ตำนานเทพกู้จักรวาล 742 ฟื้นกลับจากความตาย

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 742 ฟื้นกลับจากความตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “สิ่งที่เกิด​ไป​แล้ว​ใน​อดีต​ไม่มีความ​เที่ยงธรรม​ มีแต่​ในอนาคต​เท่านั้น​ พวกเรา​ตอนนี้​อยู่​ใน​ประวัติศาสตร์​ และ​นี่​เป็น​สิ่งที่เกิด​ขึ้นไป​แล้ว​ ไม่ว่า​เจ้าจะทำ​อย่างไร​ มัน​ก็​ไม่ใช่การผดุง​ความ​เที่ยงธรรม​! มีก็​แต่​ในอนาคต​จึงเป็นเวลา​ที่​เจ้าจะผดุง​ความ​เที่ยงธรรม​! เจ้าน่าจะ​เข้าใจ​สิ่งที่​ข้า​พูด​นะ​”

ฉิน​มู่ผงกศีรษะ​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​แข็งทื่อ​ “ข้า​เข้าใจ​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ปล่อย​เขา​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​และ​กล่าว​ “แม้แต่​ใน​ประวัติศาสตร์​ ทุก​ทางเลือก​ที่​เจ้าทำ​ก็​สามารถ​นำไปสู่​ความตาย​ได้​ หาก​แม้แต่​ผู้คน​ที่​โดดเด่น​เหนือ​ธรรมดา​อย่าง​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ยัง​ถึงแก่กรรม​ เจ้าเข้าไป​ร่วม​ก็​คง​มีแต่​ตาย​กับ​ตาย​”

ฉิน​มู่ผงกศีรษะ​ “ข้า​เข้าใจ​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ระบาย​ลมหายใจ​โล่งอก​และ​กล่าว​ “แม้ว่า​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้ามีความบาดหมาง​อะไร​กับ​ข้า​ ข้า​รู้สึก​ว่า​เจ้าไม่ใช่คน​เลวร้าย​ เจ้าไม่ควร​มาตาย​ที่นี่​”

สีหน้า​ไร้อารมณ์​ของ​ฉิน​มู่ค่อยๆ​ ละลาย​ไป​ และ​คลี่คลาย​เป็น​รอยยิ้ม​ “ขอบคุณ​มาก​ อันที่จริง​ การ​ที่​ข้า​ได้​พบ​กับ​เจ้าข้า​ก็​พอใจ​แล้ว​ การ​เดินทาง​ของ​ข้า​ไม่เสียเที่ยว​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าว​ “การ​ที่​ได้มา​พบ​กับ​วิญญูชน​สวรรค์​ทั้งหลาย​และ​เจ้า ข้า​ก็​รู้สึก​ว่าการ​เดินทาง​ของ​ข้า​ไม่เสียเปล่า​เช่นกัน​ จาก​ที่​เจ้าบอก​ไป​ มัน​น่าจะ​เหลือ​เวลา​อีก​เดือน​สอง​เดือน​ ใช่ไหม​ ใน​ช่วง​สอง​เดือน​ถัดไป​นี้​ พวกเรา​มาเฝ้ามอง​ประวัติศาสตร์​กัน​อย่าง​เงียบเชียบ​จะดีกว่า​ แม้ว่า​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​จะตาย​จากไป​ แต่​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพ​เจ้าของ​เขา​ก็​จะยังคง​ถูก​ส่งผ่าน​ นี่​ไม่ใช่เหตุผล​ที่​พวกเรา​มาที่นี่​หรอก​หรือ​”

ฉิน​มู่ผงกศีรษะ​และ​กล่าว​ด้วย​ความ​เหม่อลอย​ “ก็ได้​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ยังคง​ไม่สบายใจ​เท่าใด​นัก​ และ​เขา​กล่าว​กับ​วัว​แก่​ “เจ้าเป็น​ศิษย์​พี่​ของ​เขา​ เจ้านั้น​มีเหตุผล​มากกว่า​เขา​ เจ้าน่าจะ​รู้​ว่า​ควรจะ​ต้อง​ทำ​อะไร​ นี่​คือ​สภาสวรรค์​ของ​เทพ​บรรพกาล​ แม้แต่​ตัว​เจ้าเอง​ก็​ไม่สามารถ​จะผลีผลาม​ทำ​อะไร​ได้​ หากว่า​เจ้าผลีผลาม​มุทะลุ​ นั่น​ก็​จะเป็นอันตราย​ใหญ่หลวง​”

วัว​แก่​ลังเล​แล้วจึง​ผงกศีรษะ​ “ไม่ต้อง​กังวล​ ข้า​จะคอย​ดูแล​เขา​”

เสียง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ดังก้อง​และ​แผ่ออก​ไป​ทั่ว​ตึก​น้อย​สระ​หยก​ “วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เสียชีวิต​แล้ว​ ยัง​ไม่พบ​ตัว​ฆาตกร​ แต่​เขา​ซ่อนตัว​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเรา​! ทุกคน​ ข้า​ได้​ถวาย​ฎีกา​ไป​ยัง​จักรพรรดิ​ฟ้า ร้อง​ขอให้​ฝ่าบาท​สืบหา​ตัว​ฆาตกร​และ​จัดการ​กับ​เขา​ ทวง​ความเป็นธรรม​ให้​แก่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ ทวง​ความเป็นธรรม​ให้​แก่​ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​ทั่วหล้า​!”

ทั่ว​ตึก​น้อย​สระ​หยก​เงียบงัน​ และ​ทันใดนั้น​ เสียง​ร้องไห้​แผ่วเบา​ก็​ดัง​ออกมา​ และ​เสียง​ร้องไห้​ที่​ดัง​มาจาก​ความ​เงียบ​นั้น​ยิ่ง​บีบ​หัวใจ​

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​โกรธเกรี้ยว​ และ​เขา​กล่าว​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ “ทุกท่าน​ ข้า​จะต้อง​ไม่ปล่อยตัว​ฆาตกร​ผู้​นี้​ไป​อย่าง​แน่นอน​ และ​ข้า​จะฉีก​ทึ้ง​เขา​ให้​เป็น​ชิ้นๆ​! โลหิต​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​จะต้อง​ไม่หลั่งไหล​โดย​เสียเปล่า​! ไม่ต้อง​ห่วง​ เชื่อมั่น​ใน​สภาสวรรค์​ เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ฝ่าบาท​!”

เสียง​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ต่ำ​ลึก​ลง​ แต่​มัน​ก็​ยัง​เดินทาง​ไป​ถึงหู​ของ​ทุกๆ​ คน​ “แม้ว่า​วิญญูชน​สวรรค์​จะสิ้นชีพ​ แต่​มรรคา​ของ​เขา​ไม่ตาย​จาก​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​และ​ข้า​เป็น​สหาย​สนิท​ และ​เขา​ก็ได้​ถ่ายทอด​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ให้​แก่​ข้า​ เขา​จะต้อง​หยั่งรู้​ล่วงหน้า​ถึงเคราะห์กรรม​อัน​กำลังจะ​มาถึง และ​ดังนั้น​ เขา​จึงสอน​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ให้​ข้า​เอาไว้​ก่อน​ เพื่อ​ว่า​เขา​จะไม่ทิ้ง​ความ​ย้อน​เสียใจ​เอาไว้​ข้างหลัง​ สำหรับ​ตอนนี้​ พวกเรา​จงมาร่วมกับ​ไว้อาลัย​ให้​กับ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ เพื่อ​ส่งดวงวิญญาณ​เขา​ไป​สู่สุคติ​”

เสียง​ของ​เขา​แผ่ว​ต่ำ​ลง​ไป​ทุกที​ “เขา​เหมือนกับ​ทั้ง​พี่ชาย​และ​บิดา​ น่าเสียดาย​นัก​ที่​สวรรค์​ริษยา​ผู้​มีความสามารถ​…งานศพ​จะดำเนิน​ไป​เป็นเวลา​สิบ​วัน​ และ​ข้า​ก็​จะเฝ้าศพ​ของ​พี่​อวี้​ด้วย​ตนเอง​ หลังจาก​สิบ​วัน​ผ่าน​ไป​ ข้า​จะถ่ายทอด​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​”

เสียง​ของ​เขา​ยิ่ง​แผ่วเบา​ลง​ไป​ทุกที​ และ​เสียง​ร่ำไห้​ของ​เขา​ก็​ดัง​ออกมา​ “พี่​อวี้…”​

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ผู้​ซึ่งเกลือกกลิ้ง​อยู่​กับ​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​และ​ร้อง​คร่ำครวญ​

ฉิน​มู่รั้ง​สายตา​กลับมา​และ​มอง​ไป​ยัง​โอรส​หยิน​สวรรค์​ที่​กำลัง​มอง​ไป​ยัง​มือ​ของ​ตนเอง​

ฉิน​มู่หลับตา​ลง​ไป​ ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​ เขา​ก็​ลืมตา​ด้วย​มาด้วย​ประกาย​อัน​เจิดจ้า​

เมื่อ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เห็น​เขา​เช่นนั้น​ ก็​เผย​สีหน้า​กังวล​

ใน​มหา​สมาคม​สภาสวรรค์​ เทพ​บรรพกาล​มากมาย​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​บางอย่าง​อยู่​ เรือน​กาย​ของ​จักรพรรดิ​ฟ้าใหญ่​มหึมา​ และ​วง​รัศมี​ข้างหลัง​ศีรษะ​ของ​เขา​ก็​เปล่งแสง​สุริยะ​ออก​นับ​หมื่น​แฉก​ ผู้​ที่​สามารถ​เข้ามา​ปรึกษาหารือ​ใน​สถานที่​นี้​ได้​ พวกเขา​ก็​คือ​เทพ​บรรพกาล​ที่​มีศักดิ์​ฐานะ​อัน​สูงส่งและ​น่านับถือ​ แม้แต่​เทพ​บรรพกาล​อย่าง​เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​และ​เทพ​ครอง​ดาว​ธาตุ​ทั้ง​ห้า​ก็​ยัง​ไม่มีสิทธิ​เข้าร่วม​

ทันใดนั้น​ เทพ​บรรพกาล​ตน​หนึ่ง​ก็​รุด​เข้ามา​รีบ​รายงาน​ “ฝ่าบาท​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​แห่ง​เผ่า​มนุษย์​ถูก​ฆาตกรรม​ เขา​เสียชีวิต​ใน​ตึก​น้อย​สระ​หยก​ วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ได้​ถวาย​ฎีกา​นี้​มาเพื่อ​รายงาน​เรื่อง​ดังกล่าว​แก่​ฝ่าบาท​”

“วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เสียชีวิต​อย่างนั้น​หรือ​”

จักรพรรดิ​ฟ้าตกตะลึง​และ​กล่าว​ “ส่งมาให้​ดู​”

เทพ​บรรพกาล​ตน​นั้น​ก้าว​ออก​ไป​ข้างหน้า​และ​ยก​ชูฎีกา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ จักรพรรดิ​ฟ้าอ่าน​ดู​และ​ม้วน​ฎีกา​ปิด​กลับ​ไป​ “วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถูก​สังหาร​โดย​คนชั่ว​ นี่​ช่างน่าเสียดาย​จริงๆ​ ข้า​ยัง​เต็มไปด้วย​ความหวัง​ใน​ตัว​เขา​ พรสวรรค์​ของ​เขา​ล้ำเลิศ​เหนือ​ธรรมดา​ และ​เขา​ก็​รู้จัก​กะ​ประมาณ​ความเหมาะสม​ ข้า​ยังคง​รอ​ที่จะ​ได้​เห็น​ยุคทอง​อัน​เขา​สร้างสรรค์​ขึ้น​มาให้​แก่​ข้า​ แต่​ไม่คิด​เลย​ว่า​เขา​จะมาถูก​ฆาตกรรม​ไป​เช่นนี้​ ภูติ​บดี​”

ใน​ความมืด​ ภูติ​บดี​โค้ง​กาย​เล็กน้อย​ “ฝ่าบาท​”

จักรพรรดิ​ฟ้ากล่าว​ “วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไม่อาจจะ​ตาย​ไป​แบบนี้​ ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​น่าจะ​ไป​ยัง​แดน​ใต้พิภพ​ ใช่ไหม​ นำ​ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​มาแล้ว​ไต่ถาม​เรื่องราว​ทั้งหมด​”

ร่าง​ของ​ภูติ​บดี​จมหาย​ไป​ แต่​หลังจาก​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​มาใหม่​และ​ส่าย​ศีรษะ​ “วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มิได้​อยู่​ใน​แดน​ใต้พิภพ​”

จักรพรรดิ​ฟ้าขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​และ​ถามเทพี​หยิน​สวรรค์​ “เทพี​หยิน​สวรรค์​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​น่าจะ​กลายเป็น​ดวงวิญญาณ​แตกสลาย​ ดวงวิญญาณ​แตกสลาย​ของ​เขา​อยู่​ใน​โลก​ของ​เจ้าหรือเปล่า​”

เทพี​หยิน​สวรรค์​นั้น​กำลัง​นั่ง​อยู่​ใน​เงาเทพ​สรรพ​ชีวิต​ และ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ นาง​ก็​กล่าวตอบ​ “ฝ่าบาท​ ดวงวิญญาณ​แตกสลาย​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มิได้​อยู่​ใน​โลก​หยิน​สวรรค์​ของ​ข้า​”

จักรพรรดิ​ฟ้าถอนหายใจ​ “ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​คงจะ​กระจัดกระจาย​ไป​ เทพ​สรรพ​ชีวิต​ เจ้ามอง​เห็นภาพ​เหตุการณ์​ตอนที่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถูก​ประทุษร้าย​หรือไม่​”

เทพ​สรรพ​ชีวิต​ส่าย​ศีรษะ​ “แดน​ปริศนา​นั้น​เฝ้าควบคุม​ดูแล​ทุก​โลก​มิติ​ แต่​สระ​หยก​นั้น​เป็น​สถาน​พำนัก​ของ​จักรพรรดินี​ฟ้า ข้า​ไม่อาจ​สาด​แสงส่อง​ไป​ที่นั่น​ได้​”

จักรพรรดิ​ฟ้าเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ “ถ่ายทอด​คำสั่ง​ของ​ข้า​ลง​ไป​ เรียกตัว​แม่ทัพ​โสต​สวรรค์​และ​แม่ทัพ​จักษุ​พิภพ​มา ให้​พวกเขา​สืบสวน​เรื่อง​นี้​อย่าง​เข้มงวด​ และ​ค้นหา​ฆาตกร​ตัวจริง​ที่​สังหาร​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้!”​

“รับ​บัญชา​!”

โถงตั้ง​ศพ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถูก​จัด​ขึ้น​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ก็​มาเฝ้าศพ​ด้วย​ตนเอง​ ผู้ฝึก​วิชา​เท​วะ​จาก​ทั่วโลก​เดิน​ขึ้น​มาเพื่อ​ร่ำลา​ชายหนุ่ม​ผู้คิดค้น​ระบบ​ฝึก​วร​ยุทธ​สมบัติ​เท​วะ​ผู้​นี้​

ฉิน​มู่ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​วัว​แก่​ก็​มาเพื่อ​ลา​ศพ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ด้วย​เช่นกัน​ เมื่อ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เห็น​ฉิน​มู่ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งสิ้น​ ตอนนั้น​เขา​ถึงค่อย​วางใจ​ลง​ เขา​คงจะ​ฟังคำพูด​ของ​ข้า​ นี่​ดี​ที่สุด​แล้ว​ ข้า​กลัว​จริงๆ​ ว่า​เขา​จะก่อ​เรื่องใหญ่​

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ดูจะ​ซูบผอม​ลง​ไป​มาก​ใน​ช่วง​หลาย​วันนี้​

สิบ​วัน​ของ​การ​เฝ้าศพ​ได้​ผ่าน​ไป​ เทพ​บรรพกาล​ทั้งสอง​จาก​สภาสวรรค์​ ก็ได้​นำ​กองกำลัง​ครึ่ง​เทพ​ออก​ไป​ค้นหา​เบาะแส​ แต่​ก็​คว้าน้ำเหลว​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถูก​กลบ​ฝังเอาไว้​ข้างๆ​ แม่น้ำ​สวรรค์​

แม่น้ำ​สวรรค์​ไหล​เชี่ยว​อย่าง​ไม่หยุดนิ่ง​

ในที่สุด​ ก็​ถึงวันที่​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวจะ​ถ่ายทอด​สิ่งที่​เขา​เรียนรู้​ออกมา​ วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​ และ​อันดับ​แรก​เขา​ก็​ถ่ายทอด​วิธีการ​ที่​ครึ่ง​เทพ​จะสามารถ​ฝึกปรือ​เป็น​ร่าง​มนุษย์​ได้​ เขา​นั้น​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​เหนือ​ธรรมดา​อย่าง​แท้จริง​ และ​เมื่อ​เขา​แก้ไขปัญหา​ที่​ครึ่ง​เทพ​ไม่อาจ​ฝึก​วร​ยุทธ​ได้​ เขา​ก็​ทำให้​ผู้คน​โห่ร้อง​ยินดี​

เดิมที​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​วางแผน​ที่จะ​ไป​ยัง​ราช​วัง​ข้าง​เพื่อ​เป็น​ประจักษ์พยาน​ต่อ​วโรกาส​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่จะ​ส่งผลกระทบ​ต่อไป​ใน​กาล​ข้าง​นี้​ไม่รู้​กี่​ปี​ต่อ​กี่​ปี​ แต่ทว่า​ ฉิน​มู่ วัว​แก่​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ ล้วนแต่​รั้ง​อยู่​ใน​เรือน​รุ่งโรจน์​ ดังนั้น​เขา​จึงลังเล​ เขา​กล่าว​กับ​วัว​แก่​ “เจ้าจะต้อง​คอย​ดูแล​เขา​ และ​ป้องกัน​ไม่ให้​เขา​ก่อเรื่อง​ หากว่า​เขา​ก่อ​เรื่องใหญ่​ขึ้น​มา วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวจะ​ต้อง​ผลักไส​ข้อหา​ฆาตกรรม​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ให้​แก่​เขา​!”

วัว​แก่​ผงกศีรษะ​ “ข้า​เข้าใจ​!”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จึงค่อย​จากไป​

ฉิน​มู่ปรายตา​มอง​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ที่​กำลัง​เหม่อลอย​ และ​เขา​ก็​นำ​ถุงเต๋า​ตี้​ออกมา​ เขา​เท​เอา​สิ่งของ​ใน​ถุง และ​นำ​เอา​โค​รเมี่ยม​แดง​พุทธ​ชีวา​ออกมา​ หลังจากที่​ตี​เหล็ก​อย่าง​รวดเร็ว​ โลงศพ​อัน​ทำ​มาจาก​โค​รเมี่ยม​แดง​พุทธ​ชีวา​บริสุทธิ์​ก็​ถูก​หลอม​สร้าง​

“ศิษย์​พี่​ ข้า​จะออก​ไป​ข้างนอก​สักพัก​ ไม่ช้าก็​จะกลับมา​” ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

วัว​แก่​ตื่นตระหนก​และ​ถาม “เจ้าคิด​จะทำ​อะไร​ อย่า​มุทะลุ​นะ​”

ฉิน​มู่ส่าย​ศีรษะ​ “ไม่ต้อง​กังวล​ ข้า​จะไม่มุทะลุ​หรอก​”

วัว​แก่​กล่าว​ “ข้า​จะตาม​เจ้าไป​!”

ฉิน​มู่เดิน​ออก​ไป​ และ​วัว​แก่​ก็​ประหลาดใจ​ ฉิน​มู่มิได้​เดิน​ไป​ยัง​โถงหลัก​ของ​ราช​วัง​ข้าง​ แต่กลับ​ออก​ไป​จาก​สระ​หยก​

เขา​ไม่ได้​จะไป​กำจัด​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​หรอก​หรือ​

ฉิน​มู่มายัง​ชาย​ฝั่งแม่น้ำ​สวรรค์​และ​ค้นพบ​หลุมศพ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ วัว​แก่​ยิ่ง​พิศวง​ ฉิน​มู่ได้​น้อม​ลา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​แล้ว​ งั้น​ทำไม​เขา​จึงมาที่นี่​อีก​

ฉิน​มู่เดิน​ตรง​ไป​ยัง​สุสาน​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​ยกนิ้ว​ทั้ง​ห้า​ชูขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ ก้อนหิน​จาก​สุสาน​ทั้งหลาย​คลอน​คลาย​ออก​จากกัน​และ​แยก​กระจาย​ออก​ไป​ใน​บริเวณ​รอบ​ๆ

ตึง​

ตะปู​ของ​โลงศพ​หลุด​ออกมา​ และ​ฝาโลง​ก็​ลอย​ขึ้น​

ศพ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ที่นอน​อยู่​ใน​โลง​ค่อยๆ​ ลอย​ขึ้น​มา

ฉิน​มู่เดิน​วน​ไป​รอบ​ๆ ศพ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​และ​เคลื่อนไหว​อย่าง​รวดเร็ว​ เพื่อ​ใช้มุทรา​เสกสรร​ทุกชนิด​ ฟาด​ไป​ทั่ว​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ เสียง​ปึดๆ​ ดัง​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ในขณะที่​กระดูก​แตกหัก​ของ​เขา​เริ่ม​จะต่อ​เข้าด้วยกัน​ใหม่​

กระดูก​แตกหัก​ข้างใน​ร่าง​ถึงกับ​สมาน​เข้าด้วยกัน​ใหม่​จริงๆ​ และ​ส่วน​ที่​หัก​หาย​ไป​ก็​งอก​กลับมา​ ไม่เพียง​เท่านั้น​ เลือด​และ​เนื้อใน​หัวใจ​ที่​แหลกเหลว​ของ​เขา​ก็​ประกอบ​สร้าง​ขึ้น​มาใหม่​

ไม่นาน​ ร่าง​ของ​เขา​ก็​ไม่มีร่องรอย​บาดเจ็บ​อีกต่อไป​

นี่​คือ​วิชา​เสกสรร​!

หากว่า​เป็นเรื่อง​ความสำเร็จ​ใน​วิชา​เสกสรร​แล้ว​ ฉิน​มู่นับ​ได้​ว่า​เป็น​ผู้​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ไม่ว่า​จะตอนนี้​หรือ​ตอน​ไหน​!

และ​ใน​ท้ายที่สุด​ ฝ่ามือ​ของ​ฉิน​มู่ก็​ผนึก​เป็น​มุทรา​หนึ่ง​ และ​เขา​ทาบ​มัน​ลง​ไป​ที่​หัวใจ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​อย่าง​แผ่วเบา​

พลัง​ฝ่ามือ​ของ​เขา​แผ่​พุ่ง​ออก​ไป​ และ​ร่าง​อัน​เย็น​และ​แข็งทื่อ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​พลัน​สะดุ้ง​ โลหิต​ที่​หยุด​ไหลเวียน​พลัน​เริ่ม​ไหว​ไป​อีกครั้ง​

ถัดไป​นั้น​ วัว​แก่​ได้ยิน​เสียง​หัว​ใจเต้น​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​

ตามมา​ด้วย​เสียง​เต้น​ครั้ง​ที่สอง​และ​ครั้ง​ที่สาม​

เขา​เผย​สีหน้า​ไม่เชื่อ​สายตา​ เขา​มอง​ไป​ยัง​ฉิน​มู่ และ​จากนั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ จิต​คิด​ของ​เขา​กระเจิดกระเจิง​ไป​หมด​

ฉิน​มู่เปิด​ถุงเต๋า​ตี้​ และ​นำ​เอา​โลงศพ​ที่​เพิ่ง​หลอม​สร้าง​ออกมา​ ฝาโลง​เปิด​ออก​ และ​ร่าง​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​ค่อยๆ​ ลอย​เข้าไป​ใน​โลง​อย่าง​นุ่มนวล​

โลงศพ​ปิด​ตัว​ลง​ไป​อีกครั้ง​ และ​ลอย​กลับ​เข้าไป​ใน​ถุงเต๋า​ตี้​ของ​เขา​

ฉิน​มู่หันกลับ​ไป​ทาง​สระ​หยก​ วัว​แก่​รีบ​ตาม​เขา​ไป​ และ​เขา​ก็​หันหลัง​กลับ​ไป​พบ​ว่า​สุสาน​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ฟื้น​คืน​กลับ​สู่สภาพเดิม​ เมื่อ​หิน​ทั้งหลาย​เข้ามา​ประกอบ​เข้ากัน​ใหม่​

สุสาน​ที่​ประกอบ​คืน​ใหม่​นั้น​ไม่มีสิ่งใด​ผิดสังเกต​

หนิ​ว​ซาน​ตัว​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ และ​ในที่สุด​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถาม “ศิษย์​น้อง​ เจ้าฟื้นคืนชีพ​ร่างกาย​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​ เขา​ก็​ยัง​ตาย​อยู่ดี​ ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​กระจัดกระจาย​ไป​หมด​แล้ว​”

ฉิน​มู่ไม่ตอบ​เขา​ และ​เพียงแต่​เดินดุ่ม​ไป​ข้างหน้า​

เขา​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​รุ่งโรจน์​และ​ยิ้ม​ให้​แก่​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ผู้​ยังคง​เหม่อลอย​อยู่​ “พี่​ห​ลิง​ โปรด​เก็บรักษา​โลงศพ​นี้​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี​”

เขา​นำ​เอา​โลงศพ​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ออกมา​ และ​วาง​มัน​ไว้​ตรงหน้า​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​

สายตา​ไร้​ชีวิตชีวา​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​พลัน​เต้น​ระบัด​เมื่อ​นาง​มอง​ไป​ยัง​โลงศพ​

“เมื่อ​เจ้าพบ​กับ​วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​อีกครั้ง​ ให้​ส่งมอบ​โลง​นี้​แก่​เขา​ และ​ให้​เขา​นำ​มัน​ไป​ซ่อน​ไว้​ใน​แดน​ใต้พิภพ​ บอก​เขา​ว่า​ ในอนาคต​ คน​ที่​ชื่อ​มู่จะไป​ตามหา​เขา​”

ฉิน​มู่มีสีหน้า​อบอุ่น​และ​กล่าว​อย่าง​นุ่มนวล​ “มู่จะบอก​กับ​เขา​ ตอนนี้​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ข้า​กลับมา​แล้ว​ เมื่อ​เขา​กล่าว​เช่นนั้น​ วิญญูชน​สวรรค์​โย​วสา​มาร​ถนำ​โลงศพ​ออกมา​ได้​ พี่​ห​ลิง​ ข้า​จะไป​ละ​นะ​”

เขา​ลุกขึ้น​และ​เดิน​ออก​ไป​จาก​เรือน​ตึก​

วิญญูชน​สวรรค์​ห​ลิง​ลุกขึ้น​ยืน​ และ​ถามด้วย​เสียงแหบ​พร่า​ “เจ้าจะไป​ที่ไหน​”

ฉิน​มู่หยุด​เท้า​และ​หัน​กลับมา​ด้วย​รอยยิ้ม​แจ่มจ้า “เพื่อ​สิ้นสุด​ใน​เรื่อง​ที่​ข้า​ควรจะ​สิ้นสุด​ พี่สาว​ ไว้​พวกเรา​พบกัน​ใหม่​ในอนาคต​!”

เขา​เดิน​ออก​ไป​จาก​เรือน​และ​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​ ดวงตะวัน​สาด​แสงเจิดจ้า​อยู่​เบื้องบน​

“จักรพรรดิ​ฟ้ามีพระ​ราชโองการ​! มู่ชิง ฉิน​ไค​ มรรคา​และ​วิชา​ของ​ทั้งสอง​ลึกล้ำ​ และ​พวกเขา​เป็น​ผู้​เปี่ยม​ความสามารถ​อัน​อาจ​ปก​ครองโลก​หล้า​ ฉะนั้น​บัดนี้​จึงแต่งตั้ง​ฉายานาม​ให้​พวกเขา​ดังนี้​ มู่ชิง ฉายานาม​วิญญูชน​สวรรค์​มู่ ฉิน​ไค​ ฉายานาม​วิญญูชน​สวรรค์​ฉิน​!”

ใน​ราช​วัง​ข้าง​แห่ง​ตึก​น้อย​สระ​หยก​ วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​อ่านโองการ​ของ​จักรพรรดิ​ฟ้า และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ยินดี​ด้วย​ พี่​ฉิน​และ​พี่​มู่! แต่​บัดนี้​เป็นต้นไป​ ก็​จะมีเก้า​วิญญูชน​สวรรค์​ น่าเสียดาย​…”

สีหน้า​ของ​เขา​หมองมัว​ และ​เขา​ดูเหมือน​จะหวน​รำลึกถึง​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ที่​สิ้นชีวิต​ไป​ “แต่ทว่า​ พี่​อวี้คง​ไม่อาจจะ​เห็น​สิ่งนี้​ได้​อีกต่อไป​…พี่​มู่? วิญญูชน​สวรรค์​มู่? วิญญูชน​สวรรค์​ฉิน​ วิญญูชน​สวรรค์​มู่อยู่​ที่ไหน​”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​กล่าว​ “เขา​อยู่​ใน​เรือน​รุ่งโรจน์​ เขา​ไม่ได้มา​ที่นี่​”

วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าวก​ล่า​ว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ยินดี​ด้วย​ วิญญูชน​สวรรค์​ฉิน​ จาก​วันนี้​เป็นต้นไป​ ทั้ง​พี่​ฉิน​และ​พี่​มู่จะเป็น​วิญญูชน​สวรรค์​ บัดนี้​ พวกเรา​มาสนทนา​ถึงวิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ ที่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ได้​คิดค้น​ขึ้น​มากัน​เถอะ​!”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​จ้อง​ไป​ที่​ประตู​โถงวัง​ ปาก​ของ​เขา​อ้า​ค้าง​ และ​พูด​อะไร​ไม่ออก​สัก​คำ​

ทุกๆ​ คน​รอ​ให้​เขา​สอน​บรรยาย​ แต่​เมื่อ​พวกเขา​เห็น​สีหน้า​ของ​เขา​เป็น​เช่นนี้​ พวกเขา​ทั้งหมด​จึงหันกลับ​ไป​ และ​ทั้ง​โถงวัง​ก็​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​

ที่​ประตู​ของ​ราช​วัง​ข้าง​ ‘วิญญูชน​สวรรค์​อวี้’​ ยืน​อยู่​ที่นั่น​อย่าง​เงียบเชียบ​ และ​เขา​มอง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ข้าม​ห้องโถง​

สัก​อึดใจหนึ่ง​ ‘วิญญูชน​สวรรค์​อวี้’​ ก็​ก้าว​ออก​ไป​ข้างหน้า​ และ​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ เขา​กล่าว​อย่าง​ไม่ยินดียินร้าย​ “วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​ ให้​ข้า​เป็น​ผู้​อธิบาย​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพ​เจ้าที่​ข้า​คิด​ขึ้น​มาด้วย​ตนเอง​เถอะ​!”

จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​จิต​คิด​กระเจิดกระเจิง​เมื่อ​เขา​มอง​ไป​ยัง​ ‘วิญญูชน​สวรรค์​อวี้’​ ที่​กำลัง​เดิน​มาถึงข้าง​กาย​เขา​ หัวใจ​เขา​สับสน​ไป​หมด​ เป็นไปไม่ได้​ เขา​ไม่มีทาง​มีชีวิต​อยู่​…หนิ​วเปิน!​

เขา​มองออก​ไปนอก​โถง และ​วัว​แก่​ก็​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​จนปัญญา​ เขา​คิดในใจ​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ ข้า​ขอโทษ​ ข้า​เอง​ก็​หยุด​เขา​ไว้​ไม่ได้​ เขา​มีนิสัย​ดื้อดึง​เหมือนกับ​วัว​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด