า​วาง​ไว้​ตรง​ไหนจะ​ไม่อาจ​ดูดวง​ได้​บ้าง​เล่า​?

ลู่​เฉิน​เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​ไม่คิด​จะลุกขึ้น​ยืน​จึงนั่งลง​ไป​บน​พื้น​ หยิบ​เอา​หิน​แตก​ขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​ก้อน​หนึ่ง​ที่เก็บ​มาจาก​มุมกำแพง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​

เดินทาง​มาท่องเที่ยว​ไพศาล​ครั้งนี้​ หาก​อิ่น​กวาน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ไม่ใช่เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าลัทธิ​ลู่​ก็​คงจะ​หา​มุมมืด​มุมหนึ่ง​ของ​หัว​กำแพงเมือง​แกะสลัก​ตัวอักษร​ขนาดเล็ก​เท่า​หัวแมลงวัน​ว่า​ ‘ลู่​เฉิน​เคย​มาเที่ยว​เยือน​ที่นี่​’ แล้วก็​เผ่นหนี​ไป​

ลู่​เฉิน​ยก​มือขึ้น​ “ไม่ถือสา​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​

ลู่​เฉิน​หยิบ​มีดตัดกระดาษ​ไผ่​เหลือง​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​ เอา​มาทำเป็น​มีด​แกะสลัก​ สุดท้าย​ลู่​เฉิน​ก็​แกะสลัก​ตราประทับ​เปล่า​ลักษณะ​เรียว​ยาว​ออกมา​ชิ้น​หนึ่ง​ แล้วจึง​ใช้นิ้วมือ​ปาด​ลง​ไป​ตรง​มุม เป่า​ลม​ลง​ไป​ให้​เศษหิน​ปลิว​กระจาย​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ที่​ฟ้านอก​ฟ้า เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​จัดการ​ได้​ยาก​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?”

ถึงขั้น​ที่​มรรคา​จารย์​เต๋า​ต้อง​สร้าง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​ ‘สูงตระหง่าน​เสียดฟ้า​’ ขึ้น​มาเพื่อ​ใช้ต้านทาน​การ​รุกราน​อย่าง​ไร้​ขอบเขต​สิ้นสุด​ที่​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​มีต่อ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ สอง​นิ้ว​คีบ​มีดตัดกระดาษ​ กำลัง​แกะสลัก​ริม​ขอบ​ของ​ตราประทับ​ เนื้อหา​คร่าวๆ​ เป็น​บันทึก​เกี่ยวกับ​การ​เดินทาง​มาเยือน​เปลี่ยว​ร้าง​ระหว่าง​ตน​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ สิ่งที่​ได้​พบเห็น​มาตลอดทาง​ พอ​ได้ยิน​คำถาม​นี้​ ลู่​เฉิน​ก็​เผย​สีหน้า​กลัดกลุ้ม​ “ยาก​ ยาก​มาก​จริงๆ​ ผิน​เต้า​ไป​แล้วก็​ต้อง​เหนื่อย​เปล่า​อยู่ดี​ ก่อไฟ​หุงข้าว​ทำกับข้าว​ เป็นเรื่อง​ที่​เปลือง​แรง​เปล่า​ ดังนั้น​เต้า​กวาน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงล้วน​มอง​มัน​เป็นงาน​เหนื่อยยาก​มาโดยตลอด​ เพราะ​มีแต่​จะผลาญ​ตบะ​ ไม่มีประโยชน์​ใดๆ​ ให้​พูดถึง​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​ขอบเขต​ต่ำกว่า​บิน​ทะยาน​ รับมือ​กับ​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​แปรเปลี่ยน​ได้​สารพัด​รูปแบบ​ก็​คือ​การ​หอบ​ฟืน​ไป​ดับไฟ​ จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ไม่มั่นคง​มาก​พอ​ ขอ​แค่​มีช่องโหว่​หรือ​จุดด่างพร้อย​สัก​เล็กน้อย​ก็​จะกลายเป็น​เหยื่อ​บน​มหา​มรรคา​ของ​เทวบุตร​มาร​ ไม่ต่าง​จาก​การ​ราด​น้ำมัน​ลง​บน​กอง​เพลิง​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​มีบิน​ทะยาน​อายุ​มาก​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ฝ่าคอขวด​ไป​ไม่ได้​ คิด​อยาก​จะแอบ​ไป​เสี่ยง​ดวง​ที่​ฟ้านอก​ฟ้า ไม่มีหนึ่ง​ใน​หมื่น​อะไร​ทั้งนั้น​ ทุกคน​ล้วน​กาย​ดับ​มรรคา​สลาย​เหมือนกัน​หมด​โดย​ไม่มีข้อยกเว้น​ หาก​ไม่ตาย​อยู่​ที่​ฟ้านอก​ฟ้า ถูก​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​จับ​มาเล่น​อยู่​ใน​กำมือ​อย่าง​สนุกสนาน​ ก็​ต้อง​ตาย​ใต้​คม​กระบี่​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋”​

“ศิษย์​พี่​อวี๋​เคย​มีสหาย​สนิท​ที่​เจอกัน​ล่าง​ภูเขา​สามคน​ ทั้ง​สี่คน​ขึ้น​เขา​ฝึก​ตน​ใน​เวลา​ไล่เลี่ยกัน​ ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ที่​คุณสมบัติ​ดีเยี่ยม​ พอได้​เจอกัน​ก็​ถูกชะตา​กัน​มาก​ สุดท้าย​คน​ทั้ง​สี่จึงเป็น​สหาย​รัก​ที่​ร่วมทุกข์​มาด้วยกัน​ ภายใน​เวลา​พันปี​ก็​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ด้วยกัน​ มีเพียง​ศิษย์​พี่​อวี๋​ที่​เข้าไป​อยู่​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อีก​สามคน​ที่​เหลือ​ คน​หนึ่ง​คือ​ปรมาจารย์​ใหญ่​สาย​ยันต์​ และ​ยังมี​คู่รัก​อีก​คู่​หนึ่ง​ คน​หนึ่ง​เป็น​อาจารย์​ค่าย​กล​ คน​หนึ่ง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ เจ้าพอ​จะจินตนาการ​ได้​หรือไม่​ว่า​ใน​ช่วงเวลา​นั้น​ พวก​ศิษย์​พี่​อวี๋​จะมีปณิธาน​ฮึกเหิม​เพียงใด​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “เดิน​ไป​ด้วยกัน​บน​มหา​มรรคา​ เดินกร่าง​ไป​ทั่วหล้า​ก็​ยัง​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​ จางซาน​เฟิง จงขุย​ หลิว​จิ่งหลง​…

เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เคย​จินตนาการ​ถึงภาพ​ที่​ตน​และ​เหล่า​สหาย​ออก​ท่องเที่ยว​ไป​ทั่วหล้า​ เจอ​น้ำ​ข้าม​น้ำ​ เจอ​ภูเขา​ปีน​ภูเขา​ เจอ​กับ​เรื่อง​ที่​ไม่เป็นธรรม​ก็​หยุด​เท้า​ ให้​โลก​มนุษย์​มีเรื่อง​ที่​ทำให้​คน​ไม่เป็นสุข​น้อยลง​ไป​เรื่อง​หนึ่ง​

“อืม​ ฉายา​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ก็​เริ่ม​แพร่​ออกมา​ตอน​ช่วงเวลา​นั้น​นั่นแหละ​ ฉาย​ประกาย​คมกริบ​ บุก​ไป​ที่ใด​ที่นั่น​ก็​ราบเป็นหน้ากลอง​ ใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​คน​ที่สอง​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ อยู่​ท่ามกลาง​เจ้านคร​ เจ้าหอ​ เทียน​จวิน​และ​เซียน​กวาน​มากมาย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง คือ​คน​คนเดียว​ที่​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ แต่กลับ​กล้า​พูดว่า​ตัวเอง​คือ​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่​สามารถ​เอาชนะ​ผู้ฝึก​กระบี่​ได้​อย่าง​มั่นคง​ ทุกครั้งที่​ศิษย์​พี่​อวี๋​ออก​ไป​แล้ว​หวน​กลับมา​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิงอีกครั้ง​ก็​จะต้อง​พก​เรื่องเล่า​เป็น​กระบุงโกย​กลับมา​ที่​ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ด้วย​”

ก็​เหมือน​อย่าง​อา​เหลียง​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ รวมไปถึง​หนิง​เหยา​แห่ง​นคร​บิน​ทะยาน​ใต้​หล้า​ห้า​สีใน​ยุค​หลัง​

“เวลา​นาน​วัน​เข้า​ คน​ก็​ลือ​กัน​ไป​ทั้งเมือง​ กลายเป็น​ว่า​ ‘ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​’ เป็น​ฉายา​ที่​ศิษย์​พี่​อวี๋​แต่งตั้ง​ให้​กับ​ตัวเอง​ ศิษย์​พี่​เอง​ก็​คร้าน​จะอธิบาย​อะไร​ คาด​ว่า​คง​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ตำแหน่ง​ ‘ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​’ ไม่ช้าก็เร็ว​ต้อง​เป็น​ของ​ใน​กระเป๋า​ของ​เขา​อยู่แล้ว​ ก็​แค่​ว่า​ถูก​คน​เรียก​กัน​เร็ว​กว่า​ที่​คิด​ไว้​ไม่กี่​พันปี​เท่านั้น​ จะนับ​เป็น​อะไร​ได้​”

“น่าเสียดาย​ที่​มีสอง​คนใน​กลุ่ม​ คน​หนึ่ง​ตาย​ไป​ที่​ฟ้านอก​ฟ้า ตอนนั้น​ศิษย์​พี่​อวี๋​ไม่ได้​ขัดขวาง​ มิอาจ​ตัดใจ​ปล่อย​กระบี่​ใส่สหาย​รัก​ได้​ จึงจงใจปล่อย​ผ่าน​ไป​ ด้วยเหตุนี้​ยัง​ถูก​พวก​ขุนนาง​ประวัติศาสตร์​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงกล่าวโทษ​ ร้องเรียน​ไป​ถึงถ้ำสวรรค์​เล็ก​เหลียน​ฮวา​ของ​ท่าน​อาจารย์​ ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ตาย​ใต้​คม​กระบี่​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ เหลือ​แค่​คนเดียว​ แล้ว​ก็เพราะว่า​คนรัก​ตาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ นาง​จึงกลายเป็น​ศัตรู​คู่แค้น​กับ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ เป็นเหตุให้​ทุกๆ​ หลาย​ร้อย​ปี​ เรื่อง​แรก​ที่​นาง​ทำ​หลัง​ออกจาก​ด่าน​ใน​ทุกครั้ง​ก็​ถือ​ถามกระบี่​ต่อ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ทำ​อะไร​โดย​ใช้อารมณ์​ ทั้งที่​รู้ดี​ว่า​สู้ไม่ได้​แต่​ก็​ยัง​จะสู้”

“เวท​กระบี่​และ​มรรค​กถา​ทั้งหมด​บน​โลก​ใบ​นี้​ได้​แค่​สยบ​เทวบุตร​มาร​เท่านั้น​ รักษา​ที่​ปลาย​เหตุ​ไม่ได้​รักษา​ที่​ต้นเหตุ​ จึงไม่อาจ​ขจัด​ภัย​ร้าย​นี้​จาก​ต้นตอ​ได้​ ศิษย์​พี่​สอง​คน​ของ​ผิน​เต้า​ และ​ยังมี​ศิษย์​น้อง​ของ​นักพรต​ซุน​ ทั้ง​สามคน​นี้​ต่าง​ก็​เลือก​เส้นทาง​กัน​คนละ​เส้น​ ล้วน​เคย​พยายาม​หา​วิธี​ที่​เหนื่อย​ครั้ง​เดียว​สบาย​ไป​ได้​ตลอด​”

“ยกตัวอย่าง​สอง​เรื่อง​ที่​ไม่ค่อย​เหมาะสม​เท่าไร​แล้วกัน​ เจ้าสามารถ​มอง​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ทั้งหมด​เป็นการ​รวมตัวกัน​ของ​เวท​คาถา​บางอย่าง​ หรือ​มอง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบห้า​คน​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ ‘สลาย​มรรคา​’ ‘ผสาน​มรรคา​’ ได้​ตามใจชอบ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะถามหยั่งเชิง​ว่า​ “ดูเหมือน​ลัทธิ​พุทธ​จะมีคำกล่าว​ที่ว่า​ความจริง​มีเพียง​หนึ่งไม่มีสอง​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “ดังนั้น​ถึงได้​บอก​อย่างไร​ล่ะ​ว่า​เทวบุตร​มาร​ทำลาย​กฎเกณฑ์​ที่​ถูกต้อง​”

“วิธีการ​ของ​ศิษย์​พี่​เจ้าลัทธิ​คือ​สร้าง​หุน​อี๋​ (ลูก​ทรงกลม​ท้องฟ้า​แบ​บวง​ล้อ​ ใช้วัด​ตำแหน่ง​ปรากฏ​ของ​วัตถุ​ท้องฟ้า​) และ​หุน​เซี่ยง​ (ลูก​ทรงกลม​ท้องฟ้า​ ใช้เป็น​ลูก​ทรงกลม​ที่​แสดง​ตำแหน่ง​ดาว​ตาม​ใน​แผนที่​ดาว​บน​ผิว​ทรงกลม​) ทำให้เกิด​เวท​บน​ฟ้าปรากฏการณ์​บน​ดิน​ได้​อย่าง​แท้จริง​ พยายาม​ที่จะ​ยืนยัน​ความ​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ทุก​ตน​ อนุญาต​ให้​มีขอบเขต​ที่​พร่า​เลือน​ใน​ระดับ​แน่นอน​ เพียงแต่ว่า​กระบวนการ​นั้น​ยิ่งใหญ่​เกินไป​ ไม่ต่าง​จาก​การอาศัย​กำลัง​ของ​ตัวเอง​คนเดียว​มานับ​เม็ดทราย​ใน​แม่น้ำ​ลำคลอง​ให้​ครบ​ทุก​เม็ด​ แต่​ศิษย์​พี่​เจ้าลัทธิ​ก็​ยัง​ทุ่มเท​สติปัญญา​ทำ​เรื่อง​นี้​อย่าง​ระมัดระวัง​มาหลาย​พันปี​ วันหน้า​รอ​ให้​เจ้าไป​เป็น​แขก​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ผิน​เต้า​สามารถ​พา​เจ้าไปดู​หุน​อี๋​และ​หุน​เซี่ยง​นั่น​ได้​”

ลู่​เฉิน​พูดถึง​ศิษย์​พี่​สอง​คน​ คำ​เรียกขาน​มีความต่างกัน​อยู่​บ้าง​ คน​หนึ่ง​เรียก​ว่า​ศิษย์​พี่​เจ้าลัทธิ​ อีก​คน​หนึ่ง​เรียก​ว่า​ศิษย์​พี่​อวี๋​

ราวกับว่า​ใน​สายตา​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ นักพรต​ที่​มีคุณสมบัติ​จะถูก​เรียก​เป็น​ ‘เจ้าลัทธิ​แทน​อาจารย์​’ ได้​อย่าง​แท้จริง​ ยังคง​เป็น​ศิษย์​พี่ใหญ่​ที่​เป็น​ ‘บุคคล​สูงส่งผู้​ไร้​ความเห็นแก่ตัว​’ คน​นั้น​เท่านั้น​

“ความคิด​ของ​ศิษย์​น้อง​เจ้าอาราม​ซุน​ยิ่ง​น่า​ตะลึงพรึงเพริด​มากกว่า​ ต้องการ​สืบเสาะ​ไป​ถึงต้นกำเนิด​ของ​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ เตรียม​จะใช้เทวบุตร​มาร​จัดการ​กับ​เทวบุตร​มาร​กันเอง​ เพียงแต่ว่า​การกระทำ​นี้​มีข้อห้าม​มากมาย​ หาก​แพร่​ออก​ไป​ก็​มีความเป็นไปได้​มากกว่า​จะชักนำ​หายนะ​ที่​มิอาจ​ประมาณการณ์​ได้มา​ให้​แก่​โลก​มนุษย์​ ศิษย์​พี่​ซิ่ว​หู่​ของ​เจ้าแอบ​สร้าง​คน​กระเบื้อง​ขึ้น​มา ก็​ยิ่ง​เกิน​กว่า​เหตุ​เข้าไป​ใหญ่​ แม้จะบอ​กว่า​วิธีการ​ไม่เหมือนกัน​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​รุดหน้า​ไป​ได้มา​กกว่า​ฝ่าย​แรก​หนึ่ง​ขั้น​ เท่ากับ​ว่า​เป็นการ​ลงมือทำ​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​”

“วิธีการ​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ข้า​กลับ​เรียบง่าย​และ​หยาบ​กว่า​มาก​ เขา​รู้สึก​ว่า​ขอ​แค่​มรรค​กถา​ของ​ตัวเอง​สูงมาก​พอ​ พลัง​การสังหาร​เพียงพอ​ก็​จะสามารถ​บีบ​ให้​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​มารวมตัวกัน​ได้​มากขึ้น​ จน​จำต้อง​มีแนวโน้ม​ว่า​จะรวม​เป็นหนึ่ง​มากขึ้น​ จากนั้น​เขา​ก็​จะรวบ​แห​จัดการ​ทีเดียว​ จะสยบ​กำราบ​ กักขัง​และ​หล่อหลอม​พวก​มัน​ เท่านี้​ก็​ถือว่า​กระ​ทำบุญ​กุศล​เสร็จ​สมบูรณ์​แล้ว​ เมื่อ​บุญ​กุศล​พร้อม​ถึงสามพัน​ประการ​ ก็​จะได้​เลื่อนขั้น​เป็น​อริยะ​ กลายเป็น​ขอบเขต​สิบห้า​คน​ที่สอง​ตามหลัง​อาจารย์​ รา​คาที่​ต้อง​จ่าย​ก็​คือ​ต้อง​ทำให้​ป๋า​ยอ​วี้​จิงว่าง​ลง​เพื่อ​นำมาใช้​เป็น​กรงขัง​ของ​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ ศิษย์​พี่​อวี๋​วางแผน​ทำ​เรื่อง​นี้​มานาน​แล้ว​ ต้องการ​ขอ​โองการ​ฉบับ​หนึ่ง​มาจาก​ท่าน​อาจารย์​ ให้​ท่าน​รับปาก​ว่า​จะให้​เขา​หลอม​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเป็น​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ใช้ฟ้าดิน​สอง​แห่ง​อย่าง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงและ​ภูเขา​สายน้ำ​เรือน​กาย​มนุษย์​ ร่วมกับ​กระบี่​เซียน​ ‘เต้า​จ้าง’ และ​ห้า​ร้อย​ห​ลิง​กวาน​มารับผิดชอบ​คอย​ลาดตระเวน​ภูเขา​สายน้ำ​ อาศัย​สิ่งนี้​มากักขัง​ หลอม​สังหาร​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ทั้งหมด​”

“อาจารย์​มีท่าที​ที่​ไม่ชัดเจน​กับ​การกระทำ​นี้​ของ​ศิษย์​พี่​อวี๋​มาโดยตลอด​ ดูเหมือนว่า​จะไม่สนับสนุน​ แต่​ก็​คล้าย​ว่า​จะไม่คัดค้าน​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​ถามว่า​ “ทำไม​ถึงเรียก​การ​ก่อกวน​อาละวาด​ของ​เทวบุตร​มาร​นอก​โล​กว่า​เป็น​อุทกภัย​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “วันหน้า​รอ​ให้​เจ้าได้​ออก​ไป​เยือน​ฟ้านอก​ฟ้าก็​ลอง​สืบหา​ความจริง​ด้วยตัวเอง​แล้วกัน​”

“พวก​ผู้ฝึก​ตน​อย่าง​เรา​ๆ ยิ่ง​อยู่​ใกล้​กับ​ยอดเขา​มาก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​โลก​มนุษย์​มาก​เท่านั้น​ รอ​กระทั่ง​กว่า​จะเดิน​ไป​ใกล้​ยอดเขา​สูงสุด​หรือ​ยืน​อยู่​บน​ยอดเขา​ได้​อย่าง​ไม่ง่าย​ เมื่อ​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​มอง​ไป​ไกล​อีก​ก็​ย่อม​เรียนรู้​ที่จะ​ทะนุถนอม​ทุก​คำ​ว่า​ ‘ไม่รู้​’ ไม่อย่างนั้น​ชีวิต​การ​ฝึก​ตน​ก็​จะไม่มีความบันเทิง​ใดๆ​ ให้​กล่าวถึง​อีก​”

“ก่อนหน้านี้​ตบะ​ของ​เจ้าเลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ สามารถ​ปีน​เขา​ข้าม​แม่น้ำ​ได้​ตามใจ​ปรารถนา​ ท่องเที่ยว​ไป​ได้​ทั่ว​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ เชื่อ​ว่า​เจ้าน่าจะ​เข้าใจ​เรื่อง​หนึ่ง​แล้ว​ การ​ขึ้น​ที่สูง​มอง​ไป​ไกล​ ยิ่ง​สูงเท่าไร​ก็​ยิ่ง​มอง​ได้​ไกล​มาก​เท่านั้น​ อาณาเขต​ที่​มีขอบเขต​จำกัด​แห่ง​หนึ่ง​จะทน​การ​มอง​ซ้ำได้​สัก​กี่​ที​กัน​? ต่อให้​ใต้​หล้า​ใหญ่​แค่​ไหน​ ถึงอย่างไร​ก็​มีขอบเขต​สิ้นสุด​ ทัศนียภาพ​แบบ​เดียวกัน​มอง​มาก​เข้า​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​มอง​ซ้ำปีแล้วปีเล่า​ มอง​ไป​นาน​หลาย​พันปี​ก็​จะยิ่ง​ทำให้​คน​รู้สึก​เหนื่อยล้า​ ใน​ใจเกิด​ความ​เกียจคร้าน​เบื่อหน่าย​”

ในที่สุด​ลู่​เฉิน​ก็​แกะสลัก​ตัวอักษร​ริม​ขอบ​และ​ตัวอักษร​ด้านล่าง​ของ​ตราประทับ​สอง​ชิ้น​เสร็จ​ “จากลา​กัน​ครั้งนี้​ ต่าง​คน​ต่าง​อยู่​คนละ​ฟากฟ้า​ รอ​ให้​พบ​เจอกัน​คราวหน้า​ คาด​ว่า​อย่าง​น้อย​สุด​ก็​ต้อง​ร้อย​ปี​ หรือ​อย่าง​มาก​สุด​ก็​หลาย​ร้อย​ปี​ ไม่มีจำนวน​ที่​แน่ชัด​”

หาก​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ออก​เดินทางไกล​ใน​ครั้งนี้​ ขอบเขต​ไม่ได้​ถดถอย​ เชื่อ​ว่า​รอ​อีกไม่นาน​เขา​ก็​จะสามารถ​พก​กระบี่​บิน​ทะยาน​ ออก​เดินทางไกล​ไป​เยือน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ตามหา​โอกาส​เหมาะ​ๆ ใน​การ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ได้​แล้ว​

ตอนนี้​หมดหวัง​แล้ว​

ลู่​เฉิน​โยน​ตราประทับ​ชิ้น​หนึ่ง​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​เบา​ๆ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เก็บ​ตราประทับ​ไว้​คนละ​ชิ้น​ เอาไว้​เป็น​ของที่ระลึก​”

เฉิน​ผิง​อัน​รับ​ตราประทับ​มา ด้าน​ใต้​ตราประทับ​สลัก​เป็น​คำ​ว่า​เปิด​ตำรา​ข้า​ได้​ตามใจ​

ก่อนหน้านี้​เหลือบมอง​ไป​ก็​เห็น​ว่า​อักษร​ด้าน​ใต้​ของ​ตราประทับ​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​ก็​มีตัวอักษร​ห้า​ตัว​เช่นกัน​ มอบ​ใจให้​แก่​ผู้​กล้า​

พวก​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​ยันต์​ทั้งหลาย​ที่​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้มีชื่อเสียง​ที่​ได้รับ​การ​ยอมรับ​จาก​บน​ภูเขา​ ผลงาน​ที่​รังสรรค์​ขึ้น​ตอน​ ‘อยู่​ว่าง​’ ทุก​ชิ้น​ หาก​มี ‘ความภาคภูมิใจ​’ อยู่​สัก​สอง​สามส่วน​ก็​จะถูก​ตระกูล​เซียน​ทั่วไป​นำ​ไป​ทำเป็น​สมบัติ​พิทักษ์​ภูเขา​โดยตรง​

“ทักษะ​และ​ประสบการณ์​ชีวิต​ เกี่ยวพัน​กับ​ร้อย​สำนัก​ ล้วน​เป็น​พรสวรรค์​ที่​เหนือกว่า​กำลังคน​ มีเพียง​เรื่อง​การแกะสลัก​ตราประทับ​ที่​สวรรค์​ห้า​คน​ห้า​”

คน​ที่​พูดจา​แบบนี้​ได้​ต้อง​เป็น​คน​ที่​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ถึงเพียงใด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​คำ​ว่า​ ‘สวรรค์​ห้า​คน​ห้า​’ มอง​ดูเหมือน​ถ่อมตัว​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​ความภาคภูมิใจ​ใน​ตัวเอง​อย่าง​สูง

และ​คน​ผู้​นี้​ก็​คือ​เจ้าลัทธิ​ลู่​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​นั่นเอง​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ขอบคุณ​หนึ่ง​คำ​ แล้วจึง​เก็บ​ตราประทับ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​อย่าง​ผึ่งผาย​

ลู่​เฉิน​พูด​ถึงที่​วาง​พู่กัน​ปะการัง​แดง​ที่​ได้​มาจาก​นค​รอ​วี้​ป่าน​ชิ้น​นั้น​ขึ้น​มาอีก​ คำพูด​ไม่ได้​วกวน​อ้อมค้อม​อีกแล้ว​ แต่​บอก​ตรงๆ​ ว่า​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​เชิญเปิด​ราคา​มาได้​เลย​ นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงต้องการ​ของ​ชิ้น​นี้​มาก​เพียงใด​

มอง​ดูเหมือนว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​กับ​ของ​ชิ้น​นี้​มาก​นัก​ จะมีหรือไม่​มีก็ได้​ เขา​จึงไม่ได้​ปฏิเสธ​ที่จะ​ทำการค้า​ เพียงแค่​ให้​ลู่​เฉิน​เปิด​ราคา​มาก่อน​ อีก​ทั้ง​ยัง​ให้ราคา​ได้​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ หาก​ราคา​เหมาะสม​ก็​จะขาย​ ไม่เหมาะสม​ก็​เลิก​ตอแย​ได้​แล้ว​ วันหน้า​จะเอา​ไป​วาง​ไว้​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ปล่อย​ให้​ฝุ่น​เกาะ​ก็แล้วกัน​

ลู่​เฉิน​กลับเป็น​คน​ที่​ต้อง​ปวดหัว​แทน​

อีก​ทั้ง​อยู่​ร่วมกับ​ผิง​อัน​นาน​วัน​เข้า​จึงรู้​ว่า​เขา​ไม่มีความคิด​ที่จะ​รอ​ให้​ได้ราคา​สูงก่อน​ค่อย​ขาย​อะไร​ หาก​บอ​กว่า​ไม่ขาย​ก็​คือ​ไม่ขาย​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​เห็น​ว่า​ลู่​เฉิน​มีสีหน้า​ลำบากใจ​จึงยิ้ม​ถามว่า​ “ก่อน​จะเปิด​ราคา​ ไม่สู้ลอง​เล่า​ประวัติ​ความเป็นมา​ของ​ที่​วาง​พู่กัน​ปะการัง​แดง​ชิ้น​นั้น​ก่อน​ดี​ไหม​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด