รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 46แสดงความขอบคุณ

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 46แสดงความขอบคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน มู่ซีซียกมือขึ้นจับห่อผ้าเช็ดตัวที่พันรอบตัวของเธออย่างรวดเร็ว เธอหยุดยืนอยู่ต่อหน้าจี้หลิงชวนไม่ห่างมากนัก จะเดินผ่านไปตรงๆก็กระไรอยู่ หรือจะหยุดอยู่กับที่ก็รู้สึกแปลกๆ

สายตาอันเคร่งขรึมของจี้หลิงชวนมองกวาดทั่วเรือนร่างของมู่ซีซีทุกซอกทุกมุม ลูกกระเดือกที่ลำคอของจี้หลิงชวนขยับขึ้นลงโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว

ราวกับว่าความปรารถนาที่ถูกกดไว้ในใจของเขากำลังจะปะทุออกมาอีกครั้ง เขาค่อยๆเคลื่อนสายตาไปมองที่ดวงตาอันงดงามคู่นั้นของมู่ซีซี จี้หลิงชวนสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ อยู่หลายครั้ง เพื่อความคุมความปรารถนาและความต้องการของร่างกาย

จากนั้นไม่นานเสียงแหบอันมีเสน่ห์ดังเข้ามาในหูของมู่ซีซี“รีบไปใส่เสื้อผ้าซะ อย่ามายืนอยู่ตรงนี้เพื่อยั่วยวนฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่รับประกันว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

เมื่อได้ฟังคำพูดที่มีความหมายคลุมเครือของจี้หลิงชวนแล้ว แก้มของมู่ซีซีก็ร้อนราวกับมีไฟลุกขึ้นมา สายตาที่บ่งบอกถึงความเขินอาย มู่ซีซีรีบวิ่งไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างร้อนรน

เธอปิดประตูห้องเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ปิดประตูห้องมู่ซีซียืนพิงอยู่หลังประตู ตอนนี้เธอมองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้ถึงสายตาอันรุกโซนราวกับไฟแผดเผาจากจี้หลิงชวน ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง

มู่ซีซียกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอก เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหัวใจของเธอนั้นเต้นเร็วมากๆ

มู่ซีซีกัดริมฝีปากของเธอเบา ๆ และสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ อย่างช้าๆ อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็สามารถทำให้ใจของเธอสงบลง

เธอทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างจริงจัง ปกติใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนเสร็จ แต่ครั้งนี้เธอใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้านานกว่าสิบนาที

จนกระทั่งจี้หลิงชวนเดินมาเคาะประตูหน้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า “มู่ซีซี ถ้าเธอยังเปลี่ยนไม่เสร็จล่ะก็ ฉันจะเข้าไปช่วยเธอเปลี่ยนเอง”

เมื่อมู่ซีซีได้ยินจี้หลิงชวนพูดว่าจะเข้ามา หน้าอกของเธอก็รู้สึกแน่นขึ้นมาทันที เธอรีบสวมเสื้อผ้าพร้อมกับตอบกลับหลิงชวนที่อยู่ด้านนอกของประตูว่า“ไม่ต้องๆ อีกแป๊บหนึ่งก็จะเสร็จแล้ว”

เมื่อมู่ซีซีสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เธอรีบเดินไปที่หน้าประตูพร้อมกับเอื้อมมือออกไปเปิดประตูห้อง

“ฉันเปลี่ยนเสร็จแล้ว”เธอเปิดประตูออกมาและสบตากับจี้หลิงชวน แก้มอันขาวบริสุทธิ์ของเธอค่อยๆแดงขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเห็นมู่ซีซีเป็นอย่างนี้ จี้หลิงชวนก็อดขำไม่ได้ เขาหัวเราะไปพลางพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สุขุมว่า“เอาล่ะ เธอป้อนฉันจนอิ่มแล้ว คราวนี้ถึงตาฉันป้อนเธอบ้างแล้ว”

เมื่อถูกทักเช่นนี้ท้องของมู่ซีซีก็ร้องดังขึ้นมาด้วยความหิว

เดิมทีตอนนั้นมู่ซีซีก็หิวมากอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อกี้ใช้แรงกับจี้หลิงชวนไปจนหมด ตอนนี้เธอจึงรู้สึกหิวขึ้นมา

เธอเดินตามจี้หลิงชวนลงไปที่ห้องครัวชั้นล่างของคฤหาสน์

มู่ซีซีมองดูอาหารสามจานที่เธอทำมาก่อนหน้านี้มันเย็นหมดแล้ว เธอมองไปที่จี้หลิงชวนอย่างเขินอายพร้อมกับแนะนำว่า“หรือว่า……พวกเราจะสั่งอาหารข้างนอกมากินกันดี……อาหารพวกนี้มันเย็นหมดแล้ว……”

“เอาเข้าไปอุ่นในเตาไมโครเวฟเถอะ” จี้หลิงชวนพูดพลางพร้อมกับหยิบเอาจานเข้าเตาไมโครเวฟ

หลังจากอุ่นให้ร้อนไม่กี่นาที เมื่อเสียงติ๊งของไมโครเวฟดังขึ้น มู่ซีซีก็ไม่รีรอ เธอสวมถุงมือและนำจานออกมาจากไมโครเวฟ

เธอค่อยๆบรรจงวางจานอาหารบนโต๊ะทีละจานๆ มู่ซีซีหยิบชามและตะเกียบอีกสองคู่เดินเข้ามา แล้วนั่งลงตรงข้ามกับจี้หลิงชวน เธอจับตะเกียบแน่นและมองไปที่อาหารทั้งสามจานที่ดูไม่น่ากินเอามากๆ

มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นไปมองที่จี้หลิงชวนอย่างประหม่า……

ทั้งคู่สบตากันอยู่สิบวินาที ก่อนที่จี้หลิงชวนจะใช้ตะเกียบคีบอาหารที่อยู่ในจานขึ้นมาใส่ปากอย่างสงบนิ่ง

อืม รสชาตินี้มัน……

จี้หลิงชวนขมวดคิ้วพร้อมกับสีหน้าที่เงียบสงบ เขาค่อยๆกลืนอาหารลงไปในลำคอ

เมื่อเห็นอย่างนี้ มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะถาม“คุณชายจี้ เป็นอย่างไรบ้าง?รสชาติอาหารพอใช้ได้ไหมคะ?”

เธอจ้องจี้หลิงชวนตาไม่กะพริบอย่างมีความหวัง จี้หลิงชวนอึ้งไปอยู่นาน แล้วค่อยๆฉีกยิ้มพร้อมตอบกลับว่า“อืม อาหารรสชาติพอใช้ได้”

ทันทีที่ได้ฟังจี้หลิงชวนพูดจบ มู่ซีซีก็คว้าตะเกียบคีบอาหารที่อยู่ในจานเข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการคีบของเธอนั้นแม้แต่จี้หลิงชวนก็ห้ามเอาไว้ไม่ทัน

อาหารที่เพิ่งจะเอาเข้าไปในปากและลิ้มรสได้ไม่นาน สีหน้าของมู่ซีซีก็เปลี่ยนไปในทันที เธอรีบอาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าเล็กๆของมู่ซีซีมีรอยย่นขึ้นมาในชั่วขณะ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ละอายใจต่อจี้หลิงชวน “ไม่อร่อยเลย……ฉัน ฉันคิดว่าเกลือเป็นน้ำตาลน่ะ ……เลยใส่เยอะเกินไป”

นึกภาพออกเลยว่าจานนี้เค็มแค่ไหน……

มู่ซีซีไม่เคยคิดว่าอาหารที่เธอปรุงจะรสชาติแย่ขนาดนี้ ในครอบครัวของตระกูลมู่ แม้ว่าแม่ของเธอจะไม่ชอบหน้าเธอสักเท่าไหร่ แต่ท่านก็ไม่เคยปล่อยให้เธอเข้าครัวเพื่อทำอาหาร เพราะในบ้านมีแม่บ้านคอยดูแลอยู่

แต่นี่แม้แต่เธอเองก็ยังกลืนไม่ลง และเมื่อกี้นี้จี้หลิงชวนเพิ่งจะกลืนมันลงไป คิดแล้วมู่ซีซีก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้“จานนี้รสชาติแย่มาก……ทำไมคุณถึงได้โกหกฉันว่ามันอร่อยล่ะ?”

จี้หลิงชวนมองดูท่าทางที่รู้สึกผิดของมู่ซีซี เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะอ้าปากพูดขึ้นว่า “นี่เป็นครั้งแรกของเธอ อย่างน้อยก็ทำอาหารสุกนะ อือ อันที่จริงก็ทำได้ไม่เลวเลย ”

หลังจากฟังคำพูดปลอบโยนของจี้หลิงชวน อารมณ์หงุดหงิดของมู่ซีซีก็คลายลงบ้าง

จี้หลิงชวนเลิกคิ้วพร้อมกับมองไปที่มู่ซีซีแล้วถามขึ้นว่า“ทำไมเย็นวันนี้ถึงได้คิดทำอาหารด้วยตัวเองล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำถามของจี้หลิงชวน มู่ซีซีก็รู้สึกเขินอายมาก คิดอยู่ตั้งนาน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองจี้หลิงชวนและตอบเบาๆว่า “เรื่องวันนี้ขอบคุณมากจริงๆ……เดิมทีเย็นวันนี้ฉันตั้งใจอยากทำอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่ฉันทำพลาดไป……ขอโทษจริงๆ……”

เมื่อได้ฟังคำพูดของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็แสยะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จี้หลิงชวนจ้องตาเขม็งไปที่มู่ซีซี พร้อมกับพูดขึ้นอย่างกะทันหันว่า“มู่ซีซี เข้ามานี่สิ!”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด มู่ซีซีเบิกตาขึ้นมองจี้หลิงชวนโดยไม่รู้ตัว เห็นสายตาที่ไม่อาจเดาได้ของจี้หลิงชวน หัวใจของมู่ซีซีก็สั่นเทาอย่างอธิบายไม่ถูก

มู่ซีซีกัดริมฝีปากเบาๆพร้อมกับจ้องหน้าเขา และยืนขึ้นจากนั้นก็ค่อยๆถอยหลังขยับเข้าไปหาจี้ทีละนิด

เธออยู่ห่างจากจี้หลิงชวนเพียงสองถึงสามก้าว จี้หลิงชวนยื่นมือออกไปจับที่แขนของมู่ซีซี จากนั้นก็กระชากเอามู่เซีซีเข้าไปในอ้อมแขนของเขาภายในครั้งเดียว

และทันทีที่มู่ซีซีนั่งลงบนตักของจี้หลิงชวน ใบหน้าของเธอก็เริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือไม้ของเธอกวาดไปมาเพื่อต้องการยืนขึ้น

เมื่อเธอยืนขึ้นได้สักพัก ทันใดนั้นก็มีมือคู่หนึ่งที่มีแรงอันมหาศาลจับเข้าที่เอวของมู่ซีซี พร้อมกับกระชากเอาตัวของเธอนั่งลงที่ตักและจับกดไว้เพื่อไม่ให้เธอขยับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด