ตอนที่ 800 ความเปลี่ยนแปลง!

 

 

แต่บัดนี้มันไม่ฟังดูเกินจริงนัก พวกเขาพบฐานปล่อยยานแล้วข้อสันนิษฐานนี้จะยากเกินกว่าจะยอมรับได้จริงหรือ

 

 

คำถามที่เหลืออยู่คือ พวกเขากำลังทำอะไรในอวกาศ!

 

 

“ไปกันเถอะ ฉันต้องการไปที่หอสังเกตการณ์เพื่อดูว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้นบนนั้น” ซิงเหอกล่าวขึ้นอย่างฉับพลัน

 

 

มู่ไป๋สนับสนุนความคิดหลุดโลกของเธอ “โอเค ไปกันเลย”

 

 

อีเฉินอึ้ง “คุณสองคนคิดว่ามีคนอยู่บนนั้นจริงงั้นเหรอ”

 

 

“ต้องเป็นแบบนั้น” ซิงเหอพูดอย่างมั่นใจ ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นและไม่มีใครคิดจะหยุดยั้ง เพียงแต่…

 

 

“ผลึกพลังงานพวกนั้นเพียงพอที่จะส่งคนขึ้นไปบนอวกาศจริงเหรอ” อีเฉินถามอย่างเหลือเชื่อ

 

 

“เราจะได้รู้หลังจากที่เราไปตรวจสอบ” ซิงเหอเปิดประตูและสาวเท้าออกไป เธอไม่อยากเสียเวลาไปกับการคุยเพราะเธอเป็นคนที่ลงมือทำ มู่ไป๋ช่วยเธอติดต่อชุยเชี่ยนและอธิบายแนวคิดคร่าวๆ ของพวกเขาให้ชุยเชี่ยนฟัง แม้ว่าชุยเชี่ยนจะตกตะลึงแต่เขาก็เลือกที่จะสนับสนุน บางทีพวกซิงเหออาจจะสามารถค้นพบบางสิ่งก็ได้

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ชุยเชี่ยนคิดถึงอะไรบางอย่าง เขาบอกกับซิงเหอว่าเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน ตระกูลเฮ่อหลานได้ให้กำเนิดอัจฉริยะขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ช่วยออกแบบดาวเทียมและทำให้ประเทศ R สามารถส่งดาวเทียมดวงแรกของตัวเองขึ้นไปสู่อวกาศได้ คนคนนั้นทำการวิจัยอยู่ที่ฐานปล่อยดาวเทียมนับแต่นั้น แต่หลังจากเวลาผ่านไปได้สักพัก เขาก็หายตัวไปโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า มีข่าวลือว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว

 

 

ชุยเชี่ยนมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการของตระกูลเฮ่อหลานอย่างมากแน่นอน ดังนั้นบางทีพวกเขาอาจจะกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในอวกาศจริงๆ ก็ได้

 

 

หลังจากที่ซิงเหอได้ฟังชุยเชี่ยน เธอก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ซิงเหอรีบรุดไปยังหอสังเกตการณ์ ผู้คนที่หอสังเกตการณ์ได้รับการแจ้งล่วงหน้าถึงการมาของพวกเธอไว้แล้วและรีบนำทางพวกเธอไปยังหอดูดาวทันทีที่พวกเธอเดินทางมาถึง

 

 

“พวกเราเฝ้าสังเกตการณ์ในอวกาศมานานหลายปีแต่ไม่มีอะไรผิดปกติ ความน่าสงสัยต่างๆ ที่พวกเราบันทึกได้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องตามธรรมชาติ ดังนั้นหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น พวกเราจะต้องค้นพบไปแล้ว” ผู้ดูแลที่หอสังเกตกาณ์บอกกับกลุ่มของซิงเหอ ซิงเหอมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนอันงดงามบนจอภาพและไม่พูดอะไร

 

 

มู่ไป๋ถามผู้ดูแลคนนั้น “ไม่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาเลยอย่างนั้นเหรอ”

 

 

“ไม่ควรมีนะ อย่างน้อยก็ไม่มีเลยในช่วงหลายสิบปีที่ผมทำงานอยู่ที่นี่”

 

 

“แล้วประเทศ R ได้ส่งดาวเทียมขึ้นไปมากเท่าไหร่ในช่วงนั้น” มู่ไป๋ถาม

 

 

“น่าจะเกือบๆ ร้อย ได้แล้ว”

 

 

“คุณเฝ้าติดตามทุกลำระหว่างการปล่อยหรือเปล่า”

 

 

“ใช่ แต่พวกเราจะหยุดติดตามหลังจากพวกมันเข้าสู่วงโคจรแล้ว ก็อย่างที่คุณรู้ว่ามีดาวเทียมอยู่มากมายบนท้องฟ้า เป็นเรื่องยากที่พวกเราจะเฝ้าติดตามพวกมันทั้งหมด”

 

 

“แล้วดาวเทียมส่วนตัวของตระกูลเฮ่อหลานล่ะ พวกคุณได้ติดตามมันเป็นระยะด้วยหรือเปล่า”

 

 

“แน่นอน พวกมันไม่มีอะไรผิดปกติ…”

 

 

มู่ไป๋ถามต่อเป็นชุดและไม่พบอะไร ซิงเหอและอีเฉินพิจารณาท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างขะมักเขม้นเช่นและไม่พบอะไรเช่นกัน นี่หมายความว่าไม่มีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับฐานปล่อยยานเช่นกันอย่างนั้นหรือ

 

 

เป็นไปไม่ได้เพราะตระกูลเฮ่อหลานต้องกำลังทำอะไรอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นดาวเทียมของพวกเขาต้องมีปริศนาอยู่ด้วยเช่นกัน เพียงแต่พวกเขายังบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร ในขณะที่พวกเธอกำลังเสียกำลังใจ ซิงเหอพลันตระหนักได้ถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างบรรดาดาวเทียมในอวกาศ!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 801 ชื่อของผมคือเฮ่อหลานหยวน

 

 

ดาวเทียมฝีมือมนุษย์ราวสิบดวงกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กันอย่างช้าๆ พวกมันขยับเรียงกันเป็นเส้นตรง การเปลี่ยนแปลงนี้น่าสงสัยจนคนอื่นๆ สังเกตเห็นเช่นกัน!

 

 

ทุกคนจ้องมองไปยังบรรดาดาวเทียมที่น่าสงสัยพวกนั้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจและสงสัย

 

 

“กำลังเกิดอะไรขึ้น” อีเฉินถาม ทุกคนที่เหลือส่ายหัวเป็นสัญญาณถึงความสับสนของพวกเขา

 

 

ผู้ดูแลหอสังเกตการณ์เองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน “ดาวเทียมพวกนั้นกำลังทำอะไรกันแน่”

 

 

การเคลื่อนตัวของดาวเทียมนั้นเป็นเหตุการณ์ปกติ แต่พวกมันไม่เคยรวมตัวกันมากขนาดนี้มาก่อน ดาวเทียมประมาณสิบดวงเรียงตัวกันเป็นเส้นตรง หมายความว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

“หรือจะเป็นคนคนนั้น…” อีเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงคลางแคลงใจและประหลาดใจไปพร้อมกัน เขาไม่ได้ระบุตัวตนที่ชัดเจนแต่ทุกคนรู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร แซมขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ต้องเป็นเขาแน่!”

 

 

“ในที่สุดเขาก็เคลื่อนไหวแล้วงั้นเหรอ” อาลิถามอย่างหวาดวิตก คำถามของเธอสร้างความหวาดวิตกให้กับทุกคน นับตั้งแต่ที่เฮ่อหลานหลงพูดว่าจุดจบของโลกกำลังจะมาถึง พวกเขาก็กังวลมาโดยตลอด ช่วงเวลาสงบสุขสองสามวันช่วยทำให้พวกเขารู้สึกสงบลงแต่บัดนี้การเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัยนี้กำลังส่งสัญญาณถึงพวกเขาว่าวันสิ้นโลกอาจจะกำลังมาถึงในที่สุด

 

 

แต่กระนั้นมันเกี่ยวข้องอะไรกับการเคลื่อนตัวของดาวเทียมพวกนี้ล่ะ

 

 

กลุ่มของซิงเหอไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงทำเรื่องนี้ พวกเธอทำได้เพียงจ้องมองไปยังบรรดาดาวเทียมบนจอภาพอย่างใกล้ชิดและรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดาวเทียมเรียงตัวกันเป็นเส้นตรงแล้วกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

ขณะที่พวกเธอกำลังหารือกันว่าจะทำอะไรต่อไป สถานีโทรทัศน์ทั่วโลกก็ถูกควบคุมด้วยสัญญาณหนึ่ง หน้าจอโทรทัศน์ทุกเครื่องเปลี่ยนเป็นภาพเดียวกันทั้งหมด รวมไปถึงหน้าจอโฆษณาขนาดยักษ์ หน้าจอมือถือขนาดเล็กและคอมพิวเตอร์พกพาทั้งหมด พวกมันแสดงภาพเดียวกัน…

 

 

ทุกคนทั่วโลกที่กำลังใช้อินเทอร์เน็ตหรืออยู่ใกล้กับเครื่องมือที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตต่างเห็นในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ ไม่มีใครทันได้ตั้งตัว

 

 

ความจริงแล้ว ปฏิกิริยาแรกของคนส่วนใหญ่คือถูกดึงดูดด้วยภาพของชายในชุดสูทที่มีใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์ซึ่งปรากฏอยู่ในหน้าจอ เขาดูงดงามมากจนแทบพรากเอาลมหายใจของใครหลายคนไปได้อย่างง่ายดาย

 

 

จากนั้นชายคนนั้นเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์และริมฝีปากของเขาเผยอออกเพื่อพูดคำพูดบางอย่างที่แสนบ้าคลั่ง คำประกาศของเขาเหมือนกับระเบิดไฮโตรเจนที่สั่นคลอนความสงบสุขของโลกมนุษย์!

 

 

“ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

 

 

น้ำเสียงอันเย้ายวนและน่าดึงดูดของเขาเริ่มดังขึ้น มันพูดแปลภาษาให้เหมาะสมภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก เมื่อเขาเริ่มพูด ผู้คนที่อยู่หน้าโทรทัศน์หยุดทำงานและจ้องมองมาที่เขาพร้อมอ้าปากค้าง แม้แต่คนที่เดินอยู่บนท้องถนนยังหยุดเดินและเงยหน้าขึ้นมองไปยังจอโฆษณา

 

 

ชายในภาพเผยรอยยิ้มเล็กน้อยราวกับเขาได้คาดการณ์ปฏิกิริยาของทุกคนเอาไว้แล้วและเริ่มพูดต่อ “พวกคุณคงประหลาดใจที่เห็นผมอย่างกะทันหันแบบนี้ แต่ไม่ต้องกลัวนะครับเพราะผมจะเป็นคนปกครองพวกคุณทั้งหมดในอีกไม่ช้า ใช่แล้วครับ พวกคุณได้ยินไม่ผิด ผมพูดว่าปกครอง ตอนนี้ให้ผมได้แนะนำตัวเองง่ายๆ นะครับ ชื่อของผมคือเฮ่อหลานหยวนและผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมเป็นคนที่รับผิดชอบการออกแบบดาวเทียมดวงแรกของประเทศ R และผมได้สร้างอะไรอีกมากมายหลังจากนั้น แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครเคยได้ยินเรื่องพวกนั้น แต่ตอนนี้ผมตัดสินใจที่จะเลิกทำตัวถ่อมตนและประกาศให้โลกรู้ถึงผลลัพธ์ของการวิจัยที่ผมได้ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา”