กระบี่จงมา 835.1 มาแล้ว

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 835.1 มาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​ผิง​อัน​บอกลา​อาจารย์​แล้ว​ออก​ไป​จาก​ตรอก​เล็ก​ตั้งแต่​เช้าตรู่​

นึกถึง​หนังสือ​หมั้น​ฉบับ​นั้น​ อาจารย์​มอบ​ออก​ไป​แล้ว​ หนิง​เหยา​รับ​ไว้​แล้ว​ อารมณ์​เฉิน​ผิง​อัน​จึงดี​ไม่น้อย​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าที่​รับผิดชอบ​เฝ้าตรอก​วาง​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หยก​ขาว​กลับ​ไป​ใน​ตรอก​เล็ก​อีกครั้ง​ ชั่วชีวิต​นี้​นอกจาก​ฝึก​ตน​แล้ว​ ผู้เฒ่า​ก็​ไม่มีความชื่นชอบ​อย่าง​อื่น​อีก​

หลิว​เจีย​ชอบ​ฝึก​ตน​แค่​อย่าง​เดียว​จริงๆ​ ส่วน​ขอบเขต​อะไร​นั่น​ไม่เรียกร้อง​ อยาก​มาก็​มา ไม่อยาก​มาก็​ตามใจ​ ถึงอย่างไร​ข้า​ผู้อาวุโส​ก็​ไม่เอาใจ​เจ้า

เพียงแต่​ประหลาดใจ​นัก​ หรือ​เพราะ​เมื่อวาน​ไม่มีตน​คอย​ปกป้อง​ ลูกศิษย์​ของ​ตน​จึงถูก​ฟ้าผ่า​อีกแล้ว​? ถึงได้​ไม่ร่าย​กระบวนท่า​ต่อสู้​ส่งเสียงดัง​ฮื่อ​ฮ่าอยู่​ตรงนั้น​ ถึงกับ​ทำสมาธิ​เข้าฌาน​ กระตือรือร้น​มาก​เป็นพิเศษ​ ใช้เวท​ขนย้าย​รก​เยื่อ​หุ้ม​ทารก​จาก​สาย​ของ​หยด​ทอง​คืน​โอสถ​ (รก​เยื่อ​หุ้ม​ทารก​คือ​สิ่งที่​ใช้ใน​การหลอม​โอสถ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ หยด​ทอง​คืน​โอสถ​คือ​ศัพท์​ใน​การหลอม​โอสถ​ คือ​ขั้นตอน​การนำ​วัตถุ​สีเหลือง​ทอง​มาหลอม​เป็น​โอสถ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​) โคจร​แบบ​จุล​จักรวาล​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​มีจิต​ศรัทธา​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​จึงบังเกิด​ มองดู​แล้ว​เข้าท่า​เข้าที​อย่างยิ่ง​

ตลอด​ทั้งคืน​นอกจาก​การ​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ โคจร​ปราณ​วิญญาณ​แบบ​มหา​จักรวาล​ ใช้วิชา​อภินิหาร​การ​นึก​นิมิต​ ประหนึ่ง​เซียน​ขี่​นก​กระเรียน​ท่อง​ไป​ยัง​ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​ไพศาล​ที่​มีต้นไม้​ทอง​กอ​ไม้หยก​ซึ่งมีเฉพาะ​ใน​บ้าน​ตน​ ออกจาก​ตำหนัก​โอฬาร​ลง​จาก​หลัง​กระเรียน​ขาว​ พิศ​น้ำ​ทำความเข้าใจ​มรรคา​อยู่​บน​สะพาน​แห่ง​ความ​เป็น​อมตะ​แล้ว​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ายัง​ต้อง​แบ่ง​สมาธิมาจับตามอง​เส้น​ทางการ​ไหลเวียน​ลมปราณ​ของ​จ้าวต​วน​หมิง​ด้วย​ เพื่อ​ที่ว่า​หลัง​จบเรื่อง​จะได้​หา​ข้อบกพร่อง​มาช่วย​ตรวจสอบ​ชดเชย​ช่องโหว่​ให้​กับ​ลูกศิษย์​

เฉิน​ผิง​อัน​หยุด​เดิน​ใกล้​กับ​ปากตรอก​ รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​ทำท่า​งอ​นิ้ว​เคาะ​ประตู​ เคาะ​ลง​เบา​ๆ ยิ้ม​กล่าวว่า​ “เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​หลิว​ แวะ​มาเยี่ยมเยียน​ คง​ไม่ถือสา​กระมัง​?”

ตอนที่​เสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​ใน​ตรอก​เล็ก​ หลิว​เจีย​เพิ่งจะ​เก็บ​รวบรวม​ความคิด​ ยุติ​การ​ฝึก​ตน​ลง​พอดี​ ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​รู้สึก​สะท้อนใจ​ยิ่งนัก​ คนหนุ่ม​ผู้​นี้​ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ศิษย์​น้อง​ของ​ซิ่ว​หู่​ สายตา​ช่างเฉียบคม​ยิ่งนัก​ มีฟ้าดิน​เล็ก​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​แห่ง​หนึ่ง​กั้น​ขวาง​ยัง​สามารถ​เห็น​สภาพการณ์​ฝึก​ตน​ของ​ตน​ได้​ชัดเจน​เพียงนี้​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าลุกขึ้น​จาก​เบาะ​รอง​นั่ง​ ร่าย​เวท​คาถา​เปิด​ประตู​บาน​เล็ก​ให้​กับ​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หยก​ขาว​ของ​ตน​ เอ่ย​ว่า​ “เชิญเข้ามา​”

มีคำ​ว่า​เชิญที่​เห็นแก่หน้า​ของ​เห​วิน​เซิ่งผู้​เป็น​อาจารย์​ของ​เจ้าเพิ่ม​เข้ามา​ ไม่ได้​เกี่ยว​อะไร​กับ​เซียน​กระบี่​ไม่เซียน​กระบี่​ อิ่น​กวาน​ไม่อิ่น​กวาน​อะไร​ทั้งนั้น​

เวลา​สั้น​ๆ เพียง​หนึ่ง​วัน​ อันดับ​แรก​ก็​เป็น​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​แวะ​มา การ​ออก​กระบี่​อย่าง​เฉียบคม​จาก​หนิง​เหยา​ แล้ว​ยังมี​การ​มาเยือน​ของ​เห​วิน​เซิ่ง หลิว​เจีย​รู้สึก​ว่า​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ที่​สงบเงียบ​มาโดยตลอด​ของ​ตน​ ช่างหา​ได้​ยาก​นัก​ที่จะ​ครึกครื้น​เช่นนี้​

เพียงแต่​ก่อนหน้า​นั้น​คิด​ว่า​จะไป​ดื่มเหล้า​กับ​ชายฉกรรจ์​คน​นั้น​ เวลานี้​คง​ไม่ใช่ว่า​ดื่มเหล้า​ไม่ได้​ ได้​แต่​ดื่ม​สุรา​คารวะ​ต่อ​สารถี​เฒ่าผู้​นั้น​อยู่​ไกลๆ​ สามจอก​กระมัง​?

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​เข้าไป​ด้านใน​ มอง​เด็กหนุ่ม​ที่​ยัง​ฝึก​ตน​อยู่​ ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​คิด​จะรอ​ให้​ตวน​หมิง​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​เสีย​ก่อน​ค่อย​ถ่ายทอด​เวท​อสนี​ชั้นสูง​ที่​ผสาน​กลมกลืน​กับ​ชะตาชีวิต​ของ​เขา​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ให้​อย่างนั้น​หรือ​?”

หลิว​เจีย​สีหน้า​ปั้น​ยาก​ อยาก​จะพยักหน้า​ ตบหน้า​ตัวเอง​สวมรอย​เป็น​คน​อ้วน​กับ​คนหนุ่ม​ที่​อายุ​สี่สิบ​ปี​ผู้​นี้​จริงๆ​ แต่​ถึงอย่างไร​ผู้เฒ่า​ก็​ข้าม​ผ่าน​มโนธรรม​ใน​ใจตัวเอง​ไป​ไม่ได้​ หน้าตา​ศักดิ์ศรี​อะไร​นั้น​ไม่สำคัญ​แล้ว​ เขา​จึงถอนหายใจ​ “มีคาถา​อสนี​กะ​ผายลม​อะไร​เสีย​ที่ไหน​ กลุ้มใจ​จะตาย​อยู่แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ “ด้วย​รากฐาน​ของ​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​จะตามหา​เวท​อสนี​ที่​ถูกต้อง​สัก​บท​ไม่ได้​เชียว​หรือ​?”

หลิว​เจีย​ส่ายหน้า​ “หลาย​ปี​มานี้​สกุล​จ้าวหา​เวท​ลับ​อสนี​ที่​เป็น​วิชา​นอกรีต​เจอ​แค่​สอง​สามบท​เท่านั้น​ ยัง​ห่าง​จาก​ห้า​อสนี​ดั้งเดิม​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​อีก​หนึ่ง​แสน​แปด​พัน​ลี้​ พวกเขา​กล้า​มอบให้​ ข้า​ก็​ไม่กล้า​รับ​”

ช่างเป็น​เซียน​กระบี่​ที่​ไม่รู้​ว่า​น้ำมัน​เกลือ​ฟืน​ข้าวสาร​แพง​จริงๆ​ วิชา​อสนี​ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​บรรพบุรุษ​แห่ง​หมื่น​คาถา​บน​ภูเขา​ เวท​ลับ​วิชา​ดั้งเดิม​เช่นนี้​จะได้มา​ง่ายๆ​ ได้​อย่างไร​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​เงินทอง​อะไร​ด้วย​ ตระกูล​เซียน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ พวก​คน​ที่​ฝึก​วิชา​อสนี​โดยเฉพาะ​ เดิมที​ก็​ไม่เยอะ​อยู่แล้ว​ คำกล่าว​ที่ว่า​ใกล้เคียง​ ‘ของแท้​ดั้งเดิม​’ ก็​ยิ่ง​ไม่มีเลย​ ต่อให้​เป็น​ฉีเจิน​เทียน​จวิน​ใหญ่​แห่ง​สำนัก​โองการ​เทพ​ก็​ยัง​ไม่กล้า​พูดว่า​ตัวเอง​เชี่ยวชาญ​เวท​อสนี​

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “วันหน้า​ข้า​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​อี​กรอบ​หนึ่ง​ ที่นั่น​ข้า​มีสหาย​บน​ภูเขา​คน​หนึ่ง​เป็น​ผู้สูงศักดิ์​หวง​จื่อ​ของ​จวน​เทียน​ซือ​ นัดหมาย​กัน​ไว้​ว่า​จะไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ ข้า​จะดู​ว่า​จะสามารถ​รวบรวม​เวท​ลับ​ที่​พอ​จะเข้าท่า​เข้าที​สัก​บท​มาให้ได้​หรือไม่​ เพียงแต่ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่กล้า​รับรอง​ว่า​จะต้อง​สำเร็จ​แน่นอน​”

หลิว​เจีย​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ “ไม่ได้​เป็น​อะไร​กัน​ ไย​เจ้าต้อง​ทำให้​เป็น​เรื่องใหญ่​ มอบ​น้ำใจ​ควัน​ธูป​ใหญ่​เทียมฟ้า​เช่นนี้​ให้​ตวน​หมิง​เปล่าๆ​? ทำไม​ คิด​จะดึง​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​ไป​เป็น​พันธมิตร​ใน​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ให้​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อย่างนั้น​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “หาก​ทำสำเร็จ​จริง​ เวท​ลับ​วิชา​อสนี​บท​นั้น​ก็​จะถือว่า​ข้า​ไม่ทัน​ระวัง​ทำ​หล่น​ไว้​ที่​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​ ถือ​เสีย​ว่า​แทน​การ​ขอบคุณ​ที่​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​หลิว​ช่วยดูแล​เรือน​ให้​ศิษย์​พี่​ข้า​ เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​หลิว​แค่​ต้อง​ทำ​เรื่อง​เดียว​ นั่น​ก็​คือ​ปิดบัง​เรื่อง​นี้​กับ​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​เอาไว้​ สรุป​ก็​คือ​ไม่เกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​ข้า​ หลังจากนั้น​ท่าน​ก็​แค่​สงบใจ​ถ่ายทอดวิชา​ให้​ตวน​หมิง​ก็​พอ​”

หลิว​เจีย​กึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ “ง่ายดาย​ขนาด​นี้​เชียว​ ไม่มีแผนการ​อะไร​จริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ย้อนถาม​ “ไม่เชื่อใจ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​พบ​เจอกัน​อย่าง​ผิวเผิน​ แต่​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​หลิว​ไม่เชื่อใจ​อาจารย์​ของ​ข้า​หรือ​?”

หลิว​เจีย​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ถึงได้​พยักหน้า​ เจ้าเด็ก​นี่​ถึงกับ​ยก​เห​วิน​เซิ่งมาพูด​แล้ว​ เรื่อง​นี้​สามารถ​ทำได้​ บัณฑิต​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ให้ความสำคัญ​กับ​ระบบ​สืบทอด​ของ​สาย​บุ๋น​ที่สุด​ ไม่มีใคร​เอาเรื่อง​แบบนี้​มาล้อเล่น​

แต่​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าก็​พลัน​ได้สติ​ ด่า​ขำ​ๆ ว่า​ “เจ้าเด็ก​ตัวดี​ เจ้าหลอก​ข้า​ ไม่ต้อง​ทำ​ผายลม​อะไร​ก็​สามารถ​ช่วงชิง​ความรู้สึก​ดี​ๆ จาก​ข้า​ไป​ได้​เปล่าๆ​ ใช่หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้งทำ​สีหน้า​ฉงน​ “หมายความว่า​อย่างไร​?”

หลิว​เจีย​หัวเราะ​อย่าง​ฉุนๆ​ ยื่น​นิ้ว​มาชี้หน้า​คนหนุ่ม​ที่​เห็น​ตน​เป็น​คนโง่​สอง​สามที​ “ต่อให้​เจ้ามีความสัมพันธ์​ที่​ไม่เลว​กับ​จวน​เทียน​ซือ​ ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่สาย​เต๋า​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ เกรง​ว่า​ต่อให้​เป็นตัว​เทียน​ซือ​ใหญ่​เอง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ถ่ายทอด​เวท​ห้า​อสนี​ที่​แท้จริง​ให้​แก่​เจ้าโดยพลการ​ เมื่อครู่นี้​ตัว​เจ้าเอง​ก็​บอก​แล้ว​ว่า​แค่​ดู​ว่า​จะมีโอกาส​รวบรวม​ตำ​รามา​ได้​หรือไม่​ เจ้าลอง​ถามมโนธรรม​ใน​ใจตัวเอง​ดูเถิด​ ตำรา​ลับ​ลัทธิ​เต๋า​ที่​อาจ​ทำให้​ลูกศิษย์​ผู้อื่น​ฝึก​ตน​ผิดพลาด​ได้​เหมือนกัน​เช่นนี้​ จะดี​ไป​กว่า​ของ​ที่​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​หา​มาได้​อีก​หรือ​? จะหลอก​คน​ก็​ไม่รู้จัก​หาเหตุ​ผลดี​ๆ มีช่องโหว่​อยู่​ทั่ว​ทุก​จุด​ ไม่น่าเชื่อถือ​พอ​…”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าพลัน​เงียบเสียง​ลง​ เห็น​เพียง​ว่า​เซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ ห้า​อสนี​ก็​มารวมตัวกัน​อยู่​กลางฝ่ามือ​ ปณิธาน​แห่ง​เวท​สายฟ้า​ยิ่งใหญ่​น่า​ครั่นคร้าม​

หลิว​เจีย​เพ่ง​สายตา​มอง​ไป​ มอง​แล้ว​มอง​อีก​ ก่อน​จะพยักหน้า​เบา​ๆ พูด​ด้วย​สีหน้า​ปกติ​ “อาจารย์​น้อย​แสดง​เวท​อสนี​ได้​ยอดเยี่ยม​นัก​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เห​วิน​เซิ่ง เป็น​ศิษย์​น้อง​ของ​ซิ่ว​หู่​ ดึง​เอา​ข้อดี​มากมาย​มาหลอม​รวม​ไว้​ด้วยกัน​ นับถือ​ๆ ดี​ เรื่อง​นี้​ตกลง​ตาม​นี้​ ขอ​เอ่ย​ขอบคุณ​ไว้​ก่อน​ รอ​แค่​อาจารย์​น้อย​ไม่ทัน​ระวัง​ทิ้ง​ตำรา​ลับ​ไว้​ใน​เรือน​แล้ว​ถูก​ข้า​เก็บ​มาได้​โดยบังเอิญ​เท่านั้น​ เพียงแต่ว่า​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ข้อควรระวัง​ทั้งหมด​ใน​การ​ฝึก​วิชา​นี้​ ข้า​จะเขียน​เป็น​บันทึก​เสริม​ไว้​ให้​ใน​ช่วง​ท้าย​อย่าง​ระมัดระวัง​ ตัวอักษร​มีแต่​จะละเอียดยิบ​ย่อย​กว่า​เนื้อหาหลัก​ ขอบเขต​ของ​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​วาง​อยู่​ตรงนั้น​ หลัง​จบเรื่อง​คิด​จะถ่ายทอด​มรรคา​ปกป้อง​มรรคา​ให้​แก่​ตวน​หมิง​ย่อม​ไม่เป็นปัญหา​แน่นอน​”

หลิว​เจีย​รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงเอ่ย​ว่า​ “ยัง​ต้อง​รบกวน​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​อีก​เรื่อง​ ช่วย​ขอ​เทียบ​อักษร​ชิ้น​หนึ่ง​จาก​เจ้าประมุข​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​มาให้​ข้า​ที​ เขียน​คำสอน​ของ​ตระกูล​จ้าว​ก็ได้​ แน่นอน​ว่า​ยังคง​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​เฉิน​ผิง​อัน​”

สามารถ​ถูก​ศิษย์​พี่​เรียก​ให้​มาเฝ้าตรอก​เล็ก​ เฉิน​ผิง​อัน​มั่นใจ​ว่า​หลิว​เจีย​ต้อง​เป็น​คน​ที่​ปิดปาก​สนิท​แน่นอน​ ดังนั้น​จึงไม่กังวล​สักนิด​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าจะหลุด​พูด​อะไร​ต่อ​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​

หลิว​เจีย​ถอนหายใจ​โล่งอก​ ขอ​เทียบ​อักษร​ขอ​ภาพวาด​อะไร​ เรื่อง​เล็กน้อย​ ต่อให้​ตน​แบก​กระบุง​ทั้ง​ใบ​ไป​เยือน​ก็​ยัง​ไม่นับ​เป็น​อะไร​ได้​ ต้อง​ถือว่า​เป็นการ​ให้หน้า​อาจารย์​จ้าว​แห่ง​หอ​ก่วน​เก๋​อ​ที่​เขียน​ตัวอักษร​ได้​อย่าง​งดงาม​คน​นั้น​ด้วยซ้ำ​

สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​ที่​ถูก​วงการ​ขุนนาง​ต้า​หลี​เรียก​ว่า​หม่า​เฟิ่น​จ้าว​ คำสั่งสอน​ของ​ตระกูล​กลับ​มีกลิ่นอาย​ของ​ตำรา​อย่าง​มาก​ เฉิน​ผิง​อัน​ถูกใจ​อยู่​หลาย​ประโยค​ ยกตัวอย่างเช่น​บรรยากาศ​ทั้ง​สดชื่น​ทั้ง​ปลอดโปร่ง​ ความรู้​ทั้ง​ลึกซึ้ง​ทั้ง​ยาว​ไกล​ ตั้ง​ตน​ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​และ​จริงใจ​ ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความอ่อนโยน​และ​หนักแน่น​

ในความเป็นจริง​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​เข้า​เมืองหลวง​มาครั้งนี้​ หลังจาก​ได้​พบ​เจอ​กับ​จ้าว​ตวน​หมิง​ก็​อยาก​จะขอ​คำสั่งสอน​ที่​เขียน​ด้วย​ลายมือ​ของ​เจ้าประมุข​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​มาฉบับ​หนึ่ง​แล้ว​ เขา​จะเอา​กลับ​ไป​เข้า​กรอบ​ ไม่สะดวก​จะแขวน​ไว้​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​ตัวเอง​ สามารถ​มอบให้​หน่วน​ซู่น้อย​ เพียงแต่ว่า​ทุกวันนี้​สถานการณ์​ของ​เมืองหลวง​ยัง​ไม่แจ่มชัด​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงคิด​ว่า​รอ​ให้​จบเรื่อง​ก่อน​ค่อย​เปิดปาก​บอก​จ้าว​ตวน​หมิง​ ตอนนี้​ดีแล้ว​ ไม่ต้อง​จ่าย​เงิน​ก็​ได้มา​อยู่​ใน​มือ​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าพลัน​ตกตะลึง​ เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​ เพราะ​ถูก​ภาพ​บรรยากาศ​เวท​ห้า​อสนี​ของ​ตน​ชักนำ​ จิตใจ​ที่​จมจ่อม​อยู่​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ของ​จ้าวตวน​หมิง​จึงเกิด​ลมปราณ​ไหล​เวียนวน​ขานรับ​กัน​อยู่​ไกลๆ​ เป็นเหตุให้​ปราณ​วิญญาณ​ของ​ทั้ง​ร่าง​หลั่งไหล​ออกมา​ภายนอก​ ตัว​คน​เหมือน​ขุนเขา​ เมฆคล้อย​ลอย​เด่น​ มีลาง​ว่า​จะเกิด​ฟ้าร้อง​ฟ้าแลบ​ เฉิน​ผิง​อัน​มอง​หลิว​เจีย​แวบ​หนึ่ง​ ฝ่าย​หลัง​ตะลึง​ไป​ครู่เดียว​ก็​พยักหน้า​รับ​ทันที​ เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​เชิญเจ้าพิทักษ์​มรรคา​ให้​ตวน​หมิง​ได้​ตามสบาย​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ก้าว​ออก​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ มาหยุด​อยู่​ข้าง​กาย​จ้าวต​วน​หมิง​ กระทืบเท้า​เบา​ๆ หนึ่ง​ที​ ร่าง​ของ​เด็กหนุ่ม​ที่​นั่งขัดสมาธิ​หลับตา​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ก็​กระดอน​ลอย​พ้น​พื้น​ตามมา​

เฉิน​ผิง​อัน​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​กดหัว​ของ​เด็กหนุ่ม​ไว้​เบา​ๆ ช่วย​สร้าง​ความสงบ​มั่นคง​ให้​กับ​จิตวิญญาณ​และ​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​จ้าวต​วน​หมิง​ ฝ่ามือ​ข้าง​ที่​เดิมที​มีห้า​อสนี​รวมตัวกัน​อยู่​ประกบ​สอง​นิ้ว​จิ้มไป​ตรง​หว่าง​คิ้ว​ของ​เด็กหนุ่ม​เบา​ๆ ให้​อีก​ฝ่าย​สงบใจ​ พริบตาเดียว​ก็​เลื่อน​เข้าสู่​ขอบเขต​จิตวิญญาณ​หลับใหล​

หลิว​เจีย​เบิกตา​กว้าง​ สีหน้า​เหลือเชื่อ​ เห็น​เพียง​ว่า​รอบ​ศีรษะ​ของ​ลูกศิษย์​เกิด​เป็น​ภาพ​บรรยากาศ​หลากหลาย​ งดงาม​แปลกตา​ ราวกับ​ภาพวาด​อัน​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ที่​มรรคา​ฟ้าดิน​ถูก​จำแลง​ออกมา​

ตะวัน​จันทรา​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​เคียงคู่​กัน​ ดวง​ดารา​นับไม่ถ้วน​เคลื่อน​โคจร​ เห็น​เพียง​ว่า​คน​ชุด​เขียว​ใช้ดวงจิต​เด็ด​ ‘ดวงดาว​’ เล็ก​จิ๋ว​ที่​มีแสงสีทอง​ล้อม​วนเวียน​เปี่ยมล้น​ด้วย​เวท​อสนี​ดวง​หนึ่ง​มา จากนั้น​ใช้มือ​ข้าง​ที่​แตะ​หน้าผาก​จ้าวต​วน​หมิง​ต่าง​สะพาน​แห่ง​ความ​เป็น​อมตะ​สาย​หนึ่ง​ ดวงดาว​จึงค่อยๆ​ กลิ้ง​เข้าหา​หว่าง​คิ้ว​ของ​เด็กหนุ่ม​ ดวงดาว​ที่เกิด​จาก​การ​จำแลง​ภาพมายา​ของ​มรรค​กถา​ไล่ตาม​เส้นทาง​ลมปราณ​จุล​จักรวาล​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่าง​ของ​จ้าวต​วน​หมิง​เข้าไป​ กลิ้ง​หมุน​อย่าง​มีระเบียบ​ ปณิธาน​อัน​บริสุทธิ์​หลาย​กลุ่ม​ที่​เดิมที​กระจัดกระจาย​ไป​ตาม​จุด​ต่างๆ​ แม้แต่​ตัว​เด็กหนุ่ม​เอง​ก็​ยัง​ไม่รู้​เหมือน​ได้รับ​คำสั่ง​ พริบตาเดียว​ก็​พลัน​พุ่ง​มาถึง กราบไหว้​ดวงดาว​บรรพกาล​ที่​คล้าย​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ของ​วิถี​แห่ง​ฟ้าดวง​นั้น​อยู่​ไกลๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​ตบ​หน้าผาก​เด็กหนุ่ม​เบา​ๆ หนึ่ง​ที​ ทั้ง​ร่าง​เด็กหนุ่ม​พร้อมกับ​เบาะ​รอง​นั่ง​ก็​หล่น​ลงมา​บน​พื้น​ดังเดิม​

หลิว​เจีย​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าคง​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​ไม่ใช่ แต่​ภรรยา​ของ​ข้า​ใช่”

หลิว​เจีย​อดทน​อยู่​พัก​หนึ่ง​ สุดท้าย​ก็​ข่ม​กลั้น​ไม่ไหว​ ถามคำถาม​ที่​เป็น​ข้อสงสัย​ใหญ่​ที่สุด​ใน​ใจออกมา​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าหลอก​หนิง​เห​ยามา​ได้​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​จัด​สาบ​เสื้อ​ให้​เรียบร้อย​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ เพียง​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​คำ​ใด​

นี่​ก็​ชัดเจน​อยู่แล้ว​ไม่ใช่หรือ​ อาศัย​หน้าตา​และ​บุคลิก​ของ​ข้า​น่ะ​สิ

หลิว​เจีย​อึ้ง​ค้าง​ไป​พักใหญ่​ ก่อน​จะเอ่ย​สัพยอก​ว่า​ “เจ้าเป็น​ช่างตัดเสื้อ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​บอกลา​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง​ๆ ก้าว​ยาว​ๆ ออก​ไป​จาก​ตรอก​เล็ก​

เด็กหนุ่ม​ที่​ถูก​ปิดหูปิดตา​ตลอดเวลา​คืนสติ​กลับมา​ช้าๆ พอ​ลืมตา​ขึ้น​ ลุกขึ้น​ยืน​ กระโดด​สอง​สามที​ก็​รู้สึก​เพียง​ว่า​ปลอดโปร่ง​สดชื่น​มาก​เป็นพิเศษ​

สังเกตเห็น​ว่า​อาจารย์​นั่ง​ดื่มเหล้า​อยู่​บน​เบาะ​ จ้าวต​วน​หมิง​ก็​ขยับ​ไป​นั่ง​ยอง​อยู่​ใกล้​ๆ ดม​กลิ่นหอม​ของ​สุรา​ดับ​กระหาย​

หลิว​เจีย​ยิ้ม​กล่าว​ “เมื่อก่อน​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ราชครู​ถึงให้​ข้า​อดทน​รอคอย​อยู่​ที่นี่​ บอ​กว่า​เรื่อง​ของ​เงินค่าจ้าง​ขอ​ติด​ไว้​ก่อน​ วันหน้า​ย่อม​มีคน​มาควัก​เงิน​จ่าย​ให้​ที่นี่​เอง”

เรื่องราว​ซับซ้อน​ วกวน​อ้อมค้อม​ มองเห็น​ความจริง​ได้​ไม่ชัดเจน​ แต่​การ​มอง​ความดี​ความ​เลว​คร่าวๆ​ ของ​ใจคน​ หลิว​เจีย​คิด​ว่า​ตัวเอง​มอง​ได้​ค่อนข้าง​แม่นยำ​

จ้าวต​วน​หมิง​กล่าว​ “เงิน​ของ​พี่ใหญ่​เฉิน​ข้า​ อาจารย์​ก็​กล้า​รับ​มาด้วย​หรือ​? อาจารย์​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ถ่ายทอด​มรรคา​ แน่นอน​ว่า​ท่าน​ย่อม​เก่งกาจ​มาก​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ไม่มีทาง​สอน​ลูกศิษย์​เช่น​ข้า​ออกมา​ได้​ แต่​เรื่อง​ของ​น้ำใจ​คน​ความสัมพันธ์​ของ​ผู้คน​ ท่าน​ควร​ต้อง​เรียนรู้​ไป​จาก​ข้า​จริงๆ​ นะ​”

หลิว​เจีย​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​อีก​ หันไป​มอง​ใน​ตรอก​ เมื่อก่อน​ราชครู​พัก​อยู่​ที่นี่​ปีแล้วปีเล่า​ วันแล้ววันเล่า​ ไปมา​เพียงลำพัง​ แต่กลับ​ไม่เคย​ให้​ความรู้สึก​ถึงความ​อ้าง​ว่าง​เปลี่ยวเหงา​แม้แต่น้อย​

ใน​ใจมีความกังวล​หวาดเกรง​ ก็​เหมือน​เหยียบ​หางเสือ​ หรือไม่​ก็​เหยียบ​อยู่​บน​น้ำแข็ง​แผ่น​บาง​ของ​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​

วันนี้​มีศิษย์​น้อง​เพิ่ม​มาคน​หนึ่ง​ เขา​เอง​ก็​เดิน​อยู่​ใน​ตรอก​เช่นเดียวกัน​

สว่างไสว​ดุจ​ตะวัน​จันทรา​ แจ่มกระจ่าง​ดุจ​ดวง​ดารา​

ราวกับว่า​เซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​ผู้​นั้น​ แม้จะอายุ​น้อย​ ทว่า​กลับ​ไม่ใช่เม็ด​หมาก​อะไร​แล้ว​ แต่​เป็นการ​วาง​เมืองหลวง​เมือง​หนึ่ง​ ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ลง​บน​กระดาน​หมาก​

ขอ​เชิญคู่ต่อสู้​ให้​นั่งลง​ ไม่สู้มาลองดู​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าลอง​มาคิด​อีกที​ก็​รู้สึก​ลำพองใจ​อย่าง​มาก​

คน​เฝ้าประตู​อย่าง​ตน​ ขวาง​ที​ก็​ขวาง​ได้​ตั้ง​สามคน​ เฉิน​ผิง​อัน​ หนิง​เหยา​ เห​วิน​เซิ่ง ล้วน​พอ​จะถือว่า​ขวาง​ไว้​ได้​อย่าง​ถูไถแล้ว​ ขอ​ถามหน่อย​เถอะ​ว่า​ใต้​หล้า​นี้​ใคร​จะมาทัดเทียม​ได้​?

หลิว​เจีย​กระแอม​หนึ่ง​ที​ ยื่น​กา​เหล้า​ส่งมาให้​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ตวน​หมิง​ ดื่มเหล้า​”

เด็กหนุ่ม​ปัด​มือ​ของ​อาจารย์​ทิ้ง​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​พูด​ล้อเล่น​แล้ว​ ดื่มเหล้า​อะไร​กัน​ ศิษย์​อายุ​ยัง​น้อย​ แค่​ดม​ได้กลิ่น​เหล้า​ก็​ทนไม่ไหว​แล้ว​”

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​แค่​ระยะทาง​ไม่กี่​ก้าว​ เดิน​ครู่เดียว​ก็​มาถึงโรงเตี๊ยม​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่รีบร้อน​ไป​ตามหา​หนิง​เหยา​ เขา​ไป​พูดคุย​กับ​เถ้าแก่​ก่อน​ คุย​ไป​คุย​มาก็​ถามไป​ถึงเด็กสาว​

ผู้เฒ่า​เอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​ “เจ้าคน​แซ่เฉิน​ อย่า​กินใน​ชามแล้ว​ยัง​มอง​ใน​หม้อ​ รีบ​เก็บ​ความคิด​บิดเบี้ยว​นั้น​ลง​ไป​ อีก​อย่าง​เจ้ากิน​ยา​ผิด​หรือ​อย่างไร​ ต่อให้​ลูกสาว​ข้า​จะหน้าตา​ชวนมอง​ แต่​ไม่ได้​งามไป​กว่า​แม่นาง​หนิง​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​ถามหยั่งเชิง​ “เถ้าแก่​ คิด​อะไร​น่ะ​ ข้า​เป็น​คน​อย่างไร​ เถ้าแก่​ท่าน​เคย​เห็น​คน​ของ​สามลัทธิ​เก้า​สำนัก​ที่​ขึ้นเหนือล่องใต้​มานัก​ต่อ​นัก​ ฝึกปรือ​จนได้​ตาทิพย์​เฉียบคม​มาคู่​หนึ่ง​ จะมอง​ไม่ออก​จริงๆ​ หรือ​? ข้า​แค่​รู้สึก​ว่า​คุณสมบัติ​ของ​นาง​ไม่เลว​…”

เถ้าแก่​เอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “หยุด​เลย​ หยุด​เลย​นะ​! หรือ​จะให้​กราบ​เจ้าเป็น​อาจารย์​เรียน​วิชา​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​กัน​ แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​จะมาฝึก​วิชา​หมัด​เท้า​อะไร​ เรื่อง​นี้​อย่า​หวัง​ว่า​เจ้าจะได้​พูดมาก​เลย​”

หาก​จะพูดถึง​พวก​นักต่อสู้​ที่​มั่วสุม​กัน​อยู่​ใน​ตลาด​ก็​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ หาก​ไม่เล่น​ทวน​เล่น​หอก​หลอก​ขาย​ยา​หนัง​สุนัข​ (โก่​ว​ผี​เกา​ ยา​ขับ​ลม​สลาย​ความ​เย็น​ ห้ามเลือด​บรรเทา​ความเจ็บปวด​) ก็​ใช้หน้าอก​ตบ​หิน​ให้​แตก​ หาเงิน​มาได้​ด้วย​ความยากลำบาก​ แม้จะบอ​กว่า​คนหนุ่ม​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​เกิน​ครึ่ง​น่าจะ​มีพรรค​ใน​ยุทธ​ภพ​เป็น​หลักแหล่ง​ แต่​หาก​จะต้อง​ให้​ลูกสาว​ของ​ตน​ไป​เรียน​วิชา​ยุทธ​กับ​คนอื่น​ ก็​ไม่ใช่ว่า​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่กี่​วัน​ มือ​ของ​นาง​ก็​จะเต็มไปด้วย​ตุ่ม​ด้าน​หรอก​หรือ​ แล้ว​ยัง​จะออกเรือน​ได้​อย่างไร​? แค่​คิด​ก็​กลุ้มใจ​แล้ว​

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด