กระบี่จงมา 857.1 สองสามเรื่อง

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 857.1 สองสามเรื่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บน​ยอดเขา​ของ​สำนัก​ที่​ตั้งอยู่​ใน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ กลับ​มีผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​มนุษย์​สอง​คน​ยืน​อยู่​

ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​ นคร​ป่าย​ฮวา​ที่​มีโครงกระดูก​เรียงราย​ดุจ​ผืนป่า​ก็​กลายเป็น​ปฏิทิน​เหลือง​หน้าหนึ่ง​ไป​แล้ว​ เมื่อ​เวลา​ผัน​ผ่าน​ก็​จะกลายเป็น​ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ที่​ไม่มีใคร​ถามถึง

ภายใต้​คำสั่ง​ของ​ฉีถิงจี้ เทพ​เกราะ​ทอง​เรือน​กาย​สูงพัน​จั้งสี่ตน​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​สี่ทิศ​ของ​ฟ้าดิน​ริม​ชายแดน​นคร​ป่าย​ฮวา​ สร้าง​เป็น​ค่าย​กล​ที่​เหมือน​ตาข่าย​ ป้องกัน​ไม่ให้​พวก​ปลา​หลุด​ลอด​หว่าง​แห​ตัว​ใหญ่​ทั้งหลาย​ฉวยโอกาส​ที่​สถานการณ์​วุ่นวาย​เผ่นหนี​ไป​

นอกจากนี้​ก็​ยังมี​ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​อีก​หลาก​หลายชนิด​ ฟ้าคำราม​อยู่​ใน​เมฆขาว​ ดวงจันทร์​เกิด​ริ้ว​คลื่น​มรกต​ สายฟ้า​สีทอง​นับ​ร้อย​นับ​พัน​เส้น​ที่​พลัง​อำนาจ​ยิ่งใหญ่​น่า​ครั่นคร้าม​ร่วง​ตกลง​มายัง​โลก​มนุษย์​ ประดุจ​เทพ​กรม​สายฟ้า​ที่​ฟาด​แส้โบย​ใส่พื้นดิน​อย่าง​กำเริบเสิบสาน​ ภูเขา​สายน้ำ​ปริ​แตก​ พื้นดิน​พลิก​ตลบ​ พลิก​หา​เผ่า​ปีศาจ​ที่​หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ถ้ำใน​ช่อง​ทางลับ​ออกมา​ทีละ​ตน​ และ​ยังมี​เจีย​วสี​หมึก​หลาย​สิบ​ตัว​ที่​เลื้อย​อยู่​กลางอากาศ​ กลืน​กิน​เผ่า​ปีศาจ​ทั้งหลาย​ที่​ทะยาน​ลม​หลบหนี​ เคี้ยว​กร้วม​ๆ คำ​ใหญ่​ เสียงดัง​ปาน​ประทัด​ระเบิด​ต่อเนื่อง​เป็น​ระลอก​

อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​เช่นเดียวกัน​ นอกจาก​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​แล้วก็​ยังมี​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​มีความ​ประหลาด​พิสดาร​อีก​นับ​ร้อย​นับ​พัน​ที่​ผ่าน​การหลอม​ใหญ่​และ​หลอม​กลาง​มาแล้ว​

สิ่งเหล่านี้​ล้วน​เป็น​วิธีการ​ที่​ฉีถิงจี้ร่าย​ใช้อย่าง​ง่ายๆ​ ตามอารมณ์​ ไม่พูดถึง​สถานะ​ผู้ฝึก​กระบี่​และ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ก็​สามารถ​มอง​ฉีถิงจี้เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​พลัง​พิฆาต​มหาศาล​คน​หนึ่ง​ได้​เลย​

ไม่ว่า​จะเอา​ไป​วาง​ใน​ไว้​ใต้​หล้า​แห่งใด​ ผู้ฝึก​ตน​ได้​ครอบครอง​วิธีการ​และ​เวท​คาถา​ระดับ​นี้​ก็​สามารถ​ถือเป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​นับแต่​อดีต​จนถึง​ปัจจุบัน​ได้​แล้ว​ ทว่า​อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ฉีถิงจี้กลับ​ถูก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​มองว่า​จิต​ไม่นิ่ง​ เวท​คาถา​ฉูดฉาด​ ดีแต่​รูปลักษณ์​ใช้งาน​จริง​ไม่ได้​ ห่างไกล​จาก​คำ​ว่า​บริสุทธิ์​มากขึ้น​ทุกที​…สรุป​ก็​คือ​ไม่มีประโยค​ดี​ๆ สัก​คำ​

นี่​ยัง​เป็น​ตอนที่​เฉิน​ชิงตู​อารมณ์​ไม่เลว​อีกด้วย​ ถึงได้​เอ่ย​สั่งสอน​เขา​สอง​สามประโยค​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ เวลา​ส่วนใหญ่​แล้ว​ เฉิน​ชิงตู​คร้าน​จะพูด​แม้แต่​คำ​เดียว​ ยิ่ง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ขอบเขต​สูงเท่าไร​ เขา​ก็​ยิ่ง​ไม่ชอบ​พูดคุย​ด้วย​มาก​เท่านั้น​ กลับเป็น​เด็ก​ๆ บางคน​ที่​จับกลุ่ม​กัน​มาเล่น​สนุก​บน​หัว​กำแพงเมือง​ หาก​ผ่าน​กระท่อม​หลัง​นั้น​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ยัง​ได้​พูดคุย​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​สอง​สามคำ​

เคย​มีเด็ก​คน​หนึ่ง​เล่น​ว่าว​แล้ว​สาย​ว่าว​ขาด​ไป​หล่น​ลง​บน​หลังคา​กระท่อม​ ไหน​เลย​จะกล้า​เปิดปาก​เอ่ย​ขอ​จาก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ ยิ่ง​ไม่กล้า​ปีน​ขึ้นไป​บน​กระท่อม​ จึงได้​แต่​กลับบ้าน​ไป​อย่าง​หม่นหมอง​ คิดไม่ถึง​ว่า​เพิ่งจะ​ไป​ถึงประตูหน้าบ้าน​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​พ่อแม่​ยืน​รอ​อยู่​ด้วย​ใบ​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความปลาบปลื้ม​ยินดี​ ใน​มือ​ของ​บิดา​มีว่าว​กระดาษ​ที่​คล้าย​มีขา​วิ่ง​กลับบ้าน​ได้​เอง​ตัว​นั้น​อยู่​ด้วย​ เด็กชาย​ถามถึงได้​รู้​ว่า​ที่แท้​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​โยน​กลับมา​ให้​ง่ายๆ​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​เป็น​เด็กชาย​ถึงเป็น​เด็กหนุ่ม​ เรื่องเล็ก​ๆ เรื่อง​นี้​กลับ​กลายเป็น​หัวข้อ​พูดคุย​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ ภายหลัง​รอ​ให้​เด็กชาย​คน​นี้​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ คนหนุ่ม​ไม่ทัน​กลายเป็น​คนแก่​ก็​เหมือน​ว่าว​ที่​สาย​ป่าน​ขาด​ ชีวิต​ก็​คือ​เรื่องเล็ก​ ถูก​โยนทิ้ง​ไป​บน​สนามรบ​ง่ายๆ​

ก่อนหน้านี้​ลู่​จือ​หยิบ​เอา​กระบี่​ยาว​ที่​ถูกชะตา​ที่สุด​สอง​เล่ม​ออก​มาจาก​ใน​กล่อง​กระบี่​ ชิวสุ่ย​ จ๋าว​เชี่ยว​ นาง​ถือ​กระบี่​สอง​มือ​ บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ‘เป้า​ผู่’​ (เป็น​คำศัพท์​ของ​ทาง​ลัทธิ​เต๋า​ หมายถึง​โอบกอด​ความบริสุทธิ์​เรียบง่าย​) สังหาร​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ไป​ตน​หนึ่ง​ ดูเหมือน​จะเป็น​ผู้คุม​กฎ​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​นคร​ป่าย​ฮวา​ ก่อนหน้านี้​ระหว่าง​ที่​เข่นฆ่า​ ลู่​จือ​แค่​สิ้นเปลือง​เรี่ยวแรง​ไป​เล็กน้อย​เท่านั้น​ นอกจากนี้​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​จำนวน​เพียง​หยิบมือ​ที่​มิอาจ​รับ​การฟาดฟัน​ได้​ ส่วน​พวก​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​ต่ำกว่า​เซียน​ดิน​ลง​ไป​ จำไม่ได้​แล้ว​ แล้วก็​ไม่จำเป็นต้อง​จำด้วย​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​ถูก​กระบี่​ยาว​ชิวสุ่ย​ (น้ำ​ฤดูใบไม้ร่วง​) สังหาร​ ใน​ช่อง​โพรง​ลมปราณ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​สะสมปราณ​วิญญาณ​เอาไว้​พลัน​เหมือน​น้ำ​ที่​ท่วม​ทำนบ​ น้ำ​พลัน​ท่วม​กลบ​ทับ​ช่อง​โพรง​ลมปราณ​ ไร้เหตุผล​สิ้นดี​ หาก​ถูก​จ๋าว​เชี่ยว​ (ทะลุทะลวง​ช่อง​โพรง​ทั้ง​เจ็ด​) ทำร้าย​ ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​ฟ้าดิน​ของ​ร่างกาย​เผ่า​ปีศาจ​ก็​จะเจอ​หายนะ​ จ๋าว​เชี่ยว​มีปณิธาน​กระบี่​บริสุทธิ์​กลุ่ม​หนึ่ง​ติด​มาด้วย​ตั้ง​แต่กำเนิด​ เมื่อ​ร่วมมือ​กับ​ปราณ​กระบี่​อัน​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ของ​ลู่​จือ​ก็​คล้าย​กับ​มีซินแส​ด้าน​ฮวงจุ้ย​คน​หนึ่ง​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​ตามหา​รัง​มังกร​เป็น​คนนำทาง​ ปราณ​กระบี่​ประดุจ​กองทัพ​อาชา​เหล็ก​เจาะทะลวง​ขบวน​รบ​ เกือกม้า​ย่ำ​ทะลวง​ผ่าน​ ราก​ภูเขา​แต่ละ​เส้น​ปริ​แตก​พัง​ภินท์​

ลู่​จือ​เก็บ​กระบี่​บิน​ ‘เป้า​ผู่’​ กลับมา​ ส่วน​เป่ย​โต้​ว​ที่​เป็น​กระบี่​บิน​อีก​เล่ม​หนึ่ง​นั้น​ กำลัง​ใช้ยันต์​ชำระ​กระบี่​มาหลอม​กระบี่​

กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ‘เป้า​ผู่’​ ได้​ครอบครอง​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​อย่าง​ อย่างหนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​กระบี่​บิน​สามารถ​กัก​เงาของ​ผู้ฝึก​ตน​เอาไว้​ได้​ พริบตาเดียว​ก็​ทำร้าย​ไป​ถึงจิต​หยิน​ ภาพสะท้อน​ของ​จิต​หยิน​ก็​เหมือน​ถูก​กระบี่​บิน​ปัก​ตรึง​ไว้​บน​ผ้า​สีดำ​ผืน​หนึ่ง​ใน​ตำแหน่ง​เดิม​ ผู้ฝึก​ตน​ขยับตัว​เปลี่ยน​ตำแหน่ง​ก็​เหมือน​ฉีก​กระชาก​จิต​หยิน​ของ​ตัวเอง​ ขณะเดียวกัน​ขอ​แค่​ผู้ฝึก​ตน​ไม่ยอม​สละ​จิต​หยิน​ทิ้ง​ไป​ ตัดสินใจ​ได้​ไม่เฉียบขาด​มาก​พอ​ ก็​จะต้อง​เผชิญหน้า​กับ​วิชา​อภินิหาร​ของ​กระบี่​บิน​ชนิด​ที่สอง​ที่​สามารถ​เรียก​ได้​ว่า​ ‘บรรลุ​แก่นแท้​อัน​ลี้ลับ​ สืบเสาะ​สาว​เส้น​ไหม​’ สามารถ​ใช้จิต​แห่ง​กระบี่​ที่​บริสุทธิ์​มาสร้าง​จิต​หยาง​กาย​นอกกาย​ได้​อีกครั้ง​ แต่​ไม่ว่า​จะเป็น​จิต​หยิน​หรือ​จิต​หยาง​ก็​ล้วน​เกี่ยวพัน​กับ​รากฐาน​มหา​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​คน​หนึ่ง​ วิชา​อภินิหาร​กระบี่​บิน​เหมือน​การ​โอบกอด​ ตามติด​ดั่ง​เงาอยู่​บน​สนามรบ​

เป็นเหตุให้​บน​สนามรบ​ของ​สำนัก​หนึ่ง​ก่อนหน้านี้​ ลู่​จือ​บิด​หมุน​ข้อมือ​ กระบี่​ยาว​ชิวสุ่ย​สะบัด​ควง​แสงกระบี่​พร่างพราว​ แสงกระบี่​สีขาว​หิมะ​สว่าง​เจิดจ้า​เหมือน​คลื่น​น้ำ​สารทฤดู​ ส่อง​สะท้อน​สี่ทิศ​ เงาสะท้อน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ปรากฏ​ขึ้น​ทันใด​

ฉีถิงจี้เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ให้​เจ้าไป​หลอม​กระบี่​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ใช่ว่า​จะไม่มีเหตุผล​ ไม่เพียงแต่​ ‘เป่ย​โต้​ว’​ กระบี่​บิน​เล่ม​ที่สอง​ที่​มหา​มรรคา​สอดคล้อง​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ข้า​เดา​ว่า​กระบี่​บิน​ ‘เป้า​ผู่’​ มีโอกาส​ที่จะ​ได้​ครอบครอง​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​อย่าง​ที่สาม​ นอกจากนี้​เจ้าเอง​ก็​ไม่ค่อย​เหมือนกับ​ข้า​และ​เฉิน​ซี เรื่อง​การบุกเบิก​ถ้ำสถิต​ พวกเรา​คง​ได้​แต่​หยุด​อยู่​ที่​ก้าว​นี้​แล้ว​ ยาก​มาก​ที่จะ​พัฒนา​รุดหน้า​ไป​อีก​ขั้น​ แต่​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ของ​เจ้ากลับ​ไม่เหมือนกัน​ ยังมี​ความเป็นไปได้​อีก​มากมาย​ยิ่งนัก​”

ลู่​จือ​รับฟัง​ด้วย​อาการ​ใจลอย​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่ว่า​นาง​แยกแยะ​ดี​ชั่ว​ไม่ออก​ แต่​เป็น​เพราะ​ไม่มีความสนใจ​เลย​จริงๆ​

นาง​นิสัย​เฉยเมย​ ทั้ง​เป็นนิสัย​ที่​ติดตัว​มาตั้งแต่​เกิด​ แล้วก็​เป็น​อิทธิพล​จาก​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​ที่​หล่อหลอม​ใน​ภายหลัง​ ทำให้​จิตใจ​ของ​นาง​เฉยชา​ไร้​ความปรารถนา​อย่าง​ผิด​สามัญ

เวลานี้​ความคิด​ของ​ลู่​จือ​ยัง​คงอยู่​กับ​กระบี่​ที่เก็บ​ซ่อน​ไว้​ใน​กล่อง​กระบี่​ กระบี่​อาคม​ลัทธิ​เต๋า​อีก​หก​เล่ม​ที่​เหลือ​ซึ่งมีโหย​วฝู​ เค่อ​อี้​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ แต่ละ​เล่ม​ต่าง​ก็​มีเวท​ลับ​ชั้นสูง​บางอย่าง​ติดตัว​มาเช่นเดียวกัน​ ลู่​จือ​รู้สึก​ว่า​หาก​มีชีวิตรอด​กลับ​ไป​จะไปหา​เฉิน​ผิง​อัน​เป็นการ​ส่วนตัว​เพื่อ​ปรึกษา​เขา​สัก​รอบ​หนึ่ง​

ในอนาคต​เมื่อ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงไป​ทวงหนี้​ที่​สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​ก็​จัดการ​ได้​ง่าย​แล้ว​ คืน​กระบี่​? กระบี่​ที่​อิ่น​กวาน​ยืม​มาจาก​เจ้า มาหา​ข้า​ลู่​จือ​ทำไม​?

ฉีถิงจี้เห็น​ว่า​ลู่​จือ​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เขา​ก็​ไม่ได้​โน้มน้าว​ต่อ​อีก​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​สตรี​คน​หนึ่ง​ที่​แม้แต่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ก็​ยัง​เกลี้ยกล่อม​ไม่ได้​

ฟ้าดิน​เล็ก​เรือน​กาย​มนุษย์​ของ​ลู่​จือ​คล้าย​กับ​ว่า​ทั้งๆ ที่​กิน​อาณาเขต​พัน​ลี้​ แต่กลับ​มีห้อง​อยู่​แค่​ไม่กี่​ห้อง​ บอ​กว่า​นาง​มีเงิน​ก็​มีเงิน​จริงๆ​ เหมือน​คน​ที่​ได้​ครอบครอง​นา​ดี​หมื่น​ไร่​ แต่​หาก​จะบอ​กว่า​นาง​ไม่มีเงิน​ก็​ไม่ผิด​เหมือนกัน​ พูดถึง​ใบไม้​ผลิ​เพาะ​พันธ์​ใบไม้​ร่วง​เก็บเกี่ยว​ที่​ได้มา​อย่าง​แท้จริง​ กลับ​มีแค่​หนึ่ง​ไร่​สามวา​ (เปรียบเปรย​ว่า​ขอบเขต​อิทธิพล​หรือ​อาณาเขต​ของ​ตัวเอง​ที่​มีน้อย​นิด​) อย่าง​น่าสงสาร​เท่านั้น​

เพราะ​นอกจาก​ลู่​จือ​จะมีกระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​ ก็​มีแค่​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​ผ่าน​การหลอม​ใหญ่​สอง​สามชิ้น​เท่านั้น​ ไม่ว่า​จะสำหรับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ห้า​ขอบเขต​บน​คนใด​ก็ตาม​ นี่​ถือเป็น​จำนวน​ที่​เรียก​ได้​ว่า​แร้นแค้น​อย่างยิ่ง​

ของ​ทั้ง​สามชิ้น​ล้วน​ถูกลู่​จือ​นำมาใช้​ประคับประคอง​การ​ฝึก​ตน​ ช่วย​ให้​ดูดดึง​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​มาได้​เร็ว​กว่า​เดิม​ รวมไปถึง​ช่วย​บำรุง​สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​ วัตถุ​ที่​ใช้ใน​การ​โจมตี​ของ​นาง​ก็​มีแค่​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​นั้น​เท่านั้น​

ผู้ฝึก​ตน​ แม้ว่า​ทั่ว​ทั้ง​เรือน​กาย​จะเหมือน​ฟ้าดิน​เล็ก​ อาณาเขต​ของ​ขุนเขา​สายน้ำ​กลับ​กว้างใหญ่​ไร้​ขอบเขต​สิ้นสุด​ สิ่งที่​เป็น​ของ​ ‘ตัวเอง​’ อย่าง​แท้จริง​ ก็​คือ​การนำ​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ที่​ดึงดูด​มามาเป็น​ต้นกำเนิด​สายน้ำ​ ราด​รด​ลง​ไป​บน​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่อยู่​บน​ผืน​แผ่นดิน​ คำ​ว่าการ​ฝึก​ตน​ ก็​เหมือน​การหว่าน​ไถผืน​นา​ บุกเบิก​ที่ดิน​ก่อตั้ง​จวน​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ปลูก​เรียงราย​ติดกัน​เป็น​แถบ​จน​กลายเป็น​นคร​ขนาดใหญ่​ยักษ์​ เมื่อ​มีนคร​มาก​แล้วก็​จะกลาย​เป็นหนึ่ง​แคว้น​ ผู้ฝึก​ตน​เหมือน​จักรพรรดิ​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ สุดท้าย​ ‘การพิสูจน์​มรรคา​’ ก็​คล้าย​การ​ได้​เป็น​ผู้ครอบครอง​ใต้​หล้า​ของ​ฟ้าดิน​ร่างกาย​มนุษย์​

เพียงแต่ว่า​สำหรับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​แต่ละคน​แล้ว​ การบุกเบิก​ถ้ำสถิต​ การ​สร้าง​ห้อง​โอสถ​ไว้​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ ผู้ฝึก​ตน​จะมีขีดจำกัด​อยู่​ที่​คุณสมบัติ​ ต่าง​คน​ต่าง​มีคอขวด​ขวางกั้น​อยู่​ อย่าง​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​พอ​ขอบเขต​สูงแล้ว​ ไม่ขาดเงิน​เทพ​เซียน​และ​วัตถุดิบ​วิเศษ​แห่ง​ฟ้าดิน​แล้วก็​จะเริ่ม​ผลัดเปลี่ยน​ แทนที่​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​เดิม​ที่​เคย​มีอยู่​โดย​ไม่สน​ความเสียหาย​ ดังนั้น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​ทุกคน​จึงจำต้อง​เริ่ม​ไล่​ไขว่คว้า​ขอบเขต​สิบ​สี่ที่​เป็น​มายา​ล่องลอย​มา

ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​อย่าง​ฉีถิงจี้ เงิน​เทพ​เซียน​ ปราณ​วิญญาณ​และ​สมบัติ​อาคม​ล้วน​ถือว่า​แค่​เอื้อมมือ​คว้า​ก็​ได้มา​ครอง​ น่าเสียดาย​ก็​แต่​วัตถุ​จับต้อง​ได้​จริง​ทุกอย่าง​บน​ฟ้าดิน​ ได้​กลายเป็น​ของ​นอกกาย​อย่าง​สมชื่อ​ไป​แล้ว​ หาก​ละโมบ​โลภมาก​จะกลาย​มาเป็น​ภาระ​ มีเพิ่ม​มาเพียง​ส่วน​เดียว​ก็​จะกลายเป็น​ว่า​อะไร​ที่​มากเกินไป​ก็​ไม่ดี​

ฉีถิงจี้ยิ้ม​กล่าว​ “ยัง​ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​รีบ​ไป​เยือน​ภูเขา​ลูก​ถัดไป​ก็​ยัง​คุย​เล่น​กัน​ได้​อีก​หลาย​ประโยค​”

ใน​มือ​ของ​เขา​มีชุด​คลุม​อาคม​สีเขียว​เข้ม​ที่​ขาดวิ่น​ไม่มีชิ้น​ดี​เพิ่ม​มาตัว​หนึ่ง​ เป็น​ของ​ตกทอด​ของ​เจ้าสำนัก​เซียน​เห​ริน​คน​นั้น​ มีชื่อว่า​ชิงถง เป็น​อาวุธ​กึ่ง​เซียน​ชิ้น​หนึ่ง​ ก็​แค่​ว่า​หาก​คิด​จะซ่อม​ต้อง​ใช้เงิน​อีก​เล็กน้อย​ ลู่​จือ​ออก​กระบี่​อำมหิต​เกินไป​จริงๆ​

ชุด​คลุม​อาคม​ชิงถงตัว​นี้​ ทาง​ฝั่งของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​น่าจะ​มีบันทึก​ไว้​ เพราะ​ใน​ประวัติศาสตร์​ ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​ป่าย​ฮวา​ที่​ไป​เยือน​สนามรบ​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​มีไม่น้อย​ ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ที่​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​หนึ่ง​ วันนี้​กลับ​เผ่นหนี​เร็ว​ที่สุด​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ถูก​ฉีถิงจี้ขัด​ขวางทาง​ไป​ บังคับ​ให้​อีก​ฝ่าย​ ‘สละ​ร่าง​ใต้​คม​อาวุธ​’ บน​เส้นทาง​ แต่​อีก​ฝ่าย​ได้​ร่าย​วิชา​หลบหนี​แห่ง​ชะตาชีวิต​บท​หนึ่ง​ ทว่า​จิต​หยิน​กลับ​ถูก​สังหาร​ จะรักษา​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ไว้​ได้​หรือไม่​ก็​บอก​ได้​ยาก​แล้ว​

นอกจากนี้​ยังมี​โอสถ​ปีศาจ​ของ​เผ่า​ปีศาจ​อีก​หลาย​เม็ด​ ขอบเขต​หยก​ดิบ​หนึ่ง​เม็ด​ เซียน​ดิน​หลาย​เม็ด​ ล้วน​ถูก​ฉีถิงจี้กวาด​ออก​มาจาก​บน​ศพ​ทั้งหลาย​ ถือ​ประคอง​ไว้​เหนือ​ฝ่ามือ​ ปล่อย​ให้​พวก​มัน​หมุน​วน​ไป​ช้าๆ

ฉีถิงจี้คิด​เสีย​ว่า​กำลัง​ชื่นชม​ทิวทัศน์​อยู่​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​คนใด​ก็ตาม​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่​คู่ควร​กับ​คำ​เรียกขาน​ว่า​เซียน​กระบี่​ มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่ใช่บุคคล​ซึ่งเดิน​ออก​มาจาก​ภูเขา​ศพ​ทะเล​เลือด​ มีสัก​กี่​คน​ที่​เป็น​คน​ปกติ​?

ลู่​จือ​ชำเลืองตา​มอง​โอสถ​ปีศาจ​เหล่านั้น​ สีหน้า​เปลี่ยน​มาเป็น​หม่นหมอง​

จำได้​ว่า​ใน​อดีต​เคย​มีผู้ฝึก​กระบี่​หญิง​ที่​ทำหน้าที่​บันทึก​คุณูปการ​ใน​การ​สู้รบ​คน​หนึ่ง​ ขอบเขต​ไม่สูง เป็น​โอสถ​ทอง​ที่​คุณสมบัติ​ธรรมดา​ ไม่เชี่ยวชาญ​การเข่นฆ่า​สังหาร​ อันที่จริง​ลู่​จือ​ไม่รู้​ชื่อ​ของ​นาง​ รู้​แค่​ว่า​นาง​เป็น​สตรี​ที่​นิสัย​อ่อนหวาน​อบอุ่น​คน​หนึ่ง​ รูปโฉม​ไม่เลว​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึงไม่เคย​แต่งงาน​ หน้าตา​อาจ​เทียบ​กับ​โจว​เฉิงไม่ได้​ แต่​แน่นอน​ว่า​ต้อง​งดงาม​กว่า​นาง​ลู่​จือ​มาก​นัก​

สตรี​ที่​ลู่​จือ​ไม่ทราบ​แม้แต่​ชื่อ​ของ​นาง​ผู้​นี้​ ทุก​ครั้งหลัง​ผ่าน​สงคราม​จะต้อง​รับผิดชอบ​คอย​จดบันทึก​ ตรวจสอบ​ประเมิน​ ทำ​เอกสาร​ผล​งานการ​สู้รบ​ เมื่อ​นาง​มองเห็น​ผู้ฝึก​กระบี่​หญิง​ทั้งหลาย​ที่​กลับ​ออก​มาจาก​สนามรบ​ได้​ จะต้อง​คลี่​ยิ้ม​อย่าง​…งดงาม​น่ามอง​มาก​

ลู่​จือ​ถึงขั้น​จดจำ​ใบหน้า​ของ​สตรี​ผู้​นั้น​ได้​อย่าง​พร่า​เลือน​เต็มที​ มีเพียง​รอยยิ้ม​นั้น​ของ​นาง​ที่​ราวกับว่า​ต่อให้​จงใจหลงลืม​ไป​ก็​ยัง​มิอาจ​ลืม​ได้​ลง​

ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​คน​หนึ่ง​ ทั้ง​ยัง​ไม่เชี่ยวชาญ​การต่อสู้​ แต่​สุดท้าย​นาง​กลับ​เลือก​ที่จะ​กระโจน​ลง​สนามรบ​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​อาจ​ตาย​หรือ​อาจ​รอด​ นาง​กลับ​ไม่ได้​เลือก​อย่าง​หลัง​ติดตาม​นคร​บิน​ทะยาน​ไป​อยู่​ต่างบ้านต่างเมือง​ แต่​นาง​กลับ​ขี่​กระบี่​มุ่งตรง​ไป​ยัง​หัว​กำแพงเมือง​ คง​เป็น​เพราะ​นาง​รู้สึก​ว่า​ใน​เมื่อ​จะรักษา​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เอาไว้​ไม่ได้​แล้ว​ บน​โลก​มนุษย์​ใบ​นี้​ไม่มีบ้านเกิด​ของ​นาง​อีกแล้ว​ ก็​ม่จำเป็นต้อง​ให้​นาง​เป็น​ผู้​จดบันทึก​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​อีกแล้ว​

ไม่ใช่เรื่องใหญ่​อะไร​ ไม่ใช่สตรี​ที่​สำคัญ​อะไร​

ขนาด​การ​จากไป​ของ​โจว​เฉิงสหาย​รัก​ ลู่​จือ​ก็​ยัง​ปล่อยวาง​ได้​ไม่ยาก​ขนาด​นี้​ ช่างเป็นเรื่อง​ประหลาด​เสีย​จริง​

แต่​ดูเหมือนว่า​จนกระทั่งบัดนี้​ รอ​กระทั่ง​ลู่​จือ​นึกถึง​สตรี​ที่​ธรรมดา​จน​ธรรมดา​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คน​นี้​ขึ้น​มา พอ​คิด​ว่า​นาง​ไม่อยู่แล้ว​ ลู่​จือ​ถึงได้​รู้สึก​ตัวอย่าง​เชื่องช้า​ว่า​ ดูเหมือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จะไม่อยู่แล้ว​จริงๆ​

ลู่​จือ​รู้สึก​หงุดหงิด​เล็กน้อย​ กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ ไม่เหลือ​เผ่า​ปีศาจ​ให้​สังหาร​อีกแล้ว​

มารดา​มัน​เถอะ​ หาก​สามารถ​เริ่ม​ฟัน​คน​ใหม่​อี​กรอบ​ได้​ตั้ง​แต่ต้น​ก็ดี​น่ะ​สิ

ส่วน​เจ้าของ​โอสถ​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ตน​นั้น​ เวลานี้​เรือน​กาย​ล่องลอย​ไม่หยุดนิ่ง​ ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​ได้​แกะสลัก​ชื่อ​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​อย่าง​กล้า​ๆ กลัว​ๆ สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​ที่​น่าสงสาร​ล้วน​ถูก​ปราณ​กระบี่​เฉียบคม​กักขัง​ไว้​ใน​กรงขัง​แห่ง​หนึ่ง​ จิตวิญญาณ​เผชิญ​กับ​ความทุกข์ทรมาน​ เวลานี้​ยังมี​แต่​ความ​กระวนกระวาย​ กังวล​ว่า​ ‘ฉีลู่​ซ่าง’ (ลู่​ซ่างแปล​ว่า​บน​ถนน​) แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผู้​นี้​จะเปลี่ยนใจ​ผิด​คำสัญญา​ ถือโอกาส​ส่งมัน​ขึ้น​ถนน​ออกเดินทาง​อี​กรอบ​โดยตรง​

ที่แท้​ฉีถิงจี้ที่​รับหน้า​ที่จับ​ปลา​ที่​หลุด​ลอด​ออกจาก​แห​ นอกจาก​จะใช้เวท​คาถา​จัดวาง​ค่าย​กล​แล้ว​ ก่อนหน้านี้​ได้​ปล่อย​จิต​หยิน​ออก​เดินทางไกล​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ระหว่าง​ทางได้​คว้า​เอา​ตัวผู้​ถวายงาน​นคร​ป่าย​ฮวา​ที่​หนี​ไม่ทัน​มาได้​คน​หนึ่ง​ ก็​คือ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​จิตวิญญาณ​ถูก​กักขัง​ในเวลานี้​ เขา​รับปาก​ว่า​จะไว้ชีวิต​มัน​ ถามมัน​ว่า​คลัง​ลับ​ทั้งหลาย​ของ​นคร​ป่าย​ฮวา​ตั้งอยู่​ที่ใด​บ้าง​ จากนั้น​ให้​มัน​นำทาง​ไป​ค้นหา​มารอบ​หนึ่ง​ ไม่ต้อง​ให้​มัน​แสดงท่าที​กระตือรือร้น​ด้วย​การ​เปิด​ตรา​ผนึก​ขุนเขา​สายน้ำ​ทีละ​ชั้น​อะไร​ด้วยซ้ำ​ เพราะ​ฉีถิงจี้ใช้ปราณ​กระบี่​แหวก​เส้นทาง​ไป​ตลอดทาง​โดยตรง​

กองกำลัง​ตระกูล​เซียน​อักษร​จงทั่วไป​ ส่วนใหญ่​มักจะ​เป็น​กระต่าย​เจ้าเล่ห์​ที่​ทำรัง​สามรัง​ จะต้อง​เอา​ตำรา​ลับ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ เงิน​เทพ​เซียน​ สมบัติ​อาคม​อาวุธ​วิเศษ​แบ่ง​แยกกัน​ไป​ไว้​ตาม​สถานที่​ต่างๆ​ แน่นอน​ว่า​นี่​ยัง​จำกัด​อยู่​เฉพาะ​สำนัก​ ‘ทั่วไป​’ เท่านั้น​ อย่าง​ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​แห่ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ จวน​เทียน​ซือ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ และ​ยังมี​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ของ​เจิ้งจวี​จง แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีความพิถีพิถัน​อย่าง​หา​ที่​สิ้นสุด​ไม่ได้​

ใน​เมื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​กำหนด​เวลา​ไว้​ที่​ครึ่ง​ก้านธูป​ ฉีถิงจี้จึงไม่ได้​กวาด​ค้น​ต่อไป​ เรื่อง​อย่าง​การ​ขุด​ดิน​ลึก​สามฉื่อ​นี้​ ยังคง​เป็น​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ที่​เชี่ยวชาญ​มากกว่า​

แต่​สิ่งของ​ที่​สายตา​มองเห็น​ ฉีถิงจี้กลับ​ไม่ยอม​ปล่อย​ให้​เสียเปล่า​เลย​แม้แต่น้อย​ สมบัติ​อาคม​วัตถุ​วิเศษ​ที่​ปริ​แตก​ทั้งหลาย​ซึ่งถูก​กระบี่​ของ​ลู่​จือ​ฟัน​ร่วง​ลงพื้น​ มีมากมาย​สารพัด​รูปแบบ​ แม้จะบอ​กว่า​สมบัติ​วิเศษ​บน​ภูเขา​ที่​ปริ​แตก​แล้ว​ ราคา​จะแตกต่าง​จาก​ก่อนหน้า​นั้น​ราว​ฟ้ากับ​ดิน​ แต่​ต่อให้​ไม่มีค่า​มาก​ขนาด​นั้น​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​จะไม่มีค่า​แล้ว​

และ​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​อีก​มากมาย​ที่​หลังจาก​ถูก​ฆ่าตาย​ศพ​ก็ได้​เผย​ร่าง​จริง​ดั้งเดิม​ออกมา​ รวมไปถึง​โครงกระดูก​ขาว​ที่อยู่​ใน​ลักษณะ​ของ​วิญญาณ​วีรบุรุษ​ที่​ต่าง​ก็​ถูก​ฉีถิงจี้เก็บ​มาใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ทั้งหมด​

สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​เพิ่ง​ก่อตั้ง​ได้​ไม่นาน​ ทุกหนทุกแห่ง​ล้วน​มีแต่​เรื่อง​ต้อง​ใช้เงิน​ คิดไม่ถึง​ว่า​วันนี้​เดิน​ทางผ่าน​นคร​ป่าย​ฮวา​ เก็บ​ตะวัน​ออกมา​ผสม​กับ​ตะวันตก​ สะสมจาก​น้อย​กลายเป็น​มาก​ ก็​ได้เงิน​เทพ​เซียน​จำนวน​น่าดู​ชมมาก้อน​หนึ่ง​แล้ว​

ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​จิตวิญญาณ​ถูก​กักขัง​ปลุก​ความกล้า​ถามเสียง​เบา​ “เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉี ท่าน​คง​รักษาคำพูด​กระมัง​? ข้า​ยินดี​จะติดตาม​คอย​ปรนนิบัติ​ผู้อาวุโส​!”

ฉีถิงจี้คลี่​ยิ้ม​ ไม่เอ่ย​อะไร​

เป็น​วัว​เป็น​ม้านั้น​ช่างเถิด​ สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​รับ​แต่​ผู้ฝึก​กระบี่​เท่านั้น​

เห็น​ว่า​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ไม่คุย​ด้วย​ มัน​ก็​พลัน​รู้สึก​หดหู่​หมดอาลัย​เหมือน​ขี้เถ้า​มอด​ เอ่ย​เสียงสั่น​ว่า​ “ไม่รักษาคำพูด​ก็​ช่างเถอะ​ แต่​ท่าน​ช่วย​ลงมือ​ให้​ไว​หน่อย​ได้​ไหม​?”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ชีวิต​นี้​เคย​ไป​เยือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​มาก่อน​หรือไม่​?”

ใน​ใจมัน​ปิติยินดี​อย่าง​บ้าคลั่ง​ รีบ​ตอบ​ทันที​ “ไม่เคย​ไปมา​ก่อน​ สามารถ​สาบาน​ต่อ​ฟ้าได้​ว่า​ไม่เคย​ไป​ตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ ระยะทาง​ยาว​ไกล​ ขอบเขต​ต่ำต้อย​ ไหน​เลย​จะกล้า​ไป​รนหาที่​ตาย​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​…”

ฉีถิงจี้พยักหน้า​รับ​ “ถ้าอย่างนั้น​ชาติหน้า​ก็​ไป​เกิด​ใน​ครรภ์​ดี​ๆ ไป​ลอง​ชมทัศนียภาพ​ของ​ที่นั่น​ดู​สักครั้ง​”

โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ง่ายๆ​ จิตวิญญาณ​แหลก​สลาย​กลายเป็น​ผุยผง​

ทุกวันนี้​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​จำนวน​ไม่น้อย​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ บางที​อาจจะ​รู้​ว่า​มีตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​อยู่​ แต่​ก่อนหน้า​ตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​ ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แท้จริง​แล้ว​แรกเริ่ม​สุด​กลับเป็น​ตำรา​ร้อย​เซียน​กระบี่​ที่​จัดพิมพ์​ขึ้น​อย่าง​หยาบ​ๆ

เวลา​อยู่​ว่าง​ๆ ฉีถิงจี้ก็​เคย​เปิด​อ่าน​มาก่อน​ เขา​ไม่ได้​สนใจ​อยาก​จะแอบ​ไป​ซื้อ​ตราประทับ​พวก​นั้น​ ใน​สายตา​ของ​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​ ฝีมือ​การแกะสลัก​ของ​อิ่น​กวาน​หยาบ​ไป​สักหน่อย​ ยัง​ไม่ถือว่า​ได้​เดิน​เข้า​ห้อง​ เลื่อน​ติดอันดับ​ของ​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​หิน​และ​ทอง​อย่าง​แท้จริง​ เพียงแต่ว่า​บน​ตราประทับ​จะมีอักษร​ริม​ขอบ​อยู่​ประโยค​หนึ่ง​ที่​ทำให้​ฉีถิงจี้รู้สึก​ว่า​ไม่เลว​

ไม่มีสถานที่​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​อัน​เลื่องชื่อ​ลือนาม​ แต่​กลับเป็น​นคร​ที่สูง​ที่สุด​ของ​โลก​หล้า​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด