กระบี่จงมาบทที่ 844.3 ร่วมกันโค่นเปลี่ยวร้าง

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter บทที่ 844.3 ร่วมกันโค่นเปลี่ยวร้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้ฝึก​ตน​สาย​แผนภูมิ​ดิน​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​สิบเอ็ด​คน​ แต่ละคน​ล้วน​เป็น​ลูก​รัก​แห่ง​สวรรค์​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​มาตาม​โชคชะตา​ ลุก​ผงาด​ขึ้น​มาจาก​สถานการณ์​อัน​ดีงาม​ ผู้ฝึก​ตน​เกิน​ครึ่ง​ล้วน​ไม่ใช่คน​ของ​ต้า​หลี​ ราชสำนัก​ต้า​หลี​ฝาก​ความหวัง​กับ​พวกเขา​ไว้​มาก​ ทุ่มเท​ทรัพย์สิน​และ​ทรัพยากร​นับไม่ถ้วน​ให้​กับ​พวกเขา​ แล้ว​ยัง​ต้อง​สิ้นเปลือง​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​บน​ยอดเขา​ไป​อีก​ไม่น้อย​ ที่พึ่ง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ นอกจาก​ขอบเขต​ผู้ฝึก​ตน​และ​วิชา​อภินิหาร​อันเป็น​พรสวรรค์​ของ​แต่ละคน​แล้ว​ ยังมี​โชคชะตา​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ที่​มองไม่เห็น​ ข้อบกพร่อง​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​เรื่อง​ของ​การเข่นฆ่า​ที่​ต้อง​พึ่งพา​ความสมบูรณ์​ของ​จำนวน​คน​มากเกินไป​

ครั้งนี้​มาเจอ​กับ​โจว​ไห่​จิ้ง ไม่เพียงแต่​เณร​น้อย​เท่านั้น​ที่​กระวนกระวาย​ไม่เป็นสุข​ ยังมี​พวก​ผี​สาว​ก่าย​เยี่ยน​และ​ขู่​โส่ว​ด้วย​ที่​ต่าง​ก็​มีความกังวล​ใน​แบบ​เดียวกัน​ไม่มีผิดเพี้ยน​ สุดท้าย​ยัง​เป็น​อวี๋อวี๋​ที่​ช่วย​พูด​ความในใจ​ของ​ทุกคน​ออกมา​ ‘คน​สุดท้าย​ที่​สามารถ​มาชดเชย​ช่องว่าง​ให้​สมบูรณ์​ได้​ ศักยภาพ​ของ​พวกเรา​จะเพิ่มพูน​ขึ้น​มาก​ก็​จริง​ แต่​คำ​โบราณ​ก็​กล่าว​ได้ดี​ เรื่อง​เดิม​ไม่ทำ​ซ้ำสาม พวกเรา​คง​ไม่คิด​จะไป​หาเรื่อง​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​อีก​กระมัง​?’

ตอนนั้น​ซ่งซวี่​เอ่ย​หยอกเย้า​ว่า​ ‘ข้า​กับ​หยวน​ฮว่า​จิ้งไม่มีความคิด​นี้​แน่นอน​ แต่​หาก​พวก​เจ้ายัง​ไม่หาย​โมโห​ ใน​ใจรู้สึก​ไม่ยินยอม​ คิด​ว่า​ต้อง​ต่อสู้​กัน​อีกครั้ง​ ข้า​ก็​สามารถ​บากหน้า​ไป​บอก​หยวน​ฮว่า​จิ้งได้​’

เวลานี้​ซูหลา​งพูด​ด้วย​สีหน้า​ไม่สบอารมณ์​ “ไม่ว่า​พวก​เจ้าจะเป็น​หน่วย​จงซวี​ หรือ​หน่วย​แปล​คัมภีร์​อะไร​ จงหลบ​ทาง​ให้​ข้า​เดี๋ยวนี้​!”

อาศัยว่า​มีตำแหน่ง​เล็กน้อย​ใน​ที่ว่าการ​ก็​กล้า​มาแสร้ง​เล่น​หลอก​ผีหลอก​เจ้าต่อหน้า​ตน​แล้ว​รึ​?

เก๋​อห​ลิ่ง​รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ อันที่จริง​คน​ที่​เหมาะ​จะมาเชิญตัว​โจว​ไห่​จิ้งมาก​ที่สุด​คือ​ซ่งซวี่​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​มีสถานะ​เป็น​องค์​ชาย​รอง​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ควร​เป็น​หยวน​ฮว่า​จิ้งที่​ขอบเขต​สูงที่สุด​ น่าเสียดาย​ที่​ฝ่าย​หลัง​เริ่ม​ปิด​ด่าน​ไป​แล้ว​

โจว​ไห่​จิ้งได้ยิน​ความเคลื่อนไหว​ด้านนอก​ก็​โคจร​ลมปราณ​แท้จริง​หนึ่ง​ขุม​ เป็นเหตุให้​สีหน้า​ของ​นาง​ซีด​ขาว​ขึ้น​หลาย​ส่วน​ แล้ว​ถึงได้​เลิก​มุมหนึ่ง​ของ​ผ้าม่าน​ขึ้น​ คลี่​ยิ้ม​หวาด​หยดย้อย​ “พวก​เจ้าเป็น​สหาย​ร่วมงาน​ของ​เซียน​กระบี่​หยวน​ท่าน​นั้น​หรือ​? เกิด​อะไร​ขึ้น​ แต่ละคน​ล้วน​ชอบ​ทำตัว​ลับๆ ล่อๆ​ สถานะ​ของ​พวก​เจ้าไม่อาจ​เปิดเผย​ได้ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​? ก็​แค่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​ลับ​ของ​กรม​อาญา​ ต้อง​ทำงาน​สกปรก​ใต้โต๊ะ​ไม่ใช่หรือ​ ข้า​รู้​หรอก​น่า​ ก็​เหมือน​นักฆ่า​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​รับเงิน​มาฆ่าคน​ ช่วย​ขจัด​เคราะห์​ภัย​ให้​คนอื่น​นั่นแหละ​ มีอะไร​ให้​ไม่มีหน้า​ไป​พบ​เจอ​ผู้คน​กัน​ ตอนที่​ข้า​เพิ่ง​เข้าไป​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็​ทำงาน​ด้าน​นี้​ แล้ว​ยัง​ทำ​ได้ดี​มีความก้าวหน้า​ด้วย​นะ​”

โจว​ไห่​จิ้งพูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ “น่าเสียดาย​ที่​ขอบเขต​วร​ยุทธ​น้อย​นิด​แค่นี้​ของ​ข้า​ยาก​จะเข้าตา​ยอด​ฝีมือบน​ภูเขา​ได้​ ไม่กล้า​เพ้อฝัน​ว่า​จะได้​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ต้า​หลี​อะไร​นั่น​ แต่​หาก​จะบอ​กว่า​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​สอง​ก็​น่าจะ​ยัง​มีโอกาส​อยู่​บ้าง​ อีก​อย่าง​ ข้า​ไม่เชื่อใจ​พวก​เจ้า หาก​เป็น​พวก​ก่อ​คดี​โชกโชน​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​ชอบ​หลอก​สตรี​ดี​ๆ ไป​ปู้​ยี้​ปู้​ยำ​ สุดท้าย​ก็​เป็น​ข้า​ที่​เสียเปรียบ​ใหญ่​เทียมฟ้า​ พวก​เจ้าแต่ละคน​ล้วน​เป็น​งูเจ้าถิ่น​ ข้า​เป็น​เพียง​สตรี​ต่างถิ่น​ไร้​ที่พึ่ง​คน​หนึ่ง​ จะไป​ร้องทุกข์​ให้​ใคร​ฟังได้​?”

ซูหลา​งรอ​ให้​โจว​ไห่​จิ้งพูด​จบ​ก็​เตรียม​จะขับรถ​เคลื่อน​ไป​ต่อ​ ใน​เมื่อ​ไม่เปิดทาง​ให้​ มีปัญญา​ก็​ขวางทาง​ต่อไป​เถอะ​

ถึงอย่างไร​คู่รัก​เทพ​เซียน​ที่​ฝึก​ประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็​ไม่ควร​ขาด​เหตุการณ์​ร่วมทุกข์​ด้วยกัน​ โอกาส​วันนี้​จึงหา​ได้​ยาก​นัก​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ใน​สถานที่​อย่าง​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ ซูหลา​งไม่กลัว​ว่า​จะเกิด​ข้อพิพาท​กับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​เป็น​คน​ของ​สามลัทธิ​จริงๆ​ ที่พึ่ง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​เขา​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ไม่ใช่ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​ของ​กรม​อาญา​ แต่​เป็น​สถานะ​ผู้ฝึก​ตน​ติดตาม​กองทัพ​ของ​ต้า​หลี​

เก๋​อห​ลิ่ง​ถอนหายใจ​ ดูท่า​คง​ต้อง​เรียก​อีก​สอง​สามคน​มา ถึงจะสามารถ​เชิญตัว​แม่นาง​โจว​ผู้​นี้​ไป​ได้​

เณร​น้อย​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความปรารถนาดี​ “อาจารย์​เฉิน​เคย​บอ​กว่า​ ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​ควรจะ​ยอม​ถอย​มีมารยาท​ต่อกัน​ ไม่ควร​ใช้อำนาจ​บีบคั้น​คนอื่น​”

น้ำ​เสียงทุ้ม​นุ่ม​อ่อนโยน​ดัง​ขึ้น​ด้านหลัง​เณร​น้อย​ “ไม่ ข้า​ไม่เคย​พูด​”

เณร​น้อย​รีบ​เบี่ยง​ตัว​หันข้าง​ ยก​สอง​มือขึ้น​พนม​ ก้มหน้า​กล่าว​ “อาจารย์​เฉิน​เชี่ยวชาญ​การ​มอบ​ถ้อยคำ​มงคล​ให้​คนอื่น​เป็น​ที่สุด​ ตอนนี้​ยัง​ไม่ได้​พูด​ วันหน้า​ต้อง​พูด​แน่​”

เก๋​อห​ลิ่ง​หมุนตัว​กลับมา​ก้มหัว​คา​ระ​ผู้มาเยือน​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​นอบน้อม​ระมัดระวัง​ “คารวะ​อาจารย์​เฉิน”​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​คารวะ​กลับคืน​ “ข้า​มาครา​นี้​เพื่อ​มารำลึก​ความ​หลังกับ​สหาย​ พวก​เจ้าทำ​ธุระ​ของ​ตัวเอง​กัน​ไป​เถอะ​”

จากนั้น​ก็​เอ่ย​เสริม​ไป​อีก​ประโยค​ “วันหน้า​ข้า​อาจ​ไป​เป็น​แขก​ที่​หน่วย​แปล​คัมภีร์​และ​ที่​อาราม​ หวัง​ว่า​จะไม่รบกวน​เวลา​การ​ฝึก​ตน​ของ​พวก​เจ้า”

เณร​น้อย​พยักหน้า​พลาง​ใคร่ครวญ​ไป​ด้วยว่า​คง​ต้องหา​วัด​เพื่อ​บริจาค​ค่า​น้ำมัน​และ​ค่า​ธูป​เทียน​อีกครั้ง​แล้ว​ เป็น​ผู้​ออกบวช​ จะต้อง​เสียดาย​เงิน​ไป​ทำไม​กัน​

เก๋​อห​ลิ่ง​ยิ้ม​เอ่ย​อย่าง​จริงใจ​ “ยินดีต้อนรับ​”

ถึงเวลา​นั้น​ก็​สามารถ​ขอ​ความรู้​วิชา​ยันต์​จาก​เซียน​กระบี่​เฉิน​อย่าง​นอบน้อม​ได้​แล้ว​

ซูหลา​งรีบ​หยุด​ลง​ม้าทันที​ ไม่กล้า​ขับ​ควบ​ไป​เบื้องหน้า​อีกแล้ว​

เพราะ​เขา​จำอีก​ฝ่าย​ได้​

โจว​ไห่​จิ้งกำลังจะ​ปล่อย​ม่าน​ลง​ก็​หยุด​การกระทำ​นั้น​ ดวงตา​ดอก​ท้อ​ฉ่ำน้ำ​คู่​นั้น​พลัน​หรี่​ลง​มอง​บุรุษ​ชุด​เขียว​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​เจ้าโล้น​น้อย​ คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​ภิกษุ​น้อย​ตัว​เตี้ย​เกินไป​ จึงทำให้​เรือน​กาย​ของ​บุรุษ​ดู​สูงเพรียว​ผิดปกติ​

สัญชาตญาณ​คู่​จาก​ทั้ง​ของ​สตรี​และ​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​บน​ยอดเขา​ ทำให้​นาง​ตระหนัก​ได้​ว่า​แขกไม่ได้รับเชิญ​ที่​พลิ้ว​กาย​ลง​มาจาก​จุด​สูงของ​ตรอก​เล็ก​ผู้​นี้​ต้อง​ไม่ใช่คน​ที่​ควร​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ง่ายๆ​ แน่นอน​

ซ่งจ่างจิ้งเทพ​สงคราม​ของ​ต้า​หลี​ เว่ย​จิ้น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จาก​ศาล​ลม​หิมะ​ เหวย​อิ๋ง​อดีต​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เจินจิ้ง…​ล้วน​ไม่ถูกต้อง​

ประหลาด​นัก​ เป็น​เทพเจ้า​จาก​ฝ่าย​ใด​ ถึงกับ​สามารถ​ทำให้​ตน​รู้สึก​ว่า​มิอาจ​ต่อสู้​ได้​ไหว​ ไม่อาจ​ต้านทาน​ได้​เลย​เช่นนี้​?

เฉิน​ผิง​อัน​แอบ​พยักหน้า​กับ​ตัวเอง​ ปรมาจารย์​โจว​ท่าน​นี้​เป็น​คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​จริงๆ​ มัธยัสถ์​อดออม​ ถึงกับ​ตัดใจ​เสียค่าใช้จ่าย​ใน​เรื่อง​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ไม่ลง​

ซูหลา​งหน้า​เปลี่ยนสี​ไป​เล็กน้อย​ อารมณ์​ซับซ้อน​ถึงขีดสุด​ แต่​ก็​รีบ​เก็บ​อารมณ์​อย่าง​รวดเร็ว​ รวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​ ออก​เสียงเตือน​โจว​ไห่​จิ้ง “แม่นาง​โจว​ ระวัง​คน​ผู้​นี้​เอาไว้​ เขา​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​คน​ที่​ไป​ถามกระบี่​กับ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​!”

งานพิธี​เฉลิมฉลอง​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ที่​ยิ่งใหญ่​เอิกเกริก​ แน่นอน​ว่า​ซูหลา​งยอม​ไม่พลาด​ อาศัย​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​มาชมงานพิธี​และ​การ​ถามกระบี่​ครั้งนั้น​ แล้ว​เขา​ก็​จำเซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​ที่​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​มานาน​หลาย​ปี​คน​นั้น​ได้​ทันที​

ดังนั้น​ซูหลา​งจึงกระอักกระอ่วน​พอๆ กับ​ภูเขา​เห​มิงหลง​ เพียงแต่ว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ฝ่าย​หลัง​ เซียน​กระบี่​ไผ่​เขียว​ท่าน​นี้​กลับ​ดีกว่า​หลาย​ส่วน​ คลื่น​มรสุม​ที่​เกิดขึ้น​ใกล้​กับ​หมู่บ้าน​วารี​กระบี่​ใน​ปี​นั้น​ ต่อให้​ไม่ถือว่า​ทั้งสองฝ่าย​พบ​เจอกัน​ด้วยดี​และ​แยก​จากกัน​ด้วยดี​อะไร​ แต่​ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ได้​ผูกปม​แค้น​กัน​นับแต่​นั้น​

หลังจาก​โจว​ไห่​จิ้งได้ยิน​ชื่อ​ ‘เฉิน​ผิง​อัน​’ สีหน้า​ก็​เปลี่ยน​มาเป็น​มีชีวิตชีวา​ อดไม่ไหว​เหลือบมอง​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่​ทุกวันนี้​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​มาก​ที่สุด​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​อยู่​หลาย​ที​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​เขา​จะยัง​เป็น​เจ้าสำนัก​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ด้วย​ นาง​ได้ยิน​ชื่อเสียง​ของ​เขา​มาจน​หู​เกือบ​แฉะแล้ว​ อย่า​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ อย่า​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ทำให้​หยวน​เจิน​เย่อ​อก​หมัด​ต่อย​ร่าง​เขา​เหมือน​แค่​เกา​ให้​หาย​คัน​ จะไป​มีเรื่อง​กับ​เขา​ทำไม​ มีแต่​จะเสียเปรียบ​น่ะ​สิ

นาง​รีบ​ปล่อย​ม่าน​ลง​ทันที​ รวบ​ข้าวของ​น้อย​ใหญ่​ใน​ห้อง​โดยสาร​มาใส่ห่อ​สัมภาระ​ใบ​ใหญ่​แล้ว​สะพาย​ไว้​บน​ไหล่​ ก้มหน้า​ค้อม​เอว​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​โดยสาร​ นาง​เตรียม​จะกระโดด​ลง​จาก​รถม้า​ “ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​จะตาม​เก๋​อเจิน​เห​ริน​ไป​สัก​รอบ​ก็แล้วกัน​ อาจารย์​ซู รบกวน​ท่าน​ช่วย​เฝ้ารถม้า​ให้​ข้า​ด้วย​นะ​”

น้ำ​ใน​ยุทธ​ภพ​นั้น​ลึก​ ท่วม​ทับ​คน​ใจกล้า​ให้​ตาย​ได้​ ลมบน​ภูเขา​ก็​พัด​แรง​ พัด​จน​มาด​เทพ​เซียน​ปลิว​หาย​

เก๋​อห​ลิ่ง​ยิ้ม​กล่าว​ “ข้า​จะช่วย​ขับรถ​ให้​ก็แล้วกัน​”

ซูหลา​งลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะลง​มาจาก​รถม้า​

เฉิน​ผิง​อัน​เบี่ยง​ตัวยืน​ติด​ผนัง​ หลีกทาง​ให้​รถม้า​

โจว​ไห่​จิ้งกลับ​ไป​นั่ง​ที่​เดิม​ จากนั้น​ก็​แง้มผ้าม่าน​ด้าน​ข้าง​ของ​ตัว​รถ​ขึ้น​ ยิ้ม​ถาม “เซียน​กระบี่​เฉิน​ ขอให้​ข้า​ปากมาก​ถามสัก​คำ​ ยืนยัน​ให้​แน่ใจ​สักหน่อย​ พวกเรา​สอง​คน​ไม่มีความแค้น​ที่​วกวน​อ้อมค้อม​ต่อกัน​ใช่ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​ “ไม่เคย​พบ​เจอ​หน้า​ ไร้​ความแค้น​ความอาฆาต​ กลับเป็น​ก่อนหน้านี้​ที่​ชมศึก​อยู่​ไกลๆ​ ได้​เรียนรู้​กระบวนท่า​หมัด​สอง​สามท่า​มาจาก​อาจารย์​โจว​ ได้​ผลประโยชน์​ไม่น้อย​”

โจว​ไห่​จิ้งยิ้ม​ตาหยี​ เป็น​ความงาม​เย้ายวน​ตาม​ธรรมชาติ​ ยก​แขน​ขึ้น​ปาด​ผง​เครื่อง​ประทิน​โฉมที่​ติด​อยู่​บน​แก้ม​ออก​เบา​ๆ “ก็​แค่​ว่า​ตอนนี้​หน้าตา​ข้า​อัปลักษณ์​เล็กน้อย​ ทำให้​เซียน​กระบี่​เฉิน​เห็น​เรื่องตลก​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “ไม่หรอก​”

โจว​ไห่​จิ้งกังขา​อยู่​ใน​ใจ อาจารย์​? ตน​คือ​สตรี​ผู้​หนึ่ง​นะ​ เรียก​สตรี​คน​หนึ่ง​แบบนี้​ ไม่ค่อย​เหมาะ​กระมัง​ (คำ​ว่า​อาจารย์​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เรียก​คือ​เซียน​เซิง ซึ่งส่วนใหญ่​จะใช้กับ​ผู้ชาย​)

ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​เหล่านี้​ช่างพิลึก​คน​กัน​จริงๆ​

เพียงแต่ว่า​ไม่อาจ​เผย​ความ​ขาด​กลัว​ออกมา​ เหล่า​เหนียง​มีชาติกำเนิด​จาก​สถานที่​เล็ก​ๆ ไม่เคย​เรียนหนังสือ​อะไร​มาก่อน​ รูปโฉม​งดงาม​ก็​คือ​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​ บุรุษ​มีแต่​จะยิ่ง​แย่งชิง​กัน​เปิด​ตำรา​

นาง​มั่นใจ​ว่า​เกิน​ครึ่ง​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ต้อง​มาจาก​ตระกูล​ชั้นสูง​ของ​ต้า​หลี​ เฮอะ​ ลูกหลาน​ตระกูล​อันดับ​หนึ่ง​ แค่​มอง​ก็​รำคาญตา​แล้ว​ ช่างสิ้นเปลือง​เนื้อหนังมังสา​และ​บุคลิก​อัน​ดี​นั้น​จริงๆ​

รถม้า​ขับเคลื่อน​ออกจาก​ตรอก​ไป​ช้าๆ เสียง​ล้อ​รถบดถนน​ก็​ค่อยๆ​ จากไป​ไกล​

เฉิน​ผิง​อัน​หัน​ตัว​มายิ้ม​เอ่ย​ “ยินดี​กับ​เซียน​กระบี่​ซูด้วย​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​”

ซูหลา​งรีบ​กุม​หมัด​ตอบกลับ​ทันใด​ “ผู้​ถวายงาน​ต้า​หลี​ซูหลา​ง โชคดี​ได้​กลับมา​พบ​กับ​เจ้าสำนัก​เฉิน​อีกครั้ง​”

ได้ยิน​ซูหลา​งแนะนำ​ตัวเอง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ ตน​ไม่ได้​ตาบอด​เสียหน่อย​ ป้าย​ของ​กรม​อาญา​ใหญ่​ขนาด​นั้น​ ต้อง​เห็น​อยู่แล้ว​

แน่นอน​ว่า​ซูหลา​งต้อง​ตื่นเต้น​อย่าง​มาก​ เพียงแต่ว่า​หลาย​ปี​มานี้​ตน​ไม่มีความเกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​ซ่งอวี่​เซาแล้ว​ ตาม​หลัก​แล้ว​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ควร​มาหาเรื่อง​ตน​

เพียงแต่ว่า​เซียน​กระบี่​ที่​บางครั้ง​ก็​ลง​ภูเขา​มาเที่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​ประเภท​นี้​ นิสัย​ยาก​จะคาดเดา​จริงๆ​ ทั้ง​ยังอยู่​ไม่เป็นที่เป็นทาง​ ทุกครั้ง​ขอ​แค่​ลงมือ​ก็​ดู​แค่​อารมณ์​เท่านั้น​ ไม่ถามถูก​ผิด​ ส่วนใหญ่​เพียง​ปล่อยแสง​กระบี่​ให้​ฟัน​ฉับ​ลงมา​ ศีรษะ​คน​ก็​กลิ้ง​หลุนๆ​ แล้ว​

ความโชคดี​ใหญ่หลวง​ใน​ความ​โชคร้าย​ ก็​คือ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ใน​ทุกวันนี้​มีกฎเกณฑ์​มากมาย​มาพันธนาการ​พวก​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ไม่เห็น​กฎหมาย​อยู่​ใน​สายตา​ มอง​เหล่า​เชื้อพระวงศ์​ด้วย​ความเย่อหยิ่ง​ อีก​ทั้ง​หลังจากที่​ซูหลา​งถูก​กรม​อาญา​ต้า​หลี​เรียกตัว​มา ก็​เคย​ทำ​เรื่อง​ที่​เป็นความลับ​อยู่​หลาย​เรื่อง​ เป้าหมาย​ที่​เขา​เล่นงาน​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ละเมิด​กฎ​ซึ่งคิด​ว่า​ตัวเอง​อำพราง​ได้​อย่าง​มิดชิด​มาก​พอแล้ว​

แต่​เวลานี้​สิ่งที่​ทำให้​เสียใจ​ที่สุด​ก็​คือ​โจว​ไห่​จิ้งกลับ​ทิ้ง​ตน​ไว้​เช่นนี้​ สตรี​นี่​นะ​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​แผ่น​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ “บังเอิญ​นัก​ ถือเป็น​เพื่อนร่วมทาง​ครึ่งตัว​ของ​เซียน​กระบี่​ซู”

ซูหลา​งเหลือบมอง​ป้าย​สงบสุข​แผ่น​นั้น​ ถึงกับ​เป็น​ป้าย​สงบสุข​ของ​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​สาม…สูงกว่า​ผู้​ถวายงาน​ตัวสำรอง​แค่​ระดับ​เดียว​เท่านั้น​

ซูหลา​งรู้สึก​อับอาย​อย่าง​ห้าม​ไม่ได้​

เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ไม่คิด​จะอาศัย​โอกาส​นี้​พูด​ล้อเลียน​ซูหลา​ง ก็​แค่​ไม่ต้องการ​ให้​เขา​คิดมาก​ อย่า​ได้​เอา​อย่า​งอ​วิ๋น​เหมี่ยว​เซียน​เห​ริน​ของ​หอ​เซียน​จิ่วเจิน​ผู้​นั้น​

คน​ทั้งสอง​เดิน​เคียง​บ่า​กัน​ไป​ใน​ตรอก​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “หลาย​ปี​มานี้​ข้า​เดินทาง​ท่องเที่ยว​ไป​ต่างบ้านต่างเมือง​ ไม่ได้​อยู่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​มานาน​หลาย​ปี​ เพิ่งจะ​กลับมา​ ทุกวันนี้​หมู่บ้าน​วารี​กระบี่​ของ​ผู้อาวุโส​ซ่งเป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​?”

ซูหลา​งเรียบเรียง​ถ้อยคำ​อย่าง​ระมัดระวัง​ “ตั้งแต่​จากลา​กัน​ปี​นั้น​ ข้า​ก็​ไม่เคย​ไป​ที่​หมู่บ้าน​ของ​ผู้อาวุโส​ซ่งอีก​เลย​ เพียงแต่​ได้ยิน​มาว่า​เขา​ยอม​ยก​หมู่บ้าน​ที่​เป็น​กิจการ​บรรพบุรุษ​ให้​ผู้อื่น​ แล้ว​ย้าย​ไป​อยู่​ชายแดน​แคว้น​ซูสุ่ย​แทน​ เป็น​เพื่อนบ้าน​กับ​ข้า​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ข้า​ไป​ร่วม​สงคราม​ที่​ลำน้ำ​ใหญ่​มาหลายครั้ง​ ภายหลัง​ต้อง​ปิด​ด่าน​ จากนั้น​จึงมาที่​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ อันที่จริง​ข้า​ก็​ควรจะ​ไป​แสดงความยินดี​กับ​หลิ่ว​ฮูหยิน​ที่​ศาล​เทพ​ภูเขา​ ได้ยิน​สหาย​ใน​ยุทธ​ภพ​บอ​กว่า​ หลาย​ปี​มานี้​ผู้อาวุโส​ซ่งยัง​แข็งแรง​ดี​ เคย​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​อยู่​หลายครั้ง​ มักจะ​ออก​ไป​ผ่อน​คลายอารมณ์​ข้างนอก​บ่อยๆ​ นี่​เป็นเรื่อง​ดี​ รอ​ให้​มีเวลาว่าง​ กลับ​บ้านเกิด​คราวหน้า​ก็​ควรจะ​เอา​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ส่วน​นั้น​ไป​ชดเชย​ให้​”

เฉิน​ผิง​อัน​มีสีหน้า​เป็นมิตร​อยู่​ตลอดเวลา​ ราวกับ​สหาย​เก่าแก่​ใน​ยุทธ​ภพ​สอง​คน​ที่​จากกัน​ไป​นาน​แล้ว​ได้​กลับมา​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ ขาด​ก็​แค่​สุรา​ดี​คนละ​กา​เท่านั้น​ เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “ควรจะเป็น​เช่นนี้​ เซียน​กระบี่​ซูมีใจแล้ว​ คนรู้จัก​เก่า​ใน​ยุทธ​ภพ​ยัง​สุข​สบายดี​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ดี​”

เส้นเอ็น​หัวใจ​ที่​เดิมที​ขึง​ตึง​ของ​ซูหลา​งคลายตัว​ได้​หลาย​ส่วน​

“ใช่แล้ว​ แคว้น​ซงซีล้วน​อยู่​ใกล้​กับ​แคว้น​ซูสุ่ย​และ​แคว้น​ไฉ่อี​ เซียน​กระบี่​ซูเคย​ได้ยิน​ตระกูล​หลิว​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​เมือง​แยนจือ​แคว้น​ไฉ่อี​บ้าง​หรือไม่​?”

“เจ้าสำนัก​เฉิน​พูดถึง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​หลิว​ หรือว่า​สอง​พี่น้อง​หลิว​เกา​หัว​ หลิว​เกา​ซิน?”​

เดิมที​หลิว​เกา​ซิน​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​ เพียงแต่ว่า​โชคร้าย​ ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​จาก​สงคราม​ใหญ่​ครั้งนั้น​ ไม่มีความหวัง​บน​มหา​มรรคา​อีก​ หลังจากนั้น​ก็​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​สำนัก​ เพียงแค่​ฝึก​ตน​อยู่​ที่​บ้าน​ หลิว​เกา​หัว​เป็น​มนุษย์​ธรรมดา​ ทว่า​ใน​สายตา​ของ​ซูหลา​งกลับ​ยิ่ง​มิอาจ​ดูแคลน​ เพราะ​มีสถานะ​ของ​ขุนนาง​เมืองหลวง​สำรอง​ต้า​หลี​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ล้วน​เป็น​สหาย​เก่า​ที่​ดี​ต่อกัน​”

ซูหลา​งเข้าใจ​ได้​ทันที​

ราวกับ​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงหยิบ​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​กา​หนึ่ง​ออกมา​ ยื่น​ส่งให้​ซูหลา​ง “รบกวน​เซียน​กระบี่​ซูช่วย​นำ​ของ​สิ่งนี้​ไป​มอบให้​หลิว​เซียน​ซือ​แทน​ข้า​ที​ ข้า​คง​ไม่เอ่ย​ถ้อยคำ​ตามมารยาท​ว่า​ขอบคุณ​อะไร​ต่อ​เซียน​กระบี่​ซูแล้ว​”

ซูหลา​งใช้สอง​มือ​รับ​เหล้า​เซียน​บน​ภูเขา​ที่​ไม่เคย​เห็น​มาก่อน​กา​นั้น​มา ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เรื่อง​เล็กน้อย​ ทำได้​ง่าย​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​การยกมือ​ เจ้าสำนัก​เฉิน​ไม่ต้อง​เอ่ย​ขอบคุณ​”

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด