กระบี่จงมา 863.1 ทางหนีทีไล่

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 863.1 ทางหนีทีไล่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ นอกจาก​ผู้ฝึก​ตน​และ​ภูต​แห่ง​ป่า​เขา​ที่​เป็น​เผ่าพันธุ์​พิทักษ์​ภูเขาทั้งหลาย​แล้ว​ สิ่งไร้​ชีวิต​ทุกอย่าง​ได้​ถูก​หยวน​ซงปีศาจ​ใหญ่​หลอม​รวม​เป็น​ร่าง​เดียว​นาน​แล้ว​ ดังนั้น​ทุกครั้งที่​ค่าย​กล​ใหญ่​พิทักษ์​ภูเขา​ถูก​ทำลาย​หรือ​ถูก​เปิด​ใหม่​อีกครั้ง​ก็​คือ​การ​ไหล​ทวน​กระแสน้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​มองไม่เห็น​เป็นเวลา​หนึ่ง​ปี​ นี่​เป็นเหตุให้​คาถา​อำพราง​กาย​และ​วิชา​หลบหนี​ทุกอย่าง​ของ​พวก​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่อยู่​ใน​ภูเขา​ต่าง​ก็​ไร้​ความหมาย​อย่าง​เห็นได้ชัด​ หลังจากที่​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​คน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผลัดกัน​ถามกระบี่​ไป​คนละ​หนึ่ง​รอบ​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ทั้งหมด​นอกเหนือจาก​ปีศาจ​ใหญ่​หยวน​ซงจะปรากฏตัว​อยู่​ที่​เดิม​ ทว่า​ปราณ​วิญญาณ​ใน​ช่อง​โพรง​และ​สมบัติ​ติด​กาย​กลับ​ไม่ได้​ฟื้น​คืน​สู่สภาพเดิม​ตาม​รอยเท้า​ของ​พวกเขา​ไป​ด้วย​

ก็​เหมือน​คน​เร่ง​เดินทาง​ที่​น่าสงสาร​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​เดิน​อยู่​ริมตลิ่ง​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ซึ่งต้อง​เจอ​ทั้ง​ลม​และ​ฝน​ในเวลาเดียวกัน​ ได้​แต่​ก้มหน้าก้มตา​เร่งรีบ​เดินทาง​ คอย​ผลัดเปลี่ยน​ท่าเรือ​แห่ง​กาลเวลา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ กำลัง​เท้า​จึงได้รับ​ความเสียหาย​ทีละเล็กทีละน้อย​ แต่​แล้ว​อยู่ดีๆ​ ดัน​ถอยกลับ​มายัง​จุด​เดิม​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ จำต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ความสิ้นหวัง​ที่​มาก​ยิ่งกว่า​เดิม​ สิ่งที่​ต้อง​เผชิญ​ก็​คือ​แสงกระบี่​ที่​บดบัง​ฟ้าดิน​พวก​นั้น​

ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​คน​ก่อนหน้านี้​ ทุกครั้งที่​ร่วมมือ​กัน​ถามกระบี่​ต่อ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ส่วนใหญ่​แล้ว​เป็น​อิ่น​กวาน​ที่​รับผิดชอบ​ใช้กระบี่​เปิด​ภูเขา​ นำ​กลุ่มคน​ฟัน​ผ่า​ค่าย​กล​ใหญ่​พิทักษ์​ภูเขา​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​สาย​นั้น​ ส่วน​ผู้ฝึก​กระบี่​อีก​สี่คน​ที่​เหลือ​รับผิดชอบ​ใน​การสังหาร​ปีศาจ​ ขณะเดียวกัน​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​ใช้ปราณ​กระบี่​ที่​เปี่ยมล้น​และ​ปณิธาน​กระบี่​ที่​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​มาลดทอน​ปราณ​วิญญาณ​และ​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​สะสมมาหมื่น​ปี​ สุดท้าย​เปลี่ยนแปลง​ชะตา​ฟ้าและ​ลักษณะ​ชัยภูมิ​

ลำพัง​เพียงแค่​เฉิน​ผิง​อัน​คนเดียว​ก็​ปล่อย​กระบี่​ไป​มาก​ถึงสามพัน​ครั้ง​แล้ว​

ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ภูเขา​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ ปีศาจ​ใหญ่​หยวน​ซงจะต้อง​โดน​แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​กรีด​ผ่า​ลาก​ลงมา​ตั้งแต่​หว่าง​คิ้ว​ ร่าง​ถูก​ผ่า​ออก​เป็น​สอง​ท่อน​

เพราะ​การ​ปล่อย​กระบี่​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​เร็ว​เกินไป​ ทุกครั้ง​ล้วน​ฟัน​ไป​ยัง​หยวน​ซงชุด​เหลือง​ที่​ยืน​อยู่​บน​ยอดเขา​ ส่วน​ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นี้​ก็​เย่อหยิ่ง​อย่าง​ถึงที่สุด​ ถึงกับ​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ ปล่อย​ให้​แสงกระบี่​ฟัน​ผ่า​มาตั้งแต่​ศีรษะ​

พอ​ถูก​ผ่า​ออก​เป็น​สอง​ซีก​ ตรงกลาง​ก็​มีแสงสีทอง​เส้น​หนึ่ง​ที่​รวมตัวกัน​ไม่แยก​สลาย​ ซีกร่าง​สอง​ท่อน​ประหนึ่ง​ยอดเขา​สอง​ยอด​ที่​คุมเชิง​กัน​โดย​มีแม่น้ำยา​วสี​ทอง​เส้น​หนึ่ง​กั้น​กลาง​

สภาพการณ์​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​ในเวลานี้​จึงคล้าย​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่​ถูก​แยก​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​

นี่​ก็​คง​เป็นการ​มอบ​ของขวัญ​กลับคืน​อีก​อย่างหนึ่ง​ที่​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​จงใจทำ​กระมัง​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่อยู่​ใน​ภูเขา​ตาย​สิ้นซาก​ไป​นาน​แล้ว​ นั่น​ก็​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​ที่​ติดตาม​พวก​มัน​ขึ้น​เขา​มาเป็น​แขก​บน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เลย​

ตอนนี้​เหลือ​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​แค่​สามตน​เท่านั้น​ บ้าง​ก็​อาศัย​เวท​คาถา​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​เกี่ยวพัน​กับ​กาลเวลา​ บ้าง​ก็​พยายาม​อาศัย​การ​ที่​สมบัติ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ถูก​ทำลาย​และ​ตบะ​พันปี​ที่​ถูก​ลดทอน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ มาคอย​ประคับประคอง​ตัวเอง​ไว้​อย่าง​ยากลำบาก​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​หก​คนใน​นั้น​ที่มา​เข้าร่วม​การประชุม​ที่นี่​ ถือว่า​ดวง​ซวย​แปด​ชาติ​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่กล้า​เชื่อ​ว่า​อยู่​บน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​แล้ว​ยัง​จะถูก​คน​ห่อ​เป็น​ห่อ​เกี๊ยว​เช่นนี้​ (เปรียบเปรย​ว่า​ถูก​ล้อม​เอาไว้​)

หนี​? จะหนี​ไป​ไหน​ได้​? ไป​อยู่​นอก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ก็​จะสูญเสีย​การปกป้อง​จาก​ค่าย​กล​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ จะให้​ไป​เผชิญหน้า​กับ​แสงกระบี่​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​พวก​นั้น​? แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ค่าย​กล​นี้​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ทั้ง​สามารถ​สกัดกั้น​แสงกระบี่​ แล้ว​ยัง​เป็น​กรงขัง​ธรรมชาติ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​กักตัว​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​เอาไว้​ ทำให้​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​เรียก​ฟ้าฟ้าไม่ขาน​ เรียก​ดิน​ดิน​ไม่ตอบ​ เพราะ​ไม่ว่า​ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​สถานที่​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ตัวเอง​จะต้อง​มาเดือดร้อน​ติดร่างแห​ไป​ด้วย​เพราะ​การ​ถามกระบี่​ครั้งนี้​

ฉีถิงจี้เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ไว้​บน​หัว​กำแพง​เชี่ยวชาญ​การ​ช่วย​คน​สละ​ร่าง​ใต้​คม​อาวุธ​แล้ว​ส่งออกเดินทาง​มาก​ที่สุด​

ลู่​จือ​ที่​ใน​อดีต​เคย​ถูก​เรียก​รวม​กับ​เซียว​สวิ้น​ว่า​เป็น​คน​ ‘ดุร้าย​’ แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ดูเหมือนว่า​เวท​กระบี่​จะมีการพัฒนา​ขึ้นไป​อีก​

หนิง​เหยา​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ใต้​หล้า​ห้า​สี นาง​เลื่อนขั้น​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​เร็ว​ยิ่งกว่า​เฝ่ย​หรา​น​ผู้​ครอง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​ตำแหน่ง​ฐานะ​ถือว่า​เท่าเทียมกัน​เสีย​อีก​

และ​ยังมี​บุรุษ​ที่​ไม่รู้​ว่า​กระโดด​ออก​มาจาก​มุมไหน​ เรียก​ตัวเอง​ว่า​ ‘สิงกวาน​’ ก็​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​แล้ว​

เป็นเหตุให้​แต่ละ​สถานที่​ใน​เปลี่ยว​ร้าง​ บ้าง​ก็​ศาล​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตัวเอง​ บ้าง​ก็​เป็น​อย่าง​ศาล​ของ​มหา​บรรพต​ชิงซาน​ หรือ​ไม่อย่างนั้น​ใน​อาณาเขต​พื้น​ที่ลับ​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่​ตำแหน่ง​ถูก​ปิดบัง​อำพราง​ มีตรา​ผนึก​หนา​ชั้น​ สถานที่​แต่ละ​แห่ง​เหล่านี้​ต่าง​ก็​พา​กัน​จุด​ตะเกียง​แห่ง​ชะตาชีวิต​ขึ้น​มา ช่วย​ให้​ผู้ฝึก​กระบี่​ผลัด​รก​เปลี่ยน​กระดูก​ หนี​พ้น​หายนะ​แห่ง​ความตาย​มาได้​ เพียงแต่​ว่าการ​ฝึก​ตน​สามารถ​เริ่มใหม่​ ทว่า​ขอบเขต​ของ​ก่อนหน้านี้​ได้​ปลิว​หาย​กลายเป็น​สายลม​ไป​แล้ว​ นอกจากนี้​ตะเกียง​แห่ง​ชะตาชีวิต​ก็​สามารถ​ต่อ​ชีวิต​ได้​จริงๆ​ แต่​บน​เส้น​ทางการ​เดิน​ขึ้น​เขา​ในอนาคต​จะต้อง​ถูก​มหา​มรรคา​รังเกียจ​อย่าง​ที่​มองไม่เห็น​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เคย​จุด​ตะเกียง​แห่ง​ชะตาชีวิต​มาก่อน​ ก่อนที่จะ​เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ จิต​มาร​ที่​พบ​เจอ​จะใหญ่​มาก​จน​เกิน​กว่า​จะจินตนาการ​ได้​ถึง

ก็​เหมือน​อย่าง​ไหว​เฉียน​แห่ง​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ลูก​รัก​แห่ง​สวรรค์​ที่​มีความหวัง​บน​มหา​มรรคา​เช่นนี้​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ไป​เสียท่า​ที่​อุตรกุรุทวีป​ เดิมที​ด้วย​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ของ​ไหว​เฉียน​ก็​มีความหวัง​มาก​ที่จะ​ได้​เลื่อนขั้น​เป็นหนึ่ง​ใน​สิบ​คน​ของ​ตัวสำรอง​คน​รุ่นเยาว์​ใน​หลาย​ใต้​หล้า​

เดิมที​หยวน​ซงชุด​เหลือง​ไม่ได้​สนใจ​ความเป็นความตาย​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​พวก​นั้น​ ไม่เวทนา​เลย​สักนิด​ที่​พวก​มัน​เหมือน​ต้อง​มาตาย​อยู่​ใต้​เปลือกตา​ของ​ตัวเอง​

เกิด​มาก็​เหมือน​มด​ตัว​หนึ่ง​ เหมือน​จมน้ำตาย​อยู่​ท่ามกลาง​สายฝน​ปราณ​กระบี่​ที่​เท​กระหน่ำ​ลงมา​

หยวน​ซงมอง​กระบี่​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ จำนวน​ครั้ง​ที่​กระบี่​ฟัน​ลง​ไป​ยัง​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​มีมาก​ครั้ง​ขนาด​นี้​ คม​กระบี่​กลับ​ไม่มีลาง​ที่จะ​เกิด​ความเสียหาย​เลย​แม้แต่น้อย​ กลับกัน​ยัง​ฉาย​ประกาย​คมกริบ​มากยิ่งขึ้น​

หยวน​ซงนึกถึง​ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​แห่ง​ฟ้าดิน​ที่​มาจาก​กระบี่​ยาว​เล่ม​นี้​แล้ว​ไพล่​นึก​ไป​ถึงปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ที่​ถูก​คน​เล่า​กัน​มาปากต่อปาก​หลาย​หน้า​นั้น​ ก็​พอ​จะเดา​ความเป็นมา​ของ​กระบี่​เล่ม​นี้​ได้​คร่าวๆ​ แล้ว​ จึงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ชะตาชีวิต​ดี​จริงๆ​ โชคดี​ถูก​กระบี่​เล่ม​นี้​รับ​เป็น​นาย​ แน่นอน​ว่า​ชะตา​ก็​ต้อง​แข็ง​มาก​พอ​ด้วย​ ถึงจะรับ​กระบี่​นี้​ไว้​ได้​โดย​ไม่ตกไป​เป็น​หุ่นเชิด​ของ​มัน​”

นับแต่​โบราณ​มาอาวุธ​เซียน​ล้วน​มีสติปัญญา​ซุกซ่อน​อยู่​ ก็​เหมือน​บุคคล​ที่​พยศ​ยาก​จะกำราบ​ นิสัยใจคอ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​มักจะ​สอดคล้อง​กับ​พวก​มัน​ และ​ส่วนใหญ่​ก็​มักจะ​ได้รับ​อิทธิพล​จาก​อาวุธ​เซียน​ที่​ตัวเอง​หล่อหลอม​ ซึมซับ​อิทธิพล​จน​เกิด​การ​กล่อม​กลืน​ คน​ที่​มีนิสัย​ดุร้าย​ก็​จะยิ่ง​อำมหิต​ คน​ที่​มีนิสัย​แล้งน้ำใจ​จิต​แห่ง​มรรคา​ก็​จะยิ่ง​เย็นชา​ อีก​ทั้ง​บน​เส้นทาง​ของ​มหา​มรรคา​ หาก​มีความคลาดเคลื่อน​แม้เพียง​นิด​ก็​จะพา​เจ้าของ​เดิน​ออก​ไป​ยัง​ทางแยก​ของ​มหา​มรรคา​ สุดท้าย​เมื่อ​ผู้ฝึก​ตน​แบกรับ​ไว้​ไม่ไหว​ อาวุธ​เซียน​ก็​จะหลุดพ้น​จาก​กรงขัง​ กลับคืน​สู่อิสระ​เสรี​ ไม่ว่า​จะเป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​ก่อน​กำเนิด​ที่​มีอายุ​อยู่​มายาวนาน​หรือ​วัตถุ​วิเศษ​แห่ง​ฟ้าดิน​ที่​ผ่าน​การ​หล่อหลอม​ใน​ภายหลัง​ ค่อยๆ​ เลื่อนขั้น​ทีละ​ก้าว​กลายเป็น​ระดับ​ของ​อาวุธ​เซียน​ นี่​ก็​คือ​รากฐาน​มหา​มรรคา​เส้น​หนึ่ง​ที่​อาวุธ​เซียน​ใน​ใต้​หล้า​มีร่วมกัน​ นั่น​คือ​ ‘ไร้​นาย​’

ดังนั้น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ทุกคน​ที่​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ สำหรับ​ท่าที​ที่​มีต่อ​อาวุธ​เซียน​จึงลี้ลับ​มหัศจรรย์​อย่าง​มาก​ ไม่ใช่เรื่อง​เรียบง่าย​อย่าง​แค่​ว่า​มีครอบครอง​มาก​ก็​ได้ประโยชน์​มาก​อย่าง​แน่นอน​

ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​หลาย​คน​ปิด​ด่าน​เป็น​ตาย​ หาก​โชคร้าย​ต้อง​สละ​ศพ​ ส่วนใหญ่​แสงศักดิ์สิทธิ์​จะเปล่ง​วาบ​หนึ่ง​ที​ ต่อให้​เป็น​อาวุธ​เซียน​ที่​ผ่าน​การหลอม​ใหญ่​ก็​จะไม่สลาย​ไป​ตาม​ผู้ฝึก​ตน​ แต่​จะกลับคืน​สู่ฟ้าดิน​อีกครั้ง​ จากนั้น​ก็​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ที่ใด​ที่หนึ่ง​ รอคอย​วาสนา​กับ​เจ้าของ​คน​ถัดไป​ ยิ่ง​เป็น​สำนัก​ใหญ่​ชั้นสูง​ก็​ยิ่ง​ไม่มีทาง​จงใจขัดขวาง​การ​จากไป​ของ​อาวุธ​เซียน​พวก​นี้​ เพราะ​ต่อให้​ฝืน​รั้ง​เอาไว้​ ก็​มีแต่​จะนำพา​หายนะ​ที่​คาดไม่ถึง​มากมาย​มาให้​กับ​ภูเขา​ ได้​ไม่คุ้ม​เสีย​

ไม่อย่างนั้น​ด้วย​ระดับ​ความ​ล้ำค่า​ของ​อาวุธ​เซียน​ ป่านนี้​คง​ถูก​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ของ​หลาย​ใต้​หล้า​กวาด​ค้น​เอา​ไป​กัน​จน​สิ้น​แล้ว​ อาวุธ​ทุก​ชิ้น​คง​มีการ​ระบุ​ผู้ครอบครอง​ของ​ไว้​นาน​แล้ว​ ฟ้าดิน​เรือน​กาย​มนุษย์​มีช่อง​โพรง​มาก​ถึงสามร้อย​กว่า​แห่ง​ สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​และ​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​ บุกเบิก​ช่อง​โพรง​ลมปราณ​จะไป​ยาก​อะไร​ แต่​ทำไม​ถึงไม่มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​คนใด​วางอาวุธ​เซียน​ที่​ผ่าน​การหลอม​ใหญ่​แล้ว​ไว้​เต็ม​ช่อง​โพรง​ลมปราณ​แห่ง​ชะตาชีวิต​เลย​เล่า​?

ก็​เหมือน​กล่อง​ไม้ล้ำ​ค่าที่​เก็บรักษา​กระบี่​ยาว​แปด​เล่ม​ใบ​นั้น​ ลู่​เฉิน​บอ​กว่า​จะให้ยืม​ก็​ให้​ลู่​จือ​ยืม​ไป​ทันที​

ป๋า​ย​เห​ย่​เอง​นอกจาก​ใน​ใจมีบทกวี​แล้วก็​มีเพียง​กระบี่​เซียน​ไท่​ป๋า​ย​เล่ม​เดียว​เท่านั้น​ที่​เอาไว้​เป็น​อาวุธ​ใน​การ​โจมตี​ อวี๋​โต้​วนอกจาก​มรรค​กถา​บน​ร่าง​ของ​ตัวเอง​ ก็​มีแค่​กระบี่​เซียน​ที่ตั้ง​ชื่อว่า​เต้า​จ้างเล่ม​เดียว​เท่านั้น​

และ​ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ทุกคน​ต่าง​ก็​เคย​มีปณิธาน​อยู่​ที่​การ​เดิน​ขึ้น​สู่ยอดเขา​ ผสาน​มรรคา​กับ​ขอบเขต​สิบ​สี่ ก่อนหน้านี้​กรีฑา​ทัพ​ไป​โจมตี​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ไม่เคย​หมายตา​จับจ้อง​สมบัติ​หนัก​บน​ภูเขาทั้งหลาย​ แต่กลับ​ต้องการ​สิ่งที่​เป็น​มายา​ไร้​รูปลักษณ์​อย่าง​พวก​โชคชะตา​แห่ง​ภูเขา​สายน้ำ​และ​โชคชะตา​ของ​ราชวงศ์​มากกว่า​

หยวน​ซงยิ้ม​ถาม “อิ่น​กวาน​ปล่อย​กระบี่​สามพัน​ครั้ง​ติดต่อกัน​ เหนื่อย​หรือไม่​ ถึงเวลา​ที่​ข้า​ควร​มอบ​ของขวัญ​กลับคืน​แล้ว​หรือไม่​?”

กาย​ธรรม​หมื่น​จั้งของ​เฉิน​ผิง​อัน​สวม​กวาน​ดอกบัว​ไว้​บน​ศีรษะ​ ชุด​เขียว​เท้าเปล่า​ ถือ​กระบี่​มือ​เดียว​ ยืน​ค้ำ​ตระหง่าน​อยู่​ระหว่าง​ฟ้าดิน​

ทุกครั้งที่​เขา​หายใจเข้า​ออกจะ​ต้อง​มีไอ​สีม่วง​ทอง​เป็น​เส้น​ๆ ลอย​ล้อ​มวน​ใบหน้า​ของ​กาย​ธรรม​

สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​สามตน​ที่​ยัง​ดิ้นรน​จะมีชีวิตรอด​แล้ว​ ความโชคดี​มหาศาล​ท่ามกลาง​ความ​โชคร้าย​ ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​นอกจาก​อิ่น​กวาน​ได้​พก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​ไป​แล้ว​ ดู​จาก​ท่าทาง​คงจะ​บิน​ทะยาน​ไป​ยัง​ดวงจันทร์​ดวง​หนึ่ง​กระมัง​?

บวก​กับ​ที่​หยวน​ซงบอ​กว่า​จะมอบ​ของขวัญ​กลับคืน​ นี่​หมายความว่า​นับตั้งแต่​บัดนี้​ไป​ สถานการณ์​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ก็​จะสลับ​กัน​แล้ว​หรือไม่​?

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่สนใจ​คำถาม​ของ​หยวน​ซง เพียงแค่​กวาดตา​มอง​รอบด้าน​ นอกจาก​ขุนเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​แล้ว​ ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​อีก​ไม่น้อย​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ตาม​จุด​ต่างๆ​ ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​ภูเขา​ใต้​อาณัติ​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ เพราะ​รู้สึก​ว่า​เป็น​ศาลา​ใกล้​น้ำ​จะได้​ยล​แสงจันทร์​ก่อน​? หรือ​เพราะ​แค่​ชอบ​ดู​งิ้ว​?

จิต​ขยับ​ไหว​เล็กน้อย​ก็​เกิด​เป็น​ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​แห่ง​ฟ้าดิน​ที่​แสดง​ออกมา​ตามใจ​ปรารถนา​ เห็น​เพียง​ว่า​ทะเล​เมฆผืน​หนึ่ง​ตรง​ม่าน​ฟ้าเกิด​ซัด​โหม​ เบื้องล่าง​ของ​ทะเล​เมฆก็​คือ​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ของ​เผ่า​ปีศาจ​พอดี​ สุดท้าย​เมฆขาว​จำแลง​กลาย​มาเป็น​ฝ่ามือ​ใหญ่​ยักษ์​ที่​ขาวสะอาด​ราวกับ​หยก​ ยื่น​จาก​ทะเล​เมฆลงมา​ข้างล่าง​ ฝ่ามือ​ใหญ่​เหมือน​เทือกเขา​ เส้นลายมือ​เหมือน​แม่น้ำ​แต่ละ​สาย​ บน​แม่น้ำ​ลำธาร​เต็มไปด้วย​ดอกบัว​สีเขียว​มรกต​ตูม​เต่ง​ รอคอย​ที่จะ​ผลิบาน​ ส่าย​ไหว​อย่าง​มีชีวิตชีวา​ แล้ว​ยังมี​แสงจันทร์​กระจ่าง​นวล​ตา​สาดส่อง​ลงมา​ยัง​สระ​บัว​แต่ละ​แห่ง​ ทันใดนั้น​ดอกบัว​สีขาว​หิมะ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ที่​ส่อง​ประกาย​แสงใสแวววาว​ก็​พา​กัน​ผลิบาน​

เวท​คาถา​บท​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ เห็นได้ชัด​ว่า​ขโมย​เรียน​มาจาก​เซอ​เย​ว่​ และ​ตอนนั้น​เซอ​เย​ว่​ก็​เลียน​อย่าง​มาจาก​เจ้าอาราม​ดอกบัว​อีกที​ ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​ร่าย​ใช้ก็​มีความเหมือน​ทาง​รูปลักษณ์​อยู่​เจ็ด​แปด​ส่วน​ เหมือน​ทาง​จิตวิญญาณ​สี่ห้า​ส่วน​

ปีศาจ​หยวน​ซงเอง​ก็​ไม่สนใจ​ว่า​ภูเขา​ลูก​นั้น​จะอยู่​หรือ​ไป​ เขา​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​ สายฟ้า​บริสุทธิ์​รวมกัน​เป็น​เส้น​เส้น​หนึ่ง​ สุดท้าย​จำแลง​กลายเป็น​หอก​ยาว​เลื่อม​ทอง​ที่​มีรอย​แกะสลัก​เต็มไปหมด​ ถูก​หลอม​มาจาก​โครงกระดูก​ของ​เทพ​ยุค​บรรพกาล​ ถือ​เป็นหนึ่ง​ใน​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​สำคัญ​ไม่กี่​ชิ้น​ที่​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​ของ​หยวน​ซง

แหวก​อากาศ​พุ่ง​ออก​มาจาก​ยอดเขา​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ กรีด​ลาก​เป็น​เส้นตรง​ยาว​ คล้าย​รุ้ง​ยาว​ที่​ทะลุ​ผ่าน​ดวงตะวัน​ ประกาย​แสงเจิดจ้า​สะดุดตา​

เฉิน​ผิง​อัน​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ ยก​เท้า​ขยับ​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​หนึ่ง​ก้าว​

ตอน​ที่อยู่​นคร​เซียน​จาน​ ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​กาย​ธรรม​นักพรต​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​มอง​เมิน​การ​โจมตี​ของ​เวท​คาถา​ทั้งหลาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​

เส้น​แสงที่​มาจาก​หอก​ยา​วสี​ทอง​ปัก​ตรึง​เข้าไป​ที่​หัวไหล่​ของ​กาย​ธรรม​ชุด​เขียว​ เมื่อ​เทียบ​กับ​กาย​ธรรม​หมื่น​จั้งของ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ แสงทอง​ที่​หอก​ยาว​เล่ม​นี้​ลาก​ออกมา​เล็ก​บาง​เหมือน​เส้นด้าย​ที่​ใช้เย็บผ้า​เส้น​หนึ่ง​ ตรงดิ่ง​เป็น​เส้นตรง​ ปลาย​ด้าน​หนึ่ง​ของ​แสงกระบี่​อยู่​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ปลาย​อีก​ด้าน​ปัก​ลง​ไป​ใต้ดิน​ลึก​ร้อย​กว่า​ลี้​ ผู้​ถวายงาน​พิทักษ์​ภูเขา​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่คน​หนึ่ง​ซ่อนตัว​อยู่​ใต้ดิน​อย่าง​ลึกลับ​ ใน​มือ​ของ​มัน​ถือ​สมบัติ​หนัก​ลักษณะ​คล้าย​ชามหยก​ขาว​ ทันใดนั้น​มัน​พลัน​เผย​ร่าง​จริง​ ลักษณะ​เป็น​กึ่ง​เจียว​กึ่ง​มังกร​ กลืน​ถ้วย​ขาว​ที่​รองรับ​เส้น​สีทอง​ลงท้อง​ไป​พร้อมกัน​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​ใช้เวท​คาถา​หลบหนี​ขยับ​เคลื่อน​ไป​ด้าน​ข้าง​อย่าง​ว่องไว​ ใต้ดิน​สะเทือน​เลือน​ลั่น​เกิด​เสียง​ฟ้าคำราม​ดัง​เป็น​ระลอก​

เส้น​สีทอง​เหมือน​คม​ดาบ​ที่​เริ่ม​กรีด​เฉือน​ไหล่​กาย​ธรรม​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ใน​แนว​เฉียง​ กระตุ้น​ให้​เกิด​เสียง​ครูด​หยาบ​บาดหู​เหมือน​มีด​ที่​แกะสลัก​ลง​บน​หิน​ทอง​ ก่อให้เกิด​สะเก็ด​แสงไฟนับไม่ถ้วน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด