ตำนานเทพกู้จักรวาล 753 ฟื้นคืนชีพ (2)

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 753 ฟื้นคืนชีพ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อนุภาค​วิญญาณ​ที่​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่วโลก​หล้า​ก็​ถูก​เขา​นำทาง​มา และ​ในไม่ช้า​ อนุภาค​อัน​เหมือน​ทราย​ดำ​ก็​ลอย​มาจาก​ทั่ว​ทิศ​ไป​ยัง​แดน​ใต้พิภพ​

พวก​มัน​คือ​อนุภาค​วิญญาณ​อัน​ละเอียดยิบ​ และ​พวก​มัน​ก็​แหลก​ละเอียด​เสีย​จน​ไม่อาจ​ละเอียด​ไป​กว่า​นี้​ได้​ภายใต้​ห้วงเวลา​อัน​ยาวนาน​ สาย​ตาเปล่า​ของ​บุคคล​ไม่อาจ​ตรวจ​เห็น​พวก​มัน​ได้​ แต่ว่า​พวก​มัน​มีอยู่​จริงๆ​

เพราะว่า​เวลา​หนึ่ง​ล้าน​ปี​ได้​ผ่าน​ไป​ เขา​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​สภาสวรรค์​และ​แม่น้ำ​สวรรค์​ใน​อดีตกาล​ได้​กลายเป็น​แบบ​ไหน​ไป​แล้ว​ใน​ตอนนี้​ กาลเวลา​อัน​ยาวนาน​ได้​ทำให้​อนุภาค​วิญญาณ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กระจัดกระจาย​ไป​ใน​โลก​มิติ​เกือบ​ทั้งหมด​ นี่​เกิน​ความคาดหมาย​ของ​ฉิน​มู่ และ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ รู้สึก​เหน็ดเหนื่อย​หมดแรง​ จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​เขา​เผาผลาญ​พลัง​วัตร​เข้าไป​มากขึ้น​ทุกที​ และ​เสียง​ก็​ดังก้อง​ขึ้น​และ​ก้อง​ขึ้น​

“ทำไม​เจ้าไม่แค่​รวบรวม​ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​กลับมา​เลย​ตั้งแต่​ตอนนั้น​ล่ะ​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ฉงน​ฉงาย​ “เมื่อ​ตอนนั้น​ ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​กระจัดกระจาย​ไป​ใน​สภาสวรรค์​ รวม​รวบ​มัน​ใน​ตอนนั้น​น่าจะ​ง่าย​กว่า​มาก​ เจ้าไม่ต้อง​รีด​เร้น​ความพยายาม​มาก​แบบนี้​ใน​ตอนนี้​”

“เมื่อ​ครั้งกระโน้น​ ข้า​ยังคง​ไม่รู้จัก​กับ​ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ หากว่า​ข้า​ลงมือ​หยิบยืม​พลัง​อำนาจ​ของ​ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ พวกเขา​ก็​จะต้อง​ปลิดชีวิต​ข้า​เป็นแน่​”

เหงื่อ​ผุด​ออกมา​ที่​หน้าผาก​ของ​ฉิน​มู่มากขึ้น​ทุกที​ เหงื่อ​ของ​เขา​ระเหย​ไป​และ​ก่อ​ขึ้น​เป็น​มวล​เมฆ และ​เขา​ก็​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ใน​ตอนนี้​ความสัมพันธ์​ของ​ข้า​กับ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​ภูติ​บดี​นั้น​ดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ ข้า​หยิบ​พลัง​อำนาจ​ของ​พวกเขา​พวกเขา​ก็​จะไม่ติติง​อะไร​ ใน​ตอนนั้น​ข้า​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​มีสีหน้า​พิลึก​ เหมือนกับ​ว่า​ปาก​ของ​เขา​ถูก​ไข่ไก่​ยัด​เข้าไป​สอง​ฟอง​ และ​ดวงตา​ก็​ถลน​จ้อง​ราวกับ​กระดิ่ง​สำริด​ เขา​คิด​อยู่​ใน​ใจ วิญญูชน​สวรรค์​มู่เข้าใจ​อะไร​ผิด​ไป​หรือเปล่า​ใน​เรื่อง​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ กับ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​น่ะ​ข้า​ไม่รู้​หรอก​ แต่​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เขา​กับ​ภูติ​บดี​นั้น​ห่างไกล​กับ​คำ​ว่า​ดี​ ภูติ​บดี​แค่​รำคาญ​ที่​เขา​วิ่ง​เข้ามา​ก่อความวุ่นวาย​ใน​แดน​ใต้พิภพ​เท่านั้น​…

ฉิน​มู่รู้สึก​เหน็ดเหนื่อย​หมด​พลัง​มากขึ้น​ทุกที​ๆ เมื่อ​เขา​ยกมือ​วาด​เท้า​ขึ้น​มาสร้าง​อักษร​รู​น​ พวก​มัน​ก็​ยิ่ง​หนักหน่วง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ มุทรา​แล้ว​มุทรา​เล่า​ถูก​ประทับ​ลง​ไป​บน​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​มัน​ก็​เหมือนกับ​ยก​ภูเขา​พระ​สุเมรุ​ เสียง​ของ​เขา​แหบ​พร่า​ลง​ไป​เล็กน้อย​ “และ​อีก​อย่าง​ สภาสวรรค์​ใน​ตอนนั้น​อันตราย​เกินไป​ ไม่ใช่เพียงแค่​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​เท่านั้น​ที่​ต้อง​การสังหาร​เขา​ บุคคล​ที่​ต้อง​การสังหาร​เขา​แข็งแกร่ง​จน​เกินไป​ แข็งแกร่ง​ถึงขนาดที่​เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​ภูติ​บดี​ไม่กล้า​ตอแย​เขา​ ต่อให้​ข้า​ชุบชีวิต​เขา​ขึ้น​มาใน​ตอนนั้น​ เขา​ก็​คง​ยัง​ต้อง​ตาย​ไป​อยู่ดี​ ดังนั้น​ข้า​จึงเพียงแค่​ฟื้นคืนชีพ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​ และ​ให้​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ส่งเขา​ให้​แก่​เจ้า มีก็​แต่​วันนี้​ที่​ข้า​กล้า​ฟื้นคืนชีพ​เขา​!”

ร่าง​ของ​เขา​สั่นเทิ้ม​อย่าง​รุนแรง​ จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​และ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​หยุดชะงัก​ลง​ไป​พร้อมๆ กัน​ หนึ่ง​นั้น​ยืน​อยู่​บน​พื้น​ และ​อีก​หนึ่ง​คืน​อยู่​ที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​เขา​ ทั้งสอง​ร่าง​ต่าง​ก็​มีวง​รัศมี​แสงหมุนติ้ว​ๆ อยู่​ข้างหลัง​ศีรษะ​ อักษร​รู​น​ทุกชนิด​บน​กงล้อ​จุด​ติดตาม​ๆ กัน​เมื่อ​พวก​มัน​หมุน​ไป​ สาดส่อง​ลง​บน​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้!​

อนุภาค​วิญญาณ​นับไม่ถ้วน​ลอย​เข้ามา​ และ​พวก​มัน​ก็​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​อย่าง​ต่อเนื่อง​ พวก​มัน​มุด​เข้าไป​ใน​อวัยวะ​ของ​เขา​ เข้าไป​ใน​ใจกลาง​หว่าง​คิ้ว​ เข้าไป​ใน​คอ​ เข้าไป​ใน​หัวใจ​ เข้าไป​ใน​ตันเถียน​ และ​เข้าไป​ใน​ทวารหนัก​

ฉิน​มู่และ​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​เขา​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​ไม่ไหวติง​ ขณะที่​กงล้อ​แสงหมุน​วน​ไป​ไม่หยุดหย่อน​

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​แตกตื่น​สะท้าน​ และ​เขา​รู้​ว่า​ตอนนี้​คือ​จังหวะ​อัน​สำคัญ​ที่สุด​ เขา​พลัน​ระวัง​ไว​ขึ้น​มาทันที​ และ​เรือ​กระดาษ​ก็​ลอย​เข้ามา​ใน​แดน​ใต้พิภพ​เพื่อ​พิทักษ์​คุ้มกัน​คฤหาสน์​ จำนวน​ของ​พวก​มัน​มากมาย​ยิ่งนัก​ และ​ข้างนอก​ก็​แออัด​ไป​หมด​

ไม่รู้​ว่า​นาน​เท่าไร​กว่า​ที่​ฉิน​มู่จะเผย​สีหน้า​อัน​อ่อนล้า​ และ​กงล้อ​แสงข้างหลัง​ศีรษะ​เขา​ก็​หยุด​หมุน​ก่อน​จะจางหาย​ไป​

จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​เขา​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ และ​หด​เล็ก​ลง​ๆ จนกระทั่ง​มัน​เข้าไป​รวม​กับ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​

ตอนนี้​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ถึงค่อย​ถอนหายใจ​ และ​เขา​ก็​รีบ​ก้าว​ไป​เพื่อ​จะถาม ฉิน​มู่ชิงตอบ​เสีย​ก่อน​ด้วย​คิ้ว​ที่​ขมวด​มุ่น​ “ดวงวิญญาณ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มีส่วนหนึ่ง​ที่​ไม่ถูก​บดขยี้​ ใน​ทาง​ตรงข้าม​มัน​ถูก​ใคร​บางคน​ตรึง​สะกด​เอาไว้​ และ​ข้า​ไม่อาจ​อัญเชิญ​มัน​กลับมา​ได้​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ตกตะลึง​และ​รีบ​ถาม “มัน​ถูก​ตรึง​สะกด​เอาไว้​มาก​แค่​ไหน​”

“ไม่ถึงหนึ่ง​ใน​สิบ​”

ฉิน​มู่ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​และ​พัก​อยู่​ครู่หนึ่ง​ “ข้า​ไม่รู้​ว่า​ส่วน​ที่​หาย​ไป​นั้น​สำคัญ​หรือไม่​ ส่วน​ว่า​ใคร​เป็น​ผู้นำ​ดวงวิญญาณ​ส่วน​นั้น​ไป​ ข้า​ก็​ไม่รู้​เช่นกัน​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ว้า​วุ้น​ขึ้น​มา “พวกเรา​ทำ​อย่างไร​กัน​ดี​”

“ง่าย​มาก​ ไป​ถามภูติ​บดี​”

ฉิน​มู่กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ข้า​จะนำ​เขา​กลับ​ไป​ที่​โลก​แห่ง​คน​เป็น​ใน​บัดนี้​ และ​ประกอบ​สร้าง​วิญญาณ​และ​จิต​ของ​เขา​ขึ้น​มาใหม่​! หลังจากที่​ดวงวิญญาณ​และ​ดวงจิต​ของ​เขา​ถูก​ประกอบ​ขึ้น​มาแล้ว​ ภูติ​บดี​ก็​จะสามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงเศษเสี้ยว​ที่​หาย​ไป​โดย​สืบ​จาก​ดวงวิญญาณ​และ​ดวงจิต​ของ​เขา​ พวกเรา​เพียงแต่​ต้อง​ไป​ถามภูติ​บดี​เพื่อ​แยกแยะ​สถาน​ที่ตั้ง​ของ​ดวงวิญญาณ​ส่วนที่เหลือ​”

ทั้งสอง​คน​วาง​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้ลง​ไป​ใน​เรือ​น้อย​ มารดา​ของ​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​นั้น​กำลัง​ง่วน​กับ​การประกอบอาหาร​ และ​นาง​ก็​รีบ​กล่าว​ “นี่​เกือบจะ​เสร็จ​แล้ว​ พวก​เจ้าทั้งสอง​คน​ไม่กิน​อะไร​สักหน่อย​หรือ​ หลังจากที่​ง่วน​หนัก​ขนาด​นี้​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​รีบ​กล่าว​ “ท่าน​แม่ พวกเรา​มีธุระ​เร่งด่วน​ที่​ต้อง​กระทำ​!”

หญิง​ผู้​นั้น​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เดินทาง​ปลอดภัย​ ข้า​จะเก็บ​อาหาร​ไว้​ให้​อุ่น​ น้องชาย​ผู้​นี้​ โย​ว​เอ๋อ​ของ​ข้า​ยังคง​เด็ก​อยู่​และ​ไม่รู้​ประสีประสา​ เขา​ไม่รู้​วิธีการ​ติดต่อ​สัมพันธ์​กับ​ผู้คน​ด้วย​เช่นกัน​ ดังนั้น​โปรด​ช่วยดูแล​เขา​สักหน่อย​เถอะ​นะ​”

ฉิน​มู่ระงับ​ความอยาก​หัวเราะ​ของ​เขา​เอาไว้​และ​รีบ​กล่าว​ “ท่าน​น้า​ไม่ต้อง​กังวล​ ข้า​เข้า​ใจดี​”

เขา​มอง​ไป​ยัง​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ ผู้​ซึ่งมีสีหน้า​ว่างเปล่า​ไร้อารมณ์​

เมื่อ​เรือ​แล่น​ไป​ไกล​ ถึงตอนนั้น​ฉิน​มู่ถึงระเบิด​หัวเราะ​ออกมา​ ใบหน้า​ของ​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​กลายเป็น​เลือนราง​อีกครั้ง​ และ​เขา​ก็​กล่าว​อย่าง​ไม่ยินดียินร้าย​ “เจ้าหัวเราะ​อะไร​ เมื่อ​ครั้งกระโน้น​ข้า​สู้เจ้าไม่ได้​ แต่​ตอนนี้​ข้า​อัด​เจ้าได้​”

ฉิน​มู่รีบ​ระงับ​เสียงหัวเราะ​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ตอนนี้​ แม้แต่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ เจ้าก็​อัด​เขา​น่วม​ได้​ ข้า​ไม่รู้​ว่า​เขา​จะยัง​จดจำ​พวกเรา​ได้​หรือเปล่า​นะ​หลังจากที่​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มา”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​เหม่อลอย​ ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​กล่าว​ “ไม่ว่า​ตอนนี้​หรือ​ตอน​ไหน​เขา​ก็​จะยัง​เป็น​พี่ชาย​ของ​ข้า​”

ฉิน​มู่กะพริบตา​ปริบๆ​ “แล้ว​ข้า​ล่ะ​?”

“ฮึ่ม”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​สะบัดหน้า​ไป​และ​เผย​หน้ากาก​มาร​ข้างหลัง​ศีรษะ​ของ​เขา​ หน้ากาก​มาร​พลัน​แลบลิ้น​ใส่เขา​

ฉิน​มู่กระโดด​โหยง​ด้วย​ความตกใจ​และ​เพ่ง​พิศดู​อย่าง​ถี่ถ้วน​ หน้ากาก​มาร​นี้​มิใช่อัน​ที่​เขา​แกะสลัก​ไป​ก่อนหน้า​ มัน​น่าจะเป็น​หน้ากาก​มาร​ที่​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​เคย​สวมใส่​เมื่อ​ครั้งกระโน้น​ เขา​ไม่รู้​ว่า​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​เอา​มัน​ออกมา​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ และ​เอา​มาสวมใส่​ไว้​ข้างหลัง​ศีรษะ​อีกครั้ง​

เขา​คงจะ​ต้อง​กังวล​ว่า​รูปโฉม​ของ​เขา​เปลี่ยนแปลง​ไป​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​จะไม่สามารถ​จดจำ​เขา​ได้​ ดังนั้น​เขา​จึงไปหา​หน้ากาก​มาใส่ ฉิน​มู่คิดในใจ​

เมื่อ​พวกเขา​มาถึงโลก​แห่ง​คน​เป็น​ มัน​ก็​ยังคง​เป็น​ริม​ฝั่งแม่น้ำ​หย่ง​

ใน​ตอนนั้น​ มัน​เป็นเวลา​กลางคืน​ของ​แดน​โบราณ​วินาศ​ และ​ใน​ความมืด​ก็​มีทราย​ดำ​วิญญาณ​และ​ผี​เปรต​ไม่มากมาย​เท่า​เมื่อก่อน​ ฉิน​มู่ยืน​อยู่​บน​เรือ​กระดาษ​ที่​ลอย​อยู่​บน​แม่น้ำ​หย่ง​และ​ร่าย​เวทมนตร์​ของ​เขา​อีกครั้ง​ ประตู​น้อม​สวรรค์​ปรากฏ​ขึ้น​มาและ​พลิกคว่ำ​กลับหัว​กลับ​หาง​เพื่อ​ยืม​พลัง​อำนาจ​ทั้ง​จาก​เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​ภูติ​บดี​ พลัง​อำนาจ​ฉาย​ส่อง​ลง​ไป​บน​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ ผู้​ซึ่งลอย​อยู่​บน​อากาศ​

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​มอง​ไป​ยัง​การ​ร่าย​เวทมนตร์​ของ​เขา​ด้วย​ความ​กระสับกระส่าย​ ทั้ง​ยัง​กำหมัด​แน่น​

ผ่าน​ไป​เนิ่นนาน​ ฉิน​มู่ก็​สลาย​พลัง​วัตร​ของ​เขา​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​ลอย​ลง​ไป​บน​ผิว​แม่น้ำ​อย่าง​นุ่มนวล​

“ห​ลัน​อวี้เถียน​ ไม่ได้​เจอกัน​นาน​เลย​” ฉิน​มู่ส่งยิ้ม​ให้​แก่​ชายหนุ่ม​ที่​ยืน​อยู่​บน​ผิว​แม่น้ำ​

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​ค่อยๆ​ ลืมตา​ขึ้น​มาและ​เผย​สีหน้า​ว่างเปล่า​ ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ตื่นเต้น​ และ​ทันใดนั้น​ เสียง​ผลุบ​ก็​ดัง​ขึ้น​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้จมลง​ไป​ใน​แม่น้ำ​ และ​เขา​ตะเกียกตะกาย​แหวก​แขนขา​ไปมา​อย่าง​ช่วย​ตนเอง​ไม่ได้​ กลืน​น้ำ​เข้าไป​ใน​ท้อง​อย่าง​มาก​

กระแสน้ำ​เชี่ยวกราก​พัด​เอา​ชายหนุ่ม​ที่​ไม่รู้​วิธี​ว่ายน้ำ​ไป​ทาง​ปลายน้ำ​

ฉิน​มู่และ​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ตกตะลึง​ และ​พลัน​ได้สติ​ “ช่วย​เขา​เร็ว​!”

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ พวกเขา​ก็​ลาก​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​อัน​เปียกโชก​ขึ้น​มาบน​ตลิ่ง​ และ​วาง​เขา​ลง​ไป​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เกือบจะ​จมน้ำ​ และ​เขา​เอาแต่​โก่ง​คอ​อาเจียน​น้ำ​ที่​เข้าไป​ใน​ปอด​ออกมา​ เขา​หอบ​หายใจ​อย่าง​ไม่คิด​ชีวิต​

ฉิน​มู่และ​ผู้นำทาง​ความตาย​หันไป​มอง​กัน​ละ​กัน​ด้วย​ความ​หนักอึ้ง​ “วร​ยุทธ​ของ​เขา​หาย​ไป​หมด​ก็​ไม่เป็นไร​ ก็​ยังคง​ฝึกปรือ​ขึ้น​มาได้​ใหม่​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​พัก​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​ลุกขึ้น​เพื่อ​คารวะ​ทักทาย​พวกเขา​ “ขอบคุณ​ผู้​มีพระคุณ​ทั้งสอง​มาก​ที่​ช่วยชีวิต​ข้า​ จริง​สิ ผู้​มีพระคุณ​ เมื่อครู่นี้​พวก​ท่าน​เรียก​ข้า​ว่า​อย่างไร​นะ​”

ชายหนุ่ม​คน​นั้น​เกา​หัว​แกรก​ๆ และ​หน้าแดง​ขึ้น​มา “ข้า​จำชื่อ​ตัวเอง​ไม่ได้​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด