กระบี่จงมา 864.2 ปฏิทินเหลืองเล่มเก่า

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 864.2 ปฏิทินเหลืองเล่มเก่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เพียง​ไม่นาน​เฉิน​ชิงตู​ก็​หา​เบาะแส​พบ​

ร้อย​เซียน​กระบี่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ตั้งใจ​วางแผน​เอาไว้​ นอกจาก​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​จำนวน​น้อย​นิด​ที่​ ‘ชาติกำเนิด​สะอาด​บริสุทธิ์​’ แล้ว​ คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​ล้วน​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​พวก​เทพ​แทบ​ทั้งหมด​ ยกตัวอย่างเช่น​ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​คน​นี้​ที่​ยิ่ง​ต้อง​เป็น​เทพ​มาจุติ​เกิด​ใหม่​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ จึงสืบทอด​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​เทพ​ชั้นสูง​บาง​องค์​มาส่วนหนึ่ง​ วิชา​อภินิหาร​ของ​กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​จึงเข้าใกล้​ ‘นิมิตหมาย​’ มาก​แล้ว​

มอง​ทะลุ​เนื้อหนัง​ไป​เห็น​กระดูก​ อนุมาน​ ปะติดปะต่อ​จิต​ธรรม​อย่าง​ต่อเนื่อง​จน​ขยับ​เข้าใกล้​ความจริง​บางอย่าง​

เพียงแค่​เพื่อ​นิมิต​ภาพ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ จงหยวน​

เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​วิธี​รับมือ​ภายหลัง​ของ​โจว​มี่ คือ​เรื่อง​น่า​ประหลาดใจ​ระคน​น่ายินดี​อย่างหนึ่ง​ที่​เขา​จะมอบให้​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​และ​ใต้​หล้า​ไพศาล​

จงหยวน​หวนกลับ​มายัง​โลก​มนุษย์​อีกครั้ง​ ถือ​เป็นเรื่อง​ไม่คาดฝัน​หรือไม่​

โลก​มนุษย์​ได้​พบ​เจอ​จงหยวน​อีกครั้ง​ ใช่เรื่อง​น่า​ตะลึง​ระคน​ยินดี​หรือไม่​

เฉิน​ชิงตู​สลาย​ม้วน​ภาพ​แห่ง​กาลเวลา​นั้น​ทิ้ง​ไป​ เอ่ย​กับ​เว่ย​จิ้น​ว่า​ “เลือก​เรื่องสำคัญ​มาเล่า​”

เนื่องด้วย​จิต​ผูกพัน​ แก่น​วิญญาณ​บางส่วน​จึงมิอาจ​อยู่​บน​โลก​มนุษย์​ได้​นาน​นัก​

เว่ย​จิ้น​จึงเล่า​เรื่องใหญ่​ๆ ด้วย​ถ้อยคำ​กระชับ​เรียบง่าย​

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​ภูเขา​สุ้ย​ซาน​แผ่นดิน​กลาง​ กับ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ที่อยู่​ตรง​ซาก​ปรัก​ร่อง​เจียว​หลง​ สอง​ฝ่าย​ประชัน​มรรค​กถา​กัน​ไกลๆ​

อา​เหลียง​ถูก​สยบ​อยู่​ใต้​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​นาน​หลาย​ปี​ ขอบเขต​ถดถอย​จาก​ขอบเขต​สิบ​สี่ อันดับ​แรก​คือ​ไป​เยือน​ดินแดน​พุทธะ​สุขาวดี​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​หวนกลับ​มายัง​ไพศาล​

กระบี่​เซียน​สี่เล่ม​มารวมตัวกัน​ครบถ้วน​ที่​ฝูเหยา​ทวีป​ ป๋า​ย​เห​ย่พก​กระบี่​ไป​ท้าทาย​ราชา​บน​บัล​ลัง​์หก​ท่าน​เพียงลำพัง​ ภายหลัง​ถูก​เห​วิน​เซิ่งพา​ไป​อยู่​ที่​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​แห่ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ยึดครอง​ใบ​ถง ฝูเหยา​ เกราะ​ทอง​สามทวีป​ได้​สำเร็จ​ สุดท้าย​ถูก​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​สกัด​ขวาง​ไว้​ที่​ภาค​กลาง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ โจว​มี่นำพา​กลุ่มคน​ขึ้น​ฟ้าจากไป​

หนิง​เหยา​ที่อยู่​ใน​บ้านเกิด​ใหม่เอี่ยม​ซึ่งถูก​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ใต้​หล้า​ห้า​สีฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ติดต่อกัน​ เลื่อนขั้น​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ กลายเป็น​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​ ระหว่าง​นี้​นาง​ยัง​สังหาร​เทพ​ชั้นสูง​องค์​หนึ่ง​กับ​มือ​ตัวเอง​

การประชุม​ใน​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ บอ​กว่า​จะโจมตี​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​โจมตี​ทันที​

อา​เหลียง​พา​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​แทรกซึม​เข้าไป​ยัง​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ ภายหลัง​จั่ว​โย่วพก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​ไป​ช่วย​อา​เหลียง​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​ออก​ไป​จาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เมื่อไม่นานมานี้​

ระหว่าง​นั้น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​เอ่ย​แค่​สอง​ประโยค​เท่านั้น​

“น่าเสียดาย​ที่​ป๋า​ย​เห​ย่​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ ไม่อย่างนั้น​มาที่นี่​ ข้า​จะได้​สอน​เวท​กระบี่​ที่​เหมาะกับ​เขา​สัก​สามสี่บท​”

“หนิง​เหยา​ไม่ทำให้​คน​ประหลาดใจ​เลย​แม้แต่น้อย​”

เฉิน​ชิงตู​ถามคำถาม​อีก​สอง​ข้อ​

“ทุกวันนี้​จั่ว​โย่ว​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​หรือไม่​?”

เว่ย​จิ้น​ส่ายหน้า​ อธิบาย​ว่า​ความคิด​ของ​อาจารย์​จั่ว​ใหญ่​เกินไป​ เดิมที​มีโอกาส​จะเลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ แต่​เพราะ​แสวงหา​วิถี​กระบี่​ที่​กว้างใหญ่​กว่า​เดิม​จึงถ่วง​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ของ​เขา​

สุดท้าย​เฉิน​ชิงตู​ถามว่า​ “การประชุม​ที่​ศาล​บุ๋น​กับ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​คุมเชิง​กัน​ เป็น​จอม​ปราชญ์​น้อย​ที่​บอ​กว่า​จะทำสงคราม​หรือ​?”

เว่ย​จิ้น​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ใช่ห​ลี่​เซิ่ง เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​เปิดปาก​ก่อน​ บอ​กว่า​จะตี​ก็​ตี​เลย​”

เฉิน​ชิงตู​พยักหน้า​ ใบหน้า​คลี่​ยิ้ม​บาง​ๆ

เจ้าเด็ก​นี่​ไม่เลว​เลย​

เหมือน​ตน​อย่างยิ่ง​

ผู้เฒ่า​ไม่เคย​รู้สึก​ว่า​ความมีชีวิตชีวา​ของ​คน​คน​หนึ่ง​ต้อง​ดู​แค่​จาก​คำพูดคำจา​ที่​ลิงโลด​เบิกบาน​ หรือ​การ​ลงมือ​ที่​โดดเด่น​เท่านั้น​

แต่​เป็น​ใน​ช่วงเวลา​ที่​ต้อง​เจอ​กับ​ทุก​ด่าน​สำคัญ​ใน​ชีวิต​ ช่วงเวลา​ที่​ต้อง​เผชิญ​กับ​ความทุกข์ยาก​ คนหนุ่มสาว​กลับ​ยัง​คิ้ว​ตา​เบิกบาน​ มีปณิธาน​ฮึกเหิม​

ทำ​เรื่อง​ที่​เหนือ​การ​คาดคิด​ที่สุด​ ปล่อย​กระบี่​ออก​ไป​เร็ว​ที่สุด​ เอ่ย​คำพูด​ที่​มีน้ำหนัก​มาก​ที่สุด​ใน​ฟ้าดิน​แห่ง​นี้​

คน​ที่​เวลา​ปกติ​พูดน้อย​ บางครั้ง​เปล่งเสียง​ออกมา​ถึงกับ​ทำให้​คน​ข้างๆ​ ที่​ไม่อยาก​ฟังก็​ยัง​ต้อง​ฟัง

เฉิน​ชิงตู​เก็บ​ความคิด​กลับคืน​มา เบน​สายตา​มอง​ไป​ทาง​เฉาจวิ้น​ ยิ้ม​ถามว่า​ “เซียน​กระบี่​อายุ​ไม่น้อย​ผู้​นี้​ชื่อ​แซ่อะไร​ มาจาก​ไหน​รึ​?”

เมื่อ​เทียบ​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​บ้าน​ตน​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ หนิง​เหยา​และ​พวก​เว่ย​จิ้น​แล้ว​ อายุ​ร้อย​กว่า​ปี​ของ​เฉาจวิ้น​ที่​เป็น​คนต่างถิ่น​ก็​ถือว่า​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​จริงๆ​

เฉาจวิ้น​กุม​หมัด​เอ่ย​ “ผู้เยาว์​เฉาจวิ้น​ ภูมิลำเนา​อยู่​ที่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแจกัน​สมบัติ​ทวีป​ อยู่​ตรอก​เดียว​กับ​บ้าน​บรรพบุรุษ​ของ​อิ่น​กวาน​ เพียงแต่ว่า​ผู้เยาว์​เกิด​ที่​ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ บรรพบุรุษ​เฉาซีรับหน้าที่​ดูแล​หอ​พิทักษ์​มหาสมุทร​”

เฉาจวิ้น​อดกลั้น​อยู่​นาน​ แต่​ก็​ยัง​อดไม่ไหว​เอ่ย​มาอีก​ประโยค​ว่า​ “อันที่จริง​ผู้เยาว์​เพิ่งจะ​อายุ​หนึ่งร้อย​สี่สิบ​ปี​เท่านั้น​”

เดิมที​คิด​จะเอ่ย​เสริม​ไป​อี​กว่า​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ใน​อดีต​ถูก​จั่ว​โย่ว​ทำลาย​จิต​แห่ง​กระบี่​ให้​แหลก​สลาย​ คง​ได้​เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​นาน​แล้ว​ ไม่แน่​ว่า​ยัง​มีหวัง​ที่จะ​อยู่​ขอบเขต​เดียว​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​แห่ง​ศาล​ลม​หิมะ​ด้วย​

เพียงแต่​คิด​ขึ้น​มาได้​ว่า​อยู่​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​ ดูเหมือนว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ก็​ไม่มีค่า​พอให้​เอ่ยถึง​ จึงกลืน​คำพูด​ประโยค​นี้​กลับ​ลงท้อง​ไป​

เฉิน​ชิงตู​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ พยักหน้า​เอ่ย​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​อายุ​และ​ขอบเขต​พอๆ กับ​จั่ว​โย่ว​ เด็ก​รุ่นหลัง​นี่​น่ากลัว​จริงๆ​”

เว่ย​จิ้น​กลั้น​ขำ​

เฉาจวิ้น​รู้สึก​เพียง​ว่า​ถูก​โคลน​เหลือง​ๆ ป้าย​เต็ม​หน้า​ แต่​ก็​ไม่กล้า​เถียง​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ ข่ม​กลั้น​เอาไว้​จน​ย่ำแย่​

ในที่สุด​เขา​ก็​เข้าใจ​ขนบธรรมเนียมประเพณี​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​ ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​คู่ควร​กับ​สอง​คำ​ว่า​ ‘เซียน​กระบี่​’ ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ นิสัย​ของ​แต่ละคน​แปลกใหม่​แจ่มจ้าไม่ด้อย​ไป​กว่า​กัน​เลย​

หนิง​เหยา​ ไม่ชอบ​แย้มยิ้ม​พูดคุย​ ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​ล้วน​ไม่เก็บ​มาใส่ใจ

ลู่​จือ​ ดูเหมือนว่า​ใครก็ตาม​ที่​ไม่ใช่คน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่ว่า​นาง​เจอ​ใคร​ก็​อยาก​ฟัน​หลาย​ๆ ที​

ฉีถิงจี้ คน​รุ่นเยาว์​ทั้งหลาย​ ชาติหน้า​ระวัง​หน่อย​ เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ใช้สีหน้าที่​นุ่มนวล​เป็นมิตร​ที่สุด​ พูดจา​อำมหิต​โหดร้าย​ที่สุด​

นอกจากนั้น​ก็​คือ​ความปราณี​น่า​ใกล้ชิด​ ท่าทาง​เข้ากับ​คน​ง่าย​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​

แม้แต่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​แห่ง​ศาล​ลม​หิมะ​ที่​ครอง​ตน​อยู่​ใน​ความ​เที่ยงธรรม​มาโดยตลอด​อย่าง​เว่ย​จิ้น​ก็​ยัง​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ‘เจ้าเข้าไป​อยู่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ไม่ได้​’

เฉิน​ชิงตู​มอง​ไปนอก​หัว​กำแพงเมือง​ แล้ว​พลัน​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “จะไป​ก็​ไป​เถอะ​ ที่นี่​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​พะวง​หา​แล้ว​ เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​ ตอน​มีชีวิต​อยู่ยาม​ออก​กระบี่​จำเป็นต้อง​เลือก​ฝ่าย​ แต่​ใน​เมื่อ​คน​ก็​ตาย​ไป​แล้ว​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​ปณิธาน​กระบี่​น้อย​นิด​แค่นี้​ ยัง​จะต้อง​แบ่งแยก​ฝ่าย​ตัวเอง​และ​ฝ่าย​ศัตรู​กับ​ผายลม​อะไร​”

เว่ย​จิ้น​มีสีหน้า​เป็นปกติ​ หัน​ตัว​กลับ​ไป​ หันหน้า​มอง​ไป​ยัง​ทิศใต้​ของ​หัว​กำแพงเมือง​

นา​ทีนี้​จิต​แห่ง​กระบี่​ของ​เว่ย​จิ้น​ยิ่ง​ใสสว่าง​สะอาด​เอี่ยม​ กุม​หมัด​คารวะ​จงหยวน​ผู้ฝึก​กระบี่​ผู้ล่วงลับ​ด้วย​ความเคารพ​นบนอบ​อยู่​ไกลๆ​

อย่าง​มาก​วันหน้า​เมื่อ​พบ​เจอกัน​บน​สนามรบ​ ค่อย​ออก​กระบี่​ตัดสิน​ความสูงต่ำ​ของ​วิถี​กระบี่​ ตัดสิน​เป็น​ตาย​กับ​ผู้​ที่​ได้รับ​การสืบทอด​ปณิธาน​กระบี่​ไป​จาก​ผู้อาวุโส​จงหยวน​ก็แล้วกัน​

เฉิน​ชิงตู​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “จงหยวน​ก็​คือ​จงหยวน​”

ความ​องอาจ​หยิ่ง​ทระนง​ใน​ศักดิ์ศรี​ยัง​คงเดิม​

ที่แท้​ปณิธาน​กระบี่​ที่​เดิมที​ไม่เคย​ใกล้ชิด​กับ​เว่ย​จิ้น​พวก​นั้น​ พลัน​กลายร่าง​เป็น​สายรุ้ง​แสงกระบี่​สี่เส้น​ สุดท้าย​มาล้อ​มวน​อยู่​รอบกาย​เซียน​กระบี่​แห่ง​ศาล​ลม​หิมะ​ช้าๆ ไม่จากไป​ไหน​

นี่​หมายความว่า​นับแต่นี้ไป​ บน​เส้นทาง​วิถี​แห่ง​กระบี่​ เว่ย​จิ้น​ก็​ถือเป็น​คน​ของ​สาย​จงหยวน​แล้ว​

ไม่มีพิธี​ยิบ​ย่อย​ของ​การสืบทอด​ระหว่าง​อาจารย์​และ​ศิษย์​ ไม่มีการ​จุด​ธูป​กราบไหว้​ภาพเหมือน​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​

เว่ย​จิ้น​ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​ “ขอ​ถามเซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ สิ่งนั้น​ของ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ สรุป​แล้ว​เป็น​การดำรงอยู่​อย่างไร​กัน​แน่​?”

เฉิน​ชิงตู​ลังเล​เล็กน้อย​ ผู้เฒ่า​มีสีหน้า​ซับซ้อน​ แต่​สุดท้าย​ก็​ยัง​ส่ายหน้า​ “เคย​เห็น​สอง​ครั้ง​ ไม่มีอะไร​ให้​พูดถึง​”

ศึก​ขึ้น​ฟ้า นอกจาก​ห้า​เทพ​ชั้นสูง​สุดแล้ว​ พูดถึง​แค่​เทพ​ชั้นสูง​สิบสอง​องค์​ของ​ยุค​บรรพกาล​ เกิน​ครึ่ง​ล้วน​ตาย​ดับ​อยู่​ใน​สงคราม​อัน​โหดร้าย​ที่​เปลี่ยน​ฟ้าผลัด​ดิน​ครั้งนั้น​

นอกจากนี้​หาก​ไม่ได้​ออก​ไป​จาก​ซาก​ปรัก​ของ​สรวงสวรรค์​เก่า​ กลายเป็น​ผี​วิญญาณ​เร่ร่อน​อยู่​นอก​ฟ้า

ก็​หล่น​ร่วง​ลง​ไป​บน​พื้นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​ จำศีล​ยาวนาน​ โครงกระดูก​หลับสนิท​

ชิงถงเทียน​จวิน​ที่​ดูแล​หอ​บิน​ทะยาน​แห่ง​หนึ่ง​ ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​เผ่า​มนุษย์​คน​แรก​สุด​ที่​กลายเป็น​เทพ​ เคย​ทำหน้าที่​รับ​เซียน​ดิน​ชาย​บิน​ทะยาน​

ท่าน​ที่​จำศีล​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สี ใน​อดีต​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ใน​ศึก​เผ่า​มนุษย์​เดิน​ขึ้น​ฟ้า เคย​เป็น​ลูกน้อง​ใต้​อาณัติ​ของ​ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​

องค์​เทพ​ที่​เยื้องกราย​จาก​ฟ้ามาเยือน​ใบ​ถงทวีป​ ข้าม​มหาสมุทร​เดินทางไกล​ไป​ยัง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ตอนที่​ขึ้นฝั่ง​ได้​ถูก​ชุย​ฉาน​กับ​ฉีจิ้งชุน​ร่วมมือ​กัน​ เคย​ได้รับ​การขนานนาม​ให้​เป็น​ ‘ผู้ส่ง​เสียงสะท้อน​’

เซอ​เย​ว่​สืบทอด​ตำแหน่ง​เทพ​ส่วนหนึ่ง​ นาง​ไม่เพียงแต่​เป็น​เมล็ด​พันธ์​ดวงจันทร์​อย่าง​เรียบง่าย​เท่านั้น​ เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ถือเป็น​คนใน​ตำแหน่ง​สูงที่​มีความหวัง​มาก​ที่สุด​ที่จะ​เลื่อนขั้น​เป็น​ ‘ร่าง​เดิม​แสงจันทร์​’

สังหาร​เทพ​ชั้นสูง​พวก​นี้​ สำหรับ​โลก​มนุษย์​แล้ว​มีทั้ง​ข้อดี​และ​ข้อเสีย​ ข้อดี​คือ​มีศัตรู​คู่อาฆาต​ของ​เผ่า​มนุษย์​ที่​พลัง​การ​สู้รบ​น่า​ตะลึง​น้อยลง​ ข้อเสีย​คือ​จะมีตำแหน่ง​เทพ​ที่ว่าง​ลง​ หลังจาก​โจว​มี่เดิน​ขึ้น​ฟ้าแล้วก็​ย่อม​ต้อง​สร้าง​เทพ​ใหม่เอี่ยม​เข้ามา​แทน​ตำแหน่ง​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ เทพ​ชั้นสูง​พวก​นี้​ไม่ใช่พวก​คน​ที่​สามารถ​อยู่​ร่วมกัน​ด้วยดี​ได้​ เพียงแต่ว่า​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ ด้าน​หนึ่ง​ก็​เป็น​วิถี​ฟ้าที่​พังทลาย​ ก็​เหมือนกับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ที่​สูญเสีย​วิธีการ​โจมตี​ส่วนใหญ่​ไป​ นอกจากนี้​ก็​คือ​กรงขัง​ตัวอักษร​ที่​มองไม่เห็น​ใน​ฟ้าดิน​ซึ่งมีพันธนาการ​ต่อ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​อย่าง​มาก​

มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่เคย​สร้าง​ตัวอักษร​ขึ้น​มาด้วยตัวเอง​ และ​ได้​เผยแพร่​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มาหลาย​พันปี​แล้ว​

นี่​ก็​เพื่อให้​ยาม​ที่​เทพ​เก่า​ใหม่​หวนกลับ​มายัง​โลก​มนุษย์​อีกครั้ง​หลุดพ้น​จาก​กรงขัง​ตัวอักษร​ที่​เห​วิน​เซิ่งสร้าง​ขึ้น​มาให้ได้​มาก​ที่สุด​

หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ตรงหน้า​แห่ง​นี้​ก็​คือ​ท่าเรือ​ที่​ทวยเทพ​มากมาย​ของ​สรวงสวรรค์​ใหม่​จะลงมา​พัก​เท้า​แล้ว​

ภาษาเพียง​หนึ่งเดียว​ของ​เทพ​บรรพกาล​ แท้จริง​แล้วก็​คล้ายคลึง​กับ​เสียง​ใน​ใจของ​ผู้ฝึก​ตน​ทุกวันนี้​ ทว่า​ก็​แค่​คล้ายคลึง​เท่านั้น​ ไม่ใช่ทั้งหมด​

เทพ​ชั้นสูง​ที่​เมื่อครู่นี้​ถูก​เฉิน​ชิงตู​ใช้หนึ่ง​กระบี่​ฟัน​จน​ร่าง​ทอง​แตก​ยับ​ มีชื่อว่า​ ‘ผู้​ลงทัณฑ์​’ เคย​อยู่​ใต้​อาณัติ​ของ​ผู้​ครอง​กระบี่​ เผ่า​ปีศาจ​ใน​ใต้​หล้า​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​พวก​มังกร​แท้จริง​ที่​ถูก​ลงโทษ​คือ​ผู้​ที่​ต้อง​เจอ​กับ​ความทุกข์ทรมาน​มาก​ที่สุด​

เพียงแต่​ว่าความ​เป็น​เทพ​ไม่ครบถ้วน​ น่าจะเป็น​เพราะ​จำศีล​หลับสนิท​ไป​อย่าง​ยาวนาน​ บวก​กับ​ได้​ถูก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ดึง​เอา​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ส่วนหนึ่ง​ที่​เหลืออยู่​ออก​ไป​นาน​แล้ว​ เป็นการ​เพิ่ม​น้ำค้างแข็ง​ลง​บน​เกล็ด​หิมะ​ แน่นอน​ว่า​ เพียงแค่​เทียบ​กับ​ใน​อดีต​แล้ว​ไม่เชี่ยวชาญ​การต่อสู้​มาก​ถึงเพียงนั้น​ แต่​ไม่ได้​หมายความว่า​จะฆ่าได้​ง่าย​

ส่วน​เทพ​ชั้นสูง​ที่​ถูก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เอา​มาเป็นหนึ่ง​ใน​ท่า​ไม้ตาย​ เพื่อ​ใช้รับมือ​กับ​อา​เหลียง​และ​จั่ว​โย่ว​โดยเฉพาะ​นั้น​ น่าจะเป็น​สิ่งมีชีวิต​ที่​ชื่อว่า​ ‘ผู้​หลับ​ฝัน​’

หนึ่ง​ใน​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ก็​คือ​การ​ถูก​จำคุก​อยู่​ใน​ฝันร้าย​ คำ​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​กลางคืน​ยาวนาน​ฝัน​มาก​ ก็​คือ​รากฐาน​ส่วนหนึ่ง​ของ​เทวบุตร​มาร​นอก​ฟ้าที่​จำแลง​ได้​พัน​หมื่น​รูปแบบ​ใน​โลก​ยุค​หลัง​

และ​ยังมี​ ‘ผู้​ไร้​คำพูด​’ ที่​ได้​ครอบครอง​วิชา​อภินิหาร​ ‘หยุด​พูด​’ หรือ​มีอีก​ชื่อว่า​ ‘เสียง​ใน​ใจ’

รวมไปถึง​ ‘ผู้​ทำสำเนา​’ ที่​สร้าง​ตะวัน​จันทรา​มากมาย​ พื้น​ที่ลับ​ขุนเขา​สายน้ำ​นับไม่ถ้วน​ หรือ​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ก็​คือ​ ‘นัก​จินตนาการ​’ และ​ ‘นัก​หล่อหลอม​’

แน่นอน​ว่า​ชื่อ​เรียก​ของ​เทพ​บรรพกาล​พวก​นี้​ล้วน​เป็น​คำ​เรียกขาน​ที่​ได้มา​หลัง​สงคราม​เดิน​ขึ้น​ฟ้าสิ้นสุดลง​

เมื่อ​ไม่ได้​ถูก​บันทึก​ไว้​ด้วย​ตัวอักษร​ ก็​เหมือน​หน้า​แรก​สุด​ของ​ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ฉบับ​หนึ่ง​ตั้งใจ​ทิ้ง​หน้า​กระดาษ​ว่างเปล่า​ไว้​ให้​กับ​พวก​บุคคล​ที่อยู่​ใน​ยุค​โบราณ​เหล่านี้​

มนุษย์​เกิด​มาบน​โลก​ ดูเหมือนว่า​ไม่ว่า​อะไร​เด็ก​ๆ ก็​มัก​สงสัย​ใคร่รู้​ คนหนุ่มสาว​ไม่ว่า​อะไร​ก็​ล้วน​รู้​ทั้งหมด​ คน​วัยกลางคน​ไม่ว่า​อะไร​ก็​ล้วน​สงสัย​ คนแก่​ไม่ว่า​อะไร​ก็​ล้วน​ยอมรับ​ชะตากรรม​

ส่วน​คนดี​คน​ไม่ดี​ ใน​ใจของ​แต่ละคน​ต่าง​มีตา​ชั่งน้ำหนัก​คนละ​หนึ่ง​อัน​ ยาก​มาก​ที่จะ​บอ​กว่า​ใคร​คือ​คนดี​แน่นอน​

เด็ก​คน​หนึ่ง​อายุ​น้อย​เกินไป​ ทำ​อะไร​ไม่ได้​มาก​นัก​

อันที่จริง​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ที่​อายุ​มาก​แล้ว​ ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะทำ​อะไร​ได้​มาก​นัก​

เฉิน​ชิงตู​ลูบ​คลึง​ปลาย​คาง​ ทอดสายตา​มอง​ไกล​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​

น่าจะ​ยัง​ปล่อย​กระบี่​ได้​อีกครั้ง​

ถามกระบี่​กับ​ใคร​ดี​?

ป๋า​ย​เจ๋อ​ที่​หวนกลับ​มายัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​อีกครั้ง​หรือ​?

ป๋า​ย​เจ๋อ​มีความสัมพันธ์​ไม่เลว​กับ​จอม​ปราชญ์​น้อย​ แต่​ไม่ได้​สนิท​อะไร​กับ​ข้า​เฉิน​ชิงตู​

……

ป๋า​ย​เจ๋อ​กับ​เฟยเฟย​เดิน​อยู่​ริม​ท้องน้ำ​ที่​แห้งขอด​สาย​หนึ่ง​ซึ่งแยกตัว​ออก​ไป​จาก​ลำคลอง​เย่ลั่ว​

เฟยเฟย​สัมผัส​ได้​ถึงภาพ​เหตุการณ์​ผิดปกติ​เสี้ยว​หนึ่ง​ทาง​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ให้​อก​สั่น​ขวัญ​ผวา​ ถามเบา​ๆ ว่า​ “อาจารย์​ป๋า​ย​ แท้จริง​แล้ว​ตาแก่​หนังเหนียว​นั่น​…ยัง​ไม่ตาย​?”

ป๋า​ย​เจ๋อ​กล่าว​ “ไม่ใช่ว่า​เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​แล้​วจะ​ลืม​ว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ทั้ง​แห่ง​ได้​ ตอนนั้น​ที่​โจว​มี่ขึ้นไป​บน​หัว​กำแพง​ นอกจาก​รวบ​แห​แล้วก็​เพื่อ​ยืนยัน​เรื่อง​นี้​ให้​แน่ใจ​ ใน​เมื่อ​โจว​มี่ไม่ได้​ลงมือ​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​สัมผัส​ไม่ได้​ แม้แต่​เขา​ก็​ยัง​ถูก​หลอก​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​เพราะ​รู้สึก​ว่า​หาก​ถูก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ออก​กระบี่​ใส่อย่าง​เต็มกำลัง​ที่นั่น​ ไม่คุ้มค่า​ จึงต้อง​วางแผน​ใน​ระยะยาว​ใหม่​”

มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่เคย​ใช้เรือน​กาย​ของ​ลู่​ฝ่าเหยียน​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่ หรือ​ก็​คือ​อาจารย์​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​อย่าง​เชี่ยอวิ้น​และ​เฝ่ย​หรา​น​ เดินทาง​มาเที่ยว​เยือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​รอบ​หนึ่ง​ แล้ว​ยัง​ได้​คุย​เล่น​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​พัก​หนึ่ง​

ป๋า​ย​เจ่อ​พลัน​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “ยัง​ควร​ต้อง​ให้​เคารพ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​สักหน่อย​”

เฟยเฟย​สังเกตเห็น​ว่า​ต่อให้​เฉิน​ชิงตู​เผย​ตัว​ ความสนใจ​ของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​กลับ​ยังอยู่​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ประหลาด​มาก​แล้ว​

ภูเขา​ทัว​เย​ว่​แห่ง​นั้น​ ทุกวันนี้​ก็​คือ​โครง​ว่างเปล่า​ที่​ทิ้ง​หยวน​ซงให้​ประคับประคอง​ไว้​คนเดียว​เท่านั้น​ จึงส่งผลกระทบ​ต่อ​โชคชะตา​ฟ้าของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​ไม่มาก​แล้ว​

ถอย​ไป​พูด​หมื่น​ก้าว​ ต่อให้​ถูก​เจ้าบ้า​เฉิน​ผิง​อัน​เปิด​ภูเขา​ได้​สำเร็จ​ เกรง​ว่า​ยัง​ส่งผลกระทบ​ลึกล้ำ​ยาว​ไกล​ได้​ไม่เท่า​ดวงจันทร์​ดวง​นั้น​ถูก​พวก​หนิง​เหยา​พก​กระบี่​บิน​ทะยาน​ไป​ฟัน​ให้​ร่วง​ลงมา​ด้วยซ้ำ​

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด