กระบี่จงมา 887.1 มีเรื่องขอให้ช่วย

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 887.1 มีเรื่องขอให้ช่วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยว​โม่พา​เซียน​เว่ย​เดิน​ไป​ที่​แผง​ดูดวง​ด้วยกัน​ ใน​สายตา​ของ​เซียน​เว่ย​ แผง​นี้​ค่อนข้างจะ​โกโรโกโส​ไป​สักหน่อย​ มีแค่​โต๊ะ​หนึ่ง​ตัว​กับ​กระบอก​เซียมซี​หนึ่ง​ใบ​ ไม่มีธงผ้า​สัก​ผืน​เขียน​ว่า​ปาก​เหล็ก​ทำนาย​ดุจ​เทพ​อะไร​ด้วยซ้ำ​ แม้ว่า​เฉาโม่ผู้​นี้​จะเป็น​เซียน​ซือ​ แต่​หาก​จะพูดถึง​ประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็​ไม่โชกโชน​มาก​พอ​สัก​เท่าไร​ ช่างเถิด​ๆ ใน​เมื่อ​ทุกวันนี้​ตน​ต้อง​มาติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​เฉาโม่ ถ้าอย่างนั้น​ก็​จะยอม​สอน​สุดยอด​เคล็ด​วิชา​ให้​เขา​แบบ​เปล่าๆ​ สัก​วิชา​ก็แล้วกัน​

เพียงแต่​เว่ย​เซียน​ก็​รู้สึก​คลางแคลง​ขึ้น​มาอีก​ จึงอดไม่ไหว​ถามว่า​ “เสี่ยว​โม่ สุดท้าย​ทำไม​เฉาโม่ถึงไม่รับเงิน​เทพ​เซียน​เหรียญ​นั้น​เอาไว้​? หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ล่ะ​ก็​ นั่น​เป็น​เงิน​เกล็ด​หิมะ​ที่​พวก​เซียน​บน​ภูเขา​ใช้อย่าง​ที่​เล่าลือ​กัน​เลย​นะ​”

เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ไม่เห็น​เงิน​เป็น​เงิน​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?

เสี่ยว​โม่กล่าว​ “รัก​เงิน​ยาก​สละ​ คน​ที่​สามารถ​สละ​เงินทอง​ได้​จึงจะเป็น​ผู้​สูงส่ง”

เซียน​เว่ย​ฟังแล้วก็​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ หลักการ​เหตุผล​ใน​ตำรา​ที่​ไม่มีประโยชน์​กะ​ผายลม​พวก​นี้​ หาก​ตอน​เอา​มาเรียบเรียง​เป็น​เล่ม​คง​บรรจุ​ได้​หลาย​กระบุงโกย​ทีเดียว​ ทว่า​เงิน​ใน​กระเป๋า​ก็​ยัง​เกลี้ยงเกลา​กว่า​หนัง​หน้า​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​?

เห็น​ว่า​เฉาโม่ทำ​ท่าจะ​เก็บ​กระบอก​เซียมซี​บน​โต๊ะ​ เซียน​เว่ย​ก็​ร้อนใจ​ขึ้น​มาทันใด​ จะเก็บ​แผง​แล้ว​หรือ​? เรื่อง​ของ​การ​หาเงิน​จะทำ​อย่าง​ลวกๆ​ แบบนี้​ได้​อย่างไร​!

เซียน​เว่ย​นั่ง​แปะ​ลง​ไป​บน​ม้านั่งยาว​ รับ​กระบอก​เซียมซี​มาจาก​มือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​เขย่า​กระบอกไม้ไผ่​อย่าง​แรง​จน​เซียมซี​ชิ้น​หนึ่ง​ร่วง​ลงมา​ เพ่ง​สายตา​มอง​ไป​ พึมพำ​กับ​ตัวเอง​พัก​หนึ่ง​ มอง​ดูเหมือน​กำลัง​พูดคุย​กับ​ท่าน​เซียน​ที่​สวม​ชุด​เต๋า​สีเขียว​ สีหน้า​ของ​เซียน​เว่ย​เดี๋ยว​ตะลึง​เดี๋ยว​ตกใจ​ เดี๋ยว​ก็​ขมวดคิ้ว​ เดี๋ยว​ก็​พยักหน้า​ บางครั้ง​ยัง​เอ่ย​ถามหนึ่ง​ประโยค​ จากนั้น​ก็​พลัน​หน้า​แดงก่ำ​ ตะเบ็ง​เสียงดัง​เอ่ย​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​ท่าน​เซียน​ เซียมซี​ใบ​นี้​แม่น​ยิ่งนัก​ เทพ​ใน​ร่าง​มนุษย์​ ท่าน​เซียน​เหมือน​เทพ​ใน​ร่าง​มนุษย์​จริงๆ​! เซียน​เว่ย​ลุกขึ้น​ยืน​ ก้มหัว​คารวะ​ตาม​ขนบ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​อย่าง​เข้าท่า​เข้าที​ จากนั้น​ก็​ควัก​ทอง​หยวน​เป่า​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ วาง​ลง​บน​โต๊ะ​หนัก​ๆ ขอให้​ท่าน​เซียน​ช่วย​สอน​วิธี​คลี่คลาย​แก้ไข​…

เสี่ยว​โม่ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​มอง​เจ้าทึ่ม​ผู้​นี้​ทำตัว​ขายหน้า​แล้วก็​จน​คำพูด​ ได้​แต่​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้จัก​คน​ผู้​นี้​

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​สัก​คำ​ เวลานี้​เขา​มอง​ใบหน้า​ของ​เซียน​เว่ย​แล้ว​ก้มลง​มอง​ทอง​หยวน​เป่า​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​ แล้ว​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คลึง​ขมับ​ ปวดหัว​นัก​

ที่นี่​ไม่ใช่ตรอก​ซอกซอย​ใน​ตลาด​ แต่​เป็น​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ ลูกไม้​เล็กๆ น้อยๆ​ ของ​เจ้ากับ​การแสดง​ที่​ฝีมือ​ห่วยแตก​เช่นนี้​ หลอก​ใคร​ไม่ได้​จริงๆ​

จะดี​จะชั่ว​เจ้าเซียน​เว่ย​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​อย่าง​ครึ่งๆ กลางๆ​ ผล​กลับ​กลายเป็น​ว่า​ตลอดทาง​ที่​ขึ้น​เหนือ​มานี้​ต้อง​นอนกลางดินกินกลางทราย​มาโดยตลอด​ ได้​กิน​เนื้อ​และ​สุรา​มื้อ​หนึ่ง​ก็​ราวกับ​ได้​กิน​อาหาร​วัน​ปีใหม่​อย่างไร​อย่างนั้น​ ทว่า​ถึงท้ายที่สุด​กลับ​เก็บ​สะสมเงินได้​เป็น​ทอง​หยวน​เป่า​แค่​ก้อน​เดียว​ โทษ​คนอื่น​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​

ตัว​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ หาก​จะพูดถึง​การ​กะ​แรง​ไฟ ฝีมือ​ยัง​สู้เผย​เฉียน​ตอน​เล็ก​ๆ ไม่ได้​เลย​

แล้ว​ยัง​เดือดร้อน​ให้​ตน​ถูก​มอง​เป็น​พวก​นักต้มตุ๋น​ไป​ด้วย​

แล้วก็​จริง​ดัง​คาด​ คนเดินเท้า​ที่​เดิน​อยู่​ใกล้​กับ​แผง​ดูดวง​ หาก​ไม่ใช่เซียน​ซือ​ทำเนียบ​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​แห่ง​ป่า​เขา​ หรือไม่​ก็​เป็น​พวก​คนใน​ยุทธ​ภพ​ที่​ประสบการณ์​โชกโชน​ ทุกคน​ต่าง​ก็​ใช้สายตา​มอง​คนโง่​มอง​มายัง​เซียน​เว่ย​

เจ้านักต้มตุ๋น​สอง​คน​นี้​ต้อง​ขาดเงิน​แค่​ไหน​ถึงได้​แสร้ง​มาทำ​หลอก​ผีหลอก​เจ้าอยู่​ที่​ท่าเรือ​ก่า​ว​ซู่แห่ง​นี้​ เกิน​ครึ่ง​คงจะ​ยากจน​จน​ไม่มีข้าวสาร​กรอก​หม้อ​แล้ว​ถึงได้​ทำ​ทุกอย่าง​โดย​ไม่เลือก​วิธีการ​เช่นนี้​? ก็​เหมือน​การ​ไป​ตั้ง​แผง​ดูดวง​ที่​หน้า​ประตู​จวน​เทียน​ซือ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ เล่น​หมากล้อม​บน​เมฆหลาก​สีที่​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​นั่นแหละ​ จะได้เงิน​สัก​กี่​แดง​กัน​?

เฉิน​ผิง​อัน​ผงก​ปลาย​คาง​ เซียน​เว่ย​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​พวก​คนเดินเท้า​ที่อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​ต่าง​ก็​ขยับ​ออกห่าง​จาก​แผง​ดูดวง​คล้าย​ตั้งใจ​คล้าย​ไม่ได้​เจตนา​ จึงได้​แต่​เก็บ​ทอง​หยวน​เป่า​ก้อน​นั้น​ไป​อย่าง​ขุ่นเคือง​ ไม่กล้า​เก็บ​ไว้​ใน​ห้องพัก​พร้อมกับ​ห่อ​สัมภาระ​ เพราะ​กลัว​จะโดน​ขโมย​ ถึงเวลา​นั้น​คง​ไม่มีที่​ให้​ไป​ร้องทุกข์​ ต้อง​พก​ไว้​ติดตัว​ถึงจะสบายใจ​ เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​กระบอก​เซียมซี​ที่​ทำ​ขึ้น​มาเมื่อคืน​วาน​เก็บ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​เสื้อ​ จากนั้น​เอ่ย​เตือน​เซียน​เว่ย​ว่า​ลุกขึ้น​ได้​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ไป​ตบ​ผิว​โต๊ะ​หนึ่ง​ที​ โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​ ทั้ง​โต๊ะ​ทั้ง​ม้านั่ง​ก็​หายวับ​ไป​ ไม่มีสิ่งใด​เหลืออยู่​อีก​

เซียน​เว่ย​มอง​ด้วย​อาการ​ตาค้าง​ นี่​ก็​คือ​เวท​คาถา​ตระกูล​เซียน​ที่​สร้าง​ให้​มีจาก​ไม่มีหรือ​? ถ้าอย่างนั้น​ตน​จะสามารถ​เรียน​จาก​เฉาโม่เสก​หิน​ให้​กลายเป็น​ทอง​ได้​หรือไม่​?

คน​ทั้ง​สามออก​ไป​จาก​ท่าเรือ​ เดิน​ไป​บน​ทางหลวง​ที่​กว้างขวาง​เส้น​หนึ่ง​กลับ​เข้า​เมืองหลวง​ เซียน​เว่ย​ทอดถอนใจ​ไป​ตลอดทาง​ เดินเท้า​อีกแล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เหลือบมอง​ปิ่นปักผม​ของ​เซียน​เว่ย​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “เสี่ยว​โม่ เจ้าคิด​ว่า​เซียน​เว่ย​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ ทุกวันนี้​มีสภาพการณ์​เป็น​อย่างไร​?”

สมมติ​ว่า​นักพรต​ตัว​ปลอม​ที่​ชื่อ​เหนียน​จิ่ง นาม​เซียน​เว่ย​ผู้​นี้​ก็​คือ​ ‘นักพรต​’ อันดับ​หนึ่ง​ของ​โลก​มนุษย์​คน​นั้น​ ถ้าอย่างนั้น​หาก​อิง​ตาม​เอกสารลับ​ที่อยู่​ใน​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ ‘นักพรต​’ ที่​แบก​โชคชะตา​มหาศาล​ไว้​บน​ร่าง​ได้​ตาย​ดับ​ไป​ท่ามกลาง​สงคราม​เดิน​ขึ้น​สวรรค์​ครั้งนั้น​นาน​แล้ว​ เรื่อง​นี้​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ เนื่องจาก​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​หวนกลับ​มายัง​ไพศาล​อีกครั้ง​ได้​เคย​ถามห​ลี่​เซิ่ง และ​ห​ลี่​เซิ่งก็​พูด​เอง​ว่า​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​กาย​ดับ​มรรคา​สลาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​

หลังจากที่​นักพรต​ซึ่งมีคุณูปการ​อย่าง​ใหญ่หลวง​ต่อ​โลก​มนุษย์​ผู้​นี้​รบ​ตาย​ไป​ เป็นเหตุให้​ปิ่น​เต๋า​ชิ้น​นั้น​หล่น​ร่วง​ลง​มายัง​โลก​มนุษย์​ สุดท้าย​ถูก​บรรพ​จารย์​เปิด​ขุนเขา​หญิง​ของ​นคร​เซียน​จาน​อย่าง​กุย​ห​ลิง​เซียง​เก็บ​ได้​บน​พื้นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​ นับ​จากนั้นมา​นาง​ก็​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ นาง​ได้​ครอบครอง​พื้นที่​มงคล​เห​ยาก​วง​ แต่กลับ​มุ่งมั่น​ตั้งใจ​สร้าง​นคร​เซียน​จาน​ให้​สูงเทียมฟ้า​ขึ้น​มา

โดยทั่วไปแล้ว​นักพรต​ผู้​นี้​น่าจะ​คล้ายคลึง​กับ​การสละ​ร่าง​กลับมา​เกิด​ใหม่​ และ​เซียน​เว่ย​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​ก็​มีความเป็นไปได้​สูงว่า​จะเป็น​เศษซาก​จิตวิญญาณ​ที่​หลง​เหลืออยู่​ของ​นักพรต​ท่าน​นั้น​

สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ของ​สรวงสวรรค์​เก่า​กลับชาติมาเกิด​ใหม่​ สามารถ​อาศัย​ความ​เป็น​เทพ​ที่​บริสุทธิ์​ ‘ร่าง​จริง​’ ก็​เหมือน​อยู่​ใน​สภาวะ​จำศีล​อย่าง​ยาวนาน​ ไม่ว่า​จะไป​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​เผ่า​มนุษย์​หรือ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ เนื้อหนัง​มังสามารถ​เสื่อมโทรม​ตาย​ดับ​ได้​ และ​ความ​เป็น​เทพ​ก็​สามารถ​ไม่ลด​ไม่เพิ่ม​ได้​ แต่​ปัญหา​นั้น​อยู่​ที่ว่า​เซียน​เว่ย​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ ไม่ใช่เทพ​ ตาม​หลัก​แล้ว​หาก​เริ่มต้น​นับ​ที่​การ​ ‘สละ​ร่าง​ใต้​คม​อาวุธ​’ ของ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ ทุกครั้งที่​มีการ​จุติ​กลับมา​เกิด​ใหม่​ จะยังคง​มีจิตวิญญาณ​ที่​กระจัดกระจาย​หาย​ไป​อย่าง​ต่อเนื่อง​ แล้วก็​มีการ​เสริม​จิตวิญญาณ​ส่วน​ใหม่​เข้ามา​เรื่อยๆ​ เวลา​นาน​วัน​เข้า​ก็​จะยิ่ง​มีความเสียหาย​มากขึ้น​ มีแต่​จะทำให้​เซียน​เว่ย​ใน​ยุค​หลัง​ไม่เหมือน​นักพรต​คน​นั้น​ใน​ช่วง​แรกเริ่ม​สุด​เข้าไป​ทุกที​

เว้น​เสีย​จาก​

เว้น​เสีย​จากว่า​หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ แท้จริง​แล้ว​นักพรต​คน​นั้น​เพียงแค่​สละ​ร่าง​กลับมา​จุติ​ใหม่​ไม่กี่​ครั้ง​ หรือ​อาจ​ถึงขั้น​ที่ว่า​มาเกิด​ใหม่​แค่​ครั้ง​เดียว​?!

เสี่ยว​โม่รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ “เรื่อง​แบบนี้​ เสี่ยว​โม่ไม่กล้า​พูด​อะไร​ส่งเดช​ คุณชาย​ถามข้า​ก็​เหมือน​ถามทาง​กับ​คนตาบอด​นั่นแหละ​”

เกี่ยวพัน​กับ​การ​กลับชาติมาเกิด​ใหม่​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ เสี่ยว​โม่เป็น​คน​ที่​ไม่เชี่ยวชาญ​อย่าง​จริง​แท้​แน่นอน​ เพราะว่า​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ ไม่ว่า​จะเป็น​เผ่า​มนุษย์​หรือ​เผ่า​ปีศาจ​ ความเป็นความตาย​ก็​แทบจะ​มีแค่​ภพ​ชาติ​เดียว​เท่านั้น​

เรื่อง​ของ​เวท​คาถา​ หมื่น​ปี​ให้​หลังกับ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ อันที่จริง​ระดับความสูง​ของ​ก่อน​หลัง​ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กัน​ ความต่าง​ไม่ถือว่า​มีมาก​นัก​

แต่​หาก​จะพูดถึง​ประเภท​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​มีมากมาย​และ​เส้นสาย​ที่​ซับซ้อน​ใน​ทุกวันนี้​ พูดถึง​แค่​จำนวน​และ​ระดับ​ความ​กว้าง​ ไม่พูดถึง​พลัง​พิฆาต​อัน​บริสุทธิ์​หรือ​มรรค​กถา​สูงส่งยาว​ไกล​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ เวท​คาถา​ก็​มีมาก​นับ​พัน​นับ​หมื่น​อย่าง​แท้จริง​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ ไม่เป็นไร​ วาง​เรื่อง​นี้​ไว้​ก่อน​ชั่วคราว​ก็แล้วกัน​

จะให้​ใช้วิธี​อำมหิต​โหดร้าย​อย่าง​การ​กักขัง​จิตวิญญาณ​บางส่วน​เพียงแค่​เพื่อ​ยืนยัน​ตัวตน​และ​ขอบเขต​ของ​เซียน​เว่ย​ก็​คง​ไม่ได้​ เฉิน​ผิง​อัน​ทั้ง​ไม่ยินดี​แล้วก็​ไม่กล้า​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​หาก​เซียน​เว่ย​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​นักพรต​ผู้​นั้น​จริง​ หรือ​จงใจปิดบัง​อำพราง​ ยกตัวอย่างเช่น​เพื่อ​กอบกู้​ศักดิ์ศรี​ให้​นคร​เซียน​จาน​ที่​ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​ทำลาย​ ด้วย​ฝีมือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ใน​ทุกวันนี้​ก็​ไม่มีประโยชน์​อะไร​เลย​จริงๆ​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​เชื่อ​ว่า​ความเป็นไปได้​นี้​มีไม่มาก​ เป็นการ​ใช้ใจของ​คน​ถ่อย​มาวัดใจ​ของ​วิญญูชน​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​อีก​ฝ่าย​ก็​คือ​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่​ยอม​สละ​เรือน​กาย​ตัวเอง​เพื่อ​เปิด​ทางขึ้น​สวรรค์​ให้​กับ​โลก​มนุษย์​อย่าง​ไม่เสียดาย​

หรือ​จะบอ​กว่า​อีก​ฝ่าย​ใช้เวท​ลับ​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​บางอย่าง​ อาศัย​การ​หลอกตัวเอง​มาหลอกลวง​สวรรค์​? ปิด​แผ่น​ฟ้าข้าม​มหาสมุทร​มาหมื่น​ปี​แล้ว​?

นอกจากนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​กังวล​ว่า​จะเป็น​แผนการ​ของ​โจว​จื่อ​ผู้​นั้น​หรือไม่​ หรือ​ควรจะ​บอ​กว่า​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​โจว​จื่อ​

หาก​แค่​อิง​ตาม​คำกล่าว​ของ​ตัว​เซียน​เว่ย​เอง​ นั่น​คือ​ตอน​อายุ​น้อย​มีวาสนา​บุญบารมี​ลึกล้ำ​ ภายใต้​โชควาสนา​ที่​อำนวย​ บวก​กับ​บน​หลุมศพ​ของ​บรรพบุรุษ​มีควัน​เขียว​ผุด​ขึ้น​มา เขา​จึงเก็บ​ตำรา​เซียน​ที่​ไม่สมบูรณ์​เล่ม​หนึ่ง​มาได้​ จากนั้น​ก็​สละ​เส้นทาง​สาย​บุ๋น​หันมา​ฝึก​ตน​เป็น​เซียน​แทน​

ดังนั้น​ทุกวันนี้​เซียน​เว่ย​จึงยัง​ไม่รู้​การ​แบ่ง​ขอบเขต​บน​ภูเขา​ ได้​แต่​อาศัย​นิยาย​เรื่องเล่า​ประหลาด​มาทำความเข้าใจ​กับ​ทัศนียภาพ​ของ​ ‘เทพ​เซียน​พสุธา​’ ได้​บ้าง​เล็กน้อย​เท่านั้น​

เวลานี้​เซียน​เว่ย​อยู่​ใน​ขอบเขต​เส้นเอ็น​หลิ่ว​ของ​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​ หรือ​ก็​คือ​ขอบเขต​รั้ง​คน​ อีก​ทั้ง​คง​เป็น​เพราะ​ไม่มีผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ ไม่มีวิสุทธิ์​จารย์​คอย​ช่วย​ชี้ทาง​ ไม่มีวัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​อะไร​ และ​เซียน​เว่ย​เอง​ก็​เข้าใจ​เรื่อง​การ​ฝึก​ตน​อย่าง​ครึ่งๆ กลางๆ​ เรื่อง​ของ​การ​บังคับ​ปราณ​วิญญาณ​เพื่อ​ร่าย​เวท​คาถา​ก็​ยิ่ง​ไม่รู้เรื่อง​ไม่รู้​ราว​อะไร​

เจ้าคน​ที่​สวมรอย​เป็น​นักพรต​หลอก​คน​มาตลอดทาง​ผู้​นี้​เดิน​บน​เส้นทาง​ของ​ยุทธ​ภพ​มาจน​ปรุ​แล้ว​ เคย​เจอ​เซียน​กระโดด​ (ชื่อ​เรียก​วิธี​ต้มตุ๋น​อย่างหนึ่ง​ โดย​มีผู้หญิง​เป็น​นกต่อ​หลอกล่อ​ แล้ว​ให้​ผู้ชาย​ออกมา​โวยวาย​เอาเรื่อง​ทีหลัง​ เป็น​สถานการณ์​ที่​ต่อให้​เป็น​เซียน​ตกหลุมพราง​ก็​ยัง​กระโดด​ออก​ไป​ไม่ได้​จึงได้​ชื่อว่า​เซียน​กระโดด​) มามากมาย​ เคย​หลอก​คน​ แล้วก็​เคย​ถูก​คน​หลอก​มาก่อน​ ครั้ง​ที่​อเนจอนาถ​ที่สุด​ก็​คือ​ตอนที่​เพิ่ง​ออกจาก​บ้าน​ เหมือน​ซิ่ว​ไฉไป​เจอ​กับ​ทหาร​ ตอน​ที่อยู่​ใน​ป่า​ชานเมือง​ดัน​ไป​เจอ​กับ​โจร​ภูเขา​ที่​ดัก​ปล้น​กลางทาง​พอดี​ เนื่องจาก​เซียน​เว่ย​เคย​เล่าเรียน​เขียน​อ่าน​มาก่อน​ คำพูดคำจา​จึงสุภาพ​มีความรู้​ จึงถูก​จับตัว​ไป​เป็น​กุนซือ​หัว​สุนัข​และ​นัก​บัญชี​ใน​รัง​โจร​อยู่​หลาย​เดือน​ ชีวิต​ไม่ได้​ย่ำแย่​สัก​เท่าไร​ ตอนที่​เซียน​เว่ย​กระโดด​ลง​จาก​ภูเขา​ ที่​ห้องโถง​ใหญ่​ก็​มีกรอบ​ป้าย​แผ่น​หนึ่ง​เพิ่ม​มา เป็น​ลายมือ​ของ​เซียน​เหว่​ย​เอง​ เขียน​ตัวอักษร​ขนาดใหญ่​ไว้​สี่คำ​ ‘สวรรค์​ตอบแทน​คน​ขยันหมั่นเพียร​’

อันที่จริง​เรื่อง​นี้​ ปริศนา​นี้​ คน​ที่​สามารถ​ไขข้อข้องใจ​ให้​ตน​ได้​มาก​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ก็​คือ​เจ้านคร​จักรพรรดิ​ขาว​ที่​เคย​มุ่งมั่น​ที่จะ​พิสูจน์​ว่า​ตัวเอง​ไม่ใช่มรรคา​จารย์​เต๋า​คน​นั้น​

บน​ยอดเขา​ของ​ไพศาล​เคย​มีคำกล่าว​อย่างหนึ่ง​ ตอนนั้น​เจิ้งจวี​จงยัง​ไม่เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​ก็​ยังคง​เป็น​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​เห​วิน​เซิ่ง ทั้งสองฝ่าย​เพิ่งจะ​เล่น​หมากล้อม​เมฆหลาก​สีกัน​ไป​สิบ​ตา​

คุณสมบัติ​พรสวรรค์​อ่อนด้อย​ อย่า​ได้​เอาอย่าง​ไหว​เซียน​

ไม่ได้​ฉลาด​เลิศ​ล้ำ​ อย่า​ได้​เรียนรู้​เลียนแบบ​ซิ่ว​หู่​

อยู่ดีๆ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​นึกถึง​คำกล่าว​หนึ่ง​ขึ้น​มา จึงเอ่ย​ว่า​ “ชุยตง​ซาน​เคย​ยกตัวอย่าง​ไว้​ข้อ​หนึ่ง​ เกิด​มาเป็น​คน​ ประหนึ่ง​ไม้ที่​กลายเป็น​เรือ​ การ​กลับ​ชาติ​ไป​จุติ​ใหม่​ จิตวิญญาณ​แหลก​สลาย​ รื้อ​กำแพง​ตะวันออก​ไป​ซ่อม​กำแพง​ตะวันตก​ ปะชุน​ซ่อมแซม​ นาน​วัน​เข้า​ควรจะ​แบ่งแยก​เรือ​เก่า​เรือ​ใหม่​อย่างไร​ ทั้งสอง​อย่างนี้​เหมือนกัน​หรือไม่​?”

เสี่ยว​โม่รีบ​เปิด​ตำรา​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​ตาม​ความเคยชิน​ทันที​ ถามว่า​ “คุณชาย​ นี่​ถือเป็น​ศาสตร์​การโต้เถียง​ของ​สำนัก​หมิง​เจีย​ เกี่ยวพัน​ไป​ถึง ‘ชื่อ​เรียก​เรื่องราว​’ หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “อย่าง​อาจารย์​ของ​ข้า​ แม้ว่า​จะมีความรู้สึก​ที่​ธรรมดา​ต่อ​สำนัก​หมิง​เจีย​ รู้สึก​ว่า​ความรู้​ของ​สำนัก​นี้​ง่าย​ที่จะ​ก่อให้เกิด​การโต้เถียง​อย่าง​ข้างๆ คูๆ​ แต่​เมื่อ​เห็น​ความเสื่อมโทรม​ของ​สำนัก​หมิง​เจีย​ใน​ทุกวันนี้​ อาจารย์​กลับ​รู้สึก​เสียดาย​อย่าง​มาก​ บอ​กว่า​ความรู้​ของ​หมิง​เจีย​มิอาจ​รุ่งโรจน์​มากเกินไป​ แต่​ก็​มิอาจ​ไม่มีหมิง​เจีย​อยู่เลย​”

เสี่ยว​โม่ลังเล​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ยัง​เอ่ย​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ข้า​ไม่แนะนำ​ให้​คุณชาย​เก็บ​เซียน​เว่ย​ไว้​ข้าง​กาย​ ไม่สู้มอบ​คน​ผู้​นี้​ให้​ศาล​บุ๋น​ไป​โดยตรง​เลย​ดีกว่า​”

เรื่อง​ไม่คาดฝัน​มีเยอะ​เกินไป​ หาก​เกิด​หนึ่ง​ใน​หมื่น​อะไร​ขึ้น​มา ผลลัพธ์​ที่​ตามมา​จะเลวร้าย​จน​มิอาจ​คาดคิด​

มอบให้​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​เป็น​ผู้จัดการ​ เห็นได้ชัด​ว่า​มั่นคง​มากกว่า​

เฉิน​ผิง​อัน​อธิบาย​อย่าง​มีน้ำอดน้ำทน​ “หนึ่ง​เพราะ​ข้า​เคยชิน​กับ​เรื่อง​ทำนอง​นี้​มานาน​แล้ว​ นอกจากนี้​ความบันเทิง​ใน​การ​ฝึก​ตน​ก็​อยู่​ที่ว่า​ นอกจาก​จะฝ่าทะลุ​ขอบเขต​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​แล้ว​ ยังอยู่​ที่​การ​ไม่รู้​ อยู่​ที่​การ​ไข​ปริศนา​ สุดท้าย​ แล้วก็​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ที่สุด​ ข้า​ไม่คิด​ว่า​ผลัก​เซียน​เว่ย​ออก​ไป​จาก​ข้าง​กาย​แล้ว​จะสามารถ​หลบ​อะไร​ได้​พ้น​ มีความเป็นไปได้​มาก​ด้วยว่า​จะได้ผล​ในทางตรงกันข้าม​ อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​ก็​มักจะ​อยู่​ใกล้​เพียง​ตรงหน้า​เสมอ​ ทว่า​อยู่​ใกล้​เพียง​ตรงหน้า​กลับ​อาจจะ​อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​จริงๆ​”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​กล่าว​ “เป็น​ข้า​ที่​ใจแคบ​ มิอาจ​เทียบ​ความใจกว้าง​ของ​คุณชาย​ได้​ติด​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ดื่มเหล้า​ให้​มาก​หน่อย​ ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​ก็​ไม่ใหญ่​เกิน​ถ้วย​เหล้า​ใบ​หนึ่ง​”

เซียน​เว่ยยก​ฝ่ามือ​มาป้อง​ตรง​หว่าง​คิ้ว​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ไกล​ ดูเหมือน​ข้างทาง​จะมีร้านเหล้า​ที่​แขวน​ป้าย​ปัก​ธงเอาไว้​ แมลง​สุรา​ใน​ท้อง​จึงเริ่ม​อาละวาด​แล้ว​ รีบ​ถามว่า​ “เฉาเซียน​ซือ​ ท่าน​หิว​หรือไม่​?”

อยู่​กับ​เสี่ยว​โม่ เซียน​เว่ย​เรียก​คำ​แล้ว​คำ​เล่า​ว่า​เฉาโม่ เรียกชื่อ​อีก​ฝ่าย​ตรงๆ​ อย่าง​ไร้​ยำเกรง​

แต่​พอ​มาอยู่​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ เซียน​เว่ย​กลับ​รู้จัก​พิถีพิถัน​ ต้อง​สั่งอาหาร​ให้​ถูกปาก​คน​นี่​นะ​

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ร้านเหล้า​ขนาดเล็ก​ที่​กิน​อาณาบริเวณ​ไม่กว้าง​ร้าน​นั้น​ เนื้อหา​ที่​เขียน​บน​ธงกลับ​มีกลิ่นอาย​ความ​เป็น​เซียน​อยู่​หลาย​ส่วน​ ‘ลง​ม้าหัน​กลับมา​ รสชาติ​เดียว​นาน​พันปี​ โปรด​หยุด​ก่อน​’

อันที่จริง​ตอน​ที่มา​ก็​สังเกตเห็น​แล้ว​ เป็น​สถานที่​ที่​ขาย​เหล้า​ปลอม​แห่ง​หนึ่ง​ ไม่ใช่ใจดำ​ธรรมดา​ ขอ​แค่​เป็น​เหล้า​หมัก​ตระกูล​เซียน​ที่​มีชื่อเสียง​บน​ภูเขา​ ถึงกับ​มีขาย​ที่​ร้าน​นี้​ทุกอย่าง​ อย่า​ว่าแต่​เหล้า​ของ​ตำหนัก​ฉางชุน​เลย​ เหล้า​อีกา​ครวญ​ของ​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ หรือ​แม้แต่​เหล้า​ดอก​กุ้ย​ของ​นคร​มังกร​เฒ่าก็​ยังมี​ คง​เป็น​เพราะ​ราคา​ของ​สุรา​ถูก​มาก​ จึงมีคน​ไม่น้อย​มาซื้อ​เหล้า​ของ​ที่นี่​ดื่ม​

ฝ่าย​หนึ่ง​กล้า​ขาย​ ฝ่าย​หนึ่ง​ก็​กล้า​ดื่ม​จริงๆ​

เซียน​เว่ย​น้ำลายสอ​อยาก​ดื่มเหล้า​ บวก​กับ​ที่​ถูก​เสี่ยว​โม่ลาก​ให้​เอา​ยันต์​ไป​แปะ​ที่​บ้าน​หลัง​นั้น​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ตอนนี้​จึงหิว​แล้ว​ เลย​ยุ​ให้​เฉาเซียน​ซือ​ไป​นั่ง​ใน​ร้านเหล้า​อีกครั้ง​ บอ​กว่า​ท่าเรือ​ที่​มีคนดี​คนเลว​ปะปนกัน​เช่นนี้​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​ได้​เจอ​คน​มหัศจรรย์​คนใด​ก็ได้​ หาก​เจอ​แล้ว​ถูกชะตา​กัน​ก็​ถือว่า​เป็น​โชควาสนา​ตระกูล​เซียน​ครั้งหนึ่ง​ไม่ใช่หรือ​ เซียน​เว่ย​เดิน​พลาง​พร่ำพูด​ไป​ไม่หยุด​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ใช้แค่​ประโยค​เดียว​สะบั้น​ความคิด​ของ​อีก​ฝ่าย​ บอ​กว่า​ดื่มเหล้า​กินข้าว​ล้วน​ไม่มีปัญหา​ เจ้าเป็น​คนเลี้ยง​

เซียน​เว่ย​รีบ​เปลี่ยน​หัวข้อ​ทันที​ “เฉาเซียน​ซือ​ น้ำพุ​รส​หวาน​น้ำเชื่อม​สีทอง​ เหล้า​หมัก​เทพ​เซียน​ ผลไม้​เซียน​บน​ภูเขา​ที่​ใน​ตำรา​บอก​ไว้​ ล้วน​เป็น​เรื่องจริง​หรือ​? ยกตัวอย่างเช่น​เจียว​หลี​พุทรา​ไฟ แล้ว​ยังมี​ห​ลิง​จือ​พันปี​คลุก​ข้าว​ โสมภูเขา​หมื่น​ปี​ตุ๋น​เป็ด​แก่​อะไร​นั่น​อีก​ เฉาเซียน​ซือ​เคย​กิน​มาก่อน​แล้ว​หรือ​ รสชาติ​เป็น​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ฟังแล้วก็​ไม่รู้​ว่า​ความโมโห​ผุด​มาจาก​ไหน​ ชีวิต​นี้​ตน​ออกจาก​บ้าน​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ไม่ว่า​จะเป็น​ใน​ยุทธ​ภพ​หรือ​บน​ภูเขา​ ค่าใช้จ่าย​ใน​ด้าน​การกินอยู่​ก็​น้อย​ครั้ง​นัก​ที่จะ​ใช้จ่าย​อย่าง​มือเติบ​จริงๆ​

เซียน​เว่ย​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เฉาเซียน​ซือ​ไม่สบอารมณ์​ก็​หยุด​พูด​ทันใด​ เหลือบตา​มอง​ป้าย​ร้าน​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “เขียน​ได้​มีกลิ่นอาย​เซียน​จริงๆ​ ปกติ​จะต้อง​มีเซียน​เห​ริน​มาดื่มเหล้า​หมัก​เซียน​แน่ๆ​ เดินสวน​ไหล่​คลาด​กัน​ไป​อย่างนี้​ น่าเสียดาย​นัก​”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​

เมื่อคืน​หนิง​เหยา​บอก​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​อ่าน​ตำรา​อยู่​ใน​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​ว่า​ เรื่อง​ของ​การ​ปิด​ด่าน​ อีก​เดี๋ยว​ก็​จะสิ้นสุด​แล้ว​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​อีก​แค่​สอง​วัน​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​บอก​นาง​ว่า​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ ช้าไป​วัน​สอง​วัน​ก็​ไม่เป็นไร​

ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​ก็​เพิ่ง​ได้รับ​กระบี่​บิน​ส่งข่าว​ฉบับ​หนึ่ง​จาก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​พอดี​ พรุ่งนี้​อาจจะ​ต้อง​ไป​ร่วม​งานแต่งงาน​ใน​เมืองหลวง​

เสี่ยว​โม่ตบ​ไหล่​เซียน​เว่ย​

เซียน​เว่ย​ถามอย่าง​สงสัย​ “เสี่ยว​โม่ มีอะไร​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เดิน​ดี​ๆ พูดมาก​มัน​เหนื่อย​นะ​”

เซียน​เว่ย​ถอนหายใจ​ คนยากจน​ปณิธาน​สั้น​ ถึงกับ​ถูก​ผู้ติดตาม​คน​หนึ่ง​สอน​ว่า​ควร​วางตัว​อย่างไร​ควร​ทำ​เรื่อง​อะไร​เสียแล้ว​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด