รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 412 อันอันเด็กน้อยผู้ถูกรังเกียจ

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 412 อันอันเด็กน้อยผู้ถูกรังเกียจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่ซีซีจ้องไปยังทารกที่อยู่ในอ้อมแขนของจี้หลิงชวน รอยยิ้มบนใบหน้าที่มีความสุขของเธอไม่สามารถเก็บซ่อนเอาไว้ได้ เมื่อมู่ซีซีได้เห็นลูกของตัวเอง เธอก็คิดเพียงว่าเด็กคนนี้ชั่งดูน่ารักน่าชังและสามารถทำให้คนที่พบเห็นเขาตกหลุมรักได้อย่างไม่น่าประหลาดใจ

เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซียิ้มอย่างมีความสุข ตั้งแต่เขาพาเด็กเดินเข้ามา มู่ซีซีก็ไม่ได้สนใจมองเขาเลยแม้แต่น้อย สายตาของมู่ซีซีมองไปที่เด็กเพียงที่เดียวเท่านั้น จี้หลิงชวน อดไม่ได้ที่จะมองดูมู่ซีซีด้วยความรู้สึกที่หึงหวง ” ซีซี ลูกของเราหน้าตาน่าเกลียดมาก มีอะไรจะต้องดูอย่างนั้นเหรอ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด มู่ซีซีก็ยิ้มแบบเจือนๆเล็กน้อย จากนั้นก็ชำเลืองตามองที่จี้หลิงชวนด้วยความไม่พอใจพร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า”เหลวไหล ลูกของเราน่าเกลียดตรงไหนกัน ฉันก็เห็นอยู่ว่าเขาดูน่ารักเอามากๆ”

เมื่อพูดจบ มู่ซีซีก็ทอดสายตาไปมองที่ทารกน้อยอีกครั้ง จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปและพูดกับจี้หลิงชวนว่า “จี้หลิงชวน ฉันอยากจะอุ้มลูกหน่อย”

เพราะจี้หลิงชวนกลัวว่ามู่ซีซีเหนื่อย อีกทั้งตอนนี้จี้หลิงชวนก็กำลังรู้สึกหึงหวง จี้หลิงชวน ซึ่งกำลังอุ้มลูกอยู่รีบพูดกับมู่ซีซีขึ้นในทันทีว่า”ซีซี ตอนนี้เธอควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อน รอให้พักผ่อนเต็มที่แล้วค่อยอุ้มเขาก็ได้”

“จี้หลิงชวน ให้ฉันอุ้มสักหน่อยไม่ได้เหรอ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

หลังจากที่มู่ซีซีพูดจบ แม้แต่คุณหมอที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “คุณซีซีคลอดบุตรโดยวิธีการทางธรรมชาติ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เธอสามารถอุ้มลูกของเธอได้”

เมื่อคุณหมอพูดอย่างนั้นแล้ว จี้หลิงชวนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องส่งทารกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของมู่ซีซี

มู่ซีซีค่อย ๆ อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างระมัดระวัง และบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

มู่ซีซีหัวเราะและหยอกล้อกับทารกในอ้อมแขนของเธอ โดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างแม่กับลูกหรือเปล่า เพราะเมื่อมู่ซีซีเล่นหยอกล้อกับทารกที่กำลังเงียบสงบในอ้อมแขนของเธอ ทารกน้อยก็ยิ้มออกมาให้กับมู่ซีซีทันที

เมื่อคุณหมอและพยาบาลที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้เข้าต่างก็พากันประหลาดใจ พวกเขายกย่องซ้ำ ๆ ว่าทารกฉลาดเอามากๆ หลังจากที่เขาเกิดได้ไม่นาน เขาก็สามารถดูคนออก และยังรู้จักยิ้มอีกต่างหาก

จากนั้นมู่ซีซีก็อุ้มทารกด้วยความรักโดยไม่อยากที่จะวางเขาลงเลยแม้แต่วินาทีเดียว และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็ได้เข็นเตียงของมู่ซีซีออกจากห้องคลอด และส่งตัวมู่ซีซีไปไว้ในห้องผู้ป่วยระดับVIP

จี้หลิงชวนเชิญพี่เลี้ยงเด็กระดับเหรียญทองมาช่วยดูแลลูกของเขา แม้ว่าป้าหลิงจะมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กทารก แต่ตอนนี้มู่ซีซียังต้องพักรักษาตัวหลังคลอดต้องการคนมาดูแล ฉะนั้นป้าหลิงจึงต้องทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลมู่ซีซีโดยเฉพาะ

ทันทีที่มู่ซีซีมาถึงวอร์ด ป้าหวางพี่เลี้ยงเด็กระดับเหรียญทองซึ่งมาทำหน้าที่ดูแลทารกเป็นพิเศษ ก็มานั่งรออยู่ที่วอร์ดแล้ว

มู่ซีซีเพิ่งคลอดเสร็จ มีขีดพลังงานที่จำกัด และเดิมทีร่างกายของเธอก็ใช้พลังเกินขีดจำกัดแล้ว เมื่อกี้เธอก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อที่จะหยอกล้อกับทารก เมื่อเข้ามาถึงห้องพิเศษ จี้หลิงชวนก็เห็นว่ามู่ซีซีดูมีท่าทางเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเขาจึงยื่นมือออกไปรับ เด็กน้อยจากในอ้อมแขนของมู่ซีซีและส่งต่อให้กับป้าหวางที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง

ส่วนตัวเองก็เข้าไปช่วยพยุงที่ไหล่ของมู่ซีซีและพูดกับเธอขึ้นว่า “ซีซี ตอนนี้เธอเหนื่อยมากแล้ว เธอต้องพักผ่อนให้มากๆ ส่วนเรื่องลูกก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของป้าหวางเป็นคนดูแลเถอะ ป้าหวางมีประสบการณ์มากมายทางด้านนี้ เธอวางใจได้”

ตอนที่จี้หลิงชวนไปหาป้าหวาง เขาก็รู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อยจึงสั่งให้คนไปตรวจสอบประสบการณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กก่อนหน้านี้ของเธอ และได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่มีประวัติการทุบตีหรือดุด่าว่าเด็ก สุดท้ายจึงวางใจและจ้างป้าหวางมา

ตอนนี้มู่ซีซีรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ และเมื่อได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

ป้าหลิงที่อยู่ด้านข้างได้ถือกล่องเก็บความร้อนเดินเข้ามา จากนั้นก็พูดกับมู่ซีซีขึ้นว่า “คุณซีซี ป้าเพิ่งทำซุปไก่ร้อนๆมาให้ คุณลองทานก่อนสักเล็กน้อย เพื่อว่าจะมีแรงขึ้นมาบ้าง”

ตอนที่ป้าหลิงถือกล่องเข้ามามู่ซีซีก็ยังไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอได้ฟังป้าหลิงพูดแบบนั้น เธอก็รู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีพยักหน้า เขาจึงยื่นมือออกไปหยิบกล่องเก็บความร้อนในมือของป้าหลิงและพูดกับป้าว่า”ป้าหลิง คุณไปบอกข่าวดีเรื่องนี้ให้กับคุณย่าได้รับรู้เถอะ ส่วนเรื่องซีซีทางนี้ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง”

ป้าหลิงรีบตอบรับด้วยความเคารพและก็เดินออกจากห้องไป จี้หลิงชวนเปิดกล่องเก็บความร้อนขึ้นมา หยิบชามขึ้นมาเตรียมพร้อม จากนั้นก็เทซุปไก่ออกมาครึ่งชาม

เขาหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปไก่อย่างระมัดระวัง ตอนนี้ซุปค่อนข้างร้อน จี้หลิงชวน กลัวว่ามันจะลวกปากของมู่ซีซี ดังนั้นเขาจึงเป่าซุปไก่เล็กน้อยแล้วป้อนไปที่ริมฝีปากของมู่ซีซี “ซีซี ลองชิมดูสิ มันไม่ร้อนแล้ว”

เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนพิถีพิถันและดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอก็อดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ จากนั้นก็อ้าปากทานซุปที่จี้หลิงชวนป้อนเข้ามาให้

มู่ซีซีรู้สึกว่าซุปไก่นี้เป็นซุปไก่ที่มีรสชาติดีที่สุดเท่าที่เธอเคยทานมาเลย

ป้าหลิงออกไปโทรศัพท์เพื่อแจ้งข่าวดีกับนายหญิงจี้ และเวลาผ่านไปยังไม่ถึงชั่วโมงเลย

นายหญิงจี้ที่เก็บอาการยิ้มดีใจไว้ไม่อยู่ก็เดินเข้ามาในห้องพักของโรงพยาบาลพร้อมกับแม่บ้านจาง

ทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง นายหญิงจี้ก็มองไปที่มู่ซีซีพร้อมกับจับมือของเธอไว้ และพูดด้วยความสงสารว่า “ซีซี ลำบากเธอแล้วนะ ”

นายหญิงจี้พูดคุยกับมู่ซีซีเรื่องข้อควรระวังหลังคลอดอยู่สักพัก จากนั้นก็ตั้งใจบอกกับจี้หลิงชวน ให้ดูแลมู่ซีซีในช่วงเวลานี้เป็นอย่างดี

หลังจากที่นายหญิงจี้สั่งเสร็จเรียบร้อย นายหญิงจี้ซึ่งตั้งหน้าตั้งตารออุ้มหลานมาตลอดจึงพูดกับป้าหวางที่กำลังอุ้มเด็กอยู่ว่า “มานี่ ๆ ๆ อุ้มเด็กมาให้ฉันดูหน่อยสิ ”

เมื่อป้าหวางที่ได้ยินนายหญิงจี้พูดขึ้น เธอก็รีบอุ้มเด็กและเดินไปหานายหญิงจี้ทันทีนายหญิงจี้รีบยื่นมือออกไปรับทารกน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน นายหญิงจี้มองดูเด็กชายอ้วนที่แข็งแรงในอ้อมแขนของเธอ นายหญิงจี้มองดูทารกที่แข็งแรงในอ้อมกอดของเธออย่างมีความสุข นายหญิงจี้ตั้งตารอการแต่งงานและการมีลูกของจี้หลิงชวนมาหลายปีแล้ว

ตราบใดที่เป็นลูกหลานของตระกูลจี้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ขอแค่เป็นหลานที่เกิดจากจี้หลิงชวนก็พอ

ความปารถนาของนายหญิงจี้ที่รอคอยมาหลายปี และในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว

นายหญิงจี้อุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง มองแล้วมองอีก มองซ้ำๆแต่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ เธอรีบพูดขึ้นกับแม่บ้านจางอย่างมีความสุขว่า”แม่บ้านจาง รีบไปเอาของขวัญที่ฉันเตรียมมาไว้สำหรับเด็กคนนี้มาสิ”

แม่บ้านจางตอบกลับด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม “ได้ค่ะ นายหญิง”

แม่บ้านจางพูดขึ้นพลางรีบหยิบกล่องออกมาแล้วยื่นให้กับนายหญิงจี้

นายหญิงจี้เปิดกล่อง มู่ซีซีและจี้หลิงชวน เห็นว่าภายในกล่องนั้นมีจี้อายุยืนอยู่ซึ่งถูกสั่งทำขึ้นโดยช่างที่ชำนาญการ

นายหญิงจี้ยื่นกล่องส่งให้กับมู่ซีซีและจี้หลิงชวนโดยพูดขึ้นว่า”จี้อายุยืนนี้ฉันได้เชิญช่างให้ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ตอนนี้ลูกของพวกเธอยังเล็กอยู่ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้เขาเลย รอให้เขาโตกว่านี้หน่อยค่อยมอบให้กับเขา”

ตอนที่นายหญิงจี้รู้ว่ามู่ซีซีกำลังตั้งครรภ์ เธอก็รีบหาคนทำจี้อายุยืนขึ้นมา อีกทั้งยังตั้งใจไปหาพระเกจิชื่อดังมาเบิกเนตร

มู่ซีซีรีบยื่นมือออกไปรับของขวัญแทนเจ้าตัวน้อยพร้อมกับพูดขึ้นว่า“คุณย่าค่ะ

ของขวัญนี้หนูจะเก็บไว้แทนลูกก่อน ขอบคุณค่ะ ลูกจะต้องชอบมันแน่ๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 412 อันอันเด็กน้อยผู้ถูกรังเกียจ

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 412 อันอันเด็กน้อยผู้ถูกรังเกียจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่ซีซีจ้องไปยังทารกที่อยู่ในอ้อมแขนของจี้หลิงชวน รอยยิ้มบนใบหน้าที่มีความสุขของเธอไม่สามารถเก็บซ่อนเอาไว้ได้ เมื่อมู่ซีซีได้เห็นลูกของตัวเอง เธอก็คิดเพียงว่าเด็กคนนี้ชั่งดูน่ารักน่าชังและสามารถทำให้คนที่พบเห็นเขาตกหลุมรักได้อย่างไม่น่าประหลาดใจ

เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซียิ้มอย่างมีความสุข ตั้งแต่เขาพาเด็กเดินเข้ามา มู่ซีซีก็ไม่ได้สนใจมองเขาเลยแม้แต่น้อย สายตาของมู่ซีซีมองไปที่เด็กเพียงที่เดียวเท่านั้น จี้หลิงชวน อดไม่ได้ที่จะมองดูมู่ซีซีด้วยความรู้สึกที่หึงหวง ” ซีซี ลูกของเราหน้าตาน่าเกลียดมาก มีอะไรจะต้องดูอย่างนั้นเหรอ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด มู่ซีซีก็ยิ้มแบบเจือนๆเล็กน้อย จากนั้นก็ชำเลืองตามองที่จี้หลิงชวนด้วยความไม่พอใจพร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า”เหลวไหล ลูกของเราน่าเกลียดตรงไหนกัน ฉันก็เห็นอยู่ว่าเขาดูน่ารักเอามากๆ”

เมื่อพูดจบ มู่ซีซีก็ทอดสายตาไปมองที่ทารกน้อยอีกครั้ง จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปและพูดกับจี้หลิงชวนว่า “จี้หลิงชวน ฉันอยากจะอุ้มลูกหน่อย”

เพราะจี้หลิงชวนกลัวว่ามู่ซีซีเหนื่อย อีกทั้งตอนนี้จี้หลิงชวนก็กำลังรู้สึกหึงหวง จี้หลิงชวน ซึ่งกำลังอุ้มลูกอยู่รีบพูดกับมู่ซีซีขึ้นในทันทีว่า”ซีซี ตอนนี้เธอควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อน รอให้พักผ่อนเต็มที่แล้วค่อยอุ้มเขาก็ได้”

“จี้หลิงชวน ให้ฉันอุ้มสักหน่อยไม่ได้เหรอ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

หลังจากที่มู่ซีซีพูดจบ แม้แต่คุณหมอที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “คุณซีซีคลอดบุตรโดยวิธีการทางธรรมชาติ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เธอสามารถอุ้มลูกของเธอได้”

เมื่อคุณหมอพูดอย่างนั้นแล้ว จี้หลิงชวนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องส่งทารกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของมู่ซีซี

มู่ซีซีค่อย ๆ อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างระมัดระวัง และบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

มู่ซีซีหัวเราะและหยอกล้อกับทารกในอ้อมแขนของเธอ โดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างแม่กับลูกหรือเปล่า เพราะเมื่อมู่ซีซีเล่นหยอกล้อกับทารกที่กำลังเงียบสงบในอ้อมแขนของเธอ ทารกน้อยก็ยิ้มออกมาให้กับมู่ซีซีทันที

เมื่อคุณหมอและพยาบาลที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้เข้าต่างก็พากันประหลาดใจ พวกเขายกย่องซ้ำ ๆ ว่าทารกฉลาดเอามากๆ หลังจากที่เขาเกิดได้ไม่นาน เขาก็สามารถดูคนออก และยังรู้จักยิ้มอีกต่างหาก

จากนั้นมู่ซีซีก็อุ้มทารกด้วยความรักโดยไม่อยากที่จะวางเขาลงเลยแม้แต่วินาทีเดียว และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็ได้เข็นเตียงของมู่ซีซีออกจากห้องคลอด และส่งตัวมู่ซีซีไปไว้ในห้องผู้ป่วยระดับVIP

จี้หลิงชวนเชิญพี่เลี้ยงเด็กระดับเหรียญทองมาช่วยดูแลลูกของเขา แม้ว่าป้าหลิงจะมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กทารก แต่ตอนนี้มู่ซีซียังต้องพักรักษาตัวหลังคลอดต้องการคนมาดูแล ฉะนั้นป้าหลิงจึงต้องทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลมู่ซีซีโดยเฉพาะ

ทันทีที่มู่ซีซีมาถึงวอร์ด ป้าหวางพี่เลี้ยงเด็กระดับเหรียญทองซึ่งมาทำหน้าที่ดูแลทารกเป็นพิเศษ ก็มานั่งรออยู่ที่วอร์ดแล้ว

มู่ซีซีเพิ่งคลอดเสร็จ มีขีดพลังงานที่จำกัด และเดิมทีร่างกายของเธอก็ใช้พลังเกินขีดจำกัดแล้ว เมื่อกี้เธอก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อที่จะหยอกล้อกับทารก เมื่อเข้ามาถึงห้องพิเศษ จี้หลิงชวนก็เห็นว่ามู่ซีซีดูมีท่าทางเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเขาจึงยื่นมือออกไปรับ เด็กน้อยจากในอ้อมแขนของมู่ซีซีและส่งต่อให้กับป้าหวางที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง

ส่วนตัวเองก็เข้าไปช่วยพยุงที่ไหล่ของมู่ซีซีและพูดกับเธอขึ้นว่า “ซีซี ตอนนี้เธอเหนื่อยมากแล้ว เธอต้องพักผ่อนให้มากๆ ส่วนเรื่องลูกก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของป้าหวางเป็นคนดูแลเถอะ ป้าหวางมีประสบการณ์มากมายทางด้านนี้ เธอวางใจได้”

ตอนที่จี้หลิงชวนไปหาป้าหวาง เขาก็รู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อยจึงสั่งให้คนไปตรวจสอบประสบการณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กก่อนหน้านี้ของเธอ และได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่มีประวัติการทุบตีหรือดุด่าว่าเด็ก สุดท้ายจึงวางใจและจ้างป้าหวางมา

ตอนนี้มู่ซีซีรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ และเมื่อได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

ป้าหลิงที่อยู่ด้านข้างได้ถือกล่องเก็บความร้อนเดินเข้ามา จากนั้นก็พูดกับมู่ซีซีขึ้นว่า “คุณซีซี ป้าเพิ่งทำซุปไก่ร้อนๆมาให้ คุณลองทานก่อนสักเล็กน้อย เพื่อว่าจะมีแรงขึ้นมาบ้าง”

ตอนที่ป้าหลิงถือกล่องเข้ามามู่ซีซีก็ยังไม่มีความรู้สึกอะไร แต่พอได้ฟังป้าหลิงพูดแบบนั้น เธอก็รู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีพยักหน้า เขาจึงยื่นมือออกไปหยิบกล่องเก็บความร้อนในมือของป้าหลิงและพูดกับป้าว่า”ป้าหลิง คุณไปบอกข่าวดีเรื่องนี้ให้กับคุณย่าได้รับรู้เถอะ ส่วนเรื่องซีซีทางนี้ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง”

ป้าหลิงรีบตอบรับด้วยความเคารพและก็เดินออกจากห้องไป จี้หลิงชวนเปิดกล่องเก็บความร้อนขึ้นมา หยิบชามขึ้นมาเตรียมพร้อม จากนั้นก็เทซุปไก่ออกมาครึ่งชาม

เขาหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปไก่อย่างระมัดระวัง ตอนนี้ซุปค่อนข้างร้อน จี้หลิงชวน กลัวว่ามันจะลวกปากของมู่ซีซี ดังนั้นเขาจึงเป่าซุปไก่เล็กน้อยแล้วป้อนไปที่ริมฝีปากของมู่ซีซี “ซีซี ลองชิมดูสิ มันไม่ร้อนแล้ว”

เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนพิถีพิถันและดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอก็อดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ จากนั้นก็อ้าปากทานซุปที่จี้หลิงชวนป้อนเข้ามาให้

มู่ซีซีรู้สึกว่าซุปไก่นี้เป็นซุปไก่ที่มีรสชาติดีที่สุดเท่าที่เธอเคยทานมาเลย

ป้าหลิงออกไปโทรศัพท์เพื่อแจ้งข่าวดีกับนายหญิงจี้ และเวลาผ่านไปยังไม่ถึงชั่วโมงเลย

นายหญิงจี้ที่เก็บอาการยิ้มดีใจไว้ไม่อยู่ก็เดินเข้ามาในห้องพักของโรงพยาบาลพร้อมกับแม่บ้านจาง

ทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง นายหญิงจี้ก็มองไปที่มู่ซีซีพร้อมกับจับมือของเธอไว้ และพูดด้วยความสงสารว่า “ซีซี ลำบากเธอแล้วนะ ”

นายหญิงจี้พูดคุยกับมู่ซีซีเรื่องข้อควรระวังหลังคลอดอยู่สักพัก จากนั้นก็ตั้งใจบอกกับจี้หลิงชวน ให้ดูแลมู่ซีซีในช่วงเวลานี้เป็นอย่างดี

หลังจากที่นายหญิงจี้สั่งเสร็จเรียบร้อย นายหญิงจี้ซึ่งตั้งหน้าตั้งตารออุ้มหลานมาตลอดจึงพูดกับป้าหวางที่กำลังอุ้มเด็กอยู่ว่า “มานี่ ๆ ๆ อุ้มเด็กมาให้ฉันดูหน่อยสิ ”

เมื่อป้าหวางที่ได้ยินนายหญิงจี้พูดขึ้น เธอก็รีบอุ้มเด็กและเดินไปหานายหญิงจี้ทันทีนายหญิงจี้รีบยื่นมือออกไปรับทารกน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน นายหญิงจี้มองดูเด็กชายอ้วนที่แข็งแรงในอ้อมแขนของเธอ นายหญิงจี้มองดูทารกที่แข็งแรงในอ้อมกอดของเธออย่างมีความสุข นายหญิงจี้ตั้งตารอการแต่งงานและการมีลูกของจี้หลิงชวนมาหลายปีแล้ว

ตราบใดที่เป็นลูกหลานของตระกูลจี้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ขอแค่เป็นหลานที่เกิดจากจี้หลิงชวนก็พอ

ความปารถนาของนายหญิงจี้ที่รอคอยมาหลายปี และในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว

นายหญิงจี้อุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง มองแล้วมองอีก มองซ้ำๆแต่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ เธอรีบพูดขึ้นกับแม่บ้านจางอย่างมีความสุขว่า”แม่บ้านจาง รีบไปเอาของขวัญที่ฉันเตรียมมาไว้สำหรับเด็กคนนี้มาสิ”

แม่บ้านจางตอบกลับด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม “ได้ค่ะ นายหญิง”

แม่บ้านจางพูดขึ้นพลางรีบหยิบกล่องออกมาแล้วยื่นให้กับนายหญิงจี้

นายหญิงจี้เปิดกล่อง มู่ซีซีและจี้หลิงชวน เห็นว่าภายในกล่องนั้นมีจี้อายุยืนอยู่ซึ่งถูกสั่งทำขึ้นโดยช่างที่ชำนาญการ

นายหญิงจี้ยื่นกล่องส่งให้กับมู่ซีซีและจี้หลิงชวนโดยพูดขึ้นว่า”จี้อายุยืนนี้ฉันได้เชิญช่างให้ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ตอนนี้ลูกของพวกเธอยังเล็กอยู่ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้เขาเลย รอให้เขาโตกว่านี้หน่อยค่อยมอบให้กับเขา”

ตอนที่นายหญิงจี้รู้ว่ามู่ซีซีกำลังตั้งครรภ์ เธอก็รีบหาคนทำจี้อายุยืนขึ้นมา อีกทั้งยังตั้งใจไปหาพระเกจิชื่อดังมาเบิกเนตร

มู่ซีซีรีบยื่นมือออกไปรับของขวัญแทนเจ้าตัวน้อยพร้อมกับพูดขึ้นว่า“คุณย่าค่ะ

ของขวัญนี้หนูจะเก็บไว้แทนลูกก่อน ขอบคุณค่ะ ลูกจะต้องชอบมันแน่ๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+