กระบี่จงมา 861.2 ผู้ครองกระบี่ที่แท้จริง

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 861.2 ผู้ครองกระบี่ที่แท้จริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ร่าง​แยก​ของ​ลู่​เฉิน​ที่​จำแลง​มาจาก​ดวงจิต​ดวง​หนึ่ง​ เวลานี้​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​กิ่งไม้​ แกว่ง​ขา​สอง​ขา​ ชมการ​ประลอง​เวท​คาถา​ระหว่าง​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​กับ​เฟยเฟย​อยู่​ไกลๆ​ นับแต่​โบราณ​มาคน​ยุ่ง​เทพ​ไม่ยุ่ง​อยู่แล้ว​นี่​นะ​ เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงพึมพำ​กับ​ตัวเอง​ “ญาณอยู่​ใน​ดวงตา​สิบ​ทิศ​ ปัญญา​อยู่​ที่​ด่าน​ใจสามภพ​ สามภพ​สิบ​ทิศ​หา​ที่​สิ้นสุด​มิได้​ มือ​และ​ตา​จำแลง​เป็น​พัน​หมื่น​ ประหนึ่ง​การรอคอย​สายน้ำ​ดวงจันทร์​ ชัดเจน​จน​มองเห็น​ได้​แต่​มิอาจ​จับ​คว้า​ หาก​คน​ได้​พบ​เจอ​พระโพธิสัตว์​ ก็​เป็น​ทั้งคน​และ​เป็น​ทั้ง​พุทธะ​”

ลู่​เฉิน​ยื่นมือ​ไป​ตบ​กิ่งไม้​เบา​ๆ ใบหน้า​ประดับ​รอยยิ้ม​ พยักหน้า​เอ่ย​กับ​ตัวเอง​ “ไป​จาก​ที่นี่​อย่า​ได้​แสวง​หาเรื่อง​แปลกประหลาด​ คือ​การ​เอา​วิถี​นอก​มาทำลาย​วิถี​เที่ยงตรง​”

หาว​ซู่ไม่แปลกใจ​ใน​ถ้อยคำ​ภาษาพุทธ​ของ​ลู่​เฉิน​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ถาม “ยันต์​เปิน​เย​ว่​ใช้ดี​หรือไม่​?”

ไม่ได้​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ยันต์​เปิน​เย​ว่​ของ​เขา​ที่อยู่​ที่นี่​อาจ​ถูก​หักลบ​ประสิทธิภาพ​ไป​มาก​

หาว​ซู่พยักหน้า​ “ใช้ได้​ดีมาก​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ยันต์​ใหญ่​”

ยันต์​เปิน​เย​ว่​ของ​ลู่​เฉิน​ และ​ยังมี​ยันต์​ขวาน​หยก​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​เจ้าตำหนัก​สุ้ยฉู​ รวมไปถึง​ยันต์​ไท่​ชิงตัวเบา​ซึ่งถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็น​ยันต์​สละ​ศพ​ มีอีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​ยันต์​ทิวา​ยก​สมบัติ​ คือ​ยันต์​ใหญ่​ที่​สมชื่อ​อย่าง​แท้จริง​ คำ​ว่า​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​ยันต์​ อันที่จริง​มีกฎ​ที่​ไม่เป็น​ลายลักษณ์อักษร​อยู่​ข้อ​หนึ่ง​ นั่น​ก็​คือ​เป็น​ยันต์​ที่​เป็น​ผลงาน​ริเริ่ม​ชิ้น​แรก​หรือไม่​ สามารถ​เลื่อน​ลำดับ​เป็น​ ‘ยันต์​ใหญ่​’ ที่​ผู้คน​ให้การ​ยอม​รับได้​หรือไม่​

เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ นักพรต​ซุน​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ ศิษย์​น้อง​เล็ก​ที่​ถูกอวี๋​โต้​วพก​กระบี่​มาสังหาร​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​ ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​แห่ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ เทียน​ซือ​ใหญ่​แต่ละ​รุ่น​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ และ​ยังมี​ปีศาจ​ใหญ่​หวง​หลวน​ เจ้าอาราม​ดอกบัว​ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​แห่ง​นี้​ รวมไปถึง​เจ้าตำหนัก​ตำหนัก​อวี้ฝู​ที่​หายตัว​ไป​นาน​หลาย​ปี​แล้ว​คน​นั้น​ ต่าง​ก็​เป็น​ปรมาจารย์​ด้าน​ยันต์​ระดับ​สูงสุด​ที่​ผู้คน​ให้การ​ยอมรับ​

ดูเหมือนว่า​นอกจาก​ด้าน​เวท​กระบี่​ที่​ไม่ถนัด​สักนิด​แล้ว​ เวท​คาถา​อย่าง​อื่น​ลู่​เฉิน​ล้วน​เชี่ยวชาญ​อย่าง​มาก​ทั้งหมด​ ไม่เคย​มีวิชา​นอกรีต​วิชา​ใด​ที่​ลู่​เฉิน​ไม่เคย​สัมผัส​มาก่อน​

แต่​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ อยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​กลับ​ไม่มีเรื่องราว​การเข่นฆ่า​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่คนใด​มาก่อน​

ลูกศิษย์​สามคน​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​รับผิดชอบ​ผลัดกัน​ดูแล​ป๋า​ยอ​วี้​จิงร้อย​ปี​ ทุกครั้งที่​มีการวน​มาถึงคราว​ของ​ลู่​เฉิน​ที่​เฝ้าพิทักษ์​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เขา​แทบ​ไม่เคย​สนใจ​เรื่อง​ใด​ บางครั้ง​ที่​มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ทำผิด​ละเมิด​ข้อห้าม​ ลู่​เฉิน​ก็​แค่​ไป​เยือน​ถึงบ้าน​แล้ว​จด​ลงบัญชี​เอาไว้​ หาก​ต้อง​กิน​น้ำแกง​ประตู​ปิด​ก็​ไม่มีทาง​บุกเข้าไป​เด็ดขาด​ เพียงแค่​เอ่ย​เตือน​อีก​ฝ่าย​อยู่​ข้างนอก​ด้วย​ถ้อยคำ​ชุด​หนึ่ง​ที่​ไม่ต่างกัน​สัก​เท่าไร​ ‘จะต้อง​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​อีก​หลาย​ๆ ปี​ รอ​ให้​ศิษย์​พี่​รอง​ของ​ข้า​กลับ​จาก​ฟ้านอก​ฟ้ามารำลึก​ความหลัง​ด้วยกัน​นะ​’

ลู่​เฉิน​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ เอ่ย​สัพยอก​ “เป็น​อิ่น​กวาน​ที่​มอบให้​สิงกวาน​ อิจฉา​เจ้าจริงๆ​ เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉีกับ​พี่​หญิง​ลู่​ยัง​ต้อง​ก้ม​เอว​ถึงจะเก็บตก​ของดี​มาได้​ แต่​เจ้ากลับ​สบาย​ที่สุด​”

สะบัด​เอา​ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​ออก​มาจาก​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​กว้าง​ของ​ชุด​คลุม​เต๋า​ โอสถ​ปีศาจ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ยัง​คงอยู่​ มีคุณ​ความชอบ​ทางการ​สู้รบ​ส่วน​นี้​ก็​มาก​พอ​จะให้​หาว​ซู่ไป​อธิบาย​กับ​ศาล​บุ๋น​ได้​แล้ว​

หาว​ซู่เก็บ​งูดำ​ตัว​นั้น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เลิกคิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ “อยู่​ใน​ถิ่น​ของ​คนอื่น​ เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​สามารถ​สังหาร​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ได้​ โดยที่​ยัง​รักษา​โอสถ​ปีศาจ​ที่​สมบูรณ์แบบ​เม็ด​หนึ่ง​ไว้​ได้​ด้วย​?”

เดิมที​คิด​ว่า​เดินทางไกล​มาเยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ครั้งนี้​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​สังหาร​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ได้​สอง​ตน​เท่านั้น​ คาดไม่ถึง​ว่า​จะมีเรื่อง​น่ายินดี​ที่​ไม่คาดฝัน​ใหญ่​ขนาด​นี้​

ลู่​เฉิน​ส่าย​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ อธิบาย​ให้​สิงกวาน​ฟังคร่าวๆ​ ว่า​เจ้านคร​เซียน​จาน​ผู้​นี้​ถูก​อู​ถีอาจารย์​ของ​ตัวเอง​เป็น​คน​จัดการ​

หาว​ซู่ยิ่ง​สงสัย​ “ความสามารถ​ใน​การเข่นฆ่า​ของเสีย​นผู่​ย่ำแย่​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​? ไม่ถึงหนึ่ง​ก้านธูป​ก็​ถูก​อู​ถีสังหาร​อย่าง​สิ้นซาก​แล้ว​? เสวียน​ผู่​ไม่ทัน​ได้​หนี​ออกจาก​ศาล​บรรพ​จารย์​ด้วยซ้ำ​?”

ทำไม​ถึงได้​รู้สึก​ว่า​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​เหมือนกับ​หนันกวง​จ้าว​แห่ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​เลย​นะ​

ใน​ความทรงจำ​ของ​หาว​ซู่ ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ต่อสู้​ได้​เก่ง​มาก​ ต่อให้​พลัง​พิฆาต​จะไม่โดดเด่น​พอ​ อย่าง​น้อย​ที่​สุด็​เชี่ยวชาญ​การ​เผ่นหนี​อย่างยิ่ง​

ลู่​เฉิน​ใช้สอง​มือ​ตบ​หัวเข่า​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “ก็​เพราะ​สภาพการณ์​การ​เก็บเกี่ยว​ประจำปี​ของ​นคร​เซียน​จาน​ไม่ดี​อย่างไร​ล่ะ​ ผล​เก็บเกี่ยว​ใน​ไร่นา​สู้ปีก่อน​ๆ ไม่ได้​ทุกปี​ เจ้าไม่ได้​เห็น​อิ๋น​ลู่​ที่​เป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​คน​นั้น​ ยิ่งกว่า​กระดาษ​เปียก​เสีย​อีก​ ช่วยไม่ได้​ หาก​จะบอ​กว่า​งานฝีมือ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​คือ​สอน​ให้​ลูกศิษย์​ทำให้​อาจารย์​หิว​ตาย​ ถ้าอย่างนั้น​บน​ภูเขา​ของ​ที่​แห่ง​นี้​ส่วนใหญ่​ก็​มักจะ​เป็น​การสอน​ให้​ลูกศิษย์​สังหาร​อาจารย์​ คนแก่​ ใคร​บ้าง​ที่​ไม่เก็บ​ซ่อน​ความสามารถ​ที่​เป็น​วิชา​ก้น​กรุ​เอาไว้​สอง​สามอย่าง​ คน​เด็ก​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ล้วน​อยาก​ลอง​ที่จะ​แอบ​ทำลาย​คำสาบาน​ที่ตั้ง​ไว้​ตอน​อยู่​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ใน​อดีต​ ก็​จริง​นะ​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่คน​ ทำไม​ต้อง​เชื่อ​ใน​ใจคน​ด้วย​เล่า​?”

หาว​ซู่มอง​ทั้งสองฝ่าย​ที่​กำลัง​ ‘ดึง​แม่น้ำ​’ (แปล​ได้​อีก​อย่างหนึ่ง​ว่า​ชัก​คะ​เย่อ​) กัน​อยู่​ ถามชวน​คุย​ว่า​ “พวกเรา​จะออ​กระบี่​กัน​เมื่อไหร่​? คง​ไม่ใช่แค่​ชมงิ้ว​แบบนี้​ต่อไป​เรื่อยๆ​ หรอก​กระมัง​?”

ลู่​เฉิน​มอง​กาย​ธรรม​ของ​เฟยเฟย​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ “ยัง​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ แค่​รอ​ให้​อิ่น​กวาน​หา​โอกาส​เหมาะ​ๆ ออกคำสั่ง​ พี่​หญิง​เฟยเฟย​ในเวลานี้​ยัง​ค่อนข้าง​ระวังตัว​ ยัง​มีทาง​ถอย​หลาย​เส้น​ให้​เดิน​ได้​ คาด​ว่า​อิ่น​กวาน​คง​ไม่ทำให้​เจ้าต้อง​มาเสี่ยว​เที่ยว​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​เริ่ม​วางแผน​ให้​กับ​ลู่​จือ​ ไม่ใช่ว่า​นาง​อยาก​แกะสลัก​ตัวอักษร​ไว้​บน​หัว​กำแพงเมือง​หรอก​หรือ​? หาก​สามารถ​สังหาร​เฟยเฟย​ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​ใน​หนึ่ง​กระบี่​ได้​จริงๆ​ กลับ​ไป​ถึงกำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แกะสลัก​อักษร​คำ​ว่า​ ‘ลู่​’ …ฮ่าๆ แกะสลัก​ตัวอักษร​นี้​ก็ดี​น่ะ​สิ ยอดเยี่ยม​ไป​เลย​! อีก​เดี๋ยว​ข้า​จะไป​ปรึกษา​กับ​พี่​หญิง​ลู่​สักหน่อย​ ขอ​แค่​นาง​ยินดี​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลู่​ ไม่ใช่อักษร​ ‘จือ’​ ก็​ไม่ต้อง​คืน​กล่อง​กระบี่​ให้​ข้า​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​ นวด​คลึง​ปลาย​คาง​ “น่าเสียดาย​โอกาส​แกะสลัก​ตัวอักษร​นั้น​มี แต่​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะสำเร็จ​ พวก​เจ้าคิด​อยาก​จะร่วมกัน​สังหาร​เฟยเฟย​ที่​รับ​ตำแหน่ง​ผู้​ครอง​ชะตาน้ำ​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​หนึ่ง​ชั่วคราว​ แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​ที่จะ​เป็น​เพราะ​เวท​กระบี่​ไม่สูงพอ​ แต่​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ขาด​โชค​บางอย่าง​ไป​”

หาว​ซู่นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มาได้​จึงถามอี​กว่า​ “ใน​เมื่อ​อิ๋น​ลู่​ถูก​ลากตัว​ออกมา​ได้​แล้ว​ เหตุใด​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงไม่หา​โอกาส​สังหาร​อู​ถีเซียน​ผี​ไป​พร้อมกัน​เลย​?”

ไม่ใช่เพราะ​หาว​ซู่ละโมบ​ใน​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​ส่วน​นี้​ เพียงแต่​ว่าด้วย​ปม​แค้น​ที่​นคร​เซียน​จาน​ผูก​ไว้​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ตาม​หลัก​แล้ว​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไม่มีทาง​ปล่อย​อู​ถีไป​ถึงจะถูก​

ลู่​เฉิน​อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เสวียน​ผู่​นั้น​ถือว่า​เป็น​คน​ที่​สมควร​ตาย​ จำเป็นต้อง​ตาย​ หาก​ปล่อย​ให้​มัน​อยู่​ใน​นคร​เซียน​จาน​ต่อ​ก็​คือ​ภัย​ร้าย​ แต่อ​ูถีกลับ​ถือว่า​จะมีหรือไม่​มีก็ได้​ เซียน​ผี​ตน​หนึ่ง​ที่​ได้​แต่​มีชีวิต​อยู่​ไป​วัน​ๆ บน​เส้นทาง​สู่ปรโลก​ยัง​ไม่ถึงขั้น​จะทำให้เกิด​ปัญหา​แทรกซ้อน​ใน​การ​เดินทาง​มาเยือน​ครั้งนี้​ของ​พวกเรา​ได้​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ไม่ค่อย​คาดหวัง​ให้​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ขาด​คน​ที่นั่ง​ยอง​อยู่​ใน​หลุม​ส้วม​แต่​ไม่ยอม​ถ่าย​คน​หนึ่ง​ไป​ ไม่อย่างนั้น​หาก​อู​ถียก​ตำแหน่ง​บน​มหา​มรรคา​นั้น​ไป​ให้​ผู้อื่น​ หาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มีขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​เข้ามา​ชดเชย​ตำแหน่ง​เพิ่ม​มาอีก​แค่​คนเดียว​ก็​ช่างเถิด​ แต่​หาก​เพราะ​การ​ทยอย​กัน​ตาย​ไป​อย่าง​เฉียบพลัน​ของ​เสวียน​ผู่​กับ​อู​ถีทำให้​มีโชคชะตา​ส่วน​นี้​เพิ่ม​เข้ามา​ ทำให้​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​บางคน​ฝ่าทะลุ​คอขวด​บน​มหา​มรรคา​ไป​ได้​ จน​มีขอบเขต​สิบ​สี่ใหม่เอี่ยม​เพิ่ม​มาอีก​คน​หนึ่ง​ล่ะ​?”

หาว​ซู่พยักหน้า​ “นอกจาก​เลือก​ข้า​เป็น​สิงกวาน​แล้ว​ อันที่จริง​สายตา​ใน​การ​เลือก​คน​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ก็​ดีมาก​จริงๆ​”

ลู่​เฉิน​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ทำ​อย่างไร​ถึงโน้มน้าว​ให้​เจ้าอยู่​ต่อ​ได้​?”

หาว​ซู่ไม่เหมือน​คน​ที่จะ​ยอม​ฟังคำ​เกลี้ยกล่อม​ของ​ใคร​ เฉิน​ชิงตู​ก็​ยิ่ง​ไม่มีทาง​ฝืน​รั้ง​ตัว​หาว​ซู่เอาไว้​ถึงจะถูก​

หาว​ซู่เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ก่อน​จะควัก​เหล้า​กา​หนึ่ง​ออกมา​ เปิดผนึก​ดิน​ออก​ กระดก​ดื่ม​สุรา​อึก​ใหญ่​ “ปี​นั้น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​พูด​กับ​ข้า​สอง​ประโยค​”

ลู่​เฉิน​ยิ่ง​สงสัย​ใคร่รู้​มากกว่า​เดิม​ “สอง​ประโยค​ไหน​?”

หาว​ซู่ให้​คำตอบ​

“ข้า​ไม่สนใจ​ว่า​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​จะมีผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​เพิ่ม​มาคน​หนึ่ง​หรือไม่​”

“เรื่อง​ของ​การแก้แค้น​ หาก​เจ้าสามารถ​ใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ไป​สังหาร​คน​ กับ​การ​ที่​เจ้ารักษา​สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​ไพศาล​เอาไว้​ ไป​เด็ดหัว​โจร​ร้าย​ อันที่จริง​เป็น​คนละเรื่อง​กัน​เลย​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ “เป็น​คำพูด​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​จะพูด​จริงๆ​”

“คำพูด​ที่​ใช้โน้มน้าว​ข้า​มีแค่​สอง​ประโยค​ แต่​อันที่จริง​ยัง​พูด​ความในใจ​กับ​ข้า​อีก​ประโยค​หนึ่ง​”

หาว​ซู่ยิ้ม​กล่าว​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​เตือน​ข้า​ว่า​ หาก​ข้า​ดึงดัน​จะไป​ฝึก​กระบี่​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​จริง​ ก็​ไป​เถิด​ จะไม่ขัดขวาง​ เพียงแต่ว่า​วันใด​ที่​ข้า​โชคดี​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​กล้า​มาปราก​ฎตัว​ที่​สนามรบ​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เขา​ก็​จะสังหาร​ข้า​ก่อน​ใคร​”

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​เอ่ย​ชื่นชม​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ช่างเป็น​ผู้อาวุโส​ที่​โน้มน้าว​ให้​ทำ​คน​ทำ​ความดี​ ใจบุญ​มีเมตตา​ปราณี​จริงๆ​!”

หาว​ซู่คลี่​ยิ้ม​ ยังมี​อีก​ประโยค​หนึ่ง​ที่​เขา​ไม่ยินดี​จะพูด​ออกมา​

ปี​นั้น​สุดท้าย​แล้ว​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ตบ​ไหล่​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​ “คนหนุ่ม​มีพลัง​ชีวิต​เต็มไปด้วย​ความคึกคัก​เป็นเรื่อง​ดี​ เพียงแต่​อย่า​ได้​รีบร้อน​ฉาย​ประกาย​เฉียบคม​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ จะต่าง​อะไร​กับ​เด็ก​ตัว​ใหญ่​เท่า​ก้น​สวม​กางเกง​เปิด​เป้า​เดิน​ส่าย​อยู่​บน​ถนนใหญ่​ ทั้ง​อวด​ก้น​อวด​ไอ้​จ้อน​กัน​”

หลังจากนั้น​เฉิน​ชิงตู​ก็​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ เดินเล่น​ไป​บน​หัว​กำแพงเมือง​เพียงลำพัง​

หาว​ซู่นั่ง​ยอง​อยู่​บน​กิ่งไม้​ โยน​กา​เหล้า​ที่ว่างเปล่า​ทิ้ง​ไป​ “ทำไม​ถึงได้​มอง​ข้า​แตกต่าง​จาก​คนอื่น​?”

ลู่​เฉิน​มาที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เดิมที​คิด​ไว้​ว่า​แค่​จะพา​สิงกวาน​ออก​เดินทางไกล​ไป​เยือน​มืด​สลัว​ด้วยกัน​เท่านั้น​ เพียงแต่​ไม่ทัน​ระวัง​ดัน​ลงเรือ​โจร​ลำ​เดียว​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​มาเสียแล้ว​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “เจ้าขอบเขต​สูงนี่​นา​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ เจ้าคิด​ว่า​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​มีเยอะ​มาก​นัก​หรือ​? ไม่เยอะ​หรอก​ อีก​อย่าง​ก็​คือ​…ก็​ถือว่า​เป็น​คน​ที่​เป็นโรค​เดียวกัน​ควร​ต้อง​สงสาร​กัน​กระมัง​ เพราะ​ใน​ใจของ​พวกเรา​ต่าง​ก็​มีความเสียดาย​ที่​ไม่ใหญ่​ไม่เล็ก​”

ความเสียดาย​ของ​ลู่​เฉิน​ก็​คือ​ทรยศ​ต่อ​ธิดา​มังกร​ผู้​นั้น​

ส่วน​หาว​ซู่ก่อนที่จะ​พก​กระบี่​บิน​ทะยาน​ใน​พื้นที่​มงคล​บ้านเกิด​ ก็​เคย​สัญญากับ​สตรี​ที่รัก​ ว่า​จะกลับ​ไปหา​นาง​

หาว​ซู่พลัน​ถามว่า​ “ลู่​เฉิน​ที่​แท้จริง​เป็น​คน​อย่างไร​?”

เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่อยู่​ตรงหน้า​คน​นี้​ บางที​อาจจะ​ยัง​พอ​ถือว่า​มีมหา​มรรคา​เชื่อมโยง​กับ​คน​ที่​ล่องเรือ​ออก​ทะเล​ไป​เยี่ยมเยียน​เซียน​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ของ​ปี​นั้น​ได้​อยู่​บ้าง​ แต่​การกระทำ​คำพูดคำจา​กลับ​ต่างกัน​ราว​ก้อน​เมฆกับ​ดิน​โคลน​

ดังนั้น​หาว​ซู่จึงสงสัย​มาโดยตลอด​ว่า​ลู่​เฉิน​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ต้อง​ไม่ใช่ร่าง​จริง​อะไร​ของ​ลู่​เฉิน​แน่​

สอง​มือ​ของ​ลู่​เฉิน​สอด​รอง​ไว้​ใต้​ท้ายทอย​ ทยอย​เอ่ย​มาสามประโยค​

“น้ำ​ใสล่องเรือ​ ภูเขา​เขียว​ผ่าน​ทาง​มา พันปี​เบื่อหน่าย​โลก​จึงจากไป​เป็น​เซียน​ ขี่​เมฆขาว​ไป​ถึงแดน​สวรรค์​”

ลู่​เฉิน​กำลัง​บอ​กว่า​ระหว่าง​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ ไม่คิด​อยาก​อยู่​ต่อให้​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​อีกแล้ว​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​เปลี่ยน​สถานที่​ บ้านเกิด​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ก็​คือ​สถานที่​ที่​จิต​แห่ง​มรรคา​สงบสุข​

“คนธรรมดา​ไม่มีเรื่อง​หาเรื่อง​ใส่ตัว​ ต้นไม้​ใน​ภูเขา​เพราะ​มีประโยชน์​จึงถูก​ฟัน​ แม้ว่า​ฟ้าดิน​จะกว้างใหญ่​ สรรพสิ่ง​จะมากมาย​ ใจของ​ข้า​กลับ​สนใจ​แต่​ปีก​จักจั่น​ มุ่งมั่น​จดจ่อ​”

ประโยค​นี้​คงจะ​มุมมอง​ที่​ลู่​เฉิน​มีต่อ​โลก​ใบ​นี้​

“ซ่อน​ใต้​หล้า​ไว้​ใน​ใต้​หล้า​ เป็น​สหาย​กับ​ธรรมชาติ​ ก็​คือ​เจิน​เห​ริน​ที่​แท้จริง​”

บางที​นี่​อาจจะ​เป็นที่ตั้ง​แห่ง​รากฐาน​มหา​มรรคา​ของ​ลู่​เฉิน​ เพียงแต่​ดูเหมือนว่า​คนนอก​ไม่ว่า​ใคร​คิด​จะเรียนรู้​ก็​เรียนรู้​ทำตาม​ไม่ได้​

การชัก​ดึง​แม่น้ำ​ครั้งหนึ่ง​ กาย​ธรรม​นักพรต​สูงหมื่น​จั้งตน​นั้น​ดึง​เอา​โชคชะตา​น้ำ​ของ​น่านน้ำ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ไป​ได้​ถึงสี่ส่วน​

ลู่​เฉินจุ๊​ปาก​ชื่นชม​ “ผู้ฝึก​ตน​ใน​ท้องถิ่น​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ บวก​กับ​คน​ที่​มาจาก​ต่างถิ่น​อย่าง​พวกเรา​ ดูเหมือนว่า​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่จะค่อนข้าง​มีเยอะ​มาก​แล้ว​”

นอกจาก​ตัว​ลู่​เฉิน​เอง​แล้ว​ ยังมี​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ชูเซิงที่​หวนกลับ​มาจาก​นอก​ฟ้า และ​เซียว​สวิ้นอิ่น​กวาน​คน​ก่อนที่​ทรยศ​ออกจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

เฒ่าตาบอด​ที่​ยังคง​ไม่ช่วยเหลือ​ใคร​สัก​ทาง​ เฉิน​ชิงหลิว​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​เป็น​คน​พิฆาต​มังกร​ รวมไปถึง​อู๋ซวงเจี้ยง​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​ที่​เดินทาง​มาท่องเที่ยว​ที่​แห่ง​นี้​

แน่นอน​ว่า​ยังมี​เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ที่เก็บ​ซ่อน​อำพราง​ตน​อย่าง​ลึกล้ำ​

หาก​การอนุมาน​ตลอดทาง​มานี้​ของ​ลู่​เฉิน​ไม่มีช่องโหว่​เกิดขึ้น​ ก็​มีความเป็นไปได้​สูงว่า​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​จะมีผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​โผล่​มาบน​โลก​ นั่น​ก็​คือ​ ‘จงหยวน​’ คน​ใหม่​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เอาไว้​ใช้เล่นงาน​อา​เหลียง​กับ​จั่ว​โย่ว​โดยเฉพาะ​ เป็น​ท่า​ไม้ตาย​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ คิดดู​แล้ว​คงจะ​เป็น​วิธี​รับมือ​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​อย่างหนึ่ง​ซึ่งมหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ทิ้ง​ไว้​บน​โลก​ใบ​นี้​

ผู้ฝึก​ลมปราณ​ชนิด​ใด​ใน​ใต้​หล้า​ที่​สามารถ​สังหาร​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​มาก​ที่สุด​? ง่าย​มาก​ ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​ขอบเขต​สิบ​สี่อย่างไรเล่า​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​นอกจากนี้​ แท้จริง​แล้ว​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่ขั้นสูงสุด​ที่​ตลอด​หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​ไม่เคย​เหยียบย่าง​เข้ามา​ใน​ภูเขา​สายน้ำ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​อยู่​อีก​คน​หนึ่ง​

ป๋า​ย​เจ๋อ​!

ครั้งนี้​ป๋า​ย​เจ๋อ​จะต้อง​เลือก​ยืน​อยู่​ฝั่งของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​อย่าง​ไม่มีข้อสงสัย​ใดๆ​ อย่าง​แน่นอน​

ลู่​เฉิน​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ ถอนหายใจ​ “ไป​เถอะ​ ใน​เมื่อ​ฆ่าเฟยเฟย​ไม่ได้​ ก็​เก็บ​แรง​ไป​ทำ​เรื่องใหญ่​กว่า​นี้​จะดีกว่า​”

หาว​ซู่ขมวดคิ้ว​ “เพราะเหตุใด​?”

เห็นได้ชัด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​รั้ง​ตัว​เฟยเฟย​ไว้​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​ แต่กลับ​จะไป​จาก​ลำคลอง​เย่ลั่ว​โดย​ไม่แม้แต่​จะออก​กระบี่​สักครั้ง​หรือ​?

ทว่า​ลู่​เฉิน​กลับ​ไม่ได้​ให้​คำตอบ​ เพียงแค่​ยิ้ม​แล้ว​หัน​ตัว​กลับ​ไป​คารวะ​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​ตรง​ทิศ​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ จากนั้น​ดวงจิต​ของ​ลู่​เฉิน​ก็​จำแลง​กาย​กลับ​เข้าไป​ใน​พื้นที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​

หาว​ซู่ลังเล​ไป​พัก​หนึ่ง​ สุดท้าย​ก็​ยัง​ไม่ได้​ออก​กระบี่​

หลังจากที่​ลู่​เฉิน​และ​หาว​ซู่จากไป​ บน​กิ่งไม้​ใหญ่​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​คน​ทั้งสอง​มีบุรุษ​เรือน​กาย​สูงเพรียว​ปรากฏตัว​มาจาก​ความว่างเปล่า​ ก็​คือ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ที่​มีสีหน้า​เฉยเมย​

ค่าย​กล​ใหญ่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​พลัน​เปิด​ออก​ทันที​ ขุนเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​รอบด้าน​มีแต่​ไอ​น้ำ​ไอ​หมอก​ที่​ลอย​กรุ่น​ขึ้น​มา แม่น้ำ​ยาว​แห่ง​กาลเวลา​สาย​หนึ่ง​ที่​โอบล้อม​ภูเขา​ลูก​นี้​อยู่​มานาน​หมื่น​ปี​ ประหนึ่ง​แม่น้ำ​พิทักษ์​เมือง​สาย​หนึ่ง​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ใน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เหมือน​เจอ​กับ​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ ทุก​ตน​ต่าง​ก็​พา​กัน​หันไป​มอง​ตรง​ตีนเขา​ตา​ไม่กะพริบ​ เมฆหมอก​ซัด​ตลบ​ บดบัง​ฟ้าดิน​

มีคน​ผู้​หนึ่ง​เดิน​นำ​ออก​มาจาก​ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ก่อน​ จากนั้น​ก็​เป็น​หนิง​เหยา​ ลู่​จือ​ สุดท้าย​จึงเป็น​ฉีถิงจี้ หาว​ซู่สิงกวาน​

เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​ กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เคย​มีผู้ฝึก​กระบี่​นักโทษ​อาญา​สามคน​ เฉิน​ชิงตู​เป็น​ผู้นำ​ของ​กลุ่มคน​ นำพา​หลง​จวิน​ กวาน​จ้าว​มาร่วมกัน​โค่นล้ม​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​

หมื่น​ปี​ให้หลัง​ก็​มีผู้ฝึก​กระบี่​อีก​ห้า​คน​ที่​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ จับมือ​กัน​มาเป็น​แขก​ที่​ภูเขา​แห่ง​นี้​

เพื่อ​มอบ​เป็น​ของขวัญ​ตอบแทน​กลับคืน​จาก​การ​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​บุก​ไป​โจมตี​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ยาวนาน​ตลอด​หมื่น​ปี​

นอก​ฟ้า สตรี​ชุด​ขาว​คน​หนึ่ง​ใช้สอง​นิ้ว​คีบ​หมุน​ดวงดาว​ดวง​หนึ่ง​ตามใจชอบ​ เรือน​กาย​ค่อยๆ​ สลาย​หาย​ไป​ สุดท้าย​กลายเป็น​ลำแสง​เจิดจ้า​เส้น​หนึ่ง​ท่ามกลาง​ความว่างเปล่า​อัน​เวิ้งว้าง​กว้างใหญ่​หา​ที่​สิ้นสุด​ไม่ได้​ ตรง​ดิ่งไป​ยัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​แท้จริง​แล้ว​เล็ก​จ้อย​นัก​

ตรง​ตีนเขา​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ คน​ที่​ยืน​อยู่​ตรงกลาง​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ยืน​เหยียบ​อยู่​บน​กระบี่​ยาว​เย่​โหย​ว​ ขี่​กระบี่​ลอยตัว​อยู่​กลางอากาศ​ สอง​นิ้ว​ของ​มือขวา​ประกบ​กัน​ปาด​ผ่าน​ไป​ยัง​ทางขวา​ช้าๆ ตรง​เบื้องหน้า​เขา​ก็​มีแสงสีทอง​เส้น​หนึ่ง​ปรากฏ​

กระบี่​ยาว​เล่ม​หนึ่ง​ที่​พลัง​พิฆาต​สูงพ้น​ไปนอก​ฟ้าได้​ผละ​จาก​นอก​ฟ้ามาเยือน​โลก​มนุษย์​ ณ บัดนี้​

มือซ้าย​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​กระบี่​

เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​จึงคล้าย​กับ​ผู้​ถือ​กระบี่​ที่​แท้จริง​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ คือ​ผู้​ครอง​กระบี่​คน​แรกเริ่ม​สุด​ของ​ผู้​ครอง​กระบี่​หนึ่ง​ใน​ห้า​เทพ​สูงสุด​ของ​สรวงสวรรค์​บรรพกาล​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด