ตอนที่ 808 ไม่มีความกล้า

 

 

“ไม่มีข้อแก้ตัว คุณต้องฟังคำสั่งของผม คุณไม่มีตัวเลือก!”

 

 

ซิงเหอสะดุ้ง นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ไป๋พูดออกคำสั่งและแสดงท่าทีไร้อารมณ์กับเธอเช่นนี้ แต่กระนั้นซิงเหอไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะเธอเข้าใจดีว่าเขาเพียงแค่เป็นห่วงเธอเท่านั้น

 

 

มู่ไป๋นั่งลงข้างๆ เธอและตักอาหารใส่จานของเธอด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่เขาเป็นเช่นนั้นได้ไม่นาน ท่าทีของเขาก็อ่อนลงและพูดกับหญิงสาว “กินให้อร่อยนะ โลกอาจจะกำลังถึงจุดจบแต่สุขภาพของคุณก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่นะ”

 

 

ซิงเหอหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ใครจะมาสนใจสุขภาพตอนที่โลกกำลังจะถึงจุดจบกัน”

 

 

“ผมสนใจ” มู่ไป๋จ้องตาอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีดำเป็นประกายของเขา “ต่อให้โลกนี้กำลังจะถึงจุดจบ ผมก็จะปกป้องคุณและทำให้คุณรอด ดังนั้นสุขภาพของคุณสำคัญสำหรับผมเสมอ”

 

 

“ไม่มีใครปกป้องฉันได้หรอกเพราะเฮ่อหลานหยวนจะต้องฆ่าฉันอย่างแน่นอน” นั่นเพราะซิงเหอเป็นคนทำลายตระกูลเฮ่อหลาน

 

 

ริมฝีปากของมู่ไป๋เผยรอยยิ้มที่ไม่มีความสุขและกล่าวอย่างร้ายกาจ “ก็ให้เขาลองดูสิ! เฮ่อหลานหยวนยังไม่มีความกล้าพอมาเผชิญหน้าพวกเราแบบตัวต่อตัวเลย แค่กล้าพอที่จะป่าวประกาศศักดาของตัวเองมาจากอวกาศ เขาต้องมาที่นี่ถึงจะทำอันตรายอะไรคุณได้ และจำไว้นะว่าตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครหน้าไหนหรือต่อให้เป็นเฮ่อหลานหยวนนั้นมาทำอันตรายอะไรคุณได้ทั้งนั้น”

 

 

แสงประกายแวววาวปรากฏขึ้นในดวงตาของซิงเหอทันที “คุณว่ายังไงนะ”

 

 

มู่ไป๋พูดซ้ำอย่างหนักแน่น “จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณทั้งนั้น ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครหน้าไหนมาทำอันตรายอะไรคุณได้ทั้งนั้น ต่อให้เป็นเฮ่อหลานหยวนก็ตาม”

 

 

“ไม่ ไม่ใช่อันนั้น” ซิงเหอส่ายหัว เธอมองไปที่ชายหนุ่มและกล่าว “คุณพูดว่า เฮ่อหลานหยวนไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับเราแบบตัวต่อตัว แค่กล้าพอที่จะป่าวประกาศศักดาของตัวเองมาจากอวกาศ”

 

 

มู่ไป๋ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้มุ่งเน้นไปที่จุดนั้นแต่เขาพยักหน้ารับ “ถูกต้อง เขาไม่กล้าพอที่จะลงมาที่โลกเพราะถ้าเขามา เขาจะไม่มีทางกลับไปแบบมีชีวิต เว้นเสียแต่ว่าเขาต้องการจะตายไปพร้อมกับโลกใบนี้ ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะคุกคามโลกตรงไหน”

 

 

“คุณพูดถูกเผง!” ซิงเหอคว้าแขนของมู่ไป๋อย่างฉับพลันและแววตาของเธอสะท้อนความตื่นเต้นให้เห็น

 

 

มู่ไป๋ชะงักเพราะปกติแล้วซิงเหอแทบจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

 

 

ซิงเหอหัวเราะด้วยความตื่นเต้น “เขาไม่กล้าลงมาที่โลกเพราะเขากลัวที่จะตาย ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงได้เสียเวลาหลายปีในการจัดเตรียมแผนการบ้าๆ ของเขา เขาไม่อาจปล่อยให้อันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับตัวเองได้เพราะความทะเยอทะยานของเขายังไม่บรรลุผล”

 

 

มู่ไป๋สับสน “แล้วประเด็นของคุณคือ?”

 

 

“ถ้าเขาไม่ลงมาที่โลก แล้วเขาจะครองโลกได้ยังไง เขาจะเล่นบทเป็นพระเจ้าจากอวกาศแล้วมันสนุกตรงไหน”

 

 

ในที่สุดมู่ไป๋ก็ได้รับความกระจ่าง “ถูกต้อง ถ้าเขาไม่ลงมาที่โลกแล้วเขาจะปกครองโลกได้ยังไง”

 

 

“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาควรจะแก่มากแล้ว ถ้าเขากลายเป็นผู้ครองโลกจริง เขาจะอยู่บนบัลลังก์ได้นานอีกกี่ปีกัน” ซิงเหอเสนออีกหนึ่งคำถาม

 

 

มู่ไป๋ชะงักก่อนพูดด้วยน้ำเสียงลังเล “คุณหมายถึง…”

 

 

ซิงเหอพยักหน้า “ใช่ เขาต้องการเซลล์ทรงจำ”

 

 

บัดนี้มู่ไป๋เข้าใจสิ่งที่ซิงเหอกำลังบอกใบ้ “เขาไม่กล้าลงมาที่โลกหมายความว่าเขายังไม่รู้ว่าการวิจัยเซลล์ทรงจำได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว”

 

 

“อาจเป็นไปได้ แต่เขาอาจจะรู้เรื่องทั้งหมด เขาอาจยังไม่ต้องการใช้อะไรที่อยู่ได้แค่หกเดือนเท่านั้น”

 

 

“ถ้าการวิจัยยังคงไม่สำเร็จ เขาก็จะไม่สามารถปกครองโลกนี้ได้”

 

 

“นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคลื่อนไหวทั้งที่แผนของเขาถูกเตรียมการมานานเป็นสิบปีแล้ว”

 

 

ยังคงมีชิ้นส่วนหนึ่งที่ขาดหายไปสำหรับมู่ไป๋ “ต่อให้เป็นแบบนั้น ถ้าเขาอาศัยอยู่ในอวกาศจริง เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน เขายังสามารถข่มขู่ที่จะทำลายโลกทั้งใบได้อยู่”

 

 

“แต่อย่างน้อยเราก็มีแสงแห่งความหวัง เขาไม่อาจบงการโลกนี้ได้ตลอดไปเพราะเขาจะต้องตายในที่สุด และเมื่อเขาตาย โลกจะกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 809 ฐานที่มั่นบนนั้น

 

 

มู่ไป๋อดหัวเราะไม่ได้ “ก็เป็นการมองโลกในแง่ดีที่ดีนะ แล้วถ้าเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสิบปีขึ้นมาล่ะ แค่ทศวรรษเดียวก็นานเกินพอที่เขาจะปรับเปลี่ยนโลกให้เป็นไปในแบบที่เขาต้องการได้แล้วล่ะ”

 

 

ซิงเหอพยักหน้าแต่พูดต่อด้วยความมั่นใจ “แต่เขาก็อาจจะตายได้ทุกเมื่อเช่นกัน ถ้าเราหาทางที่จะฆ่าเขาได้นั่นจะเป็นทางที่ดีที่สุด”

 

 

“แต่มันเป็นไปไม่ได้”

 

 

เฮ่อหลานหยวนยังอยู่ในอวกาศและพวกเขาอยู่บนโลก ยิ่งไปกว่านั้นเฮ่อหลานหยวนยังเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาจากบนอวกาศดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาวิธีลอบสังหารเขา แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในที่เดียวกันกับที่ตัวของเฮ่อหลานหยวนอยู่แล้วละก็ ข้อกังวลทั้งหมดก็จะไม่ใช่ปัญหา

 

 

“คุณคิดว่าเฮ่อหลานหยวนอยู่ที่ไหน เขาจะอยู่บนดวงจันทร์หรือเปล่า” ซิงเหอถามด้วยความจริงจัง คำถามนี้เป็นประเด็นที่ถูกถกนับครั้งไม่ถ้วนโดยสหประชาชาติ

 

 

มู่ไป๋พยักหน้า “มีความเป็นไปได้สูง”

 

 

นั่นเป็นเพราะมนุษย์เคยขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์มาก่อนและไม่เคยไปถึงดาวเคราะห์ดวงอื่นนอกจากนี้ แต่การหาว่าเฮ่อหลานหยวนซ่อนตัวอยู่ที่ส่วนไหนของดวงจันทร์นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เขาอยู่โดยไม่เป็นที่สังเกตมาได้นานหลายปีดังนั้นเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะสร้างฐานที่มั่นที่สุขสบายให้กับตัวเองอยู่ในดวงจันทร์แล้วก็เป็นได้

 

 

ซิงเหอกล่าวด้วยความมุ่งมั่น “เขาต้องสร้างฐานที่มั่นไว้บนดวงจันทร์แล้วแน่ๆ และอาจจะใช้มันสร้างผลึกพลังงานด้วย”

 

 

“ต้องเป็นแบบนั้นแน่เพราะดาวเทียมพวกนั้นก็ถูกสร้างขึ้นด้วยของนั้นเหมือนกัน”

 

 

บรรดาดาวเทียมที่ร่วงลงสู่พื้นโลกถูกนำมาวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว และพวกมันถูกสร้างขึ้นโดยใช้ผลึกพลังงานจริง ผลึกพลังงานนั้นมีจุดหลอมเหลวที่สูงมากและไม่ติดไฟได้ง่าย แต่มันยังสามารถตีแผ่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อทำให้มันโลหะที่สมบูรณ์แบบ

 

 

พวกซิงเหอไม่คิดว่าผลึกพลังงานนั้นมาจากโลกนี้ตั้งแต่แรกแล้ว บัดนี้พวกเธอรู้แจ้งแล้วว่าของสิ่งนี้ไม่ได้มาจากโลกมนุษย์ มันอาจเป็นแร่จากดวงจันทร์

 

 

เฮ่อหลานหยวนได้ไปยังดวงจันทร์เหมือนหลายทศวรรษก่อนและต้องเป็นตอนนั้นที่เขาค้นพบแร่พวกนี้ ความสมบูรณ์แบบของแร่พวกนี้เป็นต้นกำเนิดของแผนการทั้งหมดของเฮ่อหลานหยวน ดูอีกแง่คือหากไม่มีผลึกพลังงานนี้ เขาคงไม่อาจคิดแผนการอันชั่วร้ายเช่นนี้ขึ้นมาได้

 

 

วัตถุที่ถูกสร้างโดยใช้ผลึกพลังงานนั้นมีน้ำหนักเบามากและมันสามารถให้พลังงานปริมาณมหาศาล ดังนั้นมันจึงเหมาะที่จะใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับยานอวกาศที่พบที่ฐานปล่อยยานของตระกูลเฮ่อหลาน พวกเขาใช้ยานอวกาศในการส่งเมล็ดพันธุ์ที่มีความสามารถมากมายขึ้นไปเป็นทาสของเฮ่อหลานหยวนในอวกาศ

 

 

ซิงเหอเหลือบตาขึ้นมองบนท้องฟ้าและกล่าว “ดาวเทียมหลายร้อยดวงบนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ถูกปล่อยออกมาจากโลกมนุษย์”

 

 

มู่ไป๋มองตามสายตาของหญิงสาวขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน “ผมก็คิดแบบนั้น การปล่อยดาวเทียมจำนวนมากจะทำให้ตกเป็นเป้าสังเกตของหลายประเทศ”

 

 

“ดังนั้นเขาจะต้องมีฐานตั้งอยู่ที่ดาวไหนสักดวงและเขาจะต้องไม่ขาดทรัพยากรบุคคลด้วย” บางทีคุณแม่ของเธอและคุณพ่อของอีเฉินอาจจะอยู่บนนั้นกับเฮ่อหลานหยวนก็ได้ บรรดาเด็กกำพร้าจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อโตขึ้นจะต้องถูกส่งไปบนอวกาศแน่ๆ

 

 

ถ้ารอบตัวของเฮ่อหลานหยวนมีคนพวกนั้นอยู่ นั่นหมายความว่าพวกเธอจะมีโอกาสเข้าถึงตัวเขา จะต้องมีคนที่เก็บงำความไม่พอใจในตัวเฮ่อหลานหยวนอยู่ที่นั่นและถ้าพวกเธอสามารถติดต่อคนคนนั้นได้และร่วมมือกัน เมื่อนั้นพวกเธอจะสามารถโค่นเฮ่อหลานหยวนลงได้

 

 

ยิ่งซิงเหอคิดเรื่องนี้มาเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เธอบอกกับมู่ไป๋ด้วยความมั่นใจ “เราจะต้องแฮ็กเข้าไปในระบบพวกนั้นให้ได้ มันเป็นทางเดียวที่เราจะสามารถติดต่อกับคนที่อยู่กับเฮ่อหลานหลงได้”

 

 

มู่ไป๋พูดอะไรไม่ออก