ตำนานเทพกู้จักรวาล 558 ผู้อาวุโสเสือครึ่งดวงจันทร์

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 558 ผู้อาวุโสเสือครึ่งดวงจันทร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นั่นมันมังกรอ้วน! ศิษย์พี่เสือและคนอื่นๆก็อยู่ที่นี่! พวกเขามาตามหาข้า!

ฉินมู่รีบวิ่งตะบึงกลับไปพลางหลอมปรุงยาแก้พิษ จากที่ไกลๆ เขาเห็นกิเลนมังกรชักกระแด่วๆ และมีฟองขาวฟูมออกจากปาก ร่างของเขากลายเป็นแข็งทื่อและขาของเขาก็ชี้ตรงไปยังท้องฟ้าขณะที่เขาหงายหลังกับพื้น

ฉินมู่รีบรุดเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุดจากระยะร้อยห้าสิบวา จังหวะที่เขาสิ้นสุดการหลอมปรุงยาถอนพิษ เขาก็ดีดนิ้ว เตาหลอมยาปราณชีวิตระเบิดออก และยาแก้พิษก็ลอยเข้าไปในปากกิเลนมังกร

วิชามือของฉินมู่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาลงไปเหยียบพื้นใกล้ๆ มังกรอ้วน ในชั่วพริบตา มุทราจำนวนนับไม่ถ้วนก็ห้อมล้อมร่างของกิเลนมังกรราวกับว่าฉินมู่มีพันแขนงอกเงยออกมา เขาตบทุบตามเนื้อตัวของเจ้าอ้วนนี้เพื่อแพร่กระจายฤทธิ์พลังยาออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อมิให้กายเนื้อของกิเลนมังกรได้รับความเจ็บปวด

ดูเหมือนว่าเขาจะอ้วนขึ้นอีกแล้ว… เมื่อฝ่ามือของฉินมู่ตบลงบนร่างของกิเลนมังกร เขาก็รู้สึกถึงการเด้งสะท้อนของไขมัน อันทำให้ยากที่เขาจะใช้วิชามือ เมื่อสังเกตเช่นนั้น เขาก็ครุ่นคิดด้วยความฉงนฉงาย ข้าไม่ได้ทิ้งยาวิญญาณให้เขามากมาย แล้วทำไมเขาถึงอ้วนขึ้นขนาดนี้ หรือว่าข้าจะเข้าใจเขาผิดไปแล้ว หรือว่าเขาเป็นแบบที่ว่าต่อให้ดื่มน้ำก็อ้วนขึ้นมาเองได้จริงๆ

ซังฮั่ว หลิงอวี้จิว ซีอวิ๋นเซี่ยง และฮู่หลิงเอ๋อล้วนแต่อยู่ใกล้ๆ เมื่อพวกนางเห็นผู้ที่รีบรุดมา ก็กะว่าจะเข้าไปต่อยตีป้องกัน แต่เมื่อจดจำฉินมู่ได้ พวกนางก็ตื่นเต้นยินดี และรอเขาถอนพิษกิเลนมังกรอย่างเงียบเชียบ

ปราณชีวิตของฉินมู่หลั่งไหลออกมาขณะที่เขาทุบเจ้าอ้วนยักษ์นี้นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อแพร่ฤทธิ์พลังยาออกไปยังทุกส่วนร่างกายของเขา ถึงตอนนี้เขาจึงค่อยระบายลมหายใจโล่งอก และนำเอาผ้าเช็ดเหงื่อออกมาซับเหงื่อที่หน้าผาก

โชคดีว่ายาพิษที่ข้าทำในรอบนี้มิได้ร้ายกาจเป็นพิเศษ…

กิเลนมังกรจ้องไปที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความตัดพ้อรำพัน เขามีสีหน้าเหมือนกับชีวิตนี้คงจะไม่มีรักอีกต่อไป

ฉินมู่ระบายลมหายใจและปลอบเขา “ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เจ้าจะลุกขึ้นเดินเหินได้ในไม่ช้า ประสาทการดมกลิ่นเจ้าจะเสียหายไปสักระยะหนึ่ง แต่สักวันสองวันก็จะหายดี หีบ อย่าไปกินเขา เขายังไม่ตาย…เขายังไม่ตายจริงๆ! และต่อให้เขาตายไปแล้วเจ้าก็กินเขาไม่ได้ ดังนั้นคายเขาออกมา…ทำไมพวกเจ้ามาที่นี่”

หีบรีบพ่นกิเลนมังกรออกไป

ฮู่หลิงเอ๋อสร้างหอบลมเพื่อพัดเป่ารองเท้าเหม็นคู่นั้นของฉินมู่ใกล้กระเด็นไปที่ไกลๆ นางกระโดดขึ้นไปบนหัวของกิเลนมังกรและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากที่ท่านหายตัวไป ผู้อาวุโสเฉือก็บอกราชครู แต่ราชครูบอกว่าท่านไม่เป็นอะไรและไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่ทว่าเขาก็ยังคงสั่งให้คนไปแจ้งข่าวแก่ลัทธินักบุญสวรรค์ และธิดาเทพเซี่ยงก็พาพวกเรามา”

เด็กหญิงผู้นี้สะกดคำว่าเสือไม่ชัด

เสือเทพยดาขนดำสำรวจตรวจตราฉินมู่อย่างถ้วนถี่ จากนั้นเปิดเปลือกตาฉินมู่ดูเพื่อมองเข้าไปข้างใน หลังจากตรวจสอบขนาดนั้นเขาจึงค่อยคลายใจ “ตั้งแต่เมื่อพวกเราเข้ามาในเขตแดนมาร องค์หญิงและธิดาเทพก็พยายามติดต่อจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจ้า แต่ว่าพวกนางไม่ได้รับการตอบกลับ พวกเราเกรงว่าจะรบกวนเจ้า ก็เลยหยุดทำเช่นนั้นหลังจากพักหนึ่ง”

“เดิมทีพวกเรากะว่าจะไปยังแดนลางร้าย แต่ไม่ทันที่พวกเราจะไปถึงที่นั่น ก็พบเห็นมารมากมายมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก พวกมันพูดคุยกันว่าเจ้ากำลังมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น ดังนั้นพวกเราจึงตามพวกมันไป กิเลนมังกรคุ้นเคยกับเจ้าดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงสามารถสะกดรอยกลิ่นของเจ้าได้ แบบนี้พวกเราถึงตามหาตัวเจ้าเจอ”

ฉินมู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “เมื่อพวกเจ้าติดต่อข้า ข้าน่าจะยังอยู่ในแดนลางร้าย สถานที่นั้นประหลาดเหลือเกิน อันน่าจะเป็นเหตุให้ข้าไม่สัมผัสถึงจิตวิญญาณดั้งเดิมของธิดาเทพและน้องสาวจิว พวกเจ้าไม่พบกับอันตรายใดๆ หรือ หลังจากที่เข้ามาในเขตแดนมาร”

หลิงอวี้จิวยกกิเลนมังกรขึ้นไปวางไว้บนหีบ “น้องสาวซังฮั่วนั้นแข็งแกร่งสุดๆ เป็นฝีมือของนางที่ทำให้พวกเราหลบเลี่ยงเมืองยุทธศาสตร์ต่างๆ ของเผ่ามารได้”

“นอกจากนั้น มารส่วนมากยังไล่ล่าเจ้า และยังมีข่าวลือว่าเจ้าได้ทำให้ฟู่ยื่อลัวบาดเจ็บสาหัส มารเทวะส่วนใหญ่ได้ไปรวมกันที่ฐานทัพใหญ่เพื่อพิทักษ์ผู้นำของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจได้ว่าไม่มีใครสามารถฉวยโอกาสลอบเข้าไปสังหารเขา”

ฉินมู่ระเบิดหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าข่าวลือจะบรรยายข้าน่ากลัวเกินไปหรอกหรือ จริงๆ แล้วฟู่ยื่อลัวถูกทำร้ายโดยคำสาปที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลย เขานั้นได้รับบาดเจ็บจริงๆ แต่ตอนนี้น่าจะหายดีแล้ว”

ซังฮั่วมองไปรอบๆ และเห็นมารมากมายมุ่งหน้ามาทางพวกเขา นางรีบกล่าว “ผู้อาวุโสเสือเพิ่งสังหารพวกมารมากมาย และมันก็จะดึงดูดมารเทวะมาไม่หนึ่งก็สอง เช่นนั้นเราคงอยู่ที่นี่กันได้อีกไม่นาน ออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกันอย่างละเอียดในภายหลัง! ผู้อาวุโสเสือ ร่างของท่านใหญ่เกินไปและจะดึงดูดความสนใจของมารเทวะ พวกเราคงต้องรบกวนท่านสักหน่อย”

เทพเสือขนดำได้ยินและรีบย่อหดร่างของตนลงไปเป็นเสือน้อยที่ตัวสูงแค่คืบ

พวกสาวๆ หันไปมองกันและกันและต่างก็มาเกาหูเกาคางให้กับเขา รู้สึกสมใจ เทพเสือขนดำไม่ใส่ใจพวกนางเลยสักนิด

หรือว่าศิษย์พี่เสืออาศัยวิธีนี้ถึงเข้ามาลึกในเขตแดนมารได้ ฉินมู่พิศวง

พวกเขาเริ่มต้นเดินไปทางทิศตะวันออก และหีบก็รีบวิ่งตามมาข้างหลังพวกเขา

เทพเสือขนดำเดินไปข้างๆ ฉินมู่และเงยหัวขึ้นมองเขา “เรื่องที่ฟู่ยื่อลัวได้รับบาดเจ็บจากคำสาปนี่มันเป็นอย่างไร ข่าวลือนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องเท็จ แต่เจ้าหมอนั่นเป็นถึงมารเที่ยงแท้ จ้าวเหนือหัวแห่งเผ่ามาร เช่นนั้นเขาจะได้รับบาดเจ็บจากคำสาปได้อย่างไร”

“มันมาจากจี้หยกของข้า ข้างในนั้นมีคำสาปซ่อนอยู่ ส่วนว่าสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบ นักบุญคนตัดไม้รู้ แต่เขาไม่บอกข้า”

ไม่นานนัก กิเลนมังกรก็สามารถขยับแข้งขาของเขาได้อีกครั้ง แต่ก็ยังอ่อนปวกเปียกและไม่มีสามารถลุกขึ้นยืนได้ เขากล่าวอย่างตัดพ้อ “จ้าวลัทธิ ข้าหิว…”

“หากว่าเจ้ากินยาวิญญาณตอนนี้ มันก็จะปั่นป่วนท้องของเจ้า และเจ้าก็จะมีแต่อาเจียนมันออกมา” ฉินมู่อธิบายทันที

กิเลนมังกรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “จ้าวลัทธิ มังกรน้อยผู้นี้อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตมาตามหาจ้าวลัทธิในเขตแดนมาร แต่ท่านก็ยังวางยาพิษข้า…”

ฉินมู่กะพริบตาปริบ แต่ไม่พูดอะไร

“ยังหิวอยู่เลย” กิเลนมังกรกล่าว

ด้วยความจนปัญญา ฉินมู่จึงได้แต่นำสมุนไพรวิญญาณจำนวนหนึ่งมาจัดปรุงเป็นยาเทพชีวาธาตุไฟ

“ข้าชอบยาวิญญาณเพลิงฉาน ข้าไม่ชอบรสชาติของยาเทพชีวาธาตุไฟ”

ฉินมู่เลิกคิ้ว แต่ก็ข่มโทสะเอาไว้ เขาวางยาที่เขาปรุงขึ้นมา จากนั้นคุ้ยหาสมุนไพรสำหรับยาวิญญาณเพลิงฉาน

เขาหลอมปรุงมันเสร็จ และกิเลนมังกรก็อ้าปาก รอให้เขาป้อนอาหาร

เสื้อเลือดปูดขึ้นมาที่หน้าผากของเขา แต่เขาก็โยนยาไปสองเม็ด และกิเลนมังกรก็เคี้ยวกร้วมๆ “รสชาติมันไม่ถูกต้อง มันไม่อร่อยเหมือนเดิม…” กิเลนมังกรกล่าวอย่างกังขา

“พิษได้ทำลายประสาทสัมผัสส่วนที่ควบคุมการรับรู้กลิ่นและรสของเจ้า ดังนั้นอาหารจึงรสชาติไม่เหมือนเดิมเมื่อเจ้ากินมัน” ฉินมู่อธิบาย

“จ้าวลัทธิ เช่นนั้นเอายาวิญญาณพวกนั้นให้ข้าไว้ เดี๋ยวข้ากินอีกทีตอนประสาทสัมผัสกลับมา”

ฉินมู่ส่งยาวิญญาณเพลิงฉานที่ทำเสร็จแล้วให้แก่เขา กิเลนมังกรซ่อนมันเอาไว้ในหีบระหว่างที่กล่าวอย่างอ่อนแรง “ข้ายังหิวอยู่เลย ข้าอยากลองกินยาเทพชีวาธาตุไฟดู บางทีมันอาจจะไม่ได้กลืนยากนัก”

ฉินมู่นำเอาสมุนไพรชุดที่เขาจับคู่เอาไว้ก่อนหน้านี้และหลอมปรุงยาเทพชีวาธาตุไฟหนึ่งหม้อ และกิเลนมังกรก็ชิมดูสองเม็ด “รสชาติเหมือนจะดีขึ้นนิดหน่อย มันไม่เลวร้ายเหมือนที่เคย จ้าวลัทธิ ท่านหลอมปรุงให้ข้าอีกสองหม้อได้ไหม”

“กินมากเกินไป ระวังเถอะจะจุกคอตาย! ดูสิว่าเจ้าอ้วนขนาดไหนแล้ว! แม้แต่หีบก็ยังแบกเจ้าไม่ไหวอีกต่อไป!” ฉินมู่กล่าวด้วยความเดือดดาลที่ปะทุออกมาในที่สุด

กิเลนมังกรทำสีหน้าราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีรักเหลือแล้ว และกล่าวด้วยความตัดพ้อต่อว่า “ข้าโดนยาพิษ และข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะมีโอกาสได้ชิมรสชาติยาวิญญาณเพลิงฉานอีกไหม น่าเสียดายที่แม่ข้าจากไปแต่เนิ่นๆ ปรมาจารย์ก็มาจากไปอีกคน…”

ฉินมู่ไม่อาจทนดูมังกรอ้วนที่รันทดท้อแท้เช่นนี้ และหลอมปรุงยาให้เขาอีกสองหม้อ กิเลนมังกรจึงไม่พึมพำอีกต่อไป

จากที่เขาลอบเหลือบตาดู ฉินมู่เห็นเจ้าหมอนี่ไม่ได้กินยาวิญญาณเข้าไปมากนัก เขาแอบเปิดหีบและเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ข้างใน

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มังกรอ้วนมันไปเจออะไรมานะ ฉินมู่พิศวง

กิเลนมังกรนอนอยู่บนหีบอย่างเงียบเชียบ เขานำสมุดออกมา และถือพู่กันด้วยอุ้งเท้าหน้า จากนั้นก็ค่อยๆ เขียนบางอย่างลงไปอย่างระมัดระวัง

ฉินมู่ถอยไปข้างหลังเพื่อส่องดู แต่กิเลนมังกรรีบปิดมันเอาไว้ ฉินมู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มังกรอ้วนก็รู้จักขยันเหมือนกันนะ หลิงเอ๋อ เจ้าต้องเรียนรู้จากเขาให้มากๆ”

ฮู่หลิงเอ๋อกำลังกอดหางของนางและเลียขนให้สะอาดอยู่ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น นางก็กล่าวอย่างจริงจัง “ช่วงนี้ข้าเรียนอยู่กับท่านปู่หนวก และเขาก็ชมข้าว่ามีความรู้ดี!”

เสือเทพยดาขนดำกระโดดขึ้นไปบนหีบและขยับเข้าไปมองที่ข้อเขียนนั้น

กิเลนมังกรไม่กล้าผยองและปล่อยให้เขามานั่งอยู่ระหว่างอุ้งเท้าทั้งสองของตน เทพเสือขนดำมองปราดหนึ่งและระเบิดหัวเราะออกมา “นี่ก็ได้ผลหรือ”

“มันได้ผลแน่นอนสิ!” กิเลนมังกรกล่าวด้วยสีหน้าจริงๆ จัง “ข้าสำเร็จการเป็นเจ้านายของมนุ–เอ่อ มรรคาแห่งการควบคุมมนุษย์ วิชานี้ของข้าจะต้องเจิดจรัสในอนาคตเป็นแน่!”

เทพเสือขนดำส่ายหัว “เจ้าใช้เวลากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้มากไป และไม่อุทิศมันให้กับมรรคาที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องกินยาวิญญาณเพลิงฉาน หรือยาเทพชีวาธาตุไฟ การฝึกปรือด้วยตัวเจ้าเองนั้นได้ประโยชน์ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ!”

“พี่เสือเคยกินยาวิญญาณมาก่อนหรือเปล่า” กิเลนมังกรถาม

เทพเสือขนดำส่ายหัวอีกครั้ง “นายท่านบอกว่า การฝึกปรือด้วยตนเองนั้นจึงเป็นหนทางอันเที่ยงแท้ ไม่มีใครให้ข้ากินยาวิญญาณมาก่อน”

กิเลนมังกรนำเอายาเทพชีวาธาตุไฟออกมาหนึ่งเม็ด “ลองนี่สิ”

เทพเสือขนดำกินเข้าไปและกล่าวด้วยความแตกตื่น “รสอร่อยอย่างนี้เลยรึ อร่อยกว่าอาหารธรรมดาหลายเท่า!”

กิเลนมังกรยิ้มหยัน “ยาวิญญาณเพลิงฉานยังรสชาติยอดเยี่ยมกว่านี้อีก! ลองยาวิญญาณเพลิงฉานสักเม็ดสิ!”

เทพเสือขนดำกินไปหนึ่ง และร่างของเขาก็สั่นเทิ้ม น้ำตาไหลพรากๆ ออกจากดวงตาเขาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ตอนนี้ท่านก็รู้แล้วใช่ไหมว่ามันดีขนาดไหน เพราะว่าท่านไม่ได้เรียนรู้วิชาของข้า นายของท่านถึงขี้เกียจ การฝึกปรือของท่านเป็นการฝึกปรือที่เที่ยงแท้จริงหรือ นั่นเพราะว่าท่านหมั่นเพียรไม่มากพอ และมีกลเม็ดเด็ดพรายน้อยเกินไป! ท่านถูกเขาทำให้เชื่อง แทนที่ท่านจะทำให้เขาเชื่องแทน มีก็แต่เรียนคัมภีร์เลี้ยงมนุษย์ของข้า ท่านถึงจะได้กินดีอยู่ดี”

เสือเทพยดาขนดำมองไปที่ฉินมู่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้อง ยาวิญญาณเพลิงฉานมีรสชาติดีจริงๆ เจ้าให้ข้าสักสามสี่หม้อได้หรือไม่”

ฉินมู่มองไปที่เขาด้วยความฉงน “ศิษย์พี่ ท่านบรรลุเป็นปีศาจเทวะไปแล้ว ทำไมยังต้องกินอีกล่ะ”

“รสชาติมันไม่เลวเท่าใด ข้าพอจะใช้กินเป็นของว่างได้”

ฉินมู่ขมวดคิ้ว และถามอย่างใจเย็น “ศิษย์พี่เสือมีคุณสมบัติของปราณปีศาจเป็นธาตุอะไรหรือ”

“ทองและน้ำ”

ฉินมู่คิดคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเขียนสูตรยาให้ “นี่คือยาพลังชีวาผสมทองและน้ำ มันมีปราณทองและปราณน้ำอยู่ข้างใน ข้ายังใช้สมุนไพรเสริมที่เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม ศิษย์พี่ ข้าหลอมปรุงยาให้กับท่านนั้นไม่ใช่ทางแก้ ท่านเป็นเทพเจ้า ดังนั้นย่อมหลอมปรุงด้วยตนเองได้ ข้าจะสอนท่านถึงวิธีการหลอมปรุง”

เทพเสือขนดำปีติยินดีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ร้องขอจากผู้อื่นนั้นไม่เท่ากับพึ่งตนเอง หากว่าข้าสามารถเรียนรู้การหลอมปรุงยา ข้าก็จะไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ!”

ฉินมู่สอนเขาถึงวิธีการหลอมปรุงยาพลังชีวาผสมทองและน้ำ เสือเทพยดาขนดำเฉลียวฉลาดอย่างเหลือเชื่อ และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เขาหลอมปรุงยาได้ค่อนข้างดี

ไม่นานนัก เทพเสือขนดำก็มาหาเขาอีกเพื่อร้องขอวัตถุดิบปรุงยา ฉินมู่มอบให้เขา

เมื่อวันถัดไปมาถึง ฉินมู่รู้สึกราวกับว่าศิษย์พี่ปีศาจเทวะผู้นี้กลายเป็นอ้วนท้วนขึ้น เขาสงสัยว่าตาฝาดไปเองหรือเปล่า

แต่ทว่า เมื่อเสือน้อยขนดำไปนอนแผ่อยู่ใกล้ๆ กิเลนมังกร เขาก็ดูไม่อ้วนเลยสักนิด ถ้าเช่นนั้นเขาก็คงโดนแสงและเงาหลอกให้ตาฝาดไปเองจริงๆ นั่นแหละ

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพกู้จักรวาล 558 ผู้อาวุโสเสือครึ่งดวงจันทร์

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 558 ผู้อาวุโสเสือครึ่งดวงจันทร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นั่นมันมังกรอ้วน! ศิษย์พี่เสือและคนอื่นๆก็อยู่ที่นี่! พวกเขามาตามหาข้า!

ฉินมู่รีบวิ่งตะบึงกลับไปพลางหลอมปรุงยาแก้พิษ จากที่ไกลๆ เขาเห็นกิเลนมังกรชักกระแด่วๆ และมีฟองขาวฟูมออกจากปาก ร่างของเขากลายเป็นแข็งทื่อและขาของเขาก็ชี้ตรงไปยังท้องฟ้าขณะที่เขาหงายหลังกับพื้น

ฉินมู่รีบรุดเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุดจากระยะร้อยห้าสิบวา จังหวะที่เขาสิ้นสุดการหลอมปรุงยาถอนพิษ เขาก็ดีดนิ้ว เตาหลอมยาปราณชีวิตระเบิดออก และยาแก้พิษก็ลอยเข้าไปในปากกิเลนมังกร

วิชามือของฉินมู่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาลงไปเหยียบพื้นใกล้ๆ มังกรอ้วน ในชั่วพริบตา มุทราจำนวนนับไม่ถ้วนก็ห้อมล้อมร่างของกิเลนมังกรราวกับว่าฉินมู่มีพันแขนงอกเงยออกมา เขาตบทุบตามเนื้อตัวของเจ้าอ้วนนี้เพื่อแพร่กระจายฤทธิ์พลังยาออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อมิให้กายเนื้อของกิเลนมังกรได้รับความเจ็บปวด

ดูเหมือนว่าเขาจะอ้วนขึ้นอีกแล้ว… เมื่อฝ่ามือของฉินมู่ตบลงบนร่างของกิเลนมังกร เขาก็รู้สึกถึงการเด้งสะท้อนของไขมัน อันทำให้ยากที่เขาจะใช้วิชามือ เมื่อสังเกตเช่นนั้น เขาก็ครุ่นคิดด้วยความฉงนฉงาย ข้าไม่ได้ทิ้งยาวิญญาณให้เขามากมาย แล้วทำไมเขาถึงอ้วนขึ้นขนาดนี้ หรือว่าข้าจะเข้าใจเขาผิดไปแล้ว หรือว่าเขาเป็นแบบที่ว่าต่อให้ดื่มน้ำก็อ้วนขึ้นมาเองได้จริงๆ

ซังฮั่ว หลิงอวี้จิว ซีอวิ๋นเซี่ยง และฮู่หลิงเอ๋อล้วนแต่อยู่ใกล้ๆ เมื่อพวกนางเห็นผู้ที่รีบรุดมา ก็กะว่าจะเข้าไปต่อยตีป้องกัน แต่เมื่อจดจำฉินมู่ได้ พวกนางก็ตื่นเต้นยินดี และรอเขาถอนพิษกิเลนมังกรอย่างเงียบเชียบ

ปราณชีวิตของฉินมู่หลั่งไหลออกมาขณะที่เขาทุบเจ้าอ้วนยักษ์นี้นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อแพร่ฤทธิ์พลังยาออกไปยังทุกส่วนร่างกายของเขา ถึงตอนนี้เขาจึงค่อยระบายลมหายใจโล่งอก และนำเอาผ้าเช็ดเหงื่อออกมาซับเหงื่อที่หน้าผาก

โชคดีว่ายาพิษที่ข้าทำในรอบนี้มิได้ร้ายกาจเป็นพิเศษ…

กิเลนมังกรจ้องไปที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความตัดพ้อรำพัน เขามีสีหน้าเหมือนกับชีวิตนี้คงจะไม่มีรักอีกต่อไป

ฉินมู่ระบายลมหายใจและปลอบเขา “ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เจ้าจะลุกขึ้นเดินเหินได้ในไม่ช้า ประสาทการดมกลิ่นเจ้าจะเสียหายไปสักระยะหนึ่ง แต่สักวันสองวันก็จะหายดี หีบ อย่าไปกินเขา เขายังไม่ตาย…เขายังไม่ตายจริงๆ! และต่อให้เขาตายไปแล้วเจ้าก็กินเขาไม่ได้ ดังนั้นคายเขาออกมา…ทำไมพวกเจ้ามาที่นี่”

หีบรีบพ่นกิเลนมังกรออกไป

ฮู่หลิงเอ๋อสร้างหอบลมเพื่อพัดเป่ารองเท้าเหม็นคู่นั้นของฉินมู่ใกล้กระเด็นไปที่ไกลๆ นางกระโดดขึ้นไปบนหัวของกิเลนมังกรและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากที่ท่านหายตัวไป ผู้อาวุโสเฉือก็บอกราชครู แต่ราชครูบอกว่าท่านไม่เป็นอะไรและไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่ทว่าเขาก็ยังคงสั่งให้คนไปแจ้งข่าวแก่ลัทธินักบุญสวรรค์ และธิดาเทพเซี่ยงก็พาพวกเรามา”

เด็กหญิงผู้นี้สะกดคำว่าเสือไม่ชัด

เสือเทพยดาขนดำสำรวจตรวจตราฉินมู่อย่างถ้วนถี่ จากนั้นเปิดเปลือกตาฉินมู่ดูเพื่อมองเข้าไปข้างใน หลังจากตรวจสอบขนาดนั้นเขาจึงค่อยคลายใจ “ตั้งแต่เมื่อพวกเราเข้ามาในเขตแดนมาร องค์หญิงและธิดาเทพก็พยายามติดต่อจิตวิญญาณดั้งเดิมของเจ้า แต่ว่าพวกนางไม่ได้รับการตอบกลับ พวกเราเกรงว่าจะรบกวนเจ้า ก็เลยหยุดทำเช่นนั้นหลังจากพักหนึ่ง”

“เดิมทีพวกเรากะว่าจะไปยังแดนลางร้าย แต่ไม่ทันที่พวกเราจะไปถึงที่นั่น ก็พบเห็นมารมากมายมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก พวกมันพูดคุยกันว่าเจ้ากำลังมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น ดังนั้นพวกเราจึงตามพวกมันไป กิเลนมังกรคุ้นเคยกับเจ้าดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงสามารถสะกดรอยกลิ่นของเจ้าได้ แบบนี้พวกเราถึงตามหาตัวเจ้าเจอ”

ฉินมู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “เมื่อพวกเจ้าติดต่อข้า ข้าน่าจะยังอยู่ในแดนลางร้าย สถานที่นั้นประหลาดเหลือเกิน อันน่าจะเป็นเหตุให้ข้าไม่สัมผัสถึงจิตวิญญาณดั้งเดิมของธิดาเทพและน้องสาวจิว พวกเจ้าไม่พบกับอันตรายใดๆ หรือ หลังจากที่เข้ามาในเขตแดนมาร”

หลิงอวี้จิวยกกิเลนมังกรขึ้นไปวางไว้บนหีบ “น้องสาวซังฮั่วนั้นแข็งแกร่งสุดๆ เป็นฝีมือของนางที่ทำให้พวกเราหลบเลี่ยงเมืองยุทธศาสตร์ต่างๆ ของเผ่ามารได้”

“นอกจากนั้น มารส่วนมากยังไล่ล่าเจ้า และยังมีข่าวลือว่าเจ้าได้ทำให้ฟู่ยื่อลัวบาดเจ็บสาหัส มารเทวะส่วนใหญ่ได้ไปรวมกันที่ฐานทัพใหญ่เพื่อพิทักษ์ผู้นำของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจได้ว่าไม่มีใครสามารถฉวยโอกาสลอบเข้าไปสังหารเขา”

ฉินมู่ระเบิดหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าข่าวลือจะบรรยายข้าน่ากลัวเกินไปหรอกหรือ จริงๆ แล้วฟู่ยื่อลัวถูกทำร้ายโดยคำสาปที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลย เขานั้นได้รับบาดเจ็บจริงๆ แต่ตอนนี้น่าจะหายดีแล้ว”

ซังฮั่วมองไปรอบๆ และเห็นมารมากมายมุ่งหน้ามาทางพวกเขา นางรีบกล่าว “ผู้อาวุโสเสือเพิ่งสังหารพวกมารมากมาย และมันก็จะดึงดูดมารเทวะมาไม่หนึ่งก็สอง เช่นนั้นเราคงอยู่ที่นี่กันได้อีกไม่นาน ออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกันอย่างละเอียดในภายหลัง! ผู้อาวุโสเสือ ร่างของท่านใหญ่เกินไปและจะดึงดูดความสนใจของมารเทวะ พวกเราคงต้องรบกวนท่านสักหน่อย”

เทพเสือขนดำได้ยินและรีบย่อหดร่างของตนลงไปเป็นเสือน้อยที่ตัวสูงแค่คืบ

พวกสาวๆ หันไปมองกันและกันและต่างก็มาเกาหูเกาคางให้กับเขา รู้สึกสมใจ เทพเสือขนดำไม่ใส่ใจพวกนางเลยสักนิด

หรือว่าศิษย์พี่เสืออาศัยวิธีนี้ถึงเข้ามาลึกในเขตแดนมารได้ ฉินมู่พิศวง

พวกเขาเริ่มต้นเดินไปทางทิศตะวันออก และหีบก็รีบวิ่งตามมาข้างหลังพวกเขา

เทพเสือขนดำเดินไปข้างๆ ฉินมู่และเงยหัวขึ้นมองเขา “เรื่องที่ฟู่ยื่อลัวได้รับบาดเจ็บจากคำสาปนี่มันเป็นอย่างไร ข่าวลือนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องเท็จ แต่เจ้าหมอนั่นเป็นถึงมารเที่ยงแท้ จ้าวเหนือหัวแห่งเผ่ามาร เช่นนั้นเขาจะได้รับบาดเจ็บจากคำสาปได้อย่างไร”

“มันมาจากจี้หยกของข้า ข้างในนั้นมีคำสาปซ่อนอยู่ ส่วนว่าสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรนั้น ข้าเองก็ไม่ทราบ นักบุญคนตัดไม้รู้ แต่เขาไม่บอกข้า”

ไม่นานนัก กิเลนมังกรก็สามารถขยับแข้งขาของเขาได้อีกครั้ง แต่ก็ยังอ่อนปวกเปียกและไม่มีสามารถลุกขึ้นยืนได้ เขากล่าวอย่างตัดพ้อ “จ้าวลัทธิ ข้าหิว…”

“หากว่าเจ้ากินยาวิญญาณตอนนี้ มันก็จะปั่นป่วนท้องของเจ้า และเจ้าก็จะมีแต่อาเจียนมันออกมา” ฉินมู่อธิบายทันที

กิเลนมังกรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “จ้าวลัทธิ มังกรน้อยผู้นี้อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตมาตามหาจ้าวลัทธิในเขตแดนมาร แต่ท่านก็ยังวางยาพิษข้า…”

ฉินมู่กะพริบตาปริบ แต่ไม่พูดอะไร

“ยังหิวอยู่เลย” กิเลนมังกรกล่าว

ด้วยความจนปัญญา ฉินมู่จึงได้แต่นำสมุนไพรวิญญาณจำนวนหนึ่งมาจัดปรุงเป็นยาเทพชีวาธาตุไฟ

“ข้าชอบยาวิญญาณเพลิงฉาน ข้าไม่ชอบรสชาติของยาเทพชีวาธาตุไฟ”

ฉินมู่เลิกคิ้ว แต่ก็ข่มโทสะเอาไว้ เขาวางยาที่เขาปรุงขึ้นมา จากนั้นคุ้ยหาสมุนไพรสำหรับยาวิญญาณเพลิงฉาน

เขาหลอมปรุงมันเสร็จ และกิเลนมังกรก็อ้าปาก รอให้เขาป้อนอาหาร

เสื้อเลือดปูดขึ้นมาที่หน้าผากของเขา แต่เขาก็โยนยาไปสองเม็ด และกิเลนมังกรก็เคี้ยวกร้วมๆ “รสชาติมันไม่ถูกต้อง มันไม่อร่อยเหมือนเดิม…” กิเลนมังกรกล่าวอย่างกังขา

“พิษได้ทำลายประสาทสัมผัสส่วนที่ควบคุมการรับรู้กลิ่นและรสของเจ้า ดังนั้นอาหารจึงรสชาติไม่เหมือนเดิมเมื่อเจ้ากินมัน” ฉินมู่อธิบาย

“จ้าวลัทธิ เช่นนั้นเอายาวิญญาณพวกนั้นให้ข้าไว้ เดี๋ยวข้ากินอีกทีตอนประสาทสัมผัสกลับมา”

ฉินมู่ส่งยาวิญญาณเพลิงฉานที่ทำเสร็จแล้วให้แก่เขา กิเลนมังกรซ่อนมันเอาไว้ในหีบระหว่างที่กล่าวอย่างอ่อนแรง “ข้ายังหิวอยู่เลย ข้าอยากลองกินยาเทพชีวาธาตุไฟดู บางทีมันอาจจะไม่ได้กลืนยากนัก”

ฉินมู่นำเอาสมุนไพรชุดที่เขาจับคู่เอาไว้ก่อนหน้านี้และหลอมปรุงยาเทพชีวาธาตุไฟหนึ่งหม้อ และกิเลนมังกรก็ชิมดูสองเม็ด “รสชาติเหมือนจะดีขึ้นนิดหน่อย มันไม่เลวร้ายเหมือนที่เคย จ้าวลัทธิ ท่านหลอมปรุงให้ข้าอีกสองหม้อได้ไหม”

“กินมากเกินไป ระวังเถอะจะจุกคอตาย! ดูสิว่าเจ้าอ้วนขนาดไหนแล้ว! แม้แต่หีบก็ยังแบกเจ้าไม่ไหวอีกต่อไป!” ฉินมู่กล่าวด้วยความเดือดดาลที่ปะทุออกมาในที่สุด

กิเลนมังกรทำสีหน้าราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีรักเหลือแล้ว และกล่าวด้วยความตัดพ้อต่อว่า “ข้าโดนยาพิษ และข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะมีโอกาสได้ชิมรสชาติยาวิญญาณเพลิงฉานอีกไหม น่าเสียดายที่แม่ข้าจากไปแต่เนิ่นๆ ปรมาจารย์ก็มาจากไปอีกคน…”

ฉินมู่ไม่อาจทนดูมังกรอ้วนที่รันทดท้อแท้เช่นนี้ และหลอมปรุงยาให้เขาอีกสองหม้อ กิเลนมังกรจึงไม่พึมพำอีกต่อไป

จากที่เขาลอบเหลือบตาดู ฉินมู่เห็นเจ้าหมอนี่ไม่ได้กินยาวิญญาณเข้าไปมากนัก เขาแอบเปิดหีบและเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ข้างใน

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มังกรอ้วนมันไปเจออะไรมานะ ฉินมู่พิศวง

กิเลนมังกรนอนอยู่บนหีบอย่างเงียบเชียบ เขานำสมุดออกมา และถือพู่กันด้วยอุ้งเท้าหน้า จากนั้นก็ค่อยๆ เขียนบางอย่างลงไปอย่างระมัดระวัง

ฉินมู่ถอยไปข้างหลังเพื่อส่องดู แต่กิเลนมังกรรีบปิดมันเอาไว้ ฉินมู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มังกรอ้วนก็รู้จักขยันเหมือนกันนะ หลิงเอ๋อ เจ้าต้องเรียนรู้จากเขาให้มากๆ”

ฮู่หลิงเอ๋อกำลังกอดหางของนางและเลียขนให้สะอาดอยู่ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น นางก็กล่าวอย่างจริงจัง “ช่วงนี้ข้าเรียนอยู่กับท่านปู่หนวก และเขาก็ชมข้าว่ามีความรู้ดี!”

เสือเทพยดาขนดำกระโดดขึ้นไปบนหีบและขยับเข้าไปมองที่ข้อเขียนนั้น

กิเลนมังกรไม่กล้าผยองและปล่อยให้เขามานั่งอยู่ระหว่างอุ้งเท้าทั้งสองของตน เทพเสือขนดำมองปราดหนึ่งและระเบิดหัวเราะออกมา “นี่ก็ได้ผลหรือ”

“มันได้ผลแน่นอนสิ!” กิเลนมังกรกล่าวด้วยสีหน้าจริงๆ จัง “ข้าสำเร็จการเป็นเจ้านายของมนุ–เอ่อ มรรคาแห่งการควบคุมมนุษย์ วิชานี้ของข้าจะต้องเจิดจรัสในอนาคตเป็นแน่!”

เทพเสือขนดำส่ายหัว “เจ้าใช้เวลากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้มากไป และไม่อุทิศมันให้กับมรรคาที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องกินยาวิญญาณเพลิงฉาน หรือยาเทพชีวาธาตุไฟ การฝึกปรือด้วยตัวเจ้าเองนั้นได้ประโยชน์ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ!”

“พี่เสือเคยกินยาวิญญาณมาก่อนหรือเปล่า” กิเลนมังกรถาม

เทพเสือขนดำส่ายหัวอีกครั้ง “นายท่านบอกว่า การฝึกปรือด้วยตนเองนั้นจึงเป็นหนทางอันเที่ยงแท้ ไม่มีใครให้ข้ากินยาวิญญาณมาก่อน”

กิเลนมังกรนำเอายาเทพชีวาธาตุไฟออกมาหนึ่งเม็ด “ลองนี่สิ”

เทพเสือขนดำกินเข้าไปและกล่าวด้วยความแตกตื่น “รสอร่อยอย่างนี้เลยรึ อร่อยกว่าอาหารธรรมดาหลายเท่า!”

กิเลนมังกรยิ้มหยัน “ยาวิญญาณเพลิงฉานยังรสชาติยอดเยี่ยมกว่านี้อีก! ลองยาวิญญาณเพลิงฉานสักเม็ดสิ!”

เทพเสือขนดำกินไปหนึ่ง และร่างของเขาก็สั่นเทิ้ม น้ำตาไหลพรากๆ ออกจากดวงตาเขาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ตอนนี้ท่านก็รู้แล้วใช่ไหมว่ามันดีขนาดไหน เพราะว่าท่านไม่ได้เรียนรู้วิชาของข้า นายของท่านถึงขี้เกียจ การฝึกปรือของท่านเป็นการฝึกปรือที่เที่ยงแท้จริงหรือ นั่นเพราะว่าท่านหมั่นเพียรไม่มากพอ และมีกลเม็ดเด็ดพรายน้อยเกินไป! ท่านถูกเขาทำให้เชื่อง แทนที่ท่านจะทำให้เขาเชื่องแทน มีก็แต่เรียนคัมภีร์เลี้ยงมนุษย์ของข้า ท่านถึงจะได้กินดีอยู่ดี”

เสือเทพยดาขนดำมองไปที่ฉินมู่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้อง ยาวิญญาณเพลิงฉานมีรสชาติดีจริงๆ เจ้าให้ข้าสักสามสี่หม้อได้หรือไม่”

ฉินมู่มองไปที่เขาด้วยความฉงน “ศิษย์พี่ ท่านบรรลุเป็นปีศาจเทวะไปแล้ว ทำไมยังต้องกินอีกล่ะ”

“รสชาติมันไม่เลวเท่าใด ข้าพอจะใช้กินเป็นของว่างได้”

ฉินมู่ขมวดคิ้ว และถามอย่างใจเย็น “ศิษย์พี่เสือมีคุณสมบัติของปราณปีศาจเป็นธาตุอะไรหรือ”

“ทองและน้ำ”

ฉินมู่คิดคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเขียนสูตรยาให้ “นี่คือยาพลังชีวาผสมทองและน้ำ มันมีปราณทองและปราณน้ำอยู่ข้างใน ข้ายังใช้สมุนไพรเสริมที่เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม ศิษย์พี่ ข้าหลอมปรุงยาให้กับท่านนั้นไม่ใช่ทางแก้ ท่านเป็นเทพเจ้า ดังนั้นย่อมหลอมปรุงด้วยตนเองได้ ข้าจะสอนท่านถึงวิธีการหลอมปรุง”

เทพเสือขนดำปีติยินดีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ร้องขอจากผู้อื่นนั้นไม่เท่ากับพึ่งตนเอง หากว่าข้าสามารถเรียนรู้การหลอมปรุงยา ข้าก็จะไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ!”

ฉินมู่สอนเขาถึงวิธีการหลอมปรุงยาพลังชีวาผสมทองและน้ำ เสือเทพยดาขนดำเฉลียวฉลาดอย่างเหลือเชื่อ และสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เขาหลอมปรุงยาได้ค่อนข้างดี

ไม่นานนัก เทพเสือขนดำก็มาหาเขาอีกเพื่อร้องขอวัตถุดิบปรุงยา ฉินมู่มอบให้เขา

เมื่อวันถัดไปมาถึง ฉินมู่รู้สึกราวกับว่าศิษย์พี่ปีศาจเทวะผู้นี้กลายเป็นอ้วนท้วนขึ้น เขาสงสัยว่าตาฝาดไปเองหรือเปล่า

แต่ทว่า เมื่อเสือน้อยขนดำไปนอนแผ่อยู่ใกล้ๆ กิเลนมังกร เขาก็ดูไม่อ้วนเลยสักนิด ถ้าเช่นนั้นเขาก็คงโดนแสงและเงาหลอกให้ตาฝาดไปเองจริงๆ นั่นแหละ

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+