ตำนานเทพกู้จักรวาล 746 ท่วงท่ากระบี่ที่สิบเก้า

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 746 ท่วงท่ากระบี่ที่สิบเก้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กระบี่​นี้​มิใช่ใด​อื่น​ นอก​เสีย​จาก​กระบวนท่า​แรก​ของ​กระบี่​ภัยพิบัติ​ของ​ฉิน​มู่ กระบี่​ริเริ่ม​ภัยพิบัติ​ นี่​คือ​เพลง​กระบี่​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เขา​

ความเร็ว​ของ​ไจกระบี่​หมุน​ปั่น​ไป​เร็ว​ขึ้น​และ​เร็ว​ขึ้น​ ไจกระบี่​นี้​เป็น​อาวุธ​วิญญาณ​ที่​เขา​หลอม​สร้าง​ขึ้น​มาเมื่อไม่นานนี้​ ไจกระบี่​หมุน​ปั่น​ไป​ด้วย​ความเร็ว​อัน​น่า​ตื่นตระหนก​และ​ลอย​เข้าไป​ใกล้​กับ​พื้นผิว​มหาสมุทร​ กระบี่​เล็ก​ละเอียด​จำนวน​มากมาย​ไร้​ประมาณ​กระโจน​ออก​ไป​จาก​ไจกระบี่​ และ​ปลาย​กระบี่​ทุก​เล่ม​ล้วนแต่​ชี้ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​

ข้างหลัง​ไจกระบี่​ ฉิน​มู่กำลัง​ระเบิด​ไป​ด้วย​พละกำลัง​ทั้งหมด​ที่​มี และ​บุก​ตะลุย​ไป​เบื้องหน้า​!

พลัง​วัตร​ของ​เขา​ถ่ายเท​เข้าไป​ใน​ไจกระบี่​ และ​ปราณ​ชีวิต​ระหว่าง​ไจกระบี่​ของ​เขา​ก็​เชื่อม​ต่อกัน​ กระบี่​เหล่านี้​แทน​อักษร​รู​น​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ที่​ถัก​ทอ​และ​แปร​เปลี่ยนไป​อย่าง​ต่อเนื่อง​ อักษร​รู​น​เหมือนกับ​ประกายไฟฟ้า​ที่​โลดเต้น​ออกจาก​กระบี่​บิน​เล่ม​หนึ่ง​ไป​ยังอีก​เล่ม​หนึ่ง​

ตำแหน่ง​ของ​กระบี่​บิน​ก็​เปลี่ยน​สลับ​ไป​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​ และ​พวก​มัน​เหมือนกับ​ฝูงมัจฉาใน​ห้วง​มหรรณพ​ กระบี่​บิน​เหมือนกับ​ปลา​สีเงิน​ที่​แหวกว่าย​ฉวัดเฉวียน​ ปลดปล่อย​มนตร์​เสน่ห์​แห่ง​เพลง​กระบี่​ของ​เขา​ออกมา​อย่าง​ไร้​ที่​ติ​

ใน​เสี้ยว​พริบตา​ถัดมา​ กระบี่​บิน​นับไม่ถ้วน​ก็​ดู​ราวกับ​จะรวม​เป็นหนึ่งเดียว​ เมื่อ​อักษร​รู​น​และ​ปราณ​ชีวิต​ได้​ขับเคลื่อน​ความว่องไว​และ​ความยืดหยุ่น​อัน​ไร้​ปาน​เปรียบ​ออกมา​

กระบี่​พุ่ง​เฉียด​ไป​บน​ผิว​ทะเล​ และ​แปร​เปลี่ยนเป็น​แสงรังสี​อัน​กุก่อง​ตระการ​ นั่น​คือ​กระบี่​บิน​ทั้งหลาย​ที่​แปรรูป​เปลี่ยน​ลักษณ์​เพื่อ​เผย​แสดง​ท่วงท่า​กระบี่​พื้นฐาน​ทั้ง​สิบ​แปด​ท่า​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​!

เมื่อ​มอง​จาก​ไกลๆ​ นี่​คือ​กระบี่​บิน​เล่ม​เดียว​ที่​มีความ​ยาว​อัน​น่า​ตื่นตระหนก​ มัน​เป็น​ท่วงท่า​กระบี่​ธรรมดา​สามัญ และ​นั่น​คือ​การ​แทง​ออก​ไป​

เมื่อ​มอง​เข้าไป​ใน​รายละเอียด​ การเปลี่ยนแปลง​มากมาย​ไร้​ประมาณ​ถูก​ซ่อน​เอาไว้​ใน​ท่วงท่า​เรียบง่าย​ธรรมดา​นี้​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​ขับเคลื่อน​กระบวนท่า​กระบี่​นี้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ นับตั้งแต่​คิดค้น​มัน​ขึ้น​มา

กระนั้น​มิติ​อวกาศ​ตรงหน้า​ ก็​พลัน​เหนียวหนืด​และ​หนา​ข้น​ เดิมที​อวกาศ​ไม่มีแรงต้านทาน​ แรงต้านทาน​มาจาก​อากาศ​เท่านั้น​ แต่กระนั้น​ ใน​เสี้ยว​พริบตา​นี้​ ดูเหมือน​จะมีพลานุภาพ​มิอาจจะ​บรรยาย​อยู่​ใน​มิติ​อวกาศ​ อัน​ทำให้​เพลง​กระบี่​ของ​เขา​เผชิญ​กับ​แรง​ต้าน​อัน​สุดขีด​ขั้ว​

ฉิน​มู่รีด​เร้น​พลัง​เพื่อ​แทง​ไป​ข้างหน้า​ และ​กระบี่​ริเริ่ม​ภัยพิบัติ​ของ​เขา​ก็​ยังคง​แทง​ไป​ตรงหน้า​อย่าง​ง่ายดาย​ราวกับ​เฉือน​ปล้อง​ไผ่​ ปลาย​กระบี่​นั้น​เข้าใกล้​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว!​

กระนั้น​ฉิน​มู่ก็​รู้สึก​ว่า​แรงต้านทาน​เพิ่มพูน​ขึ้น​มาอย่าง​หนักหนา​สาหัส​

พลัง​อำนาจ​นี้​มิใช่พลานุภาพ​ของ​ทักษะ​เท​วะ​ล้วน​ แต่​ดูเหมือน​จะเป็น​แรงกดดัน​จาก​หลัก​กฎ​อัน​เหนือ​ธรรมดา​

ฉิน​มู่เคย​ประสบ​กับ​แรงกดดัน​เช่นนี้​เมื่อ​เขา​เข้า​ข้างใน​ประตู​สวรรค์​ทักษิณ​แห่ง​โลก​สู้วัว​ แรงกดดัน​ที่​มาจาก​ประตู​สวรรค์​ทักษิณ​ทั้ง​ส่งมาจาก​ทุกทิศทาง​ และ​มัน​ก็​ส่งผลกระทบ​ต่อ​ทุก​ส่วน​ของ​กาย​เนื้อ​และ​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​เขา​

มัน​ถึงกับ​มีผลต่อ​กระบี่​ริเริ่ม​ภัยพิบัติ​ของ​เขา​!

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉิน​มู่ได้​ประสบ​กับ​ตัวอย่าง​เหตุการณ์​ที่​ทักษะ​เท​วะ​มรรคา​กระบี่​ของ​เขา​ถูก​สะกด​ข่ม​!

ปลาย​กระบี่​ของ​กระบี่​ไร้กังวล​ยังคง​แทง​ไป​ข้างหน้า​ แต่​ความเร็ว​ของ​มัน​กลายเป็น​ช้าลง​และ​ช้าลง​ไป​ เมื่อ​มัน​มาถึงใบหน้า​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ ความเร็ว​ของ​แสงกระบี่​ก็​เชื่องช้า​พอๆ กับ​หอย​ทาก​

และ​ใน​จังหวะ​นั้น​ แสงอาทิตย์​ก็​สาดส่อง​ออก​มาจาก​ข้างหลัง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ มัน​คือ​รัศมี​แสงนับ​พัน​หมื่น​ที่​รวบรวม​มาจาก​ทุก​สารทิศ​

นั้น​มิใช่มารดา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​จุติ​ลงมา​ด้วย​ตนเอง​ มัน​เป็น​เพียง​ภาพ​ฉาย​ของ​นาง​

กาย​ที่​แท้จริง​ของ​นาง​คง​ยังอยู่​ใน​สภาสวรรค์​ นาง​มิได้​จุติ​ลงมา​ด้วย​ตนเอง​

นั่น​คือ​เทพนารี​ และ​รอบ​ๆ กาย​ของ​นาง​ แสงอาทิตย์​ก็​ล่องลอย​ไปมา​ประดุจ​แถบ​แพร​ พวก​มัน​วิจิตร​ตระการ​อย่าง​เหนือ​ธรรมดา​

ร่างกาย​ของ​นาง​งามสง่า แตกต่าง​ไป​จาก​การ​ตกแต่ง​เรือน​กาย​ของ​เทพี​หยิน​สวรรค์​ที่​ดู​ป่าเถื่อน​ การประดับประดา​ของ​นาง​นั้น​เพริศแพร้ว​ประณีต​

แสงอาทิตย์​ก่อตัว​ขึ้น​มาเป็น​แถบ​แพร​ที่​ล่องลอย​ไปมา​รอบ​ๆ นาง​ และ​นอกจาก​มัน​จะห่อหุ้ม​เรือน​กาย​ของ​นาง​เอาไว้​อย่าง​ดี​ มัน​ยังคง​เผย​ส่วนโค้ง​เว้า​ของ​นาง​อีกด้วย​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ เทพี​หยิน​สวรรค์​ใช้วิธีการ​อัน​หยาบกร้าน​ใน​การ​ขับเคลื่อน​แสงอาทิตย์​และ​สายรุ้ง​ให้​มาปิดบัง​เฉพาะ​จุด​ซ่อนเร้น​ของ​นาง​ ขณะที่​เปิดเผย​ส่วน​อื่นๆ​ ของ​ร่างกาย​ เทพี​หยิน​สวรรค์​มีเครื่องประดับ​เพียง​หนึ่ง​ถึงสอง​ชิ้น​ ขณะที่​เทพนารี​ตน​นี้​มีเครื่องประดับ​มากมาย​บน​เรือนร่าง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ พวก​มัน​ยังคง​เพริศแพร้ว​ประณีต​อีกด้วย​

ใน​บรรดา​เรื่อง​ประดับ​สิบ​กว่า​ชิ้น​นั้น​ มีทั้ง​ปิ่นปักผม​ พู่​ประดับ​ผม​หยก​ สร้อยคอ​อัน​มีไข่มุก​ดุจ​ดวงจันทร์​รอบ​คอ​ของ​นาง​ กำไล​หยก​ที่​ข้อมือ​ แหวน​ที่​นิ้ว​ และ​ไข่มุก​อัน​ดูเหมือน​กระดิ่ง​เล็ก​ๆ ที่​ข้อศอก​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​แสงกระบี่​ของ​เขา​ และ​ระบาย​ลมหายใจ​โล่งอก​ ฉิน​มู่ยังคง​พยายาม​อย่าง​เต็มกำลัง​ที่จะ​เคลื่อน​ขยับ​ไป​ข้างหน้า​ และ​เขา​ปลดปล่อย​พลานุภาพ​ของ​ริเริ่ม​ภัยพิบัติ​ เขา​พยายาม​ที่จะ​ทำลาย​การ​สะกด​ข่ม​ของ​เทพนารี​ตน​นี้​

กระนั้น​ก็​ยัง​ยาก​ที่​กระบี่​ของ​เขา​จะขยับ​ต่อไป​ กระบี่​เคลื่อน​ไป​ได้​เพียงแค่​นิ้ว​เดียว​ และ​นั่น​ก็​ถึงขีดจำกัด​ของ​พละกำลัง​ฉิน​มู่แล้ว​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​เผย​รอยยิ้ม​

“วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ เจ้าไม่รู้​ที่ต่ำที่สูง​”

ภาพ​ฉาย​ของ​เทพนารี​เปล่ง​วาจา​ และ​เสียง​ของ​นาง​ทั้ง​กังวาน​และ​แจ่มชัด​ ทะลุทะลวง​เข้าไป​ใน​หัวใจ​ของ​เขา​ มัน​มีน้ำเสียง​ที่​ไม่ยินดียินร้าย​ของ​นาง​ผสม​กับ​ความเยือกเย็น​และ​สงบนิ่ง​ “เจ้าเพิ่ง​ฟื้น​กลับ​มาจาก​ความตาย​ เจ้าควร​ที่​จะจะตัวสั่น​งันงก​เหมือนกับ​ย่างกราย​บน​ผิว​น้ำแข็ง​บาง​เฉียบ​ เจ้าลืม​ไป​แล้ว​หรือว่า​เจ้าถูก​สะกด​ข่ม​ไว้​ด้วย​พลัง​หนึ่ง​ๆ ก่อนที่​เจ้าจะตาย​ไป​ ศาลา​วายุ​แผ่ว​ นั่น​คือ​สถาน​ที่พำนัก​ของ​พี่สาว​ข้า​ เจ้าไม่รู้จัก​พลัง​อำนาจ​ของ​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​”

ฉิน​มู่ยังคง​ดิ้นรน​เคลื่อน​ต่อไป​ข้างหน้า​ และ​เขา​รีด​เร้น​กำลัง​อย่าง​ไม่คิด​ชีวิต​ เขา​จะต้อง​สังหาร​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ให้จงได้​

เทพนารี​ผู้​นั้น​ขมวดคิ้ว​ “ไม่รู้จัก​สำนึก​ใน​ความเมตตา​ของ​ข้า​งั้น​หรือ​ ฮ่าว​เอ๋อ​ ส่งเขา​ไป​สู่สัมปรายภพ​เสีย​ คราวนี้​อย่า​ทิ้ง​เรื่อง​ยุ่งยาก​เอาไว้​ข้างหลัง​ ทำลาย​ศพ​ไป​ด้วย​เสีย​เลย​”

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​โค้ง​คารวะ​และ​กล่าว​ขอบคุณ​ เขา​เดิน​อ้อม​แสงกระบี่​ที่​ยาว​สิบ​ลี้​นั้น​

แสงกระบี่​ถูก​ตรึง​ค้าง​ไว้​ใน​อากาศ​ราวกับว่า​มัน​ถูก​แช่แข็ง​

ในที่สุด​ วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ก็​คลายใจ​ลง​และ​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ฉิน​มู่ที่อยู่​ห่าง​ไป​สิบ​ลี้​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “แต่​ท่าน​แม่ เขา​ไม่ใช่วิญญูชน​สวรรค์​อวี้”​

เทพนารี​ตื่นตระหนก​ และ​เบือนหน้า​ของ​นาง​กลับมา​มองดู​ฉิน​มู่ แต่​นาง​ไม่อาจ​มอง​ทะลุ​การ​แปลง​โฉมของ​ฉิน​มู่ได้​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวก​ระ​หยิ่ม​ใจเป็น​อย่างยิ่ง​ “เขา​คือ​วิญญูชน​สวรรค์​มู่ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ตัวจริง​ยัง​นอน​อยู่​ใน​โลงศพ​ที่​ฝังลึก​ลง​ไป​ใต้​ผิว​ดิน​”

“วิญญูชน​สวรรค์​มู่ที่​ฝ่าบาท​เพิ่ง​แต่งตั้ง​ฉายานาม​น่ะ​หรือ​”

เทพนารี​ผู้​นั้น​พยักหน้า​และ​กล่าว​ “ทักษะ​เท​วะ​ของ​เขา​แตกต่าง​จาก​ผู้อื่น​จริงๆ​ มัน​มีแง่อัศจรรย์​อัน​เกิน​จินตนาการ​ทุก​รูปแบบ​”

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​เดิน​ไป​ที่​กึ่งกลาง​ของ​แสงกระบี่​ยาว​สิบ​ลี้​และ​กล่าว​ “เขา​ใช้วิชา​อัน​ประหลาด​มหัศจรรย์​เพื่อ​เปลี่ยนแปลง​ใบหน้า​ให้​ดูเหมือน​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็ได้​ถ่ายทอด​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ให้​กับ​เขา​ก่อน​จะตาย​ไป​ ทำให้​เขา​สามารถ​ปลอมตัว​เป็น​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​ แต่ทว่า​ สิ่งที่​ข้า​อยาก​จะรู้​ก็​คือ​ โฉมหน้าเดิม​ของ​เขา​คือ​โฉมหน้าที่​แท้จริง​หรือไม่​ ข้า​เกรง​ว่า​ แม้แต่​ใบหน้า​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​มู่ก็​เป็น​โฉมหน้า​ปลอม​”

เทพนารี​นั้น​เผย​ยิ้ม​ออกมา​ “บุตร​ของ​ข้า​ฉลาด​เสีย​จริง​ หากว่า​เจ้าสังหาร​เขา​ เขา​ก็​จะต้อง​เปิดเผย​รูปโฉม​ที่​แท้จริง​ออกมา​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ โจมตี​ได้​ตามสบาย​…”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ แสงกระบี่​พลัน​หดกลับ​ไป​

แสงกระบี่​ยาว​สิบ​ลี้​หด​ไป​เป็น​ลูก​กลม​เล็ก​ๆ และ​ลอย​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว!​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวต​ก​ตะลึง​ และ​รู้สึก​โลหิต​ใน​กาย​เย็นเยียบ​

เมื่อ​แสงกระบี่​พลัน​หดกลับ​ มัน​ทำให้​เขา​รู้สึก​ราวกับว่า​ถูก​จับจ้อง​ด้วย​เทพ​บรรพกาล​ที่​ดุร้าย​อำมหิต​ เขา​รู้สึก​ราวกับ​ร่วงหล่น​ลง​ไป​ใน​โรง​เชือด​สัตว์​!

ฉิน​มู่อยู่​ห่าง​ไป​ห้า​ลี้​ และ​ถูก​ตรึง​แข็ง​ค้าง​ไว้​โดย​เทพนารี​ เขา​ขยับ​ไม่ได้​ และ​ฟัน​ของ​เขา​ก็​ส่งเสียง​กรอด​ๆ เมื่อ​เขา​ขบ​มัน​เข้าด้วยกัน​ โลหิต​หลั่งไหล​ออก​มาจาก​มุมปาก​ของ​เขา​

ไจกระบี่​เคลื่อนไหว​!

ฉิน​มู่พลัน​กู่​ร้อง​ด้วย​เสียง​อัน​น่า​แตกตื่น​

“ผงาด​ภัยพิบัติ​”

เทพนารี​ก็​ตื่นตระหนก​และ​รีบ​เพิ่มพูน​พลัง​วัตร​ของ​นาง​เพื่อ​กด​ลง​ไป​บน​ไจกระบี่​

พลัง​อำนาจ​ของ​นาง​ทั้ง​ยิ่งใหญ่​และ​เขื่อง​โข​ ดังนั้น​นาง​จึงทำให้​ไจกระบี่​สั่น​กราว​ แต่ทว่า​ สิ่งที่​แปลกประหลาด​ก็​คือ​แม้ว่า​ไจกระบี่​จะถูก​ตรึง​สะกด​เอาไว้​ แต่​กระบี่​บิน​ก็​ยังคง​โบยบิน​ออก​มาจาก​ไจกระบี่​

เทพนารี​สะกด​ข่ม​อีกครั้ง​ แต่​ไม่ว่า​จะทำ​อย่างไร​นาง​ก็​ไม่อาจ​สะกด​ข่ม​แสงกระบี่​ที่​บิด​ไปมา​เหล่านั้น​ได้​ แสงกระบี่​พวก​นั้น​กรีด​พุ่ง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว!​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ถอย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ แต่​แสงกระบี่​เหล่านั้น​ก็​กระโดด​ไป​ด้วย​เส้นทาง​อัน​พิลึกกึกกือ​ นั่น​คือ​ท่วงท่า​กระบี่​ที่​มิได้​อยู่​ใน​สิบ​แปด​ท่วงท่า​กระบี่​ใดๆ​ แม้แต่​ภาพ​ฉาย​ของ​เทพ​บรรพกาล​ก็​ไม่อาจ​ตรึง​สะกด​พวก​มัน​เอาไว้​ได้​

ฉัวะ​ ฉัวะ​ ฉัวะ​

ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ถูก​แสงกระบี่​แทง​ทะลุ​ และ​รู​อัน​นองเลือด​ก็​ปรากฏ​ทั่ว​ร่าง​เขา​

กระบวนท่า​ที่สอง​แห่ง​กระบี่​ภัยพิบัติ​ กระบี่​ผงาด​ภัยพิบัติ​!

หลังจาก​ริเริ่ม​ภัยพิบัติ​ มัน​คือ​ผงาด​ภัยพิบัติ​ ผงาด​ภัยพิบัติ​ขึ้น​มาเพื่อ​สังหาร​ผู้คน​!

ภายใต้​ภาพ​ฉาย​ของ​เทพ​บรรพกาล​ และ​ใน​สถานการณ์​ที่​เขา​ไม่มีทาง​สู้กลับ​ไป​ได้​เลย​ ในที่สุด​ฉิน​มู่ก็​ตรึกตรอง​เข้าใจ​กระบวนท่า​ที่สอง​ของ​มรรคา​กระบี่​ เขา​ได้​ย่างก้าว​เข้าไป​อีก​ขั้น​เข้าใกล้​เต๋า​แห่ง​กระบี่​!

ไม่เพียง​เท่านั้น​ เพลง​กระบี่​ของ​เขา​ยัง​เผย​ท่วงท่า​กระบี่​ที่​สิบ​เก้า​ออกมา​ในที่สุด​ ผลักดัน​มรรคา​กระบี่​แห่ง​โลก​หล้า​ให้​รุดหน้า​ไป​อีก​ขั้น​!

เลือด​พุ่งกระฉูด​ออก​มาจาก​ร่างกาย​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ และ​เส้นทาง​อัน​ยาก​จะทำนาย​ของ​กระบี่​ผงาด​ภัยพิบัติ​ก็​ทลาย​ผ่าน​ทุก​การ​กดขี่​ กระบวนท่า​กระบี่​ทั้ง​พิลึกกึกกือ​และ​ยาก​จะคาดคะเน​ ดังนั้น​เขา​จึงป้องกัน​ตนเอง​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

แม้แต่​เทพนารี​ตน​นี้​ก็​ทำ​อะไร​กับ​แสงกระบี่​ไม่ได้​ อย่า​ว่าแต่​เขา​

ใน​ยุค​สมัยนี้​ แม้แต่​ท่วงท่า​กระบี่​สิบ​สี่ท่า​ก็​ยัง​ไม่ถูก​คิดค้น​ขึ้น​มา อย่า​ว่าแต่​ท่วงท่า​กระบี่​ที่​สิบ​เก้า​

ในเวลาเดียวกัน​ ภาพ​ฉาย​ของ​เทพนารี​ก็​ตบ​ฟาด​ไป​ยัง​ฉิน​มู่ ใน​เมื่อ​นาง​ไม่อาจ​สะกด​ข่ม​แสงกระบี่​เหล่านั้น​ นาง​ก็​แค่​จะตบ​ฟาด​ฉิน​มู่ให้​ตาย​ไป​ก่อน​ นั่น​ก็​ย่อม​จะยับยั้ง​การ​โจมตี​ของ​ฉิน​มู่!

ฝ่ามือ​ของ​นาง​รวดเร็ว​อย่าง​สุดกู่​ เมื่อ​ฝ่ามือ​ของ​นาง​กด​ลงมา​ มหาสมุทร​ก็​ยุบ​ลง​เป็น​รัศมี​หนึ่งร้อย​ลี้​ รอย​ฝ่ามือ​มหึมา​ปรากฏ​

และ​ในเวลาเดียวกัน​นั้น​ นาง​ก็​เห็น​ชายหนุ่ม​อีก​คน​เดิน​เหยียบ​ผิว​ทะเล​วิ่ง​ตะบึง​เข้ามา​ที่นี่​ พื้นผิว​ทะเล​ระเบิด​ออก​อย่าง​ต่อเนื่อง​ใต้เท้า​ของ​เขา​

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​และ​มือ​ของ​เขา​เคลื่อนไหว​ขึ้นๆ ลงๆ​ ทักษะ​เท​วะ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​หมุน​วน​รอบกาย​เขา​ และ​เขา​ก็​พุ่ง​ทะลวง​ไป​ยัง​ฉิน​มู่ด้วย​การ​เหยียบย่าง​อัน​ทลาย​ภูเขา​และ​พลิก​มหาสมุทร​!

“อ่อนแอ​เกินไป​”

เทพนารี​นั้น​ไม่สนใจ​เขา​ แต่​ทันใด​ กำปั้น​มหึมา​ก็​พลัน​ซัด​มาด้วย​เงาอัน​กลบ​ฟ้าและ​ดิน​ ไม่ทัน​ที่​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ชายหนุ่ม​จะมาถึง กำปั้น​นั้น​ก็​เข้าไป​ปะทะ​กับ​ฝ่ามือ​ของ​นาง​ด้วย​เสียง​กัมปนาท​

สระ​หยก​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ และ​กลีบบัว​นับไม่ถ้วน​ก็​ร่วง​กราว​ เต่า​ยักษ์​ที่​แบก​ขุนเขา​เท​วะ​บน​หลัง​ของ​พวก​มัน​ก็​ถูก​โยน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​ ดิ้น​ตะกุยตะกาย​ไปมา​อย่าง​ช่วยตัวเอง​ไม่ได้​

“นาง​ปีศาจ​สาว​ นาย​ผู้เฒ่า​ของ​เจ้าหนิ​วเปิน​อยู่​ที่นี่​แล้ว​!”

ด้วย​เสียง​กู่​ตะโกน​ วัว​แก่​แปลงร่าง​เป็น​เทพ​เจ้าหัว​วัว​ที่​มีกล้ามเนื้อ​อัน​กระชับ​และ​ชัดเจน​ เขา​พุ่ง​กระโจน​ลง​ไป​ยัง​ผิว​ทะเล​

น้ำทะเล​ซัด​โถมออก​ และ​ทำลาย​ทักษะ​เท​วะ​นับไม่ถ้วน​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ โยน​เอา​ฉิน​มู่ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​อัน​ห่างไกล​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เคลื่อน​ร่างกาย​ใน​อากาศ​ด้วย​ความยากลำบาก​ เขา​กระโดด​ขึ้นไป​และ​คว้า​จับ​ร่าง​ของ​ฉิน​มู่ เอา​มาไว้​ใน​อ้อมแขน​

อีก​ฟาก​หนึ่ง​นั้น​ ลำ​แสงอาทิตย์​กวาด​ม้วน​เอา​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ไป​ และ​ป้องกัน​แรง​กระแทก​อัน​น่าสะพรึงกลัว​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​โลหิต​หลั่งไหล​จาก​ทวาร​ทั้ง​เจ็ด​ ร่างกาย​ของ​เขา​มีรู​โหว่​เป็น​พัน​ๆพวก​มัน​คือ​รอยแผล​ที่​เกิดขึ้น​จาก​กระบี่​ผงาด​ภัยพิบัติ​อัน​พิลึก​และ​ยาก​จะคาดเดา​

ลำ​แสงอาทิตย์​มุด​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​ และ​ปิดผนึก​บาดแผล​ของ​เขา​เอาไว้​ หยุดยั้ง​ไม่ให้​เขา​เลือด​ไหล​ แสงอาทิตย์​จึงส่งเขา​ไป​ยัง​ศาลา​หยก​ อัน​อยู่​ห่างไกล​ออก​ไป​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวน​อน​แน่นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​อุ้ม​ฉิน​มู่และ​พุ่ง​ทะยาน​ออกห่าง​อย่าง​ไม่คิด​ชีวิต​ แม้ว่า​ฉิน​มู่ ผู้​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ จะเต็มไปด้วย​กระดูก​แตกหัก​ แต่​กระดูก​หัก​เหล่านี้​ก็​ถูก​ขับ​ออก​มาจาก​ร่าง​ และ​กระดูก​ใหม่​กำลัง​ก่อตัว​ขึ้น​มา

โดน​แรง​กด​อัด​ขนาด​นี้​ ยัง​ไม่ตาย​อีก​หรือ​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​แตกตื่น​

“กระบี่​ของ​ข้า​…” ฉิน​มู่กล่าว​อย่าง​อ่อนแรง​

“ช่างหัว​กระบี่​มารดา​เจ้า!”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​โกรธเกรี้ยว​และ​ดุด่า​ “ข้า​บอก​เจ้าว่า​อย่า​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ หากว่า​ข้า​ไม่ไหวตัว​ทัน​และ​ไม่ได้​เรียก​ผู้อาวุโส​หนิ​วเปิน​มาตามหา​เจ้าใน​ทะเล​หยก​ เจ้าก็​คง​ตาย​ไป​นาน​แล้ว​!”

ฉิน​มู่เผย​รอยยิ้ม​ “ตอนนี้​เจ้าเหมือน​คน​จริงๆ​ ที่​มีชีวิต​ล่ะ​ ข้า​มีความสุข​อย่างยิ่ง​…”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ เขา​เอง​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ “หยุด​พูด​ รักษา​เยียวยา​ตนเอง​ไป​”

ฉิน​มู่กาง​ฝ่ามือ​ออก​ และ​กวักมือ​ไป​ข้างหลัง​ แสงกระบี่​ละเอียดยิบ​มากมาย​ลอย​เข้ามา​ และ​ชน​กันและกัน​เพื่อ​ก่อตัว​กัน​เป็น​ไจกระบี่​อัน​ลอย​ไป​กับ​พวกเขา​ ไจกระบี่​นี้​ปิด​เข้าด้วยกัน​อย่าง​รวดเร็ว​

“พวกเรา​ไป​สังหาร​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​กัน​เถอะ​”

ฉิน​มู่กระอัก​เลือด​ออกมา​และ​กล่าว​อย่าง​ระโหยโรยแรง​ “เขา​เกือบจะ​ตาย​แล้ว​ ข้า​เพียงแต่​ต้อง​แทง​เขา​อีก​สัก​ฉึก​…”

“เทียบ​กับ​เขา​แล้ว​ ข้า​คิด​ว่า​เจ้าควร​กังวล​เรื่อง​ความ​เป็น​ตาย​ของ​พวกเรา​เสีย​มากกว่า​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ถอนหายใจ​ และ​เห็น​ครึ่ง​เทพ​ใน​บริเวณ​โดยรอบ​มากขึ้น​ทุกที​ เขา​กล่าว​ด้วย​เสียง​นุ่ม​ “เจ้าไม่จำเป็นต้อง​สังหาร​เขา​ ข้า​จะไป​จบชีวิต​เขา​ด้วย​ตนเอง​ในอนาคต​ เพื่อ​ล้างแค้น​ให้​แก่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ ตอนนี้​ข้า​เพียงแค่​กังวล​ว่า​พวกเรา​จะหลบหนี​ไป​ได้​อย่างไร​”

ฉิน​มู่พลัน​ปาด​น้ำตา​และ​หันหน้า​กลับ​ไป​ เขา​คิดในใจ​ บรรพชน​เฒ่า เจ้าทำ​ไม่สำเร็จ​…ข้า​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​เจ้ายัง​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่​…ข้า​เคย​คิด​ว่า​เจ้าควรจะ​สู้ให้​ยิบตา​ และ​ตาย​อย่าง​สมเกียรติ​ใน​สนามรบ​ แต่ทว่า​ ใน​ตอนนี้​ข้า​หวัง​ยิ่งกว่า​อะไร​ว่า​เจ้าจะยังคง​มีชีวิต​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด