ตำนานเทพกู้จักรวาล 739 วิญญูชนสวรรค์โยวผู้ร่ำไห้ในรอยยิ้ม

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 739 วิญญูชนสวรรค์โยวผู้ร่ำไห้ในรอยยิ้ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พี่​ฉิน​ พี่​มู่!”

โอรส​หยิน​สวรรค์​ปรากฏตัว​ข้างหลัง​ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​ และ​เขา​ก็​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “และ​ผู้อาวุโส​หนิ​วเปิน!​ พวก​ท่าน​ได้​สร้าง​ความพินาศ​ครั้ง​ยิ่งใหญ่​! สระ​หยก​นี้​เป็น​ของ​จักรพรรดินี​ฟ้า และ​ตอนนี้​เมื่อ​พวก​ท่าน​ได้​ทุบ​ทลาย​มัน​จน​เละเทะ​ จักรพรรดินี​ฟ้าก็​อาจจะ​เอาเรื่อง​พวก​ท่าน​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ ทั้ง​สามท่าน​นี้​คือ​ศิษย์​พี่​ฉิน​ไค​ ศิษย์​พี่​มู่ชิง และ​ผู้อาวุโส​หนิ​วเปิน​ที่​ข้า​ได้​กล่าวถึง​พวกเขา​ให้​ฟังไป​ก่อนหน้า​”

ก็​แต่​ตอนนี้​เท่านั้น​ที่​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​เพิ่งจะ​รู้​ชื่อ​ของ​พวกเขา​ แถมยัง​เป็น​ชื่อ​ปลอม​อีก​ต่างหาก​

นาง​นั้น​จดจ่อ​กับ​การค้นคว้า​เพียง​อย่าง​เดียว​ ดังนั้น​จึงค่อนข้าง​หัว​ช้าใน​เรื่อง​อื่นๆ​ นาง​รู้สึก​ว่า​ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เป็น​สหาย​ใน​มรรคา​เดียว​กับ​นาง​ จึงลืม​ที่จะ​ไต่ถาม​ชื่อ​แซ่

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​ชายหนุ่ม​และ​คิดในใจ​ เขา​คือ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​อย่างนั้น​หรือ​ คน​ผู้​แรก​ที่​ได้​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​ทารก​วิญญาณ​?

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​คือ​บุคคล​ที่​ได้​กำหนด​สร้าง​ระบบ​ฝึก​วร​ยุทธ​สมบัติ​เท​วะ​ขึ้น​มา และ​เขา​ยัง​เป็น​บุคคล​ที่​ได้​เปิด​ระบบ​การ​ฝึก​วร​ยุทธ​ปราสาท​สวรรค์​ เขา​ปลุก​เปิด​ทารก​วิญญาณ​ของ​เขา​ ทั้ง​ยัง​ทำให้​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​สามารถ​เหาะ​เหิน​ขึ้นไป​บน​ปราสาท​สวรรค์​ได้​อีกด้วย​ มัน​อาจจะ​เป็น​สิ่งที่​ดาษดื่น​สำหรับ​ผู้คน​ในอนาคต​ และ​แม้ว่า​จะยากเย็น​ แต่​ก็​ยังคง​มีเทพเจ้า​มากมาย​ที่​บรรลุ​ได้​ด้วย​วิธี​นี้​

กระนั้น​สำหรับ​ผู้​คนใน​อดีต​ที่​ไม่รู้​วิธีการ​ฝึก​วร​ยุทธ​ นี่​นับว่า​เป็น​ความสำเร็จ​อัน​ยิ่งใหญ่​เลิศ​ล้ำ​ที่​ทัดเทียม​ได้​กับ​การ​เสกสรร​ฟ้าและ​ดิน​!

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​คิดค้น​ระบบ​ฝึก​วร​ยุทธ​สมบัติ​เท​วะ​ขึ้น​มาจาก​ศูนย์​ ดังนั้น​เขา​จึงคู่ควร​กับ​ฉายานาม​วิญญูชน​สวรรค์​!

ฉิน​มู่เพ่งพิศ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​พบ​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​มีรูปลักษณ์​ประดุจ​หยก​ เขา​อ่อนโยน​ สงบนิ่ง​ และ​เยือกเย็น​ เขา​ยืน​อยู่​ที่นั่น​เหมือนกับ​พฤกษา​หยก​ต้น​หนึ่ง​ สายตา​ของ​เขา​เหมือนกับ​น้ำค้าง​อัน​เพริศแพร้ว​ และ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​สีสัน​พรรณราย​

ฉิน​มู่คารวะ​ทักทาย​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​ได้ยิน​นาม​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มานาน​แล้ว​ จนบัดนี้​ถึงได้​พบ​เจอ​ นับว่า​สมกับ​กิตติศัพท์​ชื่อเสียง​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ “มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​พี่​มู่และ​พี่​ฉิน​ก็ได้​ทำให้​ทั้ง​สระ​หยก​สะท้าน​สะเทือน​ไป​หมด​ และ​นี่​ทำให้​ข้า​ตระหนัก​ว่า​เหนือ​ฟ้ายังมี​ฟ้า กำลัง​ฝีมือ​ของ​ผู้อาวุโส​หนิ​วเปิน​ก็​ยิ่ง​น่า​แตกตื่น​และ​ทำให้​ข้า​อิจฉา​ยิ่งนัก​ ขออภัย​ด้วย​ที่​ข้า​เชื่องช้า​ที่​ไม่เคย​ได้ยิน​นาม​ของ​พวก​ท่าน​ทั้ง​สาม ถามได้​หรือว่า​ท่าน​มาจาก​ที่ใด​”

ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​หันไป​มอง​กันและกัน​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าวตอบ​ไป​อย่าง​สุภาพ​ “พวกเรา​เป็น​ผู้คน​ที่​มาจาก​สถานที่​อัน​ต่ำต้อย​ นาม​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ดุจ​อสุนีบาต​ที่​กึกก้อง​ไป​ทั่วหล้า​ และ​ใน​เมื่อ​เจ้าได้​จัด​ชุมนุม​สระ​หยก​ พวกเรา​จึงมาเมื่อ​ได้ยิน​ข่าว​ เพียงแต่ว่า​นิสัยใจคอ​ของ​พวกเรา​มุทะลุ​ไป​หน่อย​ จึงเริ่ม​ต่อสู้​กัน​ทันทีที่​แตกคอ​ พวกเรา​นับว่า​เสียมารยาท​แล้ว​ ขอ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​โปรด​อภัย​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​แย้มยิ้ม​และ​กล่าว​ “นี่​ไม่เป็นปัญหา​ สถานที่​นี้​ถูก​ทำลาย​ไป​ แต่​ข้า​ก็ได้​ให้​คน​มาซ่อมแซม​แล้ว​ นี่​ไม่ใช่ที่​เหมาะ​แก่​การ​สนทนา​ ทำไม​อาคันตุกะ​ทั้ง​สามจึงไม่มายัง​ตึก​เล็ก​ๆ ใน​สระ​หยก​เสียหน่อย​ล่ะ​ นั่น​คือ​ราช​วัง​ข้าง​ของ​จักรพรรดินี​สวรรค์​ มัน​แข็งแกร่ง​มั่นคง​กว่า​สถานที่​แห่ง​นี้​”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ไม่ค่อย​เต็มใจ​นัก​ และ​นาง​กำลังจะ​อ้า​ปาก​คัดค้าน​ แต่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​กล่าว​อย่าง​นุ่มนวล​ “วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ โถงวัง​ของ​เจ้าก็​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ ดังนั้น​นี่​ไม่ใช่สถานที่​ที่​เจ้าจะปักหลัก​อยู่​ได้​ พวกเรา​ไป​ที่​วัง​ข้าง​จักรพรรดินี​กัน​เถอะ​”

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ และ​ก็ได้​แต่​ผงกหัว​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​นำทาง​ไป​ข้างหน้า​ และ​สายตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ “พี่​ฉิน​ พี่​มู่ ข้า​เห็น​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​พวก​เจ้าเพริศแพร้ว​และ​เหนือ​ธรรมดา​ วิชา​ฝึกปรือ​ของ​พวก​เจ้าศักดิ์สิทธิ์​และ​เหนือ​ล้ำ​กว่า​สรรพ​ชีวิต​ใดๆ​ ใน​โลก​หล้า​ ความสำเร็จ​ของ​พวก​เจ้าทั้งสอง​ก็​เลิศ​ล้ำ​จน​สุดขีด​ขั้ว​ และ​ไป​ถึงขั้น​ที่​แม้แต่​ข้า​ก็​ไม่เข้าใจ​ ข้า​ถามได้​หรือไม่​ว่า​พวก​เจ้าทั้งสอง​ร่ำเรียน​มาจาก​ใคร​”

“พวกเรา​ขบคิด​ขึ้น​มาเอง​อย่าง​สะเปะสะปะ​” ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​เสียง​ใน​คอ​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “พวกเรา​ใจร้อน​ ดังนั้น​จึงต่อสู้​กัน​ทุกครั้งที่​พบ​หน้า​ เมื่อ​พวกเรา​ต่อสู้​กัน​ไป​ มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​พวกเรา​ก็​ยิ่ง​ดีขึ้น​และ​ดีขึ้น​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เป็นยอด​อัจฉริยะ​ เจ้าได้​คิดค้น​สมบัติ​เท​วะ​ และ​อำนวยพร​ให้​แก่​ชน​รุ่นหลัง​ เจ้าทำให้​ข้า​ประทับใจ​อย่างยิ่ง​”

โอรส​หยิน​สวรรค์​เผย​สีหน้า​สงสัย​และ​คิดในใจ​ เมื่อ​ตอน​ที่อยู่​บน​หลัง​ปลา​คุ​นยักษ์​ พวกเขา​ดูเหมือน​จะเพิ่ง​เคย​พบกัน​เป็นครั้งแรก​ ไม่รู้จัก​ซึ่งกันและกัน​ ทำไม​ฉิน​ไค​จึงกล่าวว่า​ยิ่ง​ได้​ต่อสู้​กัน​ มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​พวกเขา​ก็​ยิ่ง​พัฒนา​รุดหน้า​ ประโยค​นี้​ดูเหมือน​ไม่ใช่ความจริง​

แม้ว่า​เขา​จะขบคิด​ประเด็น​นี้​ แต่​เขา​ก็​ไม่เปิดโปง​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “หากว่า​พวก​เจ้าทั้งสอง​ไม่ต้องการ​ลง​ลึก​ถึงรายละเอียด​ ข้า​ก็​จะไม่บีบ​ให้​บอกกล่าว​แม้ว่า​จะมีผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​มากมาย​ที่​เข้า​ร่วมงาน​ชุมนุม​นี้​ แต่​ผู้​ที่​ควร​แก่​การ​พบ​เจอ​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​พวก​เจ้าทั้งหมด​ หลังจากที่​ข้าม​สะพาน​เหินหาว​แห่ง​นี้​แล้ว​ มัน​ก็​จะเป็น​ตึก​หลัง​เล็ก​ๆ ใน​สระ​หยก​ มัน​ยังคง​ไม่ถูก​ทำลาย​”

ตรงหน้า​พวกเขา​ สะพาน​เหินหาว​เหยียดยาว​ข้าม​ท้องฟ้า​ และ​ไม่มีอะไร​ค้ำ​ยัน​รองรับ​เอาไว้​ สะพาน​ยืดยาว​ต่อไป​อย่าง​ต่อเนื่อง​และ​ลอย​อยู่​เหนือ​มหาสมุทร​ ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​มากมาย​เดิน​บน​สะพาน​เพื่อ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เกาะ​อื่น​

ฉิน​มู่เหลียว​กลับ​ไป​มอง​และ​เห็น​ว่า​เกาะ​วิเศษ​แห่ง​สระ​หยก​ถูก​พวกเขา​สร้าง​ความเสียหาย​อย่าง​หนัก​ ครึ่ง​เทพ​มากมาย​เหาะ​เข้ามา​และ​ซ่อมแซม​ปราสาท​ราช​วัง​ที่​ถูก​พัง​ลง​ไป​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มอง​ลง​ไป​ยัง​พื้นผิว​ทะเล​อัน​สะท้อน​แสงระยิบระยับ​ระหว่าง​ที่​เดิน​ เทพ​บรรพกาล​สอง​ตน​ช่วย​ฉุด​เทพ​บรรพกาล​ที่​ถูก​อัด​ลง​ไป​ปัก​กับ​ทะเล​ขึ้น​มา เทพ​บรรพกาล​นั้น​ถูก​วัว​แก่​กระทืบ​จน​สลบเหมือด​ และ​หัว​ของ​เขา​ก็​ปัก​ลง​ไป​ใต้​ทะเล​

และ​ยังมี​เต่า​เฒ่าจำนวน​หนึ่ง​ที่​ลอย​ขึ้น​มาบน​ผิว​มหาสมุทร​ น้ำทะเล​ไหล​ลง​จาก​ภูเขา​บน​หลังเต่า​กลายเป็น​น้ำตก​

นี่​คือ​การทำลายล้าง​ที่​เกิดขึ้น​จาก​โทสะ​ของ​วัว​แก่​

“จักรพรรดิ​ฟ้ามีจิตใจ​กว้างขวาง​ เขา​ไม่เอา​มาคิด​ใส่ใจ”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​ไม่เชิงยิ้ม​ “แต่ทว่า​ จักรพรรดินี​ฟ้าอาจจะ​โมโห​สักหน่อย​ พวก​เจ้าทั้งสอง​ก็​ระวัง​สักนิด​…วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว!”​

เขา​หยุด​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​เอาไว้​ และ​ชายหนุ่ม​คน​นั้น​ก็​กำลัง​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ตึก​หลัง​เล็ก​แห่ง​สระ​หยก​ ขณะที่​เขา​เดิน​ไป​นั้น​ เขา​ก็​โยน​อักษร​รู​น​ตัว​แล้ว​ตัว​เล่า​ลง​ไป​บน​ผิว​ทะเล​ด้วย​ความเบื่อหน่าย​

ฉิน​มู่สะท้าน​หัวใจ​ อักษร​รู​น​ที่​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​โยน​ลง​ไป​นั้น​ดู​คล้าย​กับ​อักขระ​ใต้พิภพ​อย่างยิ่ง​ เมื่อ​อักษร​รู​น​เหล่านั้น​ถูก​โยน​เข้าไป​ใน​ทะเล​ เขา​ก็​เป่า​ปลา​ยักษ์​หลาย​ตัว​ให้​พอง​ขึ้น​มา

วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ได้​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ใช่ไหม​ ทำไม​เขา​ถึงมีนิสัยใจคอ​เหมือน​เด็ก​ๆ เขา​ฉงน​ฉงาย​

วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​มัด​ผม​เป็น​หาง​หมู​ที่​ชี้ขึ้นไป​ข้างบน​ และ​เขา​มีฟอง​น้ำมูก​ที่​โป่ง​ออก​มาจาก​จมูก​ ที่​ข้างหลัง​ศีรษะ​ของ​เขา​คือ​หน้ากาก​มาร​ และ​หน้ากาก​นั้น​เป็น​ใบ​หน้ายิ้ม​ แต่ทว่า​ใต้​ดวงตา​แต่ละ​ข้าง​ของ​หน้ากาก​ มีรอย​น้ำตา​อยู่​

วิญญูชน​สวรรค์​ผู้​นี้​ดูจะ​แตกต่าง​จาก​วิญญูชน​สวรรค์​คนอื่นๆ​ เขา​ดู​เก็บตัว​ไม่สุงสิงกับ​ใคร​ และ​แม้ว่า​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​จะสนทนา​กับ​เขา​ เขา​ก็​ดูเหมือน​ไม่อยาก​จะให้ความสนใจ​ด้วย​ เขา​มอง​ไป​ที่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ ก่อนที่จะ​หันไป​มอง​ฉิน​มู่และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ จากนั้น​เขา​ก็​หันกลับ​ไป​โยน​อักษร​รู​น​ใต้พิภพ​เล่น​แก้​เบื่อ​

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ด้วย​ความ​สนอกสนใจ​ เขา​ได้​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ ดังนั้น​ก็​ไม่แปลกที่​เขา​จะเชี่ยวชาญ​อักษร​รู​น​ใต้พิภพ​ เขา​นั้น​คงจะ​ต้อง​เชี่ยวชาญ​ใน​ทักษะ​เท​วะ​ใต้พิภพ​ด้วย​เช่นกัน​

ใน​ยุคสมัย​โบราณกาล​เช่นนี้​ การ​ที่​เชี่ยวชาญ​ใน​ทักษะ​เท​วะ​ใต้พิภพ​ หมายความว่า​เขา​เข้า​ใจความ​เป็น​และ​ความตาย​ นี่​นับ​ได้​ว่า​เป็น​ความสำเร็จ​อัน​เลิศ​ล้ำ​แล้ว​

“วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว…”​

ฉิน​มู่นำ​เอา​สมุด​น้อย​ออกมา​และ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​ขอ​ลายเซ็น​เจ้าสักหน่อย​ได้​ไหม​”

วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ปรายตา​มอง​เขา​ และ​พลัน​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาเมื่อ​มอง​ไป​ที่​หว่าง​คิ้ว​ฉิน​มู่ “ดวงตา​ที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​เจ้าพิสดาร​เป็น​อย่างยิ่ง​”

ฉิน​มู่ตื่น​ตะลึง​ จากนั้น​ก็​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เจ้ามอง​ข้า​ทะลุ​เสียแล้ว​ กำลัง​ฝีมือ​ของ​ข้า​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ดังนั้น​ข้า​ต้อง​ปิดผนึก​ดวงตา​เอาไว้​ นี่​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ข้า​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​”

วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ยก​มือขึ้น​หมาย​ที่จะ​แกะ​ใบ​หลิว​ออกมา​ แต่​ฉิน​มู่รีบ​ป้องกัน​เอาไว้​

วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ไม่สบอารมณ์​ทันที​ และ​เขา​ก็​กระโดด​ลง​ไป​จาก​สะพาน​เหินหาว​ “งั้น​ข้า​ไม่ดู​แล้ว​ก็ได้​ ใคร​จะไป​สน​ล่ะ​!”

ฉิน​มู่มอง​ลง​ไป​จาก​สะพาน​ และ​เห็น​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​มิได้​ตกลง​ไป​บน​ผิวน้ำ​ ใน​ทาง​ตรงข้าม​ เขา​นำ​เรือ​กระดาษ​ออกมา​ลำหนึ่ง​ และ​มัน​ก็​ขยาย​ขนาด​ออกมา​ เขา​ลง​ไป​เหยียบ​บน​เรือ​ และ​เรือ​ก็​แล่น​ไป​ยัง​เกาะ​อัน​มีตึก​น้อย​ตั้งอยู่​

“เรือ​กระดาษ​นี้​…”

ฉิน​มู่ตกตะลึง​ หน้ากาก​มาร​ข้างหลัง​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​พลัน​อ้า​ปาก​ออกมา​และ​แลบลิ้น​ใส่เขา​

ฉิน​มู่กระโดด​โหยง​ด้วย​ความตกใจ​ และ​หน้ากาก​นั้น​ก็​กลับ​ไป​เป็นปกติ​

“อย่า​คิดมาก​ วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​มีนิสัยใจคอ​เหมือน​เด็ก​คน​หนึ่ง​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ “เขา​สูญเสีย​บิดา​ไป​เมื่อ​ยัง​เล็ก​ๆ และ​มารดา​ของ​เขา​ก็​เลี้ยงดู​เขา​มา แต่ทว่า​มารดา​ของ​เขา​อ่อนแอ​และ​ป่วย​ นาง​ถูก​รุมเร้า​ด้วย​โรคภัยไข้เจ็บ​อยู่​เสมอ​ เมื่อ​ข้า​พบ​กับ​เขา​ เขา​ก็​ไม่ชอบ​พูดคุย​อยู่แล้ว​ ตอนนั้น​เขา​อายุ​เพียงแค่​สิบ​ขวบ​และ​ต้อง​คอย​ดูแล​มารดา​ ผู้​ซึ่งนอน​อัมพาต​อยู่​บน​เตียง​ เขา​บอก​ข้า​ว่า​เขา​อยาก​จะคิดค้น​วิธีการ​ที่​ทำให้​มารดา​ของ​เขา​ไม่ต้อง​ตาย​ หลังจาก​ผ่าน​มาหลาย​ปี​ เขา​ก็ได้​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าว​ “เขา​เป็น​เด็ก​กตัญญู​ แต่ทว่า​การ​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ไม่อาจ​ช่วยชีวิต​มารดา​ของ​เขา​ได้​”

โอรส​หยิน​สวรรค์​ที่อยู่​ข้างๆ​ กล่าว​ “ข้า​ได้ยิน​ว่า​มารดา​ของ​เขา​เสียชีวิต​ไป​ก่อนที่​เขา​จะเปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ได้​ และ​ทำให้​เขา​ยิ่ง​เก็บตัว​ยิ่งกว่า​เดิม​ เขา​ถึงกับ​กล่าวว่า​เขา​จะบุก​ไปหา​ภูติ​บดี​เพื่อ​แย่งชิง​ดวงวิญญาณ​ของ​มารดา​กลับคืน​มา เขา​นั้น​ใจกล้า​เหลือเกิน​จริงๆ​”

เขา​ส่าย​หัว​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ “อันที่จริง​ เขา​ได้​พบ​กับ​ภูติ​บดี​แล้ว​”

โอรส​หยิน​สวรรค์​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ต่อ​ “เมื่อ​เขา​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ ภูติ​บดี​ได้มา​พบ​เขา​ เขา​วิงวอน​ต่อ​ภูติ​บดี​ให้​เอา​ศักดิ์​ฐานะ​วิญญูชน​สวรรค์​กลับ​ไป​ เขา​ไม่ต้องการ​ความ​เป็น​อมตะ​จาก​ภูติ​บดี​ด้วย​เช่นกัน​ เขา​เพียงแต่​ร้อง​ขอให้​มารดา​ของ​เขา​ไม่มีวัน​ตาย​ แต่​ใน​ตอนนั้น​ มารดา​ของ​เขา​ตาย​ไป​แล้ว​ และ​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​ก็​ลง​ไป​ใน​แดน​ใต้พิภพ​ ภูติ​บดี​นั้น​ยุติธรรม​ไม่ลำเอียง​ และ​เขา​จะไม่เปลี่ยน​กฎเกณฑ์​ของ​แดน​ใต้พิภพ​เพื่อ​เขา​ นั่น​จึงเป็นเหตุให้​เขา​ออกปาก​ว่า​จะบุกเข้าไป​ใน​แดน​ใต้พิภพ​เพื่อ​ชิงดวงวิญญาณ​มารดา​กลับคืน​มา”

ฉิน​มู่มอง​ไป​ที่​เรือ​กระดาษ​ที่​ลอย​ล่อง​ไป​ และ​เงาร่าง​ของ​อีก​คน​ก็​ปรากฏ​ใน​ห้วง​คิด​ของ​เขา​ คน​ผู้​นั้น​ก็​นั่ง​เรือ​กระดาษ​น้อย​ๆ เช่นกัน​ และ​นั่น​ก็​คือ​ผู้เฒ่า​ที่นั่ง​อยู่​ใต้​ตะเกียง​ที่​หัว​เรือ​อยู่​เสมอ​

หรือว่า​เขา​จะเป็น​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​เมตตา​เทียม​สวรรค์​

หากว่า​ใช่ แล้ว​วิญญูชน​สวรรค์​โย​วก​ลาย​ไป​เป็น​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​เมตตา​เทียม​สวรรค์​ได้​อย่างไร​ใน​ปี​ที่​ผัน​ผ่าน​

เขา​สามารถ​ช่วย​มารดา​ของ​เขา​ออก​มาจาก​ภูติ​บดี​ได้​หรือ​

เรือ​กระดาษ​ลอย​ตรง​ไป​ข้างหน้า​อย่าง​เงียบงัน​ และ​ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​ก็​มีสีหน้า​ของ​การ​ร่ำไห้​ใน​รอยยิ้ม​

ฉิน​มู่ตะลึง​ไป​ เขา​หวน​นึกถึง​มารดา​ของ​ตน​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ “พี่​มู่ดูเหมือน​จะมีเรื่อง​คิด​อยู่​เต็ม​หัว​”

ฉิน​มู่เค้น​รอยยิ้ม​ “เมื่อ​ข้า​เห็น​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ ทำให้​ข้า​นึกถึง​ตนเอง​ ผู้​ที่​ประสบ​ชะตา​คล้ายคลึง​กัน​ย่อม​รู้สึก​เห็นอกเห็นใจ​กัน​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ดูจะ​จมอยู่​ใน​ความคิด​ลึกซึ้ง​ และ​เขา​ก็​พลัน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ด้วย​กำลัง​ฝีมือ​ของ​พี่​มู่ใน​ตอนนี้​ ก็​ย่อม​เป็นธรรมดา​ที่​เจ้าจะได้รับ​การ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​วิญญูชน​สวรรค์​ด้วย​เช่นกัน​ ข้า​เตรียม​ที่จะ​รายงาน​ไป​ยัง​จักรพรรดิ​ฟ้า และ​เขา​อาจจะ​แต่งตั้ง​พี่​ฉิน​และ​พี่​มู่เป็น​วิญญูชน​สวรรค์​ฉิน​และ​วิญญูชน​สวรรค์​มู่ เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึง ก็​จะมีเก้า​วิญญูชน​สวรรค์​”

เขา​หัวเราะ​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​

โอรส​หยิน​สวรรค์​สีหน้า​ไม่ค่อย​ดี​นัก​ และ​วี่แวว​ของ​ความผิดหวัง​และ​ริษยา​ก็​งอก​ขึ้น​มาใน​หัวใจ​ของ​เขา​อย่าง​ช่วยไม่ได้​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ส่าย​ศีรษะ​และ​กล่าว​ “ตำแหน่ง​วิญญูชน​สวรรค์​นั้น​มอบให้​แก่​ผู้คน​ที่​มีความสำเร็จ​อัน​สูงส่ง ข้า​นั้น​ไม่คู่ควร​แก่​ฉายานาม​นี้​ พี่​มู่และ​ข้า​…”

ฉิน​มู่ยิ้ม​หยัน​และ​กล่าว​ “อย่า​เรียก​ข้า​ว่า​พี่​มู่ ข้า​ไม่คู่ควร​!”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เลิกคิ้ว​และ​แค่น​เสียง​ ข้างหลัง​พวกเขา​ วัว​แก่​ที่​เงียบกริบ​มาตลอดทาง​ก็​กระแอม​ไอ​ เผย​การข่มขู่​กระหนาบ​เอาไว้​อย่าง​เห็นได้ชัด​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เห็น​สิ่งเหล่านี้​และ​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ผู้คน​พวก​นี้​แปลก​พิลึก​เสีย​จริง​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าว​ต่อ​ “แม้ว่า​มู่ชิงและ​ข้า​จะมีมรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ที่​เลิศ​ล้ำ​ แต่​พวกเรา​ไม่มีความสำเร็จ​อัน​สะท้าน​โลก​ใดๆ​ พวกเรา​ไม่คู่ควร​แก่​ฉายานาม​นี้​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​หัวเราะ​และ​กล่าว​ “ศิษย์​พี่​ทั้งสอง​ พวก​เจ้าไม่คู่ควร​ แล้ว​ใคร​ล่ะ​จะคู่ควร​ การต่อสู้​ระหว่าง​พวก​เจ้าที่​เกาะ​วิเศษ​สระ​หยก​นั้น​เกิน​กว่า​คำ​ว่า​ทำให้​ลืม​หายใจ​ นี่​มัน​คือ​การ​ทำให้​ทั้งโลก​หล้า​ตะลึง​ลาน​ชัด​ๆ! พูด​กัน​ตามตรง​แล้ว​ ข้า​รู้สึก​ว่า​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ข้า​นั้น​ไม่แย่​ และ​พวก​เดียว​ที่​สามารถ​เหนือ​ล้ำ​ไป​กว่า​ข้า​ได้​ก็​มีเพียง​เทพ​บรรพกาล​ พวก​ที่​เหลือ​ล้วนแต่​สามัญธรรมดา​ แต่ทว่า​ หลังจากที่​ข้า​พบ​พวก​เจ้าทั้งสอง​ ข้า​ถึงได้​รู้​ฟ้าสูงแผ่นดิน​ต่ำ​ ข้า​ถึงได้​รู้​ว่า​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ที่​แท้จริง​นั้น​เป็น​อย่างไร​! พวก​เจ้าทั้งสอง​เป็น​ผู้ก่อตั้ง​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ มีก็​แต่​พวก​เจ้าทั้งสอง​ที่​คู่ควร​กับ​ศักดิ์​ฐานะ​วิญญูชน​สวรรค์​”

เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “หากว่า​เจ้าคิด​ว่า​ตนเอง​ไม่คู่ควร​ พวก​ข้า​วิญญูชน​สวรรค์​ทั้ง​เจ็ด​ ก็​คงจะ​ต้อง​ปลด​ฉายานาม​ออก​ไป​ และ​เก็บตัว​เร้น​กาย​!”

ฉิน​มู่กะพริบตา​ปริบๆ​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ผู้​นี้​นับว่า​เป็น​วีรบุรุษ​เหนือ​ผู้คน​จริงๆ​ ไม่ว่า​จะเป็น​ถ้อยคำ​หรือ​ผลงาน​ของ​เขา​ พวก​มัน​ก็​ล้วนแต่​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ราวกับ​อาบ​ไล้​ด้วย​สายลม​วสันต์​ เขา​นั้น​นุ่มนวล​และ​ลื่นไหล​อย่าง​แท้จริง​

คน​แบบนี้​เป็น​ผู้นำ​โดยธรรมชาติ​ และ​เขา​สามารถ​ทำให้​ผู้คน​มีความรู้สึก​ที่​ดี​ยิ่ง​ต่อ​เขา​ได้​อย่าง​ไม่รู้เนื้อรู้ตัว​!

ตรงหน้า​ พวกเขา​มายัง​ตึก​น้อย​แห่ง​สระ​หยก​

เมื่อ​พวกเขา​มาถึง ฉิน​มู่จึงเพิ่ง​รู้​ว่า​ตึก​น้อย​ที่ว่า​มัน​เป็น​แบบ​ไหน​

แน่นอน​ว่า​สถานที่​นี้​ต้อง​วิลิศมาหรา​ เพราะ​ถึงอย่างไร​มัน​ก็​เป็น​ราช​วัง​ข้าง​ของ​จักรพรรดินี​ฟ้า แต่ทว่า​สิ่งที่​น่า​ตื่นตระหนก​ที่สุด​ก็​คือ​ราช​วัง​แห่ง​นี้​ใหญ่โตมโหฬาร​จน​เกินไป​ มัน​กว้างใหญ่​จน​เหลือเชื่อ​!

เพียงแค่​เสาข้างหน้า​ประตู​ก็​สูงเกิน​กว่า​สามร้อย​วา​เข้าไป​แล้ว​!

ทุกสิ่ง​ที่นี่​ใหญ่​กว่า​วัตถุ​ธรรมดา​เป็น​ร้อย​เท่า​พัน​เท่า​!

ใคร​ก็​คง​นึก​ภาพ​ออ​กว่า​ จักรพรรดินี​สวรรค์​ที่​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ คงจะ​สูงกว่า​คน​ทั่วไป​เป็น​ร้อย​เท่า​!

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กล่าว​ “หลังจากที่​มหา​สมาคม​สภาสวรรค์​สิ้นสุดลง​ และ​นาม​ของ​สภาสวรรค์​เป็นที่​แน่นอน​แล้ว​ ข้า​ก็​จะถวาย​ฎีกา​ขึ้นไป​และ​ร้อง​ขอให้​จักรพรรดิ​ฟ้าแต่งตั้ง​พวก​เจ้า”

ฉิน​มู่กล่าว​ขอบคุณ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “หากว่า​ข้า​สามารถ​ได้​ฉายานาม​วิญญูชน​สวรรค์​มา ข้า​ก็​ย่อม​เต็มไปด้วย​ความสำนึก​ขอบคุณ​ต่อ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้!”​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ขมวดคิ้ว​ มู่ชิงผู้​นี้​รู้จัก​ประจบ​ดี​จริงๆ​!

วัว​แก่​ข้าง​หลังเขา​กระแอม​ไอ​ และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็ได้​แต่​ยับยั้งชั่งใจ​เอาไว้​เพื่อ​มิให้​เทพเจ้า​ที่อยู่​ข้าง​หลังเขา​อาละวาด​อีกครั้ง​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​หัวเราะ​และ​กล่าว​ “นี่​เป็น​เรื่องเล็ก​ พวก​เจ้าคู่ควร​ที่จะ​ได้รับ​มัน​ ข้า​เพียงแต่​ช่วย​ต่อสู้​วิ่งเต้น​ให้​เท่านั้น​ พูด​กัน​ตามตรง​แล้ว​ ข้า​ต้องการ​ทำ​สอง​เรื่อง​ใน​ชุมนุม​สระ​หยก​ อย่าง​แรก​นั้น​คือ​ข้า​ค้นพบ​หนทาง​ที่จะ​บรรลุ​ความ​เป็น​อมตะ​ และ​ผลักดัน​ให้​ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​ทั้งหมด​ใน​โลก​หล้า​รุดหน้า​ไป​อีก​ขั้น​ เพื่อให้​พวกเขา​ทัดเทียม​กับ​เทพเจ้า​ ยิ่งไปกว่านั้น​ วร​ยุทธ​ของ​พวกเขา​ก็​จะสูงล้ำ​ขึ้นไป​ๆ อย่าง​ที่สอง​นั้น​…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด