ตำนานเทพกู้จักรวาล 747 จักรพรรดิทักษิณ

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 747 จักรพรรดิทักษิณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม้ว่า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จะเป็น​บรรพชน​เฒ่าของ​เขา​ แต่​ฉิน​มู่ก็​เพิ่งจะ​ได้​รู้จัก​เขา​จริงๆ​ จังๆ ใน​ช่วง​หลาย​วัน​ที่ผ่านมา​นี้​นี่เอง​ และ​ภายใน​ช่วงเวลา​ไม่กี่​วัน​ เขา​ก็​สามารถ​มองออก​ถึงนิสัยใจคอ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

เขา​จะเสี่ยงชีวิต​เพื่อ​ช่วยชีวิต​บุคคล​ที่​เขา​เพิ่ง​พบกัน​ได้​หนึ่ง​เดือน​ บุคคล​ที่​เอาแต่​ทะเลาะเบาะแว้ง​กับ​เขา​ อย่า​ว่าแต่​ผู้​ใต้​บัญชา​ที่​ติดตาม​เขา​เป็นเวลา​สอง​หมื่น​ปี​ อย่า​ว่าแต่​ผู้คน​แห่ง​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

บุคคล​เช่นนี้​ไม่มีทาง​ซ่อนตัว​ใน​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ และ​ใช้ชีวิต​อัน​ไร้กังวล​เป็นแน่​

นี่​คือ​ธรรมชาติ​สันดาน​ของ​เขา​

นี่​ไม่มีหลัก​เหตุผล​ ไม่มีการ​ตลบตะแลง​ และ​ไม่มีผลประโยชน์​ นี่​คือ​ธรรมชาติ​ของ​เขา​

นี่​คือ​สาเหตุ​ที่​ทำไม​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ถึงเป็นที่​รักใคร่​ของ​ผู้คน​

เสน่ห์​ของ​บุคคล​เช่นนี้​คือ​สาเหตุ​ที่​เขา​ขึ้น​เป็น​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ได้​

หากว่า​เจ้าไม่ได้​ซ่อนตัว​ใน​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ ถ้าเช่นนั้น​ เจ้า…

ฉิน​มู่เคร่งขรึม​ไป​ เขา​ใช้วิชา​เสกสรร​เพื่อ​เยียวยา​รักษา​ตนเอง​ แรงกดดัน​จาก​ภาพ​ฉาย​ของ​เทพี​บรรพกาล​ยัง​ทำให้​เขา​บาดเจ็บ​อยู่​ แม้ว่า​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ของ​ยุค​สมัยนี้​จะหยาบกร้าน​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​ความแตกต่าง​ใน​พลัง​อำนาจ​นั้น​มิใช่สิ่งที่​ความ​เพริศแพร้ว​ของ​ทักษะ​เท​วะ​จะชดเชย​ได้​

พวก​ครึ่ง​เทพ​ใน​สระ​หยก​กรู​กัน​มายัง​พวกเขา​ และ​ยิ่ง​มาก็​ยิ่ง​เนืองแน่น​ขึ้น​ทุกที​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ขมวดคิ้ว​ มีครึ่ง​เทพ​มากมาย​เกินไป​

เขา​อุ้ม​ฉิน​มู่ที่​ได้รับบาดเจ็บ​เอาไว้​อยู่​ และ​ที่​ฉิน​มู่รักษา​ชีวิต​รอด​มาได้​ก็​บุญ​โข​แล้ว​ เขา​ไม่มีมือ​ที่จะ​ใช้จัดการ​กับ​ครึ่ง​เทพ​เหล่านั้น​

“เจ้าแบก​ข้า​ไว้​ข้างหลัง​แทน​ได้​” ฉิน​มู่กล่าว​อย่าง​อ่อนแรง​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​แบก​เขา​เอาไว้​บน​หลัง​ มือ​ของ​ฉิน​มู่ฟื้นฟู​มาดีแล้ว​ ดังนั้น​สามารถ​เกาะ​บ่า​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​ได้​ มือ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จึงว่าง​ ความเร็ว​ที่​เขา​ขับเคลื่อน​ทักษะ​เท​วะ​จึงเร็ว​อย่าง​เหลือแสน​ ด้วย​การพลิก​มือ​ ทักษะ​เท​วะ​ละเอียดยิบ​นับไม่ถ้วน​ก็​พวยพุ่ง​ออก​ไป​

สำหรับ​เขา​แล้ว​ ครึ่ง​เทพ​พวก​นี้​เต็มไปด้วย​จุดอ่อน​ และ​ตราบใดที่​มีจุดอ่อน​ เขา​ก็​สามารถ​ปลิด​ชีพ​พวก​มัน​ไป​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

กระนั้น​ก็​มีครึ่ง​เทพ​ไหลบ่า​เข้ามา​กัน​มากกว่า​เดิม​ มีทั้ง​ที่อยู่​บน​เวหา​ บน​ผิวน้ำ​ ใต้​มหาสมุทร​ ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​ พวก​มัน​อยู่​ไป​ทุกหนทุกแห่ง​

“ให้​ข้า​ยืม​กระบี่​เจ้า!” หน้าผาก​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เต็มไปด้วย​เหงื่อ​ เมื่อ​เขา​พบ​ว่า​การบุก​ไป​ข้างหน้า​ยากลำบาก​มากขึ้น​ทุกที​

ฉิน​มู่ได้​เปลี่ยน​กระดูก​แตกหัก​ของ​ตนเอง​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​ และ​กำลัง​งอก​ชิ้น​ใหม่​ เมื่อ​เขา​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ เขา​ก็​ถาม “ต้องการ​ใช้กระบี่​กี่​เล่ม​”

“แค่​เล่ม​เดียว​ก็​พอ​!”

ฉิน​มู่เคลื่อน​ใจคิด​ และ​กระบี่​ไร้กังวล​ก็​ลอย​ออก​มาจาก​ถุงเต๋า​ตี้​ของ​เขา​ มัน​ตกลง​ไป​ใน​มือ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ถือ​กระบี่​เอาไว้​ใน​มือ​ และ​ตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ เขา​กล่าว​ชม “กระบี่​ของ​เจ้าเล่ม​นี้​เหนือ​ธรรมดา​จริงๆ​ เมื่อ​ถือ​ไว้​ใน​มือ​มัน​เหมือนกับ​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​ร่างกาย​ข้า​ มัน​เคลื่อนไหว​ไป​ตามที่​ข้า​คิดหวัง​ กระบี่​ล้ำเลิศ​ กระบี่​ล้ำเลิศ​ ข้า​เอง​ก็​อยาก​ที่จะ​หลอม​สร้าง​กระบี่​เท​วะ​เช่นนี้​ในอนาคต​!”

เขา​ควง​กระบี่​และ​เคลื่อนที่​ไกล​ กระบี่​ไร้กังวล​ส่งเสียง​หวีดหวิว​ชัดเจน​ใน​มือ​ของ​เขา​ กระบี่​ดูเหมือน​จะตื่นเต้น​ มัน​ทั้ง​สั่น​ระริก​และ​ร้อง​ออกมา​

แม้แต่​ฉิน​มู่ก็​ยัง​ไม่เคย​ขับเคลื่อน​เทวา​นุ​ภาพ​ของ​กระบี่​ไร้กังวล​ออกมา​ได้​ แต่ทว่า​ใน​บัดนี้​ กระบี่​ไร้กังวล​แผด​เทวา​นุ​ภาพ​อัน​กร้าว​แกร่ง​ยิ่งขึ้น​และ​ยิ่งขึ้น​ใน​มือ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

เพลง​กระบี่​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เพริศแพร้ว​พิสดาร​อย่าง​ถึงที่สุด​ เขา​ก็​เป็น​ผู้​ที่​ย่างกราย​สู่เต๋า​ด้วย​กระบี่​ เทวา​นุ​ภาพ​ของ​กระบี่​ไร้กังวล​เพิ่มพูน​ไป​อย่าง​เกรี้ยวกราด​ และ​แสงกระบี่​ก็​เคลื่อนที่​ไป​อย่าง​ไร้​ต่อต้าน​ใน​อากาศ​ พวก​มัน​เหมือนกับ​แสงสว่าง​และ​สายฟ้า​ ใน​เสี้ยว​พริบตา​นั้น​ ก็​ดู​ราวกับ​ทั้ง​สระ​หยก​จมลง​ไป​ใน​รัตติกาล​ และ​แสงกระบี่​ก็​เหมือนกับ​เปลว​แสงขาว​ยวง​ของ​หิมะ​ที่​กรีด​ผ่าน​ความมืด​

ใน​เวหา​ บน​ผิวน้ำ​ ใต้​มหาสมุทร​ โลหิต​พวยพุ่ง​ประดุจ​บุปผา​เบ่งบาน​

ด้วย​หนึ่ง​กระบี่​ใน​มือ​ ไม่มีผู้ใด​หยุดยั้ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เอาไว้​ได้​!

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​ภาพ​นี้​ด้วย​ความลุ่มหลง​จับ​สายตา​

เดิมที​กระบี่​ไร้กังวล​ก็​เป็น​กระบี่​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​อยู่แล้ว​ และ​ฉิน​มู่สามารถ​ใช้สอย​ได้​เพียง​ความ​คมกริบ​ของ​มัน​เพื่อ​สังหาร​ศัตรู​ แต่ทว่า​ ใน​มือ​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ ราวกับว่า​กระบี่​ได้​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา ด้วย​หนึ่ง​กระบี่​ใน​มือ​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​รุ่งโรจน์​เกรียงไกร​!

ทันใดนั้น​ แรง​ระเบิด​สะท้าน​พิภพ​ก็​ดัง​มา ฉิน​มู่หันกลับ​ไป​และ​เห็น​หนิ​ว​ซาน​ตัว​ทุบ​ทำลาย​ภาพ​ฉาย​ของ​เทพนารี​!

วัว​แก่​กระโจน​มาและ​ลง​ไป​เหยียบ​ตรงหน้า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ใน​พริบตา​ถัดมา​ เขา​คำราม​เสียงกึกก้อง​ สร้าง​แรง​สะเทือน​ยิ่งใหญ่​ราวกับ​ระฆัง​ยักษ์​ที่​ผลักดัน​น้ำทะเล​ให้​โถมซัด​ไป​ เทพ​บรรพกาล​ทั้งหลาย​ถูก​เป่า​ไป​ไกล​ด้วย​พายุหมุน​ที่​เขา​โหม​กระพือ​ขึ้น​จาก​เสียงคำราม​

วัว​แก่​หด​ย่อ​ร่างกาย​ และ​เขา​ก็​มีสีหน้า​กังวล​ “พวกเรา​ก่อ​เรื่องใหญ่​ไม่น้อย​ เทพ​บรรพกาล​พวก​นี้​กำลัง​เหาะ​มา ข้า​รับมือ​พวกเขา​มากมาย​ขนาด​นี้​ไม่ไหว​”

ฉิน​มู่ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​และ​กล่าว​ “พวกเรา​ยังมี​ที่​ให้​ไป​ อย่า​ขยับ​ ให้​ข้า​ร่าย​เวทมนตร์​ก่อน​!”

ทั้งสอง​คน​หยุด​เคลื่อนไหว​ ร่าง​ท่อน​บน​ของ​ฉิน​มู่ฟื้นฟู​กลับมา​แล้ว​ เขา​พลัน​ขับเคลื่อน​ปราณ​ชีวิต​ของ​เขา​ และ​อักษร​รู​น​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ก็​หมุน​วนรอบ​ๆ พวกเขา​ อักษร​รู​น​เคลื่อนไหว​ตัดกัน​ไปมา​ และ​เริ่ม​หมุน​วน​เร็ว​ขึ้น​ๆ

ที่​ไกลๆ​ นั้น​ เทพ​บรรพกาล​มากมาย​กำลัง​แห่​กัน​มาจาก​ทาง​ปราสาท​สวรรค์​

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​กระพือปีก​ และ​มีความเร็ว​สูงสุด​ เขา​ตะโกน​มาจาก​ที่​ไกลๆ​ “เจ้าอีกแล้ว​! แม่ทัพ​ทองคำ​หนิ​วเปิน!​ เจ้าเพิ่งจะ​อาละวาด​ใน​สภาสวรรค์​ไป​เมื่อ​ครู่​ แล้วก็​ยัง​ไม่พอใจ​กับ​ที่​ฝ่าบาท​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ให้​อีก​! ให้​ข้า​ดู​หน่อย​ซิว่า​คราวนี้​เจ้าจะเช็ด​ล้าง​อย่างไร​ แท่น​ประหาร​เทพ​ยัง​ไม่ได้​ดื่ม​โลหิต​เทพเจ้า​ ฉะนั้น​เจ้าจะเป็นราย​แรก​!”

เขา​เคลื่อนไหว​ราวกับ​แสงวูบ​ไหว​และ​เงาพร่า​พราย​ โจมตี​เข้ามา​อย่าง​รวดเร็ว​ ท้องฟ้า​เต็มไปด้วย​เพลิง​ไฟ แต่​ใน​จังหวะ​นั้น​เอง​ แสงก็​สว่าง​มาวาบ​หนึ่ง​เมื่อ​ทักษะ​เท​วะ​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​ระเบิด​ออก​ ฉิน​มู่ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​หนิ​ว​ซาน​ตัว​ หายวับ​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​คว้า​จับ​ความว่างเปล่า​และ​ตะโกน​ไป​ และ​รีบ​กระพือปีก​ขึ้น​มาจาก​ผิว​ทะเล​ ปีก​ของ​เขา​กาง​คลุม​พื้นที่​กว่า​ร้อย​ลี้​ และ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​ยิง​ลำแสง​สีขาว​เพื่อ​ค้นหา​ร่องรอย​ของ​ฉิน​มู่กับ​พรรคพวก​ใน​บริเวณ​รอบ​ๆ

เทพ​บรรพกาล​ตน​อื่นๆ​ เร่งรุด​เข้ามา​และ​ตะโกน​ “เทพ​ครอง​ดาว​ กบฏ​พวก​นั้น​มัน​หาย​ไป​ไหน​”

“ชาย​สามคน​เมื่อ​ครู่​มีวิชา​ลับ​ และ​หลบหนี​ไป​แล้ว​!”

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​กล่าว​ “ให้​เหล่า​เทพ​ครอง​ดาว​จาก​กองพัน​วงโคจร​หมู่​ดาว​สวรรค์​วาง​ตาข่าย​ล้อม​จับ​ ให้​พวกเขา​ไป​ห้อมล้อม​สระ​หยก​เอาไว้​ มิให้​มีสถานที่​หลบหนี​ไป​ได้​!”

เดิมที​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​ไม่ปรากฏ​ให้​เห็น​ แต่ทว่า​พวก​มัน​จู่ๆ ก็​เปล่งแสง​เจิดจ้า​ใน​ตอนนี้​ ดวงดาว​นับไม่ถ้วน​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ จนกระทั่ง​ก่อ​ขึ้น​มาเป็น​ทางช้างเผือก​ ดวงดาว​สาด​แสงส่อง​ใน​ทางช้างเผือก​ และ​ทวยเทพ​เหล่านั้น​ก็​ขับเคลื่อน​วิชา​ทุกชนิด​ประเภท​ รังสี​แสงบน​ฟากฟ้า​ราวกับ​พร่าง​พิรุณ​และ​พวก​มัน​ก็​บีบรัด​และ​ถัก​ทอ​กัน​ใน​อากาศ​ ปิดผนึก​สระ​หยก​เอาไว้​

บน​ดวงดาว​เหล่านั้น​ เทพเจ้า​ผู้​ยิ่งยง​ยื่น​หัว​ออกมา​ข้างหน้า​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​อยู่​สูงล้ำ​และ​มีความ​โบราณ​ สายตา​ทอด​ลง​มาจาก​ท้องฟ้า​และ​มองหา​ไป​รอบ​ๆ

พวกเขา​ค้นหา​เป็นเวลา​นาน​แต่​ก็​คว้าน้ำเหลว​ และ​เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​ก็​จน​ความคิด​ “แม่ทัพ​โสต​สวรรค์​กับ​แม่ทัพ​จักษุ​พิภพ​หาย​ไป​ไหน​ คน​ทั้ง​สามนี้​ขวัญ​กล้า​บังอาจ​และ​กระทำการ​โดย​ไม่ไว้หน้า​ใคร​ ไม่ว่า​พวกเขา​จะหนี​ไป​ที่ไหน​ พวกเขา​ก็​จะไม่รอดพ้น​สายตา​แม่ทัพ​ทั้งสอง​ไป​ได้​!”

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เทพ​บรรพกาล​ตน​หนึ่ง​ก็​มารายงาน​ “แม่ทัพ​โสต​สวรรค์​และ​แม่ทัพ​จักษุ​พิภพ​ได้​ลง​ไป​สืบสวน​และ​ค้นหา​ฆาตกร​สังหาร​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ตาม​บัญชา​ของ​ฝ่าบาท​ พวกเขา​ได้​สืบหา​ลง​ไป​จนถึง​แดน​ต่ำ​ใต้​แล้ว​”

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​จ้อง​ด้วย​ดวงตา​เบิก​กว้าง​ “พวกเขา​สืบหา​ลง​ไป​จนถึง​แดน​ต่ำ​ใต้​? แทนที่จะ​สืบหา​ดู​ใน​สระ​หยก​ สอง​คน​นี้​มัน​จะสืบ​ลง​ไป​ถึงแดน​ต่ำ​ใต้​เพื่อ​อะไร​ ใคร​ที่ไหน​ใน​แดน​ต่ำ​ใต้​จะเก่งกาจ​มาก​พอที่จะ​สังหาร​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​ นอกจาก​ครึ่ง​เทพ​พวก​ที่​มีฝีมือ​ความสามารถ​ หรือว่า​จะเป็น​ครึ่ง​เทพ​…”

เขา​พลัน​หุบปาก​และ​กระแอม​ไอ​สอง​หน​ “แม่ทัพ​ทองคำ​หนิ​วเปิน​ อาละวาด​ใน​สระ​หยก​ วางแผน​ฆาตกรรม​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ ข้า​จะต้อง​ไป​รายงาน​เรื่อง​นี้​กับ​ฝ่าบาท​! ข้า​จะไป​ที่​ตำหนัก​ชิด​ฟ้าก่อน​ พวก​เจ้ารอ​ที่นี่​และ​สืบหา​ต่อไป​ เจ้าจะต้อง​ขุด​ไอ้​พวก​นั้น​ออกมา​ให้ได้​”

เขา​รีบร้อน​จากไป​

และ​ใน​ตอนนั้น​เอง​ แสงก็​สว่าง​วาบ​เมื่อ​ฉิน​มู่ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​หนิ​ว​ซาน​ตัว​ปรากฏตัว​ใน​โถงใหญ่​อัน​อลังการ​และ​เหนือ​ธรรมดา​ ฉิน​มู่ไอ​อย่าง​ต่อเนื่อง​และ​รีบ​สะกด​ข่ม​เสียง​ไอ​ของ​เขา​ด้วย​เกรง​ว่า​จะทำให้​ผู้คน​ไหวตัว​ ใบหน้า​ของ​เขา​แดงก่ำ​จาก​การ​กลั้น​ไอ​ของ​ตนเอง​

“ที่นี่​คือ​ที่ไหน​” วัว​แก่​และ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เคลื่อนที่​ไป​เป็น​ท่า​ระวัง​ป้องกัน​และ​มอง​ไป​รอบ​ๆ อย่าง​ระแวดระวัง​

โถงวัง​แห่ง​นี้​เป็น​สีแดง​ชาด​ไป​ทั้งหมด​ ไม่ว่า​จะเสา พื้น​ ผนัง​ และ​เพดาน​ ทุกๆ​ อย่าง​ล้วนแต่​เป็น​สีแดง​ แม้กระทั่ง​ม่าน​หนัก​และ​ฉาก​กั้น​ก็​เป็น​สีแดง​ชาด​ด้วย​เช่นกัน​

ภาพ​นก​หงส์แดง​ถูก​แกะสลัก​เอาไว้​บน​ผนัง​ และ​ก็​มีรอยประทับ​อักษร​รู​น​หงส์แดง​อัน​อัศจรรย์​ทุก​ประเภท​อยู่​บน​พื้น​ แม้แต่​ผ้าม่าน​และ​ฉาก​กั้น​ก็​ปัก​ลาย​เอาไว้​ด้วย​หงส์แดง​ผงาด​ฟ้า

และ​ยังมี​ภาพ​จิตรกรรม​ของ​นก​หงส์แดง​จิก​กิน​แมลง​ปีศาจ​และ​ต่อสู้​กับ​มังกร​เทพยดา​

“ที่นี่​คือ​ตำหนัก​หงส์แดง​”

ฉิน​มู่ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​ “ที่นี่​คือ​ที่พำนัก​ของ​จูเฉว้​เอ๋อ​ พวกเรา​รู้จัก​นาง​ ดังนั้น​สามารถ​มาซ่อน​ที่นี่​ได้​”

วัว​แก่​ค่อย​คลายใจ​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “จูเฉว้​เอ๋อ​คน​ที่​ชื่อ​เหมือนกับ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​จูเฉว้​อย่างนั้น​หรือ​ แม่นาง​ผู้​นั้น​สะคราญ​โฉมอย่างยิ่ง​ แต่​นาง​กล้า​ขนาด​ไหน​ที่​ถึงกับ​ใช้ชื่อ​เดียวกัน​กับ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ นาง​นั้น​ไม่กลัว​อายุสั้น​เลย​หรือ​อย่างไร​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มีสีหน้า​ประหลาด​ และ​จ้อง​ไป​ที่​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​ เขา​อึ้ง​พูดไม่ออก​ไป​พักใหญ่​ จากนั้น​ก็​โพล่ง​ถาม “หญิง​ใน​ภาพ​จิตรกรรม​นี้​ใช่จูเฉว้​เอ๋อ​ไหม​”

วัว​แก่​ก้าว​เข้า​ไปดู​และ​เขา​ก็​เห็น​หญิง​นาม​จูเฉว้​เอ๋อ​ใน​ภาพ​จิตรกรรม​จริงๆ​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “นั่นแหละ​นาง​ล่ะ​ เป็น​หญิง​ใจกล้า​อะไร​แบบนี้​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ยิ่ง​มีสีหน้า​ประหลาด​พิลึก​กว่า​เดิม​ และ​บอก​เตือน​ “ผู้อาวุโส​หนิ​วเปิน​ การ​ที่​นาง​สามารถ​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​กับ​ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ได้​ ศักดิ์​ฐานะ​ของ​นาง​น่าจะ​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​พวกเขา​”

วัว​แก่​มอง​ไป​ที่​ภาพจิตรกรรมฝาผนัง​ และ​มัน​ก็​เป็น​ภาพวาด​ของ​งานเลี้ยง​ฉลอง​ ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ และ​พวกเขา​ได้​ที่นั่ง​แถวหน้า​ หญิง​นาม​จูเฉว้​เอ๋อ​นั้น​ถึงกับ​นั่ง​ข้างๆ​ อยู่​ด้วย​เช่นกัน​!

“เจ้าหมาย​ถึงว่า​…” วัว​แก่​ถามหยั่ง​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ถอนหายใจ​ “นาง​คือ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ พวกเรา​ได้​บุกรุก​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​แห่ง​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ พวกเรา​เดินดุ่ม​เข้ามา​ใน​กับดัก​ และ​สถานที่​นี้​ยัง​เป็น​…”

เขา​มองผ่าน​ฉาก​กั้น​ไป​ และ​ข้าง​หลังฉาก​กั้น​คือ​เตียง​หยก​แดง​ เตียง​หยก​นั้น​มีรูปทรง​เหมือนกับ​รังนก​ และ​มีไฟศักดิ์สิทธิ์​ระอุ​อยู่​รอบ​ๆ

เสื้อ​เลือด​ปูด​ขึ้น​มาบน​หน้าผาก​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​เขา​พึมพำ​ “ที่นี่​ยังคง​เป็น​ห้อง​หอ​ของ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​อีก​ ข้า​ว่า​พวกเรา​ควร​คิดดู​ว่า​จะตาย​กัน​อย่างไร​เถอะ​…”

วัว​แก่ตัว​สั่นเทิ้ม​ และ​มอง​ไป​ที่​ฉิน​มู่อย่าง​จนปัญญา​ “เจ้าต้อง​มีวิธี​รับมือ​กับ​เรื่อง​นี้​ใช่ไหม​ เจ้ามักจะ​มีหนทาง​อยู่​เสมอ​…”

ฉิน​มู่กำลังจะ​กล่าว​อะไร​บางอย่าง​ แต่​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​มาจาก​ข้างนอก​ เสียง​ของ​จูเฉว้​เอ๋อ​ลอย​มาเข้าหู​พวกเขา​ และ​นาง​ก็​กำลัง​หัวเราะ​ร่า​ “มหา​สมาคม​สภาสวรรค์​เต็มไปด้วย​เรื่อง​พลิกผัน​จริงๆ​ มหา​สมาคม​นี้​อ้างว่า​เพื่อ​ตั้งชื่อ​ให้​กับ​สภาสวรรค์​ แต่​ในความเป็นจริง​ มัน​ก็​เพื่อให้​พวก​ตา​เฒ่าทั้งหลาย​ถกเถียง​แก่งแย่ง​ผลประโยชน์​กัน​ ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​เต็มไปด้วย​ขวัญ​กล้า​ และ​ไม่ยินดี​ที่จะ​แบ่งปัน​ผลประโยชน์​ของ​แดน​ใต้พิภพ​และ​แดน​ปริศนา​ ผู้นำ​แห่ง​พวก​ครึ่ง​เทพ​ก็​มาถกเถียง​ขอ​ผลประโยชน์​มากขึ้น​ ส่วน​ชื่อ​ของ​สภาสวรรค์​แล้ว​ กลาย​เป็นเรื่อง​เล็กน้อย​ไม่สำคัญ​…”

“เทพนารี​ ท่าน​อยู่​ใน​สภาสวรรค์​ ดังนั้น​ท่าน​ไม่รู้​ว่า​สระ​หยก​นั้น​ครึกครื้น​มาก​ขนาด​ไหน​”

“เทพนารี​ สระ​หยก​แทบ​ถูก​ทำลาย​ไป​จาก​ความโกลาหล​ ตอนแรก​ วิญญูชน​สวรรค์​มู่และ​วิญญูชน​สวรรค์​ฉิน​ต่อสู้​กัน​ และ​หนิ​วเปิน​ก็​อาละวาด​ที่​สระ​หยก​ จากนั้น​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​ถูก​ลอบสังหาร​ และ​ฟื้นคืนชีพ​กลับมา​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​ครึ่ง​เทพ​และ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ ภาพ​ฉาย​ของ​น้องสาว​จักรพรรดินี​ฟ้าส่อง​ลงมา​ และ​ถูก​แม่ทัพ​ทองคำ​หนิ​วเปิน​บดขยี้​…”

“มัน​ถึงกับ​คึกคัก​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​ ข้า​ไม่น่า​ไป​ที่​มหา​สมาคม​สภาสวรรค์​เลย​ ข้า​น่าจะ​อยู่​ที่นี่​รอ​ชมดู​เรื่อง​สนุก​!”

“ตอนนี้​ยิ่ง​คึกคัก​เข้าไป​ใหญ่​ ทวยเทพ​แห่ง​วงโคจร​หมู่​ดาว​สวรรค์​วิ่ง​เร่​กัน​ออกมา​ทั้งหมด​”

เสียง​พวก​นั้น​เข้ามา​ใกล้​ทุกที​ๆ และ​พวก​นาง​ก็​สนทนา​กัน​ถึงเรื่องราว​ใน​ชุมนุม​สระ​หยก​ จู่ๆ จูเฉว้​เอ๋อ​ก็​โพล่ง​ขึ้น​มา “ข้า​ค่อนข้าง​เหนื่อย​ จะไป​พักผ่อน​ก่อน​ พวก​เจ้าไป​ได้​”

“รับทราบ​”

นางกำนัล​ทั้งหลาย​ถอย​ออก​ไป​

เสียง​ฝีเท้า​ดัง​มา และ​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีแดง​เพลิง​ก็​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​และ​หัวเราะ​คิก​ “ขวัญ​กล้า​อะไร​อย่างนี้​ ถึงกับ​บังอาจ​มาซ่อน​ใน​ห้อง​หอ​ของ​ข้า​ เจ้าคิด​จริงๆ​ หรือว่า​ข้า​ไม่มีวิธีการ​คร่า​ตัว​พวก​เจ้า…”

“พี่สาว​!”

ฉิน​มู่เดิน​กะเผลก​ออกมา​และ​เปลี่ยน​โฉมหน้า​ของ​เขา​ให้​กลับเป็น​โฉมหน้าเดิม​ และ​โค้ง​คารวะ​ “น้องชาย​ได้มา​เพื่อ​ขอ​หลบภัย​ ขอ​พี่สาว​โปรด​รับ​ข้า​เอาไว้​ด้วย​!”

จูเฉว้​เอ๋อ​ตกตะลึง​และ​ร้อง​ออกมา​ “เจ้าคือ​…วิญญูชน​สวรรค์​มู่คน​ใหม่​? ไม่ใช่สิ เจ้าเป็น​น้องชาย​ที่​ข้า​พบ​บน​แม่น้ำ​สวรรค์​ชัด​ๆ ทำไม​เมื่อกี้​เจ้าถึงมีใบหน้า​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้”​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มอง​ไป​ที่​ฉิน​มู่และ​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ใบหน้า​ของ​ฉิน​มู่ตอนนี้​มิใช่ของ​มู่ชิงอีกต่อไป​ แต่​เป็น​ใบ​หน้าที่​ดู​อ่อนเยาว์​และ​เด็ก​กว่า​อีก​โฉมหน้าหนึ่ง​

ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​คุ้นตา​เล็กน้อย​…

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​พิศวง​ เขา​ดู​คล้าย​ข้า​อยู่​ไม่ใช่เล่น​…

ฉิน​มู่เผย​รูปโฉม​ที่​แท้จริง​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ขื่น​ “วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ตาย​ไป​แล้ว​ ฆาตกร​คือ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​และ​หยิน​เฉาจิ่น​ เพื่อที่จะ​ล้างแค้น​ให้​กับ​เขา​ ข้า​แปลงกาย​เป็น​รูปโฉม​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​ใน​ตอนนี้​ ข้า​ก็ได้​ล่วงเกิน​มารดา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ ดังนั้น​ข้า​จึงไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​มาพึ่งพิง​หลบภัย​ที่​สถานที่​ของ​พี่สาว​”

จูเฉว้​เอ๋อ​พลัน​หัวเราะ​คิกคัก​ และ​เพลิง​ไฟไหล​วน​ไป​รอบ​ๆ กาย​นาง​ นาง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เจ้าได้​ล่วงเกิน​นัง​โสเภณีน้อย​นั่น​ เจ้าตาย​แน่ๆ​! เจ้าทั้งหมด​ตาย​แน่ๆ​! แต่ทว่า​ เจ้าไม่ต้อง​กริ่งเกรง​ไป​ นาง​ไม่กล้า​มาที่นี่​หรอก​ เจ้ามาซ่อนตัว​อยู่​สัก​สอง​สามวันก่อน​ แล้ว​ข้า​จะส่งพวก​เจ้าไป​ยัง​แดน​ต่ำ​ใต้​เมื่อ​เรื่องราว​ซาลง​ไป​แล้ว​”

นาง​พลัน​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาและ​หัวเราะ​คิกคัก​ “มารดา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​คือ​น้องสาว​ของ​จักรพรรดินี​ฟ้า พวก​เจ้าไม่รู้​ถึงปูมหลัง​ที่มา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​หรอก​ใช่ไหม​ จักรพรรดินี​ฟ้าและ​น้องสาว​ของ​นาง​เป็น​ฝาแฝด​กัน​ ทั้งสอง​คน​หน้าตา​เหมือนกัน​ เมื่อ​จักรพรรดิ​ฟ้าสยุมพร​กับ​คน​พี่สาว​ เขา​ก็​อยาก​ที่จะ​สมรส​กับ​คน​น้องสาว​ด้วย​เช่นกัน​ แต่​จักรพรรดินี​ฟ้าไม่ยินยอม​ มาสิ ลอง​เดา​ดู​ ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ต่อไป​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มีสีหน้า​พิลึก​และ​คิดในใจ​ จักรพรรดิ​ทักษิณ​ผู้​นี้​แตกต่าง​ไป​จาก​ที่​ข้า​จินตนาการ​ ทำไม​นาง​ถึงสนใจ​เรื่องส่วนตัว​ของ​จักรพรรดิ​ฟ้านัก​

ฉิน​มู่ยังคง​รักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เขา​และ​ถามด้วย​ความสนใจ​ใคร่รู้​ “พี่สาว​ เกิด​อะไร​ขึ้น​ต่อ​หรือ​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ยิ่ง​สีหน้า​พิลึก​เข้าไป​ใหญ่​ “มู่ชิงคน​นี้​ก็​ขี้สงสัย​เหลือเกิน​!”

วัว​แก่​ชัน​หู​ของ​ตน​ขึ้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ก็​สนใจ​เรื่อง​นี้​ไม่น้อย​

“หลังจากนั้น​ เมื่อ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​ทารก​วิญญาณ​ และ​ทำให้​ผู้​คนใน​โลก​หล้า​สามารถ​ฝึก​วร​ยุทธ​ได้​ จักรพรรดิ​ฟ้าก็​กล่าวว่า​ ลูกหลาน​ของ​เทพ​บรรพกาล​ทั้งหลาย​ไม่อาจ​ฝึก​วร​ยุทธ​ได้​ ดังนั้น​เขา​จึงเกรง​ว่า​ลูกหลาน​แห่ง​เทพ​บรรพกาล​จะถูก​มนุษย์​ข่มเหง​รังแก​ในอนาคต​ เขา​มีความคิด​หนึ่ง​ขึ้น​มาเพื่อที่จะ​สร้าง​ครึ่ง​เทพ​ครึ่ง​มนุษย์​ เพื่อให้​คน​ผู้​นั้น​แสวงหา​หนทาง​ให้​แก่​เหล่า​ครึ่ง​เทพ​ ครึ่ง​เทพ​ครึ่ง​มนุษย์​ผู้​นี้​ก็​กลาย​มาเป็น​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว”​

จูเฉว้​เอ๋อ​แย้มยิ้ม​และ​กล่าว​ “และ​ผู้​ที่​ให้กำเนิด​แก่​ครึ่ง​เทพ​ผู้​นี้​ก็​คือ​น้องสาว​ของ​จักรพรรดินี​ฟ้า มาเดา​ดู​สิ เจ้าคิด​ว่า​ใคร​คือ​บิดา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว”​

สายตา​ของ​ฉิน​มู่วูบ​ไหว​ และ​เขา​ก็​เร่งเร้า​นาง​ “พี่สาว​ เล่า​เร็ว​เข้า​ ทิ้ง​ค้างคา​แบบนี้​ข้า​แทบจะ​ตาย​อยู่แล้ว​!”

เสียง​ของ​จูเฉว้​เอ๋อ​ทั้ง​เบา​และ​เร็ว​ขณะที่​หัวเราะ​คิกคัก​ไป​ด้วย​ “จักรพรรดิ​ฟ้าจุติ​ลง​ไป​เป็น​มนุษย์​ และ​ในที่สุด​ก็​สำเร็จ​ความประสงค์​ที่จะ​ได้​ร่วม​สมภิรมย์​รัก​กับ​สาวงาม​ของ​เขา​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด