กระบี่จงมา 889.7 ออกจากเมืองหลวงกลับบ้านเกิด

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 889.7 ออกจากเมืองหลวงกลับบ้านเกิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ส่วน​ลำคลอง​หลง​ซวี​ที่​ได้​เลื่อน​จาก​ลำธาร​เป็น​ลำคลอง​มานาน​แล้ว​สาย​นั้น​ หม่า​ห​ลัน​ฮวา​ก็ได้​เลื่อน​จาก​แม่ย่า​ลำคลอง​เป็น​เทพ​ลำคลอง​ด้วย​ แม้ว่า​ระดับ​ขั้น​จะไม่สูง แต่​เดิมที​ก็​ควร​ได้​สร้าง​ศาล​และ​ร่าง​ทอง​ แต่​ฟังจาก​คำพูด​ของ​ชุยตง​ซาน​ หยาง​เหล่า​โถว​เคย​ให้​คำสัญญา​กับ​หญิง​ชรา​จาก​ตรอก​ซิ่งฮวา​ผู้​นั้น​ว่า​ รอ​ให้​ผ่าน​ไป​สามสิบ​ปีก่อน​นาง​ถึงจะสามารถ​เสวยสุข​กับ​ควัน​ธูป​ได้​

เมือง​หง​จู๋นอกจาก​จะเป็น​สถานที่​ที่​แม่น้ำ​สามสาย​ไหล​มารวมกัน​แล้ว​ อันที่จริง​ก็​มีคำ​เรียกขาน​ว่า​ห้า​ลำธาร​เช่นกัน​ หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​อำเภอ​ห​ลัน​ซี (หรือ​ลำธาร​ห​ลัน​ซี) ที่อยู่​เหนือ​แม่น้ำ​อวี้เย่​ ถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็น​เอว​ของ​หก​น้ำ​ ถือว่า​เป็น​อำเภอ​ใหญ่​จังหวัด​เล็ก​ตามแบบฉบับ​ ขนม​ซูปิ่ง​ ลูก​หยาง​เหมย​และ​ลูก​ผี​ผา​ของ​ที่นั่น​ต่าง​ก็​มีชื่อเสียง​มาก​ บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​ลำธาร​ห​ลัน​ซียังมี​หน้าผา​เซียน​หลบ​ฝน​และ​แม่น้ำใต้ดิน​ที่​เชื่อมโยง​กับ​แม่น้ำ​ชงตั้น​อยู่​อย่าง​ลับ​ๆ

ศาล​แม่น้ำ​อวี้เย่​และ​จวน​เทพ​วารี​ เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​ไป​เยือน​รอบ​หนึ่ง​แน่นอน​

เทพ​วารี​เย่​ชิงจู๋ก็​ต้อง​พบ​หน้า​กัน​สักครั้ง​

หมี่​ลี่​น้อย​ยก​มือขึ้น​ป้อง​ปาก​ หัวเราะ​ฮ่าๆ “เรื่อง​เล็กน้อย​ ไม่รีบร้อน​ๆ”

ลด​มือ​ลง​แล้ว​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​ขยับ​เชือก​ร้อย​กระเป๋า​ผ้าฝ้าย​ หนัก​จัง ปวด​ไหล่​ไป​หมด​แล้ว​

เรื่อง​น้อย​ใหญ่​ทั้งหลาย​ อันที่จริง​มีอยู่​ไม่น้อย​

ลูกศิษย์​อย่าง​จ้าว​ซู่เซี่ย​ จ้าว​หลวนหลวน​ จางเจีย​เจิน​ ผู้ฝึก​ตน​สาย​ยันต์​เจี่ยงชวี่…​

วันหน้า​ยัง​ต้อง​มอบ​ชั้น​วาง​สมบัติ​ที่​ทำ​ขึ้น​เอง​กับ​มือ​ให้​เผย​เฉียน​ด้วย​

เรือน​ด้านหลัง​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ยังมี​จดหมาย​อีก​ฉบับ​ที่​รอ​ให้​ตน​ไป​อ่าน​

รอ​กระทั่ง​จน​กลับ​มาจาก​เขต​ชิงหยวน​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​สอน​วิชา​หมัด​อย่าง​จริงจัง​ให้​กับ​เผย​เฉียน​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​ที่​ชั้นสอง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​

หา​ตลาด​แห่ง​หนึ่ง​ อำเภอ​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​หวง​ถิง ในอนาคต​จะต้อง​เป็น​อาจารย์​สอนหนังสือ​ใน​โรงเรียน​

มาถึงที่​เรือน​ไม้ไผ่​

จูเหลี่ยน​พา​เสี่ยว​โม่กับ​เซียน​เว่ย​ไป​นั่ง​ที่​โต๊ะ​หิน​ริม​หน้าผา​

หนิง​เหยา​เข้า​ห้อง​ไป​พร้อมกับ​เฉิน​ผิง​อัน​

พูดถึง​แค่​ที่พัก​ใน​ชั้นหนึ่ง​ของ​เจ้าขุนเขา​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มี ‘เทียบ​ ณ ขณะนั้น​’ ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​อยู่​ กลิ่นอาย​แห่ง​มรรคา​ของ​ตราประทับ​สอง​ตรา​ที่อยู่​บน​เทียบ​อักษร​ได้​สลาย​หาย​ไป​แล้ว​ แต่กลับ​ยัง​เห​ลือชื่อ​ลงท้าย​ที่​รวบรวม​ท่วงทำนอง​แห่ง​มรรคา​เอาไว้​ ‘หัวใจ​เหมือน​ดอกบัว​เขียว​บน​โลก​’

และ​ยังมี​เทียบ​อักษร​อีก​สอง​เทียบ​ที่​อาจารย์​ของ​ตน​ขอ​มาจาก​ซูจื่อ​ หลิ่ว​ชีอย่าง​เทียบ​บุปผา​ผลิบาน​ เทียบ​ขอ​สุรา​ที่​ก็​แฝงเร้น​ไป​ด้วย​ท่วงทำนอง​แห่ง​มรรคา​ มีโชคชะตา​บุ๋น​เปี่ยมล้น​เช่นเดียวกัน​

ก่อนหน้านี้​เข้าร่วม​การประชุม​ศาล​บุ๋น​ ได้​เจอ​กับ​หลิน​ชิงเค่อ​ชิงของ​สกุล​ชิวอ​วี๋​โจว​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​โดยบังเอิญ​ ทั้งสองฝ่าย​ถูกชะตา​กัน​มาก​ ผู้เฒ่า​ได้​มอบ​ตราประทับ​สลัก​นูน​ต่ำ​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ชิ้น​หนึ่ง​ วัตถุดิบ​ที่​ใช้ดีเยี่ยม​

อักษร​ริม​ขอบ​เป็น​คำ​ว่า​ ‘ท้องฟ้า​ตะวันตก​ฉาบ​สีทอง​ คือ​จุด​ที่​ดวงตะวัน​ลาลับ​ เซียน​เมาสุรา​ ดวงจันทร์​ลอย​สูง กระบี่​บิน​ดุจ​สายรุ้ง​ สอง​เท้า​กระทืบ​รากดิน​ทางทิศใต้​ ฝ่ามือ​พลิกกลับ​ประตู​สวรรค์​แห่ง​ดาวเหนือ​’

อักษร​ด้านล่าง​ของ​ตราประทับ​คือ​ ‘เคย​พบ​คน​ชุด​เขียว​’

วาง​ตราประทับ​ชิ้น​นี้​ลง​บน​โต๊ะ​หนัง​สืแล้ว​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เอา​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ที่​แกะสลัก​เนื้อหา​ความหมายแฝง​ได้​งดงาม​อย่าง​ถึงที่สุด​วาง​ลง​บน​ชั้นวางหนังสือ​เบา​ๆ

เฉิน​ผิง​อัน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​ก้าว​แล้ว​ยื่นมือ​ออกมา​ ขยับ​ตำแหน่ง​ที่​วาง​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​เล็กน้อย​

เหมือนกับ​นก​นางแอ่น​คาบ​ดิน​โคลน​มาทำรัง​ เหมือน​มด​ย้ายบ้าน​ เหมือน​คำกล่าว​ที่ว่า​เหลือกินเหลือใช้​ทุกปี​

หลังจากที่​พ่อแม่​จากไป​ ก่อน​อายุ​สิบ​สี่พอ​จะฝืน​รักษา​กิจการ​ของ​ตระกูล​เอาไว้​ได้​ โชคดี​ที่​หลังจากนั้น​ ทุกปี​ที่​ผัน​ผ่าน​ล้วน​เป็น​ปี​ที่​ดี​

จากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พา​หนิง​เหยา​ เรียก​เสี่ยว​โม่และ​เซียน​เว่ย​ให้​ลง​จาก​ภูเขา​ไป​ด้วยกัน​ เขา​จะไป​ตรวจ​บัญชี​ที่​ร้าน​ฉ่าว​โถว​และ​ร้าน​ยา​สุ้ย​ที่​ตรอก​ฉีหลง​

หมี่​ลี่​น้อย​ไม่ได้​ตาม​ไป​ด้วย​ นาง​ต้อง​ไป​ลาดตระเวน​ภูเขา​นะ​

แม่นาง​น้อย​วิ่ง​ตะบึง​ไป​อย่าง​ร่าเริง​พลาง​ร้องเพลง​ไป​ด้วยว่า​เต้าหู้​เหม็น​อร่อย​นะ​ เมล็ด​แตง​ทอง​หนัก​มาก​เลย​ไป​ตลอดทาง​

เซียน​เว่ย​เพิ่งจะ​สะสมความมั่นใจ​จาก​บน​ภูเขา​มาได้​เล็กน้อย​ พอได้​เห็น​สอง​ร้าน​นี้​ใน​ตลาด​ก็​ให้​รู้สึก​อ่อนใจ​เป็น​ทบ​ทวี​อีกครั้ง​

นี่​ก็​คือ​ต้นกำเนิด​เงินทอง​ของ​ภูเขา​บ้าน​ตน​หรือ​? ถ้าอย่างนั้น​ก็​พอๆ กับ​ตน​เลย​น่ะ​สิ ทุกวัน​ได้​แต่​เก็บหอมรอมริบ​เงิน​ที่​หา​มาได้​อย่าง​ยากลำบาก​? ช่างเถิด​ หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ก็​คง​ต้อง​ให้​ตน​ลงมือ​เอง​ กลับมา​ทำ​กิจการ​เก่า​อีกครั้ง​ก็แล้วกัน​ ระหว่าง​ที่​เดินทาง​มาเห็น​ว่า​ถนน​และ​ตรอก​ของ​เมือง​เล็ก​หลาย​เส้น​ดู​โอ่อ่า​ร่ำรวย​ วันหน้า​จะลอง​ไปดู​ว่า​จะหา​เส้นทาง​ทำเงิน​จาก​ที่นั่น​ได้​หรือไม่​

ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​ของ​เผย​เฉียน​ชื่อ​เดิม​คือ​โจว​จวิ้นเฉิน​ ชื่อเล่น​คือ​อา​หมา​น​ ฉายา​ว่า​เจ้าใบ้​น้อย​

เขา​ยืน​อยู่​บน​ม้านั่ง​ตัวเล็ก​ด้านหลัง​โต๊ะ​คิดเงิน​ วันนี้​เด็กชาย​เรียก​เฉิน​ผิง​อันว่า​อาจารย์​ปู่​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​

เฉิน​ผิง​อัน​อด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ไม่ได้​ ก่อน​จะยิ้ม​ถามว่า​ “อา​หมา​น​ เจ้าคิด​จะยืม​เงิน​จาก​ข้า​หรือ​?”

อา​หมา​น​ส่ายหน้า​ บอก​ตามตรง​ว่า​ “แค่​อยาก​จะขอให้​อาจารย์​ปู่​ช่วย​ตรวจสอบ​ให้​กระจ่าง​ ควบคุม​คน​บางคน​ที่​เฝ้าของ​เอง​ขโมย​เอง​ให้​ดี​ๆ หน่อย​”

เด็กชาย​ผม​ขาว​วิ่ง​มาจาก​เรือน​ด้านหลัง​ เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​ว่า​ “อา​หมา​น​ ทุกวันนี้​มีครั้งไหน​ที่​ข้า​กิน​ขนม​แล้ว​ไม่จ่าย​เงิน​บ้าง​?! ใส่ร้าย​คนอื่น​ก็​ต้อง​มีหลักฐาน​นะ​!”

อา​หมา​น​หัวเราะ​หึหึ​พูดว่า​ “กิน​ต่อหน้า​ข้า​น่ะ​จ่าย​เงิน​แล้ว​ แต่​ส่วน​ที่​ถูก​เจ้าแอบ​ขโมย​กิน​เล่า​? ข้า​รู้​หรอก​นะ​”

เด็กชาย​ผม​ขาว​กลอกตา​ไปมา​ “อันที่จริง​เป็น​ชุยฮ​วา​เซิงร้าน​ข้าง​กัน​ต่างหาก​ที่​ขโมย​กิน​ขนม​ ข้า​ห้าม​ไม่ได้​ แล้วก็​ตี​นาง​ไม่ได้​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​

เด็กชาย​ผม​ขาว​จ้อง​คนหนุ่ม​ที่​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​ สอง​มือ​เท้า​เอว​ฉับ​ ผงก​ปลาย​คาง​ชี้ “เจ้า ขอบเขต​อะไร​ ไหน​ลอง​ว่า​มาสิ”

มีความรู้สึก​ว่า​ไอ้​หมอ​นี่​ค่อนข้าง​อันตราย​

เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​มีนาม​ว่า​คง​โหว​ผู้​นี้​ อันที่จริง​ชื่อ​เดิม​ใน​ตำหนัก​สุ้ยฉู​คือ​ ‘เทียน​หรา​น’​

ไม่รู้​ว่า​ประสาท​เส้น​ไหน​ใน​สมอง​กระตุก​หรือว่า​อย่างไร​ ถึงกับ​มีความคิด​อยาก​จะรับ​ลูกศิษย์​ โหวกเหวก​ว่า​จะเป็น​อาจารย์​ พอ​เป็น​อาจารย์​แล้ว​ผ่าน​ไป​อีก​สอง​สามวัน​ก็​จะเอาอย่าง​บรรพบุรุษ​อิ่น​กวาน​เป็น​อาจารย์​ปู่​บ้าง​แล้ว​

มักจะ​อยู่​ที่​เรือน​ด้านหลัง​เพียงลำพัง​ ชอบ​กระโดดโลดเต้น​ชูไม้ชูมือ​หันไป​ทาง​ทิศ​ที่ตั้ง​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ตะโกน​ว่า​ขึ้น​เขา​แล้ว​ ขึ้น​เขา​แล้ว​ จะไป​แย่ง​ลูกศิษย์​ คนเดียว​ไม่รังเกียจ​ว่า​น้อย​ สอง​คน​ไม่รังเกียจ​ว่า​มาก​ หนึ่ง​คน​ยก​ชาหนึ่ง​คน​ยก​น้ำ​…

นอกจากนี้​หาก​ไม่คอย​เปลี่ยน​สารพัด​วิธี​ไป​หลอก​เอา​เงิน​มาจาก​ชุยฮ​วา​เซิง ก็​จะนั่ง​คาบ​ไม้จิ้มฟัน​อยู่​หน้า​ประตู​ร้าน​ แยกเขี้ยว​แสยะปาก​อยู่​กับ​ตัวเอง​

อายุ​น้อย​แค่นี้​ก็​ผม​ขาว​เต็ม​หัว​แล้ว​

เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ที่​อายุ​มาก​แล้ว​เคย​มาโน้มน้าว​เถ้าแก่​สือ​ด้วย​ความหวังดี​เป็นการ​ส่วนตัว​ว่า​ รีบ​พา​เด็กน้อย​ที่​น่าสงสาร​ผู้​นี้​ไปหา​หมอ​เถอะ​ เงิน​บางอย่าง​ก็​ไม่ควร​ประหยัด​

อันที่จริง​เสี่ยว​โม่ก็​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​ ใน​ร้าน​ถึงกับ​มีเทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ด้วย​?

ส่วน​ผี​สาว​ที่​สวม​คราบ​ร่าง​เซียน​บุรุษ​ผู้​นั้น​ ไม่ถือว่า​เป็นเรื่อง​แปลก​อะไร​

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​เอ่ย​ “ขอบเขต​อะไร​ล้วน​เป็น​มายา​ล่องลอย​”

มีเด็กสาว​คน​หนึ่ง​เดิน​ฝีเท้า​เร่งร้อน​มาจาก​ร้าน​ฉ่าว​โถว​ ยอบ​กาย​คารวะ​เฉิน​ผิง​อัน​อย่าง​นอบน้อม​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ขลาด​ๆ ว่า​ “บ่าว​ชุยฮ​วา​เซิงคารวะ​ท่าน​เจ้าขุนเขา​”

เฉิน​ผิง​อัน​ผงกศีรษะ​ยิ้ม​รับ​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​รู้สึก​อึดอัด​อย่างยิ่ง​

เถียน​หว่าน​แห่ง​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ ศิษย์​น้อง​หญิง​ของ​โจว​จื่อ​ถูก​ชุยตง​ซาน​และ​เจียง​ซ่างเจิน​ร่วมมือ​กัน​ไป​สกัด​ขวาง​ ผล​คือ​ถูก​ชุยตง​ซาน​ดึง​หนึ่ง​จิต​หนึ่ง​วิญญาณ​ออกมา​ขยี้​รวม​เป็น​ไส้ตะเกียง​ แล้ว​บรรจุ​ใส่ไว้​ใน​ ‘แจกัน​ดอกไม้​’ ใบ​หนึ่ง​ จึงกลาย​มาเป็น​เด็กสาว​ที่​ช่วย​งาน​เบ็ดเตล็ด​อยู่​ใน​ตรอก​ฉีหลง​ทุกวันนี้​ นาม​ว่า​ชุยฮ​วา​เซิง ทุกวันนี้​นาง​ถือว่า​เป็น​น้องสาว​บุญธรรม​ในนามของ​ชุยตง​ซาน​

และ​ชุยตง​ซาน​ก็​ยัง​ได้​พื้น​ที่ลับ​ถ้ำสวรรค์​ที่​ระดับ​ขั้นสูง​มาก​แต่กลับ​ไม่มีชื่อ​แห่ง​หนึ่ง​มาจาก​เถียน​หว่าน​ แม้ว่า​จะไม่ติดอันดับ​เจ็ด​สิบสอง​ถ้ำสวรรค์​เล็ก​ แต่​ตาม​คำกล่าว​ของ​เถียน​หว่าน​ วัตถุดิบ​วิเศษ​แห่ง​สวรรค์​ที่อยู่​ด้านใน​และ​โชคชะตา​บน​มหา​มรรคา​ต่าง​ก็​สามารถ​ประคับประคอง​การ​ฝึก​ตน​หลอม​ลมปราณ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ได้​

ความนัย​ใน​คำพูด​นี้​ก็​คือ​เซียน​ดิน​คน​หนึ่ง​ ขอ​แค่​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ราบรื่น​พอ​ก็​จะสามารถ​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​ที่​ตัดขาด​กับ​โลก​ภายนอก​แห่ง​นี้​ได้​ตลอด​ ไม่จำเป็นต้อง​ใช้ของ​นอกกาย​ก็​สามารถ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​

ใน​นั้น​ยังมี​จวน​เซียน​เจี้ยงเชวีย​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​เหมือน​เป็น​ถ้ำสวรรค์​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ และ​ยังมี​ลำธาร​ตัน​ซีที่​ธาตุ​น้ำหนัก​ทึบ​ น้ำ​ไหล​เหมือน​หยก​ เหมาะกับ​การ​นำมา​หลอม​เป็น​โอสถ​มาก​ที่สุด​ นอกจากนี้​ก็​มีภูเขา​ชื่อ​ซงที่​มีวัตถุดิบ​ล้ำค่า​อย่าง​เห็ด​ฝูห​ลิง​ เห็ด​ห​ลิง​จือ​ โสมคน​ ฯลฯ​ ต้นไม้​วิเศษ​พืชพรรณ​เซียน​มากมาย​เกิน​คณานับ​

ราวกับ​เป็น​คลังสมบัติ​ธรรมชาติ​ที่​แค่​เอื้อมมือ​ก็​คว้า​มาครอง​ได้​

ใน​เมื่อ​ถ้ำสวรรค์​แห่ง​นี้​เป็น​เจ้าสำนัก​เบื้องล่าง​อย่าง​ชุยตง​ซาน​ที่​นำ​กลับมา​ ถ้าอย่างนั้น​ตาม​เหตุ​ตาม​ผล​แล้วก็​ควร​เอา​ไป​ไว้​ที่​สำนัก​เบื้องล่าง​ใน​ใบ​ถงทวีป​

เพราะ​ถึงอย่างไร​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ซึ่งเป็น​สำนัก​เบื้องบน​ก็​มีพื้นที่​มงคล​ราก​บัว​ที่​เลื่อนขั้น​เป็น​ระดับสูง​ อีก​ทั้ง​ยัง​ถึงคอขวด​แล้ว​อยู่​ด้วย​ บวก​กับ​บ่อ​ตรวน​มังกร​ที่​ถือ​เป็นการ​เชื่อมโยง​ถ้ำสวรรค์​กับ​พื้นที่​มงคล​ไว้​ด้วยกัน​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ใน​นั้น​ยังมี​แคว้น​หู​ที่​จูเหลี่ยน​เป็น​คน​หลอก​เอา​มาอยู่​ด้วย​

เพียงแต่​เนื้อ​ติด​มัน​ชิ้น​โต​ที่​ชุยตง​ซาน​สนใจ​อย่าง​แท้จริง​กลับเป็น​ถ้ำสวรรค์​ฉาน​ทุ่ย​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​มานาน​แห่ง​นั้น​

น่าเสียดาย​ที่​เถียน​หว่าน​ไม่ได้​โกหก​ มัน​ไม่ได้​อยู่​ที่​นาง​จริงๆ​

แน่นอน​ว่าไม่ได้​อยู่​ที่​นาง​ ไม่ได้​หมายความว่า​นาง​ไม่รู้​ว่า​ถ้ำสวรรค์​แห่ง​นี้​อยู่​ที่ไหน​ คิดดู​แล้วด้วย​นิสัย​ของ​ชุยตง​ซาน​ต้อง​ไม่มีทาง​ยอม​เลิกรา​ง่ายๆ​ แน่นอน​

เพราะ​ถ้ำสวรรค์​ใน​ยุค​บรรพกาล​แห่ง​นี้​ถือ​เป็นหนึ่ง​ใน​ซาก​ปรัก​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ของ​อาณาเขต​สู่โบราณ​ เล่าลือ​กัน​ว่า​มีเซียน​กระบี่​บรรพกาล​หลาย​ท่าน​ที่​ลอกคราบ​แล้ว​บิน​ทะยาน​อยู่​ที่นี่​ กลายเป็น​เซียน​ยาม​ทิวา​ จิต​แห่ง​เซียน​หลุดพ้น​ ทิ้ง​เนื้อหนัง​เหมือน​คราบ​ร่าง​เอาไว้​ ล้ำค่า​หาที่เปรียบมิได้​

เฉิน​ผิง​อัน​บอก​ให้​เสี่ยว​โม่กับ​เซียน​เว่ย​อยู่​ที่​ร้าน​ อีก​เดี๋ยว​จะกลับ​ไป​ที่​ภูเขา​ด้วยกัน​

ตน​พา​หนิง​เหยา​เดิน​ไป​บน​ขั้นบันได​ของ​ตรอก​ฉีหลง​ เดิน​ขึ้น​บันได​ไป​ทีละขั้น​จน​ไป​ถึงขั้น​บนสุด​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​

จากนั้น​ก็​เดิน​กัน​ไป​จนถึง​ตรอก​หนี​ผิง​ ระหว่าง​นี้​ยัง​ผ่าน​ตรอก​ซิ่งฮวา​ด้วย​

ปี​นั้น​ร้าน​ของ​โจว​จื่อ​ก็​ตั้งอยู่​ที่นี่​

นักพรต​เฒ่าตาบอด​ที่​เมากรึ่ม​ๆ คน​หนึ่ง​กลับมา​ที่​ตรอก​ฉีหลง​ นี่​ก็เพราะว่า​ไป​ช่วย​งานมงคล​ให้​กับ​เพื่อนบ้าน​มาจึงดื่มเหล้า​ไป​ไม่น้อย​ ไม่ยอมรับ​ซอง​แดง​ ก็​ญาติ​ที่อยู่​ห่างไกล​สู้เพื่อนบ้าน​ที่อยู่​ใกล้เคียง​ไม่ได้​นี่​นะ​ หาก​ตน​ยัง​รับเงิน​ก็​เกินไป​หน่อย​แล้ว​ ไม่มีมาด​แห่ง​เซียน​มาก​พอ​

รอ​กระทั่ง​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ได้ยิน​ว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​กับ​ฮูหยิน​เจ้าขุนเขา​เพิ่งจะ​ออกจาก​ตรอก​ฉีหลง​ไป​ไม่นาน​ นักพรต​เฒ่าก็​กระทืบเท้า​ ตี​อก​ชก​ตัว​ เสียใจ​ภายหลัง​ยิ่งนัก​

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ขอบเขต​ประตู​มังกร​แล้ว​ แม้เจี่ยเฉิง​จะตาบอด​ แต่​แค่​โคจร​ลมปราณ​เล็กน้อย​ อันที่จริง​การ​มองเห็น​ก็​เหมือน​คน​ปกติ​ ได้ยิน​มาว่า​เสี่ยว​โม่คือ​ผู้​ถวายงาน​บน​ภูเขา​ที่​เพิ่ง​ถูกรับ​มาใหม่​ และ​ยังมี​เซียน​เว่ย​ที่​มอง​แค่​ปราด​เดียว​ก็​รู้​ว่า​เป็น​นักพรต​ตัว​ปลอม​ ซึ่งอีก​ฝ่าย​จะมาเป็น​เค่อ​ชิง เขา​ก็​รีบ​ลาก​คน​ทั้งสอง​ไป​ดื่มเหล้า​ที่​ร้าน​ของ​ตัวเอง​ทันที​ เด็กชาย​ผม​ขาว​จึงตาม​ไป​ขอ​กิน​ด้วย​ ดื่มเหล้า​มื้อ​หนึ่ง​ด้วยกัน​ กับแกล้ม​มีมาวาง​จาน​แล้ว​จาน​เล่า​ ทำเอา​เซียน​เว่ย​ดื่ม​จน​น้ำหูน้ำตา​ไหล​พราก​ ใบหน้า​แดงก่ำ​ มือหนึ่ง​ยก​ถ้วย​เหล้า​ อีก​มือหนึ่ง​กุมมือ​ของ​นักพรต​เฒ่าที่​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​แน่น​แล้ว​เขย่า​แรง​ ทุกอย่าง​ไม่จำเป็นต้อง​เอื้อนเอ่ย​ ล้วน​อยู่​ใน​สุรา​หมด​แล้ว​

เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ที่​เคย​ท่อง​ยุทธ​ภพ​มาก่อน​ย่อม​เข้าใจ​ความยากลำบาก​อย่าง​ลึกซึ้ง​ อีก​ฝ่าย​สมกับ​เป็น​คน​รู้ใจ​ของ​ตน​จริงๆ​

ต่อให้​ใคร​มาไล่​ตน​ไป​ ให้​ตาย​ตน​ก็​ไม่ยอม​ไป​ไหน​ทั้งนั้น​

ส่วน​เฉินห​ลิง​จวิน​ เมื่อ​ครู่​เพิ่งจะ​สอน​พี่น้อง​เสี่ยว​โม่ให้​เล่น​ทาย​หมัด​ คน​ทั้งสอง​จึงกำลัง​เล่น​กัน​ส่งเดช​อยู่​ตรงนั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​หนิง​เหยา​เดิน​ไป​ทาง​ตรอก​หนี​ผิง​

หาก​มีการ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​แห่ง​ที่สอง​ขึ้น​มา ภูเขา​ลั่วพั่ว​จะเลื่อนขั้น​กลายเป็น​ ‘สำนัก​ดั้งเดิม​’ และ​สำนัก​เบื้องล่าง​ก็​จะได้​ขยับ​เลื่อน​เป็น​สำนัก​เบื้องบน​

ตระกูล​เซียน​ที่​เป็น​ ‘สำนัก​ดั้งเดิม​’ ใน​หลาย​ๆ ใต้​หล้า​ มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​

เหมือน​อย่าง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​มีอยู่​แค่​สอง​แห่ง​เท่านั้น​

เดิน​ไป​ถึงตรอก​เล็ก​ที่​คุ้นเคย​เป็น​อย่าง​ดี​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไป​หยุด​เท้า​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​บ้าน​บรรพบุรุษ​ มอง​เรือน​พัก​ของ​ซ่งจี๋ซิน​ที่อยู่​ติดกัน​แวบ​หนึ่ง​ ไม่รีบร้อน​เก็บ​เอา​เศษเครื่องกระเบื้อง​แห่ง​ชะตาชีวิต​กลับมา​

จากนั้น​ก็​ขยับ​เส้น​สายตา​มอง​ไป​ที่​เรือน​ด้าน​ข้าง​อีก​ด้าน​ นับตั้งแต่​ตน​จำความได้​ ดูเหมือน​บ้าน​หลัง​นี้​จะไม่เคย​มีคน​อยู่​

หนิง​เหยา​เอง​ก็​เหลือบตา​มอง​บ้าน​ที่อยู่​ติดกัน​ซึ่งเป็น​บ้าน​ของ​นาย​บ่าว​คู่​นั้น​ จำได้​ว่า​ปี​นั้น​เหมือน​ได้​เห็น​สตรี​ฟัก​แคระ​ที่​แสร้ง​วางมาด​ใส่นาง​ หาก​อีก​ฝ่าย​ไม่เขย่ง​เท้า​ ก็​คง​ได้​แค่​โผล่​ศีรษะ​พ้น​กำแพง​มาแค่​ครึ่ง​เดียว​

เฉิน​ผิง​อัน​เปิด​ประตู​บ้าน​และ​เปิด​ประตู​ห้อง​ ใน​ลานบ้าน​ใน​ห้อง​ล้วน​สะอาด​เอี่ยม​ บน​ประตู​แปะ​กลอน​คู่​และ​ตัวอักษร​ฝูไว้​ด้วย​

เฉิน​ผิง​อัน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ นอน​ฟุบ​ตัว​บน​โต๊ะ​ เอา​คาง​วาง​เกย​ไว้​บน​แขน​

หนิง​เหยา​ถาม “เป็น​อะไร​ไป​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ ตอบ​ “ได้​ภรรยา​ที่​เป็น​เช่นนี้​ คน​เป็น​สามียัง​จะต้องการ​อะไร​อีก​”

หนิง​เหยา​เท้าคาง​ด้วยมือ​ข้างเดียว​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​

หนิง​เหยา​รู้​ว่า​เขา​จะไป​ที่ไหน​

เดินเท้า​ออกจาก​ตรอก​เล็ก​ เดินผ่าน​สะพาน​โค้ง​บน​ลำคลอง​หลง​ซวี​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​หนิง​เหยา​ก็​เดินเท้า​ไป​บน​เส้น​ทางเดิน​เข้า​ป่า​ด้วยกัน​

ไป​ถึงที่​สุสาน​

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​ธูป​ส่งให้​หนิง​เหยา​สามดอก​ ตัวเอง​ถือ​ไว้​สามดอก​ จุด​ธูป​คารวะ​ด้วยกัน​

จากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​แล้ว​เริ่ม​เติม​ดิน​ลง​บน​หลุมศพ​

หนิง​เหยา​นั่ง​ยอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ หยิบ​ถุงใบ​เล็ก​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​ ถามเสียง​เบา​ว่า​ “ข้า​เอา​มาจาก​ใต้​หล้า​ห้า​สี เหมาะสม​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “เหมาะ​สิ ทำไม​จะไม่เหมาะ​ล่ะ​”

หนิง​เหยา​โล่งอก​

รับ​ถุงใบ​นั้น​มา เท​ดิน​ที่อยู่​ข้างใน​ออก​แล้ว​ตบ​ลง​เบา​ๆ สอง​สามที​ เพิ่ม​ความ​แน่น​ให้​กับ​ดิน​บน​หลุมศพ​

เฉิน​ผิง​อัน​ตา​แดงก่ำ​ น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​ แค่​เรียก​สอง​คำ​ว่า​ท่าน​พ่อ​ ท่าน​แม่ แล้วก็​เหมือนว่า​จะพูดไม่ออก​อีก​ ได้​แต่​พึมพำ​เบา​ๆ ริมฝีปาก​สั่น​ระริก​

ราวกับ​เป็น​ปี​ที่​อายุ​สิบ​สี่ เด็กหนุ่ม​รอง​เท้าสาน​เพิ่งจะ​ออกจาก​บ้าน​เดินทางไกล​อย่าง​เป็นทางการ​เป็นครั้งแรก​

เริ่ม​อยู่​ไกล​ห่าง​จาก​บ้านเกิด​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่เคย​เล่า​ให้​ใคร​ฟัง ต่อให้​เป็น​หนิง​เหยา​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​ไม่เคย​เล่า​

อันที่จริง​เส้นทาง​ใต้เท้า​ที่​เดินผ่าน​มานี้​ ปี​นั้น​ภายใต้​การ​ช่วยเหลือ​ของ​พวก​เพื่อนบ้าน​ที่อยู่​ใกล้เคียง​ เด็กชาย​สวม​รอง​เท้าสาน​ผิวเหลือง​ผอมแห้ง​เดิน​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ของ​โลงศพ​

จาก​ตรอก​หนี​ผิง​เดิน​มาจน​ถึงที่​แห่ง​นี้​ เส้นทาง​เส้น​นั้น​ต่างหาก​จึงจะเป็นการ​เดินทางไกล​ที่​เส้นทาง​ยาว​ไกล​ที่สุด​ใน​ชีวิต​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​การ​มาเยือน​หลุมศพ​วันนี้​ข้าง​กาย​มีนาง​เพิ่ม​มา หนิง​เหยา​ สตรี​ที่รัก​ที่จะ​ต้อง​แต่ง​เข้า​บ้าน​มาให้ได้​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​เหล้า​ออกมา​อีก​หนึ่ง​กา​ หลังจาก​ราด​ลง​บน​หลุมศพ​แล้วก็​เอา​กา​เหล้า​วาง​ไว้​บน​ดิน​ข้าง​ฝ่าเท้า​เบา​ๆ

บุรุษ​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​พื้น​ มือหนึ่ง​ปิดหน้า​ ไหล่​สั่นสะท้าน​ เสียง​คร่ำครวญ​เบา​ๆ ดัง​ลอด​จาก​ร่อง​นิ้ว​

ราวกับว่า​จนกระทั่ง​เวลานี้​วันนี้​ ผิง​อันน้อย​ของ​ปี​นั้น​ เฉิน​ผิง​อัน​ใน​วันนี้​ เพิ่งจะ​ได้​ก่อร่างสร้างตัว​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​

เขา​ถึงได้​กล้า​มาที่​หลุมศพ​ของ​พ่อแม่​ แล้ว​บอก​กับ​พวกเขา​ว่า​ตัวเอง​มีชีวิต​ที่​ดีมาก​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด