รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 439 น้องชายที่ดีที่สุด

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 439 น้องชายที่ดีที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งพูดจบ เสียงที่อารมณ์เสียของแม่ลั่วจึงดังขึ้นมาว่า “ลั่วเสี่ยวชิง ที่บ้านจะไม่มีเรื่องสำคัญได้ยังไง? มีเรื่องสำคัญมาก! ครั้งก่อนก็บอกลูกแล้วไม่ใช่เหรอ จะแนะนำแฟนให้ลูก ก่อนหน้านั้นเขามีธุระต้องไปต่างจังหวัด ตอนนี้เขากลับมา ไม่ว่าพรุ่งนี้ลูกจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องหาเวลาว่างกลับมาให้ได้!”

คิ้วของลั่วเสี่ยวชิงจึงขมวดแน่นกว่าเดิม ทีแรกเธอคิดว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณแม่ไม่พูดถึงเรื่องนี้คิดว่าคุณแม่ล้มเลิกความคิดนี้แล้วซะอีก

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจนถึงตอนนี้คุณแม่ก็ยังไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้อีก

“แม่คะ หนูไม่มีเวลาจริงๆ แล้วตอนนี้อายุหนูยังเด็ก ตอนนี้หนูยังไม่อยากหาแฟนค่ะ” ลั่วเสี่ยวชิงพูดเสียงอ่อนกับแม่ลั่ว

แต่ว่ายังพูดไม่ทันจบ แม่ลั่วกลับพูดแทรกเสียงเข้มว่า “ลั่วเสี่ยวชิง ปีนี้ลูกยี่สิบสองแล้ว! ลูกคิดว่าตัวเองยังเด็กอีกเหรอ?! แม่บอกไว้เลย ไม่ว่ายังไงพรุ่งนี้ลูกก็ต้องกลับมา!”

ลั่วเสี่ยวชิงปวดหัวแล้วกำลังจะพูดอีก แต่เพิ่งส่งเสียงออกไป แม่ลั่วกลับไม่ให้โอกาสเธอได้พูด กลับพูดแทรกเสียงดังว่า “ลั่วเสี่ยวชิง แม่บอกลูกไว้เลย พรุ่งนี้เช้าเก้าโมงลูกต้องถึงบ้าน ถ้าแม่ไม่เห็นลูก งั้นหลังจากนั้นนี้แม่ก็จะตัดขาดกับลูก ต่อไปลูกอย่าเรียกแม่ว่าแม่อีก!”

แม่ลั่วพูดประโยคนี้จบจึงกดตัดสายทันที

ลั่วเสี่ยวชิงถือโทรศัพท์นิ่งอยู่ที่เดิม พอตั้งสติได้แล้วใบหน้าจึงความลำบากใจ ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้ต้องกลับไปสินะ

ตอนเช้านอนไปแล้ว ตอนนี้ดึกมากแล้วเลยไม่ง่วง ลั่วเสี่ยวชิงนอนลืมตาอยู่บนเตียงจนตีสามกว่าค่อยรู้สึกง่วงแล้วหลับไป

ก่อนนอนลั่วเสี่ยวชิงตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้ว พอเจ็ดโมงเช้านาฬิกาปลุกดังจึงตื่น

ลั่วเสี่ยวชิงลุกจากเตียง แล้วต้มบะหมี่กินจากนั้นก็ขึ้นรถประจำทางไปที่บ้านตัวเอง

ไปถึงที่บ้านก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงเคาะประตูบ้าน แม่ลั่วกับลั่วเฉินชิงกำลังกินข้าวอยู่ในบ้าน

สายตาที่ไม่สบอารมณ์ของแม่ลั่วมองลั่วเสี่ยวชิงแล้วเอ่ยว่า “ลั่วเสี่ยวชิง แม่คิดว่าลูกกล้าไม่กลับมาซะอีก! รอไปเถอะ แม่โทรไปหาทางนั้นแล้ว เดี๋ยวตอนเที่ยงพวกลูกก็ไปกินข้าวคุยกันที่ร้านอาหาร”

ลั่วเสี่ยวชิงแค่ได้ยินก็ปวดหัวแล้ว แต่สีหน้าที่ดื้อรั้นของแม่ลั่วตอนนี้ ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่าถ้าตัวเองไม่ไป แม่ลั่วคงไม่ยอมง่ายๆแน่

ลั่วเสี่ยวชิงจึงปลอบใจตัวเอง ก็แค่กินข้าว ตอนนี้จะคลุมถุงชนก็ไม่ได้แล้ว ถ้าตัวเองไม่ตกลง ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้

พอคิดแบบนี้ในใจลั่วเสี่ยวชิงค่อยทำใจยอมรับได้

แม่ลั่วเห็นลั่วเสี่ยวชิงไม่พูดอะไรเลย ค่อยกลับไปกินข้าวต่ออย่างพอใจ ไม่ถามเลยว่าลั่วเสี่ยวชิงกินข้าวหรือยัง

แต่กลับเป็นลั่วเฉินชิงที่อยู่ข้างๆเห็นแม่ลั่วกับลั่วเสี่ยวชิงคุยกันเสร็จแล้วค่อยถามเธออย่างเป็นห่วงว่า “พี่ พี่กินข้าวเช้าหรือยังครับ?”

ลั่วเสี่ยวชิงมองลั่วเฉินชิงใบหน้าเธอค่อยมีรอยยิ้ม จากนั้นจึงยิ้มเอ่ยกับเขาว่า “พี่กินมาแล้ว เราไปกินเถอะ”

ลั่วเฉินชิงจึงพยักหน้า แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

ลั่วเฉินชิงกินข้าวเช้าเสร็จอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างคุณแม่กับพี่สาวตัวเองผิดปกติ ลั่วเฉินชิงที่เป็นเด็กฉลาดจึงเอ่ยกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “พี่ครับ ผมมีโจทย์บางข้อที่ทำไม่เป็น พี่สอนผมหน่อยได้ไหมครับ”

ลั่วเสี่ยวชิงจึงพยักหน้า แล้วตามลั่วเฉินชิงกลับไปที่ห้องเขา

พอถึงในห้องแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงยิ้มเอ่ยกับลั่วเฉินชิงว่า “ทำไม่เป็นตรงไหน? เอาออกมาให้พี่ดูสิ”

ลั่วเฉินชิงเอาการบ้านตัวเองออกมา แล้วเริ่มปรึกษาลั่วเสี่ยวชิง

ผลการเรียนของลั่วเฉินชิงอยู่อันดับต้นๆของห้องอยู่แล้ว โจทย์ปัญหาที่ลั่วเฉินชิงถามลั่วเสี่ยวชิงครั้งนี้ง่ายมาก ลั่วเสี่ยวชิงรู้ดีว่าน้องชายตัวเองไม่ใช่ทำโจทย์ไม่เป็นจริงๆ แต่กลัวว่าเธอกับคุณแม่อยู่ที่ห้องรับแขกจะรู้สึกอึดอัด

ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงรู้สึกอบอุ่นใจ ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องดีอยู่แล้ว ขณะคิดเธอจึงอดยื่นมือไปขยี้ผมลั่วเฉินชิงเบาๆไม่ได้ “เฉินชิง พี่ได้ยินแม่บอกว่าเราอยากไปเรียนต่อต่างประเทศเหรอ?”

ลั่วเฉินชิงอยากไปเรียนต่างประเทศ ความฝันของเขาคือเป็นหมอ แล้วมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศก็ดีกว่าในประเทศมากด้วย

ตอนนั้นที่ลั่วเฉินชิงคุยเรื่องนี้กับแม่ลั่ว แม่ลั่วตอบตกลงอย่างไม่ลังเลเลย

ตอนนั้นลั่วเฉินชิงยังกังวลเรื่องค่าเทอมที่ไปเรียนต่างประเทศ พอลองถามแม่ลั่ว แม่ลั่วกลับบอกว่าที่บ้านมีเงินพอจ่ายให้เขาสบายใจได้

แล้วเรื่องหลังจากนั้นลั่วเฉินชิงก็ไม่ค่อยรู้มากนัก ไม่รู้ด้วยว่าแม่ลั่วบังคับให้ลั่วเสี่ยวชิงไปดูตัว เพื่อที่จะหาเงินให้เขาไปเรียนต่างประเทศ ถ้าลั่วเฉินชิงรู้ต้องไม่ยอมไปเรียนแน่นอน

ลั่วเฉินชิงได้ยินพี่สาวถามแบบนี้ จึงหยุดการกระทำที่มือแล้วเงยหน้าพยักหน้าให้ลั่วเสี่ยวชิง “ครับ พี่ อีกหน่อยผมอยากเป็นหมอเก่งๆ ด้านนี้มหาวิทยาลัยต่างประเทศดีกว่าในประเทศครับ”

ลั่วเสี่ยวชิงฟังแล้วพยักหน้าให้ ถ้าน้องชายตัวเองอยากไป ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องหาวิธีส่งน้องชายไปเรียนให้ได้

ลั่วเฉินชิงที่เซนซิทีฟจึงอดมองแล้วเอ่ยถามลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้ว่า “พี่ครับ ถ้าไปเรียนต่างประเทศเหมือนต้องใช้เงินเยอะมาก บ้านเราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นใช่ไหมครับ?”

เสียงเพิ่งจบลง ลั่วเฉินชิงจึงรีบเอ่ยอย่างไม่ลังเลอีกว่า “พี่ครับ ถ้าต้องใช้เงินเยอะมากจริงๆ งั้นผมไม่ไปเรียนต่างประเทศก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปคุยกับแม่เอง”

ลั่วเฉินชิงพูดแล้วลุกขึ้น ลั่วเสี่ยวชิงจึงรีบยื่นมือไปดึงเขาไว้ “เฉินชิง น้องวางใจเถอะ เงินที่น้องจะไปเรียนต่างประเทศต้องมีแน่นอน แล้วตอนนี้เราแค่มอสี่เองไม่ใช่เหรอ ต้องเรียนให้จบก่อนสิถึงจะไปต่างประเทศ ตอนนี้ยังมีเวลาอีกตั้งสองปีแหนะ”

ตอนนี้ในใจลั่วเสี่ยวชิงคิดดีแล้ว ถ้าแม่ลั่วบังคับให้เธอแต่งงานเธอไม่มีทางแต่งแน่นอน!

แต่ว่าลั่วเฉินชิงจะไปต่างประเทศต้องใช้เงิน ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องช่วยออกแน่นอน

ยังโชคดีที่ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองปี มีเวลาพอให้เธอไปหาเงิน ถึงแม้วันหนึ่งเธอต้องทำห้าหกงานเธอก็ต้องเก็บเงินนี้ให้ได้ แล้วปีหน้าเธอก็จะจบมหาวิทยาลัยแล้ว จบจากมหาลัยชื่อดัง เธอน่าจะหางานดีๆทำได้

ขณะคิดในใจลั่วเสี่ยวชิงจึงมีไอเดียแล้ว แต่เห็นลั่วเฉินชิงยังลังเลอยู่จึงพูดกับเขาว่า “เฉินชิง เราวางใจเถอะ เรื่องในบ้านเราไม่ต้องยุ่งหรอก เราตั้งใจเรียนก็พอแล้ว”

สองพี่น้องลั่วเสี่ยวชิงกับลั่วเฉินชิงคุยกันในห้องไปประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงเห็นแม่ลั่วมาเคาะประตูเรียกลั่วเฉินชิงว่า “เฉินชิง เมื่อวานลูกบอกว่าวันนี้นัดกับเพื่อนไว้จะไปเล่นบาสไม่ใช่เหรอ ตอนนี้สายแล้ว ลูกรีบออกไปเล่นกับเพื่อนเถอะ”

ชัดเจนมากแล้ว แม่ลั่วจงใจให้ลั่วเฉินชิงออกไปที่อื่น

แม่ลั่วรักลั่วเฉินชิงมาก เรื่องที่บังคับให้ลั่วเสี่ยวชิงไปดูตัวเพื่อไม่ให้กระทบลั่วเฉินชิงแม่ลั่วจึงปิดบังเขาไว้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 439 น้องชายที่ดีที่สุด

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 439 น้องชายที่ดีที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งพูดจบ เสียงที่อารมณ์เสียของแม่ลั่วจึงดังขึ้นมาว่า “ลั่วเสี่ยวชิง ที่บ้านจะไม่มีเรื่องสำคัญได้ยังไง? มีเรื่องสำคัญมาก! ครั้งก่อนก็บอกลูกแล้วไม่ใช่เหรอ จะแนะนำแฟนให้ลูก ก่อนหน้านั้นเขามีธุระต้องไปต่างจังหวัด ตอนนี้เขากลับมา ไม่ว่าพรุ่งนี้ลูกจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องหาเวลาว่างกลับมาให้ได้!”

คิ้วของลั่วเสี่ยวชิงจึงขมวดแน่นกว่าเดิม ทีแรกเธอคิดว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณแม่ไม่พูดถึงเรื่องนี้คิดว่าคุณแม่ล้มเลิกความคิดนี้แล้วซะอีก

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจนถึงตอนนี้คุณแม่ก็ยังไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้อีก

“แม่คะ หนูไม่มีเวลาจริงๆ แล้วตอนนี้อายุหนูยังเด็ก ตอนนี้หนูยังไม่อยากหาแฟนค่ะ” ลั่วเสี่ยวชิงพูดเสียงอ่อนกับแม่ลั่ว

แต่ว่ายังพูดไม่ทันจบ แม่ลั่วกลับพูดแทรกเสียงเข้มว่า “ลั่วเสี่ยวชิง ปีนี้ลูกยี่สิบสองแล้ว! ลูกคิดว่าตัวเองยังเด็กอีกเหรอ?! แม่บอกไว้เลย ไม่ว่ายังไงพรุ่งนี้ลูกก็ต้องกลับมา!”

ลั่วเสี่ยวชิงปวดหัวแล้วกำลังจะพูดอีก แต่เพิ่งส่งเสียงออกไป แม่ลั่วกลับไม่ให้โอกาสเธอได้พูด กลับพูดแทรกเสียงดังว่า “ลั่วเสี่ยวชิง แม่บอกลูกไว้เลย พรุ่งนี้เช้าเก้าโมงลูกต้องถึงบ้าน ถ้าแม่ไม่เห็นลูก งั้นหลังจากนั้นนี้แม่ก็จะตัดขาดกับลูก ต่อไปลูกอย่าเรียกแม่ว่าแม่อีก!”

แม่ลั่วพูดประโยคนี้จบจึงกดตัดสายทันที

ลั่วเสี่ยวชิงถือโทรศัพท์นิ่งอยู่ที่เดิม พอตั้งสติได้แล้วใบหน้าจึงความลำบากใจ ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้ต้องกลับไปสินะ

ตอนเช้านอนไปแล้ว ตอนนี้ดึกมากแล้วเลยไม่ง่วง ลั่วเสี่ยวชิงนอนลืมตาอยู่บนเตียงจนตีสามกว่าค่อยรู้สึกง่วงแล้วหลับไป

ก่อนนอนลั่วเสี่ยวชิงตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้ว พอเจ็ดโมงเช้านาฬิกาปลุกดังจึงตื่น

ลั่วเสี่ยวชิงลุกจากเตียง แล้วต้มบะหมี่กินจากนั้นก็ขึ้นรถประจำทางไปที่บ้านตัวเอง

ไปถึงที่บ้านก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงเคาะประตูบ้าน แม่ลั่วกับลั่วเฉินชิงกำลังกินข้าวอยู่ในบ้าน

สายตาที่ไม่สบอารมณ์ของแม่ลั่วมองลั่วเสี่ยวชิงแล้วเอ่ยว่า “ลั่วเสี่ยวชิง แม่คิดว่าลูกกล้าไม่กลับมาซะอีก! รอไปเถอะ แม่โทรไปหาทางนั้นแล้ว เดี๋ยวตอนเที่ยงพวกลูกก็ไปกินข้าวคุยกันที่ร้านอาหาร”

ลั่วเสี่ยวชิงแค่ได้ยินก็ปวดหัวแล้ว แต่สีหน้าที่ดื้อรั้นของแม่ลั่วตอนนี้ ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่าถ้าตัวเองไม่ไป แม่ลั่วคงไม่ยอมง่ายๆแน่

ลั่วเสี่ยวชิงจึงปลอบใจตัวเอง ก็แค่กินข้าว ตอนนี้จะคลุมถุงชนก็ไม่ได้แล้ว ถ้าตัวเองไม่ตกลง ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้

พอคิดแบบนี้ในใจลั่วเสี่ยวชิงค่อยทำใจยอมรับได้

แม่ลั่วเห็นลั่วเสี่ยวชิงไม่พูดอะไรเลย ค่อยกลับไปกินข้าวต่ออย่างพอใจ ไม่ถามเลยว่าลั่วเสี่ยวชิงกินข้าวหรือยัง

แต่กลับเป็นลั่วเฉินชิงที่อยู่ข้างๆเห็นแม่ลั่วกับลั่วเสี่ยวชิงคุยกันเสร็จแล้วค่อยถามเธออย่างเป็นห่วงว่า “พี่ พี่กินข้าวเช้าหรือยังครับ?”

ลั่วเสี่ยวชิงมองลั่วเฉินชิงใบหน้าเธอค่อยมีรอยยิ้ม จากนั้นจึงยิ้มเอ่ยกับเขาว่า “พี่กินมาแล้ว เราไปกินเถอะ”

ลั่วเฉินชิงจึงพยักหน้า แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

ลั่วเฉินชิงกินข้าวเช้าเสร็จอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างคุณแม่กับพี่สาวตัวเองผิดปกติ ลั่วเฉินชิงที่เป็นเด็กฉลาดจึงเอ่ยกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “พี่ครับ ผมมีโจทย์บางข้อที่ทำไม่เป็น พี่สอนผมหน่อยได้ไหมครับ”

ลั่วเสี่ยวชิงจึงพยักหน้า แล้วตามลั่วเฉินชิงกลับไปที่ห้องเขา

พอถึงในห้องแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงยิ้มเอ่ยกับลั่วเฉินชิงว่า “ทำไม่เป็นตรงไหน? เอาออกมาให้พี่ดูสิ”

ลั่วเฉินชิงเอาการบ้านตัวเองออกมา แล้วเริ่มปรึกษาลั่วเสี่ยวชิง

ผลการเรียนของลั่วเฉินชิงอยู่อันดับต้นๆของห้องอยู่แล้ว โจทย์ปัญหาที่ลั่วเฉินชิงถามลั่วเสี่ยวชิงครั้งนี้ง่ายมาก ลั่วเสี่ยวชิงรู้ดีว่าน้องชายตัวเองไม่ใช่ทำโจทย์ไม่เป็นจริงๆ แต่กลัวว่าเธอกับคุณแม่อยู่ที่ห้องรับแขกจะรู้สึกอึดอัด

ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงรู้สึกอบอุ่นใจ ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องดีอยู่แล้ว ขณะคิดเธอจึงอดยื่นมือไปขยี้ผมลั่วเฉินชิงเบาๆไม่ได้ “เฉินชิง พี่ได้ยินแม่บอกว่าเราอยากไปเรียนต่อต่างประเทศเหรอ?”

ลั่วเฉินชิงอยากไปเรียนต่างประเทศ ความฝันของเขาคือเป็นหมอ แล้วมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศก็ดีกว่าในประเทศมากด้วย

ตอนนั้นที่ลั่วเฉินชิงคุยเรื่องนี้กับแม่ลั่ว แม่ลั่วตอบตกลงอย่างไม่ลังเลเลย

ตอนนั้นลั่วเฉินชิงยังกังวลเรื่องค่าเทอมที่ไปเรียนต่างประเทศ พอลองถามแม่ลั่ว แม่ลั่วกลับบอกว่าที่บ้านมีเงินพอจ่ายให้เขาสบายใจได้

แล้วเรื่องหลังจากนั้นลั่วเฉินชิงก็ไม่ค่อยรู้มากนัก ไม่รู้ด้วยว่าแม่ลั่วบังคับให้ลั่วเสี่ยวชิงไปดูตัว เพื่อที่จะหาเงินให้เขาไปเรียนต่างประเทศ ถ้าลั่วเฉินชิงรู้ต้องไม่ยอมไปเรียนแน่นอน

ลั่วเฉินชิงได้ยินพี่สาวถามแบบนี้ จึงหยุดการกระทำที่มือแล้วเงยหน้าพยักหน้าให้ลั่วเสี่ยวชิง “ครับ พี่ อีกหน่อยผมอยากเป็นหมอเก่งๆ ด้านนี้มหาวิทยาลัยต่างประเทศดีกว่าในประเทศครับ”

ลั่วเสี่ยวชิงฟังแล้วพยักหน้าให้ ถ้าน้องชายตัวเองอยากไป ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องหาวิธีส่งน้องชายไปเรียนให้ได้

ลั่วเฉินชิงที่เซนซิทีฟจึงอดมองแล้วเอ่ยถามลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้ว่า “พี่ครับ ถ้าไปเรียนต่างประเทศเหมือนต้องใช้เงินเยอะมาก บ้านเราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นใช่ไหมครับ?”

เสียงเพิ่งจบลง ลั่วเฉินชิงจึงรีบเอ่ยอย่างไม่ลังเลอีกว่า “พี่ครับ ถ้าต้องใช้เงินเยอะมากจริงๆ งั้นผมไม่ไปเรียนต่างประเทศก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปคุยกับแม่เอง”

ลั่วเฉินชิงพูดแล้วลุกขึ้น ลั่วเสี่ยวชิงจึงรีบยื่นมือไปดึงเขาไว้ “เฉินชิง น้องวางใจเถอะ เงินที่น้องจะไปเรียนต่างประเทศต้องมีแน่นอน แล้วตอนนี้เราแค่มอสี่เองไม่ใช่เหรอ ต้องเรียนให้จบก่อนสิถึงจะไปต่างประเทศ ตอนนี้ยังมีเวลาอีกตั้งสองปีแหนะ”

ตอนนี้ในใจลั่วเสี่ยวชิงคิดดีแล้ว ถ้าแม่ลั่วบังคับให้เธอแต่งงานเธอไม่มีทางแต่งแน่นอน!

แต่ว่าลั่วเฉินชิงจะไปต่างประเทศต้องใช้เงิน ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องช่วยออกแน่นอน

ยังโชคดีที่ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองปี มีเวลาพอให้เธอไปหาเงิน ถึงแม้วันหนึ่งเธอต้องทำห้าหกงานเธอก็ต้องเก็บเงินนี้ให้ได้ แล้วปีหน้าเธอก็จะจบมหาวิทยาลัยแล้ว จบจากมหาลัยชื่อดัง เธอน่าจะหางานดีๆทำได้

ขณะคิดในใจลั่วเสี่ยวชิงจึงมีไอเดียแล้ว แต่เห็นลั่วเฉินชิงยังลังเลอยู่จึงพูดกับเขาว่า “เฉินชิง เราวางใจเถอะ เรื่องในบ้านเราไม่ต้องยุ่งหรอก เราตั้งใจเรียนก็พอแล้ว”

สองพี่น้องลั่วเสี่ยวชิงกับลั่วเฉินชิงคุยกันในห้องไปประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงเห็นแม่ลั่วมาเคาะประตูเรียกลั่วเฉินชิงว่า “เฉินชิง เมื่อวานลูกบอกว่าวันนี้นัดกับเพื่อนไว้จะไปเล่นบาสไม่ใช่เหรอ ตอนนี้สายแล้ว ลูกรีบออกไปเล่นกับเพื่อนเถอะ”

ชัดเจนมากแล้ว แม่ลั่วจงใจให้ลั่วเฉินชิงออกไปที่อื่น

แม่ลั่วรักลั่วเฉินชิงมาก เรื่องที่บังคับให้ลั่วเสี่ยวชิงไปดูตัวเพื่อไม่ให้กระทบลั่วเฉินชิงแม่ลั่วจึงปิดบังเขาไว้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+