รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ 85 ผลที่ตามมานั้นร้ายแรง

Now you are reading รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ Chapter 85 ผลที่ตามมานั้นร้ายแรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่ซีซีก็ไม่ต้องการที่จะพูดอะไรมาก แต่เมื่อมู่อวี๋เฟยเป็นคนพูดขึ้นมา มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะมู่อวี๋เฟย เธอมองไปที่มู่อวี๋เฟยและพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาว่า "มู่อวี๋เฟย ถ้าอย่างนั้นตอนที่เธอทำร้ายฉัน ทำไมเธอถึงไม่คิดว่าฉันเป็นน้องสาวของเธอบ้างล่ะ?”

“นี่แก…” มู่อวี๋เฟยถูกมู่ซีซีพูดแทงใจดำ ใบหน้าของเธอซีดขาวขึ้นในทันที

"และฉันก็พูดไปแล้วด้วย ว่าอะไรที่คุณชายจี้ตัดสินใจไปแล้วฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้"

สิ่งที่จี้หลิงชวนตัดสินใจไปแล้วแม้ว่ามู่ซีซีจะพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ มู่ซีซี ไม่ได้มีกำลังมากขนาดนั้น และเธอก็ไม่ใช่ปีศาจ เธอเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

ถ้ามีความแค้นก็ต้องรู้จักแก้แค้น ดังคำที่ว่า บุญคุณต้องทดแทน ส่วนความแค้นจะตอบแทนอย่างไร?

มู่ซีซีไม่สามารถให้อภัยในสิ่งที่แม่และมู่อวี๋เฟยทำกับเธอได้ มันไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่ธรรมดา แต่มันจะเป็นเงาติดตามชีวิตของเธอไปตลอด หากไม่ได้จี้หลิงชวนมาช่วยเธอไว้ได้ทัน เกรงว่าตอนนี้มู่ซีซีคงตายไปนานแล้ว

เมื่อเป็นอย่างนี้มู่ซีซียังสามารถให้อภัยความเจ็บปวดนี้ได้อย่างไร?

มู่อวี๋เฟยไม่คิดเลยว่ามู่ซีซีจะปฏิเสธเธออย่างตรงไปตรงมา เธอตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ พร้อมกับกัดริมฝีปากของเธอแน่น และจ้องเขม็งไปที่มู่ซีซีด้วยความโกรธแค้น

ในที่สุดมู่อวี๋เฟยก็กัดฟันพูดออกมาพร้อมกับจ้องไปที่มู่ซีซีเป็นการเยาะเย้ย: "ทำดี! มู่ซีซี ทำได้ดีมาก!!! จากวันนี้เป็นต้นไปฉันมู่อวี๋เฟยจะไม่ขออยู่ร่วมโลกเดียวกันกับแกอีกต่อไป ! มู่ซีซีแกรอไปก่อนเถอะ ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไปง่ายๆ แบบนี้หรอก”

ใบหน้าของมู่ซีซีมองไปที่มู่อวี๋เฟยที่กำลังโกรธด้วยสีหน้าที่สงบ และตอบกลับมู่อวี๋เฟยอย่างเย็นชาว่า "มู่อวี๋เฟย เธอทำร้ายคนอื่นจนเกือบจะฆ่าตัวตาย! เราสองคนไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก"

หลังจากพูดจบ มู่ซีซีก็ก้าวออกจากห้องไปในทันที

มู่อวี๋เฟยที่โกรธจัดจนทุบโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างรุนแรง แต่มู่อวี๋เฟยรู้ว่าถ้าตอนนี้เธอไม่ทำอะไรสักอย่าง เธออาจจะถูกจี้หลิงชวนเตะออกไปจริงๆ

ตอนนี้เธอยังมีอีกวิธีหนึ่ง เมื่อเป็นอย่างนั้น มู่อวี๋เฟยกัดฟันและรีบขึ้นแท็กซี่ ตรงไปที่โรงพยาบาลที่คุณนายจี้พักรักษาตัวอยู่

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ส่งมู่ซีซีไปมหาวิทยาลัยแล้ว จี้หลิงชวนก็ตรงไปที่สถานีตำรวจด้วยตนเองทันที

ชายวัยกลางคนผู้ที่ถูกจับส่งตัวไปที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้ ถูกขังอยู่ในสถานีตำรวจทั้งคืน และตอนนี้เขาได้ตื่นขึ้นมาจากอาการมึนเมาแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาถูกจี้หลิงชวนจัดการไม่เบาเลย ทั่วทั้งร่างกายมีแต่รอยบอบช้ำเต็มไปหมด จนเกือบจำหน้าเดิมไม่ได้ ตอนนี้เขาเจ็บปวดจนเอนกายพิงเก้าอี้และคร่ำครวญอยู่ตลอดเวลา

ทันทีที่จี้หลิงชวนเข้าไปในสถานีตำรวจ เขาถูกนำตัวไปที่ห้องสอบสวนที่ชายวัยกลางคนถูกคุมขังอยู่

เมื่อชายวัยกลางคนเห็นจี้หลิงชวน และสีหน้าของจี้หลิงชวน เขาก็สั่นเทาไปทั้งตัว เขามองไปที่ จี้หลิงชวนด้วยความหวาดกลัว "แก…แก …แกอย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา…”

คิดดูว่าชายคนนี้น่าจะโดนจี้หลิงชวนจัดการอย่างสาหัสแค่ไหน ทำไมเมื่อเขาเห็นใบหน้าของจี้หลิงชวนแล้วเขาถึงกับตกใจมากขนาดนี้

จี้หลิงชวนขมวดคิ้ว และเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าของชายวัยกลางคนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ฉันจะให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย พูดมาว่าเมื่อวานนี้ใครสั่งให้แกมางานเลี้ยง และใครให้แกเข้าไปในห้องนั้น!”

จี้หลิงชวนได้ให้ฟางเซิ่งไปสืบหาความจริงมาแล้ว ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่แขกรับเชิญ เดิมทีเป็นแค่คนขัรถบรรทุก ติดเหล้า ติดการพนัน และยังเสพยาทุกชนิด

เดิมทีชายวัยกลางคนยังไม่ต้องการที่จะพูด แต่เมื่อเห็นดวงตาที่ดุร้ายและไร้ความรู้สึกของจี้หลิงชวนดูเหมือนว่าสามารถฆ่าคนให้ตายได้ เขานึกถึงเรื่องเมื่อวานที่จี้หลิงชวนทุบตีเจียนตาย ชายวัยกลางคนผู้นั้นจึงได้เกิดกลัวขึ้นมา

ลืมเรื่องที่เขาจะพูดก่อนหน้านี้ไปจนหมด เขามองไปที่จี้หลิงชวนและรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูสั่นเทาว่า "ผมพูด…ผมจะพูดทั้งหมด…แต่คุณต้องสัญญากับผม ถ้าผมบอกความจริงทุกอย่างกับคุณแล้ว .. คุณจะต้องปล่อยผมไป และจะไม่เอาเรื่องผมอีก … "

ชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่คนโง่ เขารู้แก่ใจว่าครั้งนี้อาจจะรอดได้ยาก แต่เขาก็ต้องหาทางช่วยตัวเองก่อน

เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูด จี้หลิงชวนก็ชกเข้าไปที่ริมปากของเขา

ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อชายวัยกลางคนผู้นี้เห็นการแสดงออกของจี้หลิงชวนจึงได้เกิดความกลัวเข้าไปถึงในกระดูก

เมื่อชายวัยกลางคนผู้นั้นกำลังหวาดกลัวอย่างมาก น้ำเสียงอันเย็นชาของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง "ฉันพูดอีกครั้ง จะให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย! และฉันก็ไม่ชอบเลย ที่ถูกอื่นมาขู่”

ทันทีที่เขาพูดจบ ชายวัยกลางคนก็ตัวสั่นด้วยความกลัว พร้อมกับสารภาพทุกอย่างในทันทีว่า "ผมพูด…ผมจะพูดทุกอย่าง มีผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งพาผมเข้าไปในโรงแรม !ตอนนั้นผมดื่มจนเมาแล้ว กำลังจะเดินผ่านหน้าโรงแรมไป แต่ได้ไปชนเข้ากับสาวสวยคนหนึ่งโดยบังเอิญ

แล้วหญิงสาวสวยก็เหลือบมองมาที่ผม และจู่ๆ เธอก็ถามผมว่าอยากนอนกับผู้หญิงที่สวยกว่าเธอไหม ตอนนั้นผมกำลังหมกมุ่นในเรื่องบนเตียงอยู่ด้วย จึงตอบตกลงในทันที…แล้วผมก็ถูกผู้หญิงคนนั้นนำทางไปผ่านประตูหลังของโรงแรม ผู้หญิงคนนั้นให้ผมเข้าไปในห้อง และเธอบอกว่าผู้หญิงข้างในผมจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามใจ…ผมไม่ได้ตั้งใจนะ…คุณ ปล่อยผมไปเถอะ…”

ก่อนที่ชายผู้นั้นจะพูดจบ เขาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมขึ้นของจี้หลิงชวนพร้อมกับสายตาอันน่ากลัว ในชั่วพริบตา จี้หลิงชวนก็ยกเท้าขึ้นโดยไม่ลังเลและเตะเข้าไปที่ชายผู้นั้นอย่างแรง!

ในห้องสอบสวนมีเสียงร้องครวญครางของชายผู้นั้นดังขึ้นทันที

ก่อนที่ชายผู้น่าสงสารจะเงียบสงบ จี้หลิงชวนก็เหลือบมองไปที่ฟางเซิ่งที่ยืนอยู่ข้างเขา

ฟางเซิ่งเข้าใจในทันที และเดินไปล็อกเสื้อของชายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้น พร้อมกับลากเอาตัวเขามาอยู่ตรงหน้าของจี้หลิงชวน

จากนั้นฟางเซิ่งก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดอัลบั้มข้างใน แล้วยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้ชายวัยกลางคนผู้นั้นดู “เบิกตาสุนัขของแกให้กว้าง! ใช่ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าที่พาแกเข้าไป?”

ภาพแรกที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์คือภาพของมู่อวี๋เฟย

ชายวัยกลางคนผู้นั้นมองอย่างตั้งใจ พร้อมกับส่ายหัว "ไม่ใช่เธอ … "

ฟางเซิ่งขมวดคิ้วและเลื่อนไปที่รูปภาพของหรูหรูเพื่อนสนิทของมู่อวี๋เฟย

เมื่อชายวัยกลางคนผู้นั้นเห็นมัน เขาพยักหน้าในทันที “คนนี้! ใช่ ผู้หญิงคนนี้! ผมจำได้ชัดเจน ไม่ผิดแน่!!!

ฟางเซิ่งปล่อยชายคนนั้นลง

หลังจากที่จี้หลิงชวนได้คำตอบที่เขาอยากรู้แล้ว เขาก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์และเดินออกจากห้องสอบสวนไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด