ตำนานเทพกู้จักรวาล 732 แปลงหน้าเปลี่ยนโฉม

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 732 แปลงหน้าเปลี่ยนโฉม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​?”

ฉิน​มู่เหมือน​จะได้ยิน​ไม่ถนัด​และ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​คน​ไหน​”

หนิ​ว​ซาน​ตัว​ยังคง​ไม่ได้สติ​จาก​ความ​ตื่นตระหนก​ดี​นัก​ และ​เขา​พึมพำ​ราวกับว่า​กำลัง​ฝัน​ละเมอ​ “แน่นอน​ว่า​มีจักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เพียง​คนเดียว​เท่านั้น​ จะมีจักรพรรดิ​ก่อตั้ง​คนอื่น​ที่ไหนได้​อีก​ เขา​นั้น​สะดุดตา​เป็น​อย่างยิ่ง​ และ​แม้ว่า​จะอยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​มากมาย​ไร้​ประมาณ​ เจ้าก็​ยังคง​สังเกตเห็น​เขา​ได้​ใน​ปราด​เดียว​ ไม่ว่า​คนอื่นๆ​ จะโดดเด่น​เจิดจ้า​สัก​เพียง​ไหน​ สายตา​ของ​เจ้าก็​จะจ้อง​จับ​ที่​ตัว​เขา​ใน​เสี้ยว​พริบตา​ เขา​นั้น​มีท่วงที​ของ​ผู้นำ​โดยธรรมชาติ​ และ​คนอื่นๆ​ จะเหนือ​ธรรมดา​สัก​เพียง​ไหน​ ก็​จะกลายเป็น​เพียง​ดวง​ดารา​ที่​เคลื่อน​คล้อย​โคจร​รอบตัว​เขา​…”

ฉิน​มู่ได้สติ​ขึ้น​มา และ​พลัน​มอง​ไป​ยัง​เรือ​สำราญ​ลำ​นั้น​

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​!

ผู้ก่อตั้ง​แห่ง​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ บรรพชน​เฒ่าของ​เขา​!

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็​อยู่​ที่นี่​ด้วย​!

หรือว่า​นี่​จะเป็น​จุดเริ่มต้น​ของ​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​

หัวใจ​เขา​เกิด​เจตจำนง​อัน​แรงกล้า​ขึ้น​มา และ​นั่น​ก็​คือ​เขา​จะต้อง​ไป​พบ​เจอ​กับ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ให้ได้​!

ฉิน​มู่เหิน​ทะยาน​ขึ้น​จาก​เรือ​สำราญ​และ​ไล่ตาม​เรือ​สำราญ​ที่​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ยืน​อยู่​ วัว​แก่​รีบ​ตาม​เขา​ไป​ติดๆ​ ขณะที่​หญิงสาว​บน​เรือ​เดิม​นั้น​ตื่นตระหนก​ นาง​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “น้องชาย​คนดี​ ทำไม​จู่ๆ เจ้าก็​ไป​”

“พี่สาว​ ข้า​ได้​พบเห็น​บางคน​ที่​ข้า​รู้จัก​!”

ฉิน​มู่หัน​กลับมา​และ​ประสานมือ​คารวะ​ “คน​ผู้​นั้น​สำคัญ​ต่อ​ข้า​อย่างยิ่งยวด​ ข้า​ลืม​ที่จะ​บอกกล่าว​แก่​พี่สาว​ตอนที่​กำลัง​รีบ​ถลัน​ออก​ไป​ โปรด​อภัย​ให้​ข้า​ด้วย​! พี่สาว​อยู่​ที่ไหน​หรือ​ ข้า​จะไป​เยี่ยมเยียน​และ​ขออภัย​อีกครั้ง​หลังจากที่​ข้า​เสร็จ​ธุระ​แล้ว​”

หญิง​ผู้​นั้น​โบกมือ​และ​แย้มยิ้ม​ “หากว่า​เจ้ากำลัง​เร่งด่วน​ ก็​ไป​เถอะ​ พี่สาว​ผู้​นี้​มีแซ่จู นาม​เฉว้​เอ๋อ​ ข้า​อาศัย​อยู่​ใน​ราช​วัง​หงส์แดง​ เมื่อ​เจ้ามีเวลาว่าง​ก็​มาหา​ข้า​สิ ราช​วัง​หงส์แดง​อยู่​ทางทิศใต้​ของ​สภาสวรรค์​!”

ฉิน​มู่ตกปากรับคำ​และ​หันกลับ​ไป​ เขา​เพิ่ม​ความเร็ว​และ​และ​ไล่ตาม​เรือ​สำราญ​ลำ​นั้น​

“มีคน​ที่​ชื่อว่า​จูเฉว้​เอ๋อ​อยู่​จริงๆ​”

วัว​แก่​ติดตาม​ไป​ข้างหลัง​ฉิน​มู่และ​กล่าว​ด้วย​เสียง​อู้อี้​ “หงส์แดง​เป็น​หนึ่งในสี่​จักรพรรดิ​เท​วะ​ และ​สภาสวรรค์​โบราณ​มีสี่จักรพรรดิ​เท​วะ​ จักรพรรดิ​ทักษิณ​นั้น​มิใช่ผู้ใด​อื่น​นอก​เสีย​จาก​หงส์แดง​ หญิง​ผู้​นี้​ช่างไม่กลัว​อายุสั้น​เลย​จริงๆ​ ที่​กล้า​เรียก​ตนเอง​ว่า​จูเฉว้​เอ๋อ​ แต่ทว่า​ กำลัง​ฝีมือ​ของ​นาง​ก็​ไม่อ่อนด้อย​เช่นกัน​ นาง​ทัดเทียม​ได้​กับ​นาย​ผู้เฒ่า​”

ฉิน​มู่ตกตะลึง​ “จักรพรรดิ​ทักษิณ​มาจาก​เผ่า​เทพ​หงส์แดง​อย่างนั้น​หรือ​ จักรพรรดิ​ทักษิณ​ไม่ใช่ฉีเสีย​อวี๋​หรอก​หรือ​”

วัว​เฒ่าอธิบาย​ “ฉีเสีย​อวี๋​เป็น​จักรพรรดิ​แดง​สวรรค์​ทักษิณ​ เผ่า​หงส์​เพลิง​เก้า​หัว​ตน​หนึ่ง​ นาง​แตกต่าง​ไป​จาก​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ ฉีเสีย​อวี๋​ผู้​นี้​ร่ำ​ลือ​กัน​ว่า​เป็น​เทพเจ้า​จาก​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่ง ใน​ภายหลัง​นาง​ได้​สวามิภักดิ์​ต่อ​ศัตรู​และ​ละทิ้ง​อำนาจ​ แต่ทว่า​ใน​เมื่อ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ยังคง​ดำรงอยู่​ นาง​จึงไม่อาจ​เรียก​ได้​ว่า​จักรพรรดิ​ทักษิณ​ เป็นได้​เพียงแค่​จักรพรรดิ​แดง​”

ฉิน​มู่จิตใจ​ปั่นป่วน​ และ​เขา​หันไป​มอง​หญิง​ผู้​นั้น​ เขา​พบ​ว่า​เรือ​สำราญ​ได้​แล่น​ออกห่าง​ไป​ที่​ไกลๆ​ แล้ว​

“จูเฉว้​เอ๋อ​? ราช​วัง​หงส์แดง​? จูเฉว้​เอ๋อ​มีความสัมพันธ์​กับ​จักรพรรดิ​ทักษิณ​อย่างไร​กัน​แน่​”

เขา​นั้น​กำลัง​รีบร้อน​ที่จะ​ไล่ตาม​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ให้​ทัน​ ดังนั้น​เขา​จึงละวาง​เรื่อง​นี้​ไป​ก่อน​ และ​เพ่ง​สมาธิกับ​การ​ไล่ตาม​เรือ​สำราญ​ที่​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​โดยสาร​อยู่​

จูเฉว้​เอ๋อ​ส่งฉิน​มู่จากไป​ และ​นางกำนัล​จำนวน​หนึ่ง​ก็​ก้าว​ออกมา​และ​ถาม “ทำไม​เทพี​จึงดี​ต่อ​น้องชาย​คน​นั้น​นัก​ น้องชาย​ผู้​นั้น​แม้แต่​บอกชื่อ​แซ่ก็​ยัง​ไม่บอก​!”

“แม้ว่า​ใน​หนึ่งร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​ไม่มีใคร​รู้จัก​ เขา​ก็​จะเป็นที่​เลื่องลือ​ไป​ทั่วโลก​หล้า​ใน​หนึ่ง​มหา​สมาคม​ ข้า​มอง​เขา​เป็น​บุคคล​เช่นนั้น​”

จูเฉว้​เอ๋อ​ผู้​มีดวงตา​เรียว​ชี้ขึ้นไป​ กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​มอง​เขา​เป็น​บุคคล​เหนือ​ธรรมดา​ผู้​หนึ่ง​ และ​เขา​จะต้อง​ประสบความสำเร็จ​ในอนาคต​อย่าง​แน่นอน​ ยิ่งไปกว่านั้น​ วัว​ที่​เขา​เรียก​ว่า​ศิษย์​พี่​ก็​แข็งแกร่ง​จน​น่าสะพรึงกลัว​ แม้แต่​ใน​สภาสวรรค์​ก็​มีตัวตน​ระดับ​นั้น​อยู่​ไม่มาก​ การ​ที่​วัว​อัน​แข็งแกร่ง​ทรงพลัง​ขนาด​นั้น​ติดตาม​เขา​มา เด็ก​ผู้​นี้​ย่อม​ไม่ใช่ผู้​ไร้ความสามารถ​ พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​ แล่น​ไป​ยัง​สภาสวรรค์​กัน​ ข้า​สงสัย​ว่า​ภูติ​บดี​และ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​คงจะ​มาถึงแล้ว​ และ​พวกเรา​ก็​ไม่อาจ​ปล่อย​ให้​พวกเขา​กับ​ฝ่าบา​ทรอ​นาน​เกินไป​”

มีเรือ​สำราญ​มากมาย​อยู่​ใน​แม่น้ำ​สวรรค์​ที่​กำลัง​แล่น​สลับ​ตัดกัน​ไปมา​ ขณะที่​สัตว์​ยักษ์​ใน​แม่น้ำ​ก็​สร้าง​คลื่น​กระเพื่อม​ไป​ระหว่าง​ที่​ลากจูง​เรือ​ ฉิน​มู่มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​เขา​ก็​ไม่อาจ​พบ​เจอ​เรือ​สำราญ​ที่​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​นั่ง​อยู่​ได้​

ทันใดนั้น​ เสียง​กู่​ร้อง​ต่ำ​ก็​ดัง​มา และ​แม้ว่า​มัน​จะต่ำ​ทุ้ม​เป็น​อย่าง​นิ่ง​ แต่​เสียง​นั้น​ก็​กึกก้อง​และ​สั่นสะเทือน​ร่างกาย​ไป​หมด​ คุ​นยักษ์​ที่​ขนาด​ยาว​กว่า​สิบ​ลี้​กระพือ​ครีบ​ของ​มัน​และ​กระโดด​ออก​มาจาก​น้ำ​ สร้าง​คลื่น​ใหญ่​มหึมา​

ฉิน​มู่หันไป​ข้างๆ​ และ​เห็น​คลื่น​ที่​ซัด​ฉาดฉาน​จาก​คุ​นยักษ์​ที่​เหิน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​ ครีบ​ของ​คุ​นยักษ์​ตัว​นี้​เหมือนกับ​ปีก​อัน​กระพือ​อยู่​บน​ท้องฟ้า​ พลาง​กู่​ร้อง​ด้วย​เสียง​ลาก​ยาว​

ที่นี่​ไม่มีผู้คน​ที่​มีความคิดสร้างสรรค์​น่า​แตกตื่น​อย่าง​ใน​สันติ​นิรันดร์​ แต่​พวกเขา​มีสัตว์​อัน​อัน​หา​ยาก​และ​พิสดาร​ทุกชนิด​ อัน​ใช้ใน​การสัญจร​เดินทาง​ นับว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​

“เรือ​สำราญ​เข้าไป​จอด​แล้ว​!”

ฉิน​มู่ดวง​ตาลุก​วาบ​ เมื่อ​เขา​เห็น​เรือ​สำราญ​ลำ​นั้น​เข้าไป​เทียบ​ที่​ข้างๆ​ ท่าเรือ​หยก​ตัด​เกลียวคลื่น​ แต่ทว่า​บน​เรือ​ไม่มีจักรพรรดิ​ก่อ​ตั้งอยู่​อีกต่อไป​ และ​ผู้คน​เหล่านั้น​ที่อยู่​กับ​เขา​ก็​หาย​ไป​ด้วย​เช่นกัน​

มีเรือ​สำราญ​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​จอดเทียบ​กับ​ท่าเรือ​หยก​ และ​มีผู้คน​หลาย​คน​สวมใส่​ชุด​โบราณ​เดินลง​จาก​เรือ​ ข้างๆ​ ท่าเรือ​หยก​ไม่มีสิ่งใด​อื่น​ มีก็​แต่​ปลา​ยักษ์​หลังเขียว​ที่​ลอย​อยู่​ใต้​ผิวน้ำ​

ผู้คน​ที่​ลง​จาก​เรือ​ ขึ้นไป​ต่อ​บน​หลัง​ปลา​ราวกับว่า​กำลัง​ยืน​อยู่​บน​เกาะเล็ก​ๆ

“นี่​คือ​ท่าเรือ​ที่​ใช้เปลี่ยน​วิธีการ​เดินทาง​!”

วัว​แก่​กล่าว​อย่าง​รีบร้อน​ “พวกเขา​เปลี่ยนไป​ขึ้น​คุ​นยักษ์​ตัว​นั้น​!”

ฉิน​มู่รีบ​เหิน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​ และ​ไล่ตาม​คุ​นยักษ์​ที่​แหวก​ผ่า​ผิว​น้ำขึ้น​มาเมื่อ​ก่อนหน้านี้​ วัว​แก่​ข้าง​หลังเขา​เหยียบ​ไป​บน​เวหา​ และ​สร้าง​เสียง​ตึง​ๆ จาก​ฝีเท้า​เมื่อ​วิ่ง​ตาม​เขา​มา ด้วย​การ​เหวี่ยง​แต่​เบา​ๆ ฉิน​มู่ก็​ถูก​โยน​ลง​ไป​บน​หลัง​ของ​เขา​

วัว​แก่​รีด​เร้น​พละกำลัง​ และ​มิติ​อวกาศ​ข้างหน้า​เขา​ก็​แทบ​ระเบิด​ออกมา​ เมื่อ​เขา​แปร​เปลี่ยนเป็น​ลำแสง​สีเขียว​ที่​วิ่ง​ไล่กวด​ปลา​คุ​นยักษ์​

หนิ​ว​ซาน​ตัว​แบก​ฉิน​มู่วิ่งไล่​ตามติด​ปลา​คุ​น​ที่​กำลัง​กระพือ​ครีบ​ของ​มัน​ คุ​นยักษ์​นี้​เหนือ​ธรรมดา​และ​มีความเร็ว​อัน​ยิ่งยวด​ แต่​มัน​ก็​ยังคง​ช้ากว่า​วัว​แก่​ไป​มาก​

ขณะที่​พวกเขา​เข้าไป​ใกล้​ ฉิน​มู่กลับ​สงบใจ​ลง​ เขา​กล่าว​ด้วย​เสียง​เบา​ “ศิษย์​พี่​ซาน​ตัว​ อย่า​เพิ่ง​ตาม​ไป​ชิด​พวกเขา​”

วัว​แก่​รีบ​ชะลอ​ความเร็ว​ และ​ถามด้วย​ความ​ฉงน​ “เจ้าไม่ได้​อยาก​ไป​เจอ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​งั้น​หรือ​”

“ข้า​จะต้อง​ไป​พบ​เขา​แน่นอน​ แต่​ข้า​ไม่รู้​ว่า​นี่​คือ​ยุคสมัย​ไหน​ พวกเรา​ไม่รู้​ว่า​พวกเรา​อยู่​ที่ไหน​และ​อยู่​ใน​ห้วงเวลา​ใด​ ข้า​สงสัย​ว่า​…”

เขา​มีสีหน้า​ประหลาด​ และ​กล่าว​ด้วย​เสียง​เบา​ “ข้า​สงสัย​ว่า​พวกเรา​จะได้​ย้อน​มายัง​บาง​จุด​ของ​ห้วงเวลา​ใน​อดีต​ ที่นี่​ไม่ใช่ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​”

วัว​แก่​ผงกศีรษะ​และ​กล่าว​ “ที่นี่​ไม่ใช่ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จริงๆ​ นั่นแหละ​ แม้ว่า​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จะรุ่งโรจน์​เป็น​อย่าง​นิ่ง​ แต่​มัน​ก็​ไม่อาจ​เทียบ​ได้​กับ​ยุคสมัย​แห่ง​นี้​ สถานที่​นี้​ดู​ล้าหลัง​ไม่ทัน​กาล​เป็น​อย่างยิ่ง​ ข้า​สงสัย​ว่า​ที่นี่​คือ​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่ง…”

ฉิน​มู่วิเคราะห์​ต่อ​ “นี่​ก็​ไม่ใช่ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งด้วย​เช่นกัน​ ต่อให้​ข้า​ไม่รู้​เกี่ยวกับ​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งมาก​นัก​ ข้า​ก็​รู้​ว่า​ช่วง​ปลาย​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งโกลาหล​เป็น​อย่างยิ่ง​ และ​ที่นี่​ก็​ไม่ใช่ยุคสมัย​แสงฉาน​ด้วย​ ก็​ใน​เมื่อ​ยุคสมัย​แสงฉาน​เต็ม​ไป​ผู้คน​สามเศียร​หก​กร​ แต่ทว่า​ เทพเจ้า​ที่นี่​มีทุก​รูปแบบ​รูปโฉม​”

วัว​แก​จ้อง​ไป​ด้วย​ดวงตา​เบิก​กว้าง​และ​ร่ำร้อง​ออกมา​ “หรือว่า​เรา​จะย้อนกลับ​มายัง​ยุคสมัย​อัน​ดึกดำบรรพ์​อย่าง​เหลือแสน​ หลง​ฮั่น​?”

ฉิน​มู่มีสีหน้า​ประหลาด​ และ​เขา​กล่าว​อย่าง​นุ่มนวล​ “ศิษย์​พี่​ ใจเย็น​ๆ ก่อน​ แม่น้ำ​หย่ง​ประหลาด​พิสดาร​นัก​ ข้า​เคย​พบ​กับ​หมอก​แห่ง​แม่น้ำ​หย่ง​มาก่อน​เหมือนกัน​ และ​ถึงกับ​ย้อน​เวลา​ไป​ยัง​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งเมื่อ​สี่หมื่น​ปี​ที่แล้ว​ใน​โลก​มิติ​ทะเลทราย​ที่​ต้น​ธาร​แม่น้ำ​หย่ง​ เหตุการณ์​เล็กน้อย​แค่นี้​ไม่จำเป็นต้อง​ตื่นตระหนก​”

วัว​แก่​อ้า​ปากกว้าง​และ​ร้อง​ระ​ล่ำ​ระ​ลัก​ “เจ้าพบ​เรื่อง​ประหลาด​พิสดาร​ด้วย​?”

ฉิน​มู่วิเคราะห์​และ​กล่าว​ “ข้า​ได้​นำ​หีบ​และ​กิเลน​มังกร​หลบหนี​การ​ไล่ล่า​ของ​ซิงอ้า​น​ไป​พร้อม​ๆ กับ​ผู้สูงศักดิ์​ พวกเรา​ย้อน​เวลา​กลับ​ไป​เมื่อ​สี่หมื่น​ปีก่อน​โดยบังเอิญ​ และ​ได้​ประสบ​กับ​สงคราม​ที่​กวาดล้าง​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่ง แต่ทว่า​มัน​กิน​ระยะเวลา​เพียง​ค่ำคืน​เดียว​เท่านั้น​ เมื่อ​ท้องฟ้า​สว่าง​ขึ้น​มา ป๋า​ย​ฉวี​เอ๋อ​และ​ชาว​จักรพรรดิ​สูงส่งทั้งหลาย​ก็​จางหาย​ไป​ราวกับ​ทราย​ดำ​ โลก​มิติ​นี้​จะหายวับ​ไป​หลังจาก​รุ่งอรุณ​มาถึงเหมือนกับ​คราวก่อน​ และ​ส่งพวกเรา​กลับ​ไป​ยัง​แดน​โบราณ​วินาศ​ไหม​นะ​…”

วัว​แก่​กระแอม​ไอ​ และ​ทำลาย​จังหวะ​ความคิด​ของ​เขา​ “ศิษย์​น้อง​ ข้า​เกรง​ว่า​ที่นี่​จะไม่มีเวลา​กลางคืน​”

ฉิน​มู่ตกตะลึง​และ​มอง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​ เขา​เห็น​ดวงตะวัน​ดวง​มหึมา​แขวน​ห้อย​อยู่​บน​ฟ้าเบื้องบน​ ใน​สภาสวรรค์​บรรพกาล​แห่ง​นี้​ไม่มีทาง​ที่จะ​เป็น​กลางคืน​ไป​ได้​!

วัว​แก่​กล่าว​ “จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็​พูดว่า​เขา​ได้​พบ​กับ​เหตุการณ์​ประหลาด​พิสดาร​มาก่อน​ และ​หายตัว​ไป​เป็นเวลา​หลาย​เดือน​ ข้า​สงสัย​ว่า​เหตุการณ์​พิสดาร​ที่​พวกเรา​กำลัง​ประสบ​พบ​เจอ​ นั้น​เป็น​เหตุการณ์​เดียวกัน​กับ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​! นี่​หมายความว่า​ พวกเรา​อาจจะ​ถูก​กัก​เอาไว้​ที่นี่​เป็นเวลา​หลาย​เดือน​เหมือนกับ​ที่​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​หนุ่ม​ได้​ประสบ​”

ฉิน​มู่กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “เมื่อ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​พบ​กับ​เหตุการณ์​พิสดาร​ นั่น​ก็​น่าจะเป็น​เมื่อ​สามหมื่น​สี่หมื่น​ปีก่อน​ เขา​และ​ข้า​เป็น​ผู้คน​ที่​มาจาก​ยุคสมัย​อัน​แตก​ต่างกัน​ ข้า​ไม่รู้​ว่า​เมื่อ​ข้า​ไป​พบ​เจอ​กับ​เขา​จะยิ่ง​เกิด​เหตุการณ์​พิสดาร​ยิ่งกว่า​เดิม​หรือไม่​ ศิษย์​พี่​ซาน​ตัว​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จะจดจำ​เจ้าได้​หรือไม่​”

วัว​แก่​ตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ และ​เขา​กล่าว​ “แน่นอน​ว่า​ต้อง​จำได้​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ดี​กับ​ข้า​เป็น​อย่างยิ่ง​ เข้ามา​เชิญข้า​ตั้ง​หลาย​หน​ให้​ไป​ปกครอง​ราช​วัง​สวรรค์​สัก​หลัง​หนึ่ง​ แต่​ข้า​ขยาด​เรื่อง​ยุ่งยาก​ จึงปฏิเสธ​เขา​ไป​”

“พวก​ท่าน​ทั้งสอง​รู้จัก​กัน​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​” ฉิน​มู่ถามต่อ​

วัว​แก่​คิด​อยู่​เล็กน้อย​และ​กล่าว​ “ข้า​นั้น​ติดตาม​นาย​ผู้เฒ่า​อยู่​ตลอด​ ใน​ช่วงแรก​ๆ ของ​ขวบ​ปี​ นาย​ผู้เฒ่า​เลี้ยง​ต้อน​วัว​จาก​ตระกูล​ใหญ่​ตระกูล​หนึ่ง​ และ​ข้า​เป็น​วัว​ที่​เขา​ต้อน​ไป​เลี้ยง​ ข้า​ลอบ​ชมดู​นาย​ผู้เฒ่า​เรียน​วิชา​หมัด​ และ​ข้า​ก็​เรียน​ตาม​เขา​ไป​ด้วย​ อยู่​มาวันหนึ่ง​ ข้า​ก็​อ้า​ปาก​พูด​และ​ทำให้​นาย​ผู้เฒ่า​แตกตื่น​ไป​หมด​ จากนั้น​พวกเรา​จึงกลายเป็น​สหาย​รัก​กัน​ เมื่อ​ตระกูล​ใหญ่​นั้น​รู้​ว่า​สุดยอด​วิชา​ที่​สืบทอด​กัน​มาใน​ตระกูล​ถูก​เด็ก​เลี้ยง​วัว​เรียนรู้​ไป​ พวกเขา​ก็​คิด​จะฆ่าเขา​ดังนั้น​ข้า​จึงแบก​นาย​ผู้เฒ่า​วิ่ง​และ​วิ่ง​ เมื่อ​พวกเรา​วิ่งหนี​ไป​เป็นเวลา​นาน​จนกระทั่ง​ไป​พบ​กับ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ เขา​ก็​ตี​พวก​ผู้​ไล่ล่า​จน​แตก​พ่าย​ พวกเรา​จึงติดตาม​เขา​ไป​ ใน​ตอนนั้น​เขา​เป็น​ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​ขั้น​เจ็ด​ดาว​เท่านั้น​”

“นั่น​เร็ว​มาก​ๆ เขา​จะต้อง​จดจำ​ท่าน​ได้​แน่ๆ​”

ฉิน​มู่กระโดด​ลง​จาก​หลัง​ของ​เขา​และ​เปิด​ถุงเต๋า​ตี้​ เขา​นำ​เอา​ยันต์​กระดาษ​เหลือง​แผ่น​หนึ่ง​ออกมา​และ​กล่าว​ “ศิษย์​พี่​ซาน​ตัว​ แปลงร่าง​เป็น​มนุษย์​ก่อน​”

วัว​แก่​แปลงร่าง​เป็น​เทพ​เจ้าหัว​วัว​ และ​ฉิน​มู่แปะ​ยันต์​กระดาษ​เหลือง​ไว้​บน​หน้าผาก​ของ​เขา​ “นี่​คือ​ยันต์​กระดาษ​เหลือง​จาก​ราชันย์​ขุนนาง​แห่ง​แดน​ใต้พิภพ​ หากว่า​มัน​แปะ​ไว้​กับ​ท่าน​ คนอื่นๆ​ จะไม่มีทาง​มองเห็น​โฉมหน้าที่​แท้จริง​ของ​ท่าน​ได้​ ด้วย​วิธี​นี้​ ท่าน​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จะจดจำ​ท่าน​ได้​ ข้า​มีมัน​เพียง​แผ่น​เดียว​ แต่​ข้า​ไป​ฉวย​ยันต์​กระดาษ​เหลือง​มาจาก​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​เมตตา​เทียม​สวรรค์​ ดังนั้น​นี่​จะต้อง​เป็น​ของดี​วิเศษ​อย่าง​แน่นอน​”

วัว​แก่​เลิก​ยันต์​เหลือง​ขึ้น​และ​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ถ้าไป​แปะ​ไว้​ที่อื่น​มัน​จะได้ผล​อยู่​ไหม​ แปะ​ไว้​บน​หน้า​นี่​มัน​แปลกประหลาด​จน​เกินไป​ มัน​ทำให้​ข้า​รู้สึก​พิลึก​และ​บดบัง​ทัศนวิสัย​ของ​ข้า​”

“ข้า​ยัง​ไม่เคย​ลอง​แปะ​ไว้​ที่อื่น​เลย​”

ฉิน​มู่มอง​สำรวจ​ดู​เขา​ และ​พบ​ว่า​มองไม่เห็น​ใบหน้า​เขา​จริงๆ​ “ทำไม​ท่าน​ไม่ลองดู​สักหน่อย​ล่ะ​”

วัว​แก่​แกะ​ยันต์​เหลือง​ออก​และ​ซ่อน​มัน​ไว้​ใน​ร่างกาย​ “เจ้ายัง​มองเห็น​ใบหน้า​ข้า​หรือไม่​”

ฉิน​มู่ก็​ยังคง​มองไม่เห็น​ใบหน้า​ของ​เขา​ แต่​มองออก​รางๆ​ ว่า​เขา​เป็น​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ยันต์​กระดาษ​เหลือง​ของ​ราชันย์​ขุนนาง​ใช้แบบนี้​ก็ได้​ด้วย​หรือ​ เขา​เอา​มัน​มาแปะ​ใส่หน้า​ข้า​ ดังนั้น​ข้า​จึงคิด​ว่า​มัน​ใช้แปะ​บน​ใบหน้า​ได้​เท่านั้น​ พวกเรา​รีบ​ไล่ตาม​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กัน​เถอะ​!”

เขา​ขับเคลื่อน​วิชา​เสกสรร​และ​เปลี่ยนแปลง​รูปหน้า​ของ​ตนเอง​ มัน​แตกต่าง​จาก​โฉมหน้าเดิม​ของ​เขา​โดยสิ้นเชิง​

วัว​แก่​ขับเคลื่อน​พลัง​วัตร​ และ​ทำให้​เขา​เคลื่อนที่​เร็ว​ปาน​สายฟ้า​ พวกเขา​ตาม​ไป​ทัน​ปลา​คุ​นยักษ์​นั้น​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​พวกเขา​ก็​กระโดด​ลง​ไป​เหยียบ​บน​หลัง​ของ​มัน​ราว​ประกายไฟ​

คุ​นยักษ์​ถูก​กด​ลงมา​อย่าง​เร็วจี๋​จาก​หนิว​ซาน​ตัว​ และ​ร่วง​ลง​จาก​ท้องฟ้า​อย่าง​หวีด​หวือ​

“เทพ​สูงส่งที่ไหน​มาหยอกล้อ​เทพ​ผู้น้อย​อย่าง​ข้า​”

ปลา​คุ​น​ตัว​นั้น​ร้อง​ออกมา​ “ลง​ไป​เร็ว​เข้า​ ลง​ไป​เร็ว​เข้า​! ร่าง​ของ​เทพ​สูงส่งท่าน​หนัก​เกินไป​แล้ว​ เทพ​ผู้น้อย​อย่าง​ข้า​ไม่อาจ​แบกรับ​ไหว​!”

วัว​แก่​ใบหน้า​แดงฉาน​ และ​รีบ​โคจร​พลัง​ปราณ​เพื่อ​ยก​ร่าง​ของ​ตนเอง​ให้​ลอย​ขึ้น​ คุ​นยักษ์​ที่​กำลังจะ​ร่วง​ลงพื้น​เมื่อ​ถูก​แรง​กด​ทับ​อัด​เข้าใส่​ก็​พลัน​เบาตัว​ เขา​รีบ​กระพือ​ครีบ​และ​ดึง​ร่าง​เหิน​ขึ้น​ เฉียด​ผ่าน​เทพ​หัว​นก​อัน​น่าเกรงขาม​ที่​่มีขนนก​ประดุจ​ชั้น​เมฆ

เทพเจ้า​นั้น​พวยพุ่ง​ด้วย​ไฟศักดิ์สิทธิ์​ และ​ราวกับว่า​เขา​คือ​ดวงตะวัน​อัน​เจิดจ้า​ เขา​มอง​ไป​ยัง​ผู้คน​บน​หลัง​ปลา​ด้วย​ความ​สนอกสนใจ​ และ​เขา​มิใช่ใคร​อื่น​ นอก​เสีย​จาก​เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะ​วันที่​ฉิน​มู่ได้​พบเห็น​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​

ปลา​คุ​นยักษ์​ผ่าน​ไป​ระหว่าง​ปราสาท​ราช​วัง​ทั้งหลาย​ และ​โฉบ​ลง​ไป​อีกครั้ง​เพื่อ​ผ่าน​ไป​ทาง​สะพาน​เหินหาว​ ก่อนที่จะ​ผงาด​ร่าง​ขึ้น​อีกที​เพื่อ​เหิน​ทาน​สู่ชั้น​เมฆ เมื่อ​เขา​ตั้งหลัก​มั่นคง​ดี​แล้วก็​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เทพ​สูงส่ง ท่าน​ขึ้น​โดยสาร​มากลางทาง​และ​ไม่ได้​จ่าย​ค่าโดยสาร​เหมือน​คนอื่นๆ​ ท่าน​จะต้อง​จ่าย​ยา​วิญญาณ​ให้​ข้า​เยอะ​กว่า​ปกติ​สักหน่อย​”

วัว​แก่​หน้า​แดงฉาน​และ​พึมพำ​ “ยา​วิญญาณ​อะไร​”

ผู้โดยสาร​บน​หลัง​ปลา​ทั้งหมด​มอง​ไป​ยัง​ฉิน​มู่และ​หนิ​ว​ซาน​ตัว​ซึ่งจู่ๆ ก็​มาโผล่​บน​หลัง​ปลา​ หนึ่ง​ใน​ชายหนุ่ม​ที่นั่น​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “คุ​น​ชมชอบ​ที่จะ​กิน​ยาเม็ด​มังกร​หยก​ และ​เพราะว่า​สภาสวรรค์​นั้น​กว้างใหญ่​ไพศาล​จน​เกินไป​ คุ​น​เทพยดา​จึงรับ​ส่งผู้โดยสาร​ไป​รอบ​ๆ สภาสวรรค์​ และ​รับ​ยาเม็ด​มังกร​หยก​เพื่อ​เป็น​อาหาร​ หากว่า​พวก​เจ้าทั้งสอง​ไม่มียาเม็ด​มังกร​หยก​ ข้า​ก็​มีอยู่​ที่นี่​จำนวน​หนึ่ง​ ข้า​สามารถ​ช่วย​พวก​เจ้าจ่าย​ให้​ก่อน​ได้​”

ฉิน​มู่กล่าว​ขอบคุณ​เขา​ “ถ้าเช่นนั้น​ ก็​ขอบคุณ​ศิษย์​พี่​ท่าน​นี้​เป็น​อย่างยิ่ง​ ข้า​ควรจะ​เรียก​เจ้าว่า​อย่างไร​”

ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​ทั้ง​หล่อเหลา​และ​เหนือ​ธรรมดา​ และ​เขา​ก็​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​แซ่หยิน​ นาม​เฉาจิ่น​ ข้า​ควรจะ​เรียกหา​ศิษย์​พี่​ว่า​อย่างไร​”

ฉิน​มู่ตา​เป็นประกาย​ “หยิน​เฉาจิ่น?​ แซ่หยิน​นี้​หา​ยาก​ยิ่งนัก​ หรือ​ศิษย์​พี่​หยิน​จะรู้จัก​คน​ที่​มีเรียก​หาว่า​โอรส​หยิน​สวรรค์​”

ชายหนุ่ม​รูปหล่อ​ผู้​นั้น​ตื่นตระหนก​ และ​เขา​ก็​ระเบิด​หัวเราะ​ออกมา​ “ข้า​โด่งดัง​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​ อันที่จริง​แล้ว​ ข้า​เรียก​ตนเอง​ว่า​โอรส​หยิน​สวรรค์​ใน​สถานที่​เล็ก​ๆ ของ​พวก​ข้า​ แต่ทว่า​นั่น​เป็น​เพียงแค่​เรื่อง​ขำขัน​ใน​บ้านนอกคอกนา​เท่านั้น​ ส่วน​คน​ผู้​นี้​คือ​พี่​ฉิน​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด