จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 425 สำรวจหุบเขาอเวจียามดึก

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 425 สำรวจหุบเขาอเวจียามดึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 425 สำรวจ​หุบเขา​อเวจี​ยามดึก​

ฉู่ชวิ๋น​ดวงตา​เป็นประกาย​วาว​โรจน์​

“คุณ​กำลังจะ​บอก​ว่าที่​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​มัน​หา​ผม​เจอ​ได้​ ก็​เพราะ​คุณ​คนเดียว​เลย​สินะ​”

อ๋า​วฮวง​นิ่งเงียบ​ ก่อน​จ้องมอง​ชายหนุ่ม​ด้วย​แววตา​เหยียดหยาม​ “นี่​เจ้ายัง​ไม่สำนึก​บุญคุณ​อีก​เหรอ​? ถ้าไม่เป็น​เพราะ​ข้า​ ป่านนี้​เจ้าคง​มีพันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​เส้นใหญ่​กว่า​นี้​ไป​แล้ว​”

“เหลวไหล​ ผม​อยู่​ที่​ดินแดน​เซียน​มา 3,000 ปี​ ไม่เห็น​รู้เรื่อง​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​อะไร​เลย​ แถมผม​ก็​กลับมา​อยู่​โลก​มนุษย์​ตั้ง​หลาย​ปี​ก็​ไม่เห็นจะ​เป็น​อะไร​ ถ้าไม่ใช่เพราะว่า​มาพบ​เจอ​ตัว​ซวย​อย่าง​คุณ​ พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​มัน​จะหา​ผม​เจอ​ได้​ยังไง​?” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​ความ​ฉุนเฉียว​

“เพราะว่า​เจ้ามัน​โชคดี​ยังไง​ละ​ พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ที่อยู่​ใน​ร่าง​เจ้าบาง​ยิ่งกว่า​เส้น​ผม​เสีย​อีก​ ถ้าเจ้าเจอ​เส้นใหญ่​มากกว่า​นี้​ มีหวัง​ได้​มุด​กลับ​ไป​อยู่​ใน​ท้อง​แม่แล้ว​”

“โชคดี​บ้าบอ​อะไร​กัน​ ทีนี้​ผม​ก็​ไม่ต่าง​จาก​พวก​สัตว์เลี้ยง​ใน​ฟาร์ม​ปศุสัตว์​ที่​รอ​วัน​โดน​เชือด​”

“เจ้ารู้​อะไร​ไหม​? โซ่ของ​เจ้าไม่เหมือน​โซ่ของ​ข้า​ ตอนนี้​เบื้องบน​รับรู้​ว่าแล้ว​เจ้ามีพันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​อยู่​ใน​ร่างกาย​ พวกเขา​เลย​ไม่สนใจ​อะไร​เจ้าอีก​ ไม่งั้น​เจ้าคิด​หรือว่า​ การ​ที่​กลับมา​อยู่​บน​โลก​มนุษย์​เพียงแค่​ 20 กว่า​ปี​ ก็​เลื่อน​ระดับ​พลัง​มาอยู่​ขั้น​แก่นแท้​ลมปราณ​ช่วง​กลาง​แล้ว​ ถ้าเบื้องบน​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​คิด​หรือว่า​พวก​มัน​จะปล่อย​เจ้าไป​? ถ้าพวก​มัน​รู้​คง​ได้​เตรียม​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​เส้นใหญ่​ ๆ เอาไว้​ให้​เจ้าแน่​ ถ้าเป็น​เช่นนั้น​ ต่อให้​เจ้าฝึก​แทบตาย​ ก็​ไม่มีทาง​คืบหน้า​ไป​ไหน​ได้​หรอก​นะ​”

“อย่า​บอก​นะ​ว่า​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​แบ่งแยก​ความ​แข็งแกร่ง​และ​อ่อนแอ​ จาก​ความ​หนา​ของ​สายโซ่​?”

“ถามอะไร​โง่ ๆ ท่อน้ำ​ขนาดใหญ่​ ย่อม​สามารถ​ลำเลียง​น้ำ​ได้​เร็ว​กว่า​ท่อน้ำ​ขนาดเล็ก​อยู่แล้ว​? เรื่อง​นี้​แม้แต่​คนปัญญาอ่อน​ยัง​เข้าใจ​”

ฉู่ชวิ๋น​นิ่งเงียบ​ คิดดู​แล้ว​นั่น​ก็​เป็น​ความจริง​

แต่​ชายหนุ่ม​ไม่ทันสังเกต​ว่า​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​กำลัง​ยิ้มมุมปาก​

“ช่างเถอะ​ ยัง​เร็ว​เกินไป​สำหรับ​เจ้าที่จะ​มาพูดคุย​เรื่อง​นี้​ ห่วง​เรื่อง​ที่จะ​ต้อง​ไป​บุก​หุบเขา​อเวจี​ก่อน​ดีกว่า​”

“เร็ว​เกินไป​อะไร​ล่ะ​ ผม​อุตส่าห์​ฝันหวาน​ว่า​ถ้าได้​เลื่อน​พลัง​ถึงขั้น​สร้าง​กาย​ทิพย์​เมื่อไหร่​ จะได้​เข้าใกล้​ความ​เป็น​เซียน​แล้ว​กลับ​สู่ขั้น​นิรันดร์​ แต่​ตอนนี้​ทุกอย่าง​พังทลาย​หมด​แล้ว​”

“คน​ที่จะ​กลับเป็น​ขั้น​นิรันดร์​ได้​น่ะ​ มัน​ข้า​ต่างหาก​ ไม่ใช่เจ้า”

“อะไร​ จะมาอวด​กัน​งั้น​เหรอ​?” ฉู่ชวิ๋น​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​

“เหอะ​ เจ้าหนู​ โซ่ที่อยู่​ใน​ตัว​เข้า​ มัน​น่ากลัว​มากกว่า​ของ​เจ้ามาก​นัก​ แต่​ข้า​ก็​ไม่เคย​หวั่นเกรง​ แล้ว​เจ้าจะเป็นกังวล​ไป​ทำไม​? บางที​ตอนที่​เจ้าเลื่อน​ระดับ​ถึงขั้น​สร้าง​กาย​ทิพย์​ ข้า​อาจ​ค้นพบ​วิธี​แก้ไข​แล้ว​ก็ได้​”

“งั้น​ก็​รีบ​หา​วิธี​แก้​ให้​เจอ​เร็ว ๆ​ เลย​ ผม​ไม่อยาก​ติด​อยู่​ใน​ขั้น​สร้าง​กาย​ทิพย์​ตลอดกาล​แถมยัง​ต้อง​หดหัว​อยู่​แต่​ใน​คฤหาสน์​ทั้งวันทั้งคืน​ ออก​ไป​ไหน​ก็​ไม่ได้​”

อ๋า​วฮวง​ขึงตา​มอง​ พูดว่า​ “เจ้าหนู​ เจ้ากำลัง​เหน็บแนม​ใคร​อยู่​หรือเปล่า​?”

“ก็​แค่​พูด​ลอย ๆ​ ต่างหาก​!” ฉู่ชวิ๋น​ยิ้ม​ด้วย​ความ​สะใจ

เมื่อ​เห็น​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​ยัง​ยิ้ม​ได้​ จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ชายหนุ่ม​ไม่เป็นไร​ ฉู่ชวิ๋น​นับว่า​มีจิตใจ​ที่​แข็งแกร่ง​ คง​ไม่มีอะไร​ต้อง​เป็นห่วง​แล้ว​

แต่​จริง ๆ​ แล้ว​ฉู่ชวิ๋น​กังวล​ไม่น้อย​ เขา​เลือก​ที่จะ​ไม่แสดง​ออกมา​เท่านั้น​ไม่ว่า​ใคร​ต่าง​ก็​ต้อง​กลัว​ความตาย​ แม้แต่​ฉู่ชวิ๋น​ก็​ไม่มีข้อยกเว้น​

อ๋า​วฮวง​ถูก​จองจำ​อยู่​ที่นี่​มาหลาย​พันปี​แล้ว​ แต่​ก็​ยัง​คิด​หา​หนทาง​แก้ไขปัญหา​เรื่อง​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ไม่ได้​ มัน​เป็นปัญหา​ที่​ยากเย็น​แสนเข็ญ​ไม่ต้อง​บอก​เขา​ก็​รู้ดี​

ถ้าบรรดา​เซียน​หรือ​เทพ​ที่อยู่​เบื้องบน​สั่งการ​ให้​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​คอย​ขัดขวาง​ทุก​วิถีทาง​ไม่ให้​เขา​เลื่อน​ระดับ​พลัง​ได้​สำเร็จ​ แล้ว​เขา​จะทำ​ยังไง​?

ฉู่ชวิ๋น​หัวใจ​กระตุก​วูบ​ ถ้าเป็น​แบบนี้​ต่อไป​ เขา​คง​ไม่มีทาง​กลับ​ไป​อยู่​ขั้น​นิรันดร์​เหมือน​เมื่อก่อน​ได้​อีกแล้ว​

พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​มัน​เป็นปัญหา​ที่​ไร้​ทางแก้​จริง ๆ​

อ๋า​วฮวง​ไม่ใช่ตัว​โง่งม ฉู่ชวิ๋น​มอง​ชาย​ชรา​ที่นั่ง​อยู่​โดดเดี่ยว​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ แต่​ก็​รู้ดี​ว่า​จิตใจ​ของ​อ๋า​วฮวง​ยาก​ที่จะ​สงบนิ่ง​ได้​

ถ้าหาก​วันพรุ่งนี้​เขา​ต้อง​ตาย​ จะมีใคร​มาเป็นเพื่อน​อ๋า​วฮวง​อีก​?

เดิมที​การ​ฝึก​วิชา​สาย​เซียน​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ฝืน​ชะตา​ฟ้าลิขิต​อยู่แล้ว​ มนุษย์​เกิด​มาเพื่อ​เกิด​แก่​เจ็บ​ตาย​ แต่​การ​ฝึก​วิชา​สาย​เซียน​จะนำมาซึ่ง​การ​มีชีวิต​อมตะ​ ไร้​ข้อจำกัด​ของ​กฎเกณฑ์​จาก​มนุษย์​โลก​ แถมยัง​เดิน​ทางข้าม​มิติ​ได้​ตามใจชอบ​

แต่​เมื่อ​มีพันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​คอย​ตัดกำลัง​ ทันทีที่​ฉู่ชวิ๋น​ได้​ก้าว​สู่ขั้น​สร้าง​กาย​ทิพย์​ นั่น​ก็​คง​เป็น​จุดสิ้นสุด​ของ​หนทาง​ฝึก​วิชา​ ซึ่งคง​มีเพียง​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​ที่จะ​ยอม​รับได้​

“ไอ้​หนู​ ข้า​ว่า​เจ้าคิด​มากเกินไป​แล้ว​นะ​” อ๋า​วฮว​งอด​พูด​ออกมา​ไม่ได้​

ฉู่ชวิ๋น​หันกลับ​ไป​มอง​แล้ว​ฝืนยิ้ม​ “จริงอยู่​ที่​ตอนนี้​ผม​มีพลัง​แค่​ระดับ​แก่นแท้​ลมปราณ​ หนทาง​สู่ขั้น​นิรันดร์​ยังคง​อีก​ยาว​ไกล​ ยัง​เร็ว​เกินไป​ที่จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​จริงๆ​”

“ข้า​ไม่ได้​หมายความ​แบบ​นั้น​” อ๋า​วฮวง​ว่า​ “อย่า​ลืม​สิว่า​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ไม่สามารถ​ดูดซับ​ลมปราณ​จำแลง​ได้​ ตอนนี้​เจ้าก็​ใช้ลมปราณ​จำแลง​อยู่​ไม่ใช่หรือ​?”

“ลมปราณ​จำแลง​” ฉู่ชวิ๋น​มีแววตา​สดใส​ขึ้น​มาแล้ว​

อ๋า​วฮวง​พยักหน้า​ “ใช่ ถ้าเจ้าใช้ลมปราณ​จำแลง​ใน​การฝึกฝน​ พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ก็​ทำ​อะไร​เจ้าไม่ได้​ จริง​ไหม​?”

“จริง​ด้วย​!” ฉู่ชวิ๋น​ยกมือ​กุม​หน้าอก​ ดวงตา​เป็นประกาย​สว่างไสว​ “ถ้าผม​ใช้ลมปราณ​แบบ​เดิม​ พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ก็​จะดูด​ลมปราณ​ไป​จน​หมด​ แต่​ถ้าใช้ลมปราณ​จำแลง​ พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ก็​ทำ​อะ​ไรผม​ไม่ได้​แล้ว​”

“ถูกต้อง​” อ๋า​วฮวง​เอง​ก็​พูด​ออกมา​อย่าง​มีความหวัง​เช่นกัน​ “ดูเหมือนว่า​พวกเรา​จะมาถูก​ทาง​แล้ว​”

เมื่อ​รู้​อย่างนี้​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​รู้สึก​เบาใจ​ขึ้น​มาก​

จิงหง​ยิ้ม​ออกมา​เบา​ ๆ เรื่อง​ที่​ฉู่ชวิ๋น​มีพันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​อยู่​ใน​ร่างกาย​เธอ​รู้​แล้ว​ แต่​จิงหง​ไม่ใช่หญิงสาว​ทั่วไป​ เธอ​เลือก​ที่จะ​เก็บ​ความกังวลใจ​ไว้​กับ​ตัวเอง​

ใน​ขณะนี้​ แม้แต่​เธอ​ก็​อด​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ไม่ได้​

“ตา​เฒ่า ผม​สัญญาว่า​ถ้ากลับ​สู่ขั้น​นิรันดร์​เมื่อไหร่​ สิ่งแรก​ที่​ผม​จะทำ​ก็​คือ​เอา​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​ออกจาก​ตัว​คุณ​ซะ” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​แววตา​มุ่งมั่น​ มีเป้าหมาย​คือ​การ​ท้าทาย​สวรรค์​ จะเซียน​หรือ​เทพ​ก็​ไม่สมควร​ทำ​แบบนี้​!

ครืน​!

ทันใดนั้น​เอง​ ที่พัก​ของ​อ๋า​วฮวง​พลัน​สั่นสะเทือน​

ต้อง​ใช้เวลา​อีกสักครู่​ใหญ่​กว่า​ทุกอย่าง​จะกลับมา​เป็นปกติ​ ดูเหมือนว่า​เหตุการณ์​เมื่อ​สักครู่​นี้​จะทำให้​อ๋า​วฮวง​มีสีหน้า​แปร​เปลี่ยนไป​ไม่น้อย​

“ไอ้​หนู​ เก็บ​เรื่อง​นี้​ไว้​พูด​ทีหลัง​เถอะ​!”

ฉู่ชวิ๋น​รู้​แล้ว​ว่า​เรื่อง​นี้​มีความสำคัญ​มาก​แค่​ไหน​ จึงรีบ​พยักหน้า​รับคำ​อย่าง​แข็งขัน​

นับ​จาก​วันนี้​ไป​ เขา​จะปิด​ตา​สวรรค์​ด้วย​การ​ใช้พลัง​ลมปราณ​จำแลง​ และ​ใช้มันปู​ทาง​ไป​สู่หนทาง​แห่ง​การ​ท้าทาย​สวรรค์​

สักวัน​ เขา​จะเปลี่ยน​ร่าง​จาก​ปลา​คาร์​ฟใน​บ่อน้ำ​ กลายเป็น​พญา​มังกร​!

ฉู่ชวิ๋น​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​แล้ว​ พลัง​ลมปราณ​จำแลง​เป็น​เพียง​ทางออก​เดียว​เท่านั้น​ เขา​ไม่มีทางเลือก​นอกจาก​กัดฟัน​สู้ต่อไป​

เมื่อ​คิดไปคิดมา​ ชายหนุ่ม​ก็​อด​สงสาร​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ขึ้น​มา ชาย​ชรา​ต้อง​หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ที่​แห่ง​นี้​มาหลาย​พันปี​ เนื่องจาก​มีฝีมือ​เก่งกาจ​มากเกินไป​จึงถูก​สวรรค์​หมายหัว​ ถ้าจักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ฝ่าฝืน​กฎ​สวรรค์​ ออกมา​ต่อสู้​ การ​ลงทัณฑ์​ที่​ตาม​มาจาก​สวรรค์​ก็​คือ​ ภูเขา​และ​แม่น้ำ​จะถูก​ทำลาย​ เมืองหลวง​ของ​ประเทศ​จีน​ก็​จะกลายเป็น​เพียง​ซากปรักหักพัง​

อ๋า​วฮวง​ต้อง​ทุกข์ทรมาน​ใจมากกว่า​ตัว​เขา​เอง​หลายเท่า​นัก​

ฉู่ชวิ๋น​ส่าย​ศีรษะ​ไล่​ความคิด​ฟุ้งซ่าน​ เรื่อง​พันธนาการ​แห่ง​ท้องฟ้า​คง​ต้อง​พัก​เอาไว้​ก่อน​ ปัญหาเฉพาะหน้า​ตอนนี้​ คือ​การ​เดินทาง​ไป​ยัง​หุบเขา​อเวจี​ต่างหาก​

แล้ว​ทั้ง​สามคน​ก็​ปรึกษาหารือ​กัน​อีกครั้ง​ เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​ไม่มีอะไร​ตกหล่น​อีกแล้ว​ หลังจากนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ออกเดินทาง​มาอย่าง​รวดเร็ว​

จิงหง​แวะ​กลับ​ไป​ที่​วัง​มังกร​เพลิง​ รวบรวม​นักรบ​มังกร​เงิน​สี่คน​ แล้ว​นำ​ตัว​ไป​ส่งที่​สำนัก​ภูผา​ทมิฬ​

ทาง​ฉู่ชวิ๋น​เดินทาง​มาส่งหลง​อี้​กับ​หลง​เอ้อร์​ เพื่อ​ทำหน้าที่​อารักขา​หัวหน้า​หมายเลข​หนึ่ง​

หัวหน้า​หมายเลข​หนึ่ง​ ทราบ​เรื่อง​ที่​ฉู่ชวิ๋น​ต้อง​เดินทาง​ไป​ยัง​หุบเขา​อเวจี​แล้ว​

พวกเขา​พูดคุย​กัน​เพียง​พอเป็นพิธี​ หลังจากนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ร่ำลา​หลง​อี้​กับ​หลง​เอ้อร์​ ก่อน​เดินทาง​จาก​มา

เมื่อ​จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดีแล้ว​ ฉู่ชวิ๋น​จึงได้​เริ่ม​ออกเดินทาง​ไป​ยัง​หุบเขา​อเวจี​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่ได้​เดินทาง​มาพร้อมกับ​จิงหง​ เขา​กับ​เธอ​ใช้เส้นทาง​คนละ​สาย​

จิงหง​มีภารกิจ​คอย​สังเกตการณ์​อยู่​รอบ​ ๆ หุบเขา​อเวจี​

ฉู่ชวิ๋น​เดินทาง​โดย​การ​แปลง​โฉมตัวเอง​กลายเป็น​ชายหนุ่ม​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​

ตลอดทาง​ ฉู่ชวิ๋นพบ​เจอ​จอม​ยุทธ์​จำนวนมาก​กำลัง​รีบรุด​เดินทาง​ไป​ยัง​หุบเขา​อเวจี​

นัด​ชุมนุม​ล่า​ปีศาจ​

นับ​เป็น​เหตุการณ์​ที่​หา​ยาก​ใน​รอบ​ 100 ปี​ ย่อม​ดึงดูด​ความสนใจ​ผู้คน​เป็นธรรมดา​

ฉู่ชวิ๋น​มาถึงที่หมาย​ใน​เวลา​ 1 วัน​

ไม่ไกล​จาก​หุบเขา​อเวจี​เท่าไหร่​นัก​ เป็นที่ตั้ง​ของ​เมืองร้าง​แห่ง​หนึ่ง​ แต่​เมืองร้าง​แห่ง​นั้น​ใน​ขณะนี้​มีชีวิตชีวา​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​ปรากฏตัว​ใน​เมือง​ด้วย​รูปลักษณ์​ของ​ชายหนุ่ม​หน้าตา​ธรรมดา​ ไม่ได้​ดึงดูด​ความสนใจ​ผู้ใด​

ที่นี่​ห่าง​จาก​หุบเขา​อเวจี​หลาย​สิบ​กิโลเมตร​ สอง​ใน​สามของ​ทางเข้า​ ต้อง​ผ่าน​บึง​น้ำ​ที่​เต็มไปด้วย​หมอก​ควันพิษ​

ฉู่ชวิ๋น​ใช้เวลา​ให้​เป็นประโยชน์​ ด้วย​การ​เก็บ​ข้อมูล​จาก​บรรดา​ผู้คน​ที่อยู่​รอบตัว​

เมื่อ​ถึงยามดึก​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ตัดสินใจ​เข้าไป​สำรวจ​หุบเขา​อเวจี​

ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ว่า​ชายหนุ่ม​หน้าตา​ธรรมดา​คน​นึง​ได้​หายตัว​ไป​

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​เข้าไป​ใน​ป่า​เพียงลำพัง​ เข้าสู่​อาณาเขต​ของ​บึง​น้ำ​

ยาม​ราตรี​มีหมอก​ลอยตัว​หนา​ ผืนป่า​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ม่าน​ควัน​สีเขียว​ครึ้ม​ ถ้าสูด​หายใจ​เข้าไป​จะทำให้​มองเห็น​ภาพหลอน​และ​ไม่สามารถ​ควบคุม​ตัวเอง​ได้​

นอกจากนั้น​ ใน​บึง​น้ำ​แห่ง​นี้​ยัง​เต็มไปด้วย​สัตว์​มีพิษ​หลายชนิด​ รวมถึง​บรรดา​มด​และ​แมลง​ด้วย​เช่นกัน​

และ​ใน​จังหวะ​ที่​ฉู่ชวิ๋น​กำลังจะ​เหยียบ​เท้า​ลง​ไป​ใน​บึง​น้ำ​นั้น​เอง​ จระเข้​ยักษ์​ตัว​หนึ่ง​ที่​มีความ​ยาว​มากกว่า​ 10 เมตร​ ก็​อ้า​ปากกว้าง​ โผ​พุ่ง​เข้ามา​หมาย​จะกัด​เขา​ให้​ตายคาที่​

ถ้าเป็น​ผู้​คนธรรมดา​ คง​ต้อง​ลง​ไป​อยู่​ใน​ท้อง​จระเข้​เรียบร้อย​แล้ว​

แต่​ฉู่ชวิ๋น​สะบัดมือ​ซัด​ลมปราณ​ออก​ไป​ เลือดสาด​กระจาย​ออก​มาจาก​ตัว​ของ​จระเข้​

ฉู่ชวิ๋น​เดินหน้า​ต่อไป​ แต่​เดิน​มาได้​เพียงแค่​ไม่กี่​ก้าว​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​การเคลื่อนไหว​ดัง​ขึ้น​ที่​ด้านหลัง​ เมื่อ​หันไป​มอง​หนัง​หัว​ก็​ชายิบ​ ไม่ใช่เพราะ​ความกลัว​ แต่​เป็น​เพราะ​ความ​ขนหัวลุก​

จระเข้​ยักษ์​ที่​ตาย​ไป​เมื่อ​สักครู่​นี้​ บัดนี้​กำลัง​ถูก​กลุ่ม​มด​ที่​มีขนาด​ตัว​เท่ากับ​นิ้วหัวแม่มือ​รุม​กัด​กิน​ เพียง​พริบตาเดียว​ จระเข้​ยักษ์​ที่​มีขนาด​ลำตัว​กว่า​ 10 เมตร​ ก็​เหลือ​เพียงแต่​โครงกระดูก​เท่านั้น​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่อยาก​มีปัญหา​อีก​ จึงรีบ​เดิน​หนี​ออกมา​

แต่​ไม่นาน​หลังจากนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​เหยียบ​เท้า​ลง​ไป​บน​ต้นไม้​ที่​โค่นล้ม​ลงมา​ต้น​หนึ่ง​ แต่​ความจริง​แล้ว​มัน​กลับเป็น​งูเหลือม​ขนาด​ยักษ์​ มีลำตัว​เท่ากับ​ถังน้ำหนึ่ง​ใบ​ แต่​ที่​น่าขนลุก​ที่สุด​ก็​คือ​เขี้ยว​ทั้งสอง​ข้าง​ที่​งอก​ออก​มาจาก​ปาก​ ดู​ดุร้าย​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​หลง​เข้าใจผิด​ คิด​ว่า​มัน​เป็น​เพียง​ต้นไม้​ที่​ล้ม​ลงมา​ เพิ่ง​มารู้​ว่า​มัน​เป็น​งูตัว​หนึ่ง​ก็​ตอนนี้​เอง​

งูเหลือม​ยักษ์​ขดตัว​แล้ว​สะบัด​หาง​ฟาด​ใส่ฉู่ชวิ๋น​

ฉู่ชวิ๋น​กระโดด​ตีลังกา​หนี​มาตั้งหลัก​ไกล​ 100 เมตร​

หาง​ของ​งูยักษ์​ฟาด​เข้าใส่​ต้นไม้​โบราณ​ที่อยู่​ข้างทาง​ ต้นไม้​ต้น​นั้น​มีลำต้น​หนา​เท่ากับ​เอว​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ เมื่อ​ถูก​หาง​งูฟาด​เข้าไป​ ก็​โค่นล้ม​ลงมา​แตก​กระจาย​เป็น​เสี่ยง​

เห็นได้ชัด​ว่า​งูยักษ์​ตัว​นี้​มีพละกำลัง​มหาศาล​

มัน​เห็น​ฉู่ชวิ๋น​ถอย​หนี​ไป​ตั้ง​ไกล​ ก็​ยกตัว​สูงขึ้น​ แล้ว​พ่น​สิ่งที่​เหมือน​น้ำ​พิษ​ออก​มาจาก​ปาก​

ฉู่ชวิ๋น​กระโดด​หนี​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​อีกครั้ง​

น้ำ​พิษ​ราด​รด​ลง​ไป​บน​ก้อนหิน​ใหญ่​ แล้ว​หิน​ก้อน​นั้น​ก็​ถูก​กัดกร่อน​จน​ละลาย​หาย​ไป​ในทันที​

ฉู่ชวิ๋น​ยก​มือขึ้น​ ตวัด​ลมปราณ​ที่​เป็น​รูปทรง​ดาบ​ออก​ไป​

ค​วับ​!

ประกายไฟ​สาด​กระจาย​ เกล็ด​ที่อยู่​บน​ลำตัว​งูเหลือม​ยักษ์​ตัว​นี้​แข็งแกร่ง​เหมือน​เหล็กกล้า​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ต้านทาน​ดาบ​ลมปราณ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ได้​ หาง​ของ​งูยักษ์​จึงถูก​ตัดขาด​

งูยักษ์​ส่งเสียงร้อง​คำราม​ในขณะที่​ดิ้น​พล่าน​ด้วย​ความเจ็บปวด​และ​บ้าคลั่ง​ ต้นไม้​โบราณ​และ​ก้อนหิน​ขนาดใหญ่​ที่​ตั้งอยู่​รายรอบ​กระจัดกระจาย​จาก​แรง​ฟาด​ของ​มัน​

ฉู่ชวิ๋น​ตวัด​ดาบ​ลมปราณ​ตัด​ไป​ที่​หัว​งู อย่าง​ไม่ลังเล​

หลัง​ฆ่างูยักษ์​ ชายหนุ่ม​ก็​ถอย​ไป​สังเกตการณ์​จาก​ระยะไกล​หลาย​ร้อย​เมตร​

แต่​ตำแหน่ง​ที่​เขา​ถอย​มายืน​อยู่​ตอนนี้​ กลับ​เป็นที่ตั้ง​ของ​รัง​แมงมุมดำ​ตัว​หนึ่ง​ แมงมุมตัว​นี้​มีขนาดใหญ่​ยักษ์​ กำลัง​ห้อย​ตัว​ลง​มาจาก​กลางอากาศ​

แมงมุมเป็น​สิ่งมีชีวิต​ที่จะ​ประมาท​ไม่ได้​เลย​สัก​นิดเดียว​ มัน​มักจะ​เลือก​จังหวะ​โจมตี​ได้​ถูกที่​ถูก​เวลา​เสมอ​

ถ้าเปลี่ยนเป็น​คนธรรมดา​ แมงมุมยักษ์​ตัว​นี้​คง​ได้​เขมือบ​หัว​ฉู่ชวิ๋น​ไป​แล้ว​

แต่​แมงมุมยักษ์​ตัว​นี้​มีสติปัญญา​ เมื่อ​ไตร่ตรอง​ดู​แล้ว​คิด​ว่า​ไม่น่าจะ​ล่า​เหยื่อ​ได้​สำเร็จ​ มัน​ก็​รีบ​ดึง​ใยแมงมุม​กลับ​แล้ว​รอ​ดูท่าทาง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​

ฉู่ชวิ๋น​ดีดนิ้ว​มือหนึ่ง​ครั้ง​ เส้น​ไหม​สีขาว​ก็​พุ่ง​ออก​ไป​ตัด​ใยแมงมุม​เข้า​พอดี​

โครม​!

แมงมุมยักษ์​ร่วง​ลง​มาจาก​กลางอากาศ​ กระแทก​พื้นดิน​กลายเป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​

แมงมุมยักษ์​มีขา​อยู่​ทั้งหมด​แปด​ข้าง​ ใน​ขณะนี้​ขา​หัก​ไป​สอง​ข้าง​ แต่​มัน​ก็​ยัง​สามารถ​ใช้ขา​อีก​หก​ข้าง​ที่​เหลืออยู่​ วิ่งหนี​ไป​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

ฉู่ชวิ๋นอด​ยิ้ม​ออกมา​ไม่ได้​ เจ้าแมงมุมตัว​นี้​ฉลาด​เกินไป​แล้ว​

ตลอด​เส้นทาง​ ฉู่ชวิ๋น​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตนเอง​เผชิญหน้า​สัตว์ประหลาด​ไป​กี่​ชนิด​และ​ฆ่าพวก​มัน​ตาย​ไป​กี่​ตัว​ แม้แต่​ไส้เดือน​ที่อยู่​ใต้​พื้นดิน​ก็​มีขนาด​เท่ากับ​ขา​คน​ มัน​ยังมี​กะ​จิต​กะ​ใจพุ่ง​ขึ้น​มาเล่นงาน​เขา​ ไม่ต่าง​จาก​งูที่​รอ​คอยจังหวะ​โจมตี​เหยื่อ​เลย​สักนิด​

แต่​ในที่สุด​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​มาถึงหุบเขา​อเวจี​ได้​อย่าง​ปลอดภัย​ เขา​เงยหน้า​มอง​ความสูง​ของ​ยอดเขา​ รู้สึก​เหมือนกับ​ว่า​หุบเขา​แห่ง​นี้​เป็น​เหมือน​อสูร​ร้าย​ที่​รอ​ให้​เหยื่อ​เดิน​เข้าไป​ติดกับดัก​

เมื่อ​ปล่อย​คลื่น​พลังจิต​ออก​ไป​สำรวจ​ ฉู่ชวิ๋น​จึงได้​พบ​ว่า​หุบเขา​แห่ง​นี้​วาง​กำลัง​เวร​ยาม​ไว้​อย่าง​แน่นหนา​

แต่​เวร​ยาม​เหล่านั้น​ก็​หยุด​เขา​ไม่ได้​หรอก​ เนื่องจาก​หุบเขา​แห่ง​นี้​กว้างใหญ่​มากเกินไป​ การ​จะพบ​เจอ​คน​ผู้​หนึ่ง​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ง่ายดาย​นัก​

ฉู่ชวิ๋น​ค้นหา​เส้นทาง​ไป​ต่อ​แล้วแต่​จะมัน​เรียก​ว่า​ถนน​ก็​กระดากปาก​ ที่​เขา​พบ​เป็น​เพียง​แท่น​วาง​เท้า​ที่​ฝังติด​อยู่​กับ​กำแพง​หิน​ ฉู่ชวิ๋น​ล้วง​ตะขอ​เกี่ยว​สำหรับ​ปีน​หน้าผา​ออกมา​ และ​เริ่มต้น​ปีนป่าย​หน้าผา​หิน​ขึ้นไป​ด้วย​ความว่องไว​

หน้าผา​หิน​มีลักษณะ​เรียบ​ลื่น​ ไม่เป็นผลดี​กับ​ฉู่ชวิ๋น​สัก​เท่าไหร่​ เขา​ใช้มัน​เป็น​เพียง​จุด​ส่งแรง​เท่านั้น​ ชายหนุ่ม​ทิ้ง​น้ำหนัก​ลง​ไป​ที่​ปลายเท้า​แล้ว​ตัว​คน​ก็​ทะยาน​ขึ้น​สูงไป​หลาย​สิบ​เมตร​ใน​ครั้ง​เดียว​ ก่อนที่​เท้า​ของ​เขา​จะสัมผัส​ลง​บน​ขั้น​วาง​เท้า​อีก​จุด​หนึ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​ก้มหน้าก้มตา​ปีนป่าย​ขึ้นไป​สู่ยอดเขา​ โดย​เลิก​นับ​ไป​แล้ว​ว่า​ยัง​เหลือ​เส้นทาง​อีก​ไกล​แค่​ไหน​กว่า​จะถึงยอด​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด