กระบี่จงมา 840.4 ครามเกิดจากต้นครามแต่สีเข้มกว่าคราม

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 840.4 ครามเกิดจากต้นครามแต่สีเข้มกว่าคราม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​ผิง​อัน​เดินลง​บันได​ “ต่อให้​ศิษย์​พี่​ไม่อยู่​ ข้า​ที่​เป็น​ศิษย์​น้อง​ก็​ยังอยู่​ วันหน้า​ข้า​จะไป​พัก​ที่​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​แห่ง​นั้น​บ่อยๆ​ สหาย​ใน​เมืองหลวง​ของ​ข้า​มีไม่มาก​ ไม่แน่​ว่า​วันใด​อารมณ์ไม่ดี​ก็​อาจจะ​มาหา​สหาย​ที่​เพิ่ง​รู้จัก​อย่าง​เจ้า ดื่มเหล้า​รำลึก​ความหลัง​กัน​”

อันที่จริง​ระหว่าง​หยวน​ฮว่า​จิ้ง เฉิน​ผิง​อัน​ยังมี​บัญชี​เล่ม​เก่า​ที่​ยัง​ไม่เปิด​ออกมา​ชำระ​ หลัก​ๆ แล้ว​เป็น​เพราะ​หยวน​ฮว่า​จิ้งผู้​นี้​ไม่ค่อย​เหมือนกับ​สกุล​หยวน​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ต้า​หลี​ที่​แท้จริง​แล้ว​ภูมิลำเนา​อยู่​ที่​ตรอก​เอ้​อห​ลาง​ของ​บ้านเกิด​สัก​เท่าไร​ ไม่สามารถ​คิดบัญชี​รวมกัน​ได้​ทั้งหมด​

ส่วน​สกุล​สวี่​นคร​ลม​เย็น​ อาศัย​โชคชะตา​บุ๋น​ โชคชะตา​บู๊​ที่​แคว้น​หู​แอบ​สะสมมา จากนั้น​ให้​บุตรสาว​สาย​ตรง​แต่งงาน​กับ​บุตร​อนุภรรยา​ของ​สกุล​หยวน​ เป้าหมาย​ย่อม​ใหญ่​มาก​

เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​เย่​โหย​ว​ไว้​ใน​มือ​ วาง​พาด​บน​ไหล่​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้งเบา​ๆ “ใช่แล้ว​ หาก​เจ้าเป็นหนึ่ง​ใน​คน​ที่​มีสิทธิ์​ตัดสินใจ​ของ​สกุล​หยวน​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​มาตั้งแต่แรก​ แล้ว​เข้าไป​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​เจ้าไม่ควร​ยุ่ง​ด้วย​ ถ้าอย่างนั้น​วันนี้​หลังจาก​เจ้าออก​ไป​จาก​โรงเตี๊ยม​แล้วก็​สามารถ​เตรียมตัว​ได้​แล้ว​ว่า​จะหนี​เอาชีวิต​รอด​อย่างไร​”

หยวน​ฮว่า​จิ้งจำต้อง​ฝืน​นิสัย​เป็น​ฝ่าย​อธิบาย​ว่า​ “หลังจากที่​ได้​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ของ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​ ข้า​ก็​เป็น​ฝ่าย​สลัด​ความสัมพันธ์​จาก​ตระกูล​แล้ว​”

ใช้ฝัก​กระบี่​เคาะ​ไหล่​เบา​ๆ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “สุดท้าย​จะพูดนอกเรื่อง​สัก​ประโยค​ แจกัน​สมบัติ​ทวีป​มีข้า​เฉิน​ผิง​อัน​อยู่​ ถ้าอย่างนั้น​ผู้ฝึก​ตน​ของ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​อย่าง​พวก​เจ้า อันที่จริง​จะมีหรือไม่​มีก็ได้​ ต่าง​คน​ต่าง​กลับบ้าน​ไป​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ก็ได้​แล้ว​ เพราะ​สิ่งที่​ศิษย์​พี่​ต้องการ​มีเพียง​สำนัก​เซียน​อักษร​จงในอนาคต​แห่ง​นั้น​เท่านั้น​ ไม่ใช่ใครก็ตาม​ใน​กลุ่ม​ของ​พวก​เจ้า ไม่ว่า​จะขาด​ใคร​ไป​ก็ได้​ทั้งนั้น​ พวก​เจ้าในเวลานี้​ยัง​ห่าง​ชั้น​อีก​ไกล​นัก​”

เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​นก​ใน​กรง​กลับมา​

ทุกคน​เห็น​ว่า​หยวน​ฮว่า​จิ้งยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ถึงกับ​ไม่ได้​นอนหลับ​อยู่​บน​พื้น​ จึงประหลาดใจ​กัน​อย่าง​มาก​

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ไป​ยัง​หัน​โจ้วจิ่น​ ยิ้ม​กล่าว​ “แม่นาง​หัน​ยัง​ไม่เปิดรับ​เดิมพัน​อีก​หรือ​?”

หัน​โจ้วจิ่น​เขินอาย​เล็กน้อย​ ช่างเจ้าคิด​เจ้าแค้น​เสีย​จริง​

อวี๋อวี๋​ทำ​สีหน้า​อึ้ง​ตะลึง​ “หา​? ยัง​สามารถ​หาเงิน​ด้วย​วิธี​นี้​ได้​ด้วย​หรือ​?!”

เฉิน​ผิง​อัน​ออกจาก​โรงเตี๊ยม​ไป​พร้อมกับ​หนิง​เหยา​ ปรากฏตัว​อยู่​ใน​ตรอก​เล็ก​ที่ตั้ง​ของ​เรือน​หลัง​นั้น​ สังเกตเห็น​ว่า​อาจารย์​ของ​ตน​กลับ​มาจาก​สำนักศึกษา​ชุน​ซาน​แล้ว​ มารอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​โรงเตี๊ยม​ คน​ทั้งสอง​จึงเดิน​เคียง​บ่า​กัน​เข้าไป​ใน​ตรอก​ เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​เบี่ยง​ตัว​ ฝีเท้า​ไม่หยุดนิ่ง​ มอง​ไป​ยัง​ใบ​หน้าด้าน​ข้าง​ของ​หนิง​เหยา​ “ข้า​พลัน​นึก​คำพูด​อย่างหนึ่ง​ออก​ คงจะ​เป็น​เพราะ​คำ​ว่าการ​เติบโต​ ก็​คือ​ตัวเอง​ที่​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่รู้​ว่า​ดี​หรือ​เลว​ กำลัง​รอคอย​ให้​พวกเรา​ใน​วันนี้​เดิน​ไป​พบ​หน้า​กัน​ ถูก​ไหม​?”

หนิง​เหยา​พูด​เสียง​ขุ่น​ “ถูก​กะ​ผี​น่ะ​สิ”

เรื่อง​ที่​อันตราย​ขนาด​นี้​ แม้กระทั่ง​นาง​ยัง​รู้สึก​หวาดผวา​ไม่หาย​ แต่​เจ้ากลับ​ดี​นัก​ ทำ​ราวกับ​ไม่มีเรื่อง​อะไร​เกิดขึ้น​อย่างไร​อย่างนั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ “อันที่จริง​เป็น​เจ้าที่​สอน​ข้า​ ไม่ว่า​ปัญหา​ยุ่งยาก​ใดๆ​ ที่มา​เยือน​ถึงบ้าน​ คิด​ให้​ชัดเจน​แล้วก็​ไม่ต้อง​อืดอาด​ ควร​ปิดประตู​ก็​ปิดประตู​ ไม่ต้อง​คิดมาก​แม้แต่น้อย​ หาก​ยังอยู่​ข้างนอก​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​จะคิด​มากกว่า​”

หนิง​เหยา​ถามอย่าง​สงสัย​ “ข้า​เคย​สอน​เจ้าเรื่อง​นี้​ด้วย​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “เคย​สิ”

จากนั้น​หมุนตัว​กลับ​ เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจกล่าวว่า​ “อันที่จริง​ข้า​เอง​ก็​รู้ดี​ว่า​ทุกวันนี้​อาจารย์​อยู่​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ต้อง​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​อย่าง​แน่นอน​ ก็​จะได้​มีข้ออ้าง​ให้​อาจารย์​กลับ​ไป​ยัง​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ล่วงหน้า​พอดี​”

ทุกวันนี้​อันที่จริง​มีเพียง​สอง​สถานที่​เท่านั้น​ที่​อาจารย์​อยู่แล้ว​จะสบาย​หน่อย​ ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ สวน​กง​เต๋อ​ นอกจากนั้น​ก็​คือ​สามทวีป​ที่​ผสาน​มรรคา​ด้วย​ ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ ใบ​ถงทวีป​ ฝูเหยา​ทวีป​

ต่อให้​อาจารย์​ได้​ตำแหน่ง​เทพ​ของ​ศาล​บุ๋น​กลับคืน​มา ทว่า​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​สามทวีป​นั้น​พังทลาย​ไป​มาก​เกิน​ ดังนั้น​การ​ปรากฏตัว​ใน​สถานที่​ที่​นอกเหนือจาก​สามทวีป​นี้​ก็​จะมีสภาพการณ์​เหมือน​การ​เพิ่ม​น้ำค้างแข็ง​ลง​บน​เกล็ด​หิมะ​

ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​จึงทั้ง​อยาก​พูดคุย​กับ​อาจารย์​ให้​มาก​ แล้วก็​ทั้ง​ไม่ยินดี​ให้​อาจารย์​ต้อง​เผชิญ​กับ​ความทุกข์ทรมาน​ด้วย​

ทาง​ฝั่งของ​โรงเตี๊ยม​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ ถึงอย่างไร​เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ก็​เป็น​จิ้งจอก​เฒ่าแล้ว​ ผู้เฒ่า​ที่​ได้​บุตรสาว​มาตอน​อายุ​มาก​ ก่อนหน้านี้​รู้สึก​ว่า​ฝืน​บังคับ​ห้าม​ลูกสาว​เอาไว้​ ดูท่า​คงจะ​ไม่เป็นผล​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​ได้​ผลลัพธ์​ในทางตรงกันข้าม​อีกด้วย​ แผนการ​แรก​ไม่สำเร็จ​ก็​เกิด​แผนการ​อย่าง​ใหม่​ จึงเป็น​ฝ่าย​บอก​ให้​บุตรสาว​ไปหา​หนิง​เหยา​ ขอ​กราบ​อาจารย์​เรียน​วิชา​ หลักการ​เหตุผล​ที่​มอบให้​บุตรสาว​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มี สตรี​ใน​ยุทธ​ภพ​ทั่วไป​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​พก​กระบี่​ติด​กาย​ไว้​เล่ม​เดียว​ แต่​หนิง​เหยา​ผู้​นั้น​กลับ​พก​กล่อง​กระบี่​ วิชา​หมัด​เท้า​จะแย่​ได้​หรือ​? หาก​ยัง​ไม่เป็น​จอม​ยุทธ​หญิง​ใน​ยุทธ​ภพ​ ใคร​ยัง​จะเป็นได้​อีก​? ดังนั้น​ตอนนั้น​ลูกสาว​คนโง่​จึงไป​เคาะ​ประตู​จริงๆ​

เด็กสาว​ที่อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ เวลานี้​มาอยู่​ตรง​โต๊ะ​คิดเงิน​ ดวงตา​ของ​นาง​สว่าง​วาบ​เมื่อ​เหลือบมอง​ไป​เห็น​ขนม​หมา​ฮวา​ถุงนั้น​ “ท่าน​พ่อ​ คิด​ยังไง​ถึงซื้อ​ขนม​หมา​ฮวา​มาให้​ข้า​ได้​ล่ะ​?”

นาง​หยิบ​ขนม​ชิ้น​หนึ่ง​ขึ้น​มาเคี้ยว​กิน​ดัง​กรุบ​กรอบ​

เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ไม่ได้แก่​แล้ว​เลอะเลือน​ บอ​กว่า​เป็น​น้ำใจ​จาก​เจ้าเด็ก​เฉิน​ผิง​อัน​นั่น​ เขา​มอบ​ของกิน​เล่น​มาให้​เปล่าๆ​ ถุงหนึ่ง​ เพียงแค่​หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ที่​เป็น​บิดา​ รัก​ลูกสาว​ของ​ตัวเอง​หรือไม่​ เจ้าที่​เป็น​ลูกสาว​ ใน​ใจจะไม่รู้​เลย​หรือ​?”

เด็กสาว​พูด​เสียง​อู้อี้​ “รัก​สิๆ ข้า​รู้​ๆ”

เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ถาม “ถ้าอย่างนั้น​จะยัง​กราบ​อาจารย์​อยู่​อีก​หรือไม่​?”

ผู้เฒ่า​ยัง​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​เสริม​มาอีก​ประโยค​ “หาก​ยังมี​กำลังใจ​ พ่อ​ก็​สามารถ​ช่วย​เจ้าได้​”

เด็กสาว​ส่ายหน้า​ เอ่ย​ว่า​ “ช่างเถิด​ ก่อนหน้านี้​เพราะ​เชื่อ​ท่าน​พ่อ​จึงเป็น​ฝ่าย​ไป​เคาะ​ประตู​ ใช้ความกล้า​ไป​จน​หมดสิ้น​แล้ว​ ข้า​ค้นพบ​ว่า​ตัวเอง​กลัว​อาจารย์​หนิง​คน​นั้น​มาก​ แค่​นาง​ถลึงตา​หนึ่ง​ครั้ง​เลิกคิ้ว​หนึ่ง​ที​ ข้า​ก็​แทบ​พูดไม่ออก​แล้ว​”

เด็กสาว​เอาอย่าง​หนิง​เหยา​ ทำท่า​เลิกคิ้ว​ถลึงตา​แล้ว​หัวเราะ​อยู่​กับ​ตัวเอง​

เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​เหลือบตา​มอง​ถุงกระดาษ​น้ำมัน​แล้วก็​รู้สึก​ว่า​มโนธรรม​ใน​ใจไม่สงบ​ จึงยิ้ม​เอ่ย​ประโยค​ที่​เป็นธรรม​ว่า​ “อย่าง​อื่น​ไม่ต้อง​พูดถึง​ เฉิน​ผิง​อัน​ผู้​นั้น​ไม่ใช่พวก​อันธพาล​เกเรเกตุง​อะไร​จริงๆ​”

เด็กสาว​เกือบจะ​สำลัก​ นาง​พลัน​หัวเราะ​ “แรกเริ่ม​ก็​กลัว​เขา​จริงๆ​ ตอนนี้​ย่อม​ต้อง​รู้​แล้ว​ ตัว​เขา​น่ะ​ไม่ได้​เลวร้าย​หรอก​”

ข้า​ไม่ได้​โง่เสียหน่อย​ สายตา​ที่​เจ้าหมอ​นี่​มอง​อาจารย์​หนิง​ใน​แต่ละครั้ง​ อันที่จริง​ก็​มีแค่​สอง​คำ​เท่านั้น​ รัก​ลึกซึ้ง​

ใน​ตำรา​บอ​กว่า​ ผู้หญิง​ที่​ดี​กลัว​ผู้ชาย​ตาม​ตอแย​ ต้อง​เป็น​เขา​ที่​เซ้าซี้พัวพัน​ พูดจา​เอาอกเอาใจ​แน่นอน​ ถึงได้​จีบ​อาจารย์​หนิง​ติด​

เด็กสาว​หยิบ​ขนม​หมา​ฮวา​หวาน​กรอบ​ชิ้น​ที่สอง​มากิน​ ถามว่า​ “ท่าน​พ่อ​ ท่าน​ว่า​เขา​เอง​ก็​ไม่ใช่อันธพาล​อะไร​ แล้ว​ยัง​เป็น​คนต่างถิ่น​ที่​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ แถมเพิ่ง​เคย​มาเป็น​แขก​ที่​โรงเตี๊ยม​เรา​เป็นครั้งแรก​ด้วย​ เหตุใด​คืน​นั้น​สายตา​ที่​เขา​มอง​ข้า​ถึงได้​แปลกประหลาด​เช่นนั้น​ล่ะ​?”

ผู้เฒ่า​คิด​แล้วก็​บอก​เหตุผล​ของ​ตัวเอง​ให้​ฟัง “คง​จำคน​ผิด​กระมัง​ ดึกดื่น​ขนาด​นั้น​ มอง​ปราด​ๆ อาจ​รู้สึก​ว่า​เจ้าไป​คล้าย​ใคร​บางคน​เข้า​ คนใน​ยุทธ​ภพ​พบ​เจอ​คน​มามากมาย​ เรื่องราว​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็​เยอะ​ตาม​ไป​ด้วย​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่อยู่​หน้า​ประตู​ยิ้ม​ถาม “พี่ใหญ่​หลิว​ ขอยืม​ม้านั่ง​จาก​เจ้าสัก​สอง​ตัว​ได้​หรือไม่​ ถือสา​หรือไม่​หาก​ข้า​จะนั่ง​ตากแดด​อยู่​หน้า​โรงเตี๊ยม​?”

เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ยิ้ม​ตอบ​ “เรื่องใหญ่​แค่​ไหน​กัน​เชียว​ ได้​เลย​ๆ”

เด็กสาว​รีบ​ช่วย​ไป​หยิบ​ม้านั่งยาว​สอง​ตัว​มาวาง​ไว้​ให้​ที่​นอก​ประตู​ วันนี้​แดด​ไม่แรง​จึงไม่ร้อน​เท่าไร​

เฉิน​ผิง​อัน​กับ​หนิง​เหยา​มาถึงหน้า​ประตู​โรงเตี๊ยม​ ซิ่ว​ไฉเฒ่านั่งลง​บน​ม้านั่งยาว​ตัว​เดียว​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ หนิง​เหยา​กับ​เด็กสาว​ที่มา​ร่วมวง​ความ​ครึกครื้น​นั่ง​อยู่​ด้วยกัน​ เพียงแต่​เด็กสาว​คิด​แล้ว​ สุดท้าย​ก็​ยัง​เดิน​จากไป​

เฉิน​ผิง​อัน​เล่าเรื่อง​นั้น​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าพยักหน้า​ “เรื่องเล็ก​ ข้า​ดื่มเหล้า​เสร็จ​แล้​วจะ​ไป​เชิญห​ลี่​เซิ่งให้​เลย​”

หนิง​เหยา​กล่าว​ “ข้า​ก็​จะไป​ที่​ศาล​บุ๋น​ด้วย​รอบ​หนึ่ง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าโบกมือ​ปฏิเสธ​เป็น​พัลวัน​ “ไม่ต้อง​ ข้า​ยัง​ต้อง​กลับมา​ คราวหน้า​ค่อย​ออกจาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ด้วยกัน​”

หนิง​เหยา​หันไป​มอง​เฉิน​ผิง​อัน​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ หนิง​เหยา​จึงไม่ยืนกราน​อีก​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าตา​มอง​ตรง​ไป​เบื้องหน้า​ แต่​อันที่จริง​ใน​ใจยินดี​ราวกับ​มีบุปผา​ผลิบาน​ สาย​ของ​พวกเรา​ได้ดิบได้ดี​กัน​ใหญ่​แล้ว​

สาย​ของ​เห​วิน​เซิ่ง หาก​จะบอ​กว่า​ใน​อดีต​นับตั้งแต่​ความรู้​ของ​อาจารย์​ไป​จนถึง​ความถนัด​ของ​ลูกศิษย์​แต่ละคน​เรียก​ได้​ว่า​ไร้​ศัตรู​ทัดเทียม​ บางที​อาจ​มีเพียง​เรื่อง​เดียว​ที่​สู้คนอื่น​ไม่ได้​ นั่น​ก็​คือ​เรื่อง​การ​หา​ภรรยา​ของ​แต่ละคน​ แต่​ทุกวันนี้​ก็​ไร้​เทียมทาน​อีกแล้ว​ไม่ใช่หรือ​?

ซิ่ว​ไฉเฒ่าพูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ “อาจารย์​เคย​สูญเสีย​สถานะ​ของ​ผู้​ที่​ถูก​บูชา​ไป​ เทวรูป​ถูก​ทุบตี​ ความรู้​ถูก​สั่งห้าม​ ใน​ช่วงเวลา​ร้อย​ปี​ที่​ขัง​ตัวเอง​อยู่​ใน​สวน​กง​เต๋อ​แห่ง​นั้น​ อันที่จริง​อาจารย์​ก็​มีเรื่อง​ที่​มีความสุข​อยู่​เหมือนกัน​ เดา​ออก​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​รับ​ จากนั้น​ยื่น​เหล้า​กา​หนึ่ง​ไป​ให้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ารับ​กา​เหล้า​มา ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ โบกมือ​เอ่ย​ว่า​ “ไม่ได้​ๆ หาก​ขนาด​เรื่อง​นี้​ก็​ยัง​เดา​ถูก​ ตา​เฒ่ากับ​ห​ลี่​เซิ่งคง​ต้อง​แย่ง​ลูกศิษย์​กับ​ข้า​แน่​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ “เมื่อก่อน​ หาก​ใต้​หล้า​ไพศาล​พูดถึง​ศิษย์​พี่​ทั้งหลาย​ของ​ข้า​ ต้อง​ไม่มีทาง​ขาด​คำกล่าว​ที่ว่า​ ‘ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เห​วิน​เซิ่ง’ ไป​แน่นอน​ ตอน​ที่อยู่​สวน​กง​เต๋อ​ อาจารย์​ตกอับ​ห่อเหี่ยว​ใจ จึงเป็นได้​แค่​อาจารย์​ของ​พวก​ศิษย์​พี่​ทั้งหลาย​แล้ว​ สำหรับ​เรื่อง​นี้​อาจารย์​ไม่กลัดกลุ้ม​ไม่กังวล​ กลับกัน​ยังมี​แต่​จะดีใจ​ แอบ​เบิกบาน​อยู่​กับ​ตัวเอง​”

หนิง​เหยา​ยิ้ม​อย่าง​เข้าใจ​

มิน่าเล่า​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ของ​หลาย​ๆ ใต้​หล้า​ถึงต่าง​ก็​รู้​ว่า​เห​วิน​เซิ่งรัก​และ​ลำเอียง​เข้าข้าง​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​ตัวเอง​มาก​ที่สุด​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าดื่มเหล้า​ไป​แล้วก็​ลุกขึ้น​ยืน​ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​อาจารย์​ไป​ทำ​ธุระ​ก่อน​นะ​ บางที​อาจ​ต้อง​ไปหา​เฟิงอี๋​ผู้​นั้น​เพื่อ​ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​สัก​คำ​ หลังจากนั้น​คาด​ว่า​คง​ต้อง​มีเวลา​สักวัน​สอง​วันที่​ไม่ได้​อยู่​ใน​เมืองหลวง​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​เตรียม​จะลุกขึ้น​ยืน​ แต่กลับ​ถูก​ซิ่ว​ไฉเฒ่ากด​ไหล่​ไว้​ หันหน้า​มามอง​ด้วย​สายตา​สอบถาม​ โอกาส​ เข้าใจ​แล้ว​หรือยัง​? เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​พยักหน้า​ แน่นอน​อยู่แล้ว​ อาจารย์​ท่าน​รีบ​เก็บ​สายตา​ท่าน​ไป​สิ เดี๋ยว​ก็​กลายเป็น​ว่า​ทำ​สิ่งที่​เกินความจำเป็น​อีก​หรอก​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าพลัน​กระจ่างแจ้ง​ มีเหตุผล​ มีเหตุผล​

ทุกอย่าง​ล้วน​ไม่จำเป็นต้อง​เอื้อนเอ่ย​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าไปหา​เฟิงอี๋​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​ก่อน​

ใต้​ซุ้มดอกไม้​ เฟิงอี๋​ที่นั่ง​ดื่มเหล้า​อยู่​บน​ขั้นบันได​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ต้อนรับ​ทันที​ นาง​ยอบ​กาย​ถอนสายบัว​คารวะ​อย่าง​แช่มช้อย​ “คา​ระ​อาจารย์​เห​วิน​เซิ่ง”

ซิ่ว​ไฉเฒ่านั่ง​อยู่​บน​ม้านั่ง​หิน​ตัว​หนึ่ง​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ก็​แค่​จะมาขอบคุณ​ที่นี่​ ผู้อาวุโส​อย่า​ได้​รังเกียจ​ที่มา​ช้าไป​ หากว่า​รังเกียจ​ ข้า​ก็​สามารถ​ดื่ม​ลงทัณฑ์​ตัวเอง​ได้​สามจอก​ ปัดโธ่​ ดู​ความจำ​ของ​ข้า​นี่​สิ ข้า​ลืม​เอา​เหล้า​มาด้วย​เสียได้​!”

เฟิงอี๋​โยน​เหล้า​มัก​ร้อย​บุปผา​กา​หนึ่ง​ไป​ให้​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าเปิดผนึก​ดิน​ สูด​ดมกลิ่น​ “เหล้า​ดี​ เหล้า​ดี​ ดี​จน​ตัดใจ​ดื่ม​ไม่ลง​แล้ว​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายังคง​ข้าง​อยู่​ใน​ท่า​หิ้ว​กา​เหล้า​ไม่ยอม​ดื่ม​ เหล่​ตา​มอง​เฟิงอี๋​

เฟิงอี๋​รอ​อยู่​พักใหญ่​ สุดท้าย​ก็ได้​แต่​โยน​เหล้า​ไป​ให้​อีก​กา​ ไม่อย่างนั้น​ด้วย​นิสัย​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่า คง​สามารถ​เงียบ​รอ​ต่อไป​แบบนี้​ได้​จริงๆ​

ใน​ใจนาง​ถอนหายใจ​หนึ่ง​ที​ หาก​จะพูดถึง​ความอดทน​ เห​วิน​เซิ่งท่าน​นี้​สามารถ​ทน​ได้​จริงๆ​ พอ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ เฟิงอี๋​ก็​ไม่เสียดาย​เหล้า​หมัก​บุปผา​สอง​กา​นั่น​แล้ว​ อีก​อย่าง​ลูกศิษย์​ของ​เห​วิน​เซิ่งก็​เพิ่ง​หลอก​เอา​เหล้า​ไป​จาก​นาง​สอง​กา​ด้วย​ไม่ใช่หรือ​?

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากับ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​เขา​คน​นั้น​ คน​หนึ่ง​เท้าหน้า​เพิ่ง​เดิน​จากไป​ อีก​คน​หนึ่ง​ก็​พา​เท้าหลัง​เดิน​เข้ามา​ นิสัย​การกระทำ​เหมือนกัน​ไม่มีผิดเพี้ยน​เลย​จริงๆ​

แต่​สาย​ของ​เห​วิน​เซิ่ง คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​อย่าง​ชุย​ฉาน​ จั่ว​โย่ว​ หลิว​สือ​ลิ่ว​ ฉีจิ้งชุน​ มีใคร​บ้าง​ที่​ทำตัว​หน้าด้าน​ไร้ยางอาย​เช่นนี้​?

โชคดี​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​รับ​ลูกศิษย์​อย่าง​เฉาฉิงหล่า​งมาคน​หนึ่ง​ซึ่งถือว่า​เป็น​บัณฑิต​ที่​แท้จริง​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าวาง​กา​เหล้า​ที่อยู่​ใน​มือ​ลง​ สอง​มือ​กอด​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​กา​ที่สอง​เอาไว้​ พูด​ด้วย​สีหน้าที่​เต็มไปด้วย​ความละอายใจ​ “รู้สึก​ผิด​ยิ่งนัก​ ลำบากใจ​ ลำบากใจ​ ดู​ทำ​เข้า​สิ กลายเป็น​เหมือนว่า​มาเพื่อ​ขอ​เหล้า​ดื่ม​อย่างไร​อย่างนั้น​”

เฟิงอี๋​คลี่​ยิ้ม​ ปลายนิ้ว​รวบ​ลม​เย็น​มากลุ่ม​หนึ่ง​ สุดท้าย​ลม​เย็น​กลายเป็น​คำพูด​ประโยค​หนึ่ง​ของ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่​ดัง​ขึ้น​ตรง​ซุ้มดอกไม้​แห่ง​นี้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าเงี่ยหู​ตั้งใจฟัง​ มือหนึ่ง​กอด​กา​เหล้า​ มือหนึ่ง​ลูบ​หนวด​หัวเราะ​ร่า​ “ประเสริฐ​! นี่​เรียก​ว่า​คราม​เกิด​จาก​ต้น​คราม​ แต่​สีเข้ม​กว่า​คราม​!”

ที่แท้​ตรงหน้า​ประตู​โรงเตี๊ยม​

เฉิน​ผิง​อัน​เห็น​ว่า​หนิง​เหยา​จ้องหน้า​ตน​ ก้มหน้า​ดื่มเหล้า​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ นาง​ก็​ยัง​มอง​ตน​อยู่​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงรีบ​สาบาน​ทันใด​ “ฟ้าดิน​เป็น​พยาน​ เป็น​อาจารย์​ที่​คิดลึก​ไป​เอง​!”

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด