กระบี่จงมา 866.4 รื้อฟื้น

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 866.4 รื้อฟื้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายหลัง​หม่า​ขู่​เสวียน​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ จึงสามารถ​ยกระดับ​ความ​อาวุโส​สูงขึ้น​อีก​หนึ่ง​ขั้น​ ดังนั้น​จึงเรียก​อวี๋สือ​อู้​ว่า​อาจารย์​ลุง​ แต่​เนื่องจาก​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ที่​ภูเขา​เจิน​อู่​ของ​หม่า​ขู่​เสวียน​ค่อนข้าง​เยอะ​ ใน​บรรดา​คน​เหล่านั้น​ก็​ไม่ขาด​เทพ​บรรพกาล​ที่​ตำแหน่ง​ไม่ต่ำ​อีก​หลาย​ท่าน​ จะเรียก​อวี๋สือ​อู้​ว่า​อาจารย์​ลุง​หรือ​อาจารย์​อา​ก็​ขึ้นอยู่กับ​อารมณ์​ของ​เขา​เท่านั้น​ ถึงอย่างไร​ชื่อเสียง​ของ​หม่า​ขู่​เสวียน​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ก็​ไม่เล็ก​ ขึ้นชื่อว่า​เป็น​คน​ไร้เหตุผล​คน​หนึ่ง​

คนบ้า​ ทำ​อะไร​ตามแต่​ใจ กำเริบเสิบสาน​ไร้​ยำเกรง​ การกระทำ​ของ​เขา​มิอาจ​เอาเรื่อง​หลัก​ทำนองคลองธรรม​มาพูดถึง​ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

เป็นหนึ่ง​ใน​ตัวสำรอง​คน​รุ่นเยาว์​สิบ​คน​ของ​หลาย​ใต้​หล้า​เหมือนกัน​ สวี่​ป๋า​ย​และ​ฉุน​ชิงที่​มาจาก​แผ่นดิน​กลาง​ ตอนที่​เดินทาง​ไป​ท่องเที่ยว​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ต่าง​ก็​ถูก​เขา​ไป​หาเรื่อง​ถึงที่​ สวี่​ป๋า​ย​ยอมรับ​ความพ่ายแพ้​โดยตรง​ ผล​คือ​ถูก​หม่า​ขู่​เสวียน​ให้​คำวิจารณ์​ว่า​เป็น​ ‘เศษสวะ​’ ฉุน​ชิงลงมือ​แล้ว​ แต่​ผล​คือ​ต้อง​มาเจอ​กับ​หม่า​ขู่​เสวียน​ที่​ลงมือ​ไม่รู้จัก​หนัก​เบา​ ปี​นั้น​ฉุน​ชิงจึงบาดเจ็บ​ไม่เบา​

ส่วน​คน​รุ่นเยาว์​สิบ​คน​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ประเมิน​กัน​ออกมา​เอง​ หม่า​ขู่​เสวียน​ยัง​คงอยู่​อันดับ​หนึ่ง​อย่าง​สมศักดิ์ศรี​ นอกจากนี้​ก็​มีเซี่ยห​ลิง​ หลิว​ป้า​เฉียว​ เจีย​งอ​วิ้น​ โจว​จวี่​ สุย​โย่ว​เปีย​น​ ฯลฯ​

ส่วน​อวี๋สือ​อู้​ที่​ถูก​ขนานนาม​ให้​เป็น​ ‘ห​ลี่​ถวน​จิ่งคน​ที่สาม​’ เนื่องจาก​ตอนนั้น​ขอบเขต​ไม่สูงพอ​ บวก​กับ​ที่​จำนวน​ครั้ง​ใน​การ​ลง​มือบน​สนามรบ​มีไม่มาก​ จึงได้​แต่​อยู่​ใน​อันดับ​ตัวสำรอง​ของ​ใน​หนึ่ง​ทวีป​เท่านั้น​

ดังนั้น​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​จึงมีความรู้สึก​ที่​ค่อนข้าง​ซับซ้อน​ต่อ​หม่า​ขู่​เสวียน​ ทั้ง​รังเกียจ​ความ​ยโส​โอหัง​ของ​คน​ผู้​นี้​ ทั้ง​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​มีหม่า​ขู่​เสวียน​ก็​ค่อนข้าง​มีหน้ามีตา​

หม่า​ขู่​เสวียน​เหลือบตา​มอง​กลุ่ม​คนดู​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​แล้ว​คร้าน​จะมอง​มาก​ให้​เปลือง​สายตา​อีก​ หันหน้า​ไป​เอ่ย​สัพ​ยอ​กอ​วี๋สือ​อู้​ว่า​ “ห​ลี่​ถวน​จิ่งคน​ที่สาม​อย่าง​เจ้า ไม่คิด​จะไป​คุย​เล่น​กับ​ห​ลี่​ถวน​จิ่งคน​ที่สอง​สัก​สอง​สามประโยค​หรือ​?”

เมื่อ​สามสิบ​ปีก่อน​ คำ​เรียกขาน​ว่า​ห​ลี่​ถวน​จิ่งคน​ที่สอง​นั้น​พูดถึง​เว่ย​จิ้น​ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​ศาล​ลม​หิมะ​ แต่​นี่​เป็น​คำ​เรียกขาน​อย่างหนึ่ง​ก่อนที่​เว่ย​จิ้น​จะเลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ รอ​กระทั่ง​เว่ย​จิ้น​ทยอย​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​สอง​ครั้ง​ สุดท้าย​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เซียน​เห​ริน​คน​แรก​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​ไม่มีใคร​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​

เพราะ​นับแต่​เด็ก​มาก็​ฝึก​ตน​อยู่​บน​ภูเขา​เจิน​อู่​ ระบบ​การสืบทอด​ของ​อวี๋สือ​อู้​ย่อม​ต้อง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ของ​สำนัก​การทหาร​ แต่​เขา​ก็​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ อีก​ทั้ง​สถานะ​ที่​ลึกลับ​ยิ่งกว่านั้น​ก็​คือ​อวี๋สือ​อู้​แบกรับ​โชคชะตา​บู๊​ไว้​บน​ร่าง​ นี่​เป็นความลับ​ห้าม​แพร่งพราย​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ภูเขา​เจิน​อู่​เลย​ทีเดียว​

อวี๋สือ​อู้​ยัง​ถูก​หม่า​ขู่​เสวียน​เรียก​ว่า​เป็น​สหาย​ครึ่งตัว​ใน​บรรดา​ ‘สหาย​ครึ่งตัว​’ อีกด้วย​

ทุกวันนี้​บน​ร่าง​ของ​เขา​มีโชคชะตา​บู๊​อยู่​สามขุม​ สอง​ส่วน​ใน​นั้น​เป็น​ก่อนหน้านี้​ยาม​ที่​สถานการณ์​ใน​ใต้​หล้า​ตกอยู่ในอันตราย​ล่อแหลม​ ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​การทหาร​แผ่นดิน​กลาง​ได้รับ​การอนุญาต​จาก​ศาล​บุ๋น​ บรรพ​จารย์​สำนัก​การทหาร​เจียง​เว่ย​สอง​คน​จาก​แผ่นดิน​กลาง​จึงมอบ​โชคชะตา​บู๊​มาให้​เขา​สอง​ส่วน​

การ​ร่วมกัน​สังหาร​ครั้งหนึ่ง​ หนึ่ง​แบ่ง​ออก​เป็น​ห้า​

ทุกวันนี้​อวี๋สือ​อู้​ยัง​ขาด​อีก​สอง​ส่วน​

น่าเสียดาย​ที่สอง​ส่วน​สุดท้าย​ที่​ยัง​เหลืออยู่​นั้น​ไม่ใช่ว่า​อวี๋สือ​อู้​ที่​เป็น​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​คน​หนึ่ง​จะไป​แสวงหา​มาได้​ด้วยตัวเอง​

หม่า​ขู่​เสวียน​จุ๊ปาก​พูด​อย่าง​ประหลาดใจ​ “‘เสีย​เมือง​เร็ว​ขนาด​นั้น​’ ประโยค​นี้​พูด​ได้ดี​”

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​พิทักษ์​มาได้​กี่​ปี​แล้ว​?

ใช้พื้นที่​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ ใช้นคร​แห่ง​หนึ่ง​ทำสงคราม​กับ​ใต้​หล้า​

สถานที่​ที่​ใหญ่​เพียงเท่านี้​ ยัง​ไม่ใหญ่​เท่า​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​แห่ง​หนึ่ง​ของ​เก้า​ทวีป​ใน​ไพศาล​เลย​ด้วยซ้ำ​

ทว่า​ขุนเขา​สายน้ำ​สามทวีป​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ใน​ช่วงหลัง​เล่า​ ต้อง​เสีย​เมือง​ไป​หลังจาก​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าไร​เอง​?

ต่อให้​หม่า​ขู่​เสวียน​จะไม่มีความรู้สึก​ใดๆ​ ต่อ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แค่​ไหน​ ต่อให้​จะไม่รู้สึก​ดี​อะไร​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​เป็น​คนบ้านเดียวกัน​เท่าใด​ ก็​ยัง​ไม่มีหน้า​พูด​ประโยค​แบบนี้​จริงๆ​

เด็กหนุ่ม​ที่​พก​มีด​ผ่า​ฟืน​หันหน้า​มามอง​หม่า​ขู่​เสวียน​ผู้​เป็น​อาจารย์​ เห็นได้ชัด​ว่า​เด็กหนุ่ม​ก็​รู้สึก​สงสัย​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​

ใน​เมื่อ​เฉิน​ชิงตู​ผู้​นั้น​เวท​กระบี่​ไร้​เทียมทาน​ปานนี้​ ทำไม​ไม่ออก​กระบี่​หลาย​ๆ ครั้ง​เล่า​ ตาม​คำกล่าว​ใน​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ทั้งหลาย​ ดูเหมือน​เฉิน​ชิงตู​จะเพียงแค่​ปล่อย​กระบี่​หนึ่ง​ออก​ไป​พอเป็นพิธี​เท่านั้น​ หลังจากนั้น​ก็​ไม่ได้​ลงมือ​อีก​ สุดท้าย​ก็​แค่​ใช้หนึ่ง​กระบี่​เปิดทาง​ คุ้มครอง​นคร​บิน​ทะยาน​ให้​ไป​เยือน​ใต้​หล้า​ห้า​สีใน​ทุกวันนี้​เท่านั้น​

หม่า​ขู่​เสวียน​กดหัว​ของ​เด็กหนุ่ม​แล้ว​หมุน​หนัก​ๆ ให้​หันไป​ทา​งอ​วี๋สือ​อู้​ “อาจารย์​ไม่ว่าง​ ให้​อวี๋​ขี้บ่น​อธิบาย​ให้​เจ้าฟังก็แล้วกัน​”

อวี๋สือ​อู้​จึงใช้เสียง​ใน​ใจอธิบาย​ให้​ฟังอย่าง​มีน้ำอดน้ำทน​

ก่อนที่​สงคราม​ใหญ่​ครั้งสุดท้าย​จะเปิดฉาก​ขึ้น​อย่าง​เป็นทางการ​ เฉิน​ชิงตู​ที่​ถูก​เรียกขาน​ด้วย​ความเคารพ​ว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ แท้จริง​แล้ว​เคย​ปล่อย​กระบี่​ใส่บรรพบุรุษ​ใหญ่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ไป​แล้ว​หนึ่ง​ครั้ง​

แม้จะบอ​กว่า​บน​สนามรบ​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​และ​เผ่า​ปีศาจ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​คุมเชิง​กัน​ มอง​ดูเหมือน​คลื่น​ลม​สงบ​ แต่​แท้จริง​แล้ว​ขุนเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​บางแห่ง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​พังทลาย​ย่อยยับ​ไป​หมด​แล้ว​

นี่​ก็​คือ​ความ​ไร้เหตุผล​จาก​การ​ที่​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ผสาน​มรรคา​กับ​ฟ้าดิน​ทั้ง​แห่ง​

อวี๋สือ​อู้​ยืน​อยู่​บน​หัว​กำแพงเมือง​ เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ว่า​ “ก็​เหมือน​อาชีพ​อย่างหนึ่ง​ ยกตัวอย่างเช่น​คนหาปลา​ตกปลา​ คน​ตัด​ฟืน​ผ่า​ฟืน​ พ่อค้า​หาเงิน​ ส่วน​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​บริสุทธิ์​เรียบง่าย​ยิ่ง​ แค่​ออก​กระบี่​สังหาร​ปีศาจ​เท่านั้น​”

ในที่สุด​หม่า​ขู่​เสวียน​ก็​เอ่ย​แทรก​มาว่า​ “ยังมี​นัก​ชันสูตร​ที่​ตรวจสอบ​ศพ​ เพชฌฆาต​ที่​ตัดหัว​คน​ ร้าน​ขาย​โลงศพ​ที่​รอ​คนตาย​”

อวี๋สือ​อู้​ปรายตา​มอง​หม่า​ขู่​เสวียน​ ฝ่าย​หลัง​รีบ​ยก​สอง​มือขึ้น​ทันใด​ เป็นการ​บอ​กว่า​เจ้าอวี๋สือ​อู้​เชิญพูด​จู้จี้ต่อ​ตามสบาย​

“นอกจากนี้​ อยู่​ใน​หน้า​ที่ไหน​ก็​ทำหน้าที่​นั้น​ ยกตัวอย่างเช่น​เฉิน​ซีกับ​ฉีถิงจี้ นอกจาก​จะเป็น​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​แล้ว​ ยัง​เป็น​เจ้าประมุข​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ ต่าง​คน​ต่าง​ต้อง​วางแผน​หาทาง​ถอย​ให้​กับ​ตระกูล​ของ​ตัวเอง​ อิ่น​กวาน​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ต้อง​วางแผนการ​รบ​อยู่​ที่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ เพื่อให้​ความเสียหาย​ทางการ​สู้รบ​ที่​น้อยที่สุด​ของ​ฝ่าย​ตัวเอง​แลกเปลี่ยน​มาด้วย​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​บน​สมรภูมิ​รบ​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ก็​ต้อง​ไม่ปล่อย​ให้​ควัน​ธูป​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ขาดสะบั้น​ลง​ ภายใต้​เงื่อนไข​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​จะมิอาจ​รักษา​เอาไว้​ได้​ นอกจาก​ที่​ต่าง​คน​ต่าง​ทำหน้าที่​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ การ​ยอม​พลีชีพ​อย่าง​ลืม​ตาย​ของ​เหล่า​เซียน​กระบี่​ที่​ส่งกระบี่​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ก็​เพื่อ​พยายาม​ที่จะ​รักษา​เมล็ด​พันธ์​บน​วิถี​กระบี่​ไว้​ให้ได้​มาก​ยิ่งกว่า​เดิม​ ให้​พวกเขา​ได้​ไป​ลงหลักปักฐาน​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สี เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​ได้​ช่วย​ถ่วงเวลา​ให้​กับ​ใต้​หล้า​ไพศาล​แล้ว​”

และ​ยังมี​ความจริง​กับ​เรื่อง​วงใน​ที่​ลึก​กว่า​นี้​ที่​อวี๋สือ​อู้​ไม่ได้​พูด​ออกมา​

ความลับ​บางอย่าง​ เช่นว่า​โจว​มี่มหาสมุทร​ความรู้​และ​ห​ร่วน​ซิ่ว​เดิน​ขึ้น​ฟ้าจากไป​ ตลอดทั้ง​ภูเขา​เจิน​อู่​ เกรง​ว่า​คง​มีแค่​อวี๋สือ​อู้​กับ​หม่า​ขู่​เสวียน​เท่านั้น​ที่​รู้​ จนถึง​ทุกวันนี้​แม้แต่​เจ้าสำนัก​ก็​ยัง​ถูก​ปิดหูปิดตา​

ใน​ความเห็น​ขอ​งอ​วี๋สือ​อู้​ เฉิน​ชิงตู​ บรรพบุรุษ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ โจว​มี่

สิ่งที่​ทั้ง​สามฝ่าย​ต้องการ​ก็​คือ​ รักษา​นคร​บิน​ทะยาน​ โจมตี​ใต้​หล้า​ไพศาล​ แสวงหา​การ​เดิน​ขึ้น​สู่ยอด​สูงสุด​ของ​ตัวเอง​

ผู้​แข็งแกร่ง​ก็​คือ​ผู้​ที่​สามารถ​ฝาก​ความหวัง​ไว้​ที่​การกระทำ​ทั้งหลาย​ ทำให้​ความหวัง​กลาย​มาเป็น​ความจริง​

เด็กหนุ่ม​เกา​หมิง​เหลือบตา​มอง​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​ที่​ไม่รู้​ว่า​โผล่​มาจาก​ไหน​พวก​นั้น​แล้ว​ถามอย่าง​กังขา​ว่า​ “เหล่า​หม่า​ บรรพ​จารย์​ลุ​งอ​วี๋​ เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​พวก​นี้​คง​ไม่ใช่คนโง่​หรอก​กระมัง​?”

ไม่ชอบ​เรียก​ว่า​อาจารย์​ แต่​ชอบ​เรียก​หม่า​ขู่​เสวียน​ว่า​เหล่า​หม่า​

วั่ง​จู่ศิษย์​พี่​ของ​เขา​ย่อม​ไม่กล้า​ทำตัว​เนรคุณ​แบบนี้​แน่นอน​

อวี๋สือ​อู้​คลี่​ยิ้ม​ ไม่พูด​อะไร​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​

หม่า​ขู่​เสวียน​นั่ง​ยอง​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ เอ่ย​ว่า​ “ไย​ต้อง​หมิ่น​เกียรติ​คนโง่​ด้วย​”

เมื่อก่อน​ตอน​ที่อยู่​เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​ หาก​บอ​กว่า​เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​คือ​ดาว​อัปมงคล​ ถ้าอย่างนั้น​หม่า​ขู่​เสวียน​แห่ง​ตรอก​ซิ่งฮวา​ก็​คือ​คนโง่​ใน​สายตา​ของ​คน​วัย​เดียวกัน​

คน​หนึ่ง​ถูก​ผู้คน​รังเกียจเดียดฉันท์​ ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​กลายเป็น​ตัวตลก​ที่​ผู้คน​ใช้แก้​เบื่อ​

หม่า​ขู่​เสวียน​ยิ้ม​เอ่ย​ “อาจารย์​ลุ​งอ​วี๋​ ไป​ ไป​งัดข้อ​กับ​คน​กลุ่ม​นั้น​สักหน่อย​ หาก​คุย​กัน​ไม่รู้เรื่อง​ ข้า​จะได้​ลงมือ​ต่อย​ตี​คน​ได้​ ตลอดทาง​มานี้​รู้สึก​อุดอู้​ยิ่งนัก​ ข้า​ต้อง​หาเรื่อง​สนุก​ทำ​เสียหน่อย​”

อวี๋สือ​อู้​นิ่งเฉย​ไม่สะทกสะท้าน​

หม่า​ขู่​เสวียน​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​พื้น​ ยื่นมือ​ไป​ตบ​หัว​กำแพง​ เอ่ย​ว่า​ “ขนาด​นี้​แล้ว​ยัง​ไม่ไป​พูดคุย​สัก​สอง​สามประโยค​ เจ้าไม่รู้สึก​ผิด​ต่อหัว​กำแพงเมือง​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​พวกเรา​บ้าง​หรือ​?”

อวี๋สือ​อู้​คิด​แล้วก็​ยอม​ไป​อธิบาย​เหตุผล​ ถึงอย่างไร​ก็​อยู่​ว่าง​ๆ ไม่มีอะไร​ทำ​อยู่แล้ว​

ไม่ถือสา​ว่า​ใต้​หล้า​ไพศาล​จะมีคนตาย​ไป​กี่มากน้อย​ กับ​จงใจทำให้​ใต้​หล้า​ไพศาล​มีคนตาย​มากขึ้น​ คือ​เรื่อง​สอง​เรื่อง​ที่​แตก​ต่างกัน​อย่าง​สิ้นเชิง​

นอกจาก​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉีที่​เป็น​ข้อยกเว้น​เพียง​หนึ่งเดียว​ซึ่งหลังจาก​ลง​สนามรบ​ไป​เข่นฆ่า​ ภายหลัง​ยัง​เคย​ขัดขวาง​การบุก​รุดหน้า​ของ​กองทัพ​ใหญ่​เผ่า​ปีศาจ​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ใน​ฝูเหยา​ทวีป​และ​เกราะ​ทอง​ทวีป​ไป​ทีละ​ก้าว​แล้ว​

เซียน​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​บน​คนอื่นๆ​ ล้วน​ไม่เคย​มีใคร​จากไป​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​เซียน​ดิน​อีก​มากมาย​ที่​ใช่ว่า​จะไม่สามารถ​จากไป​ได้​ แต่​สุดท้าย​ก็​ยังอยู่​ต่อ​บน​สนามรบ​

ใน​บรรดา​เซียน​กระบี่​ก็​มีผู้อาวุโส​ ต่ง​ซาน​เกิง​ เฉิน​ซี น่า​ห​ลัน​เซาเหว่​ย​ ใน​กลุ่ม​เซียน​กระบี่​ใหญ่​มีโจว​ทุ่ย​มี่ หมี่​ฮู่ จิ้น​ชิง ส่วน​เซียน​กระบี่​ที่​รบ​ตาย​ไป​กลับ​มีมาก​ยิ่งกว่า​นี้​

ตอนนั้น​ใน​นคร​บิน​ทะยาน​กลุ่มคน​ที่​ขอบเขต​สูงที่สุด​ก็​คือ​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​อย่าง​พวก​หนิง​เหยา​ ดังนั้น​ใต้​หล้า​มียังมี​การผ่อนปรน​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​?

อวี๋สือ​อู้​ฝืน​นิสัย​พูด​ไป​มากมาย​อย่าง​อดทน​

แต่​ไม่ว่า​อวี๋สือ​อู้​จะพูด​อย่างไร​ อีก​ฝ่าย​ก็​ยัง​คว้า​จับ​เรื่อง​หนึ่ง​ไม่ยอม​ปล่อย​ เหตุใด​เฉิน​ชิงตู​ถึงไม่ออก​กระบี่​ให้​มาก​หน่อย​?

นอกจากนี้​ต่าง​ก็​เห็น​ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ผู้​นี้​เป็น​คนโง่​ เจ้ามาพูด​อะไร​กับ​พวกเรา​ตั้ง​มากมาย​ขนาด​นี้​? หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ได้ยิน​ว่า​อีก​ฝ่าย​มาจาก​ภูเขา​เจิน​อู่​ ป่านนี้​คง​ไล่​คน​ไป​นาน​แล้ว​

อวี๋สือ​อู้​รู้สึก​จนใจ​เล็กน้อย​

คนเรา​ก็​ดีแต่​จะจดจ้อง​คน​คน​หนึ่ง​ เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ไม่ยอม​ปล่อย​

เอ่ย​เพียง​หนึ่ง​แต่​ตกหล่น​ไป​นับ​หมื่น​ นี่​ก็​เป็น​แค่​คำกล่าว​ที่​ถ่อมตัว​อย่างหนึ่ง​เท่านั้นเอง​

หม่า​ขู่​เสวียน​เบิกบานใจ​นัก​ กำหมัด​ถูมือ​ พา​คน​ทั้ง​กลุ่ม​มาหยุด​อยู่​ข้าง​กา​ยอ​วี๋สือ​อู้​ เด็กหนุ่ม​ที่​ตรง​เอว​ห้อย​มีด​ผ่า​ฟืน​บ่นว่า​ “อาจารย์​ลุ​งอ​วี๋​ อธิบาย​ให้​พวก​คนโง่​ฟังตั้ง​มากมาย​แบบนี้​ไป​ทำไม​ ไม่รวดเร็ว​ฉับไว​เลย​แม้แต่น้อย​”

หม่า​ขู่​เสวียน​หัวเราะ​หึหึ​ “คนโง่​บอ​กว่า​เจ้าไม่ถูก​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มีเหตุผล​ของ​เขา​”

จากนั้น​หม่า​ขู่​เสวียน​ก็​เอ่ย​เสริม​มาประโยค​หนึ่ง​ว่า​ “พวกเรา​อย่า​มัว​พูด​โน้ม​น้า​วอ​วี๋​ขี้บ่น​อีก​เลย​ ด้วย​นิสัย​คนดี​ของ​เขา​ เดี๋ยว​ก็​มีข้ออ้าง​ที่​ไร้เหตุผล​อยู่ดี​นั่นแหละ​ ยกตัวอย่างเช่น​ ‘พวกเขา​ฟังไม่เข้าใจ​ ถึงอย่างไร​ก็​ยังคง​เป็น​ข้า​ที่​อธิบาย​ไม่เข้าใจ​’”

คน​รุ่นเยาว์​ที่​มีชาติกำเนิด​จาก​เมือง​เล็ก​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู แทบ​ไม่มีใคร​ที่​ไม่เข้าใจ​พูด​

อีก​อย่าง​ ‘วิชา​ความรู้​ของ​วงศ์ตระกูล​ที่​ถ่ายทอด​กัน​มาหลาย​ชั่วอายุคน​’ ของ​หม่า​ขู่​เสวียน​ก็​ไม่ใช่แค่​ดี​ธรรมดา​เท่านั้น​

หม่า​ขู่​เสวียน​ ห​ลี่​ไหว​ กู้​ช่าน​ พูดถึง​แค่​เรื่อง​นี้​ คน​ทั้ง​สามต่าง​ก็​มีข้อได้เปรียบ​ติดตัว​มาตั้ง​แต่กำเนิด​

อวี๋สือ​อู้​ถอนหายใจ​ “ยก​ให้​เจ้าแล้ว​ จำไว้​ว่า​อย่า​ลง​มือหนัก​เกินไป​ ทุกวันนี้​ศาล​บุ๋น​ควบคุม​เข้มงวด​นัก​”

อวี๋สือ​อู้​จาก​มาเพียงลำพัง​ ยก​คน​กลุ่ม​นั้น​ให้​หม่า​ขู่​เสวียน​จัดการ​

ชีวิต​ก็​คือ​ตำรา​ไร้​ตัวอักษร​เล่ม​หนึ่ง​ อุปสรรค​มากมาย​ก็​คล้าย​การ​ถูก​คน​เอา​ถุงป่าน​ครอบ​หัว​แล้ว​ทุบตี​ จุด​ที่​ไม่เข้าใจ​ก็​ไม่มีโอกาส​เปิด​ตำรา​ใหม่​อีกครั้ง​เพื่อ​หา​คำตอบ​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​อีกแล้ว​

แน่นอน​ว่า​เซียน​ซือ​ที่​มาจาก​ธวัล​ทวีป​กลุ่ม​นั้น​ไม่ได้​อยู่​ใน​ข้อ​นี้​

หม่า​ขู่​เสวียน​พลัน​ได้ยิน​เสียง​ใน​ใจจาก​คน​ที่​เขา​ที่​คาดไม่ถึง​ “ลงมือ​กะ​น้ำหนัก​ให้​ดี​ อย่า​สะบั้น​สะพาน​แห่ง​ความ​เป็น​อมตะ​ ที่​เหลือ​ก็​ตามแต่​ใจ”

คือ​เสียง​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ตั้ง​บูชา​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ซึ่งทำหน้าที่​พิทักษ์​ม่าน​ฟ้า เฮ้อ​โซ่ว​

……

ทาง​ฝั่งของ​สะพาน​โค้ง​สีทอง​ เทพ​สูงสุด​สามคน​ของ​สรวงสวรรค์​ใหม่​ โจว​มี่ยืน​อยู่​ข้าง​ราว​รั้ว​ ห​ร่วน​ซิ่ว​ยืน​อยู่​บน​รั้ว​ มีเพียง​หลี​เจิน​ที่​ฟุบ​ตัว​นอนคว่ำ​อยู่​บน​รั้ว​ ยังคง​ครุ่น​คิดถึง​ปัญหา​สอง​ข้อ​นั้น​

สรุป​แล้ว​ว่า​ปี​นั้น​ หนึ่ง​นั้น​คิด​อย่างไร​กัน​แน่​

การช่วงชิง​แห่ง​น้ำ​และ​ไฟที่​เป็น​ชนวน​การ​ล่มสลาย​ของ​สรวงสวรรค์​เก่า​เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​กัน​แน่​

โจว​มี่ยิ้ม​เอ่ย​ “ตอนนั้น​คือ​เพื่อ​เพิ่ม​ควัน​ธูป​ให้​กับ​โลก​มนุษย์​ จะได้​นำมา​หล่อหลอม​ร่าง​ทอง​ของ​องค์​เทพ​ได้​มากกว่า​เดิม​ ผล​คือ​รอ​กระทั่ง​จำนวน​ของ​เผ่า​มนุษย์​เพิ่มขึ้น​อย่าง​มหาศาล​แล้ว​ เทพ​วารี​ที่​เคย​เดินทางไกล​อยู่​นอก​ฟ้าระยะ​หนึ่ง​ได้​หวนกลับ​มายัง​สรวงสวรรค์​เก่า​อีกครั้ง​ ในที่สุด​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​เกิด​ความผิดปกติ​กับ​โลก​มนุษย์​ เพราะ​บน​พื้นดิน​มีแสงสว่าง​รวมกลุ่ม​กัน​หนาแน่น​ แสงตะเกียง​แห่ง​ใจคน​ทอด​ยาว​เป็น​สาย​ รวมกัน​เหมือน​มหาสมุทร​แห่ง​เพลิง​ แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​เทพ​วารี​เป็น​ผู้ดูแล​จึงคล้าย​ถูก​ตัด​แบ่ง​ดินแดน​ที่​ใหญ่​มาก​ออก​ไป​แถบ​หนึ่ง​ อีก​ทั้ง​สถานการณ์​แห่ง​เปลวไฟ​นี้​ยิ่ง​นาน​ก็​ยิ่ง​ลุกลาม​รุนแรง​ เจ้าสามารถ​มอง​มัน​เป็น​…เทพ​อัคคี​เดินลง​น้ำ​ที่​โบราณ​เก่าแก่​ที่สุด​ครั้งหนึ่ง​ได้​”

หลี​เจิน​เบิกตา​กว้าง​มอง​ไป​ยัง​โลก​มนุษย์​ เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ “ข้า​มองไม่เห็น​ก็​ช่างเถิด​ ทำไม​แม้แต่​อวี่​ซื่อ​ก็​ยัง​มองไม่เห็น​ด้วย​เล่า​?”

เขา​หลุบ​ตา​ลง​มองโลก​มนุษย์​ก็​เห็น​เพียง​ปราณ​วิญญาณ​ที่มา​รวมตัวกัน​อยู่​บน​ผืน​แผ่นดิน​ เห็น​เป็น​จุด​ๆ เหมือน​ดวงดาว​ บ้าง​สว่าง​ บ้าง​มืด​สลัว​ แสงสว่าง​ทุก​จุด​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ขอบเขต​สูงต่ำ​ไม่เท่ากัน​ นอกจากนี้​ยังมี​การ​ไหลริน​ของ​โชคชะตา​อีก​หลาย​ขุม​

เผ่า​มนุษย์​มอง​ขึ้น​ฟ้าเห็น​ทางช้างเผือก​พร่างพราว​งามงด​

อันที่จริง​องค์​เทพ​หลุบ​ตา​มอง​แผ่นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​ก็​เป็น​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​ไม่ต่างกัน​สัก​เท่าไร​

จะดี​จะชั่ว​อวี่​ซื่อ​ก็​เป็น​เทพ​วารี​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​ใหม่​ ไม่มีเหตุผล​ให้​เขา​มองไม่เห็น​การ​ไหลริน​บน​มหา​มรรคา​แห่ง​ชะตาชีวิต​ส่วน​ที่​เป็น​ของ​เขา​นี่​นา​

ห​ร่วน​ซิ่ว​กล่าว​ “เพราะ​ข้า​ไม่ให้​พวก​เจ้ามองเห็น​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด