ตำนานเทพกู้จักรวาล 678 การเสื่อมถอยของเผ่าเทพ

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 678 การเสื่อมถอยของเผ่าเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กหนุ่มผู้ฝากรักไปทุกที่”

หลังจากกล่าวเช่นนั้น เขาก็เขย่าเส้นสายปราณ และปราณหยินพิสุทธิ์ก็มุดเข้าไปในหว่างคิ้วของเอี๋ยนจิงจิง ราวกับมังกรตัวเล็กๆ ที่ไร้ร่างเนื้อ

เอี๋ยนจิงจิงรู้สึกได้ถึงสัมผัส แต่นางไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างออกไป มีก็แต่หน้าผากนางรู้สึกเย็น และนางก็ถาม “ครูบาสวรรค์ชาวประมง ปราณหยินพิสุทธิ์นี้มีผลอย่างไรหรือ ข้าไม่รู้สึกว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นมาเลย”

ผู้เฒ่าตกปลาไม่รู้จะหัวเราะหรือร่ำไห้ “นี่ไม่ใช่การฝึกประสานคู่อันแสนอัศจรรย์ที่หัวหน้าเผ่าของเจ้าพูดถึง มันไม่มีผลในตอนแรกหรอก ปราณหยินพิสุทธิ์จะทำให้หยางของเจ้าสามารถงอกงาม และผลลัพธ์ก็ไม่อาจเห็นได้ทันตา มันต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

คุนใหญ่บนท้องฟ้าเปล่งเสียงไพเราะและยาวก้องเมื่อมันเหาะผ่านอากาศเหนือแดนโบราณวินาศ พวกเขากำลังเข้าใกล้กับสวรรค์ไท่หวงมากขึ้นทุกที

ผู้เฒ่าตกปลากล่าว “เจ้าเป็นกายาหยางพิสุทธิ์ และในร่างของเจ้ามีแต่ปราณหยางพิสุทธิ์ ผนวกกับดวงตะวันที่เทพจื่อชิงสร้างขึ้นมา เรือตะวันอันก่อขึ้นมาจากปราณหยางพิสุทธิ์ซึ่งรุนแรงอย่างสุดขั้ว หลังจากที่เจ้ากลายเป็นผู้พิทักษ์ตะวัน เจ้าก็ไม่มีปราณหยินพิสุทธิ์ในร่างเลยสักนิด ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เจ้าควบคุมเรือตะวัน ปราณหยางพิสุทธิ์อันเกรี้ยวกราดก็จะหลอมรวมเข้าไปในร่างกายของเจ้าและสะสมพอกพูน ในเมื่อเจ้าไม่มีปราณหยินพิสุทธิ์เลยสักนิด ปราณและโลหิตของเจ้าก็จะแห้งเหือดไป อะไรคือการแห้งเหือดไปล่ะ”

ฉินมู่กล่าวต่อเขา “ท่านปู่นักปรุงยาของข้าได้ยกตัวอย่างการแห้งเหือดของปราณและโลหิต เขากล่าวว่าการแห้งเหือดของปราณและโลหิตเหมือนกับการจัดดอกไม้ เมื่อตัดดอกไม้สดสีสวยและปักไว้ในแจกัน ดอกไม้ก็จะเบ่งบานอย่างงดงาม แต่ทว่า พวกมันจะแห้งเหี่ยวไปในไม่กี่วัน ท่านปู่นักปรุงยากล่าวว่า การที่ปราณและโลหิตแห้งเหือด จะทำให้ผู้นั้นตายไปในวินาทีที่งดงามที่สุด”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวอย่างฉงนใจ “ปู่นักปรุงยาของเจ้าผู้นี้มีความรู้อยู่บ้าง นั่นแหละเหตุผลกลใน เมื่อหยางลำพังมิอาจงอกงาม ก็จะทำให้ปราณและโลหิตในร่างกายแห้งเหือด เมื่อปราณและโลหิตแห้งเหือด แต่ก็ยังคงแผดเผาอย่างแจ่มจ้า ผู้นั้นก็ไม่ห่างไกลไปจากความตาย ปราณหยินพิสุทธิ์นี้คือสิ่งบำรุงร่างกายเจ้า และมันดีเลิศกว่าการฝึกประสานคู่ไปตั้งไม่รู้กี่เท่า! แน่นอนว่า การฝึกประสานคู่สามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้ แต่มันไม่ได้แก้ไปถึงรากเหง้าต้นตอ!”

ปลาแดงเล็กตัวเมียในตะกร้าก็โผล่หัวออกมาและหัวเราะคิกคัก “นายผู้เฒ่าก็ถูกลิขิตไว้ว่าจะต้องเป็นโสดไปชั่วชีวิต”

คุนแดงยักษ์ลอยไปยังสถานที่ที่สวรรค์ไท่หวงและแดนโบราณวินาศไขว้กัน และทันใดนั้น พลังงานแม่เหล็กก็พลันปั่นป่วนราวกับว่าพวกเขาได้เข้าไปในสถานที่อันปราศจากสนามแม่เหล็ก ที่นั่น ผู้คนไม่ได้อยู่บนหรืออยู่ล่าง และพวกเขาไม่จำเป็นต้องฝึกทักษะเทวะเหาะเหินก็สามารถล่องลอยในอากาศได้

นั่นเป็นเพราะว่าสนามแม่เหล็กแห่งแดนโบราณวินาศเข้าไปขัดจังหวะสนามแม่เหล็กที่นี่ และเมื่อพลังแม่เหล็กของทั้งสองฝั่งเท่าเทียมกัน มันก็จะทำให้ผู้คนล่องลอยอยู่ในอากาศ

สำหรับผู้ฝึกวิชาเทวะแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่นั่นยังคงมีอากาศไหลเวียน และพวกเขาก็สามารถเหาะออกไปได้ด้วยทักษะเทวะเหาะเหิน

“ปราณหยินพิสุทธิ์ที่บุตรแห่งฉินมอบให้แก่เจ้านั้นมิใช่ปราณหยินพิสุทธิ์ธรรมดา นั่นคือพลังเทพชีวาที่ใช้ปกป้องร่างกาย และมันถูกขัดเกลาอยู่ในสมบัติเทวะทารกวิญญาณของยอดฝีมือขั้นสระหยก”

ผู้เฒ่าตกปลามองไปที่ฉินมู่และกล่าว “ต่อให้เจ้าดูดซับพลังอำนาจของดวงตะวันที่เทพจื่อชิงสร้างขึ้นมาจนหมด พลังเทพชีวาคุ้มกายนี้ก็ยังคงเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้แก่เจ้า”

เอี๋ยนจิงจิงตกตะลึง และร้องออกมา “ล้ำค่าขนาดนั้นเชียวหรือ”

“แน่นอน มันล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง”

ผู้เฒ่าตกปลาหรี่ตาและกล่าวอย่างเยือกเย็น “ในการได้มาซึ่งสมบัติล้ำค่าแบบนี้ มันจะต้องยากเข็ญแสนสาหัส และเขาอาจจะต้องผ่านประสบการณ์เฉียดเป็นเฉียดตาย ก่อนที่เทพเจ้าแห่งจักรพรรดิสูงส่งจะยอมรับว่าเขาควรคู่ที่จะได้รับปราณหยางพิสุทธิ์และปราณหยินพิสุทธิ์คู่นี้ ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะมอบให้แก่เจ้าโดยไม่ลังเลสักนิด”

เอี๋ยนจิงจิงลิงโลดแทบโดดถึงดวงจันทร์ และนางก็ชำเลืองมองฉินมู่ก่อนจะก้มหน้าลงไปอย่างเอียงอาย

ฉินมู่เกาหัวแกรกๆ “มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ข้าได้พบกับแม่ทัพแห่งยุคสมัยจักรพรรดิสูงส่งในทะเลทรายของห้วงมิติอื่น ข้าปลุกเขาขึ้นมาและช่วยเขาหลอมสร้างสุสานใหญ่เพื่อกลบฝังทหารของเขา เขามอบปราณสองเส้นนี้ให้กับข้าเป็นของแทนคุณ”

ผู้เฒ่าตกปลาตัวสั่นเทิ้มจากความเดือดดาล

ปลาตัวเมียเล็กในตะกร้าโผล่หัวออกมาและหัวเราะคิกคัก “นายผู้เฒ่า บุตรแห่งฉินผู้นี้ก็คล้ายกับท่านนัก ทั้งสองคนจะเป็นโสดไปชั่วชีวิต”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวอย่างชืดชา “เย็นนี้เราจะกินต้มปลากัน”

ปลาตัวเมียพลันหดหัวของนางกลับไป และไม่กล้าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า

“แปลกจริง เมื่อข้าดึงเอาปราณหยินพิสุทธิ์ออกจากเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้ายังรู้สึกว่ามีบางสิ่งอยู่ในใจกลางหน้าผากของเจ้า แต่ว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในสมบัติเทวะทารกวิญญาณ”

ผู้เฒ่าตกปลาสำรวจตรวจตราฉินมู่ และสายตาของเขาก็ไปตกที่หว่างคิ้วของเขา เขาสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับหว่างคิ้วของฉินมู่ที่อยู่ใต้ใบหลิวอันเปลี่ยนสีสันไปมาตลอด “อะไรอยู่ใต้ใบหลิวงั้นหรือ ข้ามองผ่านไปไม่ทะลุ เจ้าปลดมันออกได้ไหม”

ฉินมู่กล่าว “ข้างใต้ใบหลิวคือดวงตาที่สามของข้า อันมีพี่ชายของข้าอยู่ข้างใน ไม่ปลดใบหลิวออกมาจะดีที่สุด ที่อาศัยอยู่กับพี่ชายของข้าข้างในนั้นคือพุทธเจ้าพรหม เทพสรรพชีวิต และสำนึกรู้ของจักรพรรดิแดงฉาน”

ผู้เฒ่าตกปลากระโดดโหยง และเขาจ้องไปที่ฉินมู่ “เจ้าไม่ได้โม้แน่หรือ เอามันออกมา ข้าจะได้ส่งตะขอเบ็ดเข้าไปตกพี่ชายเจ้าออกมา”

ฉินมู่รีบกล่าว “พรหม เทพสรรพชีวิต และจักรพรรดิแดงฉานอยู่ข้างในเพื่อปิดผนึกเขา และถึงกับมีเวทปิดผนึกของภูติบดีอีกด้วย! ท่านจะปล่อยให้เขาหลุดออกมาได้อย่างไร”

ผู้เฒ่าตกปลายิ่งแตกตื่นเข้าไปใหญ่ เขายิ่งสนอกสนใจในดวงตา

ฉินมู่ระแวงกิริยาท่าทางของเขา “ครูบาสวรรค์ทุกคนล้วนแต่ขี้สงสัยหมดเลยหรือ”

คุณแดงยักษ์พลิกครีบของมัน และลงไปจอดที่สวรรค์ไท่หวง ด้วยการพลิกเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน แต่ทว่ามันเป็นการพลิกอย่างกะทันหันสำหรับฉินมู่และคณะเท่านั้น สำหรับคุนแดงยักษ์แล้ว ก็เป็นแค่การพลิกตัวอย่างสบายๆ เท่านั้น

เมื่อพวกเขาไปถึงสวรรค์ไท่หวง ฉินมู่ก็พบว่าแดนโบราณวินาศนั้นตั้งฉากสูงอยู่ที่ฝั่งข้างหนึ่งของสวรรค์ไท่หวง มุมของฟ้าและดินของเขาพลิกผันไป

สิ่งทำนองนี้อาจจะดูเกินจินตนาการ แต่มันก็เป็นผลจากพลังแม่เหล็ก

ในคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิตยังคงมีทักษะเทวะที่เกี่ยวข้องกับพลังแม่เหล็ก แต่ทักษะเทวะทำนองนี้มีไม่มากนัก ท่านยายซีน่าจะคุ้นเคยกับพวกมันดี

ฉินมู่ล่องไหลไปตามความคิด ทักษะเทวะพลังแม่เหล็กดูจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง และมันอาจจะเป็นแนวทางการพัฒนาที่ดีสำหรับให้บัณฑิตแห่งสถาบันนักบุญสวรรค์ค้นคว้าวิจัย

มันอาจจะเป็นผลให้เกิดการสรรค์สร้างระบบทักษะเทวอันยิ่งใหญ่ไพศาลขึ้นมาระบบหนึ่ง!

ผู้เฒ่าตกปลาปรายตามองเขาและฉงนฉงาย บุตรแห่งฉินผู้นี้ดูเหมือนจะเหม่อลอยอยู่บ่อยครั้ง ขนาดว่ามีเด็กสาวสะสวยอยู่ข้างกาย เขาก็ยังคงใจลอยและคิดเรื่องอื่นๆ อยู่ได้อีก

ฉินมู่นำสมุดน้อยเล่มหนึ่งออกมา และยกพู่กันของเขาเพื่อจดบันทึกความคิดใหม่ จากนั้นเขาก็เป่าหมึกให้แห้งและคิดในใจ หลังจากข้ากลับไป ข้าจะให้ท่านยายซีนำบัณฑิตจำนวนหนึ่งมาศึกษาค้นคว้าทักษะเทวะพลังแม่เหล็กเป็นหัวข้อหลัก!

เอี๋ยนจิงจิงมองไปที่สีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของเขา และรู้สึกว่าน่าลุ่มหลงนัก

“เด็กสาวนี้ก็เกินเยียวยาเหมือนกัน”

ปลาตัวเมียในตะกร้าส่ายหัวไปมา “นางหลงหัวปักหัวปำกับหนุ่มเซ่อหัวทึบ”

ฉินมู่มองลงไป และเขาเห็นคลื่นลาวาแห่งสวรรค์ไท่หวงได้เย็นและแข็งตัวเรียบร้อยแล้ว ก่อขึ้นมาเป็นเทือกเขาอันมีรูปลักษณ์ของคลื่นน้ำ เป็นภาพที่ตระการตาน่าดูชม

เพราะว่ามันเย็นตัวลง สัตว์ปีศาจบางพวกก็ได้วิ่งมาถึงที่นี่ และนกหลายชนิดก็ถึงกับพาเมล็ดพันธุ์มาด้วยเช่นกัน ฉินมู่เห็นแม้กระทั่งพืชเขียวที่แตกกอขึ้นมาเป็นหย่อมน้อยๆ

เขาเห็นกระทั่งสัตว์พิสดารแห่งแดนโบราณวินาศ ซึ่งกำลังอพยพขึ้นมาบนสวรรค์ไท่หวง และนั่นก็คงเพราะว่าสวรรค์ไท่หวงตั้งปักสูงขึ้นไปลิบลิ่ว ทำให้แสงตะวันสามารถสาดส่องลงมาถึงที่นี่ได้แม้ในเวลากลางคืน และทำให้พวกมันไม่ต้องกังวลว่าจะถูกความมืดกลืนกิน ดังนั้นสัตว์พิสดารแห่งแดนโบราณวินาศจึงชมชอบบริเวณแห่งนี้

“สองหมื่นปี…ทายาทแห่งเทพเจ้าทั้งหลายจากสภาสวรรค์ในอดีต ตอนนี้ได้กลายมาเป็นสัตว์พิสดารที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆ น่าเวทนา น่าเวทนายิ่งนัก” ผู้เฒ่าตกปลาส่ายหัวของเขา

ฉินมู่หัวใจสะท้านอย่างแรง และเขาพึมพำ “อาจารย์ลุง ท่านหลายความว่า สัตว์พิสดารพวกนี้ทั้งหมดคือ…”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าว “คือเผ่าเทพที่เหลือรอดจากสภาสวรรค์จักรพรรดิก่อตั้ง แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดได้เสื่อมถอยไปอย่างสาหัส”

ฉินมู่ถามด้วยเสียงสั่นเทิ้ม “ถ้าอย่างนั้น แม่ไก่มังกรก็เป็นเผ่าเทพที่เหลือรอดจากสภาสวรรค์ด้วยไหม”

เขาคิดถึงตอนที่เขากินแม่ไก่มังกรในทุกๆ เทศกาลงานฉลอง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดอย่างหนัก

“แม่ไก่มังกร?”

ผู้เฒ่าตกปลาส่ายหัว “แม่ไก่พวกนั้นไม่ตายตอนที่ปราสาทสวรรค์พังลงมาหรอกหรือ พวกเขาไม่ใช่เผ่าเทพที่หลงเหลืออยู่ แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่าในยุคสมัยจักรพรรดิก่อตั้ง มังกรเทพยดาตนหนึ่งได้ไปครองคู่กับแม่ไก่ และดังนั้นแม่ไก่มังกรก็ถือกำเนิดขึ้นมา ชีวิตส่วนตัวของมังกรเทพยดาล้วนแต่สับสนเสเพล…หลังจากนั้น ผู้คนก็ตระหนักว่าแม่ไก่มังกรมีเนื้อรสชาติอร่อย และในเมื่อไม่สามารถไปหาตับมังกรกับสมองหงส์เพลิงมากินได้ พวกเขาก็เริ่มเลี้ยงแม่ไก่มังกรเป็นปศุสัตว์”

ได้ยินแบบนั้น ฉินมู่ถึงค่อยระบายลมหายใจโล่งอก

พวกเขาเดินอ้อมสวรรค์หลัวฝู จึงค่อยมาถึงฟากตะวันตกของแดนโบราณวินาศภายในวันสองวัน

ฉินมู่ร้องออกมาด้วยความแตกตื่น เมื่อเขาพบว่าสวรรค์ไท่หวงร่วงลงมาไม่ไกลจากต้นน้ำของแม่น้ำหย่ง ในตอนนั้น หุบเหวยิ่งลึกและชันยิ่งกว่าเดิม ถึงกับมีรอยแยกที่หน้าผามากขึ้น และรอยแยกมากมายเหล่านั้นก็ส่องแสงสว่างวาววาม อันสะท้อนไปยังแผ่นปฐพีสวรรค์ไท่หวงจากทางด้านหลัง

เมื่อครั้งนั้น เพื่อจะหลบหนีการไล่ล่าของซิงอ้าน เขาได้ขี่หีบและพากิเลนมังกรกับผานกงสั่วย้อนไปยังยุคสมัยจักรพรรดิสูงส่งเมื่อสี่หมื่นปีก่อน!

แต่ทว่ารอยแยกดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางข้ามเวลา และแต่ละอันก็ล้วนนำพาไปยังโลกประหลาดต่างๆ กันไป

เขาและผานกงสั่วเข้าไปในโลกทะเลทรายในครั้งนั้น และเมื่อความมืดกวาดซัดเข้ามาในทะเลทราย พวกเขาก็ได้เดินทางย้อนเวลาสี่หมื่นปีด้วยสาเหตุใดสักอย่าง

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดเหตุการณ์เดียวที่แม่น้ำหย่ง เขาถึงกับเคยพบจักรพรดิก่อตั้งที่แม่น้ำหย่งมาก่อน!

“อาจารย์ลุง ต้นธารแม่น้ำหย่งนี้ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า” ฉินมู่โพล่งถาม

“แน่นอน มากมายเลยล่ะ”

ผู้เฒ่าตกปลาดูราวกับคุ้นชินภาพปรากฏการณ์ประหลาดนานาแห่งแม่น้ำหย่ง และเขาให้คุนแดงยักษ์หลบเลี่ยงแสงทั้งหลาย “ช่องทางเข้าสู่โลกมิติต่างๆ มากมายซ่อนอยู่ที่นี่ บางโลกมิติก็เป็นซากโบราณที่หลงเหลือไว้จากยุคสมัยจักรพรรดิก่อตั้ง และบ้างก็เป็นซากโบราณแห่งยุคสมัยแสงฉานและยุคสมัยหลงฮั่น ครั้งหนึ่งจักรพรรดิก่อตั้งเคยส่งเทพเจ้ามากมายออกไปสอดแนม แต่ในที่สุดพวกเขาก็คว้าน้ำเหลว อย่าไปแตะแสงนั้น ระวังจะถูกดูดเข้าไป!”

คุนแดงยักษ์หลบหลีกแสงจากหน้าผาขาด และพาพวกเขาเหาะห่างไกลจากสถานที่แห่งนั้น มุ่งหน้าไปยังบ่อจันทรา

ฉินมู่หันหัวกลับไปมองยังต้นธารแม่น้ำหย่งที่อยู่ห่างไปทุกทีๆ “ถ้าอย่างนี้แล้ว มีใครไหมที่สามารถย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยอันอยู่ห่างไกลหลายหมื่นปีจากตอนนี้”

ผู้เฒ่าตกปลาระเบิดหัวเราะออกมา “จะมีเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร ข้าไม่เคยได้ยินมันมาก่อน เท่าที่ข้ารู้ว่า ช่องทางไปสู่โลกเหล่านั้นน่าจะเป็นซากโบราณที่หลงเหลือมาจากสภาสวรรค์หลากยุคสมัย สภาสวรรค์เหล่านี้อาจจะตั้งอยู่ซ้อนทับกัน ดังนั้น โลกมิติที่เชื่อมไปสู่สภาสวรรค์จึงถูกบดอัดรวมเข้าด้วยกันเป็นจุดเดียว ทำให้เกิดสิ่งประหลาดมากมายขึ้นที่นี่”

ฉินมู่ครุ่นคิด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาและผานกงสั่วถึงสามารถย้อนอดีตได้

การพบพานกับป๋ายฉวีเอ๋อในอดีตมิใช่เพียงแค่ความฝัน

เมื่อไหร่กัน ข้าถึงจะไขปริศนาทั้งหมดในแม่น้ำหย่งได้นะ

เขารั้งสายตากลับมาและหันไป ข้าจะต้องไขปริศนาพวกนี้ได้แน่นอน!

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงบ่อจันทรา และฉินมู่ก็กระโดดลงจากหลังคุนแดงยักษ์ คุนแดงตัวนี้ย่อขนาดร่างเล็กลงๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นปลาแดงตัวน้อยที่กระโดดกลับเข้าไปในตะกร้า ปลาสองตัวเข้าไปพัวพันกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เอี๋ยนจิงจิงมองไปรอบๆ และนางพบว่าบ่อจันทราก็มีม่านคุ้มกันล่องหนอันตั้งขึ้นมาจากแสงจันทร์ในบ่อเพื่อปกป้องสถานที่แห่งนี้ด้วยเหมือนกัน สร้างเขตโลกเฉพาะขึ้นมาในตนเอง หากว่าคนภายนอกไปที่นั่น และไม่รู้เส้นทางภายใน พวกเขาก็ไม่มีวันเข้าถึงบ่อจันทราได้ นั่นก็เพราะว่า จากข้างนอกแล้ว พวกเขาไม่สามารถมองเห็นบ่อตะวัน สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นก็มีแต่ป่าทึบ

ผู้เฒ่าตกปลาเคยมาที่นี่มาก่อน และเขาก็คุ้นเคยกับเส้นทาง

บริเวณที่บ่อจันทราปกคลุมเอาไว้ดูเละเทะไปหมด กระเบื้องแตกหักอยู่ทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างที่หักพัง ทั้งยังมีโครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนกับพื้น และฉินมู่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ มันคือการรุกรานของศัตรู กระนั้นผู้พิทักษ์จันทราก็ได้ละทิ้งสหายร่วมเผ่าและขับเรือจันทราหลบหนีไปที่ยมโลก

สหายร่วมเผ่าของเขาตายไปในทันที ภายในบริเวณโดยรอบของบ่อจันทรา และเพราะว่าผู้พิทักษ์จันทราทรยศสหายร่วมเผ่าตน ท้าวยมราชจึงไม่ยินดีจะรับเขาเข้าไป ดังนั้นเขาจึงได้แต่จอดเรือจันทราเอาไว้ข้างนอกเมืองยมโลก

ที่น่าขุนเคืองใจยิ่งกว่านั้นก็คือ มีมารเทวะหลอกล่อเขาเข้าไปในยมโลกเพื่อวางแผนซุ่มโจมตี มารเทวะสตรีนางล่อลวงฉินมู่และเกือบจับตัวเขาเอาไว้ได้ โชคดีที่ว่า ผู้ใหญ่บ้านทำให้นางบาดเจ็บได้

หลังจากฉินมู่รับช่วงเป็นผู้พิทักษ์จันทราต่อ ผู้พิทักษ์จันทรานั้นก็ถูกเรือกลืนกินเข้าไป มันเป็นจุดจบที่สาสมสำหรับเขาแล้ว

ฉินมู่หลบเลี่ยงโครงกระดูกของนักต้อนจันทราอย่างระมัดระวังและกล่าวแก่กิเลนมังกร “นักต้อนจันทราพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้พิทักษ์แห่งแดนโบราณวินาศ พวกเขาควรได้รับการเคารพ อย่าไปเหยียบและทำให้พวกเขาเจ็บ”

กิเลนมังกรกลัวที่สุดก็เรื่องผีสาง และเขารีบเอาหางซุกเข้าไปในหว่างขา พลางกล่าวด้วยเสียงสั่นระริก “เหยียบเขาแล้วทำให้พวกเขาเจ็บ? จ้าวลัทธิ พวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือ”

“สักพักข้าจะปลุกพวกเขาขึ้นมา และให้พวกเขากลบฝังตนเอง”

ฉินมู่กล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น “ทหารทั้งหลายที่ปกป้องแดนโบราณวินาศ ไม่ควรที่จะถูกปล่อยให้ซากร่างของพวกเขาเกลื่อนกลาดในที่โล่งแบบนี้”

ผู้เฒ่าตกปลาวางม้านั่งเล็กของเขาลงและนั่งอยู่ข้างบ่อ เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้ามีการวางตัวของผู้เมตตา เมื่อครูบาสวรรค์จั๋วฉาเห็นเจ้า เขาจะต้องชอบเจ้าเป็นอย่างยิ่ง”

ฉินมู่ถาม “ครูบาสวรรค์จั๋วฉา?”

“หนึ่งในสี่ครูบาสวรรค์แห่งสภาสวรรค์จักรพรรดิก่อตั้ง เขาเป็นผู้ที่คอยไถนาและเลี้ยงวัว”

ผู้เฒ่าตกปลาปล่อยสายเบ็ดลงไป และปลาตัวเมียน้อยก็กระโดดออกจากตะกร้าเพื่อแหวกว่ายลงไปในบ่อจันทรา ผู้เฒ่าตกปลากล่าวต่อ “เขาเป็นครูบาสวรรค์วิชาบู๊ในบรรดาสี่ครูบาสวรรค์ และกำลังฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งที่สุด”

………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพกู้จักรวาล 678 การเสื่อมถอยของเผ่าเทพ

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 678 การเสื่อมถอยของเผ่าเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กหนุ่มผู้ฝากรักไปทุกที่”

หลังจากกล่าวเช่นนั้น เขาก็เขย่าเส้นสายปราณ และปราณหยินพิสุทธิ์ก็มุดเข้าไปในหว่างคิ้วของเอี๋ยนจิงจิง ราวกับมังกรตัวเล็กๆ ที่ไร้ร่างเนื้อ

เอี๋ยนจิงจิงรู้สึกได้ถึงสัมผัส แต่นางไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างออกไป มีก็แต่หน้าผากนางรู้สึกเย็น และนางก็ถาม “ครูบาสวรรค์ชาวประมง ปราณหยินพิสุทธิ์นี้มีผลอย่างไรหรือ ข้าไม่รู้สึกว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นมาเลย”

ผู้เฒ่าตกปลาไม่รู้จะหัวเราะหรือร่ำไห้ “นี่ไม่ใช่การฝึกประสานคู่อันแสนอัศจรรย์ที่หัวหน้าเผ่าของเจ้าพูดถึง มันไม่มีผลในตอนแรกหรอก ปราณหยินพิสุทธิ์จะทำให้หยางของเจ้าสามารถงอกงาม และผลลัพธ์ก็ไม่อาจเห็นได้ทันตา มันต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

คุนใหญ่บนท้องฟ้าเปล่งเสียงไพเราะและยาวก้องเมื่อมันเหาะผ่านอากาศเหนือแดนโบราณวินาศ พวกเขากำลังเข้าใกล้กับสวรรค์ไท่หวงมากขึ้นทุกที

ผู้เฒ่าตกปลากล่าว “เจ้าเป็นกายาหยางพิสุทธิ์ และในร่างของเจ้ามีแต่ปราณหยางพิสุทธิ์ ผนวกกับดวงตะวันที่เทพจื่อชิงสร้างขึ้นมา เรือตะวันอันก่อขึ้นมาจากปราณหยางพิสุทธิ์ซึ่งรุนแรงอย่างสุดขั้ว หลังจากที่เจ้ากลายเป็นผู้พิทักษ์ตะวัน เจ้าก็ไม่มีปราณหยินพิสุทธิ์ในร่างเลยสักนิด ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เจ้าควบคุมเรือตะวัน ปราณหยางพิสุทธิ์อันเกรี้ยวกราดก็จะหลอมรวมเข้าไปในร่างกายของเจ้าและสะสมพอกพูน ในเมื่อเจ้าไม่มีปราณหยินพิสุทธิ์เลยสักนิด ปราณและโลหิตของเจ้าก็จะแห้งเหือดไป อะไรคือการแห้งเหือดไปล่ะ”

ฉินมู่กล่าวต่อเขา “ท่านปู่นักปรุงยาของข้าได้ยกตัวอย่างการแห้งเหือดของปราณและโลหิต เขากล่าวว่าการแห้งเหือดของปราณและโลหิตเหมือนกับการจัดดอกไม้ เมื่อตัดดอกไม้สดสีสวยและปักไว้ในแจกัน ดอกไม้ก็จะเบ่งบานอย่างงดงาม แต่ทว่า พวกมันจะแห้งเหี่ยวไปในไม่กี่วัน ท่านปู่นักปรุงยากล่าวว่า การที่ปราณและโลหิตแห้งเหือด จะทำให้ผู้นั้นตายไปในวินาทีที่งดงามที่สุด”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวอย่างฉงนใจ “ปู่นักปรุงยาของเจ้าผู้นี้มีความรู้อยู่บ้าง นั่นแหละเหตุผลกลใน เมื่อหยางลำพังมิอาจงอกงาม ก็จะทำให้ปราณและโลหิตในร่างกายแห้งเหือด เมื่อปราณและโลหิตแห้งเหือด แต่ก็ยังคงแผดเผาอย่างแจ่มจ้า ผู้นั้นก็ไม่ห่างไกลไปจากความตาย ปราณหยินพิสุทธิ์นี้คือสิ่งบำรุงร่างกายเจ้า และมันดีเลิศกว่าการฝึกประสานคู่ไปตั้งไม่รู้กี่เท่า! แน่นอนว่า การฝึกประสานคู่สามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้ แต่มันไม่ได้แก้ไปถึงรากเหง้าต้นตอ!”

ปลาแดงเล็กตัวเมียในตะกร้าก็โผล่หัวออกมาและหัวเราะคิกคัก “นายผู้เฒ่าก็ถูกลิขิตไว้ว่าจะต้องเป็นโสดไปชั่วชีวิต”

คุนแดงยักษ์ลอยไปยังสถานที่ที่สวรรค์ไท่หวงและแดนโบราณวินาศไขว้กัน และทันใดนั้น พลังงานแม่เหล็กก็พลันปั่นป่วนราวกับว่าพวกเขาได้เข้าไปในสถานที่อันปราศจากสนามแม่เหล็ก ที่นั่น ผู้คนไม่ได้อยู่บนหรืออยู่ล่าง และพวกเขาไม่จำเป็นต้องฝึกทักษะเทวะเหาะเหินก็สามารถล่องลอยในอากาศได้

นั่นเป็นเพราะว่าสนามแม่เหล็กแห่งแดนโบราณวินาศเข้าไปขัดจังหวะสนามแม่เหล็กที่นี่ และเมื่อพลังแม่เหล็กของทั้งสองฝั่งเท่าเทียมกัน มันก็จะทำให้ผู้คนล่องลอยอยู่ในอากาศ

สำหรับผู้ฝึกวิชาเทวะแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่นั่นยังคงมีอากาศไหลเวียน และพวกเขาก็สามารถเหาะออกไปได้ด้วยทักษะเทวะเหาะเหิน

“ปราณหยินพิสุทธิ์ที่บุตรแห่งฉินมอบให้แก่เจ้านั้นมิใช่ปราณหยินพิสุทธิ์ธรรมดา นั่นคือพลังเทพชีวาที่ใช้ปกป้องร่างกาย และมันถูกขัดเกลาอยู่ในสมบัติเทวะทารกวิญญาณของยอดฝีมือขั้นสระหยก”

ผู้เฒ่าตกปลามองไปที่ฉินมู่และกล่าว “ต่อให้เจ้าดูดซับพลังอำนาจของดวงตะวันที่เทพจื่อชิงสร้างขึ้นมาจนหมด พลังเทพชีวาคุ้มกายนี้ก็ยังคงเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้แก่เจ้า”

เอี๋ยนจิงจิงตกตะลึง และร้องออกมา “ล้ำค่าขนาดนั้นเชียวหรือ”

“แน่นอน มันล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง”

ผู้เฒ่าตกปลาหรี่ตาและกล่าวอย่างเยือกเย็น “ในการได้มาซึ่งสมบัติล้ำค่าแบบนี้ มันจะต้องยากเข็ญแสนสาหัส และเขาอาจจะต้องผ่านประสบการณ์เฉียดเป็นเฉียดตาย ก่อนที่เทพเจ้าแห่งจักรพรรดิสูงส่งจะยอมรับว่าเขาควรคู่ที่จะได้รับปราณหยางพิสุทธิ์และปราณหยินพิสุทธิ์คู่นี้ ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะมอบให้แก่เจ้าโดยไม่ลังเลสักนิด”

เอี๋ยนจิงจิงลิงโลดแทบโดดถึงดวงจันทร์ และนางก็ชำเลืองมองฉินมู่ก่อนจะก้มหน้าลงไปอย่างเอียงอาย

ฉินมู่เกาหัวแกรกๆ “มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ข้าได้พบกับแม่ทัพแห่งยุคสมัยจักรพรรดิสูงส่งในทะเลทรายของห้วงมิติอื่น ข้าปลุกเขาขึ้นมาและช่วยเขาหลอมสร้างสุสานใหญ่เพื่อกลบฝังทหารของเขา เขามอบปราณสองเส้นนี้ให้กับข้าเป็นของแทนคุณ”

ผู้เฒ่าตกปลาตัวสั่นเทิ้มจากความเดือดดาล

ปลาตัวเมียเล็กในตะกร้าโผล่หัวออกมาและหัวเราะคิกคัก “นายผู้เฒ่า บุตรแห่งฉินผู้นี้ก็คล้ายกับท่านนัก ทั้งสองคนจะเป็นโสดไปชั่วชีวิต”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าวอย่างชืดชา “เย็นนี้เราจะกินต้มปลากัน”

ปลาตัวเมียพลันหดหัวของนางกลับไป และไม่กล้าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า

“แปลกจริง เมื่อข้าดึงเอาปราณหยินพิสุทธิ์ออกจากเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้ายังรู้สึกว่ามีบางสิ่งอยู่ในใจกลางหน้าผากของเจ้า แต่ว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในสมบัติเทวะทารกวิญญาณ”

ผู้เฒ่าตกปลาสำรวจตรวจตราฉินมู่ และสายตาของเขาก็ไปตกที่หว่างคิ้วของเขา เขาสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับหว่างคิ้วของฉินมู่ที่อยู่ใต้ใบหลิวอันเปลี่ยนสีสันไปมาตลอด “อะไรอยู่ใต้ใบหลิวงั้นหรือ ข้ามองผ่านไปไม่ทะลุ เจ้าปลดมันออกได้ไหม”

ฉินมู่กล่าว “ข้างใต้ใบหลิวคือดวงตาที่สามของข้า อันมีพี่ชายของข้าอยู่ข้างใน ไม่ปลดใบหลิวออกมาจะดีที่สุด ที่อาศัยอยู่กับพี่ชายของข้าข้างในนั้นคือพุทธเจ้าพรหม เทพสรรพชีวิต และสำนึกรู้ของจักรพรรดิแดงฉาน”

ผู้เฒ่าตกปลากระโดดโหยง และเขาจ้องไปที่ฉินมู่ “เจ้าไม่ได้โม้แน่หรือ เอามันออกมา ข้าจะได้ส่งตะขอเบ็ดเข้าไปตกพี่ชายเจ้าออกมา”

ฉินมู่รีบกล่าว “พรหม เทพสรรพชีวิต และจักรพรรดิแดงฉานอยู่ข้างในเพื่อปิดผนึกเขา และถึงกับมีเวทปิดผนึกของภูติบดีอีกด้วย! ท่านจะปล่อยให้เขาหลุดออกมาได้อย่างไร”

ผู้เฒ่าตกปลายิ่งแตกตื่นเข้าไปใหญ่ เขายิ่งสนอกสนใจในดวงตา

ฉินมู่ระแวงกิริยาท่าทางของเขา “ครูบาสวรรค์ทุกคนล้วนแต่ขี้สงสัยหมดเลยหรือ”

คุณแดงยักษ์พลิกครีบของมัน และลงไปจอดที่สวรรค์ไท่หวง ด้วยการพลิกเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน แต่ทว่ามันเป็นการพลิกอย่างกะทันหันสำหรับฉินมู่และคณะเท่านั้น สำหรับคุนแดงยักษ์แล้ว ก็เป็นแค่การพลิกตัวอย่างสบายๆ เท่านั้น

เมื่อพวกเขาไปถึงสวรรค์ไท่หวง ฉินมู่ก็พบว่าแดนโบราณวินาศนั้นตั้งฉากสูงอยู่ที่ฝั่งข้างหนึ่งของสวรรค์ไท่หวง มุมของฟ้าและดินของเขาพลิกผันไป

สิ่งทำนองนี้อาจจะดูเกินจินตนาการ แต่มันก็เป็นผลจากพลังแม่เหล็ก

ในคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิตยังคงมีทักษะเทวะที่เกี่ยวข้องกับพลังแม่เหล็ก แต่ทักษะเทวะทำนองนี้มีไม่มากนัก ท่านยายซีน่าจะคุ้นเคยกับพวกมันดี

ฉินมู่ล่องไหลไปตามความคิด ทักษะเทวะพลังแม่เหล็กดูจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง และมันอาจจะเป็นแนวทางการพัฒนาที่ดีสำหรับให้บัณฑิตแห่งสถาบันนักบุญสวรรค์ค้นคว้าวิจัย

มันอาจจะเป็นผลให้เกิดการสรรค์สร้างระบบทักษะเทวอันยิ่งใหญ่ไพศาลขึ้นมาระบบหนึ่ง!

ผู้เฒ่าตกปลาปรายตามองเขาและฉงนฉงาย บุตรแห่งฉินผู้นี้ดูเหมือนจะเหม่อลอยอยู่บ่อยครั้ง ขนาดว่ามีเด็กสาวสะสวยอยู่ข้างกาย เขาก็ยังคงใจลอยและคิดเรื่องอื่นๆ อยู่ได้อีก

ฉินมู่นำสมุดน้อยเล่มหนึ่งออกมา และยกพู่กันของเขาเพื่อจดบันทึกความคิดใหม่ จากนั้นเขาก็เป่าหมึกให้แห้งและคิดในใจ หลังจากข้ากลับไป ข้าจะให้ท่านยายซีนำบัณฑิตจำนวนหนึ่งมาศึกษาค้นคว้าทักษะเทวะพลังแม่เหล็กเป็นหัวข้อหลัก!

เอี๋ยนจิงจิงมองไปที่สีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของเขา และรู้สึกว่าน่าลุ่มหลงนัก

“เด็กสาวนี้ก็เกินเยียวยาเหมือนกัน”

ปลาตัวเมียในตะกร้าส่ายหัวไปมา “นางหลงหัวปักหัวปำกับหนุ่มเซ่อหัวทึบ”

ฉินมู่มองลงไป และเขาเห็นคลื่นลาวาแห่งสวรรค์ไท่หวงได้เย็นและแข็งตัวเรียบร้อยแล้ว ก่อขึ้นมาเป็นเทือกเขาอันมีรูปลักษณ์ของคลื่นน้ำ เป็นภาพที่ตระการตาน่าดูชม

เพราะว่ามันเย็นตัวลง สัตว์ปีศาจบางพวกก็ได้วิ่งมาถึงที่นี่ และนกหลายชนิดก็ถึงกับพาเมล็ดพันธุ์มาด้วยเช่นกัน ฉินมู่เห็นแม้กระทั่งพืชเขียวที่แตกกอขึ้นมาเป็นหย่อมน้อยๆ

เขาเห็นกระทั่งสัตว์พิสดารแห่งแดนโบราณวินาศ ซึ่งกำลังอพยพขึ้นมาบนสวรรค์ไท่หวง และนั่นก็คงเพราะว่าสวรรค์ไท่หวงตั้งปักสูงขึ้นไปลิบลิ่ว ทำให้แสงตะวันสามารถสาดส่องลงมาถึงที่นี่ได้แม้ในเวลากลางคืน และทำให้พวกมันไม่ต้องกังวลว่าจะถูกความมืดกลืนกิน ดังนั้นสัตว์พิสดารแห่งแดนโบราณวินาศจึงชมชอบบริเวณแห่งนี้

“สองหมื่นปี…ทายาทแห่งเทพเจ้าทั้งหลายจากสภาสวรรค์ในอดีต ตอนนี้ได้กลายมาเป็นสัตว์พิสดารที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆ น่าเวทนา น่าเวทนายิ่งนัก” ผู้เฒ่าตกปลาส่ายหัวของเขา

ฉินมู่หัวใจสะท้านอย่างแรง และเขาพึมพำ “อาจารย์ลุง ท่านหลายความว่า สัตว์พิสดารพวกนี้ทั้งหมดคือ…”

ผู้เฒ่าตกปลากล่าว “คือเผ่าเทพที่เหลือรอดจากสภาสวรรค์จักรพรรดิก่อตั้ง แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดได้เสื่อมถอยไปอย่างสาหัส”

ฉินมู่ถามด้วยเสียงสั่นเทิ้ม “ถ้าอย่างนั้น แม่ไก่มังกรก็เป็นเผ่าเทพที่เหลือรอดจากสภาสวรรค์ด้วยไหม”

เขาคิดถึงตอนที่เขากินแม่ไก่มังกรในทุกๆ เทศกาลงานฉลอง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดอย่างหนัก

“แม่ไก่มังกร?”

ผู้เฒ่าตกปลาส่ายหัว “แม่ไก่พวกนั้นไม่ตายตอนที่ปราสาทสวรรค์พังลงมาหรอกหรือ พวกเขาไม่ใช่เผ่าเทพที่หลงเหลืออยู่ แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่าในยุคสมัยจักรพรรดิก่อตั้ง มังกรเทพยดาตนหนึ่งได้ไปครองคู่กับแม่ไก่ และดังนั้นแม่ไก่มังกรก็ถือกำเนิดขึ้นมา ชีวิตส่วนตัวของมังกรเทพยดาล้วนแต่สับสนเสเพล…หลังจากนั้น ผู้คนก็ตระหนักว่าแม่ไก่มังกรมีเนื้อรสชาติอร่อย และในเมื่อไม่สามารถไปหาตับมังกรกับสมองหงส์เพลิงมากินได้ พวกเขาก็เริ่มเลี้ยงแม่ไก่มังกรเป็นปศุสัตว์”

ได้ยินแบบนั้น ฉินมู่ถึงค่อยระบายลมหายใจโล่งอก

พวกเขาเดินอ้อมสวรรค์หลัวฝู จึงค่อยมาถึงฟากตะวันตกของแดนโบราณวินาศภายในวันสองวัน

ฉินมู่ร้องออกมาด้วยความแตกตื่น เมื่อเขาพบว่าสวรรค์ไท่หวงร่วงลงมาไม่ไกลจากต้นน้ำของแม่น้ำหย่ง ในตอนนั้น หุบเหวยิ่งลึกและชันยิ่งกว่าเดิม ถึงกับมีรอยแยกที่หน้าผามากขึ้น และรอยแยกมากมายเหล่านั้นก็ส่องแสงสว่างวาววาม อันสะท้อนไปยังแผ่นปฐพีสวรรค์ไท่หวงจากทางด้านหลัง

เมื่อครั้งนั้น เพื่อจะหลบหนีการไล่ล่าของซิงอ้าน เขาได้ขี่หีบและพากิเลนมังกรกับผานกงสั่วย้อนไปยังยุคสมัยจักรพรรดิสูงส่งเมื่อสี่หมื่นปีก่อน!

แต่ทว่ารอยแยกดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางข้ามเวลา และแต่ละอันก็ล้วนนำพาไปยังโลกประหลาดต่างๆ กันไป

เขาและผานกงสั่วเข้าไปในโลกทะเลทรายในครั้งนั้น และเมื่อความมืดกวาดซัดเข้ามาในทะเลทราย พวกเขาก็ได้เดินทางย้อนเวลาสี่หมื่นปีด้วยสาเหตุใดสักอย่าง

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดเหตุการณ์เดียวที่แม่น้ำหย่ง เขาถึงกับเคยพบจักรพรดิก่อตั้งที่แม่น้ำหย่งมาก่อน!

“อาจารย์ลุง ต้นธารแม่น้ำหย่งนี้ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า” ฉินมู่โพล่งถาม

“แน่นอน มากมายเลยล่ะ”

ผู้เฒ่าตกปลาดูราวกับคุ้นชินภาพปรากฏการณ์ประหลาดนานาแห่งแม่น้ำหย่ง และเขาให้คุนแดงยักษ์หลบเลี่ยงแสงทั้งหลาย “ช่องทางเข้าสู่โลกมิติต่างๆ มากมายซ่อนอยู่ที่นี่ บางโลกมิติก็เป็นซากโบราณที่หลงเหลือไว้จากยุคสมัยจักรพรรดิก่อตั้ง และบ้างก็เป็นซากโบราณแห่งยุคสมัยแสงฉานและยุคสมัยหลงฮั่น ครั้งหนึ่งจักรพรรดิก่อตั้งเคยส่งเทพเจ้ามากมายออกไปสอดแนม แต่ในที่สุดพวกเขาก็คว้าน้ำเหลว อย่าไปแตะแสงนั้น ระวังจะถูกดูดเข้าไป!”

คุนแดงยักษ์หลบหลีกแสงจากหน้าผาขาด และพาพวกเขาเหาะห่างไกลจากสถานที่แห่งนั้น มุ่งหน้าไปยังบ่อจันทรา

ฉินมู่หันหัวกลับไปมองยังต้นธารแม่น้ำหย่งที่อยู่ห่างไปทุกทีๆ “ถ้าอย่างนี้แล้ว มีใครไหมที่สามารถย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยอันอยู่ห่างไกลหลายหมื่นปีจากตอนนี้”

ผู้เฒ่าตกปลาระเบิดหัวเราะออกมา “จะมีเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร ข้าไม่เคยได้ยินมันมาก่อน เท่าที่ข้ารู้ว่า ช่องทางไปสู่โลกเหล่านั้นน่าจะเป็นซากโบราณที่หลงเหลือมาจากสภาสวรรค์หลากยุคสมัย สภาสวรรค์เหล่านี้อาจจะตั้งอยู่ซ้อนทับกัน ดังนั้น โลกมิติที่เชื่อมไปสู่สภาสวรรค์จึงถูกบดอัดรวมเข้าด้วยกันเป็นจุดเดียว ทำให้เกิดสิ่งประหลาดมากมายขึ้นที่นี่”

ฉินมู่ครุ่นคิด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาและผานกงสั่วถึงสามารถย้อนอดีตได้

การพบพานกับป๋ายฉวีเอ๋อในอดีตมิใช่เพียงแค่ความฝัน

เมื่อไหร่กัน ข้าถึงจะไขปริศนาทั้งหมดในแม่น้ำหย่งได้นะ

เขารั้งสายตากลับมาและหันไป ข้าจะต้องไขปริศนาพวกนี้ได้แน่นอน!

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงบ่อจันทรา และฉินมู่ก็กระโดดลงจากหลังคุนแดงยักษ์ คุนแดงตัวนี้ย่อขนาดร่างเล็กลงๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นปลาแดงตัวน้อยที่กระโดดกลับเข้าไปในตะกร้า ปลาสองตัวเข้าไปพัวพันกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เอี๋ยนจิงจิงมองไปรอบๆ และนางพบว่าบ่อจันทราก็มีม่านคุ้มกันล่องหนอันตั้งขึ้นมาจากแสงจันทร์ในบ่อเพื่อปกป้องสถานที่แห่งนี้ด้วยเหมือนกัน สร้างเขตโลกเฉพาะขึ้นมาในตนเอง หากว่าคนภายนอกไปที่นั่น และไม่รู้เส้นทางภายใน พวกเขาก็ไม่มีวันเข้าถึงบ่อจันทราได้ นั่นก็เพราะว่า จากข้างนอกแล้ว พวกเขาไม่สามารถมองเห็นบ่อตะวัน สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นก็มีแต่ป่าทึบ

ผู้เฒ่าตกปลาเคยมาที่นี่มาก่อน และเขาก็คุ้นเคยกับเส้นทาง

บริเวณที่บ่อจันทราปกคลุมเอาไว้ดูเละเทะไปหมด กระเบื้องแตกหักอยู่ทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างที่หักพัง ทั้งยังมีโครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนกับพื้น และฉินมู่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ มันคือการรุกรานของศัตรู กระนั้นผู้พิทักษ์จันทราก็ได้ละทิ้งสหายร่วมเผ่าและขับเรือจันทราหลบหนีไปที่ยมโลก

สหายร่วมเผ่าของเขาตายไปในทันที ภายในบริเวณโดยรอบของบ่อจันทรา และเพราะว่าผู้พิทักษ์จันทราทรยศสหายร่วมเผ่าตน ท้าวยมราชจึงไม่ยินดีจะรับเขาเข้าไป ดังนั้นเขาจึงได้แต่จอดเรือจันทราเอาไว้ข้างนอกเมืองยมโลก

ที่น่าขุนเคืองใจยิ่งกว่านั้นก็คือ มีมารเทวะหลอกล่อเขาเข้าไปในยมโลกเพื่อวางแผนซุ่มโจมตี มารเทวะสตรีนางล่อลวงฉินมู่และเกือบจับตัวเขาเอาไว้ได้ โชคดีที่ว่า ผู้ใหญ่บ้านทำให้นางบาดเจ็บได้

หลังจากฉินมู่รับช่วงเป็นผู้พิทักษ์จันทราต่อ ผู้พิทักษ์จันทรานั้นก็ถูกเรือกลืนกินเข้าไป มันเป็นจุดจบที่สาสมสำหรับเขาแล้ว

ฉินมู่หลบเลี่ยงโครงกระดูกของนักต้อนจันทราอย่างระมัดระวังและกล่าวแก่กิเลนมังกร “นักต้อนจันทราพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้พิทักษ์แห่งแดนโบราณวินาศ พวกเขาควรได้รับการเคารพ อย่าไปเหยียบและทำให้พวกเขาเจ็บ”

กิเลนมังกรกลัวที่สุดก็เรื่องผีสาง และเขารีบเอาหางซุกเข้าไปในหว่างขา พลางกล่าวด้วยเสียงสั่นระริก “เหยียบเขาแล้วทำให้พวกเขาเจ็บ? จ้าวลัทธิ พวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือ”

“สักพักข้าจะปลุกพวกเขาขึ้นมา และให้พวกเขากลบฝังตนเอง”

ฉินมู่กล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น “ทหารทั้งหลายที่ปกป้องแดนโบราณวินาศ ไม่ควรที่จะถูกปล่อยให้ซากร่างของพวกเขาเกลื่อนกลาดในที่โล่งแบบนี้”

ผู้เฒ่าตกปลาวางม้านั่งเล็กของเขาลงและนั่งอยู่ข้างบ่อ เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้ามีการวางตัวของผู้เมตตา เมื่อครูบาสวรรค์จั๋วฉาเห็นเจ้า เขาจะต้องชอบเจ้าเป็นอย่างยิ่ง”

ฉินมู่ถาม “ครูบาสวรรค์จั๋วฉา?”

“หนึ่งในสี่ครูบาสวรรค์แห่งสภาสวรรค์จักรพรรดิก่อตั้ง เขาเป็นผู้ที่คอยไถนาและเลี้ยงวัว”

ผู้เฒ่าตกปลาปล่อยสายเบ็ดลงไป และปลาตัวเมียน้อยก็กระโดดออกจากตะกร้าเพื่อแหวกว่ายลงไปในบ่อจันทรา ผู้เฒ่าตกปลากล่าวต่อ “เขาเป็นครูบาสวรรค์วิชาบู๊ในบรรดาสี่ครูบาสวรรค์ และกำลังฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งที่สุด”

………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+